หนามร้ายในใจรัก (Yuri) -จบ
Tags: นิยายยูริ, รัก, เพื่อนสนิท, แอบรัก
ตอน: ไม่อาจหวนคืน
เวลาสามเดือนกับการได้มาอยู่ที่แห่งใหม่ เจอเพื่อนใหม่ เจออะไรที่แปลกใหม่ แต่สิ่งที่ตามมาหลอกหลอนก็คงเป็นนิตยสาร หนังสือพิมพ์ หรือข่าวคราวของเพื่อนสาวที่ไม่ใช่แค่เพื่อนรัก ออกมาจากปากของคนที่เห็นนัทนันท์เป็นไอดอล
"ดูสิ ทำไมถึงเขียนแบบนี้ได้นะ" ลิลลี่บ่นงึมงำ
"อะไรอีกล่ะ คราวนี้" สกาวใจหันไปมอง สีหน้าของเพื่อนข้างห้องนี่มันชวนหงุดหงิดจริงๆ
ตั้งแต่รู้ว่าอยู่ห้องติดกัน สาวน้อยลิลลี่ก็มักจะแวะมานั่งเล่นประหนึ่งเหมือนคนว่างงาน
"ก็จะอะไรเสียอีก มีคนบอกว่า สามีพี่นัดนอกใจ และลงว่าพี่นัดไม่สนใจสามีเลยหนีไปมีผู้หญิงอื่น จะเป็นแบบนั้นได้ไง ผู้ชายมันเจ้าชู้เองหรือเปล่า เชอะ"
ทำไมต้องโมโหขนาดนั้น แต่ก็น่าตกใจที่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนเจ้าชู้เสียได้ เหมือนจะมีความหวังเล็กๆ เสียแล้วสิ
"ตอนนี้เป็นยังไงบ้างนะ" บ่นงึมงำ แล้วนึกย้อนกลับไปเหมือนเมื่อก่อน
"เมื่อกี้แตงว่ายังไงนะ อะไรนะ"
"ไม่มีอะไร นั่งดูต่อไปเถอะ" ทีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับนัทนันท์จะเล็กหรือใหญ่ก็เป็นเรื่องเป็นราวไปเสียหมด
"นี่ๆ เขาบอกพี่นัดเป็นเลสด้วย ใครมันว่าเนี้ย"
"อะ...อะไรนะ" สกาวใจแทบทำแก้วในมือหล่น เรื่องนี้ไม่น่ามีใครรู้นอกเสียจากคนในครอบครัวของนัทนันท์และตัวของเธอเท่านั้น หรือว่าจะไปคบคนอื่น
"ทำไมต้องเสียงดังด้วย"
"เอ่อ...คือ อ๋อ...พอดีแค่แปลกใจนิดหน่อย ผู้หญิงที่แต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วจะนอกใจไปชอบผู้หญิงเหมือนกันได้ไง" รู้ว่าทำตัวผิดสังเกต แต่ยอมรับว่าตกใจเหมือนกัน หัวใจแทบหลุดออกมาเต้นเป็นจังหวะ
"ก็ไม่แน่นะ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง จะสมัครขอเป็นแฟนคนแรกเลยค่า"
สกาวใจมองลิลลี่ทำตัวร่าเริงจนรู้สึกหมั่นไส้ คนที่เคยเป็นแฟนไอดอลของเธอกำลังยืนอยู่ตรงนี้ต่างหาก แต่นั่นคงเป็นเพียงแค่ความคิด เพราะในความเป็นจริงไม่มีสิทธิ์ไปคิดหึงหวงตั้งแต่วันที่ได้ตกลงกับนัทนันท์วันนั้นแล้ว
"วันนี้นัดแตงมาทำอะไรอย่างนั้นเหรอ ดูรีบร้อนจัง" สกาวใจยิ้มน้อยๆ เธอรู้ดีว่าจะเกิดอะไรต่อจากนี้
"แตง" นัทนันท์ทำหน้าเครียด
"เป็นอะไรหรือเปล่า" มือเล็กๆ ของสกาวใจยื่นไปจับมือเรียวนุ่มนิ่มอย่างที่เคยทำ
"พวกเราพอแค่นี้เถอะ นัดไม่อยากโดนคุณพ่อดุอีก จะแอบคบกันแบบนี้ต่อไปอีกนานเท่าไหร่ ยังไงก็คงไม่มีทางไปกันรอดหรอก"
คำพูดของนัทนันท์เหมือนมีมีดแหลมๆ มากรีดลงที่กลางหัวใจ ตั้งแต่ตัดสินใจคบกัน ไม่เคยมีครั้งไหนที่คนอย่างเธอจะพูดคำว่าไปกันไม่รอดเลยสักครั้ง
"อืม คิดแบบนี้มาตลอดเลยสินะ" สกาวใจฝืนยิ้มด้วยความเจ็บปวด แต่เธอก็รู้สึกมานานแล้วว่าคนที่เธอรักคงไม่มีวันจะให้เธออยู่เคียงข้างไปตลอดชีวิต
"ยังไงสักวันพวกเราก็ต้องเลิกกัน ไม่มีทางที่เราสองคนจะอยู่ด้วยกันได้ไปตลอดหรอก ไหนจะครอบครัวของนัดอีก ถึงคุณแม่ของแตงจะยอมรับนัด แต่ที่บ้านนัดไม่ใช่นะ" มือขาวเนียนที่ถูกสกาวใจกุมไว้ถูกดึงกลับด้วยเจ้าของ อะไรที่ควรบอกก็ได้บอกไปหมดแล้ว ต่อจากนี้ไปคงไม่ได้เจอกันอีก
"อืม เข้าใจแล้ว เอาที่นัดสบายใจเถอะ" คงไม่มีอะไรปวดใจไปมากกว่านี้แล้ว ถ้าคนตรงหน้าตัดสินใจจะให้ความสัมพันธ์เป็นแบบนี้ก็คงดีกว่ามานั่งคลุมเครือให้ลำบากใจกันไปเปล่าๆ
"ขะ...ขอบใจนะที่เข้าใจ" ไม่กล้าขอร้องมากกว่านี้อีก จบแล้วจริงๆ
"ขอเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม จนกว่านัดจะแต่งงาน หรือจนกว่านัดเจอคนที่รักจริงๆ ขอมากไปไหม" จบกันไปแล้ว แต่ก็ยังอยากที่จะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าขอมากไปหรือเปล่า
"ดะ...ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็เราเป็นเพื่อนกันอยู่แล้วนี่น่า" นัทนันท์สบายใจ นึกว่าจะโดนเกลียดไปตลอดชีวิตเสียอีก
จนกระทั่งถึงวันแต่งงาน ผู้ชายที่นัทนันท์เลือกเป็นคนที่พ่อของเธอหามาให้ แม้จะเจ็บปวดกับการจากกันแบบไม่ทันได้เตรียมหัวใจ ถึงอย่างนั้นคนอย่างสกาวใจก็ไม่เสียใจที่ครั้งหนึ่งได้รักเพื่อนคนนี้
"ทำไมล่ะ ในเมื่อตัดสินใจแล้วทำไมกัน"
สกาวใจนั่งมองแก้วน้ำแล้วพูดกับตัวเอง เสียงในห้องเงียบลงเพราะสาวลิลลี่ไปขึ้นเวร จึงทำให้มีเวลาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา
เธอหยิบมือถือเครื่องเก่าออกมาดู เบอร์เดิมที่ถูกใช้เป็นประจำได้ถูกระงับอย่างตั้งใจ มือถือก็พังเพราะฝีมือของเธอ
"ช่างเถอะ ยังไงเราตัดสินใจลงไปแล้ว"
เวลาไม่อาจหวนคืน ใจคนเราก็คงเหมือนกัน สิ่งที่ตัดสินใจและตั้งใจทำลงไปก็ต้องเดินหน้าต่อ
"คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง" คาดหวังให้เป็นเพียงข่าวไม่จริง
"ดูสิ ทำไมถึงเขียนแบบนี้ได้นะ" ลิลลี่บ่นงึมงำ
"อะไรอีกล่ะ คราวนี้" สกาวใจหันไปมอง สีหน้าของเพื่อนข้างห้องนี่มันชวนหงุดหงิดจริงๆ
ตั้งแต่รู้ว่าอยู่ห้องติดกัน สาวน้อยลิลลี่ก็มักจะแวะมานั่งเล่นประหนึ่งเหมือนคนว่างงาน
"ก็จะอะไรเสียอีก มีคนบอกว่า สามีพี่นัดนอกใจ และลงว่าพี่นัดไม่สนใจสามีเลยหนีไปมีผู้หญิงอื่น จะเป็นแบบนั้นได้ไง ผู้ชายมันเจ้าชู้เองหรือเปล่า เชอะ"
ทำไมต้องโมโหขนาดนั้น แต่ก็น่าตกใจที่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนเจ้าชู้เสียได้ เหมือนจะมีความหวังเล็กๆ เสียแล้วสิ
"ตอนนี้เป็นยังไงบ้างนะ" บ่นงึมงำ แล้วนึกย้อนกลับไปเหมือนเมื่อก่อน
"เมื่อกี้แตงว่ายังไงนะ อะไรนะ"
"ไม่มีอะไร นั่งดูต่อไปเถอะ" ทีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับนัทนันท์จะเล็กหรือใหญ่ก็เป็นเรื่องเป็นราวไปเสียหมด
"นี่ๆ เขาบอกพี่นัดเป็นเลสด้วย ใครมันว่าเนี้ย"
"อะ...อะไรนะ" สกาวใจแทบทำแก้วในมือหล่น เรื่องนี้ไม่น่ามีใครรู้นอกเสียจากคนในครอบครัวของนัทนันท์และตัวของเธอเท่านั้น หรือว่าจะไปคบคนอื่น
"ทำไมต้องเสียงดังด้วย"
"เอ่อ...คือ อ๋อ...พอดีแค่แปลกใจนิดหน่อย ผู้หญิงที่แต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วจะนอกใจไปชอบผู้หญิงเหมือนกันได้ไง" รู้ว่าทำตัวผิดสังเกต แต่ยอมรับว่าตกใจเหมือนกัน หัวใจแทบหลุดออกมาเต้นเป็นจังหวะ
"ก็ไม่แน่นะ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง จะสมัครขอเป็นแฟนคนแรกเลยค่า"
สกาวใจมองลิลลี่ทำตัวร่าเริงจนรู้สึกหมั่นไส้ คนที่เคยเป็นแฟนไอดอลของเธอกำลังยืนอยู่ตรงนี้ต่างหาก แต่นั่นคงเป็นเพียงแค่ความคิด เพราะในความเป็นจริงไม่มีสิทธิ์ไปคิดหึงหวงตั้งแต่วันที่ได้ตกลงกับนัทนันท์วันนั้นแล้ว
"วันนี้นัดแตงมาทำอะไรอย่างนั้นเหรอ ดูรีบร้อนจัง" สกาวใจยิ้มน้อยๆ เธอรู้ดีว่าจะเกิดอะไรต่อจากนี้
"แตง" นัทนันท์ทำหน้าเครียด
"เป็นอะไรหรือเปล่า" มือเล็กๆ ของสกาวใจยื่นไปจับมือเรียวนุ่มนิ่มอย่างที่เคยทำ
"พวกเราพอแค่นี้เถอะ นัดไม่อยากโดนคุณพ่อดุอีก จะแอบคบกันแบบนี้ต่อไปอีกนานเท่าไหร่ ยังไงก็คงไม่มีทางไปกันรอดหรอก"
คำพูดของนัทนันท์เหมือนมีมีดแหลมๆ มากรีดลงที่กลางหัวใจ ตั้งแต่ตัดสินใจคบกัน ไม่เคยมีครั้งไหนที่คนอย่างเธอจะพูดคำว่าไปกันไม่รอดเลยสักครั้ง
"อืม คิดแบบนี้มาตลอดเลยสินะ" สกาวใจฝืนยิ้มด้วยความเจ็บปวด แต่เธอก็รู้สึกมานานแล้วว่าคนที่เธอรักคงไม่มีวันจะให้เธออยู่เคียงข้างไปตลอดชีวิต
"ยังไงสักวันพวกเราก็ต้องเลิกกัน ไม่มีทางที่เราสองคนจะอยู่ด้วยกันได้ไปตลอดหรอก ไหนจะครอบครัวของนัดอีก ถึงคุณแม่ของแตงจะยอมรับนัด แต่ที่บ้านนัดไม่ใช่นะ" มือขาวเนียนที่ถูกสกาวใจกุมไว้ถูกดึงกลับด้วยเจ้าของ อะไรที่ควรบอกก็ได้บอกไปหมดแล้ว ต่อจากนี้ไปคงไม่ได้เจอกันอีก
"อืม เข้าใจแล้ว เอาที่นัดสบายใจเถอะ" คงไม่มีอะไรปวดใจไปมากกว่านี้แล้ว ถ้าคนตรงหน้าตัดสินใจจะให้ความสัมพันธ์เป็นแบบนี้ก็คงดีกว่ามานั่งคลุมเครือให้ลำบากใจกันไปเปล่าๆ
"ขะ...ขอบใจนะที่เข้าใจ" ไม่กล้าขอร้องมากกว่านี้อีก จบแล้วจริงๆ
"ขอเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม จนกว่านัดจะแต่งงาน หรือจนกว่านัดเจอคนที่รักจริงๆ ขอมากไปไหม" จบกันไปแล้ว แต่ก็ยังอยากที่จะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าขอมากไปหรือเปล่า
"ดะ...ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็เราเป็นเพื่อนกันอยู่แล้วนี่น่า" นัทนันท์สบายใจ นึกว่าจะโดนเกลียดไปตลอดชีวิตเสียอีก
จนกระทั่งถึงวันแต่งงาน ผู้ชายที่นัทนันท์เลือกเป็นคนที่พ่อของเธอหามาให้ แม้จะเจ็บปวดกับการจากกันแบบไม่ทันได้เตรียมหัวใจ ถึงอย่างนั้นคนอย่างสกาวใจก็ไม่เสียใจที่ครั้งหนึ่งได้รักเพื่อนคนนี้
"ทำไมล่ะ ในเมื่อตัดสินใจแล้วทำไมกัน"
สกาวใจนั่งมองแก้วน้ำแล้วพูดกับตัวเอง เสียงในห้องเงียบลงเพราะสาวลิลลี่ไปขึ้นเวร จึงทำให้มีเวลาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา
เธอหยิบมือถือเครื่องเก่าออกมาดู เบอร์เดิมที่ถูกใช้เป็นประจำได้ถูกระงับอย่างตั้งใจ มือถือก็พังเพราะฝีมือของเธอ
"ช่างเถอะ ยังไงเราตัดสินใจลงไปแล้ว"
เวลาไม่อาจหวนคืน ใจคนเราก็คงเหมือนกัน สิ่งที่ตัดสินใจและตั้งใจทำลงไปก็ต้องเดินหน้าต่อ
"คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง" คาดหวังให้เป็นเพียงข่าวไม่จริง

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ก.ค. 2564, 21:27:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ก.ค. 2564, 21:27:25 น.
จำนวนการเข้าชม : 519
<< สั่งสองชาม | ปัญหาใครปัญหามัน >> |