แฟนเด็กพี่ภาคิน
เรื่องราวความสัมพันธ์ของเราเริ่มต้นเพราะผมเมาแล้วไปนั่งตักพี่เขา จากคนที่แอบชอบเงียบ ๆ จวนจะยอมแพ้แล้วเลิกชอบพี่เขาแล้วแต่พอได้ใกล้ชิดกันแบบนี้ผมกลับรู้สึกดีมากขึ้น เอาละ ผมจะชอบพี่ต่อไปก็ได้พี่เบียร์
Tags: แฟนเด็กพี่ภาคิน นิยายวาย oncloud69
ตอน: เวลาพิเศษของเรา
EPISODE : 12 เวลาพิเศษของเรา
"รักคุยกับเพื่อนอยู่นะครับ" ผมยืนตัวเกร็งก็พี่เบียร์เล่นมาสวมกอดกันอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ผมซบหน้าบนไหล่พี่เบียร์เพราะต้องคุยกับเพื่อนในมือถือ พี่เขาจะฆ่าผมให้ตายหรือไงถึงได้มากอดกัน
"รู้ครับ พี่แค่ง่วง ขอพิงไหล่นะ" ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ยอมนิ่งให้พี่เบียร์สวมกอดและพยายามซ่อนเร้นรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า บ้าเอ้ยแบบนี้ผมก็ตกอยู่ในอ้อมกอดพี่เบียร์แล้วสิ บ้าจริง ไม่ทันได้เตรียมใจไว้เลย
"พี่เบียร์อย่ามายืนนอนแบบนี้สิครับ รักคุยกับเพ้นส์เสร็จแล้ว" ผมบอกเมื่อคุยกับเพ้นส์เสร็จเรียบร้อย มีแอบต่อเวลาหนึ่งนาทีให้พี่เบียร์ได้นอนกอดผมด้วยแหละ ก็ถ้าไม่ได้อยู่ในช่วงกำลังหักห้ามใจตัวเองผมคงเป็นลมกับการกระทำของพี่เบียร์แล้ว เมื่อคนคนนี้มีเจ้าของแล้วผมก็จะไม่ยุ่งเกี่ยว ผมให้คำมั่นกับตัวเองอย่างนั่น
"พี่ว่าเรามานอนกันดีกว่านะครับ" ร่างสูงว่าพร้อมขยับยกตัวผมให้ได้เหยียบบนเท้าของเขา บ้าไปแล้ว ผมจะเริ่มต้นเล่าให้เพื่อนฟังตั้งแต่ตอนไหนดีเพื่อนถึงจะเชื่อว่าพี่เบียร์เป็นฝ่ายเริ่มกอดผมก่อน แค่คิดผมก็หน้าแดงแล้ว ผมถูกพามายังเตียง ร่างหนาล้มตัวลงบนเตียงนุ่มโดยมีตัวผมนอนอยู่ข้างล่าง เราสองคนต่างสบตากัน อยู่ในท่านี้แล้วมันทำให้ผมหวั่นไหวมาก
"ไม่ต้องเลยครับ เรามาหาอะไรตัดกุญแจมือนี้ครับ" ผมเอามือยันตัวพี่เบียร์เมื่อหักห้ามใจตัวเองได้ ก็ผมไม่อยากเผลอใจให้พี่เบียร์อีกแล้ว ต้องเลิกรักให้ได้!
"แต่พี่ง่วงนะครับ เมื่อคืนนอนเฝ้าน้องหนูทั้งคืน" พี่เขาบอก นิ้วมือข้างที่ว่างก็เลื่อนมาเล่นจมูกของผม มาเล่นกับใจอย่างนี้ผมอยากตายแล้ว
"พี่อยากเฝ้าเอง รักไม่ได้ขอหนิครับ" แกล้งทำเสียงขรึมแล้วหันหน้าหนี ใบหน้าผมร้อนผ่าวทั้งที่ในห้องก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำ
"หาอะไรมาตัดกุญแจแล้วหาของกินรองท้องเถอะครับ รักไม่อยากปวดท้องตอนเช้า" คนกินอาหารเช้าสม่ำเสมอไม่อยากทำร้ายระบบทางเดินอาหารของตัวเอง ผมเคยปวดท้องกระเพาะในตอนวัยเรียนมัธยม นับตั้งแต่นั้นก็พยายามกินข้าวทุกมื้อให้อิ่มและตรงเวลา ได้ยินเสียงพี่เบียร์เหมือนจะหัวเราะเบา ๆ ข้างหู
"ก็ได้ครับ ไปครับ" ผมผลักคนตัวโตให้ออกห่างและลากเจ้าของห้องให้เข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แกร็ก ได้ยินเสียงเหมือนประตูล็อก ผมหันกลับหาพี่เบียร์โดนสายตาดุบอกผ่านสายตา
"ไม่ต้องปิดประตูเลยครับ เปิดกว้าง ๆ" คนถูกสั่งการยอมเปิดประตูห้องน้ำกว้างอย่างที่ผมต้องการ ทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกพี่เบียร์แกล้งก็ไม่รู้หรือผมจะคิดมากไปเอง
"พี่ก็ปิดด้วยความชินมือเองครับ" ผมหันมองกระจกห้องน้ำ เห็นแปรงฟันสองชิ้นอยู่ในแก้วเดียวกันก็รู้สึกอิจฉาคนของพี่เบียร์ ผมลืมไปเลยว่าตัวเองไม่มีแปรงสีฟัน
"ห้องพี่คงไม่มีแปรงฟันสำรองให้รักยืมใช่ไหมครับ"
"ก็นั่นไงครับ พี่เตรียมไว้ตั้งแต่ครั้งก่อนที่เรามานอนห้องพี่แล้ว" ผมมองแปรงสีฟันที่พี่เบียร์หยิบมา "เราบีบยาสีฟันนะครับเดี๋ยวพี่ถือแปรงให้ มือข้างซ้ายพี่ไม่ถนัดบีบ" ผมก้มหน้าหงุดแอบเขินกับบรรยากาศรอบตัว
ขอกลับไปหวีดพี่เบียร์อย่างเดิมได้ไหม พี่เบียร์ทำให้ใจผมเต้นเร็วมาก
"หน้าแดงเชียว เป็นอะไรไหมครับ" พี่เบียร์เหมือนจะเป็นห่วง
"ครับ ? ไม่ ๆ" ว่าแล้วผมก็เลิกจมอยู่กับความคิดตัวเองแล้วเริ่มบีบยาสีฟันใส่บนแปรงสีฟันที่พี่เบียร์ยื่นรออยู่ก่อนหน้า นี่มันเหมือนแฟนกันมากเลยผมไม่อยากคิดไปเองคนเดียว
'ได้มีคนแปรงฟันร่วมกัน มันดีแบบนี้นี่เอง' ผมรู้สึกใจเต้นไปอีกเมื่อมือที่ถูกจับด้วยกันประสานกันแน่น ระหว่างแปรงฟันผมก็ถือโอกาสมองพี่เบียร์ตลอด
"แอบมองหรือเรา" คนชอบแกล้งถามผมทั้งที่ยังแปรงฟัน
"รักเปล่า ชิ" แค่แอบมองนิดเดียวก็โดนจับได้ซะแล้ว พี่เบียร์เป็นพวกตาเหยี่ยวหรือไงถึงได้เห็นไวขนาดนั้น พี่เบียร์หัวเราะและหยอกเล่นจนผมต้องห้ามกว่าเราทั้งสองแปรงฟันเสร็จก็ใช้เวลานานไปนิด
"ล้างหน้าเสร็จก็ออกเลยครับ" ผมบอกให้พี่เบียร์รู้
"แต่พี่ปวดฉี่"
"พี่เบียร์ก็อั้นไว้สิครับ"
"แต่พี่อั้นไม่ไหวนะครับ"
"พี่น่ะ" ผมปิดตา ปิดหูข้างหนึ่งไว้ เข้าใจว่าเหตุสุตวิสัยแต่มันควรเป็นพี่เเบียร์ที่ต้องอายไหม "รักจะไม่ดู รับรองพี่เบียร์ปลอดภัยครับ" ได้ยินคนฟังยิ้มขำด้วย ผมลากพี่เบียร์ออกมาจากห้องน้ำเมื่อเสร็จธุระส่วนตัวกัน พี่เบียร์เดินตามผมมาค้นตู้เย็น ผมหิวและไม่อยากคุยพี่เบียร์แล้ว
"โอ้ มีของตุนเพียบเลย" ผมแปลกใจมากกว่าที่เปิดตู้เย็นแล้วเจอของตุนไว้ในตู้เย็นเต็มตู้ เคยคิดว่าคนอย่างพี่เบียร์คงไม่เจียดครัวหรือทำอาหารกินเอง
"ก็ครับ วันหยุดพี่ก็ทำกินเอง" ผมอ้าปากค้าง พี่เบียร์มีเรื่องให้ผมได้ทำความรู้จักมากจริง ๆ ถ้าผมไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือกันก็คงไม่มีทางรู้ว่าพี่เบียร์ก็มีมุมนี้ด้วย
"แปลกใจมาก รักนึกว่าพี่เบียร์จะทำอาหารไม่เก่ง" ร่างสูงระบายยิ้ม มือข้างที่ว่างลูบหัวผมคงเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติของเจ้าตัว ผมรีบปัดมือนั้นออก ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่าทำให้รู้สึกอะไรกันสิ
"สบประมาทกันแบบนี้ ต้องโชว์ฝีมือซะแล้ว" พี่เบียร์เปิดประเด็นท้าขึ้น ผมเองก็ทำอาหารเป็นอยู่บ้าง ไม่มีทางที่ผมจะแพ้เรื่องฝีมือปลายจวัก
"เอาสิครับ ทำข้าวผัดพอไหวไหมครับรักอยากกินข้าว เดี๋ยวรักทำไข่ม้วนเอง" ผมนึกเมนูในใจอยู่แล้ว มีโอกาสได้กินกับข้าวฝีมือพี่เบียร์แล้ว ตื่นเต้นไม่น้อย
"ของกล้วย ๆ มาก ถ้างั้นมาแข่งกันไหมครับ ของใครอร่อยกว่าชนะ"
"ชนะแล้วได้อะไรครับ ขอรางวัลด้วยครับ" เมื่อมีการแข่งขันก็ต้องมีรางวัลมาล่อด้วยผมยิ่งกระหายความชนะ เพราะศึกครั้งนี้ผมกำลังแข่งกับพี่เบียร์ คนตัวโตทำท่าครุ่นคิดแปปเดียว
"อือ ได้ตั๋วพิเศษ ขออะไรก็ได้อีกฝ่าย" พี่เบียร์เสนอ มันก็น่าสนใจ
"ขอได้หมดเลยหรือครับ" ผมถามย้ำเพื่อความแน่ใจเพราะไม่อยากถูกหลอก พี่เบียร์พยักหน้ามั่นใจในข้อเสนอที่ตัวเองแนะนำ ผมไม่คิดว่างานนี้ตัวเองจะแพ้พี่เบียร์
"ก็ถ้าน้องหนูมั่นใจว่าจะชนะพี่ได้นะ"
"รักชนะแน่" จะขอตั๋วทดลองเป็นแฟนพี่เบียร์หนึ่งวันเลยคอยดู ผมมั่นใจสุด ๆ พี่เบียร์ก็มั่นใจมากว่าตัวเองต้องชนะเหมือนกัน เราเริ่มการแข่งกันเพราะไม่อยากรอช้า ผมเดินไปหยิบอุปกรณ์เพื่อจะได้ทำเมนูไข่ม้วนของตัวเอง แขนของผมถูกดึงเพราะคนตัวโต
"พี่เบียร์จะขยับไปไหนครับ รักจะไปเอาไข่"
"แต่พี่ต้องเตรียมอุปกรณ์ทำข้าวผัดเหมือนกันนะครับ" พี่เบียร์บอก ผมก็ลืมไปเลยว่ามือของเราสองคนติดกัน
"วุ่นวายจังเลยครับ" ถึงผมบ่นพี่เบียร์ก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกจะขำจนน่าหมั่นไส้ด้วย ทำไมถึงได้ชอบยิ้มตลอดหรือหน้าผมมันตลก
"งั้นให้พี่ทำข้าวผัดก่อนนะครับเสร็จแล้วค่อยทำไข่ม้วนของน้องหนู ไข่จะได้ไม่หายร้อนด้วย" ผมมองคนเสนอแนะอีก ช่างคิดนั่นคิดนี่เร็วไปซะหมด
"ทำไมรักรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม" ปากเล็กหงึใส่แต่ก็ยังหลีกทางให้พี่เบียร์ได้เตรียมอุปกรณ์ทำข้าวผัดก่อน พอผมบอกอยากกินกุ้ง พี่เบียร์ก็ใจดีแกะกุ้งให้ด้วย ผมมองและช่วยพี่เบียร์โดยไม่ได้บ่นอีก ยืนมองพี่เบียร์ทำอาหารแล้วผมก็หยิบมือถือเพื่อถ่ายรูปไว้ ผมต้องการมีหลักฐานว่าพี่เบียร์ไม่ได้โกงการทำอาหาร
"จะถ่ายทำไมครับ พี่นะมืออาชีพอยู่แล้ว" คนมั่นใจเกินร้อยบอกแต่ผมก็ไม่สน เปิดโหมดวิดีโอเพื่อถ่ายเก็บเป็นที่ระลึก
"ต้องถ่ายทุกขั้นตอนเผื่อพี่โทรฯสั่งแกร็บแล้วมาย้อมแมว" พี่เบียร์หันมาหากล้องด้วยรอยยิ้มสวย
"ครับ หยิบน้ำตาลหน่อยครับ" พ่อครัวตัวโตสั่ง ผมหาที่ตั้งกล้องและก็หยิบน้ำตาลที่อยู่ใกล้มือส่งไปให้พี่เขา ฝีมือพี่เบียร์จะน่ากินขนาดไหน ผมลุ้นจนเกิดคำถามมากมายในหัว
"รักไม่กินหวานมากนะครับ ใส่น้ำตาลนิด ๆ พอ"
"ครับ เชื่อพี่เลยว่าปรุงได้กลมกล่อมแน่" พี่เบียร์รับทราบและเทน้ำตาลน้อย "เกลือ เตรียมรอได้เลยครับ" ผมเหมือนถูกให้เป็นผู้ช่วยเชฟยังไงก็ไม่รู้
"รักรู้แล้วน่า พี่เบียร์พูดมากจัง" และแล้วการทำอาหารเช้ามื้อแรกของวันก็เสร็จเรียบร้อยไป ผมสูดกลิ่นหอมของข้าวผัดในจานแล้วเกิดหิว พี่เบียร์จัดจานและตกแต่งได้น่าทาน
"เอาละ เสร็จเรียบร้อยครับ" ได้จานหลักไปแล้วก็ถึงตาผมที่จะได้ทำไข่ม้วนสักที
"เสร็จแล้ว ต่อไปตารักแล้ว อื้อพี่เบียร์จะไปไหน" ผมพูดไม่ทันจะจบพี่เบียร์ก็อุ้มผมมาเปิดม่านเพื่อรับเช้าวันใหม่ แดดส่องยามเช้าสวย ผมถูกพี่เบียร์อุ้มพามายังห้องครัวเพื่อทำไข่ม้วนที่ต้องทำ
"นี่พี่แกล้งรักใช่ไหม นี่แหนะ"
"กำหมัดแค่นี้ พี่เจ็บมากเลย" พี่เบียร์แซว รอยยิ้มยังคงไม่จางหายไปจากใบหน้า ผมแกล้งตีอกเขาอีกหลาย ๆ ครั้ง
"นี่แหนะ ๆ"
"ดุจังเลยครับ" ผมลงมือทำไข่ม้วนที่มั่นใจนักหนา โดยมีพี่เบียร์อยู่ช่วยเป็นลูกมือแต่โดยดี ระหว่างกำลังตั้งใจเข้าครัว ผมก็เห็นพี่เบียร์กำลังถ่ายวีดิโอผมเหมือนกัน มันน่านัก
"พี่เบียร์อย่ามัวแต่ถ่ายสิครับ จะกินไหมข้าวเช้า" ผมทำไข่ม้วนเสร็จแล้ว ขนาดเรามานั่งที่โต๊ะกินข้าวพี่เบียร์ก็ยังไม่หยุดถ่ายวิดีโอ
"เหมือนแฟนเด็กดุแต่เช้าเลย ฮ่า ๆ" ผมสตั้นไปสามวินาที เมื่อกี้ผมได้ยินอะไรผิดหรือเปล่า พี่เบียร์ว่าอะไรนะ แฟนดงแฟนเด็กอะไรผมไม่ได้เป็นแฟนเด็กของพี่เขาสักหน่อย
"รักคุยกับเพื่อนอยู่นะครับ" ผมยืนตัวเกร็งก็พี่เบียร์เล่นมาสวมกอดกันอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ผมซบหน้าบนไหล่พี่เบียร์เพราะต้องคุยกับเพื่อนในมือถือ พี่เขาจะฆ่าผมให้ตายหรือไงถึงได้มากอดกัน
"รู้ครับ พี่แค่ง่วง ขอพิงไหล่นะ" ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ยอมนิ่งให้พี่เบียร์สวมกอดและพยายามซ่อนเร้นรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า บ้าเอ้ยแบบนี้ผมก็ตกอยู่ในอ้อมกอดพี่เบียร์แล้วสิ บ้าจริง ไม่ทันได้เตรียมใจไว้เลย
"พี่เบียร์อย่ามายืนนอนแบบนี้สิครับ รักคุยกับเพ้นส์เสร็จแล้ว" ผมบอกเมื่อคุยกับเพ้นส์เสร็จเรียบร้อย มีแอบต่อเวลาหนึ่งนาทีให้พี่เบียร์ได้นอนกอดผมด้วยแหละ ก็ถ้าไม่ได้อยู่ในช่วงกำลังหักห้ามใจตัวเองผมคงเป็นลมกับการกระทำของพี่เบียร์แล้ว เมื่อคนคนนี้มีเจ้าของแล้วผมก็จะไม่ยุ่งเกี่ยว ผมให้คำมั่นกับตัวเองอย่างนั่น
"พี่ว่าเรามานอนกันดีกว่านะครับ" ร่างสูงว่าพร้อมขยับยกตัวผมให้ได้เหยียบบนเท้าของเขา บ้าไปแล้ว ผมจะเริ่มต้นเล่าให้เพื่อนฟังตั้งแต่ตอนไหนดีเพื่อนถึงจะเชื่อว่าพี่เบียร์เป็นฝ่ายเริ่มกอดผมก่อน แค่คิดผมก็หน้าแดงแล้ว ผมถูกพามายังเตียง ร่างหนาล้มตัวลงบนเตียงนุ่มโดยมีตัวผมนอนอยู่ข้างล่าง เราสองคนต่างสบตากัน อยู่ในท่านี้แล้วมันทำให้ผมหวั่นไหวมาก
"ไม่ต้องเลยครับ เรามาหาอะไรตัดกุญแจมือนี้ครับ" ผมเอามือยันตัวพี่เบียร์เมื่อหักห้ามใจตัวเองได้ ก็ผมไม่อยากเผลอใจให้พี่เบียร์อีกแล้ว ต้องเลิกรักให้ได้!
"แต่พี่ง่วงนะครับ เมื่อคืนนอนเฝ้าน้องหนูทั้งคืน" พี่เขาบอก นิ้วมือข้างที่ว่างก็เลื่อนมาเล่นจมูกของผม มาเล่นกับใจอย่างนี้ผมอยากตายแล้ว
"พี่อยากเฝ้าเอง รักไม่ได้ขอหนิครับ" แกล้งทำเสียงขรึมแล้วหันหน้าหนี ใบหน้าผมร้อนผ่าวทั้งที่ในห้องก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำ
"หาอะไรมาตัดกุญแจแล้วหาของกินรองท้องเถอะครับ รักไม่อยากปวดท้องตอนเช้า" คนกินอาหารเช้าสม่ำเสมอไม่อยากทำร้ายระบบทางเดินอาหารของตัวเอง ผมเคยปวดท้องกระเพาะในตอนวัยเรียนมัธยม นับตั้งแต่นั้นก็พยายามกินข้าวทุกมื้อให้อิ่มและตรงเวลา ได้ยินเสียงพี่เบียร์เหมือนจะหัวเราะเบา ๆ ข้างหู
"ก็ได้ครับ ไปครับ" ผมผลักคนตัวโตให้ออกห่างและลากเจ้าของห้องให้เข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แกร็ก ได้ยินเสียงเหมือนประตูล็อก ผมหันกลับหาพี่เบียร์โดนสายตาดุบอกผ่านสายตา
"ไม่ต้องปิดประตูเลยครับ เปิดกว้าง ๆ" คนถูกสั่งการยอมเปิดประตูห้องน้ำกว้างอย่างที่ผมต้องการ ทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกพี่เบียร์แกล้งก็ไม่รู้หรือผมจะคิดมากไปเอง
"พี่ก็ปิดด้วยความชินมือเองครับ" ผมหันมองกระจกห้องน้ำ เห็นแปรงฟันสองชิ้นอยู่ในแก้วเดียวกันก็รู้สึกอิจฉาคนของพี่เบียร์ ผมลืมไปเลยว่าตัวเองไม่มีแปรงสีฟัน
"ห้องพี่คงไม่มีแปรงฟันสำรองให้รักยืมใช่ไหมครับ"
"ก็นั่นไงครับ พี่เตรียมไว้ตั้งแต่ครั้งก่อนที่เรามานอนห้องพี่แล้ว" ผมมองแปรงสีฟันที่พี่เบียร์หยิบมา "เราบีบยาสีฟันนะครับเดี๋ยวพี่ถือแปรงให้ มือข้างซ้ายพี่ไม่ถนัดบีบ" ผมก้มหน้าหงุดแอบเขินกับบรรยากาศรอบตัว
ขอกลับไปหวีดพี่เบียร์อย่างเดิมได้ไหม พี่เบียร์ทำให้ใจผมเต้นเร็วมาก
"หน้าแดงเชียว เป็นอะไรไหมครับ" พี่เบียร์เหมือนจะเป็นห่วง
"ครับ ? ไม่ ๆ" ว่าแล้วผมก็เลิกจมอยู่กับความคิดตัวเองแล้วเริ่มบีบยาสีฟันใส่บนแปรงสีฟันที่พี่เบียร์ยื่นรออยู่ก่อนหน้า นี่มันเหมือนแฟนกันมากเลยผมไม่อยากคิดไปเองคนเดียว
'ได้มีคนแปรงฟันร่วมกัน มันดีแบบนี้นี่เอง' ผมรู้สึกใจเต้นไปอีกเมื่อมือที่ถูกจับด้วยกันประสานกันแน่น ระหว่างแปรงฟันผมก็ถือโอกาสมองพี่เบียร์ตลอด
"แอบมองหรือเรา" คนชอบแกล้งถามผมทั้งที่ยังแปรงฟัน
"รักเปล่า ชิ" แค่แอบมองนิดเดียวก็โดนจับได้ซะแล้ว พี่เบียร์เป็นพวกตาเหยี่ยวหรือไงถึงได้เห็นไวขนาดนั้น พี่เบียร์หัวเราะและหยอกเล่นจนผมต้องห้ามกว่าเราทั้งสองแปรงฟันเสร็จก็ใช้เวลานานไปนิด
"ล้างหน้าเสร็จก็ออกเลยครับ" ผมบอกให้พี่เบียร์รู้
"แต่พี่ปวดฉี่"
"พี่เบียร์ก็อั้นไว้สิครับ"
"แต่พี่อั้นไม่ไหวนะครับ"
"พี่น่ะ" ผมปิดตา ปิดหูข้างหนึ่งไว้ เข้าใจว่าเหตุสุตวิสัยแต่มันควรเป็นพี่เเบียร์ที่ต้องอายไหม "รักจะไม่ดู รับรองพี่เบียร์ปลอดภัยครับ" ได้ยินคนฟังยิ้มขำด้วย ผมลากพี่เบียร์ออกมาจากห้องน้ำเมื่อเสร็จธุระส่วนตัวกัน พี่เบียร์เดินตามผมมาค้นตู้เย็น ผมหิวและไม่อยากคุยพี่เบียร์แล้ว
"โอ้ มีของตุนเพียบเลย" ผมแปลกใจมากกว่าที่เปิดตู้เย็นแล้วเจอของตุนไว้ในตู้เย็นเต็มตู้ เคยคิดว่าคนอย่างพี่เบียร์คงไม่เจียดครัวหรือทำอาหารกินเอง
"ก็ครับ วันหยุดพี่ก็ทำกินเอง" ผมอ้าปากค้าง พี่เบียร์มีเรื่องให้ผมได้ทำความรู้จักมากจริง ๆ ถ้าผมไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือกันก็คงไม่มีทางรู้ว่าพี่เบียร์ก็มีมุมนี้ด้วย
"แปลกใจมาก รักนึกว่าพี่เบียร์จะทำอาหารไม่เก่ง" ร่างสูงระบายยิ้ม มือข้างที่ว่างลูบหัวผมคงเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติของเจ้าตัว ผมรีบปัดมือนั้นออก ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่าทำให้รู้สึกอะไรกันสิ
"สบประมาทกันแบบนี้ ต้องโชว์ฝีมือซะแล้ว" พี่เบียร์เปิดประเด็นท้าขึ้น ผมเองก็ทำอาหารเป็นอยู่บ้าง ไม่มีทางที่ผมจะแพ้เรื่องฝีมือปลายจวัก
"เอาสิครับ ทำข้าวผัดพอไหวไหมครับรักอยากกินข้าว เดี๋ยวรักทำไข่ม้วนเอง" ผมนึกเมนูในใจอยู่แล้ว มีโอกาสได้กินกับข้าวฝีมือพี่เบียร์แล้ว ตื่นเต้นไม่น้อย
"ของกล้วย ๆ มาก ถ้างั้นมาแข่งกันไหมครับ ของใครอร่อยกว่าชนะ"
"ชนะแล้วได้อะไรครับ ขอรางวัลด้วยครับ" เมื่อมีการแข่งขันก็ต้องมีรางวัลมาล่อด้วยผมยิ่งกระหายความชนะ เพราะศึกครั้งนี้ผมกำลังแข่งกับพี่เบียร์ คนตัวโตทำท่าครุ่นคิดแปปเดียว
"อือ ได้ตั๋วพิเศษ ขออะไรก็ได้อีกฝ่าย" พี่เบียร์เสนอ มันก็น่าสนใจ
"ขอได้หมดเลยหรือครับ" ผมถามย้ำเพื่อความแน่ใจเพราะไม่อยากถูกหลอก พี่เบียร์พยักหน้ามั่นใจในข้อเสนอที่ตัวเองแนะนำ ผมไม่คิดว่างานนี้ตัวเองจะแพ้พี่เบียร์
"ก็ถ้าน้องหนูมั่นใจว่าจะชนะพี่ได้นะ"
"รักชนะแน่" จะขอตั๋วทดลองเป็นแฟนพี่เบียร์หนึ่งวันเลยคอยดู ผมมั่นใจสุด ๆ พี่เบียร์ก็มั่นใจมากว่าตัวเองต้องชนะเหมือนกัน เราเริ่มการแข่งกันเพราะไม่อยากรอช้า ผมเดินไปหยิบอุปกรณ์เพื่อจะได้ทำเมนูไข่ม้วนของตัวเอง แขนของผมถูกดึงเพราะคนตัวโต
"พี่เบียร์จะขยับไปไหนครับ รักจะไปเอาไข่"
"แต่พี่ต้องเตรียมอุปกรณ์ทำข้าวผัดเหมือนกันนะครับ" พี่เบียร์บอก ผมก็ลืมไปเลยว่ามือของเราสองคนติดกัน
"วุ่นวายจังเลยครับ" ถึงผมบ่นพี่เบียร์ก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกจะขำจนน่าหมั่นไส้ด้วย ทำไมถึงได้ชอบยิ้มตลอดหรือหน้าผมมันตลก
"งั้นให้พี่ทำข้าวผัดก่อนนะครับเสร็จแล้วค่อยทำไข่ม้วนของน้องหนู ไข่จะได้ไม่หายร้อนด้วย" ผมมองคนเสนอแนะอีก ช่างคิดนั่นคิดนี่เร็วไปซะหมด
"ทำไมรักรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม" ปากเล็กหงึใส่แต่ก็ยังหลีกทางให้พี่เบียร์ได้เตรียมอุปกรณ์ทำข้าวผัดก่อน พอผมบอกอยากกินกุ้ง พี่เบียร์ก็ใจดีแกะกุ้งให้ด้วย ผมมองและช่วยพี่เบียร์โดยไม่ได้บ่นอีก ยืนมองพี่เบียร์ทำอาหารแล้วผมก็หยิบมือถือเพื่อถ่ายรูปไว้ ผมต้องการมีหลักฐานว่าพี่เบียร์ไม่ได้โกงการทำอาหาร
"จะถ่ายทำไมครับ พี่นะมืออาชีพอยู่แล้ว" คนมั่นใจเกินร้อยบอกแต่ผมก็ไม่สน เปิดโหมดวิดีโอเพื่อถ่ายเก็บเป็นที่ระลึก
"ต้องถ่ายทุกขั้นตอนเผื่อพี่โทรฯสั่งแกร็บแล้วมาย้อมแมว" พี่เบียร์หันมาหากล้องด้วยรอยยิ้มสวย
"ครับ หยิบน้ำตาลหน่อยครับ" พ่อครัวตัวโตสั่ง ผมหาที่ตั้งกล้องและก็หยิบน้ำตาลที่อยู่ใกล้มือส่งไปให้พี่เขา ฝีมือพี่เบียร์จะน่ากินขนาดไหน ผมลุ้นจนเกิดคำถามมากมายในหัว
"รักไม่กินหวานมากนะครับ ใส่น้ำตาลนิด ๆ พอ"
"ครับ เชื่อพี่เลยว่าปรุงได้กลมกล่อมแน่" พี่เบียร์รับทราบและเทน้ำตาลน้อย "เกลือ เตรียมรอได้เลยครับ" ผมเหมือนถูกให้เป็นผู้ช่วยเชฟยังไงก็ไม่รู้
"รักรู้แล้วน่า พี่เบียร์พูดมากจัง" และแล้วการทำอาหารเช้ามื้อแรกของวันก็เสร็จเรียบร้อยไป ผมสูดกลิ่นหอมของข้าวผัดในจานแล้วเกิดหิว พี่เบียร์จัดจานและตกแต่งได้น่าทาน
"เอาละ เสร็จเรียบร้อยครับ" ได้จานหลักไปแล้วก็ถึงตาผมที่จะได้ทำไข่ม้วนสักที
"เสร็จแล้ว ต่อไปตารักแล้ว อื้อพี่เบียร์จะไปไหน" ผมพูดไม่ทันจะจบพี่เบียร์ก็อุ้มผมมาเปิดม่านเพื่อรับเช้าวันใหม่ แดดส่องยามเช้าสวย ผมถูกพี่เบียร์อุ้มพามายังห้องครัวเพื่อทำไข่ม้วนที่ต้องทำ
"นี่พี่แกล้งรักใช่ไหม นี่แหนะ"
"กำหมัดแค่นี้ พี่เจ็บมากเลย" พี่เบียร์แซว รอยยิ้มยังคงไม่จางหายไปจากใบหน้า ผมแกล้งตีอกเขาอีกหลาย ๆ ครั้ง
"นี่แหนะ ๆ"
"ดุจังเลยครับ" ผมลงมือทำไข่ม้วนที่มั่นใจนักหนา โดยมีพี่เบียร์อยู่ช่วยเป็นลูกมือแต่โดยดี ระหว่างกำลังตั้งใจเข้าครัว ผมก็เห็นพี่เบียร์กำลังถ่ายวีดิโอผมเหมือนกัน มันน่านัก
"พี่เบียร์อย่ามัวแต่ถ่ายสิครับ จะกินไหมข้าวเช้า" ผมทำไข่ม้วนเสร็จแล้ว ขนาดเรามานั่งที่โต๊ะกินข้าวพี่เบียร์ก็ยังไม่หยุดถ่ายวิดีโอ
"เหมือนแฟนเด็กดุแต่เช้าเลย ฮ่า ๆ" ผมสตั้นไปสามวินาที เมื่อกี้ผมได้ยินอะไรผิดหรือเปล่า พี่เบียร์ว่าอะไรนะ แฟนดงแฟนเด็กอะไรผมไม่ได้เป็นแฟนเด็กของพี่เขาสักหน่อย
Oncloud69
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ก.ย. 2564, 18:00:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ก.ย. 2564, 18:00:14 น.
จำนวนการเข้าชม : 285
<< หลอกลูกแกะอีกคืน | เราเลิกกันแล้ว >> |