วานวาสนา: ร่มเกศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เรื่องย่อ:
เมื่อทุกอย่างสูญสิ้น ‘น้อย’ ชายหนุ่มชีวิตอาภัพ จำต้องออกเดินทางจากบ้านสู่พระนครที่ห่างไกล เพื่อตามหาหญิงสาวอันเป็นที่รัก แต่ก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคและความผิดหวังซ้ำๆ ‘เพชราวสี’ คือนิยามของคำว่าสมบูรณ์แบบ เป็นแก้วมณีที่ผู้ชายทุกคนใฝ่ฝัน แต่ก็ต้องฝันสลาย เพราะแก้วมณีดวงนี้ได้ถูกจองให้แก่ ‘หม่อมเจ้าภาณุมาศ’ เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ทุกอย่างคงจะเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น หากโลกไม่หมุนคนที่แตกต่างทั้งสองคนให้มาพบเจอกัน
หนึ่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ กับแววตาอ่อนหวานละไมของเธอ เป็นดั่งแสงสว่างนำพาชายหนุ่มที่สิ้นหวังก้าวไปสู่โลกอีกใบที่ไม่เคยค้นพบ จากความประทับใจ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นความรัก
ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มอ่อนแอ จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับโชคชะตาเพื่อเอาชนะคำดูถูกของทุกคน การหาคำตอบว่าตัวเองเป็นใครจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางปริศนา ปมความรักต่างชนชั้น เรื่องราวเลวร้ายมากมายที่เขาจะต้องเผชิญและจับมือฝ่าฝันอุปสรรคไปพร้อมกันกับเธอ
. . . . . . . . . . . . . .
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ร่มเกศ" เป็นหนึ่งในนิยายจากโครงการ "ช่องวันอ่านเอา" ที่ได้รับการสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง One31 และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 50% ของเรื่องนะคะ
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่ม
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ผ่าน www.plaipakkabooks.com หรือ inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 600 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 409฿ จากราคาปก 454฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 454฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 479฿)
ค่าจัดส่ง Kerry 65฿ (รวมเป็น 474฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann***
เมื่อทุกอย่างสูญสิ้น ‘น้อย’ ชายหนุ่มชีวิตอาภัพ จำต้องออกเดินทางจากบ้านสู่พระนครที่ห่างไกล เพื่อตามหาหญิงสาวอันเป็นที่รัก แต่ก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคและความผิดหวังซ้ำๆ ‘เพชราวสี’ คือนิยามของคำว่าสมบูรณ์แบบ เป็นแก้วมณีที่ผู้ชายทุกคนใฝ่ฝัน แต่ก็ต้องฝันสลาย เพราะแก้วมณีดวงนี้ได้ถูกจองให้แก่ ‘หม่อมเจ้าภาณุมาศ’ เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ทุกอย่างคงจะเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น หากโลกไม่หมุนคนที่แตกต่างทั้งสองคนให้มาพบเจอกัน
หนึ่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ กับแววตาอ่อนหวานละไมของเธอ เป็นดั่งแสงสว่างนำพาชายหนุ่มที่สิ้นหวังก้าวไปสู่โลกอีกใบที่ไม่เคยค้นพบ จากความประทับใจ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นความรัก
ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มอ่อนแอ จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับโชคชะตาเพื่อเอาชนะคำดูถูกของทุกคน การหาคำตอบว่าตัวเองเป็นใครจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางปริศนา ปมความรักต่างชนชั้น เรื่องราวเลวร้ายมากมายที่เขาจะต้องเผชิญและจับมือฝ่าฝันอุปสรรคไปพร้อมกันกับเธอ
. . . . . . . . . . . . . .
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ร่มเกศ" เป็นหนึ่งในนิยายจากโครงการ "ช่องวันอ่านเอา" ที่ได้รับการสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง One31 และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 50% ของเรื่องนะคะ
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่ม
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ผ่าน www.plaipakkabooks.com หรือ inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 600 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 409฿ จากราคาปก 454฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 454฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 479฿)
ค่าจัดส่ง Kerry 65฿ (รวมเป็น 474฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann***
Tags: พีเรียด โรแมนติก ดราม่า ละคร ช่องวัน อ่านเอา
ตอน: Flash Sale!! + บทที่ 18 แตกหักกันไปข้าง (100%)
มาแจ้งข่าว Flash Sale ก่อนเลยค่าาาาา
eBook "วานวาสนา" ร่วมโปรฯ Love in June กับเว็บ Mebmarket ลด Flash Sale เหลือเพียง 219฿ (จากปก 454฿) เท่านั้น!! ย้ำว่าลดกว่า 50% มีจำนวนจำกัดนะคะ ราคานี้หมดแล้วหมดเลย
โหลดได้ที่เว็บไซต์ Mebmarket จะถูกกว่า App Meb
ตั้งแต่วันนี้ - 5 มิ.ย. 65
(มีจำนวนจำกัด)
ลิงก์แปะไว้ให้ในกล่องคอมเมนต์ด้านล่างแล้วนะคะ สามารถกดเข้าไปได้เลย
*************************
เมื่อหม่อมเจ้าภาณุมาศมา พิมก็ทำเป็นออดอ้อนออเซาะโผใส่ท่าน ทำท่าเจ็บปวดจะเป็นจะตาย แต่เพชราวสีไม่ได้สนใจ เธอรีบปาดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วพูดต่อ...
“ท่านทั้งสองดีแสนดี ให้ที่พักพิง ให้ข้าว ให้น้ำ แต่หล่อนก็ยังไม่สำนึกในพระคุณของพวกท่าน จิตใจหล่อนทำด้วยอะไร ไร้สามัญสำนึกที่สุด...ออกไปเลยนะ ออกไปจากวังของฉัน วังราชสาสน์แห่งนี้ไม่ต้อนรับผู้หญิงไร้ยางอายอย่างหล่อน” เพชราวสีพูดดังขึ้นตามอารมณ์ ปรี่เข้าไปผลักไสร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนของพระคู่หมั้นด้วยความเกลียดชัง
หม่อมเจ้าภาณุมาศตกใจ เป็นครั้งแรกที่เห็นเพชราวสีเกรี้ยวกราด เหมือนเธอเป็นใครอีกคนที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
“พอได้แล้วเพชราวสี พิมก็เป็นคนของวังนี้ ถึงขั้นไล่กันมันไม่มากไปหน่อยเหรอ”
“พี่ชายเป็นคนวังนี้หรือเพคะ ที่นี่คือราชสาสน์ ไม่ใช่อาภาภิรมย์ พี่นั่นแหละ ที่ควรจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” เพชราวสีมองภาณุมาศตาแข็ง เขาทำร้ายเธอเจ็บปวดแสนสาหัส จะให้อภัยในตอนนี้ก็ยากเกินกว่าจะทำได้
“วสี...” เขาครางแววตาละห้อย ไม่คิดว่าเธอจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้
“เกิดอะไรขึ้น!”
พระองค์เจ้าทิวากรและหม่อมพจนิจที่มีสุภาวดีประคองเดินมาพร้อมบรรดาบ่าวไพร่ หนึ่งในนั้นก็มีน้อยรวมอยู่ด้วย ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากในสวนเหมือนมีคนทะเลาะวิวาทกัน
ทั้งสามหันมองคนถามเป็นตาเดียว เพชราวสีรีบเช็ดคราบน้ำตาแห่งความคับแค้น
ดี! มากันหมดเลยก็ยิ่งดี เธอจะได้พูดตรงนี้ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย จะได้จบๆ กันไปเสียที
“เด็จพ่อ คุณแม่ หนูขอไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากวังของเราให้เร็วที่สุด” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“มีเรื่องอะไรรุนแรงลูก ถึงขั้นต้องขับไล่แม่พิมออกจากวัง” หม่อม พจนิจตาโต เห็นเพชราวสีตาแดงก็รู้ว่าลูกสาวร้องไห้ เพชราวสีรักและเอ็นดูพิม มากกว่าบ่าวไพร่คนไหน ถึงขั้นไล่ออกกันแบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแน่
“ถามเจ้าหล่อนเองเถอะค่ะ และเรื่องการเสกสมรส หนูขอถอนหมั้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
ภาณุมาศเบิกตากว้าง คำพูดไหนก็ไม่เจ็บปวดเท่าคำพูดสุดท้ายที่เธอเปล่งออกมา เพชราวสีหมุนตัวกำลังจะก้าวเท้าจากไป แต่กลับถูกเขาคว้าแขนเอาไว้
“น้องจะถอนหมั้นไม่ได้นะ พี่ไม่ยอม”
เพชราวสีไม่สนแววตาดุกระด้างนั่น เธอรีบสะบัดแขนออกสุดแรง ไม่เหลือเยื่อใยอะไรทั้งนั้น แล้วรีบเดินหนีไป...ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกฝ่าย หนึ่งในนั้นคือพระองค์เจ้าทิวากร
“ถอนหมั้น! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”
สุภาวดีอดรนทนไม่ไหว เห็นชัดอยู่ว่าคนที่เจ็บก็คือเพื่อนของเธอ ถึงเวลาแล้วที่ต้องพูดความจริง...
“ที่ท่านหญิงตัดสินพระทัยแบบนี้ ก็เพราะถูกคนที่รักและไว้ใจทั้งสองหักหลังเพคะ”
ทุกคนหันไปมองที่สุภาวดี
“เมื่อค่ำวานนี้ สุกับท่านหญิงเห็นท่านชายภาสกับแม่พิมพลอดรักกันในห้องของหล่อน ทรงได้ยินแบบนี้แล้ว คงจะพอเข้าพระทัยท่านหญิงนะเพคะ ว่าทำไมต้องถอนหมั้นกับท่านชาย”
ทุกคนตะลึงงัน แต่คนที่สะเทือนใจกับเรื่องนี้มากที่สุดเห็นจะไม่พ้นสายหยุด ใจของนางถึงขั้นหล่นวูบไปที่ตาตุ่ม ทั้งผิดหวังทั้งเสียใจ ทำไมหลานสาวถึงได้กล้าทำเรื่องน่าอายได้ถึงขนาดนี้
พิมมองคู่อริอย่างต้อย รวมไปถึงบรรดาบ่าวไพร่ที่มายืนมุงดูกันอยู่ตรงหน้า ต่างกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของเธอกับท่านชายกันอย่างอื้ออึง ถ้าเทียบกับเรื่องที่ท่าเตาแล้ว ในเวลานี้เธอรู้สึกอับอายมากกว่าเป็นไหนๆ แต่ก็มีส่วนหนึ่งในใจที่รู้สึกว่าความทะเยอทะยานของเธอนั้นเป็นผล
“จริงหรือชายภาส” พระองค์เจ้าทิวากรถามเสียงสั่น เผื่อใจ...ยังไม่เชื่อทั้งหมด
ภาณุมาศหลบตาไม่กล้าสู้หน้าเสด็จท่าน เพราะละอายใจกับสิ่งที่ทำ
“จริงพ่ะย่ะค่ะ” ภาณุมาศยอมรับ ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาเป็นผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ หากพวกท่านทั้งสองจะโกรธจะเกลียดเขา มันก็สมควรแล้ว...
แววตาของพระองค์เจ้าทิวากรสั่นระริก รู้สึกจุกจนพูดไม่ออก ทั้งผิดหวัง ทั้งแค้นใจแทนลูกสาว ท่านจะไม่โกรธเลย ถ้าภาณุมาศมีหญิงอื่นที่ไม่ใช่พิมคนในปกครองของลูกสาวท่าน ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านก็จะสนับสนุนให้ลูกสาวเสกสมรสกับภาณุมาศอยู่ดี เพราะเห็นว่าเรื่องมีบ้านเล็กบ้านน้อยเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย แต่ภาณุมาศดันเลือกพิม ต้นห้องที่เพชราวสีไว้ใจมากที่สุด เรื่องนี้สุดจะรับได้
พระองค์เจ้าทิวากรกัดฟันกรอด ไม่อยากจะดุด่าว่ากล่าวภาณุมาศมากนัก คิดว่าเรื่องนี้ผู้ชายไม่ผิด เป็นฝ่ายผู้หญิงมากกว่าที่ร่านจนได้เรื่อง รู้อยู่แท้ๆ ว่าท่านชายเป็นพระคู่หมั้นของเพชราวสี แต่หล่อนก็ยังแย่งชิงมาได้หน้าตาเฉย ถ้าลูกสาวจะไล่ออกจากวัง มันก็สมควรแล้ว!
“เธอ...นังงูพิษ ไสหัวออกไปจากวังของฉันเดี๋ยวนี้” เสด็จตวาดใส่อย่างไร้ความปรานีในดวงตา
พิมสะดุ้งเฮือก นึกโกรธตัวเองลึกๆ ที่ทำอะไรไปไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมา รีบลนลานก้มลงกราบกรานแทบเท้าเสด็จอย่างอดสู “เสด็จอย่าทรงขับไล่หม่อมฉันออกจากวังเลยนะเพคะ”
ฝั่งต้อย บัว และบรรดาบ่าวไพร่อีกทั้งหลายที่ไม่ชอบหน้าพิมต่างก็ยิ้มขำ มองภาพนั้นก็รู้สึกสมเพชไปตามๆ กัน
“เธอทำกับลูกสาวฉันขนาดนี้ เธอยังจะมาเรียกร้องอะไรอีก” หม่อม พจนิจอารมณ์เดือดปุดๆ
“เสด็จ...ฮึก...ฮือ” พิมส่ายหน้าสั่นสะอื้นไห้ จับเท้าท่านแน่นไม่ยอมปล่อย “เสด็จไล่หม่อมฉัน แล้วหม่อมฉันจะไปอยู่ที่ไหน”
“จะไปนอนข้างถนน หรืออยู่ที่ไหนก็เรื่องของเธอ ไม่เกี่ยวกับฉัน” พระองค์เจ้าทิวากรรำคาญสลัดเท้าออกอย่างไม่แยแส จ้องหน้าพิมสายตาเคียดแค้น แล้วร่างท้วมก็หันหลังเดินจากไปพร้อมขบวนบริวาร...
สายหยุดยังคงยืนมองหลานสาวด้วยความผิดหวัง แต่ก็ไม่คิดจะเดินเข้าไปปลอบขวัญ กลับเลือกที่จะเดินจากไป ไม่หันมามองเช่นกัน เพราะเห็นว่าสิ่งที่พิมทำกับเพชราวสีนั้นมันร้ายแรงเกินไป ความเสียใจก่อตัวขึ้นภายในอกจนไม่อยากจะหันไปมองหน้ากันให้ร้าวรานอีก
“ป้า...” พิมคร่ำครวญ ก่อนจะหันไปมองคนสุดท้ายที่ยังยืนอยู่ตรงนั้น เชื่อว่าเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอ
“ท่านชายช่วยพิมด้วยนะเพคะ พิมไม่เหลือใครแล้วนอกจากท่านชาย”
พิมเข้าไปกอดเอวหนาเอาไว้ด้วยความรักและหวงแหน แต่ภาณุมาศกลับยืนแข็งทื่อ ไม่แม้แต่สัมผัสตัวเธอ ใบหน้าที่เคยหยิ่งผยององอาจ บัดนี้ซีดเผือด ไหล่ลู่ลง ไม่เหลือเค้าของหม่อมเจ้าภาณุมาศผู้สง่าผ่าเผยคนเดิม... เขาถอนใจอ่อน เมื่อคิดได้ว่าได้ปล่อยสิ่งที่มีค่าที่สุดหลุดลอยไป และอาจจะไม่มีวันได้คืนกลับมาอีกแล้ว
อย่าลืมไปโหลด eBook กันน้าาา นาทีทอง Flash Sale นะคะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
eBook "วานวาสนา" ร่วมโปรฯ Love in June กับเว็บ Mebmarket ลด Flash Sale เหลือเพียง 219฿ (จากปก 454฿) เท่านั้น!! ย้ำว่าลดกว่า 50% มีจำนวนจำกัดนะคะ ราคานี้หมดแล้วหมดเลย
โหลดได้ที่เว็บไซต์ Mebmarket จะถูกกว่า App Meb
ตั้งแต่วันนี้ - 5 มิ.ย. 65
(มีจำนวนจำกัด)
ลิงก์แปะไว้ให้ในกล่องคอมเมนต์ด้านล่างแล้วนะคะ สามารถกดเข้าไปได้เลย
*************************
เมื่อหม่อมเจ้าภาณุมาศมา พิมก็ทำเป็นออดอ้อนออเซาะโผใส่ท่าน ทำท่าเจ็บปวดจะเป็นจะตาย แต่เพชราวสีไม่ได้สนใจ เธอรีบปาดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วพูดต่อ...
“ท่านทั้งสองดีแสนดี ให้ที่พักพิง ให้ข้าว ให้น้ำ แต่หล่อนก็ยังไม่สำนึกในพระคุณของพวกท่าน จิตใจหล่อนทำด้วยอะไร ไร้สามัญสำนึกที่สุด...ออกไปเลยนะ ออกไปจากวังของฉัน วังราชสาสน์แห่งนี้ไม่ต้อนรับผู้หญิงไร้ยางอายอย่างหล่อน” เพชราวสีพูดดังขึ้นตามอารมณ์ ปรี่เข้าไปผลักไสร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนของพระคู่หมั้นด้วยความเกลียดชัง
หม่อมเจ้าภาณุมาศตกใจ เป็นครั้งแรกที่เห็นเพชราวสีเกรี้ยวกราด เหมือนเธอเป็นใครอีกคนที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
“พอได้แล้วเพชราวสี พิมก็เป็นคนของวังนี้ ถึงขั้นไล่กันมันไม่มากไปหน่อยเหรอ”
“พี่ชายเป็นคนวังนี้หรือเพคะ ที่นี่คือราชสาสน์ ไม่ใช่อาภาภิรมย์ พี่นั่นแหละ ที่ควรจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” เพชราวสีมองภาณุมาศตาแข็ง เขาทำร้ายเธอเจ็บปวดแสนสาหัส จะให้อภัยในตอนนี้ก็ยากเกินกว่าจะทำได้
“วสี...” เขาครางแววตาละห้อย ไม่คิดว่าเธอจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้
“เกิดอะไรขึ้น!”
พระองค์เจ้าทิวากรและหม่อมพจนิจที่มีสุภาวดีประคองเดินมาพร้อมบรรดาบ่าวไพร่ หนึ่งในนั้นก็มีน้อยรวมอยู่ด้วย ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากในสวนเหมือนมีคนทะเลาะวิวาทกัน
ทั้งสามหันมองคนถามเป็นตาเดียว เพชราวสีรีบเช็ดคราบน้ำตาแห่งความคับแค้น
ดี! มากันหมดเลยก็ยิ่งดี เธอจะได้พูดตรงนี้ ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย จะได้จบๆ กันไปเสียที
“เด็จพ่อ คุณแม่ หนูขอไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปจากวังของเราให้เร็วที่สุด” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“มีเรื่องอะไรรุนแรงลูก ถึงขั้นต้องขับไล่แม่พิมออกจากวัง” หม่อม พจนิจตาโต เห็นเพชราวสีตาแดงก็รู้ว่าลูกสาวร้องไห้ เพชราวสีรักและเอ็นดูพิม มากกว่าบ่าวไพร่คนไหน ถึงขั้นไล่ออกกันแบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแน่
“ถามเจ้าหล่อนเองเถอะค่ะ และเรื่องการเสกสมรส หนูขอถอนหมั้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
ภาณุมาศเบิกตากว้าง คำพูดไหนก็ไม่เจ็บปวดเท่าคำพูดสุดท้ายที่เธอเปล่งออกมา เพชราวสีหมุนตัวกำลังจะก้าวเท้าจากไป แต่กลับถูกเขาคว้าแขนเอาไว้
“น้องจะถอนหมั้นไม่ได้นะ พี่ไม่ยอม”
เพชราวสีไม่สนแววตาดุกระด้างนั่น เธอรีบสะบัดแขนออกสุดแรง ไม่เหลือเยื่อใยอะไรทั้งนั้น แล้วรีบเดินหนีไป...ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกฝ่าย หนึ่งในนั้นคือพระองค์เจ้าทิวากร
“ถอนหมั้น! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”
สุภาวดีอดรนทนไม่ไหว เห็นชัดอยู่ว่าคนที่เจ็บก็คือเพื่อนของเธอ ถึงเวลาแล้วที่ต้องพูดความจริง...
“ที่ท่านหญิงตัดสินพระทัยแบบนี้ ก็เพราะถูกคนที่รักและไว้ใจทั้งสองหักหลังเพคะ”
ทุกคนหันไปมองที่สุภาวดี
“เมื่อค่ำวานนี้ สุกับท่านหญิงเห็นท่านชายภาสกับแม่พิมพลอดรักกันในห้องของหล่อน ทรงได้ยินแบบนี้แล้ว คงจะพอเข้าพระทัยท่านหญิงนะเพคะ ว่าทำไมต้องถอนหมั้นกับท่านชาย”
ทุกคนตะลึงงัน แต่คนที่สะเทือนใจกับเรื่องนี้มากที่สุดเห็นจะไม่พ้นสายหยุด ใจของนางถึงขั้นหล่นวูบไปที่ตาตุ่ม ทั้งผิดหวังทั้งเสียใจ ทำไมหลานสาวถึงได้กล้าทำเรื่องน่าอายได้ถึงขนาดนี้
พิมมองคู่อริอย่างต้อย รวมไปถึงบรรดาบ่าวไพร่ที่มายืนมุงดูกันอยู่ตรงหน้า ต่างกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของเธอกับท่านชายกันอย่างอื้ออึง ถ้าเทียบกับเรื่องที่ท่าเตาแล้ว ในเวลานี้เธอรู้สึกอับอายมากกว่าเป็นไหนๆ แต่ก็มีส่วนหนึ่งในใจที่รู้สึกว่าความทะเยอทะยานของเธอนั้นเป็นผล
“จริงหรือชายภาส” พระองค์เจ้าทิวากรถามเสียงสั่น เผื่อใจ...ยังไม่เชื่อทั้งหมด
ภาณุมาศหลบตาไม่กล้าสู้หน้าเสด็จท่าน เพราะละอายใจกับสิ่งที่ทำ
“จริงพ่ะย่ะค่ะ” ภาณุมาศยอมรับ ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาเป็นผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ หากพวกท่านทั้งสองจะโกรธจะเกลียดเขา มันก็สมควรแล้ว...
แววตาของพระองค์เจ้าทิวากรสั่นระริก รู้สึกจุกจนพูดไม่ออก ทั้งผิดหวัง ทั้งแค้นใจแทนลูกสาว ท่านจะไม่โกรธเลย ถ้าภาณุมาศมีหญิงอื่นที่ไม่ใช่พิมคนในปกครองของลูกสาวท่าน ถ้าเป็นอย่างนั้น ท่านก็จะสนับสนุนให้ลูกสาวเสกสมรสกับภาณุมาศอยู่ดี เพราะเห็นว่าเรื่องมีบ้านเล็กบ้านน้อยเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย แต่ภาณุมาศดันเลือกพิม ต้นห้องที่เพชราวสีไว้ใจมากที่สุด เรื่องนี้สุดจะรับได้
พระองค์เจ้าทิวากรกัดฟันกรอด ไม่อยากจะดุด่าว่ากล่าวภาณุมาศมากนัก คิดว่าเรื่องนี้ผู้ชายไม่ผิด เป็นฝ่ายผู้หญิงมากกว่าที่ร่านจนได้เรื่อง รู้อยู่แท้ๆ ว่าท่านชายเป็นพระคู่หมั้นของเพชราวสี แต่หล่อนก็ยังแย่งชิงมาได้หน้าตาเฉย ถ้าลูกสาวจะไล่ออกจากวัง มันก็สมควรแล้ว!
“เธอ...นังงูพิษ ไสหัวออกไปจากวังของฉันเดี๋ยวนี้” เสด็จตวาดใส่อย่างไร้ความปรานีในดวงตา
พิมสะดุ้งเฮือก นึกโกรธตัวเองลึกๆ ที่ทำอะไรไปไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมา รีบลนลานก้มลงกราบกรานแทบเท้าเสด็จอย่างอดสู “เสด็จอย่าทรงขับไล่หม่อมฉันออกจากวังเลยนะเพคะ”
ฝั่งต้อย บัว และบรรดาบ่าวไพร่อีกทั้งหลายที่ไม่ชอบหน้าพิมต่างก็ยิ้มขำ มองภาพนั้นก็รู้สึกสมเพชไปตามๆ กัน
“เธอทำกับลูกสาวฉันขนาดนี้ เธอยังจะมาเรียกร้องอะไรอีก” หม่อม พจนิจอารมณ์เดือดปุดๆ
“เสด็จ...ฮึก...ฮือ” พิมส่ายหน้าสั่นสะอื้นไห้ จับเท้าท่านแน่นไม่ยอมปล่อย “เสด็จไล่หม่อมฉัน แล้วหม่อมฉันจะไปอยู่ที่ไหน”
“จะไปนอนข้างถนน หรืออยู่ที่ไหนก็เรื่องของเธอ ไม่เกี่ยวกับฉัน” พระองค์เจ้าทิวากรรำคาญสลัดเท้าออกอย่างไม่แยแส จ้องหน้าพิมสายตาเคียดแค้น แล้วร่างท้วมก็หันหลังเดินจากไปพร้อมขบวนบริวาร...
สายหยุดยังคงยืนมองหลานสาวด้วยความผิดหวัง แต่ก็ไม่คิดจะเดินเข้าไปปลอบขวัญ กลับเลือกที่จะเดินจากไป ไม่หันมามองเช่นกัน เพราะเห็นว่าสิ่งที่พิมทำกับเพชราวสีนั้นมันร้ายแรงเกินไป ความเสียใจก่อตัวขึ้นภายในอกจนไม่อยากจะหันไปมองหน้ากันให้ร้าวรานอีก
“ป้า...” พิมคร่ำครวญ ก่อนจะหันไปมองคนสุดท้ายที่ยังยืนอยู่ตรงนั้น เชื่อว่าเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งเธอ
“ท่านชายช่วยพิมด้วยนะเพคะ พิมไม่เหลือใครแล้วนอกจากท่านชาย”
พิมเข้าไปกอดเอวหนาเอาไว้ด้วยความรักและหวงแหน แต่ภาณุมาศกลับยืนแข็งทื่อ ไม่แม้แต่สัมผัสตัวเธอ ใบหน้าที่เคยหยิ่งผยององอาจ บัดนี้ซีดเผือด ไหล่ลู่ลง ไม่เหลือเค้าของหม่อมเจ้าภาณุมาศผู้สง่าผ่าเผยคนเดิม... เขาถอนใจอ่อน เมื่อคิดได้ว่าได้ปล่อยสิ่งที่มีค่าที่สุดหลุดลอยไป และอาจจะไม่มีวันได้คืนกลับมาอีกแล้ว
อย่าลืมไปโหลด eBook กันน้าาา นาทีทอง Flash Sale นะคะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 มิ.ย. 2565, 12:30:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 มิ.ย. 2565, 12:46:15 น.
จำนวนการเข้าชม : 395
<< บทที่ 18 แตกหักกันไปข้าง (50%) | บทที่ 19 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว (60%) >> |
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ 2 มิ.ย. 2565, 12:33:32 น.
ลิงก์โหลด eBook วานวาสนา Flash Sale
>>> https://bit.ly/3uj5XOx
ลิงก์โหลด eBook วานวาสนา Flash Sale
>>> https://bit.ly/3uj5XOx