หนามร้ายในใจรัก (Yuri)

Tags: นิยายยูริ, รัก, เพื่อนสนิท, แอบรัก

ตอน: เส้นที่ขีดไว้

คนนอนหลับสบายอยู่บนเตียงต้องตื่นตามปกติแม้จะนอนดึกขนาดไหนก็ตาม 

"หกโมงครึ่ง" มือข้างหนึ่งหยิบมือถือมองดูเวลาแล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง หัวของเธอทั้งหนักและปวด ตาก็บวมจากการร้องไห้เมื่อคืน เป็นหลักฐานยืนยันว่าคนที่มาหานั้นไม่ใช่ความฝัน

"โอ๊ย อยากจะบ้า" ปัญหาทางบ้านก็ยังแก้ไม่ได้ แล้วยังมีตัวปัญหาทางใจมาเพิ่มอีก 

สกาวใจหันซ้ายขวาแล้วกวาดสายตามองภายในห้องแต่ไม่เห็นคนที่อยู่ด้วยเมื่อคืน 

"หายไปไหนของเขานะ" ใจหนึ่งก็รู้สึกดีแต่อีกใจก็เริ่มกลัว แม้จะบอกว่าไม่ไปไหนอีก แต่อนาคตมันก็ไม่แน่นอน แล้วถ้าเกิดวันนั้นมาถึง เธอจะทนได้อีกนานแค่ไหน

เสียงจากข้างล่างดังขึ้นมายันชั้นสองโดยเฉพาะห้องนอนของสกาวใจ

"ใครมันเสียงดังแต่เช้า" แม้จะปวดหัวกับสิ่งที่ได้เจอแต่เมื่อเปิดม่านแล้วเห็นปุยฝ้ายกำลังร่าเริงกับการจะได้ขายของ เธอถึงนึกออกว่าวันนี้ได้นัดกันไว้ ช่วงเวลาไล่เลี่ยกันสายตากลับเจอนัทนันท์กำลังง่วนอยู่กับการจัดเรียงสินค้าบนโต๊ะ สองมือของเธอรีบปิดม่านโดยอัตโนมัติ

"บ้าชะมัด แบบนี้จะลงไปยังไง" ได้แต่นั่งคิดบนเตียงและกัดนิ้วด้วยความเครียด ไหนจะเรื่องเมื่อคืนที่ตามหลอกหลอน ตั้งใจจะไม่ใจอ่อนแต่พอมีท่าทีแบบนั้นใจมันก็เริ่มโอนเอียง

"ทำยังไงดี"

ไม่อยากลงไปข้างล่างแต่ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง เธอคงต้องขังตัวอยู่แต่ในห้องแน่นอน

หลายนาทีผ่านแล้วไป สกาวใจได้ตัดสินใจไปห้องครัวเพื่อดื่มน้ำ อย่างน้อยขอตั้งหลักเสียก่อนแล้วค่อยเดินหน้าต่อ

"หอมจัง" จมูกได้กลิ่นข้าวผัดแล้วเห็นว่ามีคนจัดเตรียมไว้เรียบร้อย กระเพาะว่างตั้งแต่เมื่อวานเย็นจึงเริ่มประท้วงด้วยเสียง

"ลองทานสักหน่อยคงไม่เป็นไร" 

พอสกาวใจลงนั่งก็เห็นโน๊ตกับลายมือคุ้นตาเธอจึงเข้าใจว่าคนทำตั้งใจให้เธอทานจนหมด 

"แล้วตัวเองไม่กินหรือไงกัน"

มองอาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดีเหมือนกับของเธอ เขียนโน้ตไว้ว่าให้ทานก่อนไม่ต้องรอแล้วชามข้าวของตัวเองจะไม่เย็นชืดหมดอร่อยหรือยังไง 

สกาวใจยิ้มน้อยๆ และเดินไปหยิบกล่องซีลมาคลุมอาหารของนัทนันท์แล้ววางกระปุกพริกไทยไว้ข้างๆ ถึงจะกลับมานั่งทานอาหารของตัวเองและไม่คาดคิดว่าคนทำจะมีฝีมือ 

เมื่อท้องอิ่มก็ได้เวลาทำงาน แต่ก่อนจะออกไปนั้น สกาวใจได้เขียนโน้ตทิ้งไว้ให้นัทนันท์เช่นกัน

การเผชิญหน้าอีกครั้งทำให้บรรยากาศเงียบลงทันที คงมีเพียงปุยฝ้ายที่สังเกตเห็นบางอย่างแต่ทำเป็นไม่สนใจบรรยากาศรอบตัว

"ตาพี่ไปทำอะไรมา" 

"อะ...อะไร ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย" สกาวใจรีบหันหน้าหนี เมื่อคืนร้องไห้หนักจนตาบวม เธอไม่อยากให้รุ่นน้องสังเกตเห็นและจินตนาการไปไกล

ปุยฝ้ายพยักหน้าเบาๆ เข้าใจบรรยากาศแสนอึดอัด ทั้งสองคนคงมีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อคืนแน่นอน

เมื่อผู้คนเริ่มสนใจกับการถูกเรียกให้มาซื้อและสาวน้อยปุยฝ้ายก็ทำหน้าที่ดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี บรรยากาศในตอนแรกมืดมนพอพบปะผู้คนมากขึ้นกับการมองคนที่ชอบขายเป็นชีวิตจิตใจทำให้เข้าสู่สภาวะผ่อนคลาย 

"ค่ะ สองชิ้นนะคะ" นัทนันท์งัดสกิลขายของจากการฝึกฝนการแสดงมาใช้ สองมือนำสินค้าใส่ถุงผ้าของลูกค้าตามด้วยเงินทอน แล้วหันไปยิ้มให้กับสกาวใจอย่างลืมตัว

สกาวใจรีบหันเพราะรู้สึกเขินทั้งๆ ที่ไม่น่าจะคิดอะไรมาก เธอก้มมองนาฬิกาเมื่อเห็นเวลาถึงกับตกใจว่าผ่านไปรวดเร็วขนาดไหน 

"นัด เข้าไปทานข้าวสิ" 

"อืม ลืมไปเลยว่าหิวข้าวอยู่ งั้นนัดไปก่อนนะ"

คนทักเพราะเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าคนหิวเพราะยังไม่ทานอาหารเช้าได้เข้าไปข้างในเรียบร้อยแล้ว ก็ก้มหน้ายิ้มก่อนที่จะหันไปสนใจลูกค้าต่อ 

นัทนันท์กระโดดดีใจเมื่อเข้ามาอยู่ข้างใน เธอมองไปที่โต๊ะอาหารแล้วเห็นกระดาษโน้ตมีข้อความทิ้งไว้ 

"อาหารอร่อยสินะ ดีใจจัง" ข้อความนั้นทำให้เธอยิ้มเหมือนคนเป็นบ้า และอาหารที่เธอเตรียมไว้สำหรับตัวเองถูกซีนอย่างดีพร้อมกับพริกไทยที่ขาดไม่ได้ เธอนำไปอุ่นอีกครั้งตามคำบอกของคนช่างใส่ใจ เป็นการทานอาหารที่ทำให้รู้สึกเต็มอิ่มมากกว่าครั้งไหนๆ

เมื่อท้องอิ่มสมองก็แล่นและยิ่งแล่นมากกว่าเมื่อเห็นเวลาในห้องครัว 

"เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมยัยแก้วยังไม่โทรมา" แม้กระทั่งข้อความก็ไม่มีให้เห็น รู้สึกว่าเงียบผิดปกติจนเกินไป นัทนันท์จึงโทรหากิ่งแก้วอีกครั้ง

"ว่าไง" คนปลายสายทำเสียงห้วนแบบไม่สบอารมณ์

"ทำไมเหมือนกับไม่เต็มใจรับล่ะ"

"ก็นะ ทำไมเธอไม่บอกฉันก่อนฮะ ว่าหนีงานออกมาเที่ยว"

"ไม่ได้มาเที่ยวนะ ไปฟังมาจากไหน"

"จะจากใครล่ะ วันนี้วันหยุดฉันแท้ๆ ต้องเจอเสียงบ่นจากพี่ลิชชี่จนหูแทบไหม้ แล้วเรื่องที่เธอขอร้องไม่ต้องมาพูดเลย ยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น"

"เฮ้ย ช่วยกันหน่อยเถอะนะ" นัทนันท์ขอร้องอีกครั้ง เธอเข้าใจว่าเป็นเรื่องลำบากใจแต่แค่เป็นตัวแทนให้กับเธอเท่านั้น 

"เฮ้อ...ช่วยก็ได้ แต่ฉันรับปากไม่ได้ว่าจะช่วยได้มากขนาดไหนนะ อาจจะต้องใช้เวลาถ้าจะทำให้เนียน" 

"ยังไงก็ได้ ถ้าเสร็จธุระทางนี้แล้ว จะรีบกลับไปทำงานแน่นอน" ยังไงเธอก็หยุดงานหลายวันอยู่แล้ว แค่นี้ไม่มีปัญหา กลับไปค่อยไปง้อผู้จัดการจอมจู้จี้ทีหลังยังทัน

"ให้มันแน่เถอะ อยู่นานหูฉันจะระเบิดอยู่แล้ว ไม่รู้ทนเป็นเพื่อนกับเธอได้ไง" บ่นไปยังไม่ทันฟังเสียงนัทนันท์ กิ่งแก้วก็รีบกดวางไปเสียก่อน 

นัทนันท์หัวเราะกับประโยคสุดท้ายของเพื่อนขี้บ่น ถึงอย่างนั้นเธอก็ขอขอบคุณจากใจ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่ถูกจับได้เสียก่อน คงต้องพาไปเลี้ยงอาหารอร่อยเสียแล้ว 

ผ่านไปสองวันกับการตั้งโต๊ะขายสินค้า ข้าวของรวมถึงอุปกรณ์ในบ้านเริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆ และยังได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งมาก็พอใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นแต่ไม่พอนำไปใช้หนี้

"ค่าแรงของวันนี้" สกาวใจยื่นซองสีขาวใส่เงินไว้จำนวนหนึ่งให้กับปุยฝ้าย 

"พอแล้วพี่แตง เมื่อวานหนูได้เยอะแล้ว" 

"ไม่ได้หรอก ฝ้ายต้องรับไว้ ค่าเหนื่อย น้องรับไว้เถอะ" เธอยัดซองใส่มือของรุ่นน้อง ถึงจะขาดเงินมากมายขนาดไหน คนอย่างเธอไม่คิดเอาเปรียบคนอื่นโดยเฉพาะคนที่หวังดีกับเธอมาโดนตลอด

ปุยฝ้ายพยักหน้าน้อยๆ แล้วรับซองสีขาวไว้ แม้ว่าไม่อยากรับก็ตาม 

เมื่อปุยฝ้ายกลับบ้านก็เหลือเพียงเธอกับนัทนันท์ สกาวใจหันไปมองสาวร่างสูงกำลังง่วนอยู่กับข้าวของบนชั้น

"ทำอะไรอยู่เหรอ" สกาวใจถามเมื่อได้ประชิดตัวจากทางด้านหลัง

"อื้ม พอดีเห็นรูปนี้ เลยอยากขอเก็บไว้ได้ไหม" รูปในมือของนัทนันท์เป็นภาพถ่ายตอนสกาวใจใส่ชุดนักเรียน ยิ่งมองยิ่งน่ารัก

"ดะ...ได้สิ" แม้จะแปลกใจและตกใจเล็กน้อยกับการถูกขอภาพถ่ายในวัยเด็ก ถึงอย่างนั้นก็แอบดีใจ

ห้องนอนเริ่มโล่งมากขึ้น ของบางส่วนถูกจัดเก็บใส่กล่องพร้อมขาย คงมีเพียงบางอย่างที่สกาวใจเก็บไว้ เธอมองหน้าจอโน๊ตบุ๊คสองมือกำลังพิมพ์ลงประกาศขายตึกตามเว็บไซต์และช่องทางต่างๆ ในโซเชียล

"มีคนติดต่อมาบ้างหรือยัง" นัทนันท์ก้มมองแทบจะเอาหน้าไปชิดใกล้

"ยังเลย" สกาวใจบอก เธอพยายามไม่สนใจเสียงลมหายใจที่ดังข้างๆ หู ไม่อยากหวนคิดถึงวันเก่าๆ ที่จะทำให้เส้นแบ่งต้องขาดลง

"งั้นนัดนอนก่อนนะ" 

นัทนันท์หันหลังกลับไปนอนบนเตียง เป็นคืนที่สองที่เธอได้อยู่ข้างคนที่คิดถึงมาตลอดสองปี กำลังครุ่นคิดวิธีเร่งเพื่อนให้รีบติดต่อซื้อเสียที ก่อนที่จะมีคนอื่นแย่งไป

"นัด รับเงินไปด้วยนะ แตงวางไว้ที่โต๊ะ" สกาวใจวางซองสีขาวใส่จำนวนเงินเหมือนเมื่อวานให้กับนัทนันท์ แม้คนรับจะปฏิเสธและวางทิ้งไว้ที่เดิมก็ตาม เธอก็จะวางไว้บนโต๊ะทุกวัน จนกว่าจะเก็บไป

"บอกแล้วไง ว่านัดไม่เอา แค่ขออาหารสามมื้อกับห้องให้นอนแค่นั้น แต่ถ้าจะแถมให้อีกหน่อย ก็ต้องขึ้นมาให้นัดนอนกอด" พูดไปส่งสายตาและอมยิ้มพร้อมกับตบเตียงเบาๆ ตรงข้างตัวเธอ 

"ชิ มีแบบนี้ด้วยหรือไง อย่าลืมสิว่าเราสองคนเป็นแค่เพื่อนกัน" สกาวใจปิดโน้ตบุ๊คแล้วหันไปเถียง

"อ่ะ จะแบบนั้นก็ได้ ถ้าแตงไม่มานอนเอง นัดจะอุ้มขึ้นมานอนด้วยกัน กอดแบบเพื่อนก็ได้นี่น่า คิดอะไรอยู่หรือเปล่า" 

พอได้ยินคนพูดไม่รู้เรื่องและไม่สนใจคำที่เธอเน้นเพื่อไม่ให้ล้ำเส้นคำว่าเพื่อน แต่ถ้าไม่ไปนอน คนบนเตียงคงลงมาอุ้มเธออย่างที่พูดแน่นอน

"อืม เข้าใจแล้ว ไม่ต้องมา แตงขึ้นไปนอนเอง" พอเดินขึ้นเตียงแล้วนอน จังหวะคนข้างตัวกำลังจะโอบกอด สกาวใจรีบหยิบหมอนข้างเข้ามาแทนที่

"กอดไปก่อนนะ"

"งื้อ ใจร้ายจัง" นัทนันท์โวยแต่ไม่อยากขัดใจจึงได้แต่ยอมทำตามอย่างว่าง่าย



HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.ค. 2565, 14:30:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ค. 2565, 14:30:28 น.

จำนวนการเข้าชม : 197





<< เพียงแค่เพื่อนคนเดียว   นางยักษ์หรือนางร้ายจอมขูดรีด >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account