วานวาสนา: ร่มเกศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เรื่องย่อ:
เมื่อทุกอย่างสูญสิ้น ‘น้อย’ ชายหนุ่มชีวิตอาภัพ จำต้องออกเดินทางจากบ้านสู่พระนครที่ห่างไกล เพื่อตามหาหญิงสาวอันเป็นที่รัก แต่ก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคและความผิดหวังซ้ำๆ ‘เพชราวสี’ คือนิยามของคำว่าสมบูรณ์แบบ เป็นแก้วมณีที่ผู้ชายทุกคนใฝ่ฝัน แต่ก็ต้องฝันสลาย เพราะแก้วมณีดวงนี้ได้ถูกจองให้แก่ ‘หม่อมเจ้าภาณุมาศ’ เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ทุกอย่างคงจะเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น หากโลกไม่หมุนคนที่แตกต่างทั้งสองคนให้มาพบเจอกัน
หนึ่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ กับแววตาอ่อนหวานละไมของเธอ เป็นดั่งแสงสว่างนำพาชายหนุ่มที่สิ้นหวังก้าวไปสู่โลกอีกใบที่ไม่เคยค้นพบ จากความประทับใจ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นความรัก
ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มอ่อนแอ จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับโชคชะตาเพื่อเอาชนะคำดูถูกของทุกคน การหาคำตอบว่าตัวเองเป็นใครจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางปริศนา ปมความรักต่างชนชั้น เรื่องราวเลวร้ายมากมายที่เขาจะต้องเผชิญและจับมือฝ่าฝันอุปสรรคไปพร้อมกันกับเธอ
. . . . . . . . . . . . . .
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ร่มเกศ" เป็นหนึ่งในนิยายจากโครงการ "ช่องวันอ่านเอา" ที่ได้รับการสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง One31 และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 50% ของเรื่องนะคะ
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่ม
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ผ่าน www.plaipakkabooks.com หรือ inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 600 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 409฿ จากราคาปก 454฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 454฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 479฿)
ค่าจัดส่ง Kerry 65฿ (รวมเป็น 474฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann***
เมื่อทุกอย่างสูญสิ้น ‘น้อย’ ชายหนุ่มชีวิตอาภัพ จำต้องออกเดินทางจากบ้านสู่พระนครที่ห่างไกล เพื่อตามหาหญิงสาวอันเป็นที่รัก แต่ก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคและความผิดหวังซ้ำๆ ‘เพชราวสี’ คือนิยามของคำว่าสมบูรณ์แบบ เป็นแก้วมณีที่ผู้ชายทุกคนใฝ่ฝัน แต่ก็ต้องฝันสลาย เพราะแก้วมณีดวงนี้ได้ถูกจองให้แก่ ‘หม่อมเจ้าภาณุมาศ’ เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ทุกอย่างคงจะเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น หากโลกไม่หมุนคนที่แตกต่างทั้งสองคนให้มาพบเจอกัน
หนึ่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ กับแววตาอ่อนหวานละไมของเธอ เป็นดั่งแสงสว่างนำพาชายหนุ่มที่สิ้นหวังก้าวไปสู่โลกอีกใบที่ไม่เคยค้นพบ จากความประทับใจ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นความรัก
ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มอ่อนแอ จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับโชคชะตาเพื่อเอาชนะคำดูถูกของทุกคน การหาคำตอบว่าตัวเองเป็นใครจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางปริศนา ปมความรักต่างชนชั้น เรื่องราวเลวร้ายมากมายที่เขาจะต้องเผชิญและจับมือฝ่าฝันอุปสรรคไปพร้อมกันกับเธอ
. . . . . . . . . . . . . .
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ร่มเกศ" เป็นหนึ่งในนิยายจากโครงการ "ช่องวันอ่านเอา" ที่ได้รับการสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง One31 และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 50% ของเรื่องนะคะ
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่ม
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ผ่าน www.plaipakkabooks.com หรือ inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 600 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 409฿ จากราคาปก 454฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 454฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 479฿)
ค่าจัดส่ง Kerry 65฿ (รวมเป็น 474฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann***
Tags: พีเรียด โรแมนติก ดราม่า ละคร ช่องวัน อ่านเอา
ตอน: บทที่ 24 หนี (65%)
มาต่อแล้วค่ะ^^ แจ้งก่อนว่าสำหรับบทที่ 24 จะเป็นบทสุดท้ายที่สามารถลงให้อ่านได้แล้ว ซึ่งยังเหลืออีก 1 ตอนนะคะ หลังจากนี้ไปตามต่อกันได้ในเล่มน้าาา เพชราวสีกับน้อยจะหนีไปด้วยกันแล้ว สงสารเหลือหลาย T^T
**************
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะเพชราวสี!!” ท่านชายขบกรามเดือดดาล สายตาที่มองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“รับความจริงไม่ได้หรือเพคะ” เธอเชิดเหน้าขึ้น “น้องรักคนใบ้ รักคนที่ศักดิ์ต่ำกว่าพี่แล้วมันผิดตรงไหน”
“ดี! รักมันเข้าไปเถอะ ยิ่งรักมันมากเท่าไร พี่ก็จะไม่มีวันปล่อยให้น้องไปสมหวังกับมัน!”
มือบางกำหมัดแน่น น้ำตาร่วงลงมาอย่างคับแค้นใจ เขามีทั้งบารมี ทั้งอำนาจมากมาย คงจะภาคภูมิใจเหลือแสนที่กดขี่เอาชนะผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอได้
“ในเมื่อพี่รักพิม พาไปอยู่ด้วยกันปานนั้น ทำไมไม่รีบเสด็จกลับไปหาหล่อนเสียล่ะ จะมายุ่งกับน้องทำไมอีก” เธอประชดประชัน รู้ว่าเขาไม่ได้รักพิม... ใจจริงก็คงกะจะฟันแล้วทิ้ง แต่เพราะพิมไม่ใช่คนที่ยอมใครง่ายๆ อะไรที่เสียไปก็คงจะต้องกอบโกยจากเขาให้เต็มที่ หล่อนถีบตัวเองขึ้นมาสูงก็เพื่อวันนี้ หล่อนไม่มีทางปล่อยภาณุมาศหลุดมือไปง่ายๆ แน่
เพชราวสีไม่ได้อาลัยอาวรณ์เขาอีกแล้ว เพียงแต่ยังผิดหวังที่เพื่อนคนหนึ่งของเธอ กลับคิดกับเธอในแง่ร้ายมาโดยตลอด พิมเล่นสร้างภาพว่าเป็นเพื่อนผู้แสนดี อ่อนโยนและจริงใจต่อเธอ แสดงละครได้อย่างแนบเนียน เอาความไว้ใจที่เธอมีให้จนหมดมาแทงข้างหลังเธออย่างร้ายกาจ โดยไม่สนว่าสิ่งที่ทำไปจะเป็นเรื่องผิดบาปขนาดไหน เธอไม่พร้อมให้อภัยจริงๆ...ไม่ว่าจะเป็นภาณุมาศ หรือพิมก็ตาม
“หยุดพูดถึงหล่อน!!” เขาคำรามลั่น “อยากไปอยู่กับไอ้คนชั้นต่ำนั่นมากก็เชิญ! แต่จะบอกให้รู้ไว้...ไม่ว่าไอ้ผู้ชายหน้าไหน จะไอ้เดช หรือไอ้น้อย ก็ไม่มีวันแย่งน้องไปจากพี่ได้หรอก”
“แต่น้องไม่ใช่สิ่งของของใคร!!”
ภาณุมาศกระตุกมุมปาก พูดด้วยน้ำเสียงติดจะเย้ยหยัน “หึ เดี๋ยวอีกไม่นานก็คงได้เป็น”
“มีเรื่องอะไรกันชายภาส” เสียงเอะอะของทั้งสองได้ยินไปถึงข้างนอก ทำให้พระองค์เจ้าทิวากรต้องรีบเข้ามาปราม
หม่อมเจ้าภาณุมาศสูดลมหายใจเข้าลึก ยิ่งรักมากก็ยิ่งอยากเอาชนะ ก่อนจะหันไปพูดกับคนมาใหม่ด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“เห็นที เราคงจะต้องเลื่อนงานเสกสมรสให้เร็วกว่านี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
แล้วหม่อมเจ้าภาณุมาศก็หุนหันออกไป ปล่อยให้หญิงสาวบนเตียงมองตามไปอย่างคลางแคลงใจกับคำพูดนั้น จนต้องร้องถามพระบิดา
“เสกสมรสอะไรกันเพคะ”
พระองค์เจ้าทิวากรเอามือไพล่หลังเดินเข้ามาใกล้ลูกสาว
“พ่อกับแม่ตัดสินใจแล้วว่าจะให้ลูกเสกสมรสกับท่านชายภาสตาม เดิม เพื่อความมั่นคงของสองราชสกุล พ่อไม่อยากผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับทางนั้น”
“ได้ยังไง ก็ในเมื่อลูกถอนหมั้นไปแล้ว แล้วเด็จพ่อก็เห็นดีเห็นงามกับลูก” เธอตัดพ้อ
“เห็นดีเห็นงาม ให้ลูกไปคว้าไอ้คนชั้นต่ำมาหยามหน้าพ่ออย่างนั้นเรอะ ไม่มีวัน!” พระบิดาสวนทันควัน
“แต่พี่ชายภาสเขามีพิมอยู่แล้ว เด็จพ่อจะยอมให้ลูกไปร่วมใช้สามีคนเดียวกันกับผู้หญิงคนอื่นหรือเพคะ” ถึงจะไม่มีเรื่องน้อยเข้ามาเกี่ยวข้อง เธอก็สัญญากับตัวเองไว้แต่แรกอยู่แล้วว่าถ้าหากจะมีคู่ครอง หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร เธอก็จะไม่มีวันแต่งงานกับผู้ชายมากรักหลายใจเด็ดขาด
แต่พระองค์เจ้าทิวากรไม่สน ซ้ำยังแก้ต่างให้อีกว่า...
“ลูกจะไปกลัวอะไรกับนังพิม มันก็เป็นได้แค่หม่อมน้อยๆ ของท่านชายเท่านั้นแหละ ไม่มีหน้ามาเทียบลูกสาวพ่อได้หรอก แล้วการที่ผู้ชายไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย พ่อไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน จะสมัยนี้หรือสมัยไหนใครๆ เขาก็ทำกัน”
เพชราวสีอึ้ง เธอผิดหวังจนน้ำตาร่วง ไม่คิดว่าพระบิดาผู้เป็นต้นแบบผู้ชายรักครอบครัวที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็ก จะพูดแบบนั้นออกมาจริงๆ
“แต่ที่เด็จพ่อไม่ทำ เพราะเด็จพ่อรักคุณแม่มากใช่ไหมเพคะ เด็จพ่อถึงได้ยอมมีคุณแม่แค่คนเดียว... ถ้าเด็จพ่อเป็นคนรักเดียวใจเดียว เด็จพ่อจะยอมให้ลูกไปแต่งงานกับผู้ชายมากรักอย่างพี่ชายภาสอย่างนั้นหรือเพคะ ถ้าเขามีพิมได้ เขาก็ต้องมีหม่อมเล็กหม่อมน้อยตามมาอีกมากมาย แล้วเมื่อไหร่ลูกจะมีความสุขสักที”
พระองค์เจ้าทิวากรกำมือแน่น หัวใจคนเป็นพ่อเจ็บปวดไม่ต่างกันเลย แต่จะปล่อยให้ลูกสาวสุดที่รักไปสมหวังกับไอ้คนชั้นต่ำไร้อนาคตแบบนั้น ตนก็ทำใจไม่ได้เช่นกัน
“ไม่ต้องมาทำเป็นรู้ดี พ่อกับแม่ตัดสินใจแล้ว ยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด รีบทำตัวให้สดชื่น แล้วกลับมาเป็นหม่อมเจ้าเพชราวสีคนเดิมได้แล้ว”
เพชราวสีมองพระบิดาเดินลับไป ทิ้งให้เธอต้องร้องไห้โฮอยู่ในห้องอย่างเคว้งคว้างเพียงลำพัง ลำตัวที่ตั้งฉากอ่อนแรงลง ใบหน้างดงามซบลงกับหมอนที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา...ยากที่จะยอมรับการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นได้
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
**************
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะเพชราวสี!!” ท่านชายขบกรามเดือดดาล สายตาที่มองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“รับความจริงไม่ได้หรือเพคะ” เธอเชิดเหน้าขึ้น “น้องรักคนใบ้ รักคนที่ศักดิ์ต่ำกว่าพี่แล้วมันผิดตรงไหน”
“ดี! รักมันเข้าไปเถอะ ยิ่งรักมันมากเท่าไร พี่ก็จะไม่มีวันปล่อยให้น้องไปสมหวังกับมัน!”
มือบางกำหมัดแน่น น้ำตาร่วงลงมาอย่างคับแค้นใจ เขามีทั้งบารมี ทั้งอำนาจมากมาย คงจะภาคภูมิใจเหลือแสนที่กดขี่เอาชนะผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอได้
“ในเมื่อพี่รักพิม พาไปอยู่ด้วยกันปานนั้น ทำไมไม่รีบเสด็จกลับไปหาหล่อนเสียล่ะ จะมายุ่งกับน้องทำไมอีก” เธอประชดประชัน รู้ว่าเขาไม่ได้รักพิม... ใจจริงก็คงกะจะฟันแล้วทิ้ง แต่เพราะพิมไม่ใช่คนที่ยอมใครง่ายๆ อะไรที่เสียไปก็คงจะต้องกอบโกยจากเขาให้เต็มที่ หล่อนถีบตัวเองขึ้นมาสูงก็เพื่อวันนี้ หล่อนไม่มีทางปล่อยภาณุมาศหลุดมือไปง่ายๆ แน่
เพชราวสีไม่ได้อาลัยอาวรณ์เขาอีกแล้ว เพียงแต่ยังผิดหวังที่เพื่อนคนหนึ่งของเธอ กลับคิดกับเธอในแง่ร้ายมาโดยตลอด พิมเล่นสร้างภาพว่าเป็นเพื่อนผู้แสนดี อ่อนโยนและจริงใจต่อเธอ แสดงละครได้อย่างแนบเนียน เอาความไว้ใจที่เธอมีให้จนหมดมาแทงข้างหลังเธออย่างร้ายกาจ โดยไม่สนว่าสิ่งที่ทำไปจะเป็นเรื่องผิดบาปขนาดไหน เธอไม่พร้อมให้อภัยจริงๆ...ไม่ว่าจะเป็นภาณุมาศ หรือพิมก็ตาม
“หยุดพูดถึงหล่อน!!” เขาคำรามลั่น “อยากไปอยู่กับไอ้คนชั้นต่ำนั่นมากก็เชิญ! แต่จะบอกให้รู้ไว้...ไม่ว่าไอ้ผู้ชายหน้าไหน จะไอ้เดช หรือไอ้น้อย ก็ไม่มีวันแย่งน้องไปจากพี่ได้หรอก”
“แต่น้องไม่ใช่สิ่งของของใคร!!”
ภาณุมาศกระตุกมุมปาก พูดด้วยน้ำเสียงติดจะเย้ยหยัน “หึ เดี๋ยวอีกไม่นานก็คงได้เป็น”
“มีเรื่องอะไรกันชายภาส” เสียงเอะอะของทั้งสองได้ยินไปถึงข้างนอก ทำให้พระองค์เจ้าทิวากรต้องรีบเข้ามาปราม
หม่อมเจ้าภาณุมาศสูดลมหายใจเข้าลึก ยิ่งรักมากก็ยิ่งอยากเอาชนะ ก่อนจะหันไปพูดกับคนมาใหม่ด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“เห็นที เราคงจะต้องเลื่อนงานเสกสมรสให้เร็วกว่านี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
แล้วหม่อมเจ้าภาณุมาศก็หุนหันออกไป ปล่อยให้หญิงสาวบนเตียงมองตามไปอย่างคลางแคลงใจกับคำพูดนั้น จนต้องร้องถามพระบิดา
“เสกสมรสอะไรกันเพคะ”
พระองค์เจ้าทิวากรเอามือไพล่หลังเดินเข้ามาใกล้ลูกสาว
“พ่อกับแม่ตัดสินใจแล้วว่าจะให้ลูกเสกสมรสกับท่านชายภาสตาม เดิม เพื่อความมั่นคงของสองราชสกุล พ่อไม่อยากผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับทางนั้น”
“ได้ยังไง ก็ในเมื่อลูกถอนหมั้นไปแล้ว แล้วเด็จพ่อก็เห็นดีเห็นงามกับลูก” เธอตัดพ้อ
“เห็นดีเห็นงาม ให้ลูกไปคว้าไอ้คนชั้นต่ำมาหยามหน้าพ่ออย่างนั้นเรอะ ไม่มีวัน!” พระบิดาสวนทันควัน
“แต่พี่ชายภาสเขามีพิมอยู่แล้ว เด็จพ่อจะยอมให้ลูกไปร่วมใช้สามีคนเดียวกันกับผู้หญิงคนอื่นหรือเพคะ” ถึงจะไม่มีเรื่องน้อยเข้ามาเกี่ยวข้อง เธอก็สัญญากับตัวเองไว้แต่แรกอยู่แล้วว่าถ้าหากจะมีคู่ครอง หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร เธอก็จะไม่มีวันแต่งงานกับผู้ชายมากรักหลายใจเด็ดขาด
แต่พระองค์เจ้าทิวากรไม่สน ซ้ำยังแก้ต่างให้อีกว่า...
“ลูกจะไปกลัวอะไรกับนังพิม มันก็เป็นได้แค่หม่อมน้อยๆ ของท่านชายเท่านั้นแหละ ไม่มีหน้ามาเทียบลูกสาวพ่อได้หรอก แล้วการที่ผู้ชายไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย พ่อไม่เห็นว่ามันจะแปลกตรงไหน จะสมัยนี้หรือสมัยไหนใครๆ เขาก็ทำกัน”
เพชราวสีอึ้ง เธอผิดหวังจนน้ำตาร่วง ไม่คิดว่าพระบิดาผู้เป็นต้นแบบผู้ชายรักครอบครัวที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็ก จะพูดแบบนั้นออกมาจริงๆ
“แต่ที่เด็จพ่อไม่ทำ เพราะเด็จพ่อรักคุณแม่มากใช่ไหมเพคะ เด็จพ่อถึงได้ยอมมีคุณแม่แค่คนเดียว... ถ้าเด็จพ่อเป็นคนรักเดียวใจเดียว เด็จพ่อจะยอมให้ลูกไปแต่งงานกับผู้ชายมากรักอย่างพี่ชายภาสอย่างนั้นหรือเพคะ ถ้าเขามีพิมได้ เขาก็ต้องมีหม่อมเล็กหม่อมน้อยตามมาอีกมากมาย แล้วเมื่อไหร่ลูกจะมีความสุขสักที”
พระองค์เจ้าทิวากรกำมือแน่น หัวใจคนเป็นพ่อเจ็บปวดไม่ต่างกันเลย แต่จะปล่อยให้ลูกสาวสุดที่รักไปสมหวังกับไอ้คนชั้นต่ำไร้อนาคตแบบนั้น ตนก็ทำใจไม่ได้เช่นกัน
“ไม่ต้องมาทำเป็นรู้ดี พ่อกับแม่ตัดสินใจแล้ว ยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด รีบทำตัวให้สดชื่น แล้วกลับมาเป็นหม่อมเจ้าเพชราวสีคนเดิมได้แล้ว”
เพชราวสีมองพระบิดาเดินลับไป ทิ้งให้เธอต้องร้องไห้โฮอยู่ในห้องอย่างเคว้งคว้างเพียงลำพัง ลำตัวที่ตั้งฉากอ่อนแรงลง ใบหน้างดงามซบลงกับหมอนที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา...ยากที่จะยอมรับการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นได้
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.ย. 2565, 19:00:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ก.ย. 2565, 19:00:28 น.
จำนวนการเข้าชม : 313
<< บทที่ 24 หนี (35%) | บทที่ 24 หนี (ตอนสุดท้าย) >> |