เศษหนึ่งส่วนสองยกกำลังศูนย์

เป็นเรื่องราวของคนหน้าตาไม่เข้าตา ไม่เป็นที่นิยม
ไม่ฮิต ไม่ฮอตของคนสองคน...
ที่ไม่สมบูรณ์แบบ มีตำหนิ...ภาพประวัติไม่สวยงาม...
แต่นิสัยที่ซ่อนไว้ค่อนข้างสวยสดงดงาม...
แฝงไว้ด้วยเสน่ห์แห่งการมีชีวิต...การสร้างครอบครัว


เศษหนึ่งส่วนสอง หรือ ครึ่งหนึ่งของชีวิตหนึ่ง
มาพบกับ อีกครึ่งหนึ่งของอีกชีวิตหนึ่ง
แล้วยกกำลังด้วยศูนย์...

เลขศูนย์ที่ดูไร้ค่า ไร้ความหมาย แค่เลขกลมๆเลขนึง

หากมันได้ทำให้ เศษหนึ่งส่วนสองยกกำลังศูนย์
มีค่าเท่ากับ หนึ่งได้!

สมการทางคณิตศาสตร์ที่น่าพิศวงนี้
นำมาสู่สมการของความรักของทั้งสอง...

ทั้งคู่ที่ชีวิตไม่สมบูรณ์แบบและมีตำหนิ
จะหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร...

เรื่องนี้มีคำตอบ!!!


Tags: ดราม่า ขุนพล ไนค์ บิลกีส

ตอน: ่บทที่ 19 ประชิดเมือง

"พี่กีสคะ ไอซ์อยากหัดทำมินิเค้กค่ะ" เสียงออดอ้อนพร้อมแววตาซุกซนของดุจมณีทำเอา
บิลกีสถึงกับเลิกคิ้วสูง

"เกิดไรขึ้นคะเนี่ย อยู่ๆ น้องไอซ์ก็อยากหัดทำมินิเค้กขึ้นมาแบบนี้ พี่ว่าวันนี้ฝนน่าจะตกนะคะ"

"พี่กีสน่ะ"

"โอ๋ๆ อย่างอนสิ พี่แค่หยอก"

"งั้นพี่กีสจะช่วยสอนช่วยฝึกไอซ์ทำมินิเค้กได้มั้ยคะ พอดีเมื่อวันก่อนที่งานเลี้ยง
มันน่ารักน่ากินมากๆ เนี่ย ไอซ์ถ่ายรูปมาให้ดูด้วยนะคะ" ว่าแล้วก็งัดมือถือขึ้นมาเลื่อนหน้าจอ
เปิดภาพถ่ายของมินิเค้กและบรรดาขนมในซุ้มขนมที่ตนไปเห็นมาในงานเลี้ยง

"โอ้โห น่ารักจริงๆ ค่ะ"

"อร่อยมากๆ ด้วยนะคะ"

"แต่พี่ทำเป็นแต่แบบธรรมดาๆ นะคะ น่ารักขนาดนี้พี่ยังฝีมือไม่ถึงค่ะ"

"เอาแบบธรรมดาๆ ก่อนก็ได้ค่ะ ไอซ์อ่ะอยากหัดทำ เผื่อว่าจะเปิดร้านเค้กแบบโฮมเมด
พี่กีสว่าดีมั้ยคะ"

"ดีค่ะ พี่ว่า น้องไอซ์จะได้ไม่เหงาด้วย พี่เชียร์ค่ะ"

"งั้นเราออกไปหาวัตถุดิบกันนะคะ"

"รอคุณไนค์กลับมาก่อนนะคะ แล้วเราค่อยไปด้วยกัน"

"ก็ได้ค่ะ คราวนี้แหละ ไอซ์จะหัดทำให้เก่งๆ ทำให้อร่อยๆ น่ารักๆ ให้ได้ค่ะ
แล้วจะเก็บเงินค่าขนมที่พี่ไนค์ให้ไอซ์ไว้ลงทุนเปิดร้านเค้ก"

"เยี่ยมไปเลยค่ะ" บิลกีสยกหัวแม่มือให้น้องสาวสามีพร้อมรอยยิ้มภูมิใจที่เห็นพัฒนาการ
ของคนตรงหน้าที่ดูจะดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังจำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ทางด้านจิตใจดูจะดีขึ้น
แบบก้าวกระโดด เธอหวังเหลือเกินว่า เมื่อความจำของดุจมณีกลับมา จะทำให้เธอ
ไม่หวนกลับไปมีพฤติกรรมที่ไม่ดีแบบในอดีตอีก เพราะดุจมณีในตอนนี้คือ เวอร์ชันที่น่ารัก
และมีเสน่ห์ น่าเข้าใกล้มากๆ

"มีสายเข้ามาค่ะ" บิลกีสเตือนดุจมณีเมื่อเห็นว่ามือถือของหญิงสาวมีสายเข้า
ดุจมณีมองหน้าจอด้วยท่าทีที่พยายามซ่อนความดีใจเอาไว้

"งั้นไอซ์ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะคะ พี่ปองโทรมาค่ะ"

"จ้า" บิลกีสมองตามดุจมณีที่เดินออกไปยังสวนหน้าบ้าน อดดีใจไม่ได้ที่ดุจมณีเริ่มมีสังคม
ไม่เอาแต่ขลุกตัวอยู่แต่ในห้อง เล่นแต่ตุ๊กตาอย่างแต่ก่อนอีกแล้ว

และขุนพลก็เพิ่งซื้อมือถือให้น้องสาวไม่นานนี้เอง
เพราะอยากให้น้องสาวพกไว้เวลาไปไหนมาไหนกับปองขวัญ เขาจะได้ติดต่อได้ง่ายๆ


ในสวนอันร่มรื่น

"สวัสดีค่ะ" ดุจมณีเริ่มบทสนทนากับคนที่เธอก็รู้ว่าใคร และก็เป็นอีกครั้งที่เธอโกหกพี่สะใภ้ว่า
คนที่โทรมาคือ หมอปองขวัญ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ และเธอก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาเอาเบอร์เธอมาได้ยังไง
และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโทรหาเธอ

"ทำไรอยู่ครับ ผมรบกวนมั้ย" เสียงนุ่มทุ้มนั้นเรียกรอยยิ้มของดุจมณีพร้อมแก้มที่ค่อยๆ แดงขึ้นเรื่อยๆ

"ไม่รบกวนเลยค่ะ ไอซ์กำลังขอให้พี่กีสสอนทำมินิเค้กให้อยู่ค่ะ ไอซ์อยากเปิดร้านเค้กโฮมเมดค่ะ
อยากทำเค้กอร่อยๆ น่ารักๆ ให้ใครๆ ได้กินค่ะ คงมีความสุขมากๆ แน่ๆ เลยค่ะ"

"เยี่ยมไปเลยครับ ผมเชียร์คุณไอซ์สุดใจเลย"

"ขอบคุณค่ะ ว่าแต่คุณฆินทร์ชอบกินเค้กมั้ยคะ"

"ชอบครับ และกำลังรอจะกินเค้กฝีมือคุณไอซ์อยู่"
หญิงสาวหน้าแดงจัด เดินม้วนไปมาใต้ต้นไม้ในสวน
โดยไม่ได้รู้เลยว่า ปลายสายที่กำลังคุยกับตนอยู่นั้นกำลังยืนอยู่ตรงระเบียงบ้านหลังติดกัน
และเห็นเธอที่กำลังอยู่ในสวนได้อย่างชัดเจนทุกมุม

"เอาไว้ไอซ์ทำแล้วจะฝากพี่คีไปนะคะ"

"พี่คีหรอครับ"

"ใช่ค่ะ พี่คีที่เป็นน้องชายคุณฆินทร์ไงคะ พี่คีมารับผลงานของพี่กีสบ่อยๆ เลยค่ะ"

"ทำไมกับคีตาถึงเรียกพี่คี แต่กับพี่ชายของคีตาถึงไม่เรียกว่าพี่ด้วยล่ะครับ"

"เอ่อ จะดีหรอคะ"

"ดีสิครับ เรียกพี่ฆินทร์นะครับน้องไอซ์" เสียงที่ทอดหวานยามเรียกชื่อเธอนั้น
ทำเอาร่างบางระหงถึงกับเข่าอ่อน จนย่อตัวลงนั่งบนม้านั่งทันทีเพราะไม่ไหวจะยืนต่อได้อีก

"เอ่อ ค่ะพี่ฆินทร์"

"น่ารักมากครับ" ดุจมณีสะเทิ้นอายจนรู้สึกใบหน้าร้อนผะผ่าว นิ้วเรียวจับปลายผ้าคลุมม้วนไปมา
ขณะพูดสายกับอีกฝ่าย

"งั้นพี่ไม่รบกวนแล้วนะครับ น้องไอซ์จะได้มีเวลาไปเตรียมตัวทำเค้กอร่อยๆ
หวังว่าพี่จะเป็นคนแรกๆ ที่ได้ชิมนะครับ"

"ค่ะ บ๊ายบาย" วางสายแล้วก็ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับมือถือในมือ
โดยไม่รู้ว่ามีสายตากำลังจับจ้องตนอย่างไม่วางตาอยู่ห่างออกไป
และเมื่อลุกขึ้นยืน กำลังจะเดินเข้าบ้าน
ก็ได้ยินเสียงร้องของลูกแมวตรงประตูหน้าบ้าน ดุจมณีจึงเดินไปดู
พบลูกแมวสองตัวสีขาวกับสีส้ม ขนฟูสะอาดตา และน่ารักมากๆ หญิงสาวมองไปรอบๆ
ก็ไม่พบใคร จึงอุ้มลูกแมวทั้งสองตัวขึ้นมา

"หลงมาจากไหนเนี่ยหื้อ" ว่าแล้วก็ปิดประตูแล้วเดินเข้ามาตรงสวนหน้าบ้าน
วางลูกแมวทั้งสองลง กำลังจะส่งเสียงเรียกบิลกีส ทว่า เสียงมือถือดังขัดขึ้นเสียก่อน
เมื่อกดรับก็ได้ยินเสียงของคนที่เพิ่งวางสายไปเมื่อครู่

"เห็นลูกแมวสองตัวรึยังครับ พี่ฝากน้องไอซ์ดูแลมันด้วยนะครับ"

"เอ่อ ของพี่ฆินทร์หรอคะ"

"ไม่ใช่ของพี่หรอกครับ เป็นของน้องไอซ์ พี่ยกให้น้องไอซ์แล้วครับ"

"จริงหรอคะ ไอซ์เลี้ยงแมวได้หรอคะ จะไม่มีใครว่าหรอคะ"

"เลี้ยงได้สิครับ มันดูจะชอบน้องไอซ์นะครับ"

"เอ่อ พี่ฆินทร์รู้ได้ไงคะว่ามันชอบไอซ์"

"มีหรือครับคนที่อยู่ใกล้ๆ น้องไอซ์แล้วจะไม่ตกหลุมรัก"

ดุจมณียิ้มเขิน มือก็ปัดป่ายไปบนขนฟูๆ ของแมว

"ขอให้สนุกกับมีร่าและยาร่านะครับ"

"นั่นชื่อลูกแมวทั้งสองหรอคะ"

"ใช่แล้วครับ เพราะมั้ย"

"เพราะมากเลยค่ะ พี่ฆินทร์ตั้งชื่อเก่งจังเลยค่ะ"

"แล้วใจดีด้วยมั้ยครับ"

"ใจดีที่สุดเลยค่ะ"

"งั้นก็ฝากดูแลให้พี่ด้วยนะครับ"

"ได้ค่ะ ไอซ์จะดูแลให้เป็นอย่างดีเลยค่ะ"

"ขอบคุณครับคนสวย"

"ค่ะ"

"งั้นพี่ขออนุญาตวางสายนะครับ"

"ค่ะ"

สายวางไปแล้ว หากแต่ดุจมณียังคงตกอยู่ในภวังค์แห่งสีชมพูที่แผ่กระจายและเบ่งบานในหัวใจ

"แมวที่ไหนกันคะน้องไอซ์" บิลกีสที่ออกมาตามดุจมณีเพราะเห็นหายมาคุยโทรศัพท์นานแล้ว
ถึงกับตกใจที่เห็นแมวสองตัวกำลังนอนเลียขนอยู่บนตักของดุจมณี

"เอ่อ ไอซ์เจอมันที่หน้าบ้านค่ะ ไม่รู้หลงมาจากไหน ก็เลยเอาเข้ามาค่ะ
มันดูหิวๆ เลยสงสาร ขอไอซ์เลี้ยงมันนะคะพี่กีส"

"แต่ไม่รู้ว่าแมวคนแถวนี้รึเปล่านะสิคะ"

"เราค่อยประกาศถามหาเจ้าของมันทีหลังก็ได้ค่ะ
ตอนนี้ขอไอซ์เอามันไปอาบน้ำและกินอะไรนะคะพี่กีส"

แม้จะรู้สึกผิดที่โกหกครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เมื่อได้เริ่มต้นโกหกแล้ว
เหมือนต้องโกหกต่อไปเรื่อยๆ เช่นนี้

"โอเคค่ะ ว่าแต่น้องไอซ์อาบน้ำแมวเป็นนะคะ"

"เป็นค่ะ ไอซ์เหมือนจะเคยเลี้ยงแมวมาก่อนค่ะพี่กีส รู้สึกคุ้นมือ คุ้นใจ"

"ใช่สิ พี่ลืมเลย น้องไอซ์ชอบแมวมาก และเคยเลี้ยงแมวหลายตัวเลย"

"นั่นสิคะ ถึงว่า ทำไมไอซ์เห็นแมวแล้วถึงพุ่งไปหาเลย ฮ่า"

"มา เดี๋ยวพี่ช่วยค่ะ"

"ไม่เป็นไรค่ะพี่กีส เกรงใจ พี่กีสท้องเริ่มโตแบบนี้แล้วไอซ์ไม่อยากใช้งานพี่กีสค่ะ"

"โอเค งั้นพี่กลับไปวาดภาพต่อเลยนะคะ"

"ตามสบายเลยค่ะพี่กีส แล้วคุณพยาบาลละคะ จะกลับรึยัง"

"เห็นกำลังเตรียมตัวกลับอยู่ค่ะ อีกสักพักคุณไนค์ก็กลับมาค่ะ"

"แล้วเราก็ไปซื้อของกันนะคะ"

"จ้า"

...........................................

รถขุนพลเข้ามาจอดในโรงรถ ตามมาด้วยรถหรูอีกคัน

"พี่เพลิง พี่ตาม อัสลามุอะลัยกุมค่ะ" ดุจมณีที่ออกมารับพี่ชายตามปกติถึงกับยิ้มดีใจ
เมื่อเห็นแขกที่มาในวันนี้เข้า แขกจึงรับสลามตอบกลับไปว่า "วะอะลัยกุมุสลาม" 

"พาร็อยยิสมาด้วยหรอคะเนี่ย" ดุจมณีหันไปเจอเด็กชายตัวน้อยในวันสองขวบแล้วกางแขน
เดินเข้าไปขออุ้มเจ้าตัวเล็กที่ตามตะวันผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้าอุ้มอยู่
เด็กชายตัวน้อยก็โน้มตัวมาหาร่างหญิงสาวจนได้มาอยู่ในอ้อมกอดของดุจมณีแล้ว
ก็แนบศีรษะกับอกนุ่มๆ นั่นอย่างออดอ้อน น่าเอ็นดูจนคนเป็นบิดาถึงกับแซวลูกน้อย

"ดูสิ เห็นสาวสวยเป็นไม่ได้เลย ต้องเข้าไปซบไปแอบอิง"

"เหมือนพ่อไม่มีผิด" ตามตะวันที่อดไม่ได้เลยจิกสามีตนเองไปก็ยิ้มขันไป

"ตีวัวกระทบคราด ด่าลูกกระทบพ่อนะแบบนี้" ตะวันว่าแล้วก็หัวเราะในลำคอ

"เข้าไปข้างในกันก่อนมั้ยครับ หรือสนใจจะนั่งเล่นกันในสวนก็ตามสบายเลยนะครับ
สวนนี้ผมยกให้กีสเค้าออกแบบและตกแต่งทั้งหมดเลย"

"โห ฝีมือดีไม่เบาเลยนะคะ ถ้าไม่ติดว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ พี่ว่าจะจ้างจัดสวนแนวๆ นี้ให้บ้างค่ะ
อยากมีสวนนั่งเล่นแนวนี้ สดชื่น สบายตา ไม่รก และไม่โล่งจนเกินไปด้วย เรียบๆ แต่ดูมีเสน่ห์"
ตามตะวันอดไม่ได้ที่จะชื่นชมสวนแห่งนี้

"งั้นเราก็นั่งกันซะในสวนนี้เลยเป็นไงคุณ ลูกเองก็ดูจะชอบ" หนุ่มใหญ่หันไปมอง
ลูกชายที่ตอนนี้ดุจมณีพาไปนั่งเล่นบนผืนหญ้านุ่ม พร้อมกับมีลูกแมวสองตัวออกมา
คลอเคลีย และนั่นทำให้ขุนพลถึงกับเอะใจ

"แมวใครน่ะไอซ์"

"แมวไอซ์เองค่ะ มันหลงมา ไอซ์เลยรับเลี้ยงไว้ก่อนจนกว่าจะหาเจ้าของมันเจอค่ะ"

"หลงมาหรอ"

"ค่ะพี่ไนค์" หากนั่นไม่ได้คลายความสงสัยของขุนพลไปได้ก่อนจะหันไปทางแขก

"เดี๋ยวขอเข้าไปในบ้าน เอาน้ำท่ามาให้นะครับ"


สักพัก ขนมและของว่างก็ถูกเสิร์ฟให้แก่แขก โดยเฉพาะเด็กน้อยดูจะชอบขนมที่บิลกีสทำ
เป็นพิเศษ

"พี่กีสทำไรก็อร่อยค่ะ ไอซ์เลยอยากฝากตัวเป็นลูกศิษย์ อยากเปิดร้านขนมเค้กค่ะ"

"ดีเลยค่ะ พี่เองมีเพื่อนสนิทเค้าเปิดกิจการทำขนม และเปิดโรงเรียนสอนทำขนมนานาชาติ
ด้วยนะคะ ถ้าน้องไอซ์สนใจสายงานด้านนี้ พี่จะติดต่อเพื่อนให้ค่ะ เค้าน่ารัก คุยเก่ง"

"จริงหรอคะ ดีจังเลย ไอซ์อยากทำมากๆ ค่ะ อยากมีงานทำ อยากช่วยแบ่งเบาภาระ
พี่ไนค์กับพี่กีสค่ะ"

"เอาสิคะ พี่สนับสนุนเต็มที่ โรงแรมพี่และในเครืออาทิตยะกรุปก็ยินดีสนับสนุนนะคะ"

"กำลังใจมาเป็นกะละมังเลย แบบนี้ไอซ์ต้องสู้ให้ถึงที่สุดแล้วล่ะค่ะ"

"ร็อยยิสคงขอให้พี่พามาหาบ่อยๆ แน่ๆ ถ้ารู้ว่าจะได้กินขนมอร่อยๆ จากน้องไอซ์"

"เขินเลยค่ะ โดนหนุ่มน้อยจ้องขนาดนี้" ดุจมณีแตะแก้มใสของเด็กชายตัวน้อยในตัก
ซึ่งเธอนั่งอยู่บนพื้นหญ้า ในขณะที่คนอื่นๆ นั่งกินขนมบนเก้าอี้กัน
ก่อนจะก้มลงหอมแก้มนั้นฟอดใหญ่ด้วยความเอ็นดูปนมันเขี้ยว

"พี่ไอซ์สวย" เสียงเด็กน้อยเอ่ยออกมา ทำเอาคนที่บอกว่าเขิน เริ่มเขินจริงจังขึ้นมา

"สวยจัง" นั่นไง คำชมมาเป็นกระบุงเลย

"คงต้องหาตะกร้ามาใส่คำชมแล้วล่ะมั้งพี่ว่า" ตะวันอดไม่ได้ที่จะเย้า

"ว่าแต่ พี่เพลิงมีธุระอะไรรึเปล่าครับ" ขุนพลเข้าเรื่องทันที

"พี่แค่แวะมาเยี่ยมเท่านั้นครับ พอดีวันนี้วันหยุด เลยถือโอกาสมาหามาเยี่ยม
และตั้งใจจะมาเยี่ยมคุณลุงด้วยครับ"

"คุณพ่อท่านพักฟื้นอยู่ในห้องครับ หลังจากได้ทำกายภาพบำบัดอย่างจริงจัง
และต่อเนื่องก็เริ่มขยับได้บ้างบางส่วนแล้วครับ ต้องยกความดีนี้ให้กีสเค้าครับ
เค้าอยู่ดูแลคุณพ่ออย่างต่อเนื่องและคอยทำกายภาพบำบัดให้ท่าน"

"เป็นโชคดีของนายนะไนค์ที่ได้ภรรยาที่เอาใจใส่ดูแลทุกคนในครอบครัวแบบนี้"

"ครับ ผมโชคดีที่สุดที่ได้กีสมาอยู่เคียงข้าง" ว่าพลางก็โอบบ่าภรรยาคู่ชีวิตแนบไหล่

"มีอีกเรื่องนึงที่พี่อยากจะมาปรึกษา" ตะวันเริ่มเกริ่นเรื่องสำคัญก่อนจะหันไปทางตามตะวัน
ภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ

"พอดีว่าญาติของตามเค้าสนใจน้องไอซ์ เค้าแอบเห็นน้องไอซ์ในงานเลี้ยงเปิดตัวสินค้า
เลยฝากมาให้พี่เป็นธุระช่วยเจรจาให้หน่อย เค้าอยากทำความรู้จักกับน้องไอซ์"
ดุจมณีมองตะวันและหันไปมองตามตะวันก่อนจะหันไปทางพี่ชายและพี่สะใภ้

"คือ คนคนนี้เป็นคนดีมากๆ พี่กล้าการันตี และเค้าก็เป็นน้องชายของเพื่อนสนิทตามที่เปิดกิจการ
ทำขนมนานาชาติด้วย พี่น่ะอยากแนะนำให้น้องไอซ์ได้ทำความรู้จักกับเขา"

"พี่เพลิงก็รู้ว่าไอซ์เป็นยังไง ผมเกรงว่า..."

"เขารู้เรื่องนี้ครับ แต่เขาก็ยืนยันว่าสนใจน้องไอซ์ อยากทำความรู้จัก ซึ่งพี่อยากให้น้องไอซ์
ลองให้โอกาสเขาดู อีกอย่างเขารู้จักกับปองด้วยครับ เพราะว่าเป็นเพื่อนกับลมเค้าด้วย ไว้วางใจได้ครับคนนี้"

"ถ้าอย่างนั้น ผมก็ไม่ติดครับ แล้วแต่ไอซ์เค้าเลย"

"ไอซ์ล่ะว่าไง" ดุจมณีเริ่มมีท่าทีกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก แต่จะให้บอกปัดไป
เธอก็ทำไม่ได้ เธอไม่กล้า

"เอ่อ ไอซ์แล้วแต่พี่ไนค์กับพี่กีสค่ะ"

"งั้นก็ตามนี้นะครับ ผมอนุญาต"

"ฉันก็ไม่ติดค่ะ อยากเห็นน้องไอซ์เป็นฝั่งเป็นฝา มีคนดีๆ คอยดูแล"

"พี่ก็คิดแบบนั้นค่ะ น้องไอซ์ยังสาวยังสวย และสวยมากๆ ด้วย" ตามตะวันยิ้มบาง
ขณะมองดุจมณี ก่อนจะสะดุดตากับสร้อยข้อมือที่ดุจมณีใส่อยู่ขึ้นมา

"อุ๊ย สร้อยข้อมือน่ารักจังเลยค่ะ ได้มาจากไหนคะเนี่ย" ขุนพลที่ได้ยินดังนั้นถึงกับหันไปทาง
น้องสาวด้วยสีหน้าสงสัยขึ้นมาทันที หากก็พยายามเก็บอาการเอาไว้

"เอ่อ ของไอซ์เองค่ะ"

"น่ารักและดูไม่เหมือนของใครแบบนี้ต้องสั่งทำพิเศษแน่ๆ เลย พี่กำลังมองหาของขวัญให้น้องสาวพี่
ในวันเกิดอยู่พอดี แนวๆ นี้น่าจะเหมาะกับเจ้าตัวเค้าค่ะ สวย หวาน น่ารัก โรแมนติก ขอพี่ดูใกล้ๆ
หน่อยได้มั้ยคะ" ดุจมณีเลยยื่นข้อมือให้ตามตะวันดู

"โห สวยมาก งานประณีตมากๆ สุดยอดช่างฝีมือเลยค่ะน้องไอซ์
ออกแบบได้ดูดี ลงตัวไปหมด" ตามตะวันมองสร้อยข้อมือดังกล่าวด้วยแววตาพอใจ

"ขอบคุณค่ะ"

"ช่างเหมาะกับน้องไอซ์มากๆ ด้วย ช่างฝีมือเก่งมากๆค่ะ"

"พี่ตามชมจนไอซ์ตัวลอยแล้วค่ะ" ตามตะวันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปทางสามี

"สวยมั้ยคะแบบนี้"

"สวยครับ ถ้าตามอยากได้เดี๋ยวพี่สั่งทำให้เอามั้ย"

"ตามอ่ะนิยมแนวอื่นค่ะ แนวนี้ไม่เหมาะกับสาวห้าวแบบตามหรอก"

"อยากได้แบบไหนบอกผมได้นะ จำได้ว่านานแล้วที่ไม่ได้ซื้อเครื่องประดับให้ตาม"

"จะเอาใจตามเป็นพิเศษแบบนี้ อยากได้อะไรพิเศษๆ รึเปล่าเอ่ย"

"ขอน้องให้ร็อยยิสก็พอ ไม่ขอมากไปกว่านี้ครับ ฮ่าๆๆ" หนุ่มใหญ่ตอบพร้อมเสียงหัวเราะตบท้าย
ทำเอาภรรยาถึงกับเขินหน้าแดง

"ตรงนี้มีแต่คนมีคู่เค้าหยอกเย้ากัน แล้วก็แข่งกันหวานใส่กัน มีแค่ไอซ์นี่แหละที่ไร้คู่" ดุจมณีถึงกับเปรย
ด้วยแววตาขี้เล่น

"ก็นี่ไง พี่กำลังจะหาคู่ให้น้องไอซ์อยู่ไงครับ จะได้ไม่เหงา ไม่ไร้คู่" ตะวันหยอกกลับทันที

"เอาไว้พี่จะนัดทานข้าวเพื่อจะได้ทำความรู้จักกันนะคะ" ตามตะวันเสริม

"แล้วถ้า ถ้าไอซ์ไม่ได้ชอบเค้า ไอซ์ต้องทำไงคะ" แววตาและคำพูดใสซื่อนั้น
ทำเอาทุกคนถึงกับอมยิ้ม

"ก็แค่บอกตรงๆ ค่ะ เราเข้าใจ และจะไม่มีการบังคับจิตใจกันค่ะ"

"ไอซ์สามารถปฏิเสธได้ใช่มั้ยคะถ้าไอซ์ไม่ชอบ"

"ได้สิคะ น้องไอซ์ไม่ต้องฝืนใจถ้าไม่ชอบ แค่พี่อยากให้ลองเปิดใจ
ให้โอกาสได้ทำความรู้จักกัน กัชฟี เค้าเป็นคนน่ารัก สบายๆค่ะ น้องไอซ์ไม่ต้องกลัวนะคะ"

"ชื่อกัชฟีหรอคะ"

"ใช่ค่ะ กัชฟี ที่แปลว่า ผู้ปลดเปลื้องปัญหา แต่เราจะเรียกเค้าสั้นๆ ว่า กัชค่ะ
น้องไอซ์ก็เรียกเค้าว่าพี่กัชก็ได้ค่ะ เพราะเค้าอายุมากกว่าน้องไอซ์หลายปีเลย
น่าจะรุ่นเดียวกับไนค์เค้าแหละ"

"รุ่นผมหรอครับพี่ตาม ชื่อก็คุ้นๆ นะครับ"

"ไนค์อาจจะรู้จักกัชนะพี่ว่า เพราะกัชรู้จักทั้งปองทั้งลมเลย เคยเรียนสถาบันเดียวกัน"

"คุ้นๆ ชื่อครับ ถ้าได้เจออาจจะนึกขึ้นได้ครับ"

"งั้นเอาไว้เราค่อยนัดเวลาทานข้าวกันอีกทีนะ"

จบจากเรื่องสำคัญ ขุนพลและบิลกีสก็พาแขกไปเยี่ยมบิดาที่นอนป่วยติดเตียงมาหลายปี
ปล่อยให้ดุจมณีและลูกชายของแขกเล่นกับแมวในสวนกันต่อ โดยหารู้ไม่ว่า
ทุกภาพ ทุกบทสนทนานั้นคนที่แอบซ่อนตัวข้างริมรั้วที่ติดกับบ้านข้างเคียงได้เห็นและได้ยินมันทั้งหมด
พร้อมกับกำหมัดแน่น แววตาดุดัน ยิ่งยามเมื่อมองไปยังภาพของดุจมณีที่กำลังเล่นกับเด็กน้อย
และแมวสองตัวตรงพื้นหญ้าในสวนยิ่งเพิ่มความแรงกล้าในดวงตาคู่นั้น

"ฉันจะไม่มีวันให้เธอได้ไปมีความสุขกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้น
เธอเป็นคนเร่งให้ฉันต้องรีบรวบรัดเธอเองนะดุจมณี เธอเองที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยานี้
และฉันไม่เหลือทางเลือกอื่นอีกแล้ว ในเมื่อเธอเล่นมาไม้นี้กับฉัน

เสน่ห์แรงไม่เคยเปลี่ยน และฉันนี่แหละที่จะดับเสน่ห์เธอให้มอด"



.....................โปรดติดตามตอนต่อไป............................................



yoraya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ค. 2566, 22:16:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.ค. 2566, 22:16:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 221





<< บทที่ 18 เครื่องบรรณการ   บทที่ 19 เจ้าของเธอคือฉัน >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account