เพื่อนกันวันสุดท้าย
เธอ...สาวทอมมาดหลุดผู้สับสนทางเพศ
เขา...คนที่เป็นเพศอะไรก็ได้เพื่อเธอ
และ
เธอ...เพื่อนสนิทคิด(ไม่)ซื่อ
เขา...เพื่อนชายนายแสนซื่อ(บื้อ)
Tags: เพื่อนกันวันสุดท้าย เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ เพื่อนสนิท รักเพื่อน เพื่อนรัก วินธัย ภัทรนรินทร์ ต้นน้ำ ศวิตา

ตอน: 12. การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ย่องมาอย่างเงียบเชียบ
"แกร๊ง..." เท้าขวาเจ้าชายน้อยเหยียบกระป๋องที่ใครบางคนเขวี้ยงไว้ตั้งแต่ตอนที่แล้ว
"นั่นเสียงอะไรอ่ะ" เสียงจากคนอ่านที่น่ารักลอยมาอย่างโหดเหี้ยม "หรือว่าจะมาแล้ว ทิ้งให้รอเป็นชาติ อย่างงี้ต้องตื๊บเสียให้เข็ด"
...ง่ะ...
"เมี๊ยววว โฮ่ง มอๆๆ งี้ดดๆๆ"

สรุปว่ามีทั้งหมาแมวและฟราย - -"

เปิดตัวพร้อมความรั่วอีกแล้ววววววววววว
ความจริงเขาอยากให้ทุกคนหัวเราะก่อน แต่ไม่รู้จะขำมั้ย
คนอ่านที่น่ารักจะได้อารมณ์ดี ไม่เขวี้ยงป้ายไฟใส่คนเขียน 555

ขอโทษ(อีกครั้งและอีกครั้ง เผื่อครั้งหน้าด้วยเอ้า!!)
ที่มาสายนะคะ พอดีมันหมดสต๊อกด้วยแล้วก็เรียนวุ่นๆ ด้วยเลยไม่ได้พาวินภัทรต้นน้ำวีต้ามาส่งเลย
อภัยให้ลูกช้างด้วย โฮฮฮฮ

สนทนาอีกสักนิด ปัญหาน้ำท่วมเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของพี่น้องในขณะนี้ แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ติดตามข่าว แต่ก็เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ผู้ประสบภัยด้วยนะคะ อย่างไรก็ระวังโรคภัยที่มากับน้ำท่วมด้วยนะคะ อย่างเช่นฉี่หนู อะไรอย่างนี้ ด้วยรักและเป็นห่วงค่ะ

ตอบเม้นต์จ้า

คุณgrazioso --- อย่าเพิ่งเขวี้ยงป้ายไฟใส่ตัวละครของพี่นะคะ ขว้างมาที่พี่เถอะ (ดูดีมะ อร๊ายยย!!! ใจเย็นๆ อย่าเขวี้ยงจริงนะคะ ^^") ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่น่ารักที่มีให้กันเสมอนะคะ

คุณPat --- รั่วมาอีกแล้วค่ะ อิอิ สำหรับนายต้นน้ำกะวีต้าไม่รู้ว่าคุณ Pat อ่านตอนนี้แล้วจะยิ่งขัดใจหรือเปล่า แต่สัญญาค่ะว่าคนเขียนจะไม่ปล่อยให้เขาไม่เข้าใจกันนานๆ (เพราะมีคนบอกว่าทำให้คนรักกันเขาทะเลาะกันแล้วจะบาป ชาตินี้จะหาแฟนไม่ได้.......กรี๊ดดดด)

คุณAHA --- หรือว่าจะเป็นเพราะความรั่วของเจ้าชายน้อยเสมอมาทำให้น้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้ (อันนี้เรียกว่าบ้าหรือหลงตัวเองล่ะเนี่ย (' 0')? )

คุณincanto --- มาต่อให้แล้วนะคะ จะได้ไม่ต้องถือป้ายไฟนานๆ เดี๋ยวเมื่อยมือ (ให้พักสามวิ แล้วยกต่อ เอ้า 1 2 3 พรึบ!!!)

คุณanOO --- อุ๊ย แอบมีคนรู้ทันอ่ะ อิอิ ปล. คราวนี้รอมากกว่าสามอาทิตย์อีก ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่จะพยายามปั่นเรื่อยๆ ค่ะ หวังว่าจะยังรักกันอยู่เสมอ(ใครเขาบอกว่ารักแกเนี่ยเจ้าชายน้อย?!? อิอิ)

คุณsai --- จริงค่ะ ตัวละครไม่คุยกัน มีแต่คนเขียนเนี่ยแหละที่พูดมากอยู่คนเดียว ยังไงคุณ sai กับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็อย่าลืมมาคุยกันนะคะ อย่าปล่อยให้คนเขียนบ้าพูดคนเดียว 555

คุณชอบอ่าน --- ชอบคู่ต้นน้ำแสดงว่าชอบแบบอาม่า เอ๊ย ดราม่า 555 แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ดราม่านานนะคะ เพราะเป็นรักดุ๊กดิ๊ก กุ๊กกิ๊ก จุ๊กจิ๊ก ...จริงป่ะเนี่ยยยยย คุณชอบอ่านบอกที 555

คุณaom --- ตอนนี้ทั้งนายวินทั้งภัทร ต้นน้ำเอยวีต้าเอย ก็ไม่ยอมคุยกันสักที ไม่มงไม่มีวอทแอพกันมั่งเลย เฮ้อ 555

คุณJelly --- นี่แหละสาเหตุที่พี่ไม่ค่อยมาอัพนิยาย เพราะกลัวน้อง Jelly ไม่สบาย (คิกคิก) ยังไงก็คราวนี้หวังว่าจะมีภูมิต้านทานบ้างแล้วนะคะ ^^ ยังไงก็หายเร็วๆ นะคะ ปล.ตอนนี้ขอจบแบบกะทันหันอีกที ปุ๊บปั๊บบบบ

คุณหมู้หมู --- อ้าว ทำไมเป็นกำลังใจในมุมมืดล่ะค่ะ เป็นแวมไพน์โดนแดดไม่ได้อ๊ะป่าว ฮี่ฮี่ แต่ก็ขอบคุณเสมอนะคะ ทุกกำลังใจและการรอคอยมีค่าเสมอค่ะ ขอบคุณค่ะ

คุณ13a13yWhatUp --- ต้นน้ำเขาก็ป๊อดอย่างนี้แหละ แต่ก็น่ารักใช่ม้าาาา อิอิ หนุ่มแว่นปอดแหก แป่ววว ฉายาใหม่ - -"

-------------------------------------------------------------------------

12.

“ภัทร...ตื่นหรือยังลูก”

คุณรินฤดีเคาะประตูอย่างไม่สบายใจนัก ลูกสาวสุดที่รักไม่เคยตื่นสายขนาดนี้ แล้วไหนจะเมื่อวานที่กลับมาแล้วยังไม่ยอมไปรายงานตัวให้นางกับสามีรู้อีก เหล่านี้ถือเป็นสิ่งผิดปกติที่แม่อย่างนางไม่สามารถปล่อยให้พ้นจากสายตาได้

“ภัทร ไม่สบายหรือเปล่า เปิดประตูให้หม่าม้าหน่อยสิ”

หรือจะไปหยิบกุญแจสำรองมาใช้เลยดี?

ยังไม่ทันได้ทำอย่างใจคิด ประตูห้องลูกสาวก็เปิดออก ใบหน้าเซื่องซึมของลูกสาวฉายชัด ไหล่ที่เคยตั้งตรงห่อเหี่ยวลงอย่างท้อแท้ แววตาที่เคยสุกสกาวบัดนี้ดูแห้งผากไร้ชีวิตชีวาจนหัวอกของคนเป็นแม่ไหวยวบ ถึงจะคอยดูแลพะเน้าพะนอไม่ห่างมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก แต่นางก็สอนเสมอให้ลูกน้อยรู้จักยืนหยัดด้วยตัวเอง เข้มแข็งทั้งกายและใจ

แต่วันนี้ภัทรของหม่าม้ากลับดูหมดอาลัยกับชีวิต...ใครกันที่เป็นคนทำ

“ภัทร...”

ลูกสาวหลบแววตาสงสัยของมารดา “เดี๋ยวภัทรลงไปนะคะ”

“ภัทร” นางรินฤดีเรียกเสียงอ่อนลง “อยากได้คนรับฟังไหมลูก”

เสียงใครบางคนแทรกเข้ามาในความคิด

‘ก็เธอชอบทำคิ้วขมวดแบบนี้ ฉันถึงชอบถามว่าคิดอะไรอยู่’

‘ถ้าบอกจะได้อะไร’

‘ได้คนฟัง’

“หม่าม้าขา”

นางอ้าแขนรับร่างบอบบางของลูกสาวที่โผเข้ากอดแล้วเรียกเสียงสั่นเครือ มือเล็กของมารดาลูบศีรษะทุยของลูกสาว อีกมือตบหลังเบาๆ อย่างปลอบโยน ก่อนจะประคองเด็กน้อยของนางไปที่เตียงนอน

ภัทรนรินทร์กอดมารดาแน่นอย่างเสียใจระคนสับสน ความอ้างว้างที่เคยเกิดขึ้นเหือดหายไปเพียงแค่มีมือคู่นี้คอยโอบอุ้ม มีน้ำเสียงอาทรปลอบโยนเบาๆ มีตักนุ่มให้เธอพักพิง

ไม่มีคำพูดจากคนที่ควรระบาย ดวงตาไร้ประกายปิดลง เสียงพึมพำเอาแต่เรียกหม่าม้าเบาจนแทบไม่ได้ยิน ไม่มีคำถามจากหญิงสูงวัยกว่า นางรู้ว่าหากภัทรนรินทร์พร้อมจะบอกเอง

เพลงกล่อมเด็กเพลงแล้วเพลงเล่าถูกเอื้อนเอ่ยผลัดกันขับกล่อมลูกน้อยจากมารดาที่บอกว่าจะเป็นผู้ฟัง ภัทรนรินทร์ซุกหน้ากับอกมารดาเงียบๆ แม้ไม่เอื้อนเอ่ยคำพูด แต่น่าแปลกที่เธอรู้สึกว่าความทุกข์กำลังถูกปลดปล่อยออกจากตัวช้าๆ ด้วยความรักและไออุ่นจากผู้หญิงที่รักเธอที่สุด

คล้ายกับความรู้สึกที่ใครบางคนก็ทำได้ แต่บัดนี้ไม่มีอีกแล้ว





นางรินฤดีถอนสายตาออกจากหน้าจอมือถือของลูกสาว แล้วยื่นมันคืนให้เจ้าของที่รับมันไปอย่างหงอยๆ

ภัทรนรินทร์ถอนหายใจ หลังจากที่เล่าเรื่องทั้งหมดให้มารดาฟังพร้อมกับต้นเหตุของความเซื่องซึมในโทรศัพท์มือถือแล้ว เธอก็พร้อมจะรับคำต่อว่าจากมารดา เพราะรู้ว่าเป็นเธอเองที่ผิดในเรื่องนี้ แต่ทว่ากลับผิดคาดเมื่อมือนิ่มเอื้อมมาลูบศีรษะเบาๆ แล้วเอ่ยถาม

“เสียใจมากไหมลูก”

“หม่าม้า” วินาทีนี้เธออยากถอนคำพูดที่เคยเอ่ยไว้กับต้นน้ำที่ว่าไม่มีใครรักเธอ ด้วยอารมณ์ชั่ววูบคราวนั้น ทำให้เธอลืมมองไปรอบๆ ที่ยังมีป๋า หม่าม้า แล้วก็ใครอีกหลายคนที่ยังรักและห่วงใยเธออยู่

ดีแค่ไหนที่คนที่เธอพูดด้วยวันนั้นคือต้นน้ำ หากเป็นหม่าม้า เธอก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่รักเธอมากที่สุดในโลกจะเสียใจแค่ไหนกับคำพูดพล่อยๆ นี้

“ภัทรรักหม่าม้าที่สุดในโลก”

แขนเรียวสวมกอดเอวมารดา ใบหน้าซุกซบบนอกนุ่ม

นางรินฤดีมองท่าทางออดอ้อนนั่น แล้วถามยิ้มๆ “ขี้คร้าน อนาคตจะรักหนุ่มอื่นมากกว่าหม่าม้า”

“แต่เขาคงไม่รักภัทรแล้วล่ะค่ะ”

“ก็ขึ้นอยู่กับว่าภัทรเสียใจกับการกระทำของภัทรบ้างไหม”

“ภัทรรู้ว่าตัวเองผิด”

“ถ้ารู้ก็ดีจ๊ะ แต่จะดีที่สุดถ้ารู้จักแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาดไป”

“แต่ภัทรกลัวค่ะหม่าม้า” หล่อนพูดเสียงเบา “กลัวตัวเองจะทำให้เขาเสียใจอีก”

“เรียนรู้จากความผิดพลาดสิจ๊ะ แล้วเอามันมาเป็นบทเรียน เป็นครูสอนอนาคต อดีตที่ผ่านมาเราย้อนกลับไปแก้ไม่ได้ แต่เราทำปัจจุบันกับอนาคตได้นี่ลูก”

“มันจะสายไปไหมคะ”

“ไม่หรอกลูก หม่าม้าเชื่อว่าถ้าวินบอกว่ารอ เขาก็จะรอภัทรของหม่าม้าจ๊ะ หรือว่าภัทรไม่เชื่อใจวิน”

“ไม่ใช่นะคะ ภัทรแค่กลัวเขาจะรอนานจนไม่อยากรอ”

“งั้น...” มารดายิ้มกรุ้มกริ่ม อย่างที่ลูกสาวไม่มีทางเห็น “เอาอย่างนี้สิจ๊ะ ถ้าภัทรไม่อยากให้วินรอนาน ก็เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยเป็นไง”

“คะ?”





“หม่าม้า...” เสียงคนเป็นลูกเรียกยานคาง มือก็รั้งมารดาไว้ไม่ยอมเดินตาม

“เอ๊ะ ลูกคนนี้” คุณรินฤดีเอ็ดยิ้มๆ ก่อนจะแกล้งส่งสายตาดุ “หม่าม้าว่าของร้านนี้เขาสวยดีออก แบบก็หลากหลายด้วย”

“ทำไมภัทรต้องทำแบบนี้ล่ะคะหม่าม้า คนเราควรจะยอมรับในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็นถึงจะถูก ทำไมต้องเฟคเข้าหากัน”

คนผ่านโลกมามากถอนหายใจ “แล้วภัทรคิดว่าวินเขารับที่ภัทรเป็นได้ไหมล่ะลูก”

คำถามตรงๆ ของมารดาทำให้ความคิดของเธอเผลอกระหวัดไปถึงใครบางคน

‘นายคงไม่บ้าให้ฉันแต่งตัวเป็นผู้หญิงหรอกนะ’

‘เมื่อกี้เธอบอกเองว่ายอมทุกอย่าง’

‘ฉันไม่...’

‘งั้นยกเลิก’

‘นายจะทิ้งฉันตอนนี้ไม่ได้นะวิน แล้วศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของฉันล่ะ’

‘เจอกันครึ่งทาง’

‘แต่ไม่เอากระโปรง’

‘ตามใจสิ’

“เขาตามใจภัทร”

“แล้วภัทรจะตามใจวินบ้างมั้ยล่ะลูก”

“คะ?”

หม่าม้ายิ้มกว้าง มือเล็กกว่าจับมือลูกสาวแล้วลูบหลังมืออย่างให้กำลังใจ “แม้ว่าวินจะรับได้อย่างที่ภัทรเป็น แต่หม่าม้าก็เชื่อจ๊ะว่าไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่อยากเห็นคนรักของเขาแต่งตัวสวยๆ เป็นผู้หญิงกับเขาบ้างหรอก”

“จริงหรอคะ?”

มารดาแอบยิ้มกริ่มกับเสื้อผ้า เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มลังเลบ้างแล้ว “จริงสิจ๊ะ ภัทรไม่เชื่อหม่าม้าหรอ”

“เชื่อสิคะ หม่าม้าก็ต้องหวังดีกับภัทรอยู่แล้ว” เพียงแต่เธอไม่แน่ใจว่าวินธัยจะคิดแบบมารดาเธอหรือเปล่า

แต่ก่อนหน้าเธอก็ทำตัวเหมือนผู้ชายมาตลอด

เฮ้ย! เขาคงไม่ได้ชอบเธอแบบที่เป็นผู้ชายหรอกมั้ง...

คุณรินฤดีมองลูกสาวที่บัดนี้ทำหน้าสยองเกล้าพองขนอย่างไม่เข้าใจ แต่ในเมื่อภัทรนรินทร์ไม่ได้แสดงอาการต่อต้านอะไรนางก็วางใจ จึงจูงมือสุดดวงใจให้เข้าร้านไปด้วยกัน พนักงานที่มาต้อนรับล้วนใส่ฟอร์มหรู หน้าอกมีเข็มกลัดชื่อร้าน ‘une pincesse’

“อุน แพรงแซซ ยินดีต้อนรับค่ะ สนใจชุดไหนเป็นพิเศษ หรือมีแบบที่คิดไว้แล้วทางร้านตัดให้ได้ค่ะ ไม่ทราบรับเป็นแบบไหนดีคะ”

“เดี๋ยวขอเดินดูก่อนละกันนะคะ” คุณรินฤดีตอบ ก่อนจะปล่อยมือลูกสาวแล้วค่อยๆ เลือกอย่างพิถีพิถัน

ความฝันของนางจะสำเร็จเสียที อยากแต่งตัวลูกสาวเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้มาตั้งนานแล้ว

อ่า...ลูกสาวหม่าม้าต้องสวยที่สุดในโลก

ส่วนคนที่ยังอยู่ในความคิดพิเรนของตัวเองก็ต้องสะดุ้งเมื่อมือของใครบางคนแตะเข้าที่ข้อศอก

“คุณภัทรใช่ไหมคะเนี่ย! จำเดียร์ได้มั้ยค่ะ เดียร์เพื่อนวินน่ะค่ะ เราเคยเจอกันที่ห้าง...”

คนถูกถามกะพริบตาปริบๆ มองร่างสะโอดสะองราวกับนางแบบตรงหน้า สมองทบทวนความคิด

‘เดียร์กำลังจะมีคอลเลคชั่นใหม่ สนใจนางแบบหุ่นดีๆ อย่างคุณภัทรค่ะ’

‘...ว่างๆ ก็พาคุณภัทรไปห้องเสื้อเรานะ รับรองจะลดให้เป็นพิเศษเลยแฟนวินทั้งที’

“คุณเดียร์”

“ค่ะ! จำได้แล้วใช่ไหมเอ่ย” อาทิตยาประสานมือไว้ที่หน้าอกด้วยความดีใจ “ว่าแต่คุณภัทรมากับใครคะเนี่ย ใช่วินหรือเปล่า“

ภัทรนรินทร์ยิ้มบางๆ ก่อนจะมองไปทางมารดาที่เดินเข้ามาหาพร้อมเสื้อผ้าหลายชุด “มากับแม่น่ะ...ค่ะ”

“อ้าว! สวัสดีค่ะคุณแม่” สาวเปรี้ยวรีบหันไปไหว้อย่างอ่อนช้อย แล้วสั่งให้เด็กในร้านรีบเอาเสื้อผ้าทั้งหมดมาถือไว้ “หนูชื่อเดียร์ค่ะ เป็นเพื่อนของวิน ที่เป็นแฟนคุณภัทร”

เจ้าหล่อนแนะนำตัวรัวเร็ว “อ้อ...เป็นเจ้าของห้องเสื้อที่นี่ด้วยค่ะ ถ้าสนใจชุดไหนเนี่ยบอกได้เลยนะคะ ราคาพิเศษเลยค่ะ”

“โอ๊ย ขอบใจจ๊ะหนูเดียร์ นี่หม่าม้ากำลังหาชุดให้ภัทรเลย ได้หนูมาช่วยคงจะดี ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วว่าเจ้าของร้านทั้งสวยทั้งเก่ง...ว่าแต่ว่างหรือเปล่าจ๊ะ”

“ว่างสิคะ แต่ถึงไม่ว่างก็ต้องว่างค่ะ คนพิเศษของวินทั้งที” เจ้าของร้านสาวแซวยิ้มๆ “พูดถึงวิน วันนี้ไม่มีด้วยหรือคะคุณภัทร อุ๊ย! อย่างนี้ก็ดีสิคะ ไม่มีก้างขวางคอ คนขี้หวง เดียร์จะได้ทาบทามคุณภัทรมาเป็นนางแบบให้เลยดีมั้ยคะ”

“อย่าดีกว่าค่ะ”

“ว่าแต่วินไปไหนคะเนี่ย”

“คือ...” ภัทรนรินทร์ตอบไม่ถูก เพราะหล่อนเองก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน อยู่กับใครและทำอะไรอยู่

แต่ที่น่าตกใจคือเธอปรารถนาจะรู้ทุกอย่างทุกเวลาที่ผ่านไปทุกวินาทีของวินธัยขึ้นมากะทันหัน!

“หนูเดียร์ว่าตัวนี้เหมาะกับภัทรมั้ยลูก”

เสียงของมารดายิ่งกว่าเสียงสวรรค์ที่ทั้งฉุดเธอกลับมาสู่ความเป็นจริง และฉุดอาทิตยาให้พุ่งความสนใจไปที่เสื้อผ้าที่หล่อนออกแบบเองแทบทั้งหมด

“เดียร์ช่วยเลือกค่ะคุณแม่!”

ภัทรนรินทร์ยิ้มบางๆ กับสองสาวสองวัยที่ช่วยกันเลือกนู่นชี้นี่เป็นพัลวัน ก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งรอที่มุมรับแขก ปล่อยการตัดสินใจให้เป็นหน้าที่ของมารดาและดีไซเนอร์สาวเจ้าของร้าน

ปล่อยให้ตัวเองนึกไปถึงเรื่องเก่าๆ เพียงลำพัง





ไม่...เธอรอต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

ต้นน้ำกำลังสับสนระหว่างคำว่ารักกับความชั่วดีในใจ ทางที่ดีคือการหลบลี้หนีหน้าจากกันไป แม้จะเจ็บปวด แต่ก็เป็นทางเดียวที่เธอจะช่วยให้เขาตื่นจากวังวนปรารถนานี่เสียที

วันคืนที่ผ่านมา หล่อนยอมรับว่าแสนจะมีความสุขราวกับอยู่ในความฝัน และมันก็คงเป็นได้แค่เพียงเท่านั้น ในเมื่อความจริงเขามีเจ้าของอยู่แล้ว และหล่อนอาจลองแย่งเขามาสักตั้งหากอีกฝ่ายไม่ใช่เพื่อนที่ดีกับเธอที่สุดอย่างภัทรนรินทร์

ศวิตาคิดในใจ ขณะค่อยๆ ก้าวลงเรือ มือนิ่มถูกมือเหี่ยวย่นจับไว้ไม่ปล่อย

“วีต้าฝากป้าจันด้วยนะคะ ฝากดูแลเขา ฝากดูแลบ้าน”

“ในเมื่อคุณหนูรักเขาแล้วทำไมไม่อยู่กับเขาล่ะคะ” แม่บ้านสูงวัยถาม ตลอดสามวันเต็มที่นางเห็นความสุขของคุณหนู แต่จู่ๆ หญิงสาวก็กำลังจะทิ้งมันไป “ป้าไม่เข้าใจจริงๆ”

“เอาไว้หนูจะเล่าให้ฟังนะคะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” เธอต้องรีบไปก่อนที่เขาจะตื่นมาพบกับความว่างเปล่า

ตื่นมาพบว่าเธอคือผู้หญิงใจร้ายที่ทิ้งเขาไว้ลงคอ

“หนูต้องรีบไป” เธอบอก “ป้าจันสัญญานะคะว่าจะไม่บอกอะไรเขา”

“ค่ะ ป้าสัญญา แล้วคุณหนูจะกลับมาเมื่อไหร่คะ”

“แล้วหนูจะโทรมาบอกค่ะ ป้าจันเองก็ดูแลตัวเองนะคะ ขาดเหลืออะไรโทรมาหาหนูได้ตลอด”

“โถ่...แม่คุณของป้า ช่างจิตใจดีจริงๆ”

ศวิตาส่ายหน้าเศร้าๆ หากหล่อนดีจริงคงไม่แย่งคนรักของเพื่อนที่ดีกับเธอที่สุดมาอย่างนี้ แต่อีกไม่นาน เธอจะไถ่ถอนความผิดนี้ให้ภัทรนรินทร์ด้วยตัวเอง

“หนูไปแล้วนะคะ”

“จะไม่รอคุณต้นน้ำตื่นจริงๆ หรือคะ”

“ไม่ค่ะ”

หล่อนรอไม่ได้จริงๆ เพราะใจเจ้ากรรมมันถลำลงไปลึกจนยากจะเยียวยา และกลัวว่าหากอยู่ต่อเพียงวันเดียวจะตัดใจจากต้นน้ำไม่ได้

ภาพความสุขทั้งหมดทั้งมวลฉายซ้ำ ราวกับจะตอกย้ำมิให้ลืมเลือน ทุกถ้อยคำ ทุกการกระทำแสนหวานของเขาจะอยู่ในใจเธอตลอดไป

หญิงสาวหันกลับไปมองเกาะส่วนตัวอีกครั้งอย่างตัดใจ เพราะอย่างไรเสียความสุขบนความทุกข์ของคนที่เธอรักอีกสามคนจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ๆ

หากเรื่องราวบนเกาะนี้เป็นเพียงเรื่องสนุกของเด็กสองคนอย่างที่เธอเคยว่าไว้ ก็ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งเมื่อต้นน้ำโตขึ้น เขาจะหลงเหลือเพียงความทรงจำเลือนลาง จำเพียงความสุขที่ผู้หญิงคนนี้มีให้อย่างบริสุทธิ์ใจ และพร้อมจะเริ่มใหม่กับคนของเขาอย่างแท้จริง

แตกต่างกับหล่อน...ที่พร้อมจะเป็นเด็กอยู่อย่างนี้ตลอดกาล





แสงแดดอ่อนๆ กระทบแว่นผ่านเข้ามาแยงสายตาคนขี้เซาที่กำลังหลับฝันดี ต้นน้ำกวาดมือไปข้างๆ หาร่างนุ่มนิ่มที่เขาแสนรักมากอดแนบกาย

ทว่าเตียงนอนใหญ่มีเพียงเขาที่ครอบครอง ความเย็นของผิวเตียงแผ่ซ่านสู่หัวใจของหนุ่มแว่น

“วีต้า...” เขาตะโกนเรียกคนที่คงอยู่ในห้องน้ำ “เธออาบน้ำอยู่ใช่ไหม”

ไม่มีเสียงตอบทำให้หัวใจเขาร้อนรุ่ม ร่างสูงกระวีกระวาดลงจากเตียง วิ่งไปเปิดประตูห้องน้ำแล้วพบกับความว่างเปล่า สองเท้าเปลี่ยนเป็นวิ่งออกไปนอกห้อง แล้วลงบันได เป้าหมายคือห้องครัว

เสียงตะหลิวกับกลิ่นหอมฉุยทำให้ชายหนุ่มยิ้มออก เขาคงวิตกจริตไปเอง แต่หากจะว่าไปมันก็คงถึงเวลาที่เขาจะพูดกับศวิตาอย่างจริงจังเสียที

ความคลุมเครือทำให้เขากระสับกระส่ายแปลกๆ

“วี...” เสียงนุ่มชะงักไป เมื่อคนที่อยู่ในครัวไม่ใช่คนที่คิดไว้ “ป้าจัน วีต้าล่ะครับ”

แววตาของหญิงสูงวัยที่หันมาทำให้หัวใจเขาหล่นวูบ เพราะมันเป็นสายตาแห่งความเห็นใจ





เขาไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป

ไม่รู้ว่าหญิงสูงวัยพูดอะไรอีก

ไม่รู้แม้กระทั่งว่าสองขามีแรงก้าวขึ้นมายังห้องเดิมได้อย่างไร

เธอไปแล้ว...จากไปโดยไม่มีคำร่ำลา

ใจลึกๆ เขาคิดว่าศวิตาคงมีธุระด่วน แต่ลางสังหรณ์กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้

หล่อนทิ้งเขาไปแล้ว ไม่มีแม้แต่ข้อความทิ้งไว้

‘แว่นฉันล่ะวีต้า’

‘ไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยได้แล้ว’

‘ไม่เอา เดี๋ยวเธอทิ้งฉัน ฉันไม่มีแว่นฉันกลัว’

‘ฉันจะทิ้งนายไปไหนได้ นี่มันเกาะของฉันนะ’

‘แล้วถ้าไม่ใช่ที่นี่’

เวลานี้เขาได้คำตอบแล้ว

น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบหน้า ถ้าเพียงเขาอยู่ในที่ๆ ควรอยู่ ศวิตาก็คงไม่หนีไปอย่างนี้ และรู้ดีว่าไม่ใช่เพียงร่างกายที่หลบลี้ ทว่าหัวใจของเธอก็คงไม่มีทางหวนกลับมา

อ้อ...ไม่สิ มันไม่เคยเป็นของเขามาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก

‘นายเป็นเพื่อนที่ดี’

มือที่สั่นไปด้วยแรงสะอื้นค่อยๆ บรรจงหยิบรูปถ่ายใบเล็กที่ซุกซ่อนอยู่ในช่องกระเป๋าเงินออกมา

“ทำไมเธอไม่รอวีต้า...ถ้าจะทิ้งกันไปอยู่แล้ว ทำไมไม่รอให้ฉันบอกรักเธอสักครั้งก็ยังดี”



-----------------------------------------------------------------

จบไปอีก 1 ตอน
คนเขียนก็ปั่นกันหัวฟูต่อไป
คนอ่านก็อย่าลืมแวะเอาโอเลี้ยงกะข้าวผัดมาส่งนะจ๊ะ เย๊ยยย!!! ไม่ใช่ๆ

เอาเป็นว่าขอแค่กำลังใจกับกำลังเม้าท์ก็พอจ๊ะ จุ๊บๆ
ถกเถียง เม้าท์มอยได้ทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วม อกหัก รักตุ๊ด น้ำหนักขึ้นฉุดไม่อยู่ ยินดีฟังทุกปัญหาจ้า (อาชีพเสริมจากการเขียนนิยาย โฮะๆ)


รักทุกคนค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจและการรอคอยที่มาให้กันเสมอมา อยากบอกว่ารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เขียนนิยาย ได้อ่านเม้นต์ ได้คุยกับเพื่อนๆ
ขอบคุณสังคมน่ารักของที่นี่ค่ะ

เจ้าชายน้อย



เจ้าชายน้อย
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ต.ค. 2554, 21:57:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ต.ค. 2554, 21:57:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 1837





<< 11. ฉันรักแกนะภัทร   13. ความทรงจำ >>
ชอบอ่าน 15 ต.ค. 2554, 22:30:30 น.
มันก็กุ๊กกิ๊กคะ แต่ก็ชอบแบบของต้นน้ำนะ555+


sai 15 ต.ค. 2554, 22:33:03 น.
โอ๊ยยยย หายไปนานเลย สั้นไปป่าวอ่ะคร้าาา ภัทรสู้ๆ ต้นน้ำกับวีต้าน่าสงสารอ่ะT_T


nateetip 16 ต.ค. 2554, 00:34:17 น.
ลุ้นตอนต่อไปอยู่นะคะ


grazioso 16 ต.ค. 2554, 10:01:31 น.
กรี๊ดดดดด คิดถึงมากเลยค่า :)

อยากเห็นสาวภัทรในชุดกระโปรงไวไวจังค่ะ ดูซิว่านายวินจะอึ้งขนาดไหน :)

แอบสงสารคู่สาววีต้ากับนายต้นน้ำ เฮ้อออ ขอให้คู่นี้กลับมาทำความเข้าใจกันไวไวนะคะ

เป็นกำลังใจให้เสมอค่า โบกป้ายไฟไปมา.. เตรียมเขวี้ยง..เอ้ย! ไม่ใช่ ๕๕๕


Jelly 16 ต.ค. 2554, 10:25:07 น.
จะมาอีกเร็วๆนี้ไหมค่ะพี่ รอๆ คราวนี้ไม่เป็นหวัดแล้วจ้า
ปล. ลีไปช่วยน้ำท่วมที่ ดอนเมืองมาแล้วว ยกของไปมา หนักมากๆๆ


roseolar 16 ต.ค. 2554, 14:29:29 น.
อร๊ายยยย!
มาซะที ขอแอบเก็บป้ายไฟที่เขวี้ยงไปคืนมา ชูโบกไหวๆใหม่ เจ้าชายน้อยสู้ๆค่า ^ ^ แอบส่งโอเลี้ยงกับข้าวผัดให้เป็นของสมนาคุณด้วยนะ อิอิ
รู้แล้วว่าสาเหตุน้ำท่วมมาจากอะไร น้ำตาของนายต้นน้ำนี่เอง แงแง วีต้านะีต้า รักคือการยื้อแย่งนะรู้มั้ยยยย อยู่ฟังต้นน้ำบอกรักก่อนสิตัวเธอ แอร๊ยยย~ คนอ่านหงุดหงิด ขอทึ้งผมตัวเองหนึ่งรอบ ก่อนจะิ่วิ่งไปหยิบป้ายไฟมาทวงหนี้ เอ้ย!ทวงนิยายตอนต่อไปต่อ มาเร็วๆนะคะ หนูออยู่นะเออ


anOO 16 ต.ค. 2554, 18:13:56 น.
ถือคบเพลิง ซะไฟลามมือไปหมดแล้ว ดีใจจังที่มา
รอดูลุคใหม่ภัืทรอยู่น๊า ไม่รู้จะได้อ่านอาทิตย์ไหน


Pat 16 ต.ค. 2554, 20:13:09 น.
หายไปนานเลย เอาน่าเข้าใจเด็กกำลังเรียนนี่เนอะ เฮ้อแอบขัดใจอีกล่ะต้นน้ำกะวีต้าเมื่อไหร่จะเข้าใจตรงกันซะทีเน้อ น่าสงสารจริงๆ 5555 อยากเห็นภัทรแต่งหญิงเร็วๆอ่ะ (จะได้ไหมน้อ^_^)


aom 17 ต.ค. 2554, 08:16:12 น.
ดีใจจังในที่สุดก็ได้อ่านเสียที
จะรอดูลุคใหม่ของภัทรนะคะ


BOOKWORMPIG 23 พ.ย. 2554, 13:00:24 น.
คิดถึงจังค่ะ
รอติดตามอยู่นะคะ


Jelly 19 ม.ค. 2555, 18:02:28 น.
พี่ปริ๊น ทำไมรอบนี้นานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


rodjana 2 ก.พ. 2555, 09:56:29 น.
รออยู่ตลอดเวลาน้าคุณนักเขียน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account