แพรห่มไพร
เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองคู่ ที่มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับลงตัวได้อย่างพอดี ณ อาณาจักรไร่ส้ม แห่งบ้านไร่ไพรวัลย์ บรรยากาศจึงอบอวนไปด้วยกลิ่นอายของความรัก ...แพรห่มไพร...

Tags: สบายๆ คลายเครียด

ตอน: ตอนที่ ๓



ภาคินทร์ เดชานุวัฒน์ หรือ เสือนักล่า ฉายาที่เพื่อนสมัยเรียนตั้งให้ บอกว่าเขามีแววตาประดุจเสือตัวผู้ที่จ้องแต่จะตะคลุบ เสือตัวเมียอยู่ตลอดเวลา ไอ้เพื่อนก็พูดเกินไป แค่คนมันหล่อนี่หว่า ผิดด้วยเหรอที่จะมีผู้หญิงสาวๆ สวยๆมาชื่นชอบ เมื่อก่อนก็ดูจะภูมิใจในความหล่อของตัวเองอยู่หรอก แต่ตอนนี้สิ งานกำลังวิ่งมาชนเขา โครม!เบ้อเร่อเลยเชียว จนตัวเขาต้องขับรถออกจากบ้านอย่างรีบเร่งอยู่ในขณะนี้ ไม่ให้รีบได้อย่างไร ก็คุณหญิงสายสมร มารดาสุดที่รักของเขากำลังจะพาลูกสาวของท่านทูตมา ถ้าขืนอยู่มีหวัง ถูกน้องโรส ลูกสาวสุดรักสุดสวาทของท่านทูต รัดทั้งตัวแน่ๆ คิดแล้วก็ขนลุก
ความจริงน้องโรสนี่ เขาก็เคยเห็นมาแล้วบ้าง สนิทกันก่อนที่พ่อของเธอจะไปเป็นทูตประเทศไทยประจำรัฐ เดลาแวร์ ของสหรัฐอเมริกา เพิ่งจะกลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่ถึงปี และเวียนมาหาเขาบ่อยๆ ไอ้เขารึ ก็นึกรักน้องโรสแบบน้องนุ่ง ไอ้ครั้นจะให้แต่งงานเป็นคู่กันเขาก็ทำไม่ได้
เรื่องอะไรจะเอาชีวิตโสดอันน่าหวงแหนของเขา ไปใส่ห่วงผูกคอได้ง่ายๆ
ดีนะที่ไอ้ไพรเพื่อนสมัยเรียนของเขาเป็นใหญ่เป็นโตอยู่ถึงเชียงรายโน้น ใช่ เชียงราย ไกลจากกรุงเทพฯมาก ฮ่า ฮ่าๆ คุณหญิงแม่สุดรักของเขาคงไม่มาตามถึงที่หรอก ท่านชอบชีวิตอันสิวิไลจะตายไป ไอ้เรื่องต้องอยู่ป่าอยู่เขานี่ โนเว!
คิดอย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย ความจริงเขามาถึงตัวเมืองเชียงรายเป็นชั่วโมงแล้ว ครั้นจะเข้าไปยังไร่ของเพื่อนรักโดยไม่บอกไม่กล่าวเลย ก็เกรงใจ เลยต้องโทรบอกมันชะหน่อย
พอวางสายจากเพื่อนเสร็จ สายตาก็มองหาร้านค้า เพื่อซื้อของฝากไปให้บรรดาสมาชิกในบ้านไร่
เดี๋ยวจะหาว่าแล้วน้ำใจ เจอร้านค้าพร้อมที่จอดรถอันสะดวกสบายว่างอยู่พอดี โชคดีเป็นบ้าเลย ไม่ต้องเวียนรถหาที่จอดใหม่
“ เอี๊อด! โครม! ”
ให้ตายสิ ชายหนุ่มสบถ ที่มีตั้งเยอะ เขาก็เข้ามาจอดรถดีๆ ดันมีรถอีกคันหนึ่งปาดหน้ามาแย่งที่จอดรถของเขาซะนี่ ผลเป็นอย่างไร ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ ชน!
ดีนะที่เขาไม่ขับรถเร็ว จึงทำให้รถเขาเสียหายไม่มาก แต่ถึงอย่างไร ชายหนุ่มก็รู้สึกโกรธ รถคันสีขาวคันนั้นมาก ขับรถไม่มีมารยาท คนขับก็คงเป็นประเภทไร้มารยาทสิ้นดี!

๑๓
“คุณๆ” เสียงแจ้วๆ ดังข้างๆหู จนเขาต้องลดกระจกรถ หันหน้าไปดูเจ้าของเสียงนั้น
“ ออกมาคุยกันเดี๋ยวนี้นะ” เจ้าของเสียงยังคงเคาะประตูรถ พร้อมส่งเสียงเรียกอีก
เขานึกอยู่แล้วว่า ถ้ารถที่ขับไม่มีมารยาทในการหาที่จอด คิดจะจอดที่ไหนก็จอด คิดจะแซงปาดซ้ายปาดขวา คนขับนั้นนะ เดาได้ไม่ยาก ต้องเป็นผู้หญิง ชัวร์
และไอ้ที่พูดเสียงแจ้วๆอยู่ข้างๆรถเขานี่ก็อีกแหละ ผู้หญิง แถมมานิดหนึ่งคือความสวย
นี่ก็แสดงว่าประสาทตาในการโฟกัสความสวยของผู้หญิงของเขา ยังทำงานได้อย่างไม่ ขาดตกบกพร่อง ใช้ได้ ชายหนุ่มคิดเพลินไปหน่อยเลยไม่เห็นถึงความโกรธของหญิงสาว
ที่เขาเผลอวิจารณ์
วันนี้มันเป็นเฮงซวยอะไรของแกวะ ไอ้ฉัตร ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯดี ๆ ก็มีเหตุต้องผิดใจกับลูกพี่ลูกน้องที่ทำงาน เรื่องโปรเจคใหม่ ทำให้หญิงสาวอารมณ์เสียมาก คิดอยากจะมาไกลๆ สิ่งที่นึกถึงอยู่เพียงอย่างเดียวตอนนั้นก็คือ แพรไหม ใช่เพื่อนรักของเธอที่มาทำงานที่จังหวัดเชียงราย ได้ประมาณสองอาทิตย์กว่าๆ คิดแล้วก็ถอนใจ เมื่อก่อน เวลาฉัตรทิพย์มีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องครอบครัว หรือแม้แต่เรื่องของความรัก เธอก็ยังมีแพรไหมอยู่ข้างๆ คอยให้คำปรึกษาที่ดีเสมอ ตอนนี้เพื่อนรักของเธอมาทำงานที่ต่างจังหวัด ไม่ได้อยู่ข้างๆเหมือนเมื่อก่อน เธอรู้ว่าคนเราเมื่อเรียนจบก็ต้องทำงาน แต่เธอก็ไม่คิดว่าเพื่อนรักคิดที่จะทำงานไกลถึงเชียงรายนี่
พอมีปัญหาจึงอยากจะหลบมาตั้งหลักสักพักให้หายเซ็ง ค่อยกลับไปตั้งหน้าตั้งตาสวมหน้ากากแสนสวยที่ผู้คนในสังคมเมืองชอบใส่กัน และสิ่งที่ฉัตรทิพย์คิดได้ในตอนนี้คือ มาหาแพรไหม
เมื่อมาถึงตัวเมืองเชียงรายแล้ว ฉัตรทิพย์ก็มองหาของกินของใช้ต่างๆ เพื่อที่จะซื้อไปฝากเพื่อน ทั้งตุนให้กับตัวเอง ฉัตรทิพย์คิดว่าหมู่บ้านที่เพื่อนรักอยู่ คงจะกันดารมาก ออกมาในตัวเมืองต้องลำบากแน่ๆ ซื้อตุนไว้เยอะๆคงไม่เสียหายอะไร โชคเข้าข้างเธอเมื่อมองเห็นร้านขายของร้านหนึ่งแถมที่จอดรถก็ยังว่างอีก คิดดังนั้น ฉัตรทิพย์ก็หมุนพวงมาลัยรถ ขับเข้าไปจอดทันที โดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีรถอีกคันที่เลี้ยวเข้ามาจอดยังที่จอดรถที่เธอหมายตาไว้แล้ว เช่นกัน
กว่าเธอจะรู้ตัว รถของเธอก็โดนชนซะแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่เสียหายมาก คิดว่ากันชนหลังคงจะบุบนิดหน่อย แต่สิ่งที่ตามมาคือความโกรธ ก็เจ้าของรถคันที่ชนรถเธอนะสิ พอชนรถเธอแล้ว
แทนที่จะออกมาขอโทษเธอ กลับนั่งสบายอยู่ ในรถซะนี่
“คุณๆ” ฉัตรทิพย์ เคาะกระจกเบาๆ เพื่อนเรียกเจ้าของรถคู่กรณีให้ลงมาคุยกัน
“ ออกมาคุยกันเดี๋ยวนี้นะ” ฉัตรทิพย์ทั้งเคาะและตะโกนเรียกอีก เจ้าของรถคันนั้นถึงจะรู้สึกตัว
ค่อยๆ ลดกระจกลงมาและหันหน้ามาทางเธอ ไอ้หน้าตานี่ก็จัดว่าดูดีทีเดียวผู้ชายคนนี้
ถ้าไม่ติดตรงที่ แววตานิลดำคู่นั้นของเขา มองมายังเธอพร้อมบอกความหมายปางประการ ผู้ชายอะไร สามารถใช้ตาแทนคำพูดได้ และสิ่งที่เขากำลังสื่อสารทางสายตาอยู่ในขณะนี้ก็คือ ดูถูกเธอ ประมาณว่าเธอผิดเต็มประตู ในการชนครั้งนี้ ทำให้ต่อมโมโหของฉัตรทิพย์พุ่งปรี๊ด!
๑๔
“ ลงมาคุยกันเลยดีกว่า รู้สึกว่าคุณจะขับรถมาชนรถของฉัน” ฉัตรทิพย์พยายามปรับสีหน้าแล้วพูดออกไป ชายหนุ่มตรงหน้าทำเพียงแค่มองเธอ และยอมลงมาโดยดี
“ผมว่าเราคงมีอะไรเข้าใจผิดแล้วหละ ดูเหมือนว่าความผิดไม่ได้เกิดจากผม”คนสวย คำนี้เขาต่อให้ในใจ
“ ฉันเนี่ยนะผิด” ฉัตรทิพย์ชี้หน้าตัวเองแล้วถามไปอย่าง งงๆ ก่อนที่จะเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น เดี๋ยวก่อน ไอ้หมอนี่กล้าดียังไง มาว่าเธอผิด ก็เห็นอยู่ว่าเขาขับรถมาชนท้ายรถเธอก่อน อ๋อ คิดจะชิ่ง เห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงต่างถิ่นหละสิ คงได้เงินมาจากวิธีการอย่างนี้มาเยอะแน่ ดูจากการแต่งตัวรึ ก็ดี
ใช้แต่ของแบรนด์เนมซะด้วย ไอ้ของพวกนี้ก็คงจะมาจากความขี้โกงเจ้าเล่ห์ ตลอดที่ผ่านมาแน่ๆ ได้ เล่นกะใครไม่เล่น มาเล่นกะ ฉัตรทิพย์ ผู้ไม่เคยยอมใครอยู่แล้ว ลองดูกันสักตั้งซิ
“ ใช่”
“คุณขับรถปาดหน้ารถผม เพื่อแย่งที่จอดรถที่ผมเห็นก่อน อย่างนี้แล้วคุณคิดว่าใครหละที่ผิด” เสือ กล่าวอย่างกวนๆ ไม่รู้เป็นไงเขาอยากจะกวนผู้หญิงตรงหน้านี้ โดยเฉพาะดวงตาเม็ดลำไยกลมๆคู่นั้น เขาชอบตรงมันไหวระริก บ่งบอกถึงอารมณ์ผู้เป็นเจ้าของ
“ฉันนี่นะขับรถปาดหน้าคุณ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ไอ้ที่จอดรถนี่ ฉันก็เห็นก่อน และก็ไม่เห็นมีใครเขียนป้ายติดไว้ว่าจอง อย่ามามั่วนิ่ม คิดจะเรียกร้องขอค่าเสียหายแพงๆ ก็บอกมา
ทำเป็นลีลายักแย่ยักยัน แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่า บาทเดียวฉันก็ไม่ให้ เรียกประกันคุณมาเลย แค่นี้ฉันก็เสียเวลาจะแย่อยู่แล้ว” ฉัตรทิพย์กล่าวด้วยความโมโห ถ้าเขาพูดดีสักนิด และไม่ใช้สายตาที่กวนอวัยวะเบื้องล่างของเธอมากนัก ฉัตรทิพย์อาจจะพูดดีๆ ก็ได้ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายถูก และใครเป็นฝ่ายผิด รถของเธออยู่เลนซ้าย เขาอยู่เลนขวา และที่จอดรถก็อยู่ฝั่งขวา
เธอผิดเต็มประตู แต่ด้วยความที่เป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมาตลอด เรื่องอะไรจะยอมรับเล่า โวยวายเอาไว้หละเป็นดี
เสือเกือบจะหัวเราะออกมา กับท่าทางของผู้หญิงสวยตรงหน้านี้ เธอพูดเองเออเอง
จบกระบวน สรุปสุดท้ายดันมากล่าวหาว่าเขาเองต่างหากที่ผิด ไอ้ความจริงนี่เขาว่าจะยอมตั้งแต่เห็นหน้าหวานๆ ริมฝีปากบางอมชมพู นั่นแล้ว แต่เปลี่ยนใจกะทันหัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เขากลับอยากเห็นใบหน้าหวานๆ โมโหอยู่อย่างนี้แหละ ชอบแฮะ
“ ไอ้ใบขับขี่ที่ได้มานี่ ซื้อมารึเปล่า คุณหนะ ก็เห็นอยู่ว่าผมมาทางถูก คุณนั่นแหละไม่มองเองว่ามีรถจะเข้ามาจอด ก็อย่างว่าแหละ ผู้หญิงขับก็เงี้ยะ เงอะหงะ”
“ ฮ้าย! อีตาบ้า ! กล้าดียังไง มาว่าฉัน คุณสิซื้อใบขับขี่มา และเป็นผู้หญิงนะยังไง ผู้หญิงขับรถมันเป็นอย่างไง” ฉัตรทิพย์โมโหสุดๆ อีตาบ้านี่กล้าดียังไงมาว่าเธอ ควันออกหูแล้วโว๊ย!
ยิ่งโมโหๆ มาจากกรุงเทพฯอยู่ ไม่สงไม่สนแล้ว
๑๕
“พลึก!” เข้าจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ฮ่า ฮ่า สะใจแม่จริงจิ้ง....ฉัตรทิพย์หัวเราะอย่างมีความสุข
ว่าใครไม่ว่า ดั้นมาว่าเธอ เรื่องอะไรจะยอม ก่อนรีบเดินขึ้นรถแล้วขับออกไปเหมือนไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
“ โอ๊ย!” เสือ น้ำตาแทบเล็ด เจ็บสุดๆ ก่อนค่อยๆเอามือจับน้องชายสุดที่รักของเขา จะใช้การได้อีกหรือเปล่านี่ หนอย! ยัยตัวแสบ พูดอะไรไม่ออก มันจุกไปหมด ได้แต่มองคนสวยตัวแสบที่หัวเราะร่อน ประมาณสะใจสุดๆ ก่อนที่จะปิดประตูขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เขา
เจ็บจนหน้าเขียวอยู่ตรงนี้
“ อ้าว! คุณ ......คุณ ดะ... เดี๋ยวก่อน ปัดโธ่โว๊ย! ไปชะแล้ว ฝากไว้ก่อนเถอะแสบนักนะ
คราวหน้าอย่าให้เจอเชียว พ่อจะจับปิดปากงามๆไม่ให้เถียงได้สักแอะเลย คอยดู้!” ชายหนุ่มพูดด้วยความโมโห ก่อนจะพาร่างกายที่ยังไม่ค่อยเต็มร้อยเข้าไปนั่นในรถ เจ็บใจก็เจ็บใจ เจ็บตัวก็เจ็บตัว ขำก็ขำ ถ้าบรรดาไอ้เพื่อนชั่วทั้งหลายรู้ว่าเขา เจ้าของฉายา เสือนักล่า ตอนนี้กลายมาเป็น
เสือสิ้นลายไม่สิ้นลายเปล่าแถมลูกชายสุดที่รักยังระบมใช้การไม่ได้อีกหลายวัน ไม่รู้พวกมันจะทำหน้ายังไง มาเชียงรายคราวนี้เห็นทีจะไม่เสียเที่ยวเปล่า ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่า จะเจอเรื่องสนุกๆแน่ๆนี่แค่เริ่มต้นตัวเมืองเองนะ เขายังเจอดีเข้า ไม่รู้ว่าพอไปอยู่ในไร่ของไอ้เพื่อนไพรแล้วจะมีอะไรสนุกๆรอเขาอยู่อีกหรือเปล่า คิดแล้วก็ค่อยๆขับรถมุ่งตรงไปยังไร่ของเพื่อนรัก
ขณะที่ชายหนุ่มเจ้าของฉายาเสือนักล่า กำลังขับรถมุ่งตรงไปยังไร่ของเพื่อนรัก หญิงสาวคู่กรณีสดๆร้อนๆ ก็ขับรถมุ่งตรงไปยังจุดหมายปลายทางบ้านพักของเพื่อนรักเธอเช่นกัน ผิดตรงที่เขาไปหาพ่อเลี้ยงเจ้าของไร่ส้ม แต่เธอไปหาเพื่อนรักที่ทำงานเป็นครูอยู่หมู่บ้านทับด่านตามแผนที่ที่เพื่อนได้ให้ไว้ ฉัตรทิพย์บ่นไปตลอดทางว่า ขออย่างให้ได้เจอกับอีตาหน้าหยกบ้า เมื่อสักครู่นี้ทีเถอะ แต่ว่าทฤษฎีโลกกลมคงใช้ได้กับคู่นี้






บุพลิขิต
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.ย. 2554, 10:40:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ย. 2554, 10:40:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 1300





<< ตอน ที่ ๒   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account