เพียงใจเสน่าหา โดย ภคพร (วางแผงแล้ว)
เมื่อเทพบุตรในฝันมายืนอยู่ตรงหน้ามีหรือคนอย่างแป้งร่ำจะปล่อยให้หลุดมือ ปฏิบัติการล่ารักฉบับพลีชีพจึงเกิดขึ้น แต่เอ๊ะยังไง นานๆไปเทพบุตรในฝันกลับกลายร่าง รู้ตัวอีกทีเธอก็เป็น "เป็ดน้อยในมือซาตานไปแล้ว"

เรื่องนี้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ไลต์ออฟเลิฟค่ะ เป็นภาคต่อของมธุรัตน์เสน่หา สามารถสั่งซื้อได้ในราคาลด 15% ได้ที่เว็บนี้นะคะ
http://www.lightoflovebooks.com/

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ

Tags: โรแมนติก คอเมดี้ นางเอกรั่วๆ นางเป็นเภสัชกร พระเอกเป็นจิตแพทย์

ตอน: บทที่ 13 เรียกพี่สิครับ

บทที่ 13 เรียกพี่สิครับ

พัลลภล้มลงมาทับณัฐมลแล้วแกล้งทำเป็นหลับอยู่พักใหญ่ เขารอให้หญิงสาวหมดแรงตะเกียกตะกายดิ้นหนี แล้วจึงค่อยปล่อยเหยื่อให้เป็นอิสระ วิธีการปล่อยก็สุดแสนจะแนบเนียน ชายหนุ่มพลิกตัวออกมาเหมือนเปลี่ยนท่านอน พอหญิงสาวขยับหนีออกไปจากตัวเขาแล้วจึงค่อยงัวเงียตื่นขึ้นมา

“ตกเตียงอีกแล้วเหรอเนี่ย” ชายหนุ่มพึมพำแล้วเปิดปากหาว ก่อนจะส่งยิ้มเก้อๆ ไปให้ณัฐมล เหมือนเพิ่งรับรู้การมีตัวตนของหญิงสาว

“น่าอายจัง ผมเป็นคนนอนดิ้นน่ะครับ”

“ไม่ใช่แค่นอนดิ้นนะคะ ตื่นยากมากๆ ด้วย แป้งตะโกนเรียกจนแสบคอคุณก็ไม่ได้ยิน” ณัฐมลตำหนิเสียงเข้ม เธอเกือบจะแบนตายเพราะเขาแล้ว

หญิงสาวเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง แล้วจ้องมองชายหนุ่มด้วยสายตาจับโกหก เธอไม่คิดหรอกว่าจะมีมนุษย์ที่ตื่นยากได้ขนาดนี้ น่าจะถูกเขาแกล้งเอาเสียมากกว่า

“ขอโทษจริงๆ ครับ สงสัยเป็นเพราะยาเลยหลับสนิท อย่าโกรธผมเลยนะครับ” ชายหนุ่มพูดเสียงนุ่มชวนเคลิ้ม พอบวกสายตาวิงวอนของเทพบุตรไปอีกหนึ่งชุด มีหรือคนใจอ่อนจะเคืองได้ลง

ใบหน้าขึงขังคลายลงในทันตา แล้วหญิงสาวก็เปลี่ยนประเด็นไปที่เรื่องอื่นแทน

“ฉันไม่ได้โกรธหรอกค่ะ ที่ปลุกเพราะมาตามไปกินข้าว อ๊ะ! เกือบลืมเลยว่ามียาก่อนอาหาร รอก่อนนะคะเดี๋ยวฉันไปหยิบให้”

ณัฐมลผลุบหายไปบริเวณเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม สักอึดใจก็กลับมาพร้อมยากับน้ำดื่ม

“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มรับยาจากตลับสีสันสดใสมากิน

ตลับอันนี้ณัฐมลเตรียมเอาไว้ให้พัลลภโดยเฉพาะ เธอเห็นว่ามือเขาเจ็บให้แกะยาจากซองเองคงลำบาก ก็เลยจัดยาเอาไว้ให้ล่วงหน้าเพื่อความสะดวก

พัลลภเพิ่งกินยาก่อนอาหารเข้าไปต้องรออีกสักพักถึงจะกินข้าวได้ หญิงสาวเลยยกอาหารที่เตรียมไว้ที่โต๊ะไปอุ่น เพื่อที่เขาจะได้กินอาหารร้อนๆ

ณัฐมลมองสิ่งที่ทำให้เป็นเรื่องเล็กน้อย เธอไม่รู้หรอกว่าความใส่ใจของตัวเองกำลังทำให้ชายหนุ่มใจอ่อนแบบไม่รู้ตัว ถึงพัลลภจะไม่ชอบให้ใครมาดูแล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ชอบการเอาใจใส่ ภาพหญิงสาวกุลีกุจอทำนั่นทำนี่ให้ชวนให้นึกถึงตอนที่มารดายังมีชีวิตอยู่

ตอนแม่ยังแข็งแรงดี ครอบครัวเขาเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีคุณตาคุณยาย มีพ่อกับแม่แล้วก็ลูกอีกสี่คน บ้านก็เลยครึกครื้นเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกทั้งวัน แต่พอแม่ตายทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไป

เริ่มจากคุณตาเริ่มป่วยเพราะสะเทือนใจกับการจากไปของลูกสาว ท่านป่วยเป็นโรคหัวใจมานานแล้วก็เลยอยากจะกลับไปตายที่บ้านเกิด จึงย้ายกลับไปอัมพวาทันทีหลังจากที่เสร็จงานศพ พ่อต้องเดินทางบ่อยๆ เพราะงาน พอไม่มีผู้ใหญ่อยู่บ้าน พศวีร์กับพิมลตราก็เลยต้องไปอยู่โรงเรียนประจำ อีกไม่กี่ปีต่อมาเขากับพัลลภก็ย้ายไปอยู่หอพักของมหาวิทยาลัย พอพ่อกลับมาก็อยู่คอนโดมิเนียมใกล้ที่ทำงานเสียเป็นส่วนใหญ่ บ้านหลังนี้ก็เลยต้องปิดเอาไว้

ช่วงเวลาแห่งความเศร้าจากการสูญเสียผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทุกคนจำต้องห่างจากบ้านที่มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่ไปทีละน้อย กว่าจะรู้ตัว ครอบครัวก็กระจัดกระจายไปคนละทิศละทางแล้ว พอเรียนจบมีงานทำ พัลลภก็เลยตัดสินใจซ่อมแซมบ้านหลังนี้ ตั้งใจเอาไว้ว่าจะให้เป็นศูนย์รวมของครอบครัวเวลาพบปะสังสรรค์กัน อย่างน้อยเวลาที่น้องๆ มีปัญหาก็จะได้มาหาเขาที่นี่ได้ตลอด

แปลกเหมือนกันที่ยิ่งมองณัฐมลเขาก็ยิ่งคิดถึงแม่ ทั้งที่ทั้งสองคนไม่มีส่วนคล้ายกันเลย แม่เป็นคนรูปร่างระหงสูงเพรียว ถนัดยิ้มมากกว่าจะพูด ทำอะไรนิ่มนวลน่ามอง พอเทียบกันแล้วณัฐมลก็กลายเป็นยายจิ๋วจอมวุ่นวายไปเลย คิดได้อย่างนี้พัลลภก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเขย่งเท้าเพื่อหยิบกล่องกระดาษที่อยู่สูงเลยหัว พอหยิบมาได้เธอก็ยิ้มกว้างกับตัวเองเหมือนกับว่าภูมิใจหนักหนา ชวนให้เอ็นดูขึ้นมา

ชายหนุ่มยืนมองจนกระทั่งหญิงสาวยกอาหารไปอุ่นในครัว เขาจึงเดินตามไปช่วยงาน พออุ่นอาหารกับจัดโต๊ะเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาที่สองหนุ่มสาวจะมานั่งรับประทานอาหารด้วยกัน

ณัฐมลทำทั้งโรสบีฟซอสครีมแล้วก็อูกราแตง ความที่ไม่มั่นใจว่าจะอร่อยหรือเปล่า หญิงสาวก็เลยทำสลัดไข่มาเผื่อเอาไว้ด้วย

“ถ้าไม่อร่อยก็ไม่ต้องฝืนนะคะ” ณัฐมลเกริ่นทันทีที่เขานั่งลงที่โต๊ะ

พัลลภลองตักเข้าปากคำเล็กๆ ก่อน รสชาติของมันอร่อยเกินคาด ถ้าปรับรสอีกหน่อยรับรองว่าทำอร่อยกว่าเขาแน่

“อร่อยครับ คุณทำอาหารเก่งจริงๆ”

ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเธอไม่เคยทำ เขาคงคิดไปแล้วว่าหญิงสาวทำกินเป็นประจำ

“อร่อยแน่นะคะ”

“แน่นอนครับ รสกำลังดีเลย” ชายหนุ่มยืนยันคำพูดด้วยการตักอาหารเข้าปากคำโตทำคนทำยิ้มปลื้มจนตาหยี

กินเสร็จณัฐมลก็เก็บล้างจานกับอุปกรณ์ประกอบอาหารเองทั้งหมด เธอสั่งห้ามคนเจ็บเสียงแข็งไม่ให้เข้ามาช่วยอย่างเด็ดขาด เห็นเธอทำหน้าขึงขังพัลลภก็เลยได้รู้ว่าคนที่เหมือนยอมตามใจเขาทุกอย่าง บทจะรั้นขึ้นมาก็ดื้อใช่ย่อย ชายหนุ่มก็เลยต้องยอมให้ลงบ้าง

พอล้างจานเสร็จแทนที่จะพักหญิงสาวกลับไม่ยอมหยุดมือ เธอช่วยปอกผลไม้แช่เย็นเอาไว้ให้เขากล่องใหญ่ แถมยังช่วยจัดของเยี่ยมที่ได้จากโรงพยาบาลให้เป็นระเบียบ ถ้าไม่ห้ามไว้ว่ามีแม่บ้านมาทำงานบ้านให้ เธอคงซักรีดเสื้อผ้ากับทำความสะอาดบ้านไปแล้ว

“พักหน่อยเถอะครับ ตั้งแต่มาคุณยังไม่ได้หยุดมือเลย” พัลลภไม่เตือนเปล่าแต่ใช้สายตาบังคับทางอ้อมให้มานั่งข้างๆ เขา ณัฐมลเลยจำต้องมาอย่างเลี่ยงเสียไม่ได้

“ฉันยุ่งเกินไปสินะคะ ขอโทษค่ะ” หญิงสาวพูดเสียงอ่อยเมื่อรู้สึกได้ว่าเขาเริ่มไม่พอใจ

“ไม่จำเป็นต้องขอโทษครับ คุณไม่ได้ทำอะไรผิด ผมแค่ไม่อยากให้คุณลำบาก ถ้าให้พูดตามตรงก็คือผมไม่ชอบให้ใครมาดูแลมากไป”

คำพูดตรงไปตรงมาของชายหนุ่มทำให้คนฟังหน้าสลด ณัฐมลดูไม่ออกเลยว่าพัลลภกำลังคิดอะไรอยู่ บางครั้งเขาก็ทำท่าเหมือนกับว่ามีใจให้ แต่พอจะรุกเข้าไปเขากลับเป็นฝ่ายถอยห่าง มันทำให้เธอสับสนเหมือนกับกำลังลงทางอยู่ในเขาวงกต ที่วันนี้เธอวิ่งไปวิ่งมาทำนั่นทำนี่ไม่หยุด ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่รู้ว่าควรจะวางตัวอย่างไรเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองกับเขา

พัลลภรู้สึกสงสารเมื่อเห็นว่าสีหน้าของณัฐมลเจื่อนลงไปมาก แต่ก็ไม่คิดจะพูดอะไรให้บรรยากาศดีขึ้น เขาตัดสินใจแล้วว่าจะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาให้เธอเห็น จะได้รู้กันไปเลยว่าเธอยังจะชอบเขาอยู่หรือไม่

ชายหนุ่มไม่ได้ชอบหญิงสาวขนาดที่อยากคบหาด้วย เขาแค่รู้สึกสนใจเธอมากกว่าผู้หญิงคนอื่นนิดหน่อยเท่านั้น และเจ้าความสนใจเล็กๆ นี้ก็ดลใจให้เขายอมเปิดรับเธอเข้ามา

ที่แกล้งบอกว่าลืมเรื่องของณัฐมลไปหมดก็เพราะต้องการบอกให้รู้ว่า จิตแพทย์กับคนไข้ไม่มีทางรักกันได้ แต่ในเมื่อเธอชอบเขาเสียขนาดนั้น เขาก็จะให้โอกาสเธอโดยการลบความสัมพันธ์เดิมทิ้งไป แล้วเปลี่ยนให้กลายเป็นคนธรรมดาสองคนที่บังเอิญมาเจอกันเพราะโชคชะตาแทน ต่อจากนั้นก็แล้วแต่ว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไร จะทำให้เขารักหรือว่าจะเดินจากไปเมื่อค้นพบว่าเขาไม่ใช่คนในฝัน

ณัฐมลก้มหน้าแล้วเงียบไปนาน จนพัลลภคิดไปว่าคะแนนบวกในใจคงถูกลบไปจนเกลี้ยง แต่แล้วหญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาด้วยแววตาที่มุ่งมั่น

“ถ้าอย่างนั้นฉันขอคำขอโทษคืนนะคะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณลำบากใจอย่างเด็ดขาด แต่คุณต้องบอกฉันว่าฉันทำอะไรได้แค่ไหน”

พัลลภตกใจไม่น้อยที่หญิงสาวพูดกับเขาอย่างตรงไปตรงมา เธอเป็นคนที่คาดเดาง่ายแต่ก็ยังสู้อุตส่าห์มีอะไรมาให้แปลกใจเสมอ เพราะอย่างนี้กระมังเขาถึงได้รู้สึกชอบเธอเป็นพิเศษ

“ตกลงครับ แล้วผมจะบอกคุณ คุณเองก็เหมือนกันนะครับ ถ้าผมทำอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจก็พูดออกมาได้”

“ตกลงค่ะ” ณัฐมลยื่นมือไปให้จับเมื่อทำสัญญา

หญิงสาวเขย่ามือไปมาแล้วยิ้มกว้างที่ได้จับมือกับเทพบุตรในฝัน เธอรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังขยับเข้าใกล้หัวใจของพัลลภเข้าไปอีกนิดหนึ่งแล้ว ถึงแม้มันจะเป็นก้าวเล็กๆ ก็ตาม


ตั้งแต่พัลลภกลับมาพักรักษาตัวที่บ้าน ณัฐมลก็แวะมาหาชายหนุ่มทุกหลังเลิกงานและกลับบ้านตอนหัวค่ำ ในช่วงเวลารอยต่อระหว่างก่อนกลับบ้านมักจะมีการโต้แย้งเล็กๆ เกิดขึ้นเสมอ สาเหตุเกิดจากแขกไม่ยอมกลับไปโดยง่าย ถ้าเจ้าของบ้านไม่ออกปากไล่ ณัฐมลก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่ต่อเสียอย่างนั้น

ส่วนใหญ่พัลลภมักจะจัดการให้หญิงสาวกลับหลังจากกินของหวานเสร็จแล้ว วันนี้ณัฐมลเลยเปลี่ยนจากผลไม้เป็นไอศกรีมแทน หญิงสาวตักไอศกรีมรสมะนาวใส่ถ้วย แล้วชวนพัลลภมานั่งดูโทรทัศน์ไปพลางกินของหวานไปพลาง

ชายหนุ่มกินของหวานส่วนของตัวเองหมดไปตั้งแต่สิบนาทีแรก ทว่าหันไปทางณัฐมลกี่ทีไอศกรีมในถ้วยของหญิงสาวก็ไม่พร่องไปเลย ทั้งที่เจ้าตัวก็ตักเข้าปากเป็นระยะ เห็นแล้วก็นับถือความสามารถในการเล็มของเจ้าหล่อนไม่ได้ ตักมาแค่ก้อนเดียวแต่นั่งกินมาชั่วโมงเศษแล้วยังไม่หมดเสียที

“สามทุ่มแล้วนะครับ คุณรีบกลับดีกว่า ผู้หญิงขับรถคนเดียวกลางค่ำกลางคืนมันอันตราย” พัลลภเตือนด้วยความเป็นห่วง

เขายอมรับว่าในช่วงแรกเขามักจะรีบไล่ให้เธอกลับ เพราะไม่สะดวกใจเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง แต่พอหลายวันเข้าเขาก็เริ่มปรับตัวยอมรับการมีเธอเข้ามาอยู่ในชีวิตได้ ชายหนุ่มไม่นึกอยากไล่ให้หญิงสาวรีบกลับเหมือนที่ผ่านมา เขาเลยเพิ่มเวลาของหวานเข้าไปให้ เธอจะได้อยู่นานขึ้นแต่ก็ต้องไม่เกินสามทุ่ม เพราะเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ

“อีกแป๊บนะคะ กินไอติมหมดเมื่อไร ฉันไปเมื่อนั้นแหละค่ะ”

ฟังดูแล้วก็เหมือนจะยอมกลับอย่างว่าง่าย แต่ดูจากสีหน้าท่าทางแล้วบอกได้เลยว่า ‘ยาก’ หญิงสาวยังคงเล็มไอศกรีมต่อไปอย่างอ้อยอิ่ง ขืนเป็นอย่างนี้ต่อให้ห้าทุ่มก็ยังกินไม่หมด

พัลลภเลยทำหน้าขรึมใส่เหมือนจะไม่พอใจ ปกติณัฐมลจะรีบเก็บของกลับบ้านทันทีเพราะกลัวเขาโกรธ แต่ตอนนี้เริ่มจะรู้นิสัยใจคอกันบ้างแล้วจึงยังทำไม่รู้ไม่ชี้อยู่ต่อได้ หญิงสาวนึกอยากจะเอาคืนบ้างเพราะถูกเขาแกล้งมาตลอดอาทิตย์

“กลับดึกมันอันตรายนะครับ ผมเป็นห่วง”

เมื่อลูกขรึมไม่ได้ผลก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นลูกอ้อน ณัฐมลใจกระตุกไปวูบหนึ่ง แต่อย่าหวังเลยว่าลูกไม้เดิมๆ จะใช้ได้ผลกับเธอ

ตอนนี้ภูมิต้านทานของแป้งร่ำแข็งแกร่งแล้วนะขอบอก

“รับทราบค่ะ ไอติมหมดก็จะกลับทันทีเลย”

พัลลภมองอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้เมื่อเห็นว่ายังดื้อแพ่ง เขาใจดีด้วยหน่อยเลยชักเหลิงใหญ่ ‘อย่างนี้ต้องจัดการ’

“ไอติมหมดถ้วยนี้แล้วจะกลับแน่นะครับ”

“ค่ะ แน่นอน ถ้ากินหมดแบบไม่ถูกใครแย่งหรือทำหกนะคะ” หญิงสาวพูดกันเอาไว้ ก่อนจะฉีกยิ้มให้อย่างเป็นต่อ

พัลลภรับปากเหมือนจะยอมตามใจ ทว่าที่จริงจอมเจ้าเล่ห์กว่ามีแผนการเตรียมเอาไว้อยู่แล้ว ชายหนุ่มหรี่เสียงโทรทัศน์แล้วหันมาคุยกับณัฐมลด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ผมว่าเราก็สนิทกันพอสมควรแล้ว เรียกคุณกับผมมันดูเหินห่างยังไงชอบกล เปลี่ยนเป็นพี่พันกับน้องแป้งดีไหมครับ เอ...หรือจะเป็น แป้งเฉยๆ แต่แป้งร่ำก็น่ารักดี ว่าไงครับคนดี อยากให้พี่เรียกแบบไหนเอ่ย”

การจู่โจมกะทันหันทำเอาตกใจจนช้อนเกือบหล่นจากมือ ดวงตาเขาเป็นประกายระยับจนใจสั่น แล้วปากมันก็ขยับไปก่อนความคิดในทันที

“แล้วแต่เลยค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นพี่เรียกแป้งนะครับ แป้งก็เรียกพี่ว่าพี่พันด้วยสิ”

ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าแต่ยังโน้มตัวมาใกล้ด้วย สติสัมปชัญญะของณัฐมลเลยได้ปลิวหายกระจุยกระจายไปหมด

“เรียกว่าพี่พันสิครับ” พัลลภโจมตีด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอีกครั้ง

“พะ...พี่พัน” ณัฐมลพูดด้วยอาการตาลอยเหมือนคนถูกสะกดจิต

พอเหยื่อติดกับ ชายหนุ่มก็จัดการทำให้เคลิ้มอีกขั้นด้วยคำชม

“ดีมากครับแป้ง น่ารักที่สุดเลย” พัลลภขยับเข้ามาใกล้ แล้วยกมือขึ้นโอบไหล่หญิงสาว “แป้งครับ พี่ขออะไรแป้งอย่างหนึ่งได้ไหม”

“อะ...ไรคะ” หญิงสาวตอบด้วยเสียงเบาโหวง ตอนนี้ความสนใจของเธอถูกดึงไปที่ฝ่ามือที่วางอยู่บนไหล่

‘พี่หมอจะทำอะไรแป้งน่ะ กรี๊ดดด!...อย่านะ แป้งยังไม่พร้อม’

ถึงใจจะแอบต่อต้านแต่พอเขาออดอ้อนปากมันก็ขยับพูดว่า ‘ค่ะ’ ไปแบบไม่รู้ตัว แล้ววินาทีต่อมามือของพัลลภก็เลื่อนออกจากไหล่ของเธอไปคว้าถ้วยไอศกรีม แล้วจัดการเอาทุกอย่างเข้าปากหมดเกลี้ยง ไม่เหลือแม้แต่ส่วนที่ละลายเป็นน้ำไปแล้ว

“ไม่ได้แย่งนะครับ แป้งยกให้พี่เอง” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างชั่วร้าย

ณัฐมลอ้าปากจะประท้วงแต่พูดอะไรไม่ออก เมื่อหันไปเห็นว่าเขากำลังกดปุ่มรีโมทเปิดประตูรั้ว จากนั้นก็ยื่นกระเป๋าถือมาให้เธอด้วยสีหน้าที่บอกว่าสะใจสุดขีด

“กลับก็ได้ค่ะ”

หญิงสาวทำปากยื่นแล้วสะบัดหน้าเดินออกมา พลางทำปากขมุบขมิบบ่นคนเจ้าเล่ห์ เธอไม่เคยตามเล่ห์เหลี่ยมเขาได้ทันเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยทำใจโกรธเขาลงเลยสักที

“ขับรถกลับดีๆ นะครับ” ชายหนุ่มยิ้มเยาะคนที่ริอาจมาทำตัวแผนสูงกับเขา

‘บอกแล้วไงว่าให้เรียกพี่ คิดจะเอาชนะคนอย่างพัลลภ มันยังเร็วไปสิบปีนะหนู’



นิชาภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ย. 2554, 23:44:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 มี.ค. 2555, 20:46:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 2985





<< บทที่ 12 เทพบุตรหล่นทับ   บทที่ 14 จับกด >>
Auuuu 21 ก.ย. 2554, 00:21:38 น.
เอิ๊กๆๆ คุณหมอขี้แกล้งสุดๆ


Pat 21 ก.ย. 2554, 00:22:43 น.
5555555 ร้ายใช่เล่นนะเนี่ยพี่หมอ แกล้งยัยแป้งได้เนียนซะ แอบคิดอะไร อะไรกะยัยแป้งอยู่รึเปล่า ?


ชอบอ่าน 21 ก.ย. 2554, 00:31:25 น.
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ลูกกวาดสีส้ม 21 ก.ย. 2554, 00:43:24 น.
โห...พี่หมอ เนียนซะ


เพลา 21 ก.ย. 2554, 00:50:59 น.
อ๊ายๆๆๆ ร้ายอ่ะพี่หมอ หนูแป้งสู้ๆ


ปรางขวัญ 21 ก.ย. 2554, 01:22:39 น.
555 พี่หมอเนียนมาก แกล้งจริงจังมากแต่แอบคิดอะไรกับแป้งร่ำอยู่รึเปล่าคะ

อ่านตอนนี้แล้วหายง่วงเลยคะ มานั่งยิ้มก่อนนอน


หมูอ้วน 21 ก.ย. 2554, 06:17:09 น.
เอ๋คุณหมอเริ่มชอบหนูแป้งหรือยังค่ะ


ปอกะเจา 21 ก.ย. 2554, 07:51:47 น.
พี่หมอร้ายนะคะเนี่ย 555


noojee 21 ก.ย. 2554, 09:01:29 น.
โถๆๆ หนูแป้ง พี่หมอร้ายอะ ซื่อๆอย่างแป้งจะทันได้ไงเนี่ย


แล่นแต๊ 21 ก.ย. 2554, 09:33:30 น.
555 ยายแป้งโดนแกล้ง


nunoi 21 ก.ย. 2554, 09:53:42 น.
โห พี่หมอ ร้ายได้แนบเนียนมากกก เริ่มสงสารหนูแป้ง ซะแล้วซิ


Zephyr 21 ก.ย. 2554, 11:46:30 น.
พี่หมอร้ายหลบซ่อนอ่ะ แถมยังเนียนได้อีก แหล้งมากไประวังหวั่นไหวเองนะ หุหุ แต่เอาเลยพี่หมอ เอาใจช่วย แกล้งยายแป้งเยอะๆเลย ถอนทุนคืนจากที่โดนโรคจิตใส่ก่อน ฮ่าๆๆ เสร็จแน่ยายแป้งรั่ว เอิ่ม ประโยคนี้ ..เรื่องแค่นี้เอง...มันลงน่าจะลงท้ายว่านะคะมากกว่ามั้ยคะเพราะแป้งพูดนี่นา ไม่ใช่พี่หมอ


ameerahTaec 21 ก.ย. 2554, 12:59:41 น.
พี่หมอร้ายจริง อิอิ อยากโดนแกล้งบ้าง


anOO 21 ก.ย. 2554, 13:19:09 น.
เจ้าเล่ห์ใช่ย่อยนะค่ะ พี่หมอ


kraten 21 ก.ย. 2554, 15:49:52 น.
ทายไม่ถูกแต่หวย...


ปูจ้า 21 ก.ย. 2554, 17:28:32 น.
น่ารักจัง เจ้าเล่ห์พอกัน


picky 22 ก.ย. 2554, 00:50:50 น.
แกล้งได้แกล้งไป เจอแป้งรั่วใส่แล้วจะหนาว โฮะ โฮะ โฮะ


kaze 23 ก.ย. 2554, 03:05:24 น.
ความหมายตรงตัวมากค่ะ "หล่นทับ" 5555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account