บ่วงรักทาสเสน่หา *สนพ.แสนรัก*
เขาที่ช้ำรักเพราะถูกคนรักทิ้ง แต่เขาก็พร้อมเสมอที่จะเปิดใจรับรักใหม่
เธอคนที่ปิดประตูลงกลอนหัวใจเอาไว้อย่างแน่นหนา เพราะได้เห็นและเรียนรู้จากชีวิตคู่ของคนในครอบครัวว่าผู้ชายทุกคนเจ้าชู้ ดีแต่ทรยศหักหลังผู้หญิงที่รักตนสุดหัวใจ
ดังนั้นถึงแม้จะรักเขาสักปานใด เธอก็ยังไม่กล้าที่จะเปิดใจรับ และไม่กล้าพอที่เผชิญกับความเจ็บปวด ที่อาจจะพบในอนาคตข้างหน้า

Tags: พ่อม่าย, พี่เลี้ยง, เด็กแฝด

ตอน: ตอนที่ 3 : รีน่านีน่าเด็กหญิงแสนซน (แสบ)

ตอนที่ 3

รีน่านีน่าเด็กหญิงแสนซน (แสบ)

เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!

เสียงของบางอย่างหล่นลงกระทบพื้นจนแตก ดังมาจากห้องครัวทำให้นางนารี แม่บ้านวัย 60 ปี ที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบน รีบพาร่างท้วมของตัวเองวิ่งไปยังต้นเสียง และเมื่อไปถึงเด็กผู้หญิงสองคน หน้าตาหน้ารัก ผมดำแก้มป่องที่เหมือนกันเปี๊ยบ ตั้งแต่ใบหน้ายันการแต่งตัว ก็วิ่งสวนออกมา เมื่อเห็นสองแสบนางนารีแทบไม่ต้องโผล่หน้าไปดู ก็พอรู้ว่าสภาพห้องครัวมันจะเป็นอย่างไร เดาได้เลยว่าเละเทะ

“คุณหนูรีน่า คุณหนูนีน่า จะไปไหน หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ!”

เสียงสั่งอย่างมีอำนาจของแม่บ้านเก่าแก่ ทำให้เด็กทั้งสองที่มีความรักความเคารพต่อนางนารีอยู่ไม่น้อยหยุดกึก

“บอกป้ามานะคะว่าใครเป็นคนทำ”

นางชี้เข้าไปในห้องครัว ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเศษกระเบื้องและเศษแก้วเกลื่อนพื้น เห็นสภาพแล้ว คนเล่นซนไม่ได้รับบาดแผลก็นับว่าบุญแล้ว

“รีน่าค่ะ / นี่น่าค่ะ”

เด็กหญิงนิพาดา คันธารัตน์ หรือรีน่าแฝดผู้พี่ และเด็กหญิงนิภาธร คันธารัตน์ หรือนีน่าแฝดผู้น้อง ต่างก็โยนความผิดให้กัน และเมื่อเป็นอย่างนั้นก็เกิดการแตกคอกันเอง

“พี่รีน่านั่นแหละทำ นีน่าเห็นกับตาเลยนะคะป้ารี ว่าพี่รีน่านะเอาจานมาร่อน แล้วบอกนีน่าว่าเป็นจานบินของมนุษย์ต่างดาว”

เด็กหญิงนีน่าตั้งหน้าตั้งตาฟ้อง ผละจากผู้เป็นพี่วิ่งเข้าไปเกาะแขนแม่บ้านร่างท้วมพลางเงยหน้าขึ้นมองนางด้วยสายตาออดอ้อน

“แต่รีน่าก็เห็นนีน่าปีนขึ้นไปหยิบเอาแก้ว แล้วโยนลงพื้นนะคะป้ารี นีน่าบอกว่ามีจานร่อนก็ต้องมีแก้วร่อนได้เหมือนกัน”

แฝดผู้พี่ฟ้องบ้าง และก็ไม่ต่างกัน ร่างป้อมวิ่งเข้าไปเกาะแขนอีกข้างนางนารีอย่างออดอ้อน และก็เข้าอีกหรอบเดิม แม่บ้านสูงวัยที่เลี้ยงดูคุณหนูทั้งสองมาด้วยความรักเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่แบเบาะ โดนแบบนี้เข้ามีหรือจะโกรธลง

“ฟังป้านะคะ คุณหนูทั้งสองเล่นอย่างนี้นอกจากข้าวของจะเสียหายแล้วยังอาจจะเกิดอันตรายกับตัวเองได้นะคะ เศษแก้วเศษกระเบื้องบาดขึ้นมาจะทำยังไง นอกจากจะเจ็บตัวแล้วดีไม่ดีอาจจะโดนคุณพ่อทำโทษด้วยนะคะ”

นางยกคุณพ่อยังหนุ่มอย่างนิธิภัทรขึ้นมาขู่ และก็ได้ผลเด็กแฝดทั้งสองทำหน้าตื่น ต่างพูดขอร้องคุณแม่บ้านผู้ใจดีแข่งกันเสียงรัว อย่างเกรงกลัวผู้เป็นพ่อ

“ป้าอย่างฟ้องพ่อนะคะ รีน่าสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว ไม่ดื้อ ไม่ซนด้วยนะคะ”

“ใช่ค่ะ นีน่าก็จะเป็นเด็กดีเหมือนกัน”

นางนารีเปิดยิ้มให้เด็กทั้งสองอย่างอบอุ่น ก่อนจะทรุดตัวนั่งทับส้นบนพื้น แล้วรวบร่างป้อมทั้งสองเข้ามากอดเอาไว้

“ถ้าอย่างนั้นระหว่างที่ป้ากำลังทำความสะอาดเก็บกวาดห้องครัวอยู่ คุณหนูจะเล่นขายของหรือวาดภาพระบายสีอะไรก็ได้ แต่ห้ามดื้อ ห้ามซน ไม่อย่างนั้นป้าจะไปฟ้องคุณพ่อนิโคไล”

คุณแม่บ้านเรียกชื่อเจ้านายหนุ่มด้วยชื่ออิตาลีกับเด็กๆ ตามพาโบรผู้เป็นน้องชายของเจ้านาย ที่อาศัยอยู่บ้านคนละหลัง แต่หากว่างเมื่อไหร่ชายหนุ่มมักจะแวะเวียนมาเล่นกับหลานสาวบ่อยครั้ง และตอนนี้เด็กทั้งสองก็สนิทกับน้าชายมากกว่าผู้เป็นพ่อแท้ๆ ด้วยซ้ำ

“ค่ะ”

เด็กหญิงทั้งสองรับคำหนักแน่น พร้อมทั้งฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี สร้างความเอ็นดูให้กับผู้สูงวัยจนอดที่จะก้มลงหอมแก้มป่องคนละฟอดสองฟอดไม่ได้ และเด็กทั้งสองก็ไม่ยอมน้อยหน้าต่างแย่งกันกอดและหอมแก้มที่เหี่ยวย่นไปตามกาลเวลาของแม่บ้านใจดีคนล่ะฟอดอย่างรู้สึกอบอุ่น ซึ่งความรู้สึกแบบนี้ทั้งรีน่าและนีน่าไม่เคยได้รับจากผู้เป็นพ่อเลย

“เอาล่ะเล่นกันดีๆ นะคะ ป้าขอตัวไปเก็บกวาดห้องครัวก่อน เดี๋ยวคุณพ่อนิโคไลจะลงมาเจอเอา”

“ค่า...”

รับคำเสร็จเด็กทั้งสองก็จูงมือกันวิ่งขึ้นไปบนห้อง หอบเอาของเล่นและสมุดภาพระบายสีลงมานั่งเล่นอยู่ตรงบริเวณห้องรับแขก ไม่ดื้อ ไม่ซนตามที่ได้รับปากแม่บ้านอย่างนารีเอาไว้

แต่เด็กหกขวบก็คือเด็กหกขวบ เล่นของที่มีและอยู่นิ่งได้ไม่นานก็เริ่มซุกซนไปตามประสาเด็กๆ ร่างป้อมทั้งสองเดินวนจนรอบบ้านก็ไม่เห็นอะไรที่น่าสนใจ ดังนั้นสองศรีพี่น้องแสนแสบก็ชวนกันออกไปเล่นที่สวนด้านนอกแทน และก็สมใจเมื่อเด็กทั้งสองเดินออกมาได้ไม่นานก็เจอสายยางที่ใช้รดน้ำต้นไม้ ที่ต่อเข้ากับก๊อกน้ำเอาไว้เรียบร้อย

“พี่รีน่าเรามาเล่นปลูกต้นไม้กันดีกว่านะ ปลูกแล้วก็รดน้ำมันจะได้โตๆ และมีดอกสวยๆ อย่างนี้”

นิ้วสั้นป้อมชี้ไปที่ดอกบานบุรีสีเหลือง ที่ถูกปลูกและตัดตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามเรียงเป็นแนวยาว ซึ่งแฝดผู้พี่ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย จากนั้นนักจัดสวนตัวน้อยก็ทำการหักกิ่งดอกบานบุรีมาคนละกำ แล้วนำมาเสียบลงดินบริเวณโคนต้นจนหมด ก่อนจะมายืนกอดอกมองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างพอใจกับผลงานตัวเอง

“ปลูกเสร็จแล้ว ต่อไปเราก็ต้องรดน้ำ นีน่าไปเปิดน้ำซิ พี่จะได้รดน้ำเร็วๆ เดี๋ยวมันจะหิวน้ำตายเสียก่อน”

เมื่อได้รับคำสั่งแฝดผู้น้องก็วิ่งตัวปลิวไปเปิดน้ำที่ก๊อกทันที ตอนแรกก็ผลัดกันรดน้ำต้นไม้ดีอยู่หรอก แต่ด้วยอากาศอันร้อนจัดของช่วงกลางวันทำให้ เด็กแฝดทั้งสองหันมาฉีดน้ำใส่ตัวเองด้วย และยิ่งเล่นก็ยิ่งสนุก จากที่คิดว่าจะเล่นกันเงียบๆ ก็มีเสียงกรีดร้องและเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานดังลั่นสวน

และเสียงแห่งความสุขนั้นก็ทำให้นายกวินคนสวนวัย 63 ปี ซึ่งเป็นสามีของนางนารี ที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นเดินออกมาดู แล้วนายกวินก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อคุณหนูแสนซนของตนกำลังฉีดน้ำใส่กันจนตัวเปียกมะลอกมะแลก

“คุณหนูรีน่าคุณนีน่าหยุดเดี๋ยวนี้นะครับ แดดเปรี้ยงๆ อย่างนี้มาเล่นน้ำได้ยังไง เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี”

ไม่เพียงแต่ไม่ฟังทั้งเด็กสองยังฉีดน้ำมาใส่นายกวินแล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ ที่ได้แกล้งและยิ่งนายกวินวิ่งไล่จะจับ คู่แฝดแสนซนก็ต่างวิ่งวนไปวนมา กลับกลายเป็นว่านายกวินทำให้เด็กทั้งสองคนสนุกขึ้นไปอีก

ในขณะที่ข้างล่างกำลังวิ่งไล่จับกันอยู่อย่างสนุกสนาน บนห้องทำงานของคุณพ่อลูกแฝดอย่างนิธิภัทรที่นั่งคร่ำเครงอยู่กับงานมาตั้งแต่เช้ายันบ่าย ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุด ก็ลุกออกจากโต๊ะทำงานเดินไปรูดม่านหน้าต่างเพื่อชื่นชมบรรยากาศธรรมชาติของสวนภายในบ้าน เป็นการเปลี่ยนอิริยาบถและผ่อนคลายชั่วครู่ และนั่นเองทำให้เขาเห็นลูกสาวทั้งสอง คนหนึ่งกำลังวิ่งวนหนี ส่วนอีกคนกำลังวิ่งไล่ฉีดน้ำนายกวินคนสวนอยู่อย่างสนุกสนาน การเห็นลูกๆ เล่นและยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุขใช่ว่าเขาจะไม่ชอบ แต่การเล่นแบบนี้นั้น ก็ทำให้เขาอดเป็นห่วงสุขภาพลูกๆ ไม่ได้เพราะแดดตอนนี้ค่อนข้างแรง ดังนั้นร่างสูงของคุณพ่อสุดหล่อจึงผละจากหน้าต่าง เดินออกจากห้องลงไปห้ามลูกๆ ทั้งสองที่สวนด้านล่างทันที

และเมื่อมาถึง ด้วยความที่เป็นผู้ชายและด้วยหน้าที่ที่ต้องเป็นผู้นำ นิธิภัทรจึงไม่รู้จะให้ความรักกับลูกสาวทั้งสองยังไงดี ดังนั้นเวลาพูดน้ำเสียงและท่าทางจึงไม่ต่างกับเจ้านายกำลังสั่งลูกน้อง

“รีน่านีน่าเล่นอะไรกันน่ะ หยุดเดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”

น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยอำนาจดุดัน ทำให้ร่างป้อมที่วิ่งวนอยู่อย่างสนุกสนานหยุดกึก ทั้งนี้รวมไปถึงนายกวินที่เปียกมะลอกมะแลกไม่ต่างกันด้วย

“คุณธี…”

นายกวินครางชื่อเจ้านายเสียงแผ่ว พลางใช้มือทั้งสองโอบคุณหนูรีน่ากับนีน่า ที่ต่างก็วิ่งมาเกาะแขนเกาะขาของตน อย่างเกรงกลัวผู้เป็นพ่อ

“แล้วนี่ป้ารีไปไหน ทำไมปล่อยให้รีน่าน่ากับนีน่ามาเล่นน้ำได้ และพวกหนูเองก็เหมือนกัน ทำไมเล่นซนอย่างนี้หา...”

“เอ่อ...คุณธีอย่าโทษแม่รีกับคุณหนูเลยนะครับ ผมต่างหากที่ผิด รดน้ำต้นไม้แล้วดันลืมเก็บสายยาง”

“ไม่ต้องมาออกตัวแทนกันเลย ตามใจกันอย่างนี้สิถึงได้แสบได้ซนกันขนาดนี้ มา รีน่านีน่ามาหาพ่อแล้วขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน”

“ค่ะ”

ทั้งสองรับคำเสียงอ่อย ก่อนจะเดินก้มหน้าก้มตาตามหลังผู้เป็นพ่อเข้าบ้านไปด้วยท่าทีหงอยๆ ซึ่งนายกวินเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายศีรษะ อย่างหนักใจกับความสัมพันธ์พ่อลูกที่ดูจะห่างเหินกันเสียเหลือเกิน

“ดูสิ เล่นแล้วไม่รู้จักเก็บ เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วลงมาเก็บให้เรียบร้อย ถ้าพ่อลงมาเจอว่าพวกหนูไม่ทำตามคำสั่งของพ่อล่ะก็ ต้องโดนทำโทษเข้าใจไหม”

ชายหนุ่มมาหยุดพยักพเยิดหน้าไปที่ของเล่น สมุดภาพระบายสี และสีไม้ที่วางเกลื่อนพื้นและโซฟา เด็กทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าและรับปากสั้นๆ พร้อมกันว่า

“ค่ะ”

นิธิภัทรถอนหายใจพลางส่ายหน้า ลูกสาวทั้งสองของเขารับคำคล้ายกับกลัว เป็นอย่างนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง เด็กทั้งสองก็ยังแสบและซนอยู่ได้เรื่อยๆ มีทั้งที่เขารู้และไม่รู้ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

“ไป รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันดีกว่า เดี๋ยวจะไม่สบาย ป้ารี...ป้ารีครับ”

“ค่ะ คุณธี”

เสียงแม่บ้านร่างท้วมขานรับดังมาจากในห้องครัว ก่อนเจ้าตัวจะโผล่ออกมา และเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่ต่างกับลูกหมาตกน้ำ ถึงกับอุทานออกมาอย่างตกใจ

“อุ๊ยตายแล้ว! ไปทำอะไรกันมาคะเนี่ย ทำไมตัวถึงได้เปียกมะลอกมะแลกอย่างนี้”

“ก็ชวนกันไปเล่นซน ใช้น้ำจากสายยางที่ลุงวินใช้รดน้ำต้นไม้แล้วลืมเก็บมาฉีดเล่นนะสิ”

“โธ่เอ้ย คุณหนู ป้าอยู่ข้างในครัว ได้ยินเสียงก็นึกว่าเล่นหัวเราะกันอยู่ที่ห้องรับแขก ที่ไหนได้ออกไปเล่นซนที่สวนนี่เอง บอกแล้วไงคะว่าอย่าดื้ออย่าซน มันน่าจับตีก้นจริงๆ เลย"”

ว่าแล้วนางนารีก็คว้ามือป้อมๆ ของทั้งสองคนมาตีเบาๆ คนล่ะที เป็นการลงโทษอย่างเอ็นดูมากกว่าลงโทษอย่างจริงจัง

“ยังไงป้าช่วยพาเด็กๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยแล้วกันนะครับ เสร็จแล้วรบกวนป้าไปหาผมที่ห้องทำงานด้วยนะครับ ผมอยากทราบเรื่องที่ผมให้ป้าช่วยว่าไปถึงไหนแล้ว”

“ได้ค่ะ…ไปค่ะคุณหนู เราไปรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันดีกว่า เดี๋ยวจะไม่สบาย”

เอ่ยจบนางนารีก็เดินจูงคุณหนูสุดที่รักทั้งสองขึ้นบนห้อง โดยมีนิธิภัทรผู้เป็นพ่อเดินตามไปเงียบๆ และก่อนเขาจะเดินแยกไปที่ห้องทำงาน เขารู้สึกว่าลูกสาวทั้งสองหันมามองเขาด้วยสายตาอ้างว้างและคล้ายกับตัดพ้อเล็กๆ แต่เขาคิดว่าเด็กอายุเท่านี้คงยังไม่ได้คิดอะไรมากมาย ขอให้ได้เล่นซนไปวันๆ ก็พอ ซึ่งชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นคิดผิดมหันต์



ภายในห้องนอนที่ถูกประดับตกแต่งอย่างน่ารักหวานแหวว ไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ข้าวของเครื่องใช้ทุกชนิดที่เป็นลายตัวการ์ตูนคิตตี้สีชมพู ตามความชอบของเจ้าของห้องอย่างเด็กหญิงรีน่ากับเด็กหญิงนีน่า ซึ่งมันก็เป็นความชอบที่คล้ายๆ เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ทั่วไป

“อ้าว เสร็จแล้วค่ะ น่ารักทั้งคู่เลย”

นางนารีบอกพลางอมยิ้มให้กับความน่ารักน่าชังของคุณหนูทั้งสองที่อยู่ในชุดเสื้อต่อกระโปรงยาวเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อยสีชมพูลายคิตตี้ ซึ่งเป็นการ์ตูนตัวโปรด และเสื้อผ้าในตู้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสีนี้และลายนี้ซะเกือบครึ่งค่อนตู้ นอกนั้นก็จะเป็นสีออกสว่างๆ สดใสๆ และลวดลายก็เป็นการ์ตูนตัวอื่นๆ

“คราวนี้ห้ามเล่นซนอีกนะคะ ป้าต้องเข้าไปคุยธุระกับคุณพ่อคุณหนูก่อน และถ้าคุณพ่ออกมาเจอว่าคุณหนูทั้งสองเล่นซนอีก คุณพ่อโกรธและทำโทษป้าไม่ช่วยนะคะ”

“ค่ะ รีน่ากับนีน่าไม่เล่นซน เพราะต้องไปเก็บของเล่นข้างล่างให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นคุณพ่อจะลงโทษเหมือนกันค่ะ”

เด็กหญิงรีน่าจีบปากจีบคอพูดได้อย่างน่ารักน่าชัง

“ดีมากค่ะ ถ้างั้นป้าไปนะคะ”

ร่างท้วมเดินออกจากห้องเด็กๆ แล้วตรงไปที่ห้องทำงานของผู้เป็นเจ้านายทันที และเมื่อไปถึงนางเคาะประตูให้คนในห้องรับรู้ถึงการมาของนางนิดหนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูแล้วก้าวเท้าเข้าไปภายในห้องโล่งกว้าง ที่มีแทบจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆ เลย นอกจากโต๊ะทำงานของเจ้าของห้องที่ถูกจัดเอาไว้ตรงมุมที่มีอากาศถ่ายเทดีที่สุด นอกนั้นก็จะมีตรงผนังด้านหลัง ที่เป็นตู้หนังสือตั้งเรียงต่อกันเป็นแนวยาวอยู่สามสี่ตู้ ซึ่งภายในนั้นมีหนังสือรูปเล่มแปลกตาอยู่เป็นจำนวนมาก และถัดออกมาอีกมุมหนึ่งของห้องก็จะมีชุดโซฟาไว้สำหรับนั่งพักผ่อนหรือไม่ก็ปรับนอนได้ตามใจต้องการ เพราะส่วนใหญ่เจ้าของห้องอย่างนิธิภัทรจะใช้เวลาอยู่ที่นี้มากกว่าห้องอื่นๆ เรียกได้ว่าทำงานเสร็จก็นอนมันที่นี้เลย ดังนั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวและป้องกันการรบกวนจากสิ่งต่างๆ ทั้งในขณะที่ทำงานและพักผ่อน ทำให้นิธิภัทรให้สร้างห้องนี้เป็นห้องเก็บเสียง

นางนารีเดินไปนั่งรอผู้เป็นเจ้านายที่โซฟาโดยไม่ต้องให้เจ้าของห้องอนุญาตอย่างรู้หน้าที่ ไม่นานร่างสูงที่นั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะทำงานก็ลุกขึ้นเดินตรงมาหานาง พร้อมกับถามว่า

“เรื่องที่ผมให้ป้าไปจัดการติดต่อบริษัทพี่เลี้ยงเด็ก เพื่อหาพี่เลี้ยงให้รีน่ากับนีน่าเป็นไงบ้างครับ”

“ก็มีบริษัทหนึ่งที่แม่บ้านด้วยกันเขาแนะนำมาว่าดี ป้าก็เลยขอเบอร์แล้วลองติดต่อไปแล้วล่ะคะ เขาบอกว่าจะส่งเด็กให้มาสัมภาษณ์ที่บ้านวันจันทร์นี้นะคะ”

นิธิภัทรพยักหน้าอย่างรับรู้ พร้อมกับเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวข้างๆ แม่บ้าน ที่เขาเองเคารพนับถือ และยกให้นางเป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง

“ผมคงไม่ว่างที่จะอยู่สัมภาษณ์เอง ผมยกหน้าที่นี้ให้ป้าก็แล้วกันนะครับ”

นางนารีถึงกับผงะ แล้วรีบละล่ำละลักปฏิเสธ เพราะไม่เคยที่จะต้องมาทำอะไรอย่างนี้มาก่อน อยู่ดีๆ จะให้นางมานั่งซักโน้นนี่นั่นของคนอื่น นางทำไม่ได้หรอก

“อุ๊ย! ป้าไม่เอาหรอกค่ะ ถ้าคุณธียังไม่ว่างไว้ค่อยโทรนัดให้เด็กมาสัมภาษณ์วันหลังก็ได้นี่คะ หรือคุณธีจะไปสัมภาษณ์เด็กที่บริษัทเขาเลยก็ได้”

“โอ๊ย ไม่เอาหรอกครับป้า ยิ่งเสียเวลาเข้าไปใหญ่ สัมภาษณ์มันวันจันทร์นี่แหละ และป้าก็ต้องเป็นสัมภาษณ์เองด้วย เพราะป้าใกล้ชิดกับรีน่าและนีน่ามากกว่าผม คงรู้ว่าคนไหนเหมาะคนไหนไม่เหมาะ”

“แต่ป้าไม่เคยจะทำอะไรแบบนี้เลยนี่คะ”

นางนารีทำหน้าแหยๆ

“เอาน่าป้า มาเขาก็ต้องมีประวัติต่างๆ มาให้เราดูด้วยแหละ และป้าก็อ่านดูเอาตามนั้น ติดใจหรือว่าสงสัยอะไรก็ถามออกไปได้เลย เห็นไหมไม่เห็นจะยากอะไร และจากประสบการณ์ของป้า ผมเชื่อว่าจะได้คนที่เหมาะสมมาเป็นพี่เลี้ยงยัยหนูแสนซนทั้งสองของผมแน่นอนครับ”

นางนารีถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ สุดท้ายก็ต้องยอมพยักหน้ารับอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ขอบคุณมากครับป้า ผมรู้ว่าป้าพึ่งพาได้”

ชายหนุ่มเยินยอเล่นเอาคนแก่ยิ้มหน้าบาน แต่ไม่นานมันก็หุบฉับเอาดื้อๆ

“ถ้าบอกว่าป้าพึ่งพาได้ทำไมต้องหาพี่เลี้ยงมาให้คุณหนูทั้งสองด้วยละคะ ป้าว่าป้าดูแลได้นะคะ”

“ผมรู้ว่าป้าดูแลได้ แต่มันเหนื่อยนะครับ ผมรู้นะว่าวันๆ หนึ่งเนี่ย ป้าต้องวิ่งหัวหมุนกับลูกสาวแสนซนของผมวันละหลายๆ รอบใช่ไหมล่ะครับ ผมเลยอยากหาคนมาช่วยผ่อนแรงป้าบ้าง และอีกอย่างจะได้มีคนมาช่วยสอนการบ้านให้ยัยหนูแสนซนทั้งสองด้วย”

นิธิภัทรบอกเหตุผลที่นางนารีฟังแล้วก็ต้องยอมรับ เพราะเด็กสมัยนี้เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาล ถ้าเกิดคุณหนูทั้งสองของนางมีการบ้านและถามนาง นางก็คงไม่มีปัญญาตอบได้หรอก ความรู้แค่หางอึ่งนั้นเอง

“ค่ะ แต่มีพี่เลี้ยงแล้ว ใช่ว่าคุณธีจะทำแต่งานอย่างเดียวนะคะ มาดูแลคุณหนูทั้งสองบ้าง เพราะเป็นอยู่ทุกวันนี้ป้าว่าก็แย่พอแรงแล้วนะคะ”

นางบอกอย่างเป็นห่วง เพราะคุณหนูทั้งสองของนางไม่สนิทกับผู้เป็นพ่อเอาเสียเลย ติดจะกลัวด้วยซ้ำ สาเหตุก็มาจากเจ้านายของนางเองนั่นแหละ ให้เวลางานไปซะเยอะ ส่วนให้ลูกๆ ล่ะน้อยแสนน้อย ซ้ำร้ายชายหนุ่มก็คล้ายคุณพ่อหลายๆ คน ที่เลี้ยงและเล่นกับลูกสาวไม่ค่อยเป็น เท่านั้นยังไม่พอยังติดเอานิสัยวางอำนาจจากที่ทำงานมาใช้กับลูกๆ อีก

“ครับ แต่ช่วงนี้ผมกำลังยุ่งๆ เพราะใกล้จะถึงการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เอาไว้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนแล้วกันนะครับ”

“ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ป้าขอตัวนะคะ จะไปดูหน่อยว่าคุณหนูทั้งสองช่วยกันเก็บของเล่นไปถึงไหนแล้ว ไม่รู้จะเรียบร้อยหรือจะรกหนักกว่าเดิม”

นางนารีพูดเสียงกลั้วหัวเราะ

“ครับ ผมเองก็ขอทำงานต่ออีกนิดหน่อย เสร็จแล้วจะได้ไปคุยกับเด็กๆ เรื่องพี่เลี้ยงด้วย ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือโวยวาย”

“กับคุณธีคงกล้าโวยวายหรอกค่ะ”

เอ่ยจบนางนารีก็หันมายิ้มให้เจ้านายหนุ่มนิดๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป นิธิภัทรมองประตูที่ถูกปิดลงแล้วถอนหายใจ เพราะคำพูดของแม่บ้านสูงวัยมันคือเรื่องจริงลูกๆ กลัวเขามาก ทั้งที่ผ่านมาเขาพยายามให้เวลา ที่ถึงแม้จะน้อยกับลูกๆทั้งสองจนถูกทิ้ง แต่ก็ไม่ได้ผล ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร

****************************************************************************************
ขอบคุณทุกเม้นทุก Vote นะคะ

ว่าแล้วตอบคอมเม้นดีกว่า อิอิอิ

คุณพิพนทุ์ – มันคงเป็นโชคชะตา

คุณ lovemuay – ขอบคุณค่า ยังไงก็อย่าลืมติดตามต่อไปนะคะ

คุณ incanto – ว่าแล้วก็จดไปค่ะ

คุณ milbol – อิอิอิ ถ้าอยากรู้ก็ต้องติตามตอนต่อไปเรื่อยๆ นะคะ

คุณ panon – พี่แจงงงงง ดีใจจังที่พี่แจงชอบ ^_^

คุณณัฐวีร์ – ขอบคุณค่ะ

คุณ nutcha – ท้องไม่ท้องก็ต้องรอดูต่อไป อิอิอิ (ว่าพระเอกเราจะน้ำยาดีหรือเปล่า)

คุณ anOO – ขอบคุณค่ะติดตามทุกเรื่องเลยดีใจมาก จุ๊บๆ

คุณ ann – ใช่ค่ะเรื่องมันเศร้า



เกศมณี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ก.ย. 2554, 01:25:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ก.ย. 2554, 01:25:18 น.

จำนวนการเข้าชม : 2699





<< ตอนที่ 2 : ความรับผิดชอบฉันไม่ต้องการ   
panon 29 ก.ย. 2554, 09:04:26 น.
ใครจะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กน่ะ.รอตอนต่อไปจ๊ะ


anOO 29 ก.ย. 2554, 09:31:48 น.
นางเอกเราแน่ๆ เลยที่จะมาเป็นพี่เลี้ยง
แต่คงจะสู้รบกับคู่แฝดกันก่อนล่ะมั้ง


nutcha 29 ก.ย. 2554, 16:35:08 น.
แล้วจะใช่นางเอกหรือเปล่าเนี่ย


onepat 25 มี.ค. 2555, 15:53:32 น.
นางเอกเราเป็นพี่เลี้ยงชัว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account