ทะเลร้อนซ่อนสิเน่หา
เพียงแรกพบสบตา...เขา...คเชนทร์ อัครา นายหัวแห่งเกาะยาตราก็เกิดอาการอยากจะเก็บนางฟ้าหน้าหวานปานจะหยดคนนั้นกลับไปใส่กรงทองเป็นสมบัติส่วนตัวของตัวเองเสียแล้ว แต่จะทำยังไงเมื่อสาวเจ้าไม่ยอมเล่นด้วยเพราะเขาเผลอไปทำตัวให้เธอเกลียดขี้หน้าเข้า งานนี้จากนายหัวหนุ่มผู้เคร่งขรึมจีบสาวไม่เป็น ก็ถึงกับต้องลงทุนงัดทุกกระบวนความมาต้อนสาวหน้าหวานให้ยอมรับรักเขาให้จงได้

เธอ...น่ารัก สาวนักออกแบบที่เดินทางไปพักผ่อนสมองที่บ้านเกิดเพื่อนรัก แต่ครั้งแรกที่พบเจอหนุ่มโหดหน้าตาอย่างกับมหาโจรที่ร่วมเดินทางไปบนรถทัวร์คันเดียวกัน เขาก็จาบจ้วงถึงเนื้อถึงตัวเธอเสียแล้ว ซ้ำยังตามติดเดี๋ยวกอดเดี๋ยวหอมจนเธอผวา ยิ่งเมื่อมารู้ว่าเขาเป็นคนเดียวกับพี่ชายเพื่อนรักที่เคยปฏิเสธอย่างไร้มารยาทห้ามให้เธอไปวุ่นวายที่เกาะยาตราสุดรักสุดหวงของเขา เธอก็นึกไม่ชอบขี้หน้าเขามากขึ้นไปอีก

แต่ยิ่งไม่ชอบเขาก็ยิ่งตื้อ ยิ่งปฏิเสธเขาก็ยิ่งรุก จนใจน้อย ๆ ที่เคยหนักแน่นเริ่มสั่นไหว แล้วสุดท้ายน่ารักจะทำอย่างไรเมื่อถูกมหาโจรหน้าหล่ออย่างคเชนทร์รุกหนักจนหัวใจปลิวหายไปอยู่ในมือเขาในที่สุด
(รอตีพิมพ์กับ สนพ.แสนรัก ในเครือไลต์ ออฟ เลิฟ ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 5..เกาะยาตรา....(100%)

เอาไปอีกตอนเลยฮับ ข้อหาที่ลืมลงตอนที่ 3 แหะ ๆ

หวังว่าคงจะชอบกันนะคะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++

บทที่ 5...เกาะยาตรา



แสงแดดจ้าในช่วงสายของวันไม่ได้ทำให้น่ารักวิตกกังวลเรื่องที่ผิวขาว ๆ ของเธออาจจะดำคล้ำลงแต่อย่างใด เพราะแสงอาทิตย์ที่สาดส่องกระทบน้ำทะเลสีครามก่อให้เกิดแสงแวววาวระยิบระยับจับตายิ่งนัก น่ารักยืนพิงกาบเรือตรงท้ายรำของเรือสีขาวขนาดกลางที่ประทับตราของโรงแรมอัครเดชาโรงแรมของตระกูลอัครา หญิงสาวยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เรือออกจากท่าเรือส่วนตัวตรงด้านหลังขอโรงแรมเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาแล้ว ไม่สนใจเสียงห้ามของคเชนทร์ที่บอกให้เธอไปนั่งให้เป็นที่เป็นทางเพราะความสวยงามของท้องทะเลที่เห็นทำให้น่ารักตื่นเน้นมากกว่าจะจะมัวกังวลหรือหวดกลัวอะไร



“ใส่หมวกด้วยสิคุณ แดดมันร้อน ผิวคุณบางออกอย่างนี้เดี๋ยวได้หน้าไหม้พอดี”



คเชนทร์คร้านจะพูดให้นางฟ้าของเขากลับเข้าไปนั่งที่ท้องเรือ เพราะเขาห่วงว่าเธอจะไม่สบายหากตากแดดตากลมนาน ๆ ไหนจะผิวสวย ๆ บอบบางนั่นอีก เขากลัวผิวขาว ๆ ของเธอจะแสบจะคัน เพราะน่ารักใส่แค่เสื้อยืดสีเขียวอ่อนกับกางเกงยีนส์สามส่วนเท่านั้น จนคเชนทร์ต้องลุกมาใช้ร่างกายสูงใหญ่ของตนเองยืนบังแดดให้ พร้อมกับจับหมวกสานใบใหญ่ที่เขาเพิ่งสวมให้ศรีษะเล็ก ๆ ของเธอไป เพราะน่ารักไม่สนใจเสียงพูดของเขาสักนิด



ทะเลมันมีอะไรดีกว่าหน้าเขาหรือยังไง แม่นางฟ้าของเขาถึงได้ให้ความสนอกสนใจจนเขาอิจฉา



แล้วคนขี้อิจฉาก็ทนไม่ไหวเมื่อถูกสาวเมินจนอาลีที่บังคับเรืออยู่ส่งยิ้มล้อเรียนมาให้โมโห มือหนาข้างที่จับหมวกสานปีกกว้างให้อยู่นั้น จากที่จับแบบปกติโดยการยืนอยู่ข้าง ๆ เฉย ๆ กลับเปลี่ยนเป็นโอบรอบไหล่มนแล้ววางฝ่ามือลงกลางศรีษะเล็ก ๆ ของสาวข้างกาย



“อุ๊ย !! “ น่ารักอุทานอย่างตกใจ ทำท่าจะผละออกห่าง หากก็ติดที่ท่อนแขนที่โอบอยู่ที่หัวไหล่ ซึ่งพอเธอขยับเขาก็รั้งไหล่ให้เธอเซเข้ามาแนบชิดอยู่กับอกกว้าง และเมื่อเธอออกแรกผลักเขาก็ก้มลงมาส่งสายตาดุให้พร้อมเสียงขู่



“อยู่นิ่ง ๆ สิ ก็ผมบอกให้ไปนั่งคุณก็ดื้อ แล้วผมก็เมื่อยที่ต้องมายืนจับหมวกให้คุณน่ะ อยู่อย่างนี้ล่ะดีแล้ว ไม่เมื่อยดีและคุณก็ไม่ร้อนด้วย” แล้วอยู่อย่างนี้เขาก็อชบเสียด้วย ชอบมากจนอยากจะหันไปสั่งให้อาลีขับเรืออ้อมเกาะยาตราที่เห็นลิบ ๆ นั่นสักสามรอบ



“บ้าเหรอคุณ!! ทำไมคุณชอบแต๊ะอั๋งฉันนักนะ “ น่ารักเหวใส่เสียงเขียว แต่ใบหน้ากับร้อนผ่าว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผู้ชายที่เธอไม่ค่อยจะชอบขี้หน้าถึงได้ทำให้เธอใจเต้นแรงได้ขนาดนี้



“แต๊ะอั๋งอะไรกันคุณ นี่ผมช่วยคุณนะ นอกจากทำให้คนอื่นเดือดร้อนแล้วยังไม่รู้จักบุณคุณคนอีก” แสร้งทำสีหน้าเคร่งตำหนิออกไป ทั้งที่ความจริงที่เธอกล่าวหามาก็ไม่ผิดสักนิด



น่ารักฮึดฮัดอยู่สักพัก ทั้งผลักทั้งพยายามจะดิ้นให้หลุดจากความใกล้ชิดที่แสนหวาบหวามนี่ หากแต่แรงที่มีน้อยนิดของเธอน่ะหรือจะสู้แรงช้างสารของมหาโจรหน้าเข้มอย่างคเชนทร์ได้ สุดท้ายก็ได้แต่ยืนหน้าบึ้ง หมดอารมณ์จะชมความงามของท้องทะเลและแสงแดด



ประกอบกับเรือสีขาวที่บังคับโดยอาลีหนุ่มผิวเข้มได้แล่นเข้าไปใกล้เกาะรูปสามเหลี่ยมสองเกาะที่มองจากไกล ๆ แล้วเหมือนอยู่เกือบติดกันเป็นเกาะแฝดก็ไม่ปาน และไม่ถึงสิบนาทีหลังจากนั้นเรือที่ประทับตราโรงแรมอัครเดชาที่เข้าเทียบท่า ที่สะพานไม้ขนาดใหญ่ของเกาะหนึ่งในสองเกาะ



จากที่อารมณ์เสียเพราะถูกมหาโจรเข้าถึงเนื้อถึงตัว น่ารักก็ลืมสิ้นกลับมาอยู่ในอารมณ์ตื่นตาตื่นใจอีกรอบ เมื่อเห็ฯความสวยงามแบบหนึ่งไม่มีสองของเกาะขนาดใหญ่ตรงหน้า...เกาะยาตรา



“สวยจัง...”



เสียงหวานรำพึงเหมือนละเมอ ตาคูหวานสีดำสนิทกวาดมองตั้งแต่สะพานไม้สีขาวสะอาดขนาดใหญ่ ที่ทอดยาวไปไกลเชื่อมผืนแผ่นดินกับผืนน้ำเข้าด้วยกัน และเมื่อก้าวเหยียบขึ้นไปบนสะพานโดยการช่วยเหลือจากมือหนาที่กุมกระชับฝ่ามือน้อยของเธอไว้มั่น และก็ปล่อยให้เจ้าของมือหนานั้นจับจูงเดินไปตามทางสีขาวที่ทอดยาวไปไกลอย่างไม่ขัดขืน เพราะความวางของธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างที่เห็นทำให้มัวแต่มองอย่างชื่นชมจนหลงลืมไปเสียเสนิท



ด้านหน้าสุดความยาวของสะพานไม่สีขาวนี้ คือหากทรายละเอียดสีอ่อนที่มองไกล ๆ เหมือนหากทรายขาวนวล ถัดไปเป็นต้นปาล์มที่ปลูกเรียงรายเป็นแนว และเมื่อเดินผ่านต้นปาล์มน้อยใหญ่เข้าไปก็พบกับบ้านพักหลังเล็ก ๆ เรียงรายอยู่ติด ๆ กัน



“วันนี้เราจะนั่งรถกอล์ฟเข้าไป เพราะบ้านพักของผมอยู่ลึกเข้าไปอีก ไว้วันหลังที่แดดร่ม ๆ กว่านี้หน่อยผมจะพาเดินดูรอบ ๆ เกาะ” คเชนทร์พูดขึ้นเมื่อจูงมือร่างบอบบางมาหยุดยืนอยู่ใกล้ ๆ รถกอล์ฟที่เขานำมาใช้เพื่อนทุ่นเวลาการเดินทางไปมาภายในเกาะยาตรา



“อาลี เดี๋ยวแกไม่พักผ่อนเถอะ ฉันจะขับรถเข้าไปเอง แล้วเย็น ๆ ค่อยไปหาฉันที่บ้าน อ่อ พารินมาด้วยนะ ไอ้รุจด้วยถ้ามันอยู่ก็เรียกมันมาด้วยเลย” พอสั่งลูกน้องเสร็จ คเชนทร์ก็หันไปพยักหน้าให้น่ารักขึ้นไปนั่งบนรถกอล์ฟ ก่อนจะตามขึ้นไปนั่งที่นั่งคนขับ ขับพานางฟ้าของตนเข้าไปตามทางเล็ก ๆ



ทิ้งให้อาลียืนเกาหัวมองจักรยานคันเดียวที่จอดอยู่ นายหัวพูดเหมือนห่วงว่าเขาจะเหนื่อยเลยให้ไปพัก แต่นายหัวคงลืมคิดไปว่าก่อนจะได้พักเขายังต้องมาปั่นจักรยานไปอีกเกือบสิบนาทีกว่าจะถึงบ้านพักของตนเอง



เฮ้อ นายหัวนะนายหัว จะให้อาลีนั่งรถกอล์ฟไปด้วยก็ไม่ได้



++++++++++



น่ารักกำลังนั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ที่เก้าอี้หวายกลางห้องรับแขกภายในบ้านพักหลังที่มใหญ่ที่สุดในเกาะยาตราแห่งนี้ ตรงกันข้ามมีร่างสูงที่นั่งเหยียดขา ใช้มือประสานกันรองศรีษะเอนกายพิงพนักเก้าอี้ มองท่าทางของเธอเหมือนกำลังอารมณ์ดีเสียเต็มประดา



ก่อนหน้าที่จะมานั่งทำหน้าบึ้งอยู่ในห้องรับแขก น่ารักยังตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามระหว่างทางที่นั่งรถกอล์ฟผ่านมา จนมาถึงบ้านพักที่ทำจากไม้สีขาวสะอาดเฉกเช่นสีเดียวกับสิ่งก่อสร้างเกือบทุกอย่างบนเกาะแห่งนี้ตั้งแต่ที่เธอก้าวเท้าเข้ามา บ้านพักที่เธอกำลังนั่งอยู่นี้เป็นบ้านพักหลังที่ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่บนเนินที่ห่างไกลเป็นสัดส่วนจากหลังอื่น ๆ ความสวยงามของมันทำให้เธอยิ้มกว้างอย่างดีใจเมื่อคิดไปว่าเขาจัดให้เะอพักที่นี่ หากแต่ความดีใจของเธอก็ต้องหายไปอย่างรวดเร็ว



ถูกล่ะ ที่คเชนทร์จัดให้เธอพักอยู่ที่บ้านพักหลังงามที่เต็มไปด้วยสิ่งของอำนวยความสะดวกสบายแห่งนี้ หากแต่สิ่งเดียวที่เป็นมลพิษและสาเหตุของความขุ่นข้องอารมณ์เสียของเธอก็คือ...บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักของเขา



คเชนทร์จัดให้เธออยู่ร่วมบ้าน ร่วมชายคากับเขา ใช้ห้องครัวร่วมกัน ห้องรับแขกร่วมกัน ดูที่วีร่วมกัน และ...มีห้องนอนที่อยู่ติดกัน โดยที่บ้านหลังใหญ่ทั้งหลังนี้ไม่มีใครอื่นอีกเลยนอกจากเธอกับเขา



“คุณไม่มีบ้านพักอื่นให้ฉันอยู่เหรอ แบบที่มันเป็นส่วนตัวน่ะ” ในที่สุดน่ารักก็เปิดประเด็นขึ้นมา เมื่อทนไม่ไหวกับใบหน้าเจือรอยยิ้มภายใต้เครารกครึ้มของเขา



ถึงจะมีเคราบดบัง แต่เธอก็เห็นหรอกว่าามุมปากของมหาโจรคเชนทร์ยกยิ้มอย่างถูกใจ...แต่ที่ไม่รู้คือ ไม่รู้ว่าเขาถูกใจอะไร และทำไม



“แล้วที่นี่ไม่เป็นส่วนตัวยังไงล่ะ บ้าน เรา อยู่ห่างจากบ้านพักคนงานไกลพอที่จะไม่มีใครมาได้ยินหรือเห็นยามที่เราอยากมีเวลาส่วนตัว” คเชนทร์บอก และใช้คำว่า บ้านเรา จนคนฟังรู้สึกสะดุดหู ไหนจะคำพูดเหมือนแฝงความนัยอะไรนั่นอีก



“ส่วนตัวที่ว่าหมายถึง ฉันต้องการอยู่คนเดียว ฉันจะมาอยู่บ้านดียวกับคุณได้ยังไง คนของคุณมาเห็นเข้าได้เอาไปนินทากันพอดีสิ” ดูสายตาเขาแล้วมันไม่น่าไว้วางใจเลยจริง ๆ ถึงจะดูนิ่ง ๆ แต่สายตามหาโจรตรงหน้าดูวิบวับยังไงชอบกล



“จะมีใครมากล้าพูดว่าอะไร ในเมื่อคุณเป็นคนของผม” เป็นตุ๊กตาที่ผมจะขังไว้ในกรงเป็นเพื่อนเจ้าชะเอม นายหัวหนุ่มยังคงไม่ล้มเลิกความคิดที่จะเก็บนางฟ้าหน้าหวานคนนี้ไว้เป็นสมบัติของตัวเอง “คนงานเขาไม่มายุ่งเรื่องของเรานักหรอก คุณสบายใจได้อีกอย่างคุณเป็นเพื่อนของภัทร ผมก็ต้องรับรองให้ดูที่สุดในทุก ๆ เรื่อง และเรื่องที่พักอาศัยก็เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ภัทรกำชับมาว่าคุณจะต้องมีที่พักที่ดีที่สุด ซึ่งบ้านหลังนี้ก็คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ว่านั่น ถ้าจะบ่นอะไรคุณก็โทรไปบ่นเพื่อนรักของคุณเถอะ แต่ผมว่าตอนนี้คุณไปพักผ่อนก่อนดีกว่า อีกสักชั่วโมงค่อยมากินกลางวันกัน”





หนึ่งชั่วโมงพอดิบพอดีหลังจากนั้น ประตูห้องนอนของน่ารักก็ถูกเคาะ ตามมาด้วยเสียงห้าวที่เธอคุ้นเคยได้ยินมาตลอดสองสามวันนี้ดังเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยิน



“ออกมากินข้าวได้แล้วคุณ เที่ยงกว่าแล้วเนี่ย” คนที่เกิดอาการคิดถึงเนื่องจากไม่ได้เห็นหน้าหวาน ๆ ตั้งหนึ่งชั่วโมงตะโกนซ้ำอีกรอบ เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากด้านใน



“ฉันไม่หิวค่ะ เมื่อกี้เผลอกินขนมที่เอามาด้วยจนอิ่มแล้ว คุณกินได้เลย ฉันขอนอนก่อน”



แต่เสียงงัวเงียที่ตะโกนตอบกลับมาให้ได้ยิน ก็ดับความหวังของคนที่วาดหวังว่าจะทานมื้อแรกด้วยกันที่บ้านของ เรา อย่างคเชนทร์ทันที รอยยิ้มนิด ๆ ภายใต้เครารกครึ้มยามที่ส่งเสียงเรียกคนในห้องก่อนหน้านี้หุบลงกลายเป็นใบหน้าผิดหวัง ในใจนั้นก็อยากจะเซ้าซี้เข้าไปลากเธอออกมานั่งทานด้วยกันให้ได้ แต่น้ำเสียงงัวเงียที่ได้ยินก็ทำได้แต่ถอนหายใจ แล้วยอมล่าถอย ให้หญิงสาวได้พักผ่อน



อุตส่าห์ว่าจะได้กินข้าวพร้อมอาหารตาหนวานซึ้งนั่น...แต่สุดท้ายก็คงต้องเอาเจ้าชะเอมมานั่งมองแทนเสียล่ะมั้ง



คเชนทร์หันไปมองเจ้าชะเอม นกน้อยสีสันสดใสที่เพิ่งบินมาเกาะตรงคอนไม้ในกรงส่วนตัวของมันริมหน้าต่างในห้องนั่งเล่น เจ้าชะเอมเป็นนกแก้วส่ายพันธุ์มาคอว์ (Macaw [ 1 ]) ที่มีขนสีแดงสดตรงหน้าอกถึงท้อง และด้านในของปีก รวมทั้งที่หัวจรดกึ่งกลางลำตัวด้านหลังก็จะเป็นสีแดง และหลังจากนั้นจะเป็นสีเหลืองและปลายปีกสีน้ำเงินผสมสีฟ้าเข้ม ขนาดประมาณสามสิบนิ้ว



เจ้าชะเอมมาอาศัยอยู่ที่เกายาตรากับคเชนทร์ได้สองปีแล้ว ตั้งแต่ที่มันบินมาเกาะที่หน้าต่างห้องนอนของเขา ตอนนั้นเจ้าชะเอมมันยังตัวเล็กกว่านี้เกือบสิบนิ้ว แต่คงเพราะอาหารการกินบนเกาะนี้อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยอาหารโปรดของมันโดยเฉพาะเม็ดปาล์ม ที่เจ้านกแก้วสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดานกแก้วด้วยกันตัวนี้ชอบนักหนา



แต่ถึงมันจะมีกรงขนาดใหญ่ส่วนตัวที่คเชนทร์สร้างไว้ให้ หากแต่ตั้งแต่แรก ๆ จนถึงตอนนี้เจ้าชะเอมก็ไม่ค่อยยอมอยู่ในกรงที่เขาสร้างไว้ให้นัก มันจะบินไปบินมาทั่วเกาะ แล้วถึงจะกลับมาเวลาอยากนอนพักเท่านั้น อย่างวันนี้มันคงเห็นเจ้าของที่หายไปหลายวันกลับมาพร้อมสาวสวย เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนมันถึงได้บินกลับมา และนายหัวหนุ่มก็ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นพร่ำสอนให้มันพูดทักทายนางฟ้าของเขา จนเป็นที่พอใจถึงได้มาเคาะประตูเรียกสาวเจ้า หากแต่ก็ต้องกินแห้วกันทั้งคนทั้งนก





ส่วนน่ารักนั้นหญิงสาวก็ไม่ได้รู้สึกง่วงนอนอะไรมากมาย อย่างที่แกล้งทำเสียงงัวเงียตอบกลับออกไป เพียงแต่นึกเหม็นขี้หน้าเจ้าของบ้านที่ชักจะทำตัวติดกับเธอจนเกินพอดีเท่านั้นเอง สองสามวันตั้งแต่วันแรกที่เจอกันพี่ชายของเพื่อนสนิทเธอคนนี้ห่างไกลจากที่เธอเคยจินตนาการเอาไว้มากทีเดียว ตั้งนานมาแล้วที่คีตภัทรเคยเล่าเรื่องพี่ชายคนเดียวให้เธอฟังว่า เขามีนิสัยเงียบขรึม เด็ดขาด ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ที่สำคัญไม่ค่อยสนใจผู้หญิงจนคีตภัทรกับคุณปัทมามารดาของเขากลุ้มใจกลัวว่าทายาทของอัคราคนนี้จะเป็นพวกผิดปกติทางเพศ



แต่ทำไมตั้งแต่เธอเจอกับเขา นายหัวที่หน้าเหมือนมหาโจรคนนั้นกลับเป็นพวกมือไวใจเร็ว พูดจาและหาเรื่องถูกเนื้อต้องตัวเธอทุกครั้งที่มีโอกาส สายตาที่มองเธอรึก็พราวระยับหมือนพวกเจ้าชู้ประตูดินเสียอย่างนั้น แล้วเธอยังจะต้องมาอยู่ร่วมบ้านกับเขาสองคนอีกเกือบครึ่งเดือน จะเอาอะไรมารับมือเขาได้กันล่ะทีนี้



แทนที่จะได้มาพักผ่อนให้สมองแล่น กลับต้องมาคอยคิดหาวิธีรับมือมหาโจรเจ้าของเกาะแทน คราวนี้เห็นทีคงได้ถูกคิมหันต์เตะโด่งออกจากงานเป็นแน่แท้



พอคิดไปถึงคิมหันต์ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทพ่วงด้วยหัวหน้าแผนกออกแบบของบริษัทที่สังกัดอยู่ น่ารักก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่ที่มาถึงกระบี่เธอยังไม่ได้โทรรายงานให้คิมหันต์ได้ทราบเลย ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายนั้นย้ำนักย้ำหนาว่าต้องโทรรายงานทันทีที่มาเหยียบผืนดินกระบี่แห่งนี้



แต่ตามปกติคิมหันต์มักจะโทรตามทันทีที่เธอขาดการติดต่อ แต่ทำไมครั้งนี้เขาถึงได้เงียบไป...คิ้วเรียวย่นเข้าหากันขณะค้นหาโทรศัพย์มือถือจากกระเป๋าสะพายใบโตของตนเอง และเมื่อหยิบขึ้นมาเพื่อจะโทรหาคนที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านาย ถึงได้เข้าใจว่าเหตุใดคิมหันต์ที่มักจะทำตัวเป็นบิดาคนที่สองถึงได้ไม่โทรศัพย์มาบ่นอย่งที่ทำอยู่เสมอ นั่นก็เพราะหน้าจอว่าโทรศัพย์มือถือเครื่องเล็กสีดำของเธอนั้นมึดสนิท เนื่องจากแบตเตอรี่หมดนั่นเอง คงเป็นเพราะว่าวันที่ได้โทรศัพย์คืนมาจากคเชนทร์ น่ารักก็โทรไปคุยกับคีตภัทรเสียจนแบตหมด คิดไว้ว่าจะชาร์จก็ขี้เกียจค้นที่ชาร์จออกจากกระเป๋า เลยปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นจนลืมไปในที่สุด



เมื่อทำการชาร์จแบตเตอร์รี่และเปิดเครื่องเรียบร้อย ไม่ถึงนาทีหลังจากนั้นก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนว่ามีสายที่ไม่ได้รับระหว่างที่ปิดเครื่องถึงสี่สิบสิงสาย ซึ่งเป็นของบิดามารดาที่ต่างจังหวัดสิบสิบสาย ส่วนที่เหลือสามสิบสายพอดิบพอดีเป็นของเพื่อนสนิทที่พ่วงตำแหน่งหัวหน้าที่ชื่อคิมหันต์



น่ารักจึงโทรกลับไปหาบิดามารดาที่บ้านก่อน จากนั้นค่อยเตรียมใจเพื่อโทรไปฟังคำบ่นของคิมหันต์ต่อ ที่บ้านคุณน้ำผึ้งมารดาของเธอเป็นผู้รับสาย และเมื่อรู้ว่าเป็นบุตรสาวที่เฝ้าห่วงเพราะติดต่อไม่ได้มาตลอดสามวันคุณน้ำผึ้งก็ส่งเสียงถามอย่างห่วงใย



“เลิฟขอโทษค่ะแม่ พอดีว่าแบตหมดแล้วพอเจอยัยภัทรก็มัวแต่คุยกันจนลืม แต่แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ที่นี่น่าอยู่มาก ตอนนี้เลิฟเพิ่งมาถึงเกาะยาตราที่เราเคยเห็นทางทีวีตอนนั้นไงคะแม่...ค่ะ ใช่ค่ะ เจ้าของเกาะเป็นพี่ชายของยัยภัทรเองค่ะแม่...ยังไงแม่ก็บอกพ่อด้วยนะคะว่าไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยววันหลังเลิฟโทรไปหาใหม่...ค่ะ คิดถึงแม่เหมือนกันค่ะ”



แม้จะวางสายไปแล้วแต่รอยยิ้มก็ยังคงประดับอยู่บนใบหน้าหวาน รู้สึกคิดถึงท่านทั้งสองบ้างเหมือนกัน เพราะทุกอาทิตย์เธอมักจะกลับไปอยู่กับพวกท่านที่ชลบุรีเสมอ พอไม่ได้กลับไปเจอก็รู้สึกเหงา ๆ และคิดถึงอาหารฝีมือมารดามากที่สุด



แต่พอคิดไปได้สักพักก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้โทรกลับหาคิมหันต์ ใบรอยยิ้มก็เริ่มหายไป น่ารักกลืนน้ำลายลงคอเตรียมใจ ก่อนจะกดโทรหาเพื่อนสนิทจอมขี้บ่นอย่างคิมหันต์ และก็ไม่ต้องรอสายนานคนทางปลายสายก็กดรับพร้อมกับเสียงทุ้มที่ติดจะหงุดหงิดกรอกเสียงดังมาตามสาย



( นึกว่าจะถูกโจรใต้ฉุดเข้าป่าไปแล้วเสียอีก ทำไม่ไม่โทรมาฮะ โทรไปก็ปิดเครื่อง บอกแล้วใช่มั๊ยว่าถึงปุ๊บให้โทรรายงายปั๊บน่ะ )



น่ารักถึงกับต้องดึงโทรศัพย์ออกห่างจากหู พร้อมกับย่นจมูกใส่ ก่อนจะเอาโทรศัพย์กลับมาแนบใบหูดังเดิมแล้วตอบไปเสียงหวานกว่าปกติ



“โธ่ คิมเพื่อนรัก เลิฟก็ว่าจะโทรหาคิมตั้งแต่ที่เหยียบกระบี่ตามที่คิมสั่งนั่นแหละ แต่พอดีแบตหมด แล้วก็หาที่ชาร์จไม่เจอ เพิ่งจะเจอเมื่อกี้เนี่ย อย่าโกรธเค้าน้า คิมเสียงดังแบบเนี่ยเดี๋ยวสมองน้อย ๆ ของเลิฟตกใจมึนกว่าเดิม คิดงานให้คิมไม่ออกทำไงล่ะ” อ้อนไปเสียงหวานอย่างที่เคยใช้ได้ผลทุกครั้งยามที่คิมหันต์ดุมา



( ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อนเสียงหวาน ) แม้จะว่าอย่างนั้นแต่เสียงที่บอกออกไปก็อ่อนลงกว่าก่อนหน้านี้มากนัก



เฮ้อ...ไม่เคยใจแข็งได้นานเลยสิน่าเจ้าคิมเอ้ย



( แต่ต่อไปอย่าทำให้เป็นห่วงอย่างนี้อีกเข้าใจมั๊ย ) สุดท้ายคนที่ไม่เคยโกรธหรือโมโหได้จริง ๆ สักทีอย่างคิมหันต์ก็ใจอ่อนจนได้



“เข้าใจแล้วค้า” น่ารักส่งเสียงร่างเริงตอบกลับไป พร้อมรอยยิ้มสดใสอย่างที่อีกฝ่ายพอจะคาดเดาได้ “ใจดีแบบนี้เดี๋ยวตอนกลับเลิฟหาสาวใต้ตาคมไปฝากดีมั๊ยคิม ยัยภัทรเป็นไง” ถามกลับกลั้วหัวเราะอย่างพอจะเดาสีหน้าของคิมหันต์ออก



ไม่ใช่ว่าคิมหันต์กับคีตภัทรจะไม่ชอบหน้ากัน เพียงแต่สองคนนี้เวลาเจอกันมักจะมีคำพูดแปลก ๆ ที่คุยกันรู้เรื่องอยู่สองคน และคิมหันต์ก็จะมีท่าทีแปลก ๆ หรือขัดเขินทุกครั้ง จนเธอคิดว่าคิมหันต์แอบชอบหรือคิดอะไร ๆ กับคีตภัทร แต่พอถามคิมหันต์ก็ได้รับคำตอบที่จริงจังทั้งสีหน้าท่าทางและคำพูดว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับคีตภัทร และไม่มีวันจะคิดด้วย แถมยังบังคับให้เธอเชื่อและห้ามคิดว่าเขามีใจให้คีตภัทรหรือผู้หญิงที่ไหนอีก



รู้ไว้แค่อย่างเดียวก็พอเลิฟ ว่าคิมไม่มีวันมองหรือรักผู้หญิงคนไหน นอกจาก...



ตอนนั้นคิมหันต์ทำท่าทางเหมือนจะพูดอะไรมากกว่านั้น หากแต่ก็เงียบไปเสียดื้อ ๆ เธอเองก็ไม่กล้าเซ้าซี้ถามต่อเพราะไม่เคยเห็นสีหน้าแววตาขึงเครียดของเขาแบบนั้นมาก่อนตั้งแต่ที่รู้จักกัน



( พอ ๆ แล้วภัทรเป็นไงบ้าง สบายดีไหม ตอนนี้เลิฟพักอยู่ที่บ้านภัทรใช่ไหม ) เขาไม่ได้เจอคีตภัทรเพื่อนสนิทสาวใต้ตาคมของน่ารักคนนั้นมาเกือบสองปี นานพอ ๆ กับน่ารักนั่นแหละ ไม่ได้เจอและก็ไม่ได้ปะทะฝีปากกันด้วย คีตภัทรเป็นคนเดียวที่รู้ว่าขารู้สึกยังไงกับน่ารัก



“ยัยภัทรสบายดี แต่ดูท่าทางเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก คงเพราะต้องทำหน้าที่บริหารโรงแรมของครอบครัวแหละมั้ง” สงสัยจะเพราะพี่ชายคนเดียวมัวแต่อยู่ที่เกาะไม่ยอมไปช่วยงานน้องแน่ ๆ น่ารักเผลดกระหวัดนึกไปถึงผู้ชายที่อยู่ร่วมชายคาอีกครั้ง และเมื่อรู้ตัวก็ต่อว่าตนเองในใจที่คุยกับเพื่อนอยู่แท้ ๆ ยังไปนึกถึงมหาโจรได้



“แต่ตอนนี้เลิฟไม่ได้อยู่กับภัทรหรอก เดี๋ยวสิฟังก่อน...” น่ารักรีบห้ามเมื่อปลายสายส่งเสียงถามแทรกขึ้นมาทันทีที่เธอบอก “ไม่ได้อยู่ที่บ้านของแต่มาอยุ่ที่เกาะของครอบครับยัยภัทรนั่นแหละ เกาะยาตราน่ะคิมรู้จักใช่ไหมล่ะ ส่วนยัยภัทรไม่ได้มาอยู่ด้วยเพราะต้องทำงานที่โรงแรมไง แต่วันหยุดนี่เห็นว่าจะมาหาเลิฟอยู่เหมือนกัน”



น่ารักคุยโทรศัพย์กับคิมหันต์ไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง จนกว่าคิมหันต์จะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดว่าเหตุใดเธอต้องมาอยู่เกาะกลางทะเลคนเดียวโดยไร้คีตภัทร และพอรู้ว่ามาอยู่กับพี่ชายของคีตภัทรคิมหันต์ก็ซักนั่นซักนี่ ยังดีที่เธอไม่ได้บอกว่าอยู่ร่วมบ้านกับมหาโจรคเชนทร์ ไม่งั้นพ่อคนที่สองอย่างคิมหันต์คงได้บ่นและเทศนาไปอีกเป็นชั่วโมง จนสุดท้ายก็ลงท้ายด้วยการที่คิมหันต์บอกว่าจะหาเวลาว่างตามมาพักผ่อนด้วยพร้อมกับช่วยเธอคิดงาน



พอเธอค้านว่ากว่าเขาจะมาเธอคงหมดวันลาพอดี พ่อเพื่อนสนิทเส้นใหญ่ที่เป็นถึงลูกชายเจ้าของบริษัทก็ย้อนมาว่าเขาให้เธอลางานแบบไม่มีกำหนด อีกอย่างนักออกแบบอย่างเธอความจริงก็ไม่ค่อยได้เข้าไปที่ออฟฟิตเท่าไหร่นักหรอก ส่วนมากจะอยู่ทำงานที่บ้านเสียมากกว่า เข้าออฟฟิตทีก็เมื่อตอนนำงานไปส่งนั่นแหละ



ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าเธอโชคดีได้พักร้อนแบบไม่มีกำหนด แต่ก็ไม่แน่อยู่ ๆ อาจจะได้รับซองขาวส่งมาให้ที่บ้านว่านางสาวน่ารัก พ้นจากตำแหน่งพนังงานแผนกออกแบบของบริษัทยักษ์ใหญ่แล้วก็ได้ น่ารักคิดไปพลางยิ้มไป ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำให้สดชื่นเพื่อที่จะออกไปสำรวจรอบ ๆ บ้านสักหน่อย



++++++++++



สวัสดี น่ารัก...น่ารัก...สวัสดี...



เสียงเล็ก ๆ ที่ได้ยินเมื่อเดินออกมาหน้าบ้าน หลังจากที่เพิ่งตื่นจากการเผลอหลับไปภายหลังที่วางสายจากคิมหันต์แล้ว น่ารักหันไปยังทิศทางของเสียง ในทีแรกแสงตะวันยามใกล้ลับขอบฟ้าที่สาดส่องกระทบยอดต้นปาล์มส่งให้ตาพร่า มองไม่ถนัดนัก เห็นเป็นเพียงร่างสูงใหญ่ที่ดูคุ้นเคย จนเมื่อหรี่ตาลงพร้อมกับที่ร่างนั้นเดินเข้ามาใกล้ นัยน์ตาสีดำสนิทที่หรี่ลงในตอนแรกถึงกับเบิกกว้างจ้องมองใบหน้าคนที่เดินมาหยุดอยู่ห่างเพียงช่วงตัวตาโต



“สวัสดี น่ารัก...สวัสดี น่ารัก...”



เสียงแหลมเล็กที่ดังขึ้นปลุกให้น่ารักรู้สึกตัว สายตาคู่หวานสีดำสนิทเลื่อนไปที่ไหลหนาที่ตอนนี้มีนกสีสวยสดใสที่ส่งเสียงเจือแจ้วไม่หยุดปากเกาะอยู่ ตาที่เพิ่งจะกลับสู่ปกติก็เบิกกว้างอีกรอบพร้อมเสียงอุทาน



“อุ๊ย!! พูดได้ด้วย” นกอะไรกันนะ สีสวยด้วยแถมยังพูดได้อีก น่ารักมองเจ้านกน้อยสีสันวดใสอย่างสนใจจนเจ้าของนกที่อุทิศไหล่เป็นคอนให้เจ้านกน้อยเกาะส่งเสียงถอนหายใจดังเฮ้อ เมื่อถูกสัตว์เลี้ยงแสนรักแย่งความสนใจไป



“ตกลงจะทักแต่เจ้าชะเอม ไม่ทักผมบ้างหรือไงคุณ” คเชนทร์ส่งเสียงถามติดจะไม่ชอบใจนัก เขารึอุตส่าห์ทำการถอดรูปเงาะออกจนเป็นพระสังข์ แทนที่นางฟ้าของเขาจะให้ความสนใจ กลับมองเลยไปสนใจเจ้าชะเอมเสียนี่



ตาคู่คมปนหวานเหล่มองเจ้านกน้อย ส่งสายตาให้เป็นนัยว่า...



แกอาจจะถูกโยนลงหม้อ ข้อหาแย่งความสนใจจากนางฟ้าของข้าไป



คำท้วงที่ได้ยินทำให้น่ารักละสายตาจากนกแก้วสีสวย กลับไปมองใบหน้าคมที่ตอนนี้เกลี้ยงเกลาไร้เคราที่รกครึ้มบดบังอย่างเคย และเมื่อมองสบสายตาคู่คมปนหวานสีนิมเหล็กนั่นก็ต้องรีบแบนสายตากลับไปหาเจ้านกน้อยอีกครั้ง แต่ก็เอ่ยทักแก้เก้อไปเสียงเบา



“คะ คุณเองเหรอ นึกว่าใครทำไมถึงได้โกนหนวดโกนเคราเสียล่ะ” พอโกนหนวดเคราออกแทบกลายเป็นคนละคน น่ารักปลายตาเหล่มองอีกนิด ไม่อยากจะเชื่อว่าพอไม่มีหนวดเครา มหาโจรคนนั้นกลับกลายเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาได้ขนาดนี้เลยหรือนี่



“พูดกับผมหรือพูดกับเจ้าชะเอมมันกันล่ะคุณ พูดกับผมก็มองหน้าผมสิ หรือหน้าผมกับเจ้าชะเอมมันเหมือนกันจนคุณแยกไม่ออกหรือไง” คเชนทร์ถามกลับยิ้ม ๆ ระยะที่ห่างกันเพียงช่วงตัวนี้ทำให้เขาเห็นแก้มนวลของนางฟ้าของเขาขึ้นสีระเรื่ออย่างน่าดู และมันทำให้เขารู้สึกดีเป็นบ้า



“ทำไมผมถึงโกนหนวดโกนเคราทิ้งน่ะหรือ...ก็ได้ยินใครบางคนเรียกผมว่ามหาโจร ๆ มันรู้สึกไม่ดีน่ะคุณ ก็หน้าตาผมออกจะพระเอกขนาดนี้ คุณว่างั้นไหม...เอ้า นี่คุณ บอกให้หันมามองหน้าผมไง เลิกจ้องมันได้แล้วเจ้าชะเอมน่ะ” เขาตอบคำถามก่อนจะยกสองมือขึ้นกุมสองข้างแก้มจับให้ใบหน้าหวานซึ้งหันมามองสบตาเขา



น่ารักถูกบังคับด้วยสองมือใหญ่ที่กุมใบหน้าเธอ บังคับให้สบประสานสายตา จะหลับตาหนีก็กลัวเขาว่าให้ทั้งที่ใจจริงอยากจะทำแบบนั้นเหลือเกิน แต่ที่ทำได้ก็เพียงแค่สองใบหน้าคมไปพร้อมกับที่ความร้อนที่พุ่งขึ้นสองแก้มนวล



ผู้ชายตรงหน้าที่บีบบังคับเธออยู่ตอนนี้ มีดวงตาคมกริบหากแต่ก็ดูหวานไปในตัวสีสนิมเหล็กสวยจนน่าอิจฉา รับกับคิ้วหนาสีเข้มที่พาดเฉียงขึ้นไป จมูกคมสันเหมือนเช่นหนุ่มที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางภาคใต้ของประเทศ ริมฝีปากหยักลึกรับกับคางบุ๋ม และที่สะดุดตา...สะดุดใจ จนทำให้เธอใจเต้นตึกตักเหมือนเสียงกลองก็คือลักยิ้มบุ๋มที่ข้างแก้มซ้าย...ยามเมื่อเขายิ้มส่งมาให้อย่างตอนนี้



เขาทำให้เธอใจสั่น...เพราะเธอดันแพ้ผู้ชายที่มีลักยิ้ม...โดยเฉพาะผู้ชายที่หล่อเหลาดั่งองค์เทพปั่นแต่งอย่างผู้ชายตรงหน้าเธอคนนี้





[1] นกแก้วสายพันธุ์มาคอว์ ถือเป็นนกแก้วที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีถิ่นกำเนิดในแม็กซิโกและอเมริกาใต้ มีสีสันสวยงาม มีเสียงร้องที่ดังมาก จงอยปากจะใหญ่เป็นพิเศษ เหนือปากด้านบนจะมีสีขาวเส้นเล็ก ๆ คาดระหว่างปากกับหัว ดวงตามีขนเป็นลายเส้นดำ 4-5 เส้น ขนบริเวณคอจนถึงหน้าอกเป็นสีเหลืองเข้มและขนหางมีสีแดงสด ขนที่ปีกบางทีก็เป็นสีฟ้าและสีเหลืองหรือสีเขียวเหลือง ขาสั้นใหญ่ แข็งแรง ขนาดของนกแก้วมาคอว์มีขนาดตั้งแต่ 32-35 นิ้ว

.........................................................................................................


++++++++++++++++++++++++++++++++++

5/10/2011



นับวันนายหัวของเราก็ยิ่งรุกหนักขึ้นทุกที ๆ แล้วอย่างนี้หนูเลิฟจะรอดไหมนี่ หุหุ >___<





ฝากเรื่อง**เสน่หานางรำด้วยนะคะ**









ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ต.ค. 2554, 14:03:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2554, 14:03:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 2194





<< ตอนที่ 3..โจทย์เก่า..(100%)--ตอนที่ลืมค้า   ตอนที่ 6...คู่กัด...(100%) >>
anOO 5 ต.ค. 2554, 14:53:29 น.
มหาโจรถอดรูปซะแล้ว


ann 5 ต.ค. 2554, 20:01:20 น.
แหม มาแพ้ลักยิ้มเค้าได้นะ อิอิ


violette 6 ต.ค. 2554, 00:57:17 น.
ชอบชะเอมม อิอิ


หมูอ้วน 6 ต.ค. 2554, 12:22:39 น.
หนูเลิฟ เริ่มรักมหาโจรแล้ว หุหุหุ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account