รักสุดท้าย...ที่ปลายดาว
เพราะความเข้าใจผิดในสัมพันธภาพระหว่างสาวสวย ปากจัด กัดเจ็บ อย่าง “ปลายดาว” กับ เพื่อนหนุ่มคาสโนว่า ทำให้เธอต้องตกเป็นจำเลยในสายตาของ “เตชิต” วิศวกรหนุ่มที่(เขาว่ากันว่า) ปากจัด ซ้ำยังกัดเจ็บยิ่งกว่า ผลที่ตามมาก็คือการปะทะคารมกันแบบดุเด็ดเผ็ดร้อนทุกทีที่ประจันหน้า....เรื่องจะยอมเพลี่ยงพล้ำตกเป็นรองอีกฝ่ายน่ะรึ...ไม่มีทางซะหร้อกกกก

แต่เรื่องวุ่นๆชุลมุนหัวใจก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อสนามรบทำท่าจะเปลี่ยนเป็นสนามรัก(ตามสูตรนิยายคลาสสิค^^) ท่ามกลางความอึดอัดขัดใจของเพื่อนหนุ่มคาสโนว่าที่ยุยงส่งเสริมมาแต่ทีแรก แต่ดันเกิดอาการ “หวงของ” ขึ้นมาเสียอย่างนั้น งานนี้ก็เลยมี “ก้าง” ชิ้นใหญ่โผล่ขึ้นมาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว

วิศวกรหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหนทาง “สุดท้ายที่ปลายดาว” ดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่คิด มิหนำซ้ำยังมีเรื่องรัก(ลึกลับ)ในอดีตโผล่ขึ้นมาให้ปวดหัวเพิ่มอีก...

งานนี้เห็นทีต้องลุ้นกันเหนื่อยหน่อยล่ะ!

Tags: กุ๊กกิ๊ก โรแมนติค ปลายดาว เตชิต

ตอน: ตอนที่ 6 << แล้วผมจะเปลี่ยนใจคุณเอง >>

6.

“เกาะเกร็ด” เป็นเกาะเล็กๆที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าน้ำนนท์ เป็นชุมชนมอญเก่าแก่ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและความเจริญศิวิไลซ์ของสังคมไทยในยุคโลกาภิวัฒน์ ในขณะที่โลกพัฒนาเข้าสู่ความล้ำยุคและการสื่อสารไร้พรมแดน ความเรียบและง่ายของวิถีชีวิตผู้คนบนชุมชนเล็กๆแห่งนี้กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ดึงดูดผู้คนให้กลับเข้ามาใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อไปถึงเกาะเกร็ด ปลายดาวพาบรรดา “ลูกทัวร์” นมัสการวัดปรมัยยิกาวาสซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นเจดีย์เอียง “มุเตา” เป็นอันดับแรก ก่อนจะพาชมตลาดและร้านรวงต่างๆซึ่งเต็มไปด้วยอาหารและขนมพื้นบ้านที่หารับประทานได้ยากในปัจจุบัน ยังความตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจให้กับลูกทัวร์หนุ่มสาวผมทองเป็นอันมาก

หลังจากเดินกันจนเหนื่อย ปลายดาวก็พาทุกคนแวะรับประทานขนมจีนเจ้าประจำ ซึ่งมีทั้งขนมจีนที่รับประทานกับน้ำยา และแกงเขียวหวานไก่ ตบท้ายด้วยลอดช่องไทยน้ำกะทิอีกคนละถ้วย บรรยากาศริมน้ำเย็นสบายกับรสชาติอร่อยถูกปากนั้นก็ทำเอาลูกทัวร์พออกพอใจและอิ่มสบายไปตามๆกัน

ระเบียงไม้สีขาวส่วนที่ยื่นออกไปกลางแม่น้ำ เป็นมุมประจำที่ปลายดาวมักจะมายืนให้ลมโกรกเล่นๆหลังจากที่อิ่มท้องแล้ว เธอมาที่นี่บ่อยๆจนเรียกได้ว่าแทบจะทุกสุดสัปดาห์ที่หาที่ไปไม่ค่อยจะเจอ หญิงสาวยื่นหน้าออกไปรับลมกลางแม่น้ำ จนเส้นผมยาวสยายของเธอปลิวว่อน กำลังรับลมเย็นๆอยู่แท้ๆ แต่แล้วเสียงๆหนึ่งที่ดังขึ้นข้างๆ ก็ทำให้โลกส่วนตัวของเธอ กลายเป็นโลกส่วนรวมในที่สุด

“คุณนี่...เห็นตัวเล็กๆอย่างงี้กินเก่งเหมือนกันนะ ผมเห็นคุณทานขนมจีนตั้งสองจาน”

คุณเตชิตเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ ในระยะที่ศีรษะของเธอตรงกับหัวไหล่เขาพอดี ปลายดาวได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายจากเขาอีกแล้ว

“ถ้าอยู่บ้าน ฉันกินเยอะกว่านี้อีกจะบอกให้”

“ยังงั้นเชียวเหรอ” เขาหัวเราะที่เห็นเธอตอบอย่างภาคภูมิ “ผมนึกว่าคุณจะห่วงสวย กลัวอ้วนเสียอีก”

“เมื่อก่อนก็เคยกลัวนะ แต่พอเห็นกับข้าวที่บ้านทีไร ก็อดใจไม่ไหวทุกที พ่อฉันทำกับข้าวอร่อย ใครได้กินก็ติดใจกันทุกคน อร่อยที่สุดในฝั่งธนฯเลยนะจะบอกให้”

“ทำยังไงผมถึงจะได้ทานฝีมือคุณพ่อคุณบ้างนะ”

“อยากกินจริงเหรอ งั้นคุณคงต้องตามไปถึงสวรรค์เลยแหละ อยากไปมั้ยล่ะ ฮิฮิ”

“อ้าว! ขอโทษนะฮะ ผมไม่ทราบว่าท่านเสียแล้ว เสียใจด้วยจริงๆ”

“ไม่เป็นไรค่ะ หลายปีแล้ว เราทำใจกันได้แล้วแหละ ตอนที่พ่อยังอยู่เรากินดีอยู่ดีมาก เพราะพ่อทำแต่ของอร่อยจนน้ำหนักฉันขึ้นทุกปี๊ทุกปี”

“ท้องยุ้งพุงกระสอบฮะ ให้กินช้างอีกสักตัวยังสามารถ”

คนพูดเป็นใครคงไม่ต้องบอก นั่นเองที่ทำให้ปลายดาวต้องผินหลังกลับมาอย่างเสียดาย แล้วก็พบว่านายหนอนกำลังเดินเคียงคู่มากับคุณฝนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทางทั้งคู่ก็ดูไปกันได้ดี คะแนนเขานำโด่งทิ้งห่างคุณเตชิตชนิดไม่เห็นฝุ่น

“เพื่อนๆคุณฝนเขาอยากล่องเรือกันน่ะดาว”

วรนนท์พยักเพยิดไปยังกลุ่มหนุ่มสาวผมทองที่นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ถัดไป หญิงสาวพยักหน้ารับทราบ แล้วจัดการติดต่อให้ทันทีโดยไม่มีอิดเอื้อน เธอหัวเราะต่อกระซิกกับนายท่าอยู่ครู่หนึ่งก็ขึ้นมาบอกทุกคนว่าเรียบร้อย ความสนิทสนมกับคนในพื้นที่ทำให้ทุกอย่างถูกจัดการได้รวดเร็วกว่าที่คิด

“เอาล่ะ เรือพร้อมแล้ว ลงไปกันเถอะ เธอจับแขนคุณฝนด้วยสิหนอน เรือมันโคลงเดี๋ยวจะตกลงไป”

ปลายดาวบอกยิ้มๆ แล้วหลีกทางให้นายหนอนพาหนุ่มๆสาวๆเหล่านั้นลงไปทีละคน

“อ้าว! แล้วเธอไม่ไปด้วยกันหรอกเหรอ”

วรนนท์ถามไปอย่างนั้นเอง เขาคงไม่สนใจหรอกว่าเพื่อนรักจะอยู่หรือไป ในสายตาเขาตอนนี้มีแต่คุณฝนเท่านั้นแหละ ปลายดาวหันไปมองหน้าคุณเต้แล้วเผลอค้อนให้เขาอย่างลืมตัว

“ฉันนั่งบ่อยแล้ว เธอไปเหอะ จะรออยู่แถวนี้แหละ”

“ได้ไงล่ะ...” นัยน์ตานายหนอนมีแวววิตก “ยังงี้คุณเต้ก็ขาดเพื่อนคุยแย่สิ”

ความหมายที่ซ่อนอยู่ในนั้นคือ...หากเธอไม่ไปเสียคนแล้ว ก็ไม่มีใครมาคอยเป็นกันชนให้เขาน่ะสิ ปลายดาวอมยิ้มรู้ทัน...อยากจะบอกว่าสมน้ำหน้า...แต่ไหนแต่ไรไม่เคยสนใจใยดีเธอ ขอเอาคืนซะบ้างเถอะ ทว่ายังไม่ทันตอบว่าอะไร คุณเต้ก็โพล่งออกมาด้วยคำพูดที่เธอเองก็คาดไม่ถึงว่าจะได้ยิน

“ผมขอสละสิทธิ์ด้วยคนนะ”

“อะไรนะ!” ปลายดาวอุทานออกมาลั่น อย่างตกใจ “ทำไมล่ะ ไปสิ สนุกดีออก นั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาน่ะ โอกาสอย่างนี้หายากนะ”

“ไม่ไปด้วยกันเหรอเต้” คุณฝนแทรกขึ้น แววตาหล่อนบอกว่าเสียดายถ้าเขาจะไม่ได้ไปด้วย “ไปกันหลายๆคนน่าสนุกออก เต้น่าจะไป”

“เต้เมาเรือ ขอไม่ไปดีกว่า”

ชายหนุ่มจ้องตาปลายดาวอย่างรู้ทัน แล้วหย่อนกายลงกับม้านั่งหินอ่อนตรงศาลาท่าน้ำอย่างไม่รู้ไม่ชี้ แม้หญิงสาวจะโน้มน้าวเขาสักเพียงใดก็ดูจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเขาไปอย่างสิ้นเชิง


“คุณจะไปไหน?”

คุณเต้เอ่ยถาม เมื่อพยายามสาวเท้าให้ทันสาวร่างเล็กที่ก้าวจ้ำพรวดอยู่ตรงหน้า ปลายดาวทำเสียงจิ๊ออกมาให้เขารู้ว่าเธอรำคาญ ทว่าการหยุดเดินกะทันหันก็มีผลทำให้ชายหนุ่มเดินมาชนเธอดังปั๊ก แต่คนที่เสียหลักก็กลับเป็นเธอเองเสียนี่

“วุ้ย! คนเดินอยู่ข้างหน้าทั้งคน ไม่เห็นหรือไง ชนเข้ามาได้!”

“เอ้า! ก็คุณหยุดกะทันหันแบบนี้ใครจะไปเบรกทันล่ะ”

“แล้วใครใช้ให้คุณตามฉันมา”

“แล้วคุณหนีผมทำไม”

เมื่อเขาเถียงไม่ยอมลดละ ปลายดาวก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย

“ฉันไม่ได้หนี แต่จะไปนวดเท้ารอ...เดินมาตั้งหลายชั่วโมง เมื่อยนะ คุณจะเดินเล่น จะอะไรก็ตามสบายเถอะ อีกตั้งเกือบสองชั่วโมงกว่าพวกนั้นจะกลับมา แล้วค่อยมาเจอกันที่ศาลาท่าน้ำเมื่อกี้”

“ผมไปด้วยสิ”

“แน่ใจเหรอ” เธอเงยหน้ามองเขายิ้มๆ “ที่นี่เขามีแต่นวด...ไม่มีนาบด้วยหรอกนะ จะเสียเที่ยวคุณเปล่าๆน่า”

“พูดงี้ได้ไง คุณเป็นผู้หญิงนะ ไม่น่ารักเลย”

แป่ว!

ปลายดาวรู้สึกขัดใจที่เขาไม่เพียงแต่ไม่รับมุก แต่ยังเผลอมาเทศนาเธอเข้าให้อีก ทำตัวเหมือนพ่อเธอไม่มีผิดทีเดียว หญิงสาวเม้มปากแล้วสะบัดหน้าหนี หากชายหนุ่มรั้งข้อศอกเธอไว้ได้ทัน

“ดาว...เราคุยกันหน่อยนะ”

“ไม่!”

“แต่เรามีเรื่องต้องตกลงกัน”

“อย่ามาทำเป็นพระเอกมิวสิค! ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”

“น่านะ...”

“ไม่! เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน”

“ผมก็ไม่ได้จะคุยเรื่องของเรา...ผมอยากคุยเรื่องฝน”

หญิงสาวหน้าแตกอีกรอบ...อุตส่าห์นึกว่าเขาจะมาง้อเธอด้วยเรื่องอะไรเสียอีก นี่ใจคอเขาจะแกล้งให้เธอหน้าแตกทั้งวี่ทั้งวันหรือไงนะ!

หญิงสาวถอนใจอย่างไม่มีทางเลือก และโดยเฉพาะเมื่อคิวนวดเท้ายังคงยาวเหยียด ศาลาริมน้ำแห่งนั้นจึงกลายเป็นที่ประชุมสมัชชาคนจน(กับคนรวย)ระหว่างเธอกับเขาในที่สุด คุณเต้ในชุดลำลองเรียบง่ายนั่งเอนหลังลงกับพนักม้านั่งตัวยาวด้วยท่าทีสบายอารมณ์ ขณะที่อีกฝ่ายนั่งหน้าหงิกงอบอกบุญไม่รับ

“ผมอยากถามคุณเรื่องนนท์...วรนนท์”

เขาเกริ่นเบาๆแต่ดูจริงจัง ส่วนปลายดาวได้แต่พยักหน้ารับแม้ว่าจะไม่อยากเข้าไปเกี่ยวด้วยสักเท่าไหร่ก็ตาม

“คุณสงสัยอะไรในตัวเขา ทำไมไม่ถามเขา ถามฉันจะได้อะไร”

“ก็ผมอยากถามคุณ ตกลงว่าเขาชอบฝนจริงๆใช่มั้ย”

“จี๋จ๋าขนาดนั้น เขาคงเกลียดกันหรอกมั้ง” เธอตอบแล้วเสมองไปอีกทาง “นี่คุณเต้ ฉันไม่เข้าใจคุณเลย คุณเป็นแฟนประสาอะไร ทำไมปล่อยให้อีหนอนมันทำคะแนนแซงโค้งไม่เห็นฝุ่นแบบนี้ล่ะ ยังงี้อีหนอนก็เอาไปกินพอดี ถึงฉันจะเป็นเพื่อนสนิทกับเขาแต่ก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปกับเขาทั้งหมดหรอกนะ ฉันเตือนเขาแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับคนมีแฟนแล้ว แต่เขาไม่เชื่อเอง ถ้าคุณมีปัญหาอะไรก็ไปเคลียร์กับเขาเองเถอะ ฉันบอกแล้วว่าเรื่องนี้ฉันไม่เกี่ยว”

“คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้หมายถึงฝน ผมหมายถึงวรนนท์...คุณไม่หวงเขาหรือ...ผมคิดว่าเขาเป็นแฟนคุณเสียอีก”

“คุณไปเอาความคิดนี้มาจากไหน ฉันเคยบอกตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าไม่ใช่ คุณต้องจำบ้าง อะไรบ้างนะ ฉันขี้เกียจพูดหลายครั้ง”

“ผมเดาเอาเอง เป็นใครก็ต้องคิดแบบนี้ไม่ใช่หรือ ก็เห็นคุณทีไรก็เห็นเขาทุกที ก็เลยสงสัยที่เขามีคุณอยู่แล้วทั้งคนแต่ยังมาวอแวกับยัยฝนอีก”

“คุณก็เลยเกลียดฉัน เลยหาเรื่องทะเลาะกับฉันงั้นสิ น้ำเน่าสุดๆ ดูละครมากไปหรือเปล่า”

“ผมกับฝนสนิทกันตั้งแต่เด็กๆ พอผมไปอยู่เยอรมัน ฝนเขาก็ไปเยี่ยมทุกปี เขาไม่มีพี่ชายก็เลยรักและติดผมมาก”

“ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับฉันตรงไหนนี่”

“ผมแค่เป็นห่วงเขา”

“แอบรักเขาอยู่ด้วยหรือเปล่าล่ะ ฉันอ่านสายตาคุณออกนะ” หญิงสาวย้อนถามยิ้มๆอย่างรู้ทัน “มิน่า คุณถึงพยายามกันท่าผู้ชายทุกคนที่เข้ามาใกล้คุณฝน...”

“ผมแค่อยากให้เขาได้เจอคนดีๆ”

คิ้วคู่สวยของปลายดาวขมวดเข้าหากันจนชิดอย่างเริ่มจะสับสน...แต่มันก็เพียงครู่เดียวมันก็คลายจากกัน เพราะไม่ว่าเขาจะแอบรักหล่อนอยู่จริงหรือไม่ หรือว่าหล่อนจะมีใครคนอื่นอีกก็ตาม...อย่างไรเสียเรื่องนั้นก็หาได้อยู่ในความสนใจของวรนนท์อยู่ดี แล้วเธอเป็นใครถึงจะต้องมาคอยเป็นกังวลกับเรื่องหัวใจของคนอื่นด้วย ในเมื่อไม่มีตรงไหนที่บอกว่าเกี่ยวข้องกับหัวใจของเธอเลยสักนิด

“เอาเหอะน่า ถ้าคุณคิดแบบนั้นจริงๆ ฉันก็ขอว่าอย่าได้เป็นกังวล ท่าทางนายหนอนเขาชอบคุณฝนจริงๆนะ ไม่ได้คิดจะหลอกลวงหรืออะไรหรอก ฐานะทางบ้านเขาก็ดี นามสกุลเขาพูดไปคุณก็รู้จัก ถึงเขาจะเคยมีประวัติเสียๆอยู่บ้าง แต่ฉันคิดว่าเขาจริงใจกับคุณฝนนะ ฉันไม่เคยเห็นเขาซีเรียสกับใครขนาดนี้มาก่อน มันอาจต้องใช้เวลาที่จะทำให้คุณยอมรับเขา ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะให้โอกาสเขาหรือเปล่าแค่นั้นแหละ”

“ผมเชื่อใจเขาได้มั้ย”

“ได้สิ คุณไม่ต้องห่วงหรอก แล้วฉันจะช่วยดูเขาให้อีกแรง...”

“แล้วผมเชื่อใจคุณได้ใช่มั้ย”

“คุณจะเชื่อฉันหรือไม่ก็ตามใจนะ แต่คนอย่างปลายดาวไม่เคยโกหกใคร ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ฮิฮิ” เธอเผลอหัวเราะออกมาในตอนท้าย “อย่างที่บอก ถึงวรนนท์จะเป็นเพื่อนรักฉัน แต่ก็ใช่ว่าฉันจะเห็นดีเห็นงามกับเขาไปเสียหมด เขาอาจจะมีเหลวไหลไปบ้าง แต่ฉันยืนยันได้ว่าเวลาเวลาที่เขารักใคร...เขารักจริง ฉันคอนเฟิร์ม!”

“งั้นเขาก็เหมือนผม...เพราะเวลาผมรักใคร ผมก็รักจริง”

“แต่คงไม่เหมือนฉัน เพราะฉันไม่ค่อยรักใคร แต่ถ้าเวลาฉันเกลียดใครขึ้นมา ฉันเกลียดจริง!”

เธอพูดชัดถ้อยชัดคำหมายจะให้เขาสำเหนียกได้เองว่า เธอหมายความตามนั้นจริงๆ ทว่าชายหนุ่มกลับหัวเราะร่วนออกมาด้วยท่าทีสบายอกสบายใจ ราวกับถ้อยคำเชือดเฉือนของเธอเป็นเพียงมุกตลกฝืดๆ

“จะมีทางไหนที่ทำให้เราญาติดีกันได้บ้างมั้ย ฮึ”

“อยากตอบว่ามีนะ...” คราวนี้เธอเชิดหน้าตอบจนคอตั้งบ่า “แต่ตอนนี้ยังคิดวิธีไม่ออกจริงๆ”

“ไม่เป็นไร แล้วผมจะเปลี่ยนใจคุณเอง”

“งั้นคุณก็คงต้องรอนานหน่อย...หรือไม่ก็จนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง”

“ก็คอยดูไปแล้วกัน ผมไม่เชื่อหรอก ว่าคุณจะชอบกินบลูเบอรี่ชีสเค้กไปจนแก่ ต้องมีสักวันที่คุณรู้สึกว่าเค้กอื่นมันอร่อยกว่ามั่งแหละ”

“ฉันไม่ใช่คนเปลี่ยนใจอะไรง่ายๆหรอกค่ะ”

“ความรู้สึกคนเรามันเปลี่ยนกันได้ ที่สำคัญ...ผู้ชายดีๆอย่างผมหายากนะ คุณจะไม่ใจอ่อนก็ให้มันรู้ไป”

ปลายดาวขมวดคิ้ว แอบเบ้หน้าให้กับคนหลงตัวเองเป็นที่สุดอย่างเขา

“ผมขอโทษนะ ที่เคยพูดอะไรไม่ดี แล้วก็ทำไม่ดีกับคุณเอาไว้”

“ฉันรับคำขอโทษ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่โกรธในสิ่งที่คุณเคยฉวยโอกาส....ฉันยังจำได้แม่น คุณไม่ควรทำแบบนั้นกับใคร มันบอกว่าคุณไม่แมน ไม่ใช่สุภาพบุรุษ ขอโทษนะที่พูดตรง แต่ฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ”

“ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอีก”

“ไม่ต้องสัญญาหรอกค่ะ เพราะฉันไม่คิดว่าคุณจะมีโอกาสได้ทำแบบนั้นอีก ถ้าจะให้ดี ถ้าเราไม่ต้องเจอกันอีก ฉันก็ว่าจะเพอร์เฟ็คท์มากกว่า”

“ผมเคยบอกคุณไปครั้งหนึ่งแล้วว่าเราต้องได้เจอกันอีก แล้วเราก็ได้เจอกันจริงๆ ถ้าครั้งนี้คุณยืนยันว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก ผมก็เสียใจที่จะบอกว่าผมก็คงต้องขอยืนยันคำเดิมเหมือนกัน”

คำพูดเขาวนไปวนมาก็จริง แต่ไม่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ เขายักคิ้วให้เธอข้างหนึ่งอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ปลายดาวแบะปากอย่างหมั่นไส้ ผู้ชายอย่างเขา...ถึงจะหล่อล้ำ เป็นผู้รากมากดีมาจากไหนยังไง แต่เชื่อมั่นในตัวเองเกินไปแบบนี้ เห็นทีว่าเธอจะไม่ไหวจะรับประทานเสียหรอกกระมัง...



สิริเสาวภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ต.ค. 2554, 21:59:25 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ต.ค. 2554, 21:59:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 1937





<< ตอนที่ 5 <<ผมตัดสินใจแล้ว...ก็ไม่เปลี่ยนใจเหมือนกัน >>   ตอนที่ 7 << แหย่หนวดเสือ >> >>
pseudolife 6 ต.ค. 2554, 22:42:04 น.
คุณเต้นี่ดูรู้ทัน และดักทางหนูดาวได้ตลอดเลยน้า


violette 7 ต.ค. 2554, 01:44:34 น.
สรุปนายเต้มันจีบจริงหรือหยอดๆเนี่ย
ส่วนนายหนอนกับคุณฝนท่าจะยากมั้ยน้า คุณฝนชอบนายเต้แหงม


anOO 7 ต.ค. 2554, 11:52:08 น.
เอาใจช่วยใครดีล่ะ ยัยดาวท่าทางจะใจแข็งน่าดู


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account