สเน่หานางรำ
เธอทำให้เขาร้อน...อยากได้อยากครอบครอง แค่เห็นเธอร่ายรำ นิโคไล กาซิยาส ก็ปราถนาจินตนาการไปว่าถ้าได้นางรำแสนสวยคนนั้นมามาร่ายรำบิดเร้าอยู่ใต้ร่างเขามันจะวิเศษแค่ไหน
(เรื่องนี้มีแค่ความเร้าร้อน....ร้อน...และร้อน เพราะฉะนั้น 20++ ฮับ) >___< (รอตีพิมพ์กับ สนพ.สื่อวรรณกรรม ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 4 (50% หลัง)



ครึ่งหลังมาแล้วคร้าาาาา ^__^


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



“ให้ผมเป็นคนพูดกับคุณพ่อคุณให้ไหม”

นิโคไลขันอาสาเมื่อพาคนึงนิจกลับมาส่งที่บ้านในเวลาเกือบมืด วันนี้เขารู้สึกอิ่มเอมเป็นสุขอย่างที่สุด ผิดกับอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงที่จะก้าวเดิน นิโคไลวาดแขนเกี่ยวเอวกิ่วรั้งไว้ ก่อนจะก้มลงพูดคำพูดที่เรียกเลือดฝาดให้สองแก้มนวล

“ตั้งแต่พรุ่งนี้ผมจะพยายามไม่หักโหมเหมือนวันนี้นะครับที่รัก คุณจะได้ไม่เหนื่อยมาก”

“กะ กลับไปได้แล้ว แล้วอย่าพูดบ้า ๆ แบบนี้อีกนะ” คนบ้า และนอกจากจะบ้าแล้วเขายังหื่นกามเป็นที่สุด คิดมาถึงตรงนี้คนึงนิจก็ต้องรีบเดินหนีเข้าบ้านเมื่อภาพความสนิทสนมที่เพิ่งผ่านมาก่อนหน้านี้ไหลเวียนเข้าสู่ความคิด

“เดินไหวไหม ผมอุ้มดีกว่าไหมครับที่รัก” เสียงทุ้มพูดตามหลัง นิโคไลหัวเราะเบา ๆ พลางมองจนร่างบางหายลับเข้าบ้านไป

เขาติดใจติดหนึบจริง ๆ ด้วยสิ ติดจนคิดว่าจะมีไหมวันที่เขาจะขาดคนึงนิจได้


“ไปถึงไหนกันมาล่ะลูก ถึงได้กลับเสียมืดค่ำ”

เสียงทักของบิดาที่นั่งดูทีวีอยู่บนเรือนทำให้คนึงนิจสะดุ้ง หันไปส่งยิ้มให้บิดาพลางเดินเข้าไปหา

“ก็พอดีพาเค้าไปทานข้าวเย็นไกลไปหน่อยนะจ๊ะก็เลยกลับช้า แล้วพ่อกินอะไรหรือยังจ๊ะ” อ้อมแอ้มตอบออกไป พร้อมกับเดินเข้าไปทรุดตัวนั่งลงใกล้ ๆ

“กินแล้ว คิดว่าลูกคงจะทานมาจากข้างนอกพ่อเลยหาอะไรกินเรียบร้อย แล้วนี่เหนื่อยมากเหรอหน้าตาหนูดูเพลียมาก งั้นไปอาบน้ำนอนพักเถอะไป เดี๋ยวพ่อดูข่าวเสร็จก็จะเข้านอนแล้วเหมือนกัน” หนานคำถามลูกสาวอย่างเป็นห่วง เมื่อสังเกตุเห็นใบหน้าอิดโรยเหมือนคนอ่อนแรงของลูกสาว

“จ๊ะพ่อ เดี่ยวพรุ่งนี้น้ำค้างมีเรื่องจะคุยกับพ่อนะจ๊ะ ตอนนี้น้ำค้างขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อนนะจ๊ะ” แม้อยากจะบอกข่าวดีให้บิดาได้รู้ แค่เมื่อคิดว่ากว่าจะบอกแลพอธิบายจบก็คงจะใช้เวลานานพอสมควร และที่สำคัญที่สุดเธอยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดกับบิดายังไง ให้ท่านไม่ตกใจจนช๊อคไปเสียก่อน

“มีเรื่องสำคัญหรือเปล่าน้ำค้าง พูดตอนนี้ก็ได้นะลูก” หนานคำถามอย่างกังวล เพราะกลัวว่าบุตรสาวจะมีเรื่องไม่สบายใจ

“สำคัญจ๊ะ แต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอกจ๊ะพ่อ เป็นข่าวดี แต่ตอนนี้น้ำค้างง่วงนอนมากเลย ไว้คุยกันพรุ่งนี้นะจ๊ะพ่อ”

“ถ้าไม่ใช่เรื่องร้ายพ่อก็เบาใจ เอาเถอะไว้คุยกันพรุ่งนี้แล้วกัน หนูไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะไป” เมื่อได้ฟังคำยืนยันพร้อมรอยยิ้มของบุตรสาว หนานคำก็โล่งใจ ยกฝ่ามือขึ้นลูบศรีษะบุตรสาวเบา ๆ

“จ๊ะ พ่อก็อย่านอนดึกนักนะจ๊ะ” ส่งยิ้มหวานให้บิดาก่อนจะลุกเดินเข้าห้องตัวเองไป พลางครุ่นคิดว่าคำพูดดี ๆ เพื่อพูดกับบิดาในวันพรุ่งนี้

+++++++++

ร่างสูงของเพื่อนรักที่เดินยิ้มอย่างอารมณ์ดีเข้ามา ทำให้พีรพัทรที่นั่งดูเทปการแข่งขันฟุตบอลฟรีเมียร์ลีกอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในคอนโคหรูหรี่ตามอง ก่อนจะเอ่ยแซว

“แหม ดอดไปเปิดห้องสวีตตั้งแต่เช้า กลับมาอารมณ์ดีเชียวนะ ลูกแมวเหมียวยอมตกหลุมพลางแล้วหรือไง” ดูเสื้อผ้ามันสิ ขนาดใส่เสื้อยืดมันยังยับย่นขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดว่าลูกแมวน้ำค้างจะยับขนาดไหน

“ขอไข่ลวกสักสามสี่ฟองสิแพท กาแฟด้วยนะ แล้วถ้าแกว่างอยู่ก็ทุบไหล่ให้หน่อย” แม้จะไม่ได้ตอบคำถามของเพื่อน แต่คำขอของนิโคไลก็ทำให้พีรพัทรที่เจนจัดในเรื่องนี้เดาได้

“ฉันเป็นคนใช้แกเหรอฮะ ไข่ไม่มีโว้ย ไม่เคยทำอาหาร ส่วนกาแฟนั่นน้ำร้อนไม่ได้เสียบ ดื่มกาแฟกระป๋องในตู้เย็นแล้วกัน” ชี้มือไปทางครัวที่มีตู้เย็นขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเบียร์กระป๋องและกาแฟ

นิโคไลที่เพิ่งจะทรุดนั่งลงตรงโซฟาเดี่ยวใกล้ ๆ จำต้องลูกไปบริการตัวเองอีกครั้ง แล้วยังมีน้ำใจเอามาเผื่ออีกฝ่ายโดยการโยนกระป๋องเบียร์ใส่ศรีษะเพื่อนรักดังโป๊ก

“อีกสองสามวันแกหาบ้านหรือคอนโดแถวนอกเมืองที่เงียบ ๆ ให้ทีสิ” เขาเอ่ยขึ้นเมื่อทรุดนั่งลง

“ทำไม? ใครจะไปอยู่ แกเหรอ แล้วอยู่ที่นี่ด้วยกันมันเป็นอะไรวะ หรือว่า...” จากที่ตั้งท่าจะด่าที่โยนกระป๋องเบียร์ใส่ พีรพัทรก็เปลี่ยนเป็นถามอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อน

“อื้อ แต่ความจริงเป็นความต้องการของน้ำน่ะ” ตอบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่นัยน์ตาพราวระยับเมือ่พูดถึงคนที่เพิ่งจากมา

“อะไรนะ? หมายความว่าไง คุณน้ำค้างจะไปอยู่กับแกด้วยงั้นเหรอ เฮ้ย เค้ายอมไปหรือว่าแกวางแผนจะฉุดเนี่ย” ชะโงกหน้าเข้าไปถามเพื่อนอย่างตกใจแกมสงสัย

“เต็มใจ!! แล้วฉันก็ไม่ได้เลวขนาดนั้น” อารมณ์ดี ๆ ของนิโคไลเริ่มจะเสียเพราะคำพูดของเพราะรักที่ช่างซักไซ้เหมือนเขากับมันเป็นสามีภรรยากันก็ไม่ปาน

“แหม ไม่ได้เลวขนาดนั้น แล้วไอ้ที่ลากเค้าไปปล้ำตั้งแต่วันแรกที่เจอน่ะมันเรียกว่าอะไร” พีรพัทรค่อนขอด เพราะยังอารมณ์เสียไม่หายที่จู่ ๆ สาวที่หมายมองจองมาหลายเดือนถูกเพื่อนรักรวบหัวรวบหางไปอย่างไม่ให้ทันได้เตรียมใจ “แล้วที่พูดเนี่ย หมายความว่า...คุณน้ำค้างเธอยอมรับข้อเสนอของแกแล้วงั้นเหรอ”

“อืม” นิโคไลตอบเพื่อนสั้น ๆ ไม่ได้ขยายความอะไรให้เพื่อนได้รู้อีก ว่ากว่าที่จะตกลงกันรู้เรื่องเขาต้องสรรหาคำพูดคำต่อรองมากมายแค่ไหนเพื่อเกลี่ยกล่อมนางรำแสนสวยคนึงนิจ

เพราะตอนแรกคนึงนิจต่อลองว่าเธอจะมาหาเขาเฉพาะเวลาที่เขาต้องการ จะไม่อยู่ไม่ค้างด้วย เพราะไม่อยากให้บิดารู้ และนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการที่สุด เขาต้องการให้เธออยู่ด้วยตลอดเวลา ทั้งยามหลับและยามตื่น เลยต้องเสียเวลาและกำลังกายออดอ้อนแกมบังคับจนหญิงสาวแทบจะเดินไม่ไหว คิดมาถึงตรงนี้นิโคไลก็ผุดยิ้มพลางอารมณ์ถวิลหาร่างบางที่หอมหวานไปทั้งตัวของคนึงนิจก็เริ่มลุกโชนขึ้น

“แกรู้ตัวมั๊ยนิค ว่าแกปลี่ยนไปมาก ฉันว่าอาการแกมันคงไม่ใช่แค่ความต้องการทางกายอย่างเดียวแล้วล่ะมั้ง ดูสิมีนั่งยิ้มทำตาเหม่อลอย ฉันว่าอาการแกหนักแล้วว่ะ” พีรพัทรถามอย่างจับผิด หากคำตอบที่ได้รับกลับมากลับตรงแสนตรง ไม่มีอ้อมค้อมเลยสักนิด

“ก็...รู้ และก็เพราะรู้ถึงไม่อยากให้อยู่ห่าง” รู้มาตั้งแต่ที่ได้ครอบครองความหอมหวานนั่นแล้ว ว่าเขาคงจะหนีไม่รอดจากอุ้งมือของนางรำแสนสวยจอมพยศอย่างคนึงนิจ

“ฮะ ๆ ๆ ว่าแล้ว ไอ้เสือเอ้ย” พีรพัทรหัวเราะลั่นเมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อน ก่อนจะยกรีโมทขึ้นปิดทีวีเพราะตอนนี้มีเรื่องให้สนใจมากกว่า “ไม่เอียนไม่เบื่อผู้หญิงแล้วเหรอวะ โธ่เอ้ย ทำเป็นพูดดีว่าจะหนีผู้หญิงที่ชอบตามตื้อมาพักผ่อน ที่ไหนได้มาวันแรกก็ตบะแตกฉุดสาวทำเมียซะแล้ว”

“หุบปากไปเลยนะ ถ้าว่างนักก็ช่วยจัดการเรื่องร้านกับโฉนดที่ดินที่พ่อของน้ำเอาไปจำนองกับธนาคารให้ที แล้วสร้างใหม่เอาให้ใหญ่ที่สุดดีที่สุดกว่าทุกที่ในจังหวัดนี้” เสียงเข้มสั่งเพื่อนเพื่อกลบเกลื่อนอาการของตนเอง

“ได้เลยครับผม พ่อบุญทุ่ม” เสียงตอบรับกลั้วหัวเราะของเพื่อนทำให้นิโคไลแทบจะตอบแทนโดยการยกเท้ายันโครมเข้ากลางอก

“เออ ใช่ แล้วพาคุณน้ำค้างไปอยู่ด้วยอย่างนี้ไม่เป็นไรแน่เหรอ ยัยอลิซได้แจ้นมาไทยแน่ถ้ารู้ข่าว แล้วไหนจะสาว ๆ ที่จ้องจะรุมทึ้งแกอีกล่ะ ตัวเล็ก ๆ บอบบางอย่างคุณน้ำน่ะจะไปสู้อะไรยัยพวกนั่นได้” พีรพัทรพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ ถึงสาเหตุที่ทำให้นิโคไลต้องหลบมาพักผ่อนที่ประเทศไทยก็เพราะการตามตื้อตามจิกของนางแบบสาวโรคจิตอย่างอลิซเบธ รวมถึงบรรดาสาวสังคมที่ต่างก็หมายปองมหาเศรษฐีหนุ่มเฟอร์เฟคอย่างนิโคไล กาซิยาส เจ้าของธุรกิจทั้งโรงแรมและห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่มีสาขาอยู่ทั่วทุกมุมโลกกันทั้งนั้น

“คนของฉันฉันดูแลได้น่า” ตอบออกไปอย่างมั่นใจ คนของเขา ผู้หญิงของเขา ไม่มีวันที่เขาจะให้ใครมาแตะต้อง

“บ๊ะ อยากให้คุณน้ำค้างมาได้ยินจริง ๆ คนของฉันฉันดูแลได้” ทำเป็นเก๊กเสียงขรึมเลียนแบบ ก่อนจะแซวต่อ “แน่ใจเร้อ ว่าคุณน้ำค้างเธออยากจะเป็นคนของแกน่ะ บางทีเธออาจจะมีคนรักอยู่แล้วก็ได้นะ”

“ช่างหัว จะมีใครรอก็ปล่อยให้มันรอไป ยังไงน้ำก็ต้องเป็นของฉัน!! “เขาจะเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวในชีวิตของเธอ ใครหน้าไหนเข้ามายุ่งสิเขาจะส่งมันไปลงนรกให้หมด!! ตาคู่คมทอประกายกร้าวขณะคิดว่าจะมีใครมายุ่งกับนางรำของตน

เขาไม่สนว่านางรำแสนสวยอย่างคนึงนิจจะมีใครรออยู่ หรือรักใครชอบใคร รู้อย่างเดียวว่าในเมื่อเธอเป็นของเขาแล้ว ก็ไม่มีสิทธิ์จะชายตามองผู้ชายหน้าไหนได้อีก!!

………………………………
9/10/2011



ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ต.ค. 2554, 23:44:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ต.ค. 2554, 23:44:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 1962





<< ตอนที่ 4 (50% แรก)    ตอนที่ 5...(50% แรก) >>
Auuuu 10 ต.ค. 2554, 00:31:35 น.
ว้าวๆๆๆ ผู้หญิงของฉัน ^^


violette 10 ต.ค. 2554, 00:47:00 น.
เผด็จการสุดๆ คิดเหรอว่าไม่บอกรักแล้วหนูน้ำจะยอม ชริ (เชีบร์มั่วมากเลยค่ะ อิอิ


nutcha 10 ต.ค. 2554, 09:57:11 น.
เมื่อถึงเวลาที่มีคนมาระรานหนูนำค้างจริง ๆ ก็ทำให้ได้อย่างที่พูดไว้นะนิค


หมูอ้วน 10 ต.ค. 2554, 11:00:41 น.
"คนของฉัน ฉันดูแลได้" ไม่รู้ว่าหนูน้ำค้างมาได้ยินประโยคนี้
จะดีใจหรือเสียใจดีแหล่ะเนี่ย


anOO 10 ต.ค. 2554, 11:39:24 น.
อีกเดี๋ยว ตัวมารทั้งหลายต้องโปล่มาจากทั่วสารทิศแน่เลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account