รักสุดท้าย...ที่ปลายดาว
เพราะความเข้าใจผิดในสัมพันธภาพระหว่างสาวสวย ปากจัด กัดเจ็บ อย่าง “ปลายดาว” กับ เพื่อนหนุ่มคาสโนว่า ทำให้เธอต้องตกเป็นจำเลยในสายตาของ “เตชิต” วิศวกรหนุ่มที่(เขาว่ากันว่า) ปากจัด ซ้ำยังกัดเจ็บยิ่งกว่า ผลที่ตามมาก็คือการปะทะคารมกันแบบดุเด็ดเผ็ดร้อนทุกทีที่ประจันหน้า....เรื่องจะยอมเพลี่ยงพล้ำตกเป็นรองอีกฝ่ายน่ะรึ...ไม่มีทางซะหร้อกกกก

แต่เรื่องวุ่นๆชุลมุนหัวใจก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อสนามรบทำท่าจะเปลี่ยนเป็นสนามรัก(ตามสูตรนิยายคลาสสิค^^) ท่ามกลางความอึดอัดขัดใจของเพื่อนหนุ่มคาสโนว่าที่ยุยงส่งเสริมมาแต่ทีแรก แต่ดันเกิดอาการ “หวงของ” ขึ้นมาเสียอย่างนั้น งานนี้ก็เลยมี “ก้าง” ชิ้นใหญ่โผล่ขึ้นมาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว

วิศวกรหนุ่มจะทำอย่างไร เมื่อหนทาง “สุดท้ายที่ปลายดาว” ดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่คิด มิหนำซ้ำยังมีเรื่องรัก(ลึกลับ)ในอดีตโผล่ขึ้นมาให้ปวดหัวเพิ่มอีก...

งานนี้เห็นทีต้องลุ้นกันเหนื่อยหน่อยล่ะ!

Tags: กุ๊กกิ๊ก โรแมนติค ปลายดาว เตชิต

ตอน: ตอนที่ 13 << พรีฮันนีมูน หรือจุดเริ่มต้นของรอยร้าว??? >>

13.

กว่าจะเดินทั่วไท่คังลู่ก็เลยเวลาเที่ยงไปมากแล้วประกอบกับข้าวของที่เสียเงินช็อปปิ้งมาเริ่มมากมายพะเนินเต็มอ้อมแขน ปลายดาวจึงชวนคุณเตชิตกลับเพื่อแพ็คลงในกระเป๋าเดินทางให้เรียบร้อย จะได้ไม่ต้องแยกถุงหิ้วขึ้นเครื่องอีกให้เหนื่อย ชายหนุ่มไม่ขัดข้องและดูเหมือนว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเขาจะตามใจเธอจนเกินไปเสียด้วยซ้ำ

“ผมมีความสุขจัง...ถ้าเป็นไปได้ อยากอยู่ต่ออีกสักวันสองวัน”

เขากระซิบอยู่ข้างหู และทำท่าจะเลยเถิดด้วยการแอบหอมเธออีกสักฟอด แต่ปลายดาวเบี่ยงตัวหลบได้ทัน

“คุณก็อยู่สิ...แต่ดาวต้องกลับก่อน เดี๋ยวโดนไล่ออก”

“ไม่เห็นต้องกลัว...ยังไงผมก็เลี้ยงคุณได้ ไปลาออกเลยยังได้นะ”

“จ้ะ พ่อบุญทุ่ม”

เธอประชดแต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่า ช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเขา ก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขและดีที่สุดสำหรับเธอเหมือนกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าทุกอย่างมีเวลาเป็นของมันเอง และไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา เพราะทันทีที่เครื่องจอดลงที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อตอนใกล้สามทุ่มตามเวลาในประเทศไทย ปลายดาวก็รู้ว่าเวลาแห่งความสุขได้หมดลงแล้ว
เมื่อทั้งคู่เดินออกมาจากช่องตรวจคนเข้าเมือง ปลายดาวก็พบว่าวรนนท์เพื่อนรักยืนทำหล่อรอเธออยู่ตรงประตูทางออกผู้โดยสารขาเข้า แต่รอยยิ้มต้อนรับเธอกลับบ้านก็มีอันต้องเหือดหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่ามีคุณเตชิตเดินเข็นกระเป๋าตามหลังมาด้วย วรนนท์กระชากแขนเธอออกไปคุยอีกมุมหนึ่งอย่างอดรนทนไม่ได้

“หมายความว่าไง”

“อะไร หมายความว่าไง” ปลายดาวถามกลับ ทั้งที่รู้ดีว่าเพื่อนรักหมายถึงอะไร

“คุณเตชิต...เขามากับเธอได้ไง”

“ก็มาเครื่องลำเดียวกัน ก็ต้องกลับด้วยกันสิ”

“อย่ามากวนประสาท” เขามองหน้าเธอย่างคาดโทษ “แอบนัดแนะกันไปเที่ยวใช่ไหม บอกมานะ”

“ประสาทน่าหนอน”

“หรือว่าเธอ...เรียบร้อยโรงเรียนจีนกับเขาไปแล้วใช่มั้ย ไวไฟไปหน่อยมั้ยยะ”

“เดี๋ยวก็ซัดโครมเข้าให้”

ปลายดาวไม่อยากต่อปากต่อด้วยอีก เธอหันไปรับกระเป๋าจากคุณชิตแล้วขอตัวกลับกับวรนนท์เพราะไม่อยากให้เขาเสียน้ำใจไหนๆเขาก็อุตส่าห์มารับทั้งที อีกฝ่ายไม่ขัดข้อง แต่เดินมาโอบไหล่เธออวดสายตาของใครอีกคนในที่นั้นอย่างไม่รู้ไม่ชี้

“ดาวกลับบ้านดีๆนะ แล้วผมจะโทรหา อ้อ! งานเปิดตัวโรงแรมที่หัวหินน่ะ ถ้าดาวยังต้องไปอยู่ผมจะมารับนะ ยังไงบอกผมด้วยละกัน”

“ได้ค่ะ แล้วดาวจะโทรบอก กู้ดไนท์นะคะ”

แม้จะเป็นผู้ชายทั้งแท่ง แต่พอได้ยินประโยคอ่อนหวานจากทั้งคู่ วรนนท์ก็แอบค้อนให้อย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นสายตาอ่อนเชื่อมของเพื่อนสาวที่มีไปถึงอีกฝ่าย ก็ยิ่งทำให้เขาร้อนรนขนาดหนัก

“ทำเป็นสวีท ระวังเหอะ...”

“ระวังอะไร นี่เธออย่ามารุ่มร่ามนะหนอน แล้วนี่เอารถอะไรมา อย่าบอกนะว่ามาแท็กซี่”

“ก็ใช่น่ะสิ”

“แล้วเธอจะเหาะมาทำไมให้เหนื่อย ว่างมากใช่มั้ย”

“เธอไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะดาว ฉันขอเตือน...บางทีอาจมีอะไรที่เธอยังไม่รู้ก็ได้ ดังนั้นเผื่อใจไว้บ้าง ไรบ้างก็ดีนะ”

“อะไรล่ะที่ฉันไม่รู้น่ะ ถ้ารู้ก็บอกมาซี่”

“พูดไปก็สองไพเบี้ย...ฉันไม่พูดให้เหนื่อยหรอก”

ว่าแล้วเขาก็ฉวยกระเป๋าเดินทางเธอมาถือไว้ แล้วเดินนำเธอไปอย่างไม่รู้ไม่ชี้ ทิ้งไว้แต่เพียงคำพูดปริศนาโดยไม่คิดจะขยายความมากไปกว่าที่เป็นอยู่

รู้แต่ว่าหลังจากวันนั้น...วรนนท์ก็เป็นเหมือนเงาตามตัวแบบไม่เคยคิดจะพรากจากเธอไปไหนเลย


กำหนดงานเปิดตัวโรงแรมที่หัวหินไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และคุณเตชิตก็มารับปลายดาวตามสัญญา หลังจากที่เธอได้โทรยืนยันกับเขาว่าอย่างไรเสียก็ต้องเดินทางไปแทนในนามของคุณลักษณาซึ่งยังคงไม่เสร็จสิ้นจากภารกิจการออกเยี่ยมลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ชายหนุ่มมาถึงราวๆแปดโมงเช้า และนั่งรอเธออยู่ที่หน้าบ้านด้วยท่าทีสบายอกสบายใจ จนกระทั่งปลายดาวสะพายกระเป๋าออกมาอย่างพร้อมจะเดินทาง แต่เขากลับถามถึงวรนนท์เสียอย่างนั้น

“อ๋อ...เขาบอกว่าจะออกไปธุระหน่อย เห็นเอากระเป๋าไปด้วย จะกลับบ้านไปง้อคุณหญิงแม่เขาหรือเปล่าก็ไม่รู้ พักนี้เห็นเขาบ่นๆเรื่องไม่มีรถใช้ คงจะขี้เกียจขึ้นมาแล้วมั้ง”

ปลายดาวตอบเขาไปแค่นั้น เพราะเธอก็รู้แค่นั้นจริงๆ จริงอยู่ว่าเธอกับวรนนท์อาจจะอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน แต่เธอไม่เคยไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเขา แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างเหลือเกินที่จะก้าวก่ายเข้ามาในชีวิตเธอก็ตาม

ชายหนุ่มเดินเข้ามาช่วยเธอถือกระเป๋า พร้อมกับถือโอกาสจุ๊บแก้มเธอไปเบาๆหนึ่งที ปลายดาวเบี่ยงตัวหลบไม่ทัน จึงได้แต่เม้มปากอย่างขัดใจ

“คุณนี่...ทำไมชอบฉวยโอกาสจัง” เธอต่อว่า แต่เขากลับยิ้มแฉล้ม

“ผมไม่ได้จะฉวยโอกาสกับใครง่ายๆนะ”

“นี่ฉันต่อว่าคุณอยู่นะ! ยังมายิ้มอีก”

“ครับ...” เขาทำสีหน้ารู้สึกผิด “ผมแค่อดใจไม่ไหว ผมก็แค่อยากหอมแก้มคนที่ผมรัก ผิดด้วยเหรอ”

“คุณพูดว่ารักอีกแล้วนะ ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าเพิ่ง”

“อ้าว! ผมพูดในสิ่งที่ผมรู้สึก ผิดตรงไหน ช่วยบอกหน่อยเหอะ”

“แต่มันบ่อย อีกอย่าง...ฉันเคยบอกแล้วว่ามันเร็วเกินไป”

คำตอบของเธอทำให้เขาต้องปรายตาไปที่นาฬิสวยๆตรงข้อมืออย่างต้องการจะเตือนความจำ แต่เมื่อเห็นว่าเธอไม่มีอารมณ์ขันไปด้วย เขาก็ถอนใจออกมา

“ดาว...นี่เรากำลังจะไปเที่ยวกันนะ ไม่เอาน่า...อย่าชวนทะเลาะสิ”

เขาบีบมือเธอเบาๆ แต่เพียงเท่านี้หญิงสาวก็ยิ้มออก เพราะจริงๆแล้วเธอก็ไม่ได้อยากทะเลาะกับเขาเลยสักนิดเดียว
เมื่อก้าวเข้ามานั่งเคียงคู่กันในรถ คุณเตชิตดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้เธออย่างที่เขาชอบทำ แล้วนั่นก็ทำให้เธออดนึกถึงเรื่องราวแต่หนหลังเมื่อครั้งที่พบกันครั้งแรกเสียไม่ได้ ความเปิ่นเทิ่นทำให้เธอขึ้นรถผิดคันแล้วก็ตามมาด้วยเรื่องวุ่นๆมากมาย ถึงตอนนี้เวลาผ่านมาหลายเดือน ไม่น่าเชื่อว่าจากคนไม่ถูกชะตาเมื่อแรกพบ เขาจะเขยิบมานั่งอยู่กลางหัวใจเธอเสียได้

“ยิ้มอะไร” เขาถามยิ้มๆ ขณะเริ่มออกรถ แต่ปลายดาวไม่ตอบ

“ขำอะไรผมหรือเปล่า ถ้าไม่บอก...ผมหอมจริงๆนะ”

“คุณนี่...ดาวก็แค่นึกถึงวันแรกที่เราเจอกัน วันนั้นคุณกวนประสาทชะมัด”

คราวนี้เขานึกตาม แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นทั้งในแววตาและริมฝีปาก หากไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมา เขายังคงบังคับพวงมาลัยออกมาจากตรอกเล็กๆหน้าหมู่บ้านนั้นอย่างระมัดระวัง

“ทำไมคุณถึงหาเรื่องฉันได้คะ ทั้งที่เราเพิ่งเจอกันวันแรก”

“ก็คุณไม่สนใจผม มัวแต่สวีทกับวรนนท์อยู่นั่นแหละ เรื่องของเรื่องคือฝนเขาขอให้ผมมาดูผ้าปูโต๊ะให้ แล้วจริงๆผมก็รีบ ก็เลยอยากจะจัดการให้เสร็จๆไปซะ แต่ว่าไม่มีใครสนใจผมเลย”

“คุณนึกว่าฉันเป็นแฟนกับนายหนอนจริงๆเหรอคะ”

“ชื่อเสียงเขาเบาอยู่นี่ เรื่องนี้น่ะ” ทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกัน “แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของเราไม่ใช่หรือ”

เขากุมมือเธอไว้ข้างหนึ่ง พร้อมหันมาสบตาเธอด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความมั่นคง แต่ปลายดาวไม่อาจคล้อยตามได้ทั้งหมด จริงอยู่ว่าทุกอย่างที่เป็นตอนนี้มันค่อนข้างดีและออกจะเพอร์เฟ็คท์เกินไปเสียด้วยซ้ำ แต่สำหรับเธอแล้ว...มันยังเร็วและง่ายเกินไปอยู่ดีที่จะยอมรับว่าความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้เกิดขึ้นแล้วอย่างเป็นรูปธรรม

“คุณเตชิตคะ...คุณ...คุณรักฉันจริงๆเหรอคะ”

คำถามไม่ตั้งใจของเธอ เปลี่ยนรอยยิ้มคุณเตชิตไปอย่างสิ้นเชิง

“อย่าถามแบบนี้อีก...ถ้าถามอีก ผมจะโกรธ”

เมื่อเห็นเธอหน้าเสียไปอย่างคนรู้สึกผิด เขาก็หยิบมือขึ้นเธอมาจุมพิตเบาๆอย่างขอลุแก่โทษ

“ไม่เอาน่ะ...อย่าทำหน้าซีเรียสอย่างนั้นซีดาว ถือซะว่าวันนี้เรามาพรีฮันนีมูนกัน เพราะฉะนั้นอย่าพูดเรื่องอะไรที่ทำให้เราต้องทะเลาะกันอีก ถ้าพูดแล้วไม่ฟัง...ผมคงต้องหาวิธีมากำราบคุณนะ รู้ใช่มั้ย...ว่าผมจะทำอะไร”

เขายิ้มให้เธออย่างเจ้าเล่ห์ แต่ปลายดาวก็ชักมือกลับอย่างรู้ทัน...พูดกับตานี่ทีไร ก็มีแต่จะเข้าเนื้อทุกที

พอเห็นเธอทำหน้ามุ่ย เขาก็ดึงมือเธอมาไว้แนบแก้มก่อนจะพลิกฝ่ามือนั้นมาจุมพิตเบาๆ อีกครั้ง

“ผมรักคุณนะดาว...รักมากด้วย ถึงคุณจะไม่อยากได้ยิน แต่ผมก็อยากพูด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะไม่ยอมทนเห็นคุณไปรักคนอื่น ชีวิตคุณต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้นนะ”

หญิงสาวยิ้มกว้างแทนคำตอบของคำพูดประโยคยืดยาวนั้น...

ถามความสมัครใจเธอบ้างก็ได้นะ...ปฏิเสธสักคำมั้ยล่ะ!

โรงแรมหัวหิน แกรนด์ เอ็กซควิไซต์ รีสอร์ทแอนด์สปา(Huahin Grand Exquisite Resort and Spa)เป็นโรงแรมหรูหราห้าดาวที่เปิดตัวด้วยภาพลักษณ์อันทันสมัยแต่คงไว้ซึ่งอารมณ์ของความเป็นรีสอร์ท โรงแรมหรูขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่าสิบไร่และการบริหารงานโดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ซึ่งเป็นชาวต่างชาติทำให้โรงแรมแห่งนี้ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ ยังไม่รวมถึงบรรดาสื่อทั้งในและต่างประเทศที่ให้ความสนใจกันอย่างอึกทึกครึกโครม

งานเปิดตัวอย่างเป็นการมีขึ้นตั้งแต่เช้าและต่อเนื่องไปจนถึงช่วงบ่าย ส่วนงานเลี้ยงดินเนอร์เพื่อขอบคุณบรรดาแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนทุกแขนงจะมีขึ้นอีกครั้งในตอนค่ำ รวมทั้งยังมีการเชิญแขกที่มาพักผ่อนในช่วงนี้ให้เข้าร่วมงานได้ด้วย เพราะแม้โรงแรมจะเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการแต่ก็มีการเปิดให้บริการมาแล้วชั่วระยะหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าด้วยดี

ห้องพักที่ปลายดาวและคุณเตชิตได้รับอภินันทนาการจากทางโรงแรมอยู่ชั้นเดียวกัน ทว่าอยู่กันคนละฟากของอาคาร คุณเตชิตเดินมาส่งเธอที่ห้องก่อนโดยเขาให้เวลาเธอแต่งตัวและรับปากว่าจะมารับอีกครั้งในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้าเพื่อจะลงไปร่วมงานสักครู่หนึ่ง แล้วอาจจะปลีกตัวออกมาซึ่งก็แล้วแต่สถานการณ์จะเอื้ออำนวย

ทว่ายังไม่ทันถึงห้องพัก ขณะที่ประตูลิฟท์ซึ่งกั้นอยู่ระหว่างตัวอาคารทั้งสองเปิดออก คนกลุ่มหนึ่งก็ก้าวพรวดออกมาจากห้องแคบๆนั้น พร้อมเสียงที่ประสานขึ้นพร้อมกันจนแสบแก้วหู

“เซอร์ไพรส์!!!!”

วรนนท์ก้าวออกมายืนท่ามกลางกลุ่มสาวสวยอันประกอบไปด้วยต้นอ้อ ส้มจี๊ด แอ๊ว และอัญชัญ ทุกคนดูสดใสในชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดบ้าง เสื้อแขนกุดบ้าง ที่ล้วนแล้วแต่หลากสีสันสมกับสีของท้องฟ้าทะเลในยามนี้ พอหายจากความตกใจ ความประหลาดใจก็เข้ามาแทนที่

“นี่มากันได้ไง ตกใจหมดเลยนะ”

“ก็เซอร์ไพรส์ไง” ต้นอ้อเป็นคนเฉลย หล่อนมองหน้าคุณเตชิตยิ้มๆ “เซอร์ไพรส์มั้ยคะคุณเต้”

คุณเตชิตหัวเราะขันแทนคำตอบ เวลานี้เรื่องราวระหว่างเธอกับคุณเต้ไม่ใช่ความลับสำหรับต้นอ้ออีกต่อไป

“ฝีมือใคร” ปลายดาวเท้าสะเอวถาม แต่ปรายตาไปที่ใครบางคนอย่างเอาเรื่อง “แหม...บังเอิญมาพักที่เดียวกันเชียวนะพวกเธอ”

“อย่ามาโทษฉัน” วรนนท์รีบปฏิเสธอย่างร้อนตัว “พวกนี้มันอยากมาเซอร์ไพรส์วันเกิดเธอล่วงหน้าต่างหาก”

“วันเกิดฉัน?” ปลายดาวจิ้มหน้าอกตัวเอง “มันผ่านมาตั้งหลายเดือนแล้ว เธอจะฉลองเผื่อปีหน้าเลยงั้นรึ เร็วไปมั้ยยะ”

หญิงสาวประชดแล้วเปลี่ยนนิ้วชี้ไปจิ้มหน้าผากเพื่อนหนุ่มแรงๆอย่างหมั่นไส้ ทำเอาทุกคนในที่นั้นหัวเราะกันครืนที่ชายหนุ่มผู้มากด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกงอย่างเขาพลาดท่าโดนเธอดักคอจนได้...ท่ามกลางเสียงหัวเราะ มีเพียงปลายดาวเท่านั้นที่รู้ ว่าที่แท้มันก็แผนการสกัดดาวรุ่งของเขานี่เอง

เสียงหัวเราะยังไม่ทันจางหาย ประตูลิฟท์ก็เปิดออกอีกครั้ง พร้อมการปรากฏตัวของชายหนุ่มกับสาวสวยที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ในใจใครอีกอย่างน้อยก็สองคนในที่นั้น ปลายดาวจำได้ว่าชายหนุ่มคนนั้นชื่อ “อาร์ท” เป็นสถาปนิกร่วมบริษัทเดียวกับคุณเต้ ส่วนสาวสวยในชุดกระโปรงมัดย้อมยาวกรอมเท้ากับเสื้อกล้ามสีฟ้าสดนั้น ไม่ต้องย้ำก็รู้ว่าคือ “คุณฝน” อดีตรักอันหวานหยดของนายหนอนนั่นเอง

“อ้าว! เต้ มาถึงนานแล้วเหรอ”

อาร์ทเดินเข้ามาตบบ่าเบาๆ คุณเต้พยักหน้าแทนคำตอบ ความสนิทสนมที่มองเห็นทำให้เขาต้องเลื่อนสายตาไปที่คุณฝนอย่างสงสัย อีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะหลบตา แถมยังตอบกลับมาแบบสะเทือนใจคนฟังอีกด้วย

“ไม่เห็นเต้เคยบอกว่าจะมาหัวหิน พอดีคุณอาร์ทเขาชวนฝนมาเที่ยว แล้วฝนว่างพอดี เต้ไม่ว่าอะไรใช่มั้ยจ๊ะ”

คุณเต้ส่ายหน้า แต่ความกังวลที่ปรากฏอยู่ในแววตาก็ยังไม่จางไป แล้วคุณฝนก็ตอกย้ำความรู้สึกดีๆให้เขาอีกครั้งด้วยคำพูดไพเราะหวานหูเหมือนเคย

“ช่วงนี้เต้ไม่ค่อยมีเวลาไปที่ร้าน ฝนก็ได้คุณอาร์ทนี่แหละที่คอยเป็นธุระให้หลายๆอย่าง อย่างเมื่อคืนก่อนฝนภูมิแพ้กำเริบ คุณอาร์ทก็พาไปหาหมอ...เต้ต้องขอบคุณเขานะที่ช่วยดูแลฝนแทนเต้น่ะ”

ท่ามกลางบรรยากาศ(ที่ควรจะ)ชื่นมื่นและอบอวลไปด้วยความรื่นรมย์สนุกสนาน ปลายดาวกลับรู้สึกว่าแววตาของคุณฝนดูเจ็บปวดวูบไหวชอบกล หล่อนหันมายิ้มให้วรนนท์ครู่หนึ่งแต่ก็จบลงที่ตรงนั้นโดยไม่มีแม้คำทักทายออกมาอย่างที่ควรจะเป็น วรนนท์ยิ้มตอบแต่แววตาเขาว่างเปล่าแปลว่าการมาของหล่อนกับชายหนุ่มหน้าเข้มคนนี้ หรือว่าความสนิทสนมอื่นใดที่หล่อนแสดงออกไม่มีผลอะไรกับหัวใจเขาอีกต่อไป

สถาปนิกหนุ่มเป็นคนคลี่คลายสถานการณ์ในที่สุด

“ห้องคุณฝนเดินไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว งั้นผมส่งตรงนี้นะฮะแล้วค่ำๆผมจะมารับลงไปดินเนอร์ด้วยกัน แต่งตัวสวยๆนะฮะ”

คุณฝนยิ้มหวาน แล้วค่อยๆเดินผ่านทุกคนไปด้วยกิริยาสุภาพอ่อนหวาน...

น่าแปลก...ที่ครั้งนี้หล่อนไม่ยอมสบตาปลายดาวเลยจนสักนิดเดียว!


“ฉันคุ้นหน้าผู้หญิงคนเมื่อกี้มากเลย เคยเจอที่ไหนมาก่อนนะ”

ส้มจี๊ดเปิดประเด็นเมื่อกลับเข้ามาประจำยังห้องพัก โดยที่ทุกคนยังคงรวมตัวกันแน่นขนัด ยกเว้นคุณเต้ที่ขอตัวเข้าห้องพักไปแล้ว

“ก็คนที่อีหนอนมันพาไปงานเลี้ยงวันเกิดสามีเธอไง” แอ๊วเตือนความจำ โดยมีอัญชัญคอยเป็นลูกคู่ให้เหมือนเคย

“ใช่ๆ ที่ตอนนั้นเราไปเลี้ยงกันแถวเกษตรนวมินทร์ แล้วอีหนอนมันบังเอิญไปร้านเดียวกันพอดีไงล่ะ”

“อ๋อๆๆๆ แล้วมันก็ทำเท่อวดสาวด้วยการเป็นเจ้ามือมื้อนั้น ฉันกับสามีก็เลยสบายแฮไปเลยใช่มั้ย ฮิๆๆๆ” ส้มจี๊ดหัวเราะชอบใจ

“แล้วฉันกับยัยดาวหายไปไหน” ต้นอ้อโพล่งขึ้นอย่างสงสัยหลังจากที่ได้แต่ฟังมานาน ปกติเธอกับปลายดาวไม่เคยตกสำรวจ

“ก็เธอสองคนติดพาซัพพลายเออร์ไปเลี้ยงข้าวไง” ส้มจี๊ดตอบ แล้วหันมามองหน้าเพื่อนหนุ่มที่ยืนทำหล่ออยู่ริมหน้าต่างอย่างจับผิด “แล้วทำไมคราวนี้เขามากับคนอื่นล่ะ”

“ฉันจะรู้มั้ย” วรนนท์ยักไหล่ “อยากรู้ทำไมไม่ถามเขาล่ะ”

“แร้งส์!” อัญชัญแซวเพื่อนหนุ่ม “ซดแห้วมาแล้วอ่ะสิเพื่อนฉัน”

“เขาเรียกว่าหล่อเลือกได้”

“ใครเลือกใคร? เธอเลือกเขา หรือเขาเลือกเธอ หรือเขาไม่เลือกเธอกันแน่”

“ปากดีนะส้มจี๊ด ฉันยังไม่ได้เฉ่งเรื่องที่เธอหนีฉันไปแต่งงานเลยนะ คบกันอยู่ดีๆล่ะ ทำกันได้”

“ขี้เกียจจะฟังเรื่องเก่าในพงศาวดารแล้ว” อัญชัญตัดบทแล้วเดินมาลูบศีรษะเพื่อนหนุ่มอย่างเอ็นดู “เอาน่า...อกหักก็ยอมรับมา ของมันหักกันได้ จะกลัวทำไม พวกฉันก็ยังอยู่ จะได้เป็นเพื่อนกันโหนคานต่อไป สนุกดีออก”

“ใครจะโหนคานกับพวกเธอ คานทองเป็นของต้องห้ามไม่รู้หรือ” วรนนท์รีบเถียง พร้อมยักไหล่อย่างไม่ยอมเข้าพวก “หล่อๆอย่างฉันนี้เหรอจะขึ้นคาน เชิญพวกเธอโหนคานกันตามสะดวก ฉันขอตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปก่อนล่ะ”

เขาบอกแค่นั้น แล้วก็ขอตัวออกไปยังห้องพักชายโสดซึ่งอยู่ถัดไปอีกห้อง เพื่อขอทำธุระส่วนตัวแล้วจะรีบกลับมาให้บรรดาสาวๆโขกสับอีกครั้ง เมื่อไม่มีใครขัดข้องปลายดาวก็เอ่ยขอตัวบ้าง เธอมีภาระต้องลงไปร่วมงานของโรงแรม แต่ก็สัญญาว่าจะลงไปเพียงครู่เดียวเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท จากนั้นจะขึ้นมารวมหัวเล่นเกม “บวกเลข” อย่างที่เคยทำกันอยู่เนืองๆ ขอเพื่อนๆอย่าได้เป็นกังวล

ห้องพักของปลายดาวที่ทางโรงแรมจัดหาไว้ให้ อยู่เกือบด้านในสุดจะเพื่อความเป็นเอกเทศไม่ปะปนกับบรรดาแขกอื่นๆ หรือเพราะความบังเอิญใดๆก็แล้วแต่ แต่มันก็ทำให้เธอหอบเหนื่อยได้เหมือนกันโดยเฉพาะเมื่อต้องหิ้วกระเป๋าใบเขื่องมาด้วย ในที่สุดความเหนื่อยบวกกับความสวยงามของสถานที่ที่ตกแต่งในสไตล์รีสอร์ท ก็เรียกร้องให้เธอหยุดพักเพื่อชื่นชมกับความสวยและแปลกของต้นไม้เล็กๆในกระถางดินเผาที่วางประดับอยู่ตลอดทางเดินนั่นเสียไม่ได้

ห่างออกไปจากที่ตรงนั้น...มีส่วนหนึ่งของตัวอาคารที่ทอดเป็นระเบียงยื่นออกไปนอกทะเล มองเห็นเส้นขอบฟ้าตัดกับท้องทะเลเขียวปี๋อยู่ลิบๆ แสงตะวันยามบ่ายสาดส่องเหนือน้ำมองเห็นประกายระยิบระยับ ทว่าความร้อนแรงของแสงอาทิตย์จัดจ้านั้นก็ถูกเบรกด้วยลมทะเลที่พัดโชยมาเป็นระยะได้อย่างพอดิบพอดี

ปลายดาวกระชับกระเป๋าบนบ่า แล้วเดินอ้อมไปอีกทางเพื่อจะออกไปสูดลมทะเลให้เต็มปอดที่หน้ามุกแห่งนั้น ทว่าเดินไปยังไม่ทันได้สิบก้าว เสียงคนคุยกันที่เพิ่มดีกรีความดังขึ้นเรื่อยๆก็ตรึงฝีเท้าเธอไว้ได้...

“แต่อาร์ทมันมีแฟนแล้วนะ”

“แล้วมันแปลกตรงไหน...”

“ฝน...นี่ฝนทำอะไรอยู่ รู้ตัวหรือเปล่า”

ปลายดาวยกมือขึ้นปิดปากอย่างประหลาดใจ เมื่อโผล่หน้าไปดูแล้วพบว่าเจ้าของน้ำเสียงคุ้นหูนั้นเป็นคุณเต้จริงๆ และหญิงสาวที่เป็นคู่สนทนาของเขาก็ไม่ได้อยู่ห่างจากการคาดเดาของเธอเท่าไหร่นัก ว่าแต่ทำไมจะต้องมาคุยกันที่นี่ด้วยนะ

“เต้เคยสนใจด้วยหรือ ว่าฝนจะทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร”

“เลิกประชดเต้เสียที...ยังไงเต้ก็ยังห่วงฝน นี่ฝนเป็นอะไร ทำไมทำตัวไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะ”

“ก็เต้ไม่มีเหตุผลกับฝนก่อน เดี๋ยวนี้เต้ไม่เคยมีเวลาให้ฝน ไม่เคยโทรหา...ขนาดวันเกิดฝนเต้ก็ยังลืม”

“ก็เต้งานยุ่ง”

คุณเต้ตอบเสียงแผ่ว อย่างคนรู้สึกผิด แต่ดูเหมือนว่าคำตอบนั้นจะยิ่งทำให้อีกฝ่ายโกรธมากขึ้นไปอีก

“ฝนไม่เชื่อ เต้น่าจะรู้ตัวว่าเพราะอะไร”

“เอาล่ะ...ถ้าฝนว่าเต้ผิด เต้ก็ขอโทษ แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น” ชายหนุ่มทำเสียงเด็ดขาด “เต้ไม่อยากให้ฝนไปยุ่งกับอาร์ท เขาเป็นคนดีก็จริงแต่เขามีแฟนแล้ว...แล้วเขาก็...ช่างเถอะ เอาเป็นว่าเต้ขอเตือน ถ้าฝนอยู่ห่างจากเขาได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”

หวงก้าง...ปลายดาวแอบต่อว่าเขาในใจ

“เต้เปลี่ยนไป”

หล่อนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยแฝงไปด้วยความผิดหวังชัดเจน

“เต้ก็เหมือนเดิมนั่นแหละ” เขาพยายามปลอบประโลม “เต้ขอโทษที่มีเวลาให้ฝนน้อยเกินไป แต่ฝนก็ต้องเข้าใจนะ”

“ตอนที่เต้กลับมาจากเยอรมันใหม่ๆ เต้ดีกับฝนทุกอย่าง เอาใจใส่ฝนทุกอย่าง แต่ตอนนี้...”

“ฝนอย่าคิดมากน่ะ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เต้เคยรู้สึกยังไงกับฝน เต้ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม สาบานได้”

“แต่อย่างน้อยก็ไม่เท่ากับที่ฝนรู้สึก”

คราวนี้มีเสียงสะอื้นแทรกออกมา จนปลายดาวต้องยกมือขึ้นทาบอกอย่างประหลาดใจ

เท้าข้างหนึ่งบอกให้เธอก้าวออกไปจากที่ตรงนั้น ให้ไกลจากเรื่องที่ไม่ควรจะได้ยิน แต่เท้าอีกข้าง...กลับตรึงอยู่กับที่ราวประชด

“เต้คิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีก” น้ำเสียงเขาอ่อนอกอ่อนใจ

“เต้บอกฝนได้มั้ยว่าเพราะอะไร...หรือว่า เพราะใครกันแน่”

“ไม่เกี่ยวกับใครหรอก ถ้าฝนจะพาดพิงไปถึงคนอื่น เต้จะไม่คุยด้วยอีก ถ้าต่อไปนี้ฝนจะทำอะไรเพื่อประชดเต้ ก็ขอให้รู้ไว้เลยว่าไม่มีประโยชน์”

คุณเต้ใจร้าย...

ปลายดาวยังไม่วายแอบต่อว่าในใจ ถึงจะแอบชื่นชมกับความเด็ดเดี่ยวของเขา แต่คิดอีกที...คุณฝนก็เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง หล่อนย่อมมีเลือดเนื้อ มีหัวใจ แล้วถ้ามันเกิดจะโอนเอนไปหาใครสักคนไม่ว่าจะเพราะความรักหรือเพราะความใกล้ชิดเป็นเหตุ...ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลก

แล้วแน่ใจหรือ...ว่าเขาไม่เคยมีใจให้หล่อนมาก่อน หาไม่แล้วผู้หญิงที่ถึงพร้อมไปด้วยรูปร่างหน้าตา กริยามารยาทอ่อนหวานอย่างหล่อนจะกล้าเผยความในใจต่อเขาถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

เสียงสะอื้นดังหนักขึ้นเป็นระลอกๆ จนปลายดาวรู้สึกอิหลักอิเหลื่อที่จะยืนอยู่ตรงนั้นต่อไป ทุกคนล้วนมีปัญหาขึ้นอยู่กับว่าจะแก้ปัญหาให้ออกมาในรูปไหนเท่านั้นเอง แล้วเธอก็เชื่อ...ว่าคุณเต้จะแก้ไขมันได้โดยไม่ให้ใครต้องเจ็บตัว

หญิงสาวยืดตัวตรง ถอนใจออกมาแรงๆเป็นครั้งสุดท้ายและตั้งใจจะเดินออกมาจากที่ตรงนั้น แต่สัญชาติบางอย่างก็บอกให้เธอหันกลับไปมองคนทั้งคู่อีกที แล้วก็พบว่าภาพสุดท้ายที่เห็น...ไม่ต่างอะไรกับไม้หน้าสามที่ฟาดลงมากลางแสกหน้า!

ภาพของชายหนุ่มหญิงสาวที่ยืนแนบชิด พร้อมริมฝีปากที่จรดลงบนริมฝีปากของอีกฝ่าย ทำให้ปลายดาวรู้สึกวิงเวียนเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่นก็ไม่เชิง น่าประหลาดใจตรงที่ว่าเขาเพิ่งคล้ายจะตัดสัมพันธ์หล่อนมาหยกๆ แต่ก็กลับมายืนจูจุ๊บกันหน้าตาเฉย...นี่มันเป็นความสัมพันธ์แบบไหนในโลกกันแน่นะ

หมดกัน...ภาพฝันอันแสนสวยงามและความประทับใจทั้งหมดทั้งมวลที่เซี่ยงไฮ้!

พ้นจากความประหลาดใจ หญิงสาวก็รู้สึกเข่าอ่อนคล้ายจะเป็นลม เรี่ยวแรงหดหายขึ้นมาดื้อๆ หากโชคยังดีที่ฝ่ามือแข็งแรงกำยำของใครบางคนคว้าเธอไว้ได้ทันเวลา...

“หนอน...”

ปลายดาวพูดออกมาได้เท่านั้น ก็เหมือนไร้เรี่ยวแรงจนต้องยึดท่อนแขนเพื่อนหนุ่มไว้เป็นหลักก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆกัน แววตาของวรนนท์มองมาที่เธออย่างเข้าใจ แต่ไม่มีตอนไหนที่บ่งบอกว่าเขาแปลกใจ

“ถึงกับเป็นลมเชียวเรอะเธอ” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะ

“นึกไม่ถึง....เธอเห็นแล้วก็ได้ยินเหมือนที่ฉันได้ยินใช่มั้ย”

“ได้ยิน แต่ฉันรู้มาตั้งนานแล้ว”

“ทุเรศ! รู้แล้วเก็บเงียบเชียว ถ้าฉันถลำลึกไปมากกว่านี้จะทำยังไง”

“ฉันจะบอก หรือปล่อยให้เธอรู้เองก็มีค่าเท่ากัน” เขาไหวไหล่ มองมาที่เธออย่างกรุ้มกริ่ม “ก็ยังไม่สายนี่ รู้แล้วก็ถอนตัวซะ ฉันรอเสียบอยู่”

“อีบ้า!” ปลายดาวทุบเขาไปหนึ่งทีแต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ “ยังมีอารมณ์มาล้อเล่นอีก”

“ใครบอกว่าฉันล้อเล่น เขาจูบกันจริงๆ เธอไม่เห็นเหรอ”

“เบาๆสิ” เธอตีแขนเพื่อนหนุ่ม “เดี๋ยวเขาก็รู้ว่าเราแอบฟังหรอก”

“ไม่ต้องแอบก็เห็น สายตาคุณฝนมันฟ้องไปถึงไหนต่อไหน พวกยัยส้มจี๊ดมาทีหลังตั้งสิบชาติมันยังดูออกเลย คิดกันแบบแฟร้งค์ๆ แบบสมการทั่วไป ถ้าเขาจูบเธอเพราะว่าเขารักเธอ แล้วเธอคิดว่าเขาจะจูบคุณฝนเพราะอะไร ผู้ชายที่รักผู้หญิงพร้อมกันทีเดียวสองคน เธอกล้าเลือกเป็นแฟนเหรอ เป็นฉันล่ะก็ บ๊ายบายก่อนล่ะ”

“แล้วทีเธอล่ะ ฉันเห็นเธอคบผู้หญิงทีละตั้งหลายคน เธอยังทำได้” เธอเถียงไปข้างๆคูๆ แต่ในใจนั้นห่อเหี่ยวอย่างประหลาด

“ฉันไม่เคยบอกว่าใครเป็นแฟน ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตฉันต้องยอมรับความจริงข้อนี้ได้ เราอาจจะพอใจกันในชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็ต้องทำใจว่ามันอาจจะไม่ยาวนาน...ฉันไม่เคยให้ความหวังใคร ไม่เหมือนเรื่องของเธอ”

“ฉัน...”

“ตื่นจากความฝันซะดาว...เขาอาจจะรักเธอ แต่เขาจะเลือกคุณฝน ถ้าไม่ได้รักเขามาก ก็ตัดใจซะ เชื่อฉัน!”

คำพูดแทงใจดำของนายหนอน ไม่ต่างอะไรกับน้ำเย็นจัดๆที่สาดโครมมาที่เธออย่างตั้งใจ แล้วผลของมันก็ทำให้เธอชาไปหมดทั้งร่างตั้งแต่ศีรษะมาจนจรดปลายเท้า...พร้อมอาการเจ็บแสบเหมือนโดนเข็มนับพันเล่มทิ่มแทง
แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเออออห่อหมกกับเขาเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้...ปลายดาวพบว่าตัวเองเถียงไม่ออก

เมื่อวรนนท์พยุงให้เธอลุกขึ้นพร้อมคว้ากระเป๋าไปช่วยสะพายไว้แทน คุณเตชิตก็เดินออกมาจากระเบียงที่แห่งนั้นด้วยท่าทีปรกติธรรมดาไม่มีอะไรผิดสังเกต แม้จะปราศจากเงาคุณฝนตามติดมาด้วย แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น

“เดินกันมาดีๆ ยัยนี่ก็ดันหน้ามืดเป็นลมซะงั้น” วรนนท์ออกตัว เมื่อเห็นคุณเต้มองมาอย่างจับสังเกต “ผมพาปลายดาวไปพักก่อนนะฮะ”

“หน้าซีดจัง เป็นอะไรมากหรือเปล่า”

เขาเดินเข้ามาแตะแขนเธออย่างห่วงใย แต่ปลายดาวผลักมือเขาออกอย่างลืมตัว

“ไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ หนอน...ฉันมึนหัวจะแย่ พาฉันไปหน่อย”

“ดาว”

เขาเรียกชื่อเธอแค่นั้น แม้แววตาจะครุ่นคิดสงสัย แต่เขาก็ไม่ยักตามมาอย่างที่ปลายดาวคาดว่าจะเป็น

เป็นเครื่องยืนยัน...ว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้อินังขังขอบเธอสักเท่าไหร่นัก!




สิริเสาวภา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ต.ค. 2554, 15:27:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ต.ค. 2554, 15:27:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 2149





<< ตอนที่ 12 << ขอเป็นคนสุดท้าย >>   ตอนที่ 14 << มาบอกอะไรป่านนี้??? >> >>
กานต์นวีร์ 20 ต.ค. 2554, 16:37:13 น.
เฮ้ คุณเต้งานเข้าซะแล้ว ชิ้นใหญ๋ซะด้วย
ยัยดาว คุณเต้เขาออกจะทำอะไรชัดเจนจะตาย รู้สึกยังไงก็พูดอย่างนั้น ส่วนนายหนอนอย่าเพิ่งสิยะ


anOO 20 ต.ค. 2554, 17:02:56 น.
อะไรว๊า ไหงเรื่องกลายมาเป็นแบบนี้ล่ะ
คุณฝนชอบคุณเต้ อันนี้พอเข้าใจ นายคุณเต้อธิบายมาด่วน
ยัยฝนคิดไปเองคนเดียวใช่ไหม รีบๆ เคลียร์เลยนะ


violette 21 ต.ค. 2554, 01:30:36 น.
อ้าวเฮ้ย แล้วอีตาคุรเต้ไปจูบฝนทำไม
แต่แสดงว่าคุณฝนคืออดีตรักของคุณเต้ ไหนบอกไม่เคยรักใครงายย
แต่คุณฝนแย่อ่ะยังไม่ยุ่งกับคนมีแฟนแล้วอีก แล้วอีตาอาร์ทก็น่าตบ (ด่ากราดค่ะ ฮ่าๆ


pseudolife 21 ต.ค. 2554, 06:31:01 น.
นั่นสิคุณเต้จูบฝนทำไม จะว่ามุมกล้องก็ไม่ใช่ ภาพที่เห็นเป็นอย่างที่คิดหรือเปล่าน้า


wane 21 ต.ค. 2554, 13:07:35 น.
คุณเต้ ถ้าไม่รีบมาเคลียร์จะเลิกเชียร์แล้วนะ ...เคือง เคือง


Canopus 21 ต.ค. 2554, 20:07:15 น.
เขาอาจจะรักเธอ แต่เขา
จะเลือกคุณฝน โอ๊ย..เจ็บ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account