สเน่หานางรำ
เธอทำให้เขาร้อน...อยากได้อยากครอบครอง แค่เห็นเธอร่ายรำ นิโคไล กาซิยาส ก็ปราถนาจินตนาการไปว่าถ้าได้นางรำแสนสวยคนนั้นมามาร่ายรำบิดเร้าอยู่ใต้ร่างเขามันจะวิเศษแค่ไหน
(เรื่องนี้มีแค่ความเร้าร้อน....ร้อน...และร้อน เพราะฉะนั้น 20++ ฮับ) >___< (รอตีพิมพ์กับ สนพ.สื่อวรรณกรรม ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 7-8..(100%)

บทที่ 7-8

“ เข้าใจแล้ว แล้วตอนนี้ลุงอยู่ไหน เป็นอะไรมากหรือเปล่า ฮัลโหล ลุง!! ลุงหนาน!! ”

พีรพัทรตะโกนถามแต่ก็ได้รับแต่ความเงียบกลับมา จึงหันไปหาเพื่อนที่จ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หลงลืมเรื่องกลุ้มของตนเองไปชั่วคราว

“เกิดเรื่องใหญ่แล้วว่ะไอ้นิค คุณน้ำ...”

“น้ำเป็นอะไร!! “ นิโคไลถามแทรกขึ้น หัวใจเขาเต้นรัวกับคำตอบของเพื่อนที่จะได้ยิน

“คุณน้ำถูกจับไป ไปกันก่อนเดี๋ยวค่อยพูดไประหว่างทาง เฮ้ย ปิดร้านแล้วเกณฑ์พนักงานชายทั้งหมดขับรถตามฉันไป” บอกเพื่อนและตะโกนบอกพนักงานใน ก่อนจะพากันลุกเดินแทบเป็นวิ่งออกไปที่รถ

“ใคร ใครมันจับน้ำไปไอ้แพท” นิโคไลถามเพื่อนทันทีที่ขึ้นไปนั่งข้างคนขับ ในตอนนี้เขาต้องพึ่งพีรพัทรที่เป็นเจ้าถิ่นเท่านั้น ชายหนุ่มนึกหงุดหงิดตัวเองนักที่เหมือนเป็นง่อยไร้อำนาจและความสามารถในต่างบ้านแบบนี้

“ลุงหนานบอกว่าน่าจะเป็นไอ้นิรุจ แต่ทำไมต้องจับคุณน้ำไปด้วยวะ” คำที่ใช้เรียกฝ่ายนั้นไม่สุภาพนัก เนื่องจากไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ในเรื่องธุรกิจและ...ผู้หญิง!!

“นิรุจ? หน้าตามันเป็นยังไง แกรู้จักมันไหม” นิรุจ ชื่อนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหน นิโคไลขมวดคิ้วคิด และเมื่อพีรพัทรบอกเล่าถึงรูปพรรณของอีกฝ่าย ตาคู่คมสีดำรัตติกาลก็วาบขึ้นทันที “ไอ้เวรนั่น!!”

“แกรู้จักมันด้วยเหรอ”

“ก็ไม่เชิง” จากนั้นนิโคไลก็เล่าเรื่องราวก่อนที่เขาจะฉุดคนึงนิจไปครอบครองให้เพื่อนฟัง

“อ้าว ทำไมคราวก่อนไม่เล่าให้หมดวะไอ้นี่” นี่ถ้าเขารู้ว่าเพื่อนเคยมีเรื่องบาดหมางกับไอ้ระยำนั่นก็จะได้เตือนให้ระวังตัวไว้บ้าง “ฉันว่าเห็นทีที่มันเอาตัวคุณน้ำค้างไปคงเพราะแค้นแกแน่ ๆ ไอ้นิค“

คำพูดของพีรพัทรทำให้นิโคไลหน้าเครียดยิ่งกว่าเดิม หัวใจเขาว้าวุ่นไปหมดด้วยความห่วงใยที่มีต่อสาวคนรัก ป่านนี้คนึงนิจจะหวาดกลัวแค่ไหน และจะถูกมันทำอะไรบ้างหรือเปล่า

ถ้ามันกล้าแตะผู้หญิงของเขาแม้ปลายเล็บ เขาเอามันตายแน่!!

“แกรู้ใช่ไหมแพทว่าจะไปช่วยน้ำได้ที่ไหน รู้ใช่ไหม” ตาคู่คมจ้องหน้าเพื่อนที่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถด้วยความเร็วราวกับเหาะอย่างมีหวัง ตอนนี้ในที่ที่ไม่คุ้นเขามืดแปดด้านไปหมด

“คิดว่ารู้” ตอบเพื่อนทั้งที่สายตาไม่ละไปจากถนน “อย่างไอ้ลูกแหง่ที่เอาแต่พึ่งบารมีพ่ออย่างไอ้นิรุจมีทีให้มันทำเรื่องชั่ว ๆ ไม่กี่ที่นักหรอก เดี๋ยวฉันจะให้คนไปดูลุงหนานที่บ้านกับร้าน แล้วอีกส่วนจะไปบุกบ้าน ส.ส นิวัตรกับเรา” จากนั้นก็ยกโทรศัพท์ขึ้นสั่งการกับคนของตน ก่อนจะเหยียบคันเร่งจนมิดมุ่งหน้าสู่เป้าหมายเพราะรู้ว่าเพื่อนรักกำลังร้อนรุ่มเพราะความเป็นห่วงสาวคนรักแค่ไหน

ยิ่งแบบนี้ยิ่งมั่นใจได้ว่านิโคไลเพื่อนเขารักคนึงนิจอย่างไม่ต้องสงสัย

+++++++++++

อีกด้านหนึ่งภายในเรือนไม้สักหลังงามที่อยู่เยื้องไปทางขวาห่างจากเรือนไทยหลังใหญ่เยอะพอสมควรเพราะเจ้าของไม่ต้องการให้คนที่บ้านใหญ่มายุ่งวุ่นวายด้วย ซึ่งเป็นสถานที่ส่วนตัวของนิรุจบุตรชายของ ส.ส นิวัตร ร่างบางของคนึงนิจถูกเชือกไนล่อนมัดมือติดผูกติดกับเสาเตียง มีร่างสูงของหนุ่มตี๋เจ้าของบ้านคร่อมอยู่ นิรุจใช้มือลากไล้ไปตามกรอบหน้าหวานซึ้ง พลางยิ้มอย่างถูกใจ

“คุณนี่สวยไปทั้งตัวเลยนะ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมไอ้ฝรั่งนั่นไม่เบื่อเสียที ซ้ำยังดูท่าจะจริงจังด้วยอีกต่างหาก” และเมื่อสายตาเหลือบเห็นรอยคิสมาร์กแสดงความเป็นเจ้าของตรงซอกคอที่โผล่พ้นจากเสื้อยืดคอปาดก็ทำเสียงครางในลำคอ เลื่อนปลายนิ้วไปลูบไล้เผ่วเบา “อยากรู้จริงว่าคุณเด็ดแค่ไหน ไอ้ฝรั่งนั่นถึงได้ทำรอยไปทั้งตัวแบบนี้”

“อย่านะ!! เอามือออกไปจากตัวฉันนะไอ้เลว!!” คนึงนิจกรีดร้องพลางดิ้นรนจนเชือกเส้นเล็กปาดผิวจนเลือดซึม

“อย่าสะดีดสะดิ้งนักน่า ทำเป็นไม่เคยไปได้ ไอ้ฝรั่งนั่นสอนมากี่กระบวนท่าแล้วล่ะ มาทดลองกับคนบ้านเดียวกันหน่อยเป็นไง ไม่แน่นะถ้าเด็ดจริง ถูกใจ ผมอาจจะเลี้ยงดูคุณเป็นจริงเป็นจังก็ได้” นิรุจแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด และโดยไม่บอกกล่าวเสื้อยืดตัวสวยก็ถูกเขากระชากจนขาดวิ่น เปิดเผยให้เห็นผิวขาวผ่องที่มีเพียงบราเซียสีหวานเท่านั้นที่ปิดปังสิ่งหวงแหนไว้

“ไม่นะ!! อย่า!! กรี๊ด!!” คนึงนิจกรีดเสียงร้องสุดเสียงอย่างหวาดกลัว เมื่อมือของนิรุจจาบจ้วงสัมผัส พร้อมกับริมฝีปากที่ซุกไซ้กับทรวงอกอิ่ม

“ดู ๆ ไปแล้วไอ้ฝรั่งนั่นมันคงจะรักจะหลงคุณเอาการ อยากจะรู้นักว่าถ้ามันจะคลั่งแค่ไหนถ้ารู้ว่าคุณเป็นเมียผมอีกคน ฮะ ๆ ๆ “ เสียงหัวเราะอย่างชอบใจดังลั่น ก่อนที่คนึงนิจจะตะลึงกับคำพูดต่อมา “...วันนั้นมันน่าจะถูกไฟครอกตาย ๆ ไปเสียนะ ทำเป็นเท่ห์วิ่งเข้ากองเพลิงไปช่วยคน ฮึ จะบอกอะไรให้รู้มั๊ยคนสวย เพลิงนั่นน่ะมันไม่ใช่อุบัติเหตุหรอก แต่เป็นอุบัติที่เกิดจากคำสั่งผมเอง”

“วะ ว่ายังไงนะ...นี่คุณ”

“ค่าตอบแทนสำหรับการปฏิเสธผมกับเพื่อน และ...ค่าที่คุณเป็นสาเหตุให้ไอ้ฝรั่งนั่นมาทำกร่างกับผม” ค่าที่มันทำให้เขาวิ่งหนีตายเหมือนหมาข้างถนน ดวงตาเรียวยาววาบขึ้นด้วยความแค้น “เอาล่ะ หมดเวลาพูดคุยกันแล้วคนสวย ได้เวลาที่ผมจะทำให้คุณรู้ว่าคนชาติเดียวกันลีลาเด็ดถึงใจแค่ไหน หึหึ

นิรุจโน้มใบหน้าลงซุกไซ้กับอกอวบอิ่มที่หอมหวานชวนให้อารมณ์ลุกโชน ฝ่ามือก็จาบจ้างสัมผัสอย่างหยาบคาย คนึงนิจทั้งร้องทั้งดิ้นเมื่อมือถูกมัดเท้าก็ยกขึ้นเตะถีบเต็มแรง และก็ไม่พราดเป้าเมื่ออีกฝ่ายประมาทเพราะคิดว่าร่างบางคงสิ้นฤทธิ์เมื่อถูกมัดมือไว้

“แก นังบ้าเอ้ย!!” หนุ่มตี๋ลูก ส.ส.คนดังร้องที่ถูกถีบจนหงายหลังยันกายลุกขึ้นก่อนจะตวาดด้วยอารมณ์โมโห “นุ่มนวลไม่ชอบใช่ไหมอีนี่ ชอบแรง ๆ ซาดิสซ์ก็ไม่บอก มาเดี๋ยวจัดให้” สิ้นคำบอก ฝ่ามือหนัก ๆ ก็ตวัดตบเข้าซีกแก้มนวลสองทีซ้อนจนร่างบางแน่นิ่ง

“ระยำเอ้ย ตบแค่นี้สลบ ทำกูเสียอารมณ์หมด” นิรุจสบถอย่างหยาบคายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสลบไร้สติเสียแล้ว ก่อนจะลุกขึ้นเดินปึงปังออกไปจากห้อง ตะโกนบอกลูกน้องให้เฝ้าหน้าประตูไว้ พร้อมกับสั่งให้ไปเรียกผู้หญิงที่ตัวเองเลี้ยงดูไว้ปรนเปรออารมณ์มาช่วยดับเพลิงอารมณ์ที่คุกรุ่น

“พวกมึงล๊อคห้องแล้วเฝ้าไว้ให้ดี ๆ นะ แล้วพรุ่งนี้กูจะได้ต่อคิว” จากที่นึกว่าจะเลี้ยงดูต่อเพราะถูกใจความสวย แต่เมื่อถูกทำให้โมโหก็ไม่คิดที่จะปราณีอีก

เมื่อสั่งลูกน้องทั้งสามเสร็จก็เดินกระแทกเท้าไปยังห้องนอนใหญ่ที่อยู่อีกฝั่งเพื่อปลดเปลื้องอารมณ์กับสาวน้อยหน้าตาแฉล้มที่เลี้ยงไว้

++++++++++

“ บ้านส่วนตัวมันอยู่ด้านขวานั่น เรือนไม้สักหลังที่เปิดไฟอยู่นั่นแหละ เราคงต้องปีนรั้วด้านข้างฝั่งนั้นเข้าไป ดึกขนาดนี้แล้วพ่อแม่กับคนที่บ้านใหญ่มันคงนอนกันหมดแล้ว ก็ดีไม่งั้นคนสิบกว่าคนของเราอาจจะไม่พอรับมือพวกมัน ”

พีรพัทรบอกเพื่อนเสียงไม่ดังนักพลางให้สัญญาณมือกับกลุ่มคนที่ตามมาสมทบ นิโคไลพยักหน้าเข้าใจ เขามองผ่านรั้วเหล็กที่สูงไม่มากนักเข้าไปที่เรือนใหญ่ที่มีเพียงแสงไฟหน้าบ้านเท่านั้น ผิดกับเรือนไม่สักที่พีรพัทรบอกว่าเป็นบ้านส่วนตัวของนิรุจที่ยังเปิดไฟสว่างโร่ทั้งบ้าน เขาเห็นคนสองคนยืนเฝ้าอยู่หน้าบ้าน และคาดว่าภายในบ้านคงจะมีอีกหลายคน

“ของครับนาย” ลูกน้องคนหนึ่งของพีรพัทรยืนวัตถุสีดำสนิทสองกระบอกให้ผู้เป็นนาย

“ขอบใจคม เอ้าไอ้นิค” บอกลูกน้องก่อนจะยื่นปืนในมือหนึ่งกระบอกให้เพื่อนแต่ก็ต้องดึงมือกลับมาเหมือนเดิมเมื่อได้รับคำตอบจากนิโคไล

“ไม่ต้อง ฉันมี” ตอบเสียงเรียบพลางดึงปืนออกมาจากเอว

“นี่...มาหาฉันแกพกปืนด้วยเหรอไอ้นิด ตกลงแกเป็นนักธุรกิจหรือมาเฟียกันแน่วะเนี่ย” ไม่ใช่ไม่เคยเห็นนิโคไลพกปืนยิงปืนหรอก ตอนอยู่สเปนนักธุรกิจติดอันดับอย่างเพื่อนเขาก็เหมือนคนรวยผู้มีอิทธิพลทั่วไปที่ต้องมีเรื่องบาดหมางจนลงไม้ลงมือไล่ล่าฝ่ากระสุนกันบ้าง แต่นี้มันมาเยี่ยมเขา มาพักผ่อนที่ไทยนะ มันยังพกปืนมาอีก

นิโคไลไม่ตอบแต่เดินนำออกไป พีรพัทรกับคนทั้งหมดจึงเคลื่อนกายตามไปทางมุมมืดด้านหลังของตัวบ้าน กระโดดข้ามรั้งเข้าไปที่ละคน จากนั้นส่วนหนึ่งก็ยืนคุมเชิงคอยดูลาดเลาให้จากมุมมืด สามคนรับหน้าที่ไปจัดการยามสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าบ้าน ส่วนนิโคไลกับพีรพัทรและคนที่เหลือเข้าไปในตัวบ้าน


“อ๊ะ...อา...”

“เยี่ยมไปเลยคนสวย...เร่งอีกนิด...แรงอีกหน่อย...นั่นแหละ...”

เมื่อเข้าไปในตัวบ้านได้ไม่ถึงนาที ก็แว่วได้ยินเสียงครวญครางเล็ดลอดออกมาจากผนังห้องที่กำลังแนบตัวเดินผ่านอยู่ ในวินาทีแรกที่ได้ยินนิโคไลถึงกับตัวแข็งทื่อเมื่อคิดว่าเป็นเสียงของสาวคนรัก หากแต่เมื่อตั้งสติได้ก็ถึงกลับต้องหลับตาระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อฟังดี ๆ แล้วไม่ใช่เสียงหวานที่คุ้นหู จากนั้นก็หันหลังไปมองสบตาพีรพัทรและลูกน้องอีกสี่คน ก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ ทำให้พีรพัทรกับคนที่เหลือถอนหายใจออกมาตาม ๆ กัน เพราะถ้าขืนเป็นอย่างที่คิดกระทิงหนุ่มตรงหน้าคงสติแตกไล่ขวิดล้างบางทุกชีวิตในบริเวณนี้แน่

“เอาไงต่อ” พีรพัทรกระซิบถาม ให้มายืนฟังเสียงครวญครางอย่างนี้มันจั๊กจี้
นิโคไลให้ทำมือให้สัญญาณว่าให้ลูกน้องของพีรพัทรสองคนยืนเฝ้าอยู่ตรงนี้ ส่วนตัวเองกับที่เหลือไปต่อ ทุกคนพยักหน้าทำตาม นิโคไลเดินนำไปยังทิศทางที่ได้ยินเสียงคุยกันดังเว่วมา สักพักเขาก็เห็นชายหน้าเหี้ยมสามคนนั่งสูบบุหรี่บนเอ้าอี้หน้าห้องห้องหนึ่งที่ถูกล๊อคด้วยแม่กุญแจตัวใหญ่ ชายหนุ่มหันไปสบตากับเพื่อนรักและพยักหน้าให้กันอย่างเข้าใจว่า คนึงนิจต้องอยู่ข้างในเป็นแน่

นิโคไลยกปืนขึ้นทำเป็นโหมดเก็บเสียง หากพีรพัทรยกมือขึ้นห้ามไว้เสียก่อนพลางส่ายหัว จากนั้นหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องอีกสองคน

“แม่ง มึงเอ้ย นังดาวนี้เสียงดีจริง ๆ ว่ะ โดนทีไรแม่งครางซะลั่นบ้านทุกที จนกูอยากจะลองเอาสักวัน” เสียงหนึ่งในพวกมันยังคงคุยกันอย่างออกรสชาด ไม่รู้ตัวสักนิดว่าภัยกำลังจะมาเยือน

“รอไปสักพักเดี๋ยวนายรุจก็เบื่อแล้วยกให้พวกเราเหมือนรายอื่น ๆ นั่นแหละวะ ยิ่งตอนนี้ได้นางรำคนสวยนี่มา ไม่แน่พรุ่งนี้อาจจะโละนังดาวมาให้พวกเราได้ลองชิม” อีกคนตอบกลับกลั้วหัวเราะ “แต่กูขอก่อนนะ แม่ง วันก่อนแอบดูลีลานี่เด็ดอย่าบอกใคร”

แล้วพวกมันก็พากันหัวเราะ พลางอัดบุหรี่เข้าปอดอย่างไม่กลัวว่าปอดจะทะลุ มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อเห็นกลุ่มคนสี่คนเดินเข้ามาประชิด จ่อมัจจุราชตรงท้ายทอยเสียแล้ว

“เงียบ!! แล้วเอากุญแจห้องนี้มา” พีรพัทรพูดเสียงเหี้ยมพลางกดปืนจนนักเล็งหัวไม้ตัวใหญ่ตัวสั่น

“คะ คุณแพท” คนที่ถูกปืนจ่อเรียกชื่อยมทูตเสียงสั่น ไม่มีใครไม่รู้จักเพล์บอยรูปหล่อและร่ำรวยอย่างพีรพัทร และที่สำคัญเคยมีเรื่องราวบาดหมางจนเกือบจะฆ่ากันตายมาแล้วกับเจ้านายของตนเอง

“กูบอกให้เงียบ แล้วเอากุญแจมา ไม่งั้นหัวมึงกับเพื่อนและแน่ ไม่เห็นหน้าเพื่อนกูเหรอนั่นน่ะ”

ทั้งสามเหลือบมองใบหน้าคมของชายต่างชาติตัวโตที่จำได้ขึ้นใจว่าเคยซัดพวกเขาให้หอบคาเท้าในเวลาไม่ถึงนาทีมาแล้ว ไอ้เชิดคนที่ดวงดีที่สุดที่รับรู้ถึงรังสีความโกรธกรุ่นในระยะเผาขนตัวชาดิก เมื่อได้ยินเลื่อนปลดไกปืนสะท้อนอยู่ข้างกกหู

“บอกพวกมันให้เปิดประตูเร็ว ๆ แพท ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหว” นิโคไลสั่งเพื่อนเสียงดุดัน แต่ไม่ต้องรอให้พีรพัทรแปลเพราะไอ้เชิดที่เป็นคนถือกุญแจรีบล้วงกุญแจในกระเป๋ากางเกงยื่นให้ด้วยมือสั่น ๆ เพราะรับรู้ได้ว่าคนที่จ่อปืนกับกกหูตัวเองอยู่เอาจริง

ลูกน้องของพีรพัทรคนหนึ่งที่อยู่อยู่กระชากกุญแจไป ก่อนจะทำการไขและเปิดประตูอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต้องรีบปิดแล้วหันมามองหน้าเจ้านายและเพื่อนเจ้านาย

“มีอะไร” สองเสียงประสานกันแต่คนละภาษา นิโคไลใช้สันปืนกระแทกท้ายทอยคนที่เขาจ่อปืนมันอยู่ จนมันล่วงไปนอนตาเหลือกและหมดสติกับพื้น จากนั้นก็ก้าวอย่างรวดเร็วไปที่ประตู เมื่อลูกน้องของพีรพัทรไม่ยอมตอบคำถามเอาแต่ยืนอ้ำอึ้ง

เมื่อประตูถูกเปิดออกนิโคไลก็ถึงกับเบิกตากว้าง ถลาเข้าไปหาร่างบางที่นอนอยู่กลางเตียงกว้างทันที ยิ่งเมื่อเข้าไปทรดนั่งใกล้ ๆ ชายหนุ่มก็แทบจะคำรามออกมากับสภาพของสาวคนรัก คนึงนิจในเวลานี้นอนสลบไสลไม่ได้สติ สองแก้มบวมแดง มีเลือดซึมออกมาตรงมุมปาก และที่ทำให้นิโคไลแทบคลั่งก็คือสภาพช่วงบนที่เกือบเปลือยมีเพียงบราเซียตัวน้อยเท่านั้นที่ปกปิดอยู่ กับเลือดที่ไหลออกมาจากข้อมือบางทั้งสองข้าง นิโคไลถอดเสือยืดของตัวเองใส่คลุมให้ร่างบาง เขานึกอยากจะฆ่าใครก็ตามที่ทำกับเธออย่างนี้

ไอ้นิรุจ แกไม่ได้ตายดีแน่!!

“คุณน้ำค้างเป็นไงบ้างนิค” พีรพัทรจด ๆ จ้อง ๆ อยู่หน้าประตูพอหลังจากจัดการอีกสองคนให้สลบตามเพื่อนมันไป และเห็นว่าน่าจะเข้ามาได้แล้วก็รีบเข้ามาพลางเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง ก่อนจะช่วยนิโคไลแกะเชือกไนล่อนออกจากข้อมือบางอย่างเบามือที่สุด

“แพท แกพาน้ำไปรอที่รถก่อน ฉันจะไปจัดการกับไอ้เวรนั่นแล้วจะตามไป” เมื่อแกะพันธนาการออกเรียบร้อย นิโคไลก็เงยหน้าพูดกับเพื่อนเสียงเรียบ หากแววตากลับลุกโชนโกรธเกรี้ยว

“คม มานี่ พาคุณน้ำค้างไปรอที่รถก่อน” พีรพัทรสั่งการกับลูกน้องอีกทอดหนึ่ง เพราะเห็นท่าทางและอารมณ์ของเพื่อนรักในตอนนี้แล้ว ขืนปล่อยให้มันไปจัดการเอง เพื่อนเขาคงได้ฆ่าคนเป็นแน่ ถึงแม้ว่าด้วยอำนาจเงินและอิทธิพลของนิโคไลและตัวเขาเองจะทำให้ไม่ต้องเดือดร้อนกับปัญหาที่จะตามมาก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่อยากให้เพื่อนต้องมือเปื้อนเลือดสกปรกของไอ้เวรนิรุจ

++++++++++

“เพิ่งเริ่มยกสองไปเมื่อกี้เองครับคุณแพท”

หนึ่งในสองคนที่ถูกสั่งให้ยืนเฝ้าอยู่ข้างห้องอีกฝั่งหนึ่งกระซิบรายงานพลางทำหน้าเซ็ง ที่ต้องมายืนฟังเสียงยั่วอารมณ์ตั้งนานสองนาน เมื่อนิโคไลกับพีรพัทรเดินกลับมาสมทบ แล้วเสียงครวญครางภายในห้องยังคงดำเนินอยู่ ทำให้พีรพัทรเลิกคิ้วขึ้นถาม

“จะเข้าไปถีบมันตกจากสวรรค์หรือจะรอมันตะกายดาวเสร็จก่อน” หนุ่มเพล์บอยถามเพื่อนรักที่ยืนทำหน้านิ่งดวงตาวาววับดุดันอยู่ข้าง ๆ

“เข้าไป” ตอบสั้น ๆ จากนั้นก็ยกเท้าขึ้นถีบบานประตู แต่ประตูไม้สักก็แค่สั่นสะเทือน นิโคไลจึงซ้ำอีกรอบเต็มแรง ซึ่งคราวนี้ประตูที่สลักลวดลายอ่อนช้อยตามแบบฉบับเมืองเหนือ เปิดพลั๊วเอียงกระเร่เท่เกือบหลุด

เผยให้เห็นสองร่างเปล่าเปลือที่หยุดชะงักค้างการกระทำหันมามองทางประตูด้วยสีหน้าตกใจ

“ว๊าย!!” สาวน้อยที่หยุดชะงักการควบขับไปก่อนนี้หน้าร้องอย่างตกใจ หลังจากที่หาเสียงตัวเองเจอ กำลังจะคว้าผ้าห่มที่ตกอยู่มาคลุมกาย หากกลับถูกผลักจากคนที่เธอกำลังควบขับอยู่จนล้มไปนอนข้าง ๆ

นิรุจผุดลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจที่เห็นคนสี่คนพังประตูเข้ามาพร้อมมัจจะราชในมือ และสองในสี่นั้นก็เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มรุ่น ส่วนอีกคนก็เป็นเจ้าของนางรำแสนสวยที่เขาฉุดตัวมาไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้

“พะ พวกแกเข้ามาได้ยังไง ไอ้เชิด ไอ้แสง พวกมึงอยู่ไหน อั่ก!! ตะโกนก้องหาลูกน้อง ก่อนที่เสียงจะขาดหาย หน้าตาแดงก่ำ เมื่อถูกเท้าหนัก ๆ ยกขึ้นกดลำคอไว้

“กล้าดียังไงมาแตะต้องผู้หญิงของฉัน!!” นิโคไลเพิ่มแรงกดตรงปลายเท้าจนอีกฝ่ายหน้าเขียว เขาจึงผ่อนแรงลงและยกเท้าออก แต่ก็เพียงครู่เพราะไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเท้าที่ทั้งใหญ่ทั้งหนักก็กระแทกลิ้นปี่อีกฝ่ายเจ็บจนแทบสลบ

“คุณแพทครับ คมโทรมาบอกว่า ส.ส.นิวัตรกับลูกน้องสี่ห้าคนกำลังมา” หนึ่งในลูกน้องรีบรายงานเมื่อได้รับแจ้งการเคลื่อนไหวภายนอก

“บอกคมให้พาคุณน้ำค้างกลับไปก่อน” พีรพัทรสั่งการทันทีโดยไม่ต้องถามเพื่อน เพราะรู้ดีว่านิโคไลก็คงจะสั่งแบบเดียวกัน เนื่องจากความปลอดภัยของคนึงนิจคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเพื่อนของเขา เมื่อสั่งเสร็จถึงได้เดินเข้าไปหาเพื่อน “นิค พ่อไอ้เวรนี้กำลังมา”

“ก็ให้มันมา” ตอบอย่างไม่ยีระ ตอนนี้ไม่ว่าใครจะใหญ่มาจากไหนเขาไม่สนทั้งนั้น สนอย่างเดียว ไอ้เวรนี่มันต้องตาย!!

แล้วไม่ถึงนาทีหลังจากนั้นกลุ่มคนสี่ห้าคนก็เข้ามาพร้อมอาวุธในมือ หากพีรพัทรและพวกก็เตรียมตัวอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นจึงมีเพียงการยกปืนขึ้นคุมเชิงกันและกันเท่านั้น

“นี่มันอะไรกันคุณพีรพัทร นี่คุณพาใครมาบุกบ้านผม ทำร้ายลูกชายผม!!” ท่าน ส.ส.ตวาดเสียงถามใจนั้นอยากจะถลาเข้าไปหาบุตรชายสุดที่รักหากแต่ปืนที่จ่อศรีษะนิรุจก็ทำให้ต้องยืนนิ่งอยู่กับที่ “บอกคนของคุณปล่อยลูกผมเดี๋ยวนี้คุณพีรพัทร ไม่งั้นพวกคุณได้เข้าไปนอนในคุกกันหนดนี่แน่” ตวาดสั่งเมื่อเห็นใบหน้าของบุตรชายเริ่มเขียวเหมือนคนขาดอากาศหายใจ

“เห็นทีถ้าท่านทำอย่างนั้น คนที่จะไปนอนในคุกก่อนใครคงเป็นลูกชายคนเดียวของท่านนั่นแหละครับ” พีรพัทรตอบกลับเรียบ ๆ ยังคงยืนขนาบข้างเพื่อนรักเหมือนบอร์ดี้การ์ด

“หมายความว่ายังไง คุณกับนิรุจมีเรื่องอะไรกันอีก หรือว่าเรื่องแม่คนนี้” เพราะรู้เรื่องราวในอดีตที่ระหว่างลูกชายกับเพล์บอยหนุ่มคนดังดี ส.ส.นิวัตรจึงถามขึ้นเมื่อเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนเดียวในห้องที่นั่งคุดคู้กอดผ้าห่มอยู่ข้างเตียงในสภาพกึ่งเปลือยไม่ต่างกับลูกชายตัวเอง

“เปล่าหรอกครับ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้แล้วก็ไม่ใช่เรื่องของผมเสียทีเดียว แต่ลูกชายที่เลวสุดขั้วของท่านฉุดคนรักของเพื่อนผมมา แล้วยังให้คนทำร้ายร่างกายผู้อื่นอีก ผมว่าท่านคงไม่อยากจะให้เกิดเรื่องราวในช่วงใกล้เลือกตั้งอย่างนี้หรอกนะครับ

ท่าน ส.ส.นิ่งไปก่อนจะลดเสียงให้อยู่ในโทนปกติทั้งที่ใจนั้นห่วงบุตรชายหนักหนา หากแต่อำนาจหน้าที่ก็สำคัญ

“งั้นก็ช่วยบอกเพื่อนของคุณให้ปล่อยลูกผมก่อนเถอะ นิรุจกำลังจะขาดอากาศหายใจอยู่แล้ว”

“ไว้ชีวิตมันเถอะว่ะนิค อย่าให้เลือดชั่วมาเปื้อนแกเลย” เมื่อเหลือบไปมองก็เห็นจริงดั่งคำพูด พีรพัทรเลยพูดเรียกสติของเพื่อนรักที่กำลังจะกลายร่างเป็นเพชรฆาตส่งคนเลวลงนรก “นิค...คุณน้ำค้างกำลังรอแกอยู่นะ เดี๋ยวเป็นเรื่องราวใหญ่โตคุณน้ำค้างจะเสียหายได้นะ”

นิโคไลยอมยกเท้าออกในที่สุดเมื่อได้ยินชื่อสาวคนรัก หากแต่ก็ยังไม่ยอมจบเสียทีเดียว เขาใช้มือหนาใหญ่ของตนกุมลำคอของอีกฝ่ายที่กำลังไอสำลักอยู่ กระชากขึ้นมาแล้วโน้มใบหน้าลงไปใกล้ ก่อนจะเอ่ยเสียงเหี้ยม

“ถ้าแกเตะผู้หญิงของฉันอีกครั้งล่ะก้อ คราวนี้ฉันไม่ปราณีแกแน่” นิรุจได้ฟังเพียงเท่านั้น โดยไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ กำปั้นหนัก ๆ ก็ซัดลงมาครึ่งปากครึ่งจมูก จนคนที่เพิ่งจะได้รับอากาศหายใจสลบทันที

“รุจ!! แก ไอ้!!” ส.ส.นิวัตรถลาเข้าไปหาลูกชายที่นอนเปลือยสลบน๊อคคาเตียง ก่อนจะหันมาชี้หน้าคนทำด้วยมือสั่นระริก หากแต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยวก็ชะงักคำพูดด่าทอ ได้แต่มองอย่างโกรธเกรี้ยว

“ฝากบอกลูกชายท่านอีกทีนะ ว่าเพื่อนผมมันไม่ได้ใจดีเหมือนผมหรอกที่ให้เรื่องมันจบเงียบหายไปตามกาลเวลา เพราะถ้าหากลูกชายท่านยังคิดจะแตะต้องคนสำคัญของเพื่อนผมอีกล่ะก็ รับรองได้ท่านได้เป็นเจ้าภาพงานศพลูกชายสุดที่รักแน่” พีรพัทรบอกก่อนจะพยักหน้าให้ลูกน้องเดินตามเพื่อนรักออกไป โดยตัวเองเป็นคนสุดท้ายที่คอยคุมเชิงเผื่ออีกฝ่ายจะเล่นไม่ซื่อขึ้นมา

หลังจากผู้บุกรุกจากไปพร้อมกับทิ้งความเสียหายและขายหน้าให้แล้ว ท่าน ส.ส.นิวัตรก็ปรี่เข้าไปหาบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนทันที แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เข้าไปโอ๋ปลอบขวัญเหมือนทุกครั้ง หากแต่มืออวบอูมกลับยกขึ้นตวัดตบฉาดเข้าที่ซีกแก้มของบุตรชายเต็มแรง จนใบหน้าขาวใสของนิรุจที่ตอนนี้บวมเบ่งเพราะฝีมือหนุ่มต่างชาติที่เพิ่งจากไปสบัดไปตามแรง ก่อนที่เสียงตวาดลั่นของท่าน ส.ส.จะดังขึ้น

“นี่แกทำบ้าอะไรหา!! ผู้หญิงมีเกลื่อนเมืองอยากเอาคนไหนแกก็เลือกก็ซื้อมาสิ จะไปยุ่งไปฉุดคนที่ข้องเกี่ยวกับไอ้พีรพัทีมันทำไม เมื่อไหร่แกจะเลิกหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ฉันเสียทีนิรุจ รู้มั๊ยถ้าเรื่องนี้ถึงโรงถึงศาลขึ้นมา หน้าที่การงาน อำนาจฉันคนได้ป่นปี้ไปกับไอ้ลูกไม่รักดีอย่างแก!! “ ตวาดเสร็จก็ถึงกับหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ใบหน้าที่อวบอูมแดงก่ำ

นิรุจมองหน้าบิดาอย่างตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อว่าบิดาที่ตามอกตามใจเขามาตลอด อยากได้อะไรไม่เคยขัดกลับช่วยเหลือและสรรหามาให้ไม่เคยขาด จะถึงกับตบหน้าเขา แค่ถูกไอ้ฝรั่งต่างชาตินั่นซ้อมปางตายเขาก็แค้นแสนแค้น นี่มันยังทำให้เขาถูกพ่อด่าว่าและทำร้ายอีก รู้อย่างนี้เขาน่าจะเล่นงานมันแทนที่จะเป็นผู้หญิงของมันอย่างที่ผ่านมา ใบหน้าที่บวมปูดแข็งกว้าง ดวงตาทอประกายอาฆาตมาดร้ายจนคนเป็นพ่อเห็นถึงกับตวาดใส่อีกรอบ

“แกหยุดเลยนะไอ้รุจ หยุดคิดหยุดทำอะไรทั้งนั้น ฉันขอสั่งเลยนะถ้าแกกล้าขัดคำสั่งฉันล่ะก้อไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพ่อ แล้วก็ไม่ต้องมาอยู่ร่วมบ้านร่วมบริเวณกันอีกต่อไป!!” ส.ส.นิวัตรยกมือชี้หน้าบุตรชายคนเดียวที่ช่างสรรหาแต่เรื่องเดือดร้อนมาให้

“พ่อ!! มันทำร้ายผมถึงขนาดนี้พ่อยังจะให้ผมปล่อยมันอีกเหรอ ผมลูกพ่อนะ แม่งเอ้ย!! รู้งี้คราวก่อนสั่งเผาคอนโดที่ไอ้สองคนนั่นพักอยู่ก็ดีหรอก ไม่น่าไปเผาแค่ร้านกระจอก ๆ นั่นเลย ไห้ตายสิวะ!!”

“แกพูดอะไรนิรุจ สั่งเผาอะไรของแก...นี่อย่าบอกนะว่าแกทำเรื่องระยำอะไรมากกว่าฉุดผู้หญิงของเพื่อนไอ้พีรพัทรมันมาน่ะ”

“พ่อเห็นไอ้เวรนั่นมันสำคัญกว่าผมหรือไง!! ถึงจะเดือดร้อนนัก” นิรุจตวาดใส่บิดาอย่างโมโห พลางพยายามยันกายลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก

“ฉันไม่ได้เห็นใครดีกว่าแก ก็เพราะแกเป็นลูก เพราะฉันห่วงแกนั่นแหละถึงได้ห้าม แกลืมไปแล้วหรือว่าไอ้พีรพัทรมันเป็นใคร อิทธิพลมันมีมากแค่ไหน เมื่อก่อนตอนที่แกมีเรื่องกับมันขนาดตอนนั้นมันอายุแค่สิบเก้ายี่สิบ มันยังเล่นเสียบ้านเราเกือบพินาจ แล้วตอนนี้มันยิ่งใหญ่กว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อนแค่ไหนแกก็เห็น ไม่ต้องให้เดาเลยถ้าขืนแกไปยุ่งกับมันหรือเพื่อนมันอีกล่ะก็ แกได้เหลือแต่ชื่อแน่”

ความคิดของท่าน ส.ส.คนดังกระหวัดไปถึงเหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปีก่อนแล้วก็ถึงกับเสียวสันหลัง ขนาดตอนนั้นไอ้เด็กพีรพัทรมันยังเป็นแค่ลูกพ่อเลี้ยงธรรมดา ๆ ฐานะแค่ปานกลางไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก แต่ในตอนนี้มันแกร่งและมีอิทธิพลเหลือเกินในจังหวัดเชียงใหม่รวมถึงภาคเหนือ และเพื่อนมันไอ้หนุ่มต่างชาตนั่นแค่เห็นเขาก็ดูออกว่ามันคงไม่ธรรมดา ท่าทางมันดุดัน เย่อหยิ่ง และทรงอำนาจเสียขนาดนั้น เมื่อกี้แต่เห็นสายตาของมันเขาก็รู้ว่ามันสามารถลั่นไกปืนโดยไม่สนและไม่เกรงกลัวกฏหมายบ้านเมืองอะไรทั้งนั้น คิดมาถึงตรงนี้ขนอ่อนท้ายทอยของท่าน ส.ส.ก้ถึงกับลุกชัน เอ่ยย้ำกับบุตรชายเสียงเข้มอีกครั้ง

“ทำตามที่พ่อสั่งนะนิรุจ อาทิตย์หน้าลงไปอยู่ใต้ช่วยคุมงานทางนั้นให้พ่อหน่อย เลือกตั้งเสร็จเมื่อไหร่คอยกลับขึ้นมา พ่อไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด งานนี้ถ้าสำเร็จแกมีเงินไปซื้อผู้หญิงที่ไหนมากกก็ได้อีกเป็นสิบเป็นร้อย เพราะฉะนั้นเลิกยุ่งกับไอ้พีรพัทรกับเพื่อนมันเสีย เข้าใจไหม” ดวงตาเรียวเล็กที่ฉายแววเจ้าเล่ห์เช่นเดียวกันจ้องหน้าบุตรชายอย่างบังคับ นิรุจเม้มปากขบกรามแน่นเกือบนาทีกว่าจะยอมพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ หากแต่ก็ยังมีข้อแม้

“แต่ถ้าเสร็จจากเลือกตั้งพ่ออย่าขวางหรือห้ามผมแล้วกัน ถ้าผมจะคิดบัญชีกับพวกมัน” ตอนนี้ยอมทำตามที่บิดาสั่งไปก่อนก็ดีเหมือนกัน เพราะถึงยังไงสภาพตอนนี้เขาก็คงยังทำอะไรไม่ได้มากนัก และที่สำคัญจะคิดจะทำอะไรพวกมันอีกทีเขาคงต้องวางแผนให้รอบคอบเป็นสองเท่า

ลูกชายท่าน ส.ส.ข่มความเจ็บแค้นที่ถูกเลานงานเอาไว้ชั่วคราว รอเวลาและความพร้อมเพื่อที่จะเอาคืนศัตรูคู่อาฆาตรายเก่าและรายใหม่ให้สาสม

.................................................................................................................

บทที่ 8

“ กรี๊ด!! อย่านะ!! ”

ร่างบางดิ้นรนพลางกรีดร้องเสียงดังอยู่กลางเตียงกว้าง ร้อนให้คนที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงต้องรีบจับไว้ หากยิ่งจับยิ่งกอดอีกฝ่ายก็ยิ่งกรีดเสียงร้องอย่างหวาดกลัว

“น้ำ!! น้ำค้าง!! ผมเอง นิโคไล นิคของคุณ” นิโคไลกอดร่างบองไว้แนบอกพลางเรียกเสียงดังอย่างต้องการให้อีกฝ่ายได้สติ

คนึงนิจนิ่งเงียบสักพัก พยายามเรียกสติกลับคืน เมื่อรับรู้ว่าอ้อมกอดที่โอบรัดอยู่เป็นอ้อมกอดอบอุ่นที่คุ้นเคย ตาคู่หวานก็ลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนจะผละออกเล็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองใบหนาเจ้าของอ้อมกอด

“...นิค” พอแน่ใจแล้วว่าเป็นเขา ก็โผเข้ากอดซบหน้าลงกับอกอบอุ่น ร้องไห้โฮด้วยความหวาดกลัวกับสิ่งที่พบเจอ “น้ำกลัว นิค น้ำกลัว ฮือ ๆ “

“ไม่เป็นไรแล้วที่รัก ไม่ต้องกลัว ผมอยู่ตรงนี้ อยู่ที่นี่กับคุณแล้วคนดี” เสียงทุ้มเอ่ยปลอบอย่างอ่อนโยน พลางแนบริมฝีปากลงจุบพิตขมับอย่างปลอบขวัญ “มันไม่มีอะไรแล้วที่รัก...”

น้ำเสียงอ่อนโยนและสัมผัสอบอุ่นทำให้ความกลัวเริ่มเบาบาง แต่เมื่อนึกบางสิ่งขึ้นได้ก็รีบผละออกเพื่อเงยหน้าบอกให้เขาได้รู้

“นิคคะ เรื่องไฟไหม้ที่ร้านคราวก่อนมันไม่ใช่อุบัติเหตุ ไอ้นิรุจเป็นคนบงการทั้งหมด“ ใช้คำเรียกขานคนชั่วอย่างเกลียดชัง

จากนั้นคนึงนิจก็เล่าสิ่งที่นิรุจพูดทั้งหมดให้นิโคไลฟัง ชายหนุ่มขบกรามแน่นจนเป็นสันนูนด้วยแรงโทสะ

“ไม่ต้องห่วง ผมจะเอาคืนให้คุณเอง” บอกเสียงเหี้ยม พลางคิดว่าเมื่อคืนเขาน่าจะซัดมันให้หนักกว่านั้น แต่เอาเถอะเดี๋ยวอีกไม่นานเขาก็จะเอาคืนมันให้สาสม

“ใช่ แล้วพ่อล่ะคะ พ่อของน้ำ!! นิคคะ พ่อ...“ น้ำเสียงร้อนรนถามออกไปเมื่อภาพที่บิดาถูกทำร้ายก่อนที่เธอจะถูกคนของนิรุจจับตัวไป

“พ่อคุณไม่เป็นอะไรมากครับ หัวแตก ตอนนี้ผมให้นอนพักอยู่โรงพยาบาลเพราะท่านเพลีย” รีบบอกก่อนที่อีกฝ่ายจะฟูมฟายมากไปกว่านี้ เพราะตอนนี้ใบหน้าหวานซีดลงแทบจะไม่มีสีเลือดอยู่แล้ว “เดี๋ยวน้ำพักผ่อนอีกนิด แล้วสาย ๆ เราค่อยไปเยี่ยมท่านกันนะครับ”

“ไม่คะ น้ำอยากไปหาพ่อตอนนี้” แม้จะได้ยินว่าบิดาไม่เป็นอะไรมาก แต่ถ้าไม่เห็นกับตาเธอก็ไม่สบายใจ

“อย่าดื้อสิครับ นอนพักก่อน ตอนนี้หน้าน้ำซีดมากเลยรู้ไหม ถ้าคุณพ่อน้ำเจอน้ำตอนนี้ท่านอาจจะเป็นห่วงนะครับ เชื่อผมสักครั้งนะคนดี นอนพักสักสองชั่วโมงแล้วผมจะพาไป” นิโคไลไม่ยอมตามใจเพราะความห่วงใย มือหนาดันร่างบอบบางให้นอนลง โดยที่ตัวเองล้มตัวลงนอนตะแคงข้าง ๆ โอบกอดร่างบางไว้แนบอก ใช้แขนต่างหมอนให้เธอหนุนนอน

“ก็ได้ค่ะ แค่สองชั่วโมงนะคะ น้ำเป็นห่วงพ่อ” คนึงนิจรับคำในที่สุดเพราะรู้ว่าดื้อไปก็ไม่เป็นผล พลางยกมือโอบกอดรอบเอวสอบ ซุกหน้าเข้ากับอกอบอุ่น หลับตาลงอย่างเป็นสุข เธอรู้สึกปลอยภัยเสมอเมื่อยามที่อยู่ในอ้อมกอดของนิโคไล

“ว่าง่ายอย่างนี้ผมให้รางวัลหน่อยดีไหมเนี่ย...ผมพูดจริง ๆ นะถ้ายังไม่หยุดลูบเอวปลุกอารมณ์ผมล่ะก้อ จากที่จะได้พักน้ำอาจจะเหนื่อยกว่าเดิมก็ได้นะครับ” บอกปนเสียงหอบหายใจแรง เมื่อมือน้อยนุ่มนิ่มที่ลูบไล้เผ่วเบาตรงเอวและสีข้าง กำลังปลุกเร้าอารมณ์บางอย่างในกายในคุกรุ่น

“น้ำไม่เหนื่อย...นิคช่วย...ลบสัมผัสของไอ้คนเลวนั่นให้น้ำทีได้ไหม” พูดขอเสียงเบาด้วยความอาย หากแต่เธออยากจะให้เขาช่วยทำให้ความรู้สึกที่เหมือนมีสัมผัสที่น่าขยะแขยะจากคนชั่วตามเนื้อตัวหายไป

เมื่อได้ยินดังนั้น นิโคไลก็ผุดลุกขึ้นนั่งเมื่อได้ยินว่าไอ้สารเลวนิรุจนั่นมันแตะต้องนางรำแสนสวยของเขา

“ไอ้สารเลวนั่นมันทำอะไรน้ำ บ้าเอ้ย ผมน่าจะฆ่ามันให้ตายตกนรกไปเสีย ไอ้...” นิโคไลสบถหยาบคาย และคงจะโมโหกรุ่นโกรธมากกว่านั้นถ้ามือบางไม่ยกขึ้นทาบปิดริมฝีปากเขาไว้เสียก่อน

“นิคคะ เขายังไม่ได้ทำอะไรน้ำมากมายอย่างที่นิคคิดสักหน่อย แค่นิดหน่อยเท่านั้น” เอาไปเอามากลายเป็นเธอต้องมาปลอบเขาแทนที่จะเป็นฝ่ายถูกปลอบ

“มันแตะต้องน้ำตรงไหนบ้าง บอกผม” อีกฝ่ายเหมือนไม่ฟัง นิโคไลเท้าแขนคร่อมร่างบางไว้ เอ่ยถามเสียงจริงจัง

“เอ่อ ก็...” เป็นคนึงนิจเองที่อึกอัก เริ่มไม่รู้ว่าคำขอที่พูดไปนั่นเธอคิดผิดหรือเปล่า

“ตรงไหนน้ำ” เสียงเข้มถามย้ำเมื่อไม่ได้รับคำตอบ พลางมือหนาก็เลื่อนขึ้นมาสัมผัสขณะถาม “มันแตะตรงนี้หรือเปล่า ตรงนี้ล่ะ แล้ว...” มือที่แตะจากริมฝีปากลากไล้ไปลำคอลงสู่เนินอกและทำท่าจะมากกว่านั้น

“คะ แค่ตรงนี้ กับตรงนี้ค่ะ...” เสียงเบาหวิวเพราะสัมผัสที่ได้รับตอบออกไป พร้อมกับมือบางที่ยกขึ้นมาบอกชี้ตำแหน่งลำคอกับ...ทรวงอก

นิโคไลคำรามลั่นเมื่อรู้ว่าทรวงอกอวบอิ่มคู่งามที่เขาถือสิทธิ์ครองอยู่ ถูกผู้ชายคนอื่นบังอาจมาแตะต้อง มือหนาเลื่อนลงจับชายกระโปรงชุดนอนที่ตัวเองเปลี่ยนใส่ให้เมื่อคืน ถอดออกผ่านศรีษะเล็ก ๆ เพียงแค่นั้นก็ปรากฏร่างเปลื่อยงดงามเนื่องจากภายในเขาไม่ได้สวมใส่อะไรให้แม้สักชิ้น จากนั้นริมฝีปากร้อนก็ฉกวูบลงไปครอบครองยอดทรวงสีหวานอย่างไม่บอกกล่าว

“อ๊ะ...นิค...” คนึงนิจสะดุ้ง แอ่นตัวขึ้นเมื่อเขาดูดดึงขบเม้มแรงกว่าทุกครั้ง

“ร่างกายน้ำจะมีแต่สัมผัสของผม...คนเดียว...ผมจะลบมันให้หมดที่รัก”

นิโคไลทำการลบสัมผัสเลวร้ายที่ผ่านมาจนหมดสิ้น เขาประทับตราแห่งความเป็นเจ้าของไว้ทั่วทุกตารางนิ้วบนร่างงดงาม ท่ามกลางเสียงหวานที่ครวญครางบิดกายอย่างทรมาน ปลายนิ้วแกร่งลูบไล้ปัดผ่านเกษรดอกไม้ที่ฉ่ำชื้น หยอกล้อยั่วเย้าก่อนจะแทรกผ่านเข้าไปหาความอ่อนนุ่ม ขยับเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า

“นะ...นิด...อย่า...” ร้องห้ามเสียงสั่น พลางขยับกายเข้าหา เมื่อเรียวนิ้วแกร่งที่สร้างความทรมานให้จนแทบจะขาดใจก่อนหน้าถอยห่าง

“อย่า...อะไรครับ...” ร่างสูงลุกขึ้นดึงแทบเป็นกระชากกางเกงนอนตัวเดียวที่สวมใส่ให้หลุดพ้นเผยให้เห็นความตื่นตัวที่แข็งแกร่ง

นิโคไลแทรกตัวอยูระหว่างเรียวขาสวย จับยกขึ้นพาดไหล่หนา ก่อนจะลากริมฝีปากร้อนไปตามขาอ่อน ไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนไปสิ้นสุดอยู่ที่กอดไม้งามที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำหวาน เขาบดจูบลงไปกลางเกษรดอกไม้รุนแรงตามอารมณ์ดิบเถื่อนที่มี ก่อนจะส่งเรียวลิ้นร้อนชื้นเข้าไปหาความหวาน กลืนกินอย่างหิวกระหาย

“...นิค...น้ำไม่...ไหวแล้ว...” เธอยิ่งปั่นป่วนทรมานแทบขาดใจเมื่อเขาแทรกเรียวนิ้วแกร่งเขาหาพร้อม ๆ กับที่ลิ้นร้อนชื้นตวัดปัดป่าย “...นิค...นิค...” ครางเรียกชื่อเขาก่อนจะหวีดร้องออกมาเสียงดัง เกร็งสะท้านเมื่อถึงฝั่งฝัน

นิโคไลยันตัวขึ้นนั่งกลางเตียงกว้าง ใช้มือหนาโอบอุ้มร่างบางที่อ่อนระทวยให้ลุกขึ้นนั่งคร่อมตัวเอง ก่อนจะผ่อนสะโพกผายลงครอบครองเขาช้า ๆ ยังรับรู้ได้ถึงการตอดรัดรอบกายแกร่งจากร่างบางที่แอ่นตัวเงยหน้าไปด้านหลัง...คนึงนิจหลุดเสียงครางอย่างซ่านสยิวเมื่อรู้สึกถึงความคับแน่นที่เข้ามาเติมเต็ม

“กอดผมที่รัก...รักผมอย่างที่คุณอยากจะรัก...” เขาสั่งเสียงพร่า ขณะจับมืองบางให้โอบรอบลำคอ ก่อนจะเลื่อนมือทั้งสองข้างไปบีบเคล้นทรวงอกอวบอิ่มพร้อมกับริมฝีปากที่โน้มเข้าครอบครองซุกไซ้

อารมณ์ที่พรึงเพริดทำให้คนึงนิจลืมอาย มีเพียงแค่ความต้องการปลดปล่อยความทรมานที่แสนหวานนี้เท่านั้น สะโพกผายขยับเคลื่อนไหวตามอารมณ์ปรารถนา ตามจังหวะที่ตัวเองต้องการ พร้อมกับเสียงครางระงมที่กระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนของอีกฝ่ายให้โหมกระพือจนฉุดไม่อยู่...และเมื่อจวนเจียนจะระเบิดนิโคไลก็ผลักร่างบางให้นอนหงายลงกลางเตียงกว้าง เคลื่อนกายออกห่างเพียงนิดเธอจับเปลี่ยนให้นอนซบหน้ากับที่นอนขาวสะอาด โดยที่ยังแนบชิดกันอยู่ ชายหนุ่มสูดปากด้วยความเสียวซ่านเมื่อการหมุนกายทำให้เกิดการเสียดสีที่ทำให้เขาแทบจะระเบิด

“...นิค...” คนึงนิจครางกระเสา จิกเล็กกับที่นอนแน่นกับความเสียวซ่านที่ได้รับ และเสียงครวญครางก็ยิ่งดังขึ้น ๆ เมื่อนิโคไลถอดถอนแล้วกลับเข้าหาอย่างรุนแรงหนักหน่วง

“...น้ำจ๋า...” นิโคไลเองก็ทนต่อไปอีกไม่ไหว มือหนาจับกุมเอวคอดไว้แน่น ก่อนจะโถมกายเข้าหารัวแรงดั่งพายุ เขาโหมกระหน่ำจนร่างบางไหวสะท้านไปตามแรงอารมณ์ หญิงสาวหวีดเสียงร้องครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อถูกพาเข้าใกล้แสงดาวสวยงามเข้าไปทุกที ๆ จนในที่สุดความทรมานแสนความก็สิ้นสุดลงพร้อมกับเสียงหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน...สายธารร้อนไหลวนดั่งสายน้ำซัดสาด เนินนานนับนาที


“เหนื่อยเหรอ ผมขอโทษที่เอาแต่ใจจนลืมนึกไปว่าคุณยังไม่ค่อยมีแรง” นิโคไลถามอย่างห่วงใยเมื่อเห็นเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นตามสองขมับ พลางพลิกตัวลงนอนเคียงข้างโดยตะแคงหันข้างเข้าหาร่างบาง ใช้มือโอบกอดรั้งให้ศรีษะเล็ก ๆ อิงซบท่อนแขนต่างหมอน

คนึงนิจไม่ตอบทำแค่เพียงส่งค้อนให้คนชอบแกล้ง ใบหน้ายังคงแดงระเรื่อทั้งจากความเขินอายและจากแรงพิศวาสที่ได้รับจากเขาเมื่อครู่

“น้ำจะแกล้งผมคืนก็ได้นะ ผมไม่ว่า” เขาบอกอย่างใจป้ำ พลางเชิดคางมนให้เงยขึ้นสบตา ก่อนจะส่งยิ้มยั่วเย้าไปให้

“บ้า!! หยุดพุดเดี่ยวนี้นะคนชอบแกล้ง...รู้ว่าเค้าทรมานก็ยังทำอีก” ท้ายประโยคบ่นอุบอิบในลำคอด้วยใบหน้าที่แดงก่ำกว่าเดิม ต่อไปเธอจะไม่ยอมให้เขาแกล้งทำตามใจชอบแบบนี้อีกแล้ว...แต่มันจะมีหรือที่เธอจะขัดขืนเขาได้สำเร็จน่ะ

“ทรมาน...แต่ชอบใช่ไหม หืมส์” คนหูดีที่ยังแอบได้ยินโน้มใบหน้าเข้าหาพูดชิดแก้มนวล

“อื้อ บ้า!! นิคน่ะ น้ำจะไปเยี่ยมพอแล้ว” แกล้งทำหน้างอง้ำพลางเปลี่ยนเรื่อง แต่พอจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว คนชอบแกล้งก็ไวกว่า นิโคไลเป็นฝ่ายลุกขึ้นช้อนร่างบางเดินไปห้องน้ำ

จากนั้นคนชอบแกล้งก็ให้บริการอาบน้ำ ขัดถูทุกซอกทุกมุน โดยเฉพาะทรวงอกอวบอิ่มนุ่มนิ่มที่เขาแสนจะหลงไหล จนคนถูกรับบริการกั้นเสียงครางแห่งความเสียวซ่านแทบจะไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องโอนอ่อนถูกเขาบริการจนครบสูตรจนเกือบจะหมดแรง

คนึงนิจถึงกับต้องพึ่งอ้อมแขนแกร่งให้ช่วยโอบประคองพาเดินจากลานจอดรถของโรงพยาบาลเข้าไปยังห้องผู้ป่วยเพื่อนเยี่ยมบิดา และก็รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าหนานคำไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่หัวแตกและมีแผลถลอกนิดหน่อย จากนั้นนิโคไลก็พูดเรื่องระหว่างเธอกับเขาขึ้นมาโดยไม่คิดจะให้สัญญาณล่วงหน้าสักนิด โดยเฉพาะเรื่องสำคัญ เรื่องที่เธอไม่เคยคิดเคยคาดหวัง...จะพูดให้ถูกก็คือคิดและคาดหวังแตะไม่คิดว่าเขาจะใจร้อนมากมายขนาดนี้

“ผมจะแต่งงานกับน้ำ แล้วพาน้ำไปอยู่ที่สเปนด้วยกัน” มหาเศรษฐีหนุ่มติดอันดับของแดนกระทิงดุพูดขึ้นอีกรอบหลังจากที่ร่างบางในอ้อมแขนหันหน้ามามองและถามย้ำอย่างตกตะลึง เมื่อเขาพูดประโยคเดียวกันนี้เมื่อครู่

“และถ้าคุณพ่ออยากจะไปอยู่ด้วยกันที่โน้นผมก็ยินดีมากเพราะน้ำจะได้ไม่ห่วงคุณพ่อมากนัก แต่ถ้าคุณพ่อต้องการจะอยู่ที่นี่มากกว่าผมสัญญาว่าจะพาน้ำมาเยี่ยมทุก ๆ สามเดือน” เปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกพ่อตาตามภรรยาทางพฤตินัยเรียบร้อย

“พ่อคงอยู่ที่นี่แหละ ชินกับอากาศบ้านเรามากกว่า อีกอย่างหากพ่อไม่อยู่จะให้ใครมาดูร้านกันล่ะ แค่ยามว่างให้น้ำโทรมาคุยกับพ่อบ้าง หรือมาเยี่ยมไม่ต้องทุกสามเดือนหรอกค่าตั๋วเครื่องบินมันแพง นาน ๆ มาทีก็ได้... พ่อดีใจนะที่นิครักและจริงใจกับลูกสาวพ่อ ไปอยู่ทางโน้นต่างบ้านต่างเมืองลูกสาวพ่อไม่มีใคร มีแต่พ่อหนุ่มนั่นแหละ ยังไงเสียหากมีเรื่องกระทบกระทั่งกันก็หันหน้าเข้าหาพูดคุยกัน อย่าใช้อารมณ์ อย่าเอาแต่ใจ...น้ำด้วยนะลูก แต่งงานมีเย้ามีเรือนแล้วก็ประคับประคองดูแลกันและกันไปจนแก่เฒ่านะลูกนะ” หนานคำยื่นมือที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นตามวัยขึ้นกุมทับสองมือของทั้งลูกสาวและลูกเขยหมาด ๆ เอ่ยสั่งสอนและให้พร ในใจชายสูงวัยอิ่มเอมที่บุตรสาวมีคนรักและดูแลรับช่วงแทนตัวเอง

“พ่อ...น้ำค้างยังไม่ได้แต่งซักหน่อย” คนึงนิจก้มหน้าแย้งเบา ๆ หัวใจยังไม่หยุดเต้นในจังหวะร๊อค เพราะยังไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่อยากจะเชื่อว่านิโคไลเพิ่งจะพุดขอแต่งงานกับเธอต่อหน้าบิดาไปหมาด ๆ

“งั้นไปอำเภอกันตอนนี้เลยดีกว่า น้ำจะได้ไม่มีข้อแก้ตัว แล้วพรุ่งนี้เราค่อยไปทำเรื่องที่สถานทูตสเปนที่กรุงเทพกันให้เรียบร้อย...น้ำจะได้เป็นของผมสมบูรณ์โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดใดเสียที” ก้มลงกระซิบเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคนในประโยคสุดท้าย จากนั้นจึงหันไปพูดกับพ่อตาถึงกำหนดการต่าง ๆ และพิธีการแต่งงานของเขากับคนึงนิจต่อไป

นิโคไลอยากจะจัดงานให้ใหญ่โตทั้งที่ไทยและสเปน เพราะต้องการประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่าเขากำลังจะมีเมีย และเมียของเขานั้นสวยงามหยาดฟ้ามาดินแค่ไหน หากแต่คนึงนิจกลับปฏิเสธ หญิงสาวต้องการเพียงแค่ทำบุญเลี้ยงพระเท่านั้น เพราะเธอเองก็ไม่ได้มีญาติพี่น้องที่ไหนนอกจากบิดา และอีกอย่างพิธีการให้ญ่ดตมันไม่ได้สำคัญสำหรับเธอมากไปกว่าความรักที่นิโคไลมีให้ แค่เขารักเธอเพียงแค่นั้นเธอก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แต่สามีทางพฤตินัยก็ไม่ไม่ยอมเสียทีเดียว นิโคไลยอมเพียงแค่ว่าจะไม่จัดงานแต่งใหญ่โตที่ประเทศไทยแต่จะจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ สำหรับเพื่อนสนิทของเขาเท่านั้น ส่วนที่สเปนเขายังยืนยันที่จะทำตามเจตนาเดิม เขาให้เหตุผลว่าเพราะด้วยหน้าที่การงานและชื่อเสียงทางธุรกิจของเขาและครอบครัว จำเป็นที่จะต้องจัดงานให้ใหญ่โตสมเกียรติ

หลังจากอยู่คุยกับหนานคำเสร็จนิโคไลก็ลากคนึงนิจไปจดทะเบียนสมรสกันที่อำเภอ จากนั้นก็ไปหาพีรพัทรแจ้งข่าวดีและมอบหมายแกมบังคับให้พีรพัทรเป็นคนดำเนินการจัดงานเลี้ยงและจัดการธุระเรื่องเอกสารที่จะใช้สำหรับการขอจดทะเบียนสมรมและขอวีซ่าต่าง ๆ ที่สถานทูตในวันพรุ่งนี้ โดยที่พีรพัทรก็มีอาการไม่ต่างจากคนึงนิจในตอนแรกนักที่ได้ยินว่าเพื่อนรักจะแต่งงานปุ๊บปั๊บ(จริง ๆ ไม่ใช่จะแล้วล่ะเพราะมันไปจดทะเบียนที่อำเภอมาแล้ว ก็ถือว่าแต่งไปแล้วครึ่งหนึ่ง เหลืออีกครึ่งที่สถานทูตวันพรุ่งนี้)...ก็รู้และดูออกว่าเพื่อนเขารักและหลงไหลนางรำแสนสวยของมันขนาดไหน แต่ไม่คิดว่ามันจะตัดสินใจทิ้งชีวิตโสดรวดเร็วขนาดนี้

“ดีใจด้วยจริง ๆ ว่ะนิค ให้ตายสิ มาแป๊บ ๆ ได้เมียเป็นตัวเป็นตนซะแล้ว” แถมยังได้ผู้หญิงสวยหยาดเยิ้มเป็นหนึ่งไม่มีสองเสียอีก พีรพัทรคิดอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปพูดกับคนึงนิจที่นั่งหน้าแดงก่ำอยู่ชิดเพื่อนเขา จริง ๆ จะพูดให้ถูกต้องบอกว่านิโคไลต่างหากที่พาร่างกายอันใหญ่โตของตัวเองไปเบียดชิดร่างน้อยของหญิงสาวจนแทบจะเกยกันอยู่แล้ว

“ผมฝากเพื่อนผมด้วยนะครับคุณน้ำค้าง แต่ไม่ต้องรักและตามใจมันมากก็ได้ ข่มมันเสียบ้าง...แต่ยังไงก็ระวังไว้ก็ดีนะครับ อย่าไปทำให้ใอ้นิคมันคลั่งคุณหนักนัก เดี๋ยวมันจะบ้ารักจนจับคุณหั่นเป็นชิ้น ๆ ดองเก็บไว้เพราะกลัวผู้ชายอื่นมาแย่งเอา ไอ้นี่น่ะมันเป็นเหมือนหนุ่มน้อยที่เพิ่งริรัก”

“ไอ้เวรแพท!! เดี๋ยวเถอะแก เห็นมั๊ยเนี่ยเมียฉันตกใจหมด...โธ่ น้ำ อย่ามองผมอย่างนั้นสิ ถึงจะเพิ่งมีความรักอย่างที่ไอ้แพทว่า แต่ผมก็ไม่ได้โรตจิตอย่างที่มันพูดนะครับ ใครจะบ้าฆ่าหั่นศพเมียตัวเอง สู้เก็บไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า โอ๊ย!! ผมพูดเล่นครับที่รัก...”

นิโคไลว่าเพื่อนเสียงขุ่นก่อนจะหันมาพูดออดอ้อนกับเมียรักโดยไม่อายสายตาของพีรพัทรที่มองอย่างไม่อย่างจะเชื่อกับมาดอ้อนเมียของเพื่อนรักที่ได้เห็น

พีรพัทรส่ายหัวให้กับเพื่อนรักในมาดใหม่ที่เขาไม่เคยเห็น มีที่ไหนที่นิโคไลผู้เงียบขรึมจะพูดครับพูดที่รักกับผู้หญิงด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานเช่นนี้ สงสัยความรักมันล้นอกเสียจนเพื่อนเขาใกล้บ้ากลายเป็นหนุ่มคลั่งรักไปเสียล่ะมั้ง

แล้วตัวเขาล่ะ จะทำยังไงกับหัวใจที่หายไปดี

++++++++++

กรุงมาดริด – ประเทศสเปน

ในห้องทำงานหรูหราภายในคฤหาสน์สีขาวหลังงามของตระกูลกาซิยาส ตระกูลมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของประเทศ สมาชิคครอบครัวสามคนกำลังนั่งล้อมวงจดจ่ออยู่กับการสนทนาข้ามทวีปผ่านเครื่องโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานไม้โอ๊คที่ขึ้นเงาวาววับตรงมุมห้อง โดยเฉพาะแอนนา กาซิยาส ที่เป็นคนผูกขาดการสนทนากับทางปลายสายเป็นส่วนใหญ่ มีแอนริเก้ผุ้เป็นสามีและนาตาชาบุตรสาวคนเล็กเป็นผู้ฟังที่ดี

“นี่ถ้าภรรยาท่านทูตไม่โทรมาบอก มัมกับแด๊ดแล้วก็น้องของลูกคงจะไม่รู้เลยใช่ไหม ว่านิคแอบไปแต่งงานมีเมียอยู่ที่ประเทศไทยแล้วน่ะ ลูกหนอลูกเรื่องสำคัญขนาดนี้ไม่คิดจะบอกกล่าวให้ครอบครัวได้รู้เลยหรือไงกัน”

แอนนา กาซิยาสบ่นบุตรชายอีกรอบ หลังจากซักถามรายละเอียดต่าง ๆ จนเข้าใจ เมื่อช่วงเช้าของวันภรรยาท่านทูตสเปนประจำประเทศไทยโทรมาแสดงความยินดีเรื่องที่นิโคไลบุตรชายของเธอแต่งงานกับสาวไทย ด้วยความที่ตระกูลกาซิยาสได้รับความนใจจากสื่อและผู้คนในแวดวงไฮโซ ทำให้เวลาขยับตัวทำอะไรแต่ละทีก็มักจะเป็นข่าว ซึ่งเธอก็เพิ่งจะเห็นข้อดีของมันก็คราวนี้แหละ ไม่เช่นนั้นตอนนี้เธอและสามีคงจะยังไม่รู้ว่าลูกชายคนโตแอบพาสาวไปจดทะเบียนสมรสกันที่สถานทูต ได้ยินครั้งแรกครอบครัวเธอตกใจกันทั้งบ้าน จนต้องรีบโทรทางไกลไปเค้นเอาความจริงจากปากเจ้าลูกชายตัวดี

( โธ่ มัมที่ไม่บอกก็เพราะตั้งใจจะพาน้ไปเซอร์ไพรซ์ไงครับ ไม่นึกว่าจะมีสายของมัมรายงานให้รู้เสียก่อน ) นิโคไลตอบกลั้วหัวเราะ เอาตามจริงแล้วเขาก็ลืมไปเสียสนิทอย่างที่มารดาพูดนั่นแหละ ก็ทำไงได้อยู่กับนางรำแสนสวยทีไร เขาเป็นอันต้องหลงลืมสิ่งรอบกายไปเสียหมด

“แล้วจะพาพี่สะไภ้มาโชว์ตัวเมื่อไหร่ล่ะนิค แนตอยากเห็นจะแย่ เห็นภรรยาท่านทูตคนนั้นบอกมัมว่าเป็นผู้หญิงไทยที่สวยหวานมาก ๆ ใช่ไหม” นาตาชาส่งเสียงถามอย่างอยากรู้ “พี่ส่งรูปมาทางเมลแนตหน่อยสิ อย่างเห็นจริง ๆ ว่าผู้หญิงแบบไหนนะที่ได้ใจพี่ชายสุดหล่อของแนตไปครอง ถ้ารู้ว่าพี่แอบไปติดสาวที่นั่นนะ ตอนนั้นแนตแวะไปดูหน้าพี่สะไภ้หน่อยก็ดีหรอก”

( ตอนนั้น? ตอนไหนแนตตี้ พูดเหมือนมาที่ไทยงั้นแหละ ) ถามกลับอย่างสงสัยเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายที่น้องสาวพูด

“อ่า แนตหมายถึงว่า...ถ้ารู้ว่าพี่มีใครอยู่ที่นั่น แนตจะแอบไปดูน่ะ ไม่มีอะไรหรอก เอาเป็นว่าพี่อย่าลืมส่งรูปมาให้พวกเราดูนะนิค” เมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควร นาตาชาก็แก้ตัวตะกุกตะกัก ก่อนจะวกกลับไปเรื่องก่อนหน้านั้น

ซึ่งนิโคไลก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร ประกอบกับเขามีเรื่องต้องรบกวนให้บิดามารดาจัดการให้ การสนทนาหลังจากนั้นจึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาและภรรยาหมาด ๆ

นาตาชาถึงกับลอบถอนหายใจ นึกว่าจะถูกพี่ชายซักเสียแล้ว และถ้านิโคไลซักขึ้นมาเธอก็อาจจะทำท่าทางพิรุจให้บิดามารดาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ สงสัยก็ได้...เรื่องนั้นมันควรจะจบและเป็นความลับตลอดไป...นัยน์ตาสีเขียวมรกตฉายประกายเศร้าเมื่อคิดถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านมาอีกครั้ง

ทำไมนะ...ทำไมเธอถึงไม่โชคดีในเรื่องความรักเหมือนคนอื่น ๆ บ้าง

แต่ก็คงจะโทษใครไม่ได้ นอกจากตัวเธอเอง...ที่ไปรักคนที่มีหัวใจให้คนเป็นสิบเป็นร้อยอย่างผู้ชายคนนั้น

ผู้ชาย...ที่ไม่เคยเห็นค่าและความรักความภักดีของเธอสักนิด...
นาตาชาสลัดความนึกคิดที่กระหวัดไปถึงผู้ชายใจร้ายออกไปจากหัว สูดหายใจเข้าเรียกสติของตนเอง ให้จดจ่ออยู่กับการสนทนาระหว่างบิดามารดากับพี่ชาย

++++++++++

ไม่กี่วันหลังจากนั้นได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านไม่สักหลักงามทั้งสองหลังของ ส.ส.นิวัตรจนวอดเป็นจุล เนื่องจากเหตุเกิดตอนที่ท่าน ส.ส.ออกไปหาเสียงส่วนลูกชายคนเดียวของท่านก็ลงไปทำธุระที่ภาคใต้ ลูกน้องที่อยู่เฝ้าบ้านสี่ห้าคนก็พร้อมใจกันไม่อยู่ เพราะมีญาติบ้าง คนรู้จักสนิทสนมบ้าง หรือไปก็กิ๊กบ้างโทรมาชวนไปออกไปในเวลาไล่เลี่ยกันเหมือนพร้อมใจนัดแนะกันไว้ จากนั้นเพลิงก็ลุกไหม้จากเหตุแก๊ซระเบิด เปลวเพลิงโหมกระพือมากเกินกว่าที่จะดับได้ทัน ทำให้กว่าที่ดับเพลิงจะควบคุมสถานการณ์ได้บ้านไม้สักหลังงามทั้งสองหลังก็เสียหายเกินเยียวยาเสียแล้ว ทำได้เพียงรื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่เท่านั้น

นิรุจไม่เชื่อว่าสาเหตุเพลิงไหม้จะเป็นไปอย่างที่ตำรวจสรุป เขาแน่ใจเลยทีเดียวว่ามันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลัง หากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะถูกบิดาขอร้องแกมบังคับให้ทำตัวให้นิ่งไว้ก่อน จนกว่าจะจบการเลือกตั้ง อีกอย่างจากที่ให้คนไปสืบประวัติทำให้รู้ว่านิโคไลเป็นใคร ร่ำรวยและมีอิทธิพลมากแค่ไหน ทำให้ท่าน ส.ส.นิวัตรสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้ลูกชายหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว นิรุจได้แต่เก้บความแค้นไว้ คิดไว้ว่าในเมื่อทำอะไรไอ้ฝรั่งต่างชาตินั่นไม่ได้ ก็คงจะเหลือแต่พีรพัทรที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตของเขามานับสิบปี รอให้จบการเลือกตั้งของบิดาเขาเสียก่อนเถอะ ไอ้พีรพัทรมันไม่ตายดีแน่!!

++++++++++++++++++++++++++++++++
27/10/2011

อย่างที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลง 70% เพราะฉะนั้น 2 ตอนนี้สุดท้ายแล้วนะค่ะ
จริง ๆ ตอนที่ 8 ยาวกว่านี้แหละค่ะแต่ว่าลงหมดคิดว่าค้างมากมายยยยย


ที่เหลือจะเป็นเร้าร้อนรุนแรงคลี่คลายปัญหาเยอะแยะมากมาย ทั้งเรื่องความผิดที่พ่อกระทิงนายนิคของเราแอบทำไว้กับนางเอกและครอบครัวที่หนู้น้ำค้างยังไม่รู้ ทั้งปัญหาสาว ๆ (หรือเปล่า?) แล้วยังมีคู่ของนายแพทกับนาตาชาที่เพิ่งจะโผล่มาแว๊ป ๆ อีกเยอะ 5555


ไม่ได้จะแกล้งคนอ่านน้า...แต่แจ้งไว้ก่อนแล้วเน้อ
แล้วตอนนี้หนังสือมันวางขายในเวป สนพ.แล้วคะ แต่ตามร้านซีเอ็ด นายอินทร์ยังขนส่งออกไปไม่ได้คงต้องหลังน้ำท่วมดีขึ้นก่อน


แต่ข่าวดีว่า...ถ้าสั่งที่เวป สนพ.จะได้สมุดโน๊ตลวดลายเดียวกับปกนิยายที่เป็นลูกครึ่งฟรีด้วยค่ะ (งงกันล่ะสิ อิอิ ) คือนางรำจะมีปกให้เลือก 2 สีค่ะคือขาวกับดำแต่ลวดลายของปกเหมือนกัน แล้วโน๊ตด้านหน้าจะดำหลังขาว เขียนได้ทั้ง 2 ด้านเลยค่ะ


ไม่รู้ว่าที่นี่ลงลิ้งได้ไหมแต่ถ้าอยากจะดูปกและรายละเอียด สนพ.สื่อวรรณกรรม ไปดูได้ที่เวเวปห้องสมุดนะคะ ลงนิยายไว้ที่นั่นด้วย


ปล.ส่วนเรื่องนายหัวยังเหลืออีกยาววววว ค่ะกว่าจะถึง 70% เดี๋ยวลงต่อค้า


+++++++++++++++++++++

อ่อ ลืมบอกไปแจ้งฟรี 5 เล่มค่ะ ลงชื่กับเมลทิ้งไว้นะคะ แล้วดึก ๆ เที่ยงคืนวันนี้จะจับฉลาดร่วมกับเวปอื่น ๆ ที่ลงแล้วใครโชคดีนะเมลตอบกับจ้า ^___^



ลัลลดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ต.ค. 2554, 16:45:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ต.ค. 2554, 16:48:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 5582





<< ตอนที่ 6.1..(100%)   
โคลเวอร์ 27 ต.ค. 2554, 17:17:36 น.
โฮ่ๆๆๆ นาตาชานี่เองสาเหตุของหัวใจที่หายไปของนายแพท
มายค่ะ imind_memine@hotmail.com
ร่วมลุ้นด้วยคน ฮี่ๆๆๆ


nupuk 27 ต.ค. 2554, 17:43:32 น.
ร่วมลุ้นด้วยจ้า
tonauu@hotmail.com


น้องแสตมป์ 27 ต.ค. 2554, 18:01:58 น.
ด้วยคนนะ tanawanb@hotmail.com


NARISARA 27 ต.ค. 2554, 18:07:16 น.
ging_baramos@hotmail.com ลุ้นด้วยค่าาาาา


dino 27 ต.ค. 2554, 18:54:26 น.
dn_zest@yahoo.com ลุ้นด้วยคน


nutcha 27 ต.ค. 2554, 20:31:21 น.
เป็นคนไม่มีโชคทางเสี่ยงดวง แต่ก็ขอลุ้นด้วยคน ningning_nignig@hotmail.co.uk


ann 27 ต.ค. 2554, 20:34:14 น.
อยากรู้เรื่องนายแพทกะแนตตี้
ลุ้นด้วยคนค่ะ
lusy_pe@hotmail.com


nikky 27 ต.ค. 2554, 21:28:22 น.
น่าติดตามมากๆๆๆๆ ค่ะ และขอลุ้นด้วยคน เผื่อจะโชคดีบ้าง 5555++...rat_nick@hotmail.com


anOO 27 ต.ค. 2554, 21:49:12 น.
นายนิคจะขัดขวางความรักของน้องกับเพื่อนรึป่าวเนี้ย
panchuree@yahoo.com


Gingfara 27 ต.ค. 2554, 23:26:31 น.
ด้วยคนนะค๊ะ ค้างอย่างเเรงเลยค่ะ
front_future@hotmail.com


kapooknoi 28 ต.ค. 2554, 00:59:15 น.
ลุ้นด้วยจร้า jiang_guifangth@yahoo.com


muLaTAE 28 ต.ค. 2554, 01:46:42 น.
ลุ้นด้วยคนนะคะ
bazilite@gmail.come


evelover 28 ต.ค. 2554, 08:09:43 น.
อยากได้มากกกกกกกก โอมเพี้ยง! i-am-eve@live.com


supayalak 28 ต.ค. 2554, 13:24:53 น.
มาลงชื่อด้วยอยากได้ดดดดดด
supayalak@gmail.com


paojai 28 ต.ค. 2554, 13:41:00 น.
ลุ้นค่าาาา benyathip_33_@hotmail.com


nunoi 28 ต.ค. 2554, 17:11:41 น.
ยังทันไหม๊นี่ ขอลุ้นด้วยคนนะคะ
nu_noisumalee@hotmail.com


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account