มนต์เสน่หา
เมื่อโดนบังคับให้หาผู้สืบทอดและดูแลไร่ระเด่น บุษบา สาวน้อย จำใจต้องหาชายผู้นั้นเพื่อให้ก๋งของเธอสบายใจ แล้วฟ้าก็ส่งนายทหารหนุ่มน่ารักมาให้ พร้อมกับความเข้าใจผิดว่าเขาเป็นเกย์ ..
Tags: ทหาร ตบจูบ น่ารัก โรแมนติก

ตอน: ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

บทที่ 9
ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

หลังจากที่ภีษมะพาบุษบาไปเที่ยวที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน .. ชายหนุ่มก็พาบุษบาที่ส่งที่ “ไร่ระเด่น” .. ก๋งไชโยที่ตอนนี้ออกมานั่งรับลมอยู่ที่ระเบียงชั้นล่าง ... พอเห็นน้องหนูเดินกระโผกกระเผกเข้ามา ก็ตกใจ ..

“อาเสือ อาน้องหนูเป็นอาไร ..”

“น้องหนูโดนหินบาดครับ .. ผมต้องขอโทษที่ดูแลน้องหนูไม่ดี” ภีษมะบอก

“หาหมอมาหรือยังอาเสือ ..” ก๋งไชโยถาม

“เรียบร้อยแล้วครับ .. ผมเพิ่งทราบว่าผู้หญิงเก่งอย่างน้องหนูกลัวเข็มฉีดยาที่สุด” ภีษมะบอกพร้อม ๆ กับมองบุษบา

“ไม่แปลกหรอก .. ตอนเด็ก ๆ อาน้องหนูเคยดิ้นเวลาฉีดยา .. เข็มเลยหัก ปักคาเนื้อ .. อาน้องหนูแกจำฝั่งใจ” ... คราวนี้ภีษมะก็เข้าใจว่าทำไม น้องหนูถึงได้กลัวเข็ม ...

“เย็นมากแล้ว .. ยังไงผมคงกลับแล้วล่ะครับ ..” ชายหนุ่มบอกกับก๋งไชโย เพราะว่าเดียวเขาก็ต้องขับรถกลับนครนายกอีก .. ชายหนุ่มหันมาบอกน้องหนูเพื่อสำทับเรื่องทานยา

“น้องหนูอย่าลืมทานยาให้ครบนะ” น้ำเสียงเอื้ออาทรอ่อนโยนของภีษมะทำให้บุษบาพูดอะไรไม่ออก .. ได้แต่พยักหน้า พอชายหนุ่มจะลากลับ .. บุษบาขอออกมาส่งภีษมะที่รถ

“จะกลับแล้วเหรอค่ะ .. ขอบคุณนะคะพี่เสือที่อุตสาห์พาน้องหนูไปเที่ยว .. วันนี้น้องหนูสนุกมากเลยค่ะ” .. บุษบาบอกพร้อม ๆ กับยิ้มกว้างเห็นฟันขาวเรียงสวย

“แล้วพี่เสือจะมาอีกทีเมื่อไหร่”

“ถ้าวันศุกร์เย็นว่างมาได้ก็จะมา” ภีษมะตอบ ... “แล้วจะดื้อ จะแกล้งพี่อีกไหม”

“ก็อย่ามาแกล้งน้องหนูก่อนซิค่ะ .. ถ้าดีมา น้องหนูก็ดีกลับ .. ร้ายมาน้องหนูก็ร้ายกลับ” บุษบาบอก

“สโลแกนเดียวกันเลย .. ถ้าน้องหนูดีมา .. พี่เสือก็ดีกลับ .. ถ้าน้องหนูร้ายมา .. พี่เสือก็ร้ายกลับ..” ภีษมะทิ้งช่วง ..ก่อนจะส่งท้าย “เหมือนเมื่อเช้าไง ... แต่รู้สึกว่า .. พอโดนพี่เสือจูบไปทีเดียว .. เรียบร้อยขึ้นเยอะเลยนะค่ะ .. น้องหนู” .. บุษบาถึงกับทำแก้มป่อง .. ตาขวาง

“ทำไมต้องล้อกันด้วย ..” บุษบาชักเริ่มยั๊ว

“ก็พี่เสือชอบนี่นา ..” ภีษมะตอบ ก่อนจะเดินขึ้นรถไม่มองแม่บุษบาเอวกลม ที่เดินนี้ยืนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกอยู่หน้าบ้าน ..

ทางด้านยุธิฐิระ ตอนนี้กำลังขับรถกลับเข้ากรุงเทพเพื่อมาเอื้องฟ้ามาส่งที่บ้าน เพราะเขาก็ต้องกลับกำแพงแสนเหมือนกัน .. ระหว่างทางก็ดูเหมือนว่าทั้งโลกจะเป็นสีชมพู .. พอกลับมาถึงบ้าน ยุธิฐิระ พาเอื้องฟ้าเข้ามาที่บ้านเสถียรนาวินก่อน จะพาไปส่งที่บ้านของหญิงสาวเอง .. แต่ก็ยังไม่วายทิ้งทายว่า .. คืนนี้ขอไปอยู่เป็นเพื่อนด้วย ตีสี่ค่อยกลับกำแพงแสนก็ยังทันถมเถไป ..

“เอื้อง .. คืนนี้ขออาไปอยู่เป็นเพื่อนได้ไหม ..” อาช้างบอกกับเอื้องฟ้า .. เอื้องฟ้าก็พอจะเดาออกอยู่หรอกว่าอาช้างคิดอะไร ..

“อะไรกันค่ะอา .. ก็บอกว่าอีกปีครึ่ง .. รอหน่อยซิค่ะ” เอื้องฟ้าบอก ชายหนุ่มก็จัดการหักรถเข้าข้างทาง .. หันมาสบตากับเอื้องฟ้าทันที

“ปีครึ่ง .. อาอกแตกตายก่อน .. ครึ่งนาทีน่ะพอไหวจ๊ะ ..” ยุธิฐิระบอกพร้อม ๆ กับกุมมือของเอื้องฟ้าไว้ ก่อนจะยกขึ้นมาจูบเบา ๆ ทำเอาเอื้องฟ้าก้มหน้าเขินอาย

“นะ .. นะ .. อย่ารอเลยตั้งปีครึ่ง .. ครึ่งปีก็ไม่เอา .. ต้องนาทีนี่ .. เวลานี่เท่านั้นนะจ๊ะ” .. ยุธิฐิระไม่พูดเปล่าทำท่าจะลวนลามเอื้องฟ้าอีก แต่คราวนี้เอื้องฟ้าใจแข็งไม่ยอมท่าเดียว .. สุดท้าย “ช้างเลยอดเคี้ยวเอื้อง”

“กลับบ้านก่อน ค่อยว่ากันนะคะ .. จะมืดแล้ว” เอื้องฟ้าบอกนั้นแหละอาช้างของหญิงสาวถึงได้ขับรถต่อ .. กว่าจะกลับถึงบ้านก็ราว ๆ ทุ่มกว่า .. ทั้งนายช้าง และนายเสือ จอดรถแทบจะพร้อม ๆ กัน .. พอต่างคน ต่างลงมาจากรถ .. นายเสือพอเห็นพี่ช้างมาพร้อม ๆ กับเอื้องฟ้า .. ก็พอจะเดาออกว่าผลเป็นยังไง .. พอนายช้างเห็นนายเสือ เดินยิ้มมุมปากจะฉีกถึงติ่งหูก็รู้เหมือนกันว่าเป็นยังไง ... สุดท้ายสองพี่น้องก็แต่หัวเราะให้กัน ... “รู้ ๆ กันอยู่”

“อ้าวกลับมากันแล้วเหรอลูก” โยทะการ้องทักลูก ๆ ทั้งสอง ทั้งคู่ก็ยกมือไหว้ นายช้างสะกิดมารดาให้รู้ว่าตนพาเอื้องฟ้ามาด้วย .. “หลานเอื้องจ๊ะ เป็นยังไงลูกสบายดีไหม”

เอื้องฟ้าค่อย ๆ คลานเข้าไปใกล้โยทะกาก่อนจะยกมือไหว้เรียบร้อย .. “สบายดีค่ะ คุณอา” หญิงสาวตอบ

“ใครบอก เมื่อคืนเอื้องฟ้าเป็นลม แต่โชคดีมีคนเห็นก็เลยพาส่งโรงพยาบาลครับคุณแม่” .. นายช้างบอก

“แล้วนี่หายแล้วเหรอลูก”

“ก็หายแล้วล่ะคะคุณอา .. เอื้องไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ .. ช่วงนี่งานคงเยอะ เวลาพักผ่อนเลยน้อย” .. พอเอื้องฟ้าพูดแบบนี้ โยทะกาก็จะนึกออกอยู่ว่าทำไมเมื่อคืน .. นายช้างถึงพาเอื้องฟ้าไปหัวหิน ..

“คุณแม่ครับ .. เดี่ยวผมพาเอื้องไปส่งที่บ้านก่อนนะครับ ..” นายช้างบอกมารดา .. แต่ไม่หมด

“จ๊ะ .. ไปเถอะ .. อื่มช้าง .. ถ้าเอื้องยังไม่หายดี .. ก็อยู่เป็นเพื่อนเอื้องก่อนก็ได้” โยทะกาบอกกับนายช้าง .. พอยุธิฐิระได้ฟัง ก็แทบจะคลานเข้าไปโอบกอดมารดาแล้วหอมฟอดใหญ่ ๆ แถมอีกที ..

“กินข้าวกันก่อนไหมลูก ..” โยทะกาถาม

“ไม่ละครับคุณแม่ ..” นายช้างบอก พอดีจังหวะที่ชำนาญชลเดินออกมาจากห้องทำงาน ได้ยินบทสนทนาระหว่างแม่ลูก พอดี

“สวัสดีครับพ่อ” .. นายช้างยกมือไหว้บิดา

“หลานเอื้อง เป็นไงบ้างเห็นได้ยินว่าไม่สบายหายแล้วเหรอลูก” ชำนาญชลถาม

“ค่ะ ค่อยยังชั่วเยอะแล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วค่ะ” เอื้องฟ้าตอบ

“กินข้าว กินปลากันหรือยังล่ะ”

“ยังเลยครับคุณพ่อ .. ผมขอตัวก่อนนะครับ” นายช้างบอกก่อนจะจูงเอื้องฟ้าออกไปด้วย .. ชำนาญชลก็ได้แต่นั่งมอง ไอ้ลูกชายคนโต .. “เหมือนใครว่ะ”

“อาค่ะ .. ไม่ต้องไปค้างกับเอื้องก็ได้ .. เอื้องอยู่ได้ค่ะ”

“ไม่ค่ะ .. ขึ้นรถเร็ว หิวแล้วด้วยเดี่ยวไปหาข้าวกินกันก่อนนะแล้วค่อยกลับบ้าน” เอื้องฟ้าก็ได้แต่ทำตามอย่างว่าง่าย .. กว่าจะได้เข้าบ้านก็ร่วม ๆ สองทุ่มกว่า
บ้านหลังใหญ่ที่เมื่อก่อนมีสมาชิกอยู่ด้วยกันสี่คน .. บัดนี้เหลือเพียงเอื้องฟ้าเพียงคนเดียว .. ความเหงา ความเงียบ ครอบคลุมอยู่ทุกครั้งที่เธออยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่นี่ ...

“เอื้องขึ้นไปนอนเถอะ” .. ยุธิฐิระบอกกับเอื้องฟ้าที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ด้านล่าง .. “พรุ่งนี่ต้องทำงานไม่ใช่เหรอ”

“ค่ะ .. อาช้างก็เข้านอนได้แล้วนะคะ .. ต้องตื่นแต่เช้า” หญิงสาวบอกก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสอง .. ยุธิฐิระก็ปิดไฟด้านล่างทั้งหมด แล้วค่อยตามขึ้นบนชั้นสอง ..
เอื้องฟ้าที่กำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกเพลิน .. พอได้ยินเสียงเคาะประตูก็รีบลุกไปเปิดประตูทันที ..

“อ้าว .. อาช้างมีอะไรหรือค่ะ” เอื้องฟ้าถาม ..

“ก็ .. จะเข้านอน” ยุธิฐิระไม่ฟังอะไรทั้งนั้นเดินเข้ามาในห้องของเอื้องฟ้าทันที จัดแจงปิดประตูล็อคเรียบร้อย .. เอื้องฟ้าก็ได้แต่อึ้งและตกใจ

“อาค่ะ .. ผิดแล้ว .. ผิดห้องแล้ว” เอื้องฟ้าบอกแล้วจัดแจงจะลากช้างออกจากห้อง ทั้งฉุดแขน ทั้งผลัก .. แต่อาช้างก็เธอก็ไม่มีทีท่าจะขยับ

“ไม่ผิดหรอก .. ง่วงมาก .. นอนเถอะเอื้อง .. อาเหนื่อยจังเลย” .. ยุธิฐิระบอกแล้วค่อย ๆ คลานเข้าไปนอนบนเตียงไม่ฟังคำทัดทานของเอื้องฟ้าเลย ..
“งั้นเอื้อง ไปนอนห้องอาแทนก็ได้ค่ะ” .. เอื้องฟ้าทำท่าจะเดินไปนอนอีกห้อง ..

“อาลืมเอากุญแจมาน่ะเอื้อง”

“เอื้องมีกุญแจสำรอง”

“มีที่ไหนก็อาเก็บไว้ทั้งสองดอก”

“อาช้าง..” เอื้องฟ้าพูดเสียงเขียว ร่างบางนึกฉุนขึ้นมา .. คนอะไรเอาแต่ใจจัง ..
“งั้นอานอนบนเตียงไปเลยน่ะ ..” เอื้องฟ้าบอก หญิงสาวเดินไปหยิบหมอนมานอนที่โซฟาตัวยาว .. แต่พอหญิงสาวทำท่าจะนอน ยุธิฐิระก็ลุกขึ้นมานอนข้างล่างใกล้ ๆ กับที่หญิงสาวนอน

“เอ๊าะ . อย่าแกล้งกันซิค่ะอาช้าง” .. เอื้องฟ้าบอกคราวนี้หญิงสาวหยิบหมอนเดินกลับไปที่เตียง .. แต่รู้สึกว่าคราวนี้อาช้างจะวิ่งเร็วเป็นพิเศษ .. พอถึงเตียงก็คว้าเอวบางของเอื้องฟ้าไว้แน่น

“อาช้าง .. ไม่เอาค่ะ” เอื้องฟ้าพยายามจะแกะมือออก ...

“ไม่เอา .. นอนด้วยกันซิ .. นะคะ” ยุธิฐิระใช้เสียงออดอ้อนเต็มที่ .. เอื้องฟ้าก็นึกอยากจะหาอะไรตีเข้าสักทีสองทีเป็นไร ..

“อาช้างเจ้าเล่ห์ .. บอกคุณอาว่าจะมาอยู่เพื่อนบ้าน .. หวังจะทำอะไรกันแน่ค่ะ” .. คราวนี้เอื้องฟ้ามองตาสีรัตติกาลของยุธิฐิระนิ่ง

“แล้วเอื้องคิดว่า จะทำอะไร” ยุธิฐิระก้มลงหอมแก้มขาวอมชมพูนั้นเบา ๆ แต่เล่นเอาเอื้องฟ้าขนลุกซู่ .. “อาไม่อยากรอแล้วเอื้องจ๋า .. แต่งงานกับอานะคะ ..” สองมือใหญ่ลูบต้นแขนกลมกลึงเบา ๆ ก่อนจะเริ่มจุมพิตที่ริมฝีปากน้อย ๆ นั้นอย่างแผ่วเบา แล้วค่อย ๆ กลับรุกหนักเข้า .. จนหญิงสาวเผลอตอบรับจูบของชายหนุ่มอย่างลืมตัว .. “เอื้องจ๋า .. อาไม่อยากรอแล้ว”....... ยุธิฐิระบอกกับเอื้องฟ้า .. สองมือคร้าวค่อย ๆ แทรกผ่านเนื้อผ้าเนียนนุ่มเข้าไปภายใน .. เนื้อนวลละเอียดพอต้องสัมผัสกับมือใหญ่สากระคาย .. มันชวนให้เจ้าของเรือนร่างถึงกับเผลอตัว ครางออกมาเบา ๆ ภายนอกชายหนุ่มก็ดึงเม้นริมฝีปากนั้น ทั้งแทรกซึมรสหวานอย่างมัวเมา ..

“อาค่ะ .. เอื้อง .. เอื้อง ..” .. เอื้องฟ้าพยายามจะห้ามไม่ให้ชายหนุ่มทำอะไรตอนนี้ ..

“อะไร .. ค่ะ”

“อย่าเลย เอื้องยังให้อาไม่ได้ .. เอื้อง .. อื่ม” ยุธิฐิระไม่ฟังคำอุทธรณ์ของเอื้องฟ้าแม้แต่น้อย .. กลับค่อย ๆ ดันร่างบางเข้าไปจนชิดเตียง ก่อนจะใช้สองมือโอบอุ้มร่างบาง .. ก่อนจะวางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ..

“เอื้องจ๋า .. แต่งงานกับอานะค่ะ” .. ชายหนุ่มยังจ้องมองเอื้องฟ้าไม่วางตา .. เอื้องฟ้าแทบจะละลายอยู่รอมร่อแล้ว .. แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อเรื่องเรียนก็ยังค้างอยู่ ..
“อาช้าง .. ไม่เอานะคะ .. ไปนอนได้แล้ว .. เอื้องขอร้องนะค่ะ” .. เอื้องฟ้าพยายามผลักไสร่างของยุธิฐิระ .. ตัวนายช้างก็คิดแล้วว่าสงสัยงานนี่เอื้องฟ้าไม่หลงคารมแน่ ๆ เลยทำได้แค่หอมแก้มเบา ๆ ก่อนจะปล่อยร่างบางนั้นเสีย อย่างเสียดาย

“อาช้าง .. ถ้าอาช้างรักเอื้อง อาช้างก็ต้องรอเอื้องได้ ..นะคะ” เอื้องฟ้าบอกพร้อมกับจับมือใหญ่ไว้ .. สายตาหวานที่ส่งให้แทนความหมาย และความรู้สึกที่จริงใจ .. “รอเอื้องนะคะ .. อาช้างขา .. เอื้องรักอาช้างนะคะ .. แต่ว่าอาช้างก็ต้องให้เวลาเอื้องบ้าง .. อย่าเอาแต่รุกซิค่ะ ..”

คนฟังก็ได้นั่งฟังอย่างเรียบร้อย .. มือที่มิได้ถูกหญิงสาวกอบกุม ลูบเรือนผมสีดำสนิท พร้อม ๆ กับลมหายที่ถูกผ่อนถอนออกมาจากทรวงห้วงลึก...

“เอื้องจ๋า .. อาขอโทษ .. แต่จะให้อารอนานแค่ไหนละคะ .. อาไม่อยากรอแล้ว .. วินาทีเดียวอาก็ไม่อยากรอแล้ว” ยุธิฐิระบอก ... เอื้องฟ้าที่นั่งฟังกลับส่งยิ้มหวานก่อนจะค่อย ๆ เขยิบเข้าใกล้ชายหนุ่ม ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูเบา ๆ

“ทำตัวดี ๆ ไม่ดื้อ ไม่ซน .. ไม่แน่นะ .. ไม่ต้องถึงครึ่งปีหรอก .. นะค่ะ” เอื้องฟ้าบอก แล้วค่อย ๆ จรดริมฝีปากบางประทับนิ่งข้างแก้มของชายหนุ่ม ... “แต่ตอนนี้ อาช้างขา ดึกแล้ว นอนนะคะ..ที่รักของเอื้อง” หญิงสาวบอกเบา ๆ ก่อนจะหันหลังกลับไปนอนที่ของตน .. ปล่อยให้นายช้างนั่งอึง ตาค้าง .. สุดท้ายนายช้างก็ปิดไฟนอน เป็นอาช้างผู้น่ารัก ... แต่ก็ยังไม่วายจะโอบกอดร่างของเอื้องฟ้าไว้แนบอก .. เอื้องฟ้าเองก็กอดอาช้างแนบแน่น .. ปล่อยให้ความสุขหลั่งไหลท่วมท้นหัวใจไปจนกระทั่งหลับสนิท ..

ทางด้านบุษบา .. คืนนี้พระจันทร์กลมโตแถมทรงกลด .. สว่างกระจ่างจ้า .. หญิงสาวยืนมองพระจันทร์อยู่บนระเบียงสายลมเฉื่อยฉิว .. วันนี้เธอสนุกมาก ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของภีษมะ ที่ไม่ยั่วยวน กวนประสาท ... แต่ทว่ามันก็มีความรู้สึกขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นในหัวใจดวงน้อย ๆ ขอบบุษบา ...

“พี่เสือเป็นเกย์ .. ทำไมวันนี้ในรถถึงได้ ...” ภาพที่ภีษมะจูบบุษบามันฉายชัดอยู่ในความรู้สึกของบุษบา .. มือน้อยลูบริมฝีปากเบา ๆ เหมือนระลึกนึกถึงรสสัมผัสหวามนั้น ... “เป็นไปไม่ได้ .. เขาเป็นเกย์ .. แถมเราเป็นจ้างเขามาทำงาน .. จะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้ .. พี่เสือเป็นเกย์ .. พี่เสือเป็นเกย์ ..” หญิงสาวคิด .. แต่ทำไมเล่า .. ทุกครั้งที่ภีษมะจูบบุษบา .. หญิงสาวกลับรู้สึกวูบวาบ หวามไหว ระทึกใจ .. ทุกคราไปเล่า ..

“อย่าเห็นน้องหนูเป็นของเล่นได้ไหมค่ะ .. พี่เสือรู้ไหม .. พี่ทำให้น้องหนูหวั่นไหวนะคะ” บุษบาพูดเบา ๆ สองดวงตาจ้องมองอยู่กับดวงจันทราที่ทรงกลดจ้าอยู่กลางฟากฟ้า .. สองดวงตาจ้องมอง .. แต่ดวงใจกลับมีใครเข้ามานั่งจองในใจเสียแล้ว .. บุษบา

ในเงามืดยามกลางคืน .. สองรูปร่างสูงใหญ่ สามคน ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาในไร่ระเด่น ของเงียบที่สุด .. ความมืดทำให้พวกเขาพรางตัวได้อย่างดี .. ในมือของทุกคนมีถุงใส่สารเคมีบางอย่างไว้ .. กลุ่มคนกระจายออกไปยังแปลงต่าง ๆ ก่อนจะโรยสารเคมีกลิ่นฉุนลงที่แปลงดาหลา ของบุษบาอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก .. พวกเขาก็ทำงานสำเร็จก่อนจะสลายตัวไปในเงามืดทิ้งไว้แต่เพียงกลิ่นฉุนของสารเคมี ...
เช้าวันใหม่ทางด้านภีษมะที่ตอนนี้มาถึงสถานที่ทำงานตั้งแต่เช้า .. วันนี้ชายหนุ่มอารมณ์ดีเป็นพิเศษจนบรรดาลูกศิษย์นึกสงสัยว่า ทำไมอาจารย์ถึงขรึมเคร่ง .. แต่ก็ยังมีรอยยิ้มตลอดเวลาที่สอน .. จนกระทั่งช่วงบ่าย ผู้บังคับบัชชาเรียกภีษมะเข้าพบ ..

“ขออภัยครับท่าน .. ผมพันตรีภีษมะ ขออนุญาตเข้าพบครับ” ..

“เชิญครับผู้พัน ..”

ภีษมะเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของผู้บังคับบัญชา .. ก่อนจะโค้งทำความเคารพ ..

“เชิญนั่ง” .. ผู้อาวุโสเชื้อเชิญ .. “ผมมีเรื่องอยากรบกวนผู้พัน .. อีกประมาณ 1 เดือน โรงเรียนก็จะปิดแล้ว .. พอดีว่ามีหน่วยงานหนึ่งทำหนังสือขอตัวคุณขึ้นไปช่วยงานชั่วคราว ..พอโรงเรียนเปิดผู้พันก็กลับมาเป็นอาจารย์ตามเดิม ..”

“ให้ผมทำอะไรหรือครับท่าน .. หากทำเพื่อประเทศชาติ .. ทำยินดี .. แต่หากว่าทำเพื่อบุคคลใด บุคคลหนึ่ง .. ผมคงต้องปฏิเสธ” ชายหนุ่มตอบเสียงเข้ม ตรงตามอุดมการณ์ของเขาทุกประการ

“กองทัพภาคที่ 3 ทางภาคเหนือ .. ทางท่านแม่ทัพภาคเห็นผลงานของคุณตอนเมื่อปีก่อนที่คุณลงไปช่วยงานทางภาคใต้ .. ท่านเลยอยากให้คุณไปช่วยงานโดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามฝิ่น .. อีกอย่างผมเล็งเห็นว่าผู้พันเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง .. ชอบทำงานที่โลดโผน .. ฝีมือการยิงปืนของผู้พันเป็นเยี่ยม .. งานนี่น่าจะเหมาะกับผู้พัน”

“ครับ .. ถ้าหากว่าท่านแม่ทัพภาคเห็นว่าผม มีประโยชน์ที่จะช่วยงานทำให้เกิดประโยชน์ต่อแผ่นดินแล้วละก็ .. ผมยินดีปฏิบัติงานเต็มที่ครับท่าน .. ผมขอความกรุณาจากท่านช่วยนำเรียนท่านแม่ทัพภาคด้วยครับ” ..

“ได้ผู้พัน .. คุณรู้ไหมผู้พันภีษมะ .. คุณเหมือนพ่อ .. ผมขอชื่นชมจากใจ ..”

“ขอบคุณครับท่าน”

พอภีษมะออกมาจากห้องของผู้บังคับบัญชา ชายหนุ่มนึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้ เขามีสัญญาใจกับบุษบา .. นี่อีกแค่ 1 เดือนเองเหรอ .. ชายหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะสลัดทิ้งความคิด เวลาที่เหลือเขาควรจะทำอย่างไรดีกับบุษบา .. เพราะถ้าเขาขึ้นเหนือเวลาที่จะเจอกันก็คงยาก .. “เรื่องส่วนตัวใหญ่แค่ไหนก็เรื่องเล็ก .. เรื่องแผ่นดินเรื่องเล็กแค่ไหนก็เรื่องใหญ่” .. นี่คือเหตุผลที่ทำให้ภีษมะตัดสินใจที่จะไปช่วยงานทางกองทัพภาคที่ 3 อย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

ทางด้านบุษบาพอตื่นเช้าขึ้นมาก็ต้องไปรดน้ำดาหลา .. ระหว่างที่เดินเข้าไปในแปลงดาหลา .. คนงานกำลังซุบซิบ กันเป็นกลุ่ม ๆ หญิงสาวจึงเดินเข้าไปดูในแปลงดาหลา .. แต่ภาพตรงหน้าทำให้หญิงสาวแทบช๊อก .. ดอกดาหลาที่กำลังเจริญเติบโตออกดอกสวย .. มันกลับไหม้ดำเหี่ยวแห้ง ..

“มันเกิดอะไรขึ้นค่ะน้าลาภ ..” บุษบาสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด

“เราโดนแกล้งครับคุณน้องหนู .. มีคนพบถุงนี้ที่หัวไร่” น้าลาภชูถุงสีขาวภายในบรรจุผงเคมีสีขาว กลิ่นฉุน

“กลิ่นเหมือนหญ้าฆ่าหญ้า” .. “ใครกันที่ทำ .. เลวมาก เราโชคดีมากนะที่เราตัดดาหลาล็อตส่งออกไปแล้ว ไม่งั้นแย่แน่”

“เดี่ยวน้าจะสืบดูว่ามันมีเรื่องอะไร .. แล้วใครเป็นคนทำ .. ทำเพื่ออะไร” ..

“ขอบคุณมาก .. ถ้าอย่างนั้น .. เราต้องตัดดาหลาที่เดินสารเคมีออกให้หมด .. ที่สำคัญดินมันเสียแน่ ๆ เราต้องปรับปรุงดินเสียก่อน .. น้าลาภค่ะ รบกวนหาหญ้าแฝกมาปลูก .. แล้วก็หาพืชที่บำรุงดินได้มาปลูกให้ทีนะคะ .. แล้วนี่โดนไปกี่แปลงค่ะ”

“แค่สามแปลงครับคุณน้องหนู”

“ค่ะ .. น้องหนูฝากด้วยนะคะ” บุษบาเครียดหนักตั้งแต่เริ่มทำไร่ดาหลาอย่างจริงจังตั้งแต่รุ่นก๋งไชโย .. ก็ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น .. ใครกันเป็นคนทำ ...
ช่วงที่จิตใจขอบบุษบามีความวิตกกังวล .. ใบหน้าของภีษมะกลับลอยเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน .. “คิดถึงเขาหรือไรน่ะ” สุดท้ายบุษบาก็ไม่อาจฝืนหัวใจ .. หยิบโทรศัพท์หาภีษมะทันที ..โทรครั้งแรกภีษมะไม่ได้รับสายเพราะกำลังสอนอยู่ .. แต่ก็เห็นแล้วว่าบุษบาโทรมา ..

“พี่เสือ .. ทำไมไม่รับนะ .” บุษบาหน้าง้ำนึกโมโหทำไมไม่รับสายเสียที .. แต่หลังจากนั้นเพียงยี่สิบนาที .. ภีษมะก็โทรกลับ

“สวัสดีครับ น้องหนู .. คิดถึงพี่เสือเหรอจ๊ะ” .. ภีษมะหยอกเย้าบุษบาโดยไม่รู้ว่าปลายสายหน้างอง้ำเป็นม้าหมากรุก

“พี่เสือ .. น้องหนูโดนแกล้ง .. มีคนเอายาฆ่าหญ้ามาโปรยลงบนแปลงดาหลา” บุษบาบอกเสียงเครียด

“อะไรน่ะ .. น้องหนูมีเรื่องกับใครหรือเปล่าครับ” ภีษมะถาม

“ตอนนี้น้องหนูยังนึกไม่ออก .. แต่คิดว่าไม่มี” ..

“ตอนนี่พี่ติดงาน .. พี่เสือยังไปหาน้องหนูไม่ได้ .. ยังไงวันศุกร์เย็นพี่เสือจะรีบไปหานะครับน้องหนู .. ตอนนี้น้องหนูไปไหนมาไหน ระวังตัวหน่อยแล้วกันนะ ..”

ชายหนุ่มบอก ปลายสายก็รับคำว่าจะระวังตัว .. พอวางสายภีษมะก็แทบอยากจะเร่งวันเวลาให้ถึงวันศุกร์เร็ว .. แต่นี่มันเพิ่งจะวันจันทร์เอง ..



มาลัยห่วงรัก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 พ.ย. 2554, 19:32:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 พ.ย. 2554, 19:32:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 1810





<< (เสือ) ยั่วเย้า .. กระเซ้า (น้องหนู)   
Edelweiss 2 พ.ย. 2554, 22:10:22 น.
โถ จนป่านนี้น้องหนูยังคิดว่าพี่เสือเป็นเกย์อีกเรอะะะ


ปอแก้ว 2 พ.ย. 2554, 23:36:36 น.
น้องหนูจะเป็นอะไรไหมคะ แอบกลัวแทน
พี่เสือมาไวๆนะ :)


teesaparn 4 พ.ย. 2554, 11:38:26 น.
โอม พี่เสือจงมาเวยๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account