จังหวะรักโดนใจเธอ(Rhythm Of My Heart)
You’re in my thought.
เธออยู่ในความคิดถึงและทุกที่ที่มีฉัน
You’re in my days and in my heart always.
เธออยู่ในทุกๆ วัน และอยู่ในใจของฉันเสมอ
I LOVE YOU BABY. Love and care’s binding our heart to be one.
ฉันรักเธอ ด้วยความรัก และผูกพัน เราจึงรู้สึกเหมือนมีหัวใจดวงเดียวกัน
ALWAYS KEEP THE FAITH!!! จงเชื่อมั่นในศรัทธาอยู่เสมอ
เธออยู่ในความคิดถึงและทุกที่ที่มีฉัน
You’re in my days and in my heart always.
เธออยู่ในทุกๆ วัน และอยู่ในใจของฉันเสมอ
I LOVE YOU BABY. Love and care’s binding our heart to be one.
ฉันรักเธอ ด้วยความรัก และผูกพัน เราจึงรู้สึกเหมือนมีหัวใจดวงเดียวกัน
ALWAYS KEEP THE FAITH!!! จงเชื่อมั่นในศรัทธาอยู่เสมอ
Tags: TVXQ,TOHOSHINKI,JYJ,YUNHO,DBSK
ตอน: ตอนที่ 1 รีไรท์
ตอนที่ 1 เพราะเธอกับความรู้สึกครั้งแรก
กรี๊ด!!!!! เสียงกรีดร้องดังสนั่นของเหล่าแฟนคลับแน่นขนัดอยู่เต็มพื้นที่ท่ามกลางสนามบินขนส่งผู้โดยสารขาเข้าที่ยืนเต็มขวางประตูทั้งชั้นสอง และชั้นสาม แต่มันกลับเป็นเสียงแห่งความสุขของแฟนคลับต่างพากันไปเฝ้ารอคอยการกลับมาจากทัวร์คอนเสิร์ตของนักร้องหนุ่มดังไอดอลขวัญใจค่ายยักษ์ใหญ่ของวงการเพลงและบันเทิง TM Entertainment พวกเขาคือนักร้องรุ่นใหม่ไฟแรงนามว่า วงปริ๊นซ์ (Prince) หรือเทพบุตรแห่งโลกตะวันออกของหญิงสาวและผู้ชายบางคน พวกเขาประกอบไปด้วยนักร้องชายหนุ่มรูปหล่อเสียงสวรรค์ดั่งพระเจ้าประทานมาให้มีสมาชิกในวงรวม 4 คน คือ ยู- ณัฐกฤต ฉายาเจ้าชายหล่อเข้มหัวใจเขาเย็นชาแต่ไม่ได้ไร้รัก, แจ-เจษฏาภรณ์ ฉายาเจ้าชายหน้าหวานชวนเสน่ห์กับหัวใจแสนเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง, มิกกี้ –ปกรณ์ ฉายาเจ้าชายแห่งมิตรภาพที่รักสาวทุกคนได้เสมอ และสุดท้ายน้องเล็ก แม็กซ์-ชินวุฒิ ฉายาเจ้าชายเจ้าเสน่ห์หัวใจของเขามีไว้เพื่อรัก
“เธอเห็นมั้ยปริ้นซ์ออกมาแล้วทั้ง 4 คนเลย” แฟนคลับบอกเมื่อเห็นทั้ง 4 หนุ่มเดินออกมา
“ฉันเลือกไม่ถูกเลย ความวิ้งมันแสบตาไปหมดแล้ว ” สาวๆ อีกหลายคนก็เกิดอาการแสงแห่งความหล่อเต็มตาเข้าให้ กรี๊ด!! เสียงกรีดร้องเมื่อได้เจอคนที่ตัวเองชื่นชอบของแฟนคลับแต่ละคนดังไม่ขาดสายแล้วทุกคนก็พากันวิ่งกรูเข้าไปเพื่อชื่นชมในความหล่อขั้นเทพของนักร้องคนดัง ส่วนคนอื่นๆที่ได้นั่งร่วมไฟท์กับนักร้องดังก็เดินตามกันออกมาติดๆ แต่พวกเขาต่างก็ไม่ได้รับสะดวกเท่าไหร่เพราะเหล่าบอดี้การ์ดของนักร้องดังต้องคอยตามประกบความปลอดภัยให้พวกเขาอยู่ตลอดทำให้การเดินทางภายในสนามบินล่าช้าสำหรับคนอื่นๆ
นักร้องหนุ่มที่เดินตามหลังหญิงสาวออกมา พวกเขาคนหนึ่งในกลุ่มใส่แว่นตาดำอันใหญ่และบังเอิญขณะเดินก็ได้ชนหญิงสาวข้างหน้าโดยบังเอิญจากแรงดันเบียดเสียดของกลุ่มคนแฟนคลับ และตัวเขาเองก็มัวแต่สนใจอยู่กับโทรศัพท์จึงไม่ได้ดดูทางเดินเลย ส่วนบรรดาแฟนคลับก็พยายามหาทางเข้ามาหานักร้องหนุ่มจนบอดี้การ์ดตัวใหญ่ทั้ง 4 คนพยายามพาร่างกายก่ำยำเข้ามาล้อมเหล่านักร้องเพื่อไม่ให้แฟนคลับผู้หญิง และผู้ชายบางคนเข้ามาใกล้จนเกินไป แรงชนทำให้นักร้องหนุ่มหัวหน้าวงถูกดันเบียดกันก่อนจะเซถลาไปชนกับหญิงสาวที่เดินอยู่ด้านหน้าจนร่างบางเกือบจะลื่นไหลไปด้านข้าง ขณะเดียวกับที่เธอเองก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่และโทรศัพท์ของทั้งสองคนจึงหล่นลงมาบนพื้นพร้อมกันอย่างไม่ทันได้ระวังตัว
“ขอโทษครับ” เสียงใสของหัวหน้าวง ยู ณัฐกฤตพูดขึ้น มือหนาเรียวของเขาเอื้อมหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง ระหว่างนั้นหญิงสาวร่างบางสวมแว่นตาสีชาใหญ่ปกปิดดวงตาคู่สวยตรงหน้าก็ก้มลงพร้อมกันกับนักร้องหนุ่ม ต่างฝ่ายต่างก้มลงหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง โทรศัพท์ของเธอหล่นอยู่ตรงหน้านักร้องหนุ่มพอดี นักร้องหนุ่มกำลังจะหยิบมันขึ้นมา แต่ยังไม่ทันไรเขาก็ต้องตกใจอีกครั้งกับเสียงกรี๊ดที่รีบวิ่งกันกรูเข้ามาหานักร้องหนุ่มจนบอดี้การ์ดที่ตามมาต้องรีบเข้ามาประชิดตัวร้องหนุ่มอีกครั้ง ณัฐกฤตหยิบโทรศัพท์ของหญิงสาวที่สวมแว่นตาสีชาใหญ่มาด้วย เขายังไม่ได้ส่งโทรศัพท์ของหญิงสาวคืนให้เลย บอดี้การ์ดตัวใหญ่กำยำก็มาบังร่างของเขาเอาไว้ไม่ให้แฟนคลับเข้าใกล้
“ไม่ได้นะครับ เข้ามาไม่ได้นะครับ” เสียงบอดี้การ์ดบอกหญิงสาวที่กำลังจะเอื้อมมือบางเข้าหานักร้องดังคนหนึ่งและเธอก็ไม่สามารถเอื้อมมือบางเข้าไปถึง ไม่สามารถฝ่าแรงคุมกันจากบอดี้การ์ดตัวยักษ์ใหญ่ และเหล่าบรรดาแฟนคลับไปได้ความอลหม่านสับสนก็เกิดขึ้นภายในสนามบินผู้คนต่างทยอยเบียดกันมุ่งหน้าไปหน้านักร้องหนุ่มทั้ง 4 คน จนบอดี้การ์ดจะต้องรีบพานักร้องหนุ่มไอดอลขึ้นรถตู้ที่มาจอดรับด้านหน้าประตูทางเข้าสนามบินเป็นการเร่งด่วน
“เฮ้!! พวกคุณหยุดก่อนเอาโทรศัพท์ของฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวตะโกนบอกแต่ทว่าเหมือนเสียงของเธอเบาอย่างกับแรงลมน้อยนิด และแทบจะกลืนหายไปท่ามกลางกลุ่มคน บอดี้การ์ดร่างยักษ์ไม่สามารถปล่อยนักร้องหนุ่มให้มีโอกาสคืนโทรศัพท์กับเธอได้ ยิ่งเมื่อเธอพยายามจะวิ่งตามไปก็ไม่ทันการกับความรวดเร็วที่เกิดขึ้น และไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขาได้เลยจนกระทั่งนักร้องหนุ่มทั้ง 4คนและทีมงานบอดี้การ์ดร่างยักษ์ขึ้นรถตู้ออกจากสนามบินลับตาไปอย่างรวดเร็ว
‘บ้าชะมัด!!! ‘เธอสบถหัวเสียและยืนมองหาใครสักคนอยู่ที่นั่งชั้นสองของสนามบิน จนกระทั่งระยะเวลา 3 ชั่งโมงผ่านไป
เวลาเริ่มจะมืดมากขึ้นทุกที หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือคู่สวยขึ้นมาดู 20.00 น. แล้ว ภายใต้แว่นสีชาอันใหญ่ได้รูปกับใบหน้าสาวสวยซึ่งบังตาคู่สวยเอาไว้ก่อนหน้านี้ หญิงสาวถอดมันออกเหลือไว้แต่ใบหน้าสวยใส แต่ไม่พร้อมที่จะมีรอยยิ้มให้ปรากฏขึ้นมาบนหน้าสวยได้ในขณะนี้ หญิงสาวกำลังอารมณ์ไม่ดีเพราะที่เธอไม่สามารถติดต่อใคร โทรศัพท์ของเธอที่ดันเจอปัญหาก่อนหน้านี้แล้วแถมยังโดนนักร้องหนุ่มหยิบมันติดมือหลับไปด้วย เธอไม่สามารถติดต่อกับโทรศัพท์มือถือของเธอได้อาจจะเป็นเพราะเธอลืมชาร์ตแบตที่ใกล้จะหมดเต็มที กับความคิดที่ว่าคงคงจะไม่มีโอกาสได้มันกลับคืนมาแล้ว ตัวเธอไม่ได้สนใจที่จะตามหาโทรศัพท์มือถือต่อเพราะมีสิ่งอื่นต้องทำสำคัญกว่า เหล่าบรรดาแฟนคลับมากมายก่อนหน้านี้ก็ได้หายไปหมดแล้วภายในสนามบินราวดูบางตาไปบ้าง หญิงสาวจึงไปขอใช้โทรศัพท์ของประชาสัมพันธ์ติดต่อกับคนที่เธอกำลังรออยู่ให้มารับกลับกว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็ปาเข้าไปนาน เพราะหญิงสาวไม่ได้บอกคนปลายสายที่จะมารับเอาไว้ล่วงหน้า
“ขอโทษทีมาช้าไปหน่อยกว่าจะเข้ามาได้รถติดมากเลยนะ ฉันดูข่าวมีนักร้องมาด้วยเธอเห็นหรือเปล่าน่าจะมาไฟท์เดียวกันใช่มั้ย” หญิงสาวที่วิ่งหน้าตาตื่นวิ่งเข้ามาหาเพื่อนสนิท พิชญา หรือเรียกว่าเอมี่เธอวิ่งเสียงตื่นเพราะเธอเองก็เป็นแฟนคลับด้วยเหมือนกัน
“ว่าแต่โทรหาตั้งนานทำไมไม่รับ ติดต่อก็ไม่ได้อีก แล้วทำไมมากระทันหันจังที่บ้านรู้หรือเปล่า”
“ก็เพราะมีนักร้องนะซิ ฉันก็เลยต้องมานั่งรอเธอแบบนี้ แย่ชะมัด พรุ่งนี้ฉันมีงานด้วย ถ้าไม่รับปากจะช่วยงานแทนอาเกตุล่ะก็ฉันไม่ไปนอนโรงแรมหรอก ฉันมีเรื่องสำคัญกว่านั้นต้องทำอีกนะ” หญิงสาวคลายยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา สรัญรัชย์ หรือชื่อเล่นว่า นานา เธอเดินทางกลับมาจากอิตาลีหลังจากที่เรียนจบ และทำงานเดินแบบบ้างตอนอยู่ที่นั้น วันนี้เธอถูกขอร้องให้เธอมาช่วยงานเดินแบบห้องเสื้อดังให้กับคอลเลคชั่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวให้กับเพื่อนนางแบบของอาสาวของเธอพวกเขาเคยสนิทกันตอนอยู่อิตาลีด้วยกันที่โน้น
“เรื่องสำคัญอะไรเหรอ จนเธอต้องรีบบินมาโดยไม่บอกันเลยสักคำนะ “ พิชญาช่างสงสัยก็ยังถามต่อ
“อ่อ! ไม่มีอะไรก็อย่างที่บอก มาช่วยงานอาเกตุเดินแบบเท่านั้น” เสียงหวานตอบ
“ว่าไงสองสาวจะคุยกันอีกนานมั้ย พี่รอจนเมื่อยแล้ว” เสียงเข้มของชายหนุ่มที่เดินตามหลังพิชญามาด้วย จิรายุพี่ชายของพิชญายิ้มต้อนรับเธอด้วยใบหน้าอ่อนโยน เขาแทบจะเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นหน้าสาวสวยตรงหน้าเธอดูโตขึ้นเยอะหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว และดูเหมือนเขาจะคิดถึงมากด้วยซ้ำ
“ไปค่ะ พี่เซียร์คิดถึงจังเลย รีบพานานาไปโรงแรมก่อนนะค่ะเหนื่อยจะแย่แล้ว พรุ่งนี้นานามีงานเดินแบบ” สรัญรัชย์แขนเรียวก็โอบกอดชายหนุ่มกลับ
“ไปโรงแรมทำไม” จิรายุมองหน้าเธอก่อนจะอดถามไม่ได้
“ใช่ แล้วจะไปทำไมไม่กลับบ้านล่ะ ไปนอนโรงแรมแล้วอาก้องภพรู้หรือเปล่าว่านานามาถึงแล้ว” พิชญาถามด้วยความสงสัยอีกครั้งเพื่อนของเธอจะไปนอนที่โรงแรมทั้งๆ ที่บ้านตัวเองก็มี อีกอย่างเพื่อนนางแบบสาวของเธอก็รีบโทรตามให้มารับที่สนามบินอย่างกระทันหันด้วย แถมยังไม่ยอมบอกให้รู้ล่วงหน้าว่าจะกลับมาวันนี้
“ขอโทษนะเอมี่ หยุดถามก่อนเถอะ ตอนนี้พานานากลับก่อนแล้วกัน”
ทั้งสองคนพี่น้องพิชญา และจิรายุ จึงช่วยกันหยิบกระเป๋าของสรัญรัชย์ขึ้นรถก่อนจะเดินหน้าพักโรงแรมกลางใจเมืองที่เธอจองเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ตอนนี้สรัญรัชย์เองก็กำลังอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ ได้แต่นั่งหน้าบึ้งไม่รับแขกกับการเสียเวลา แล้วเจอเรื่องตอนที่มาพร้อมพวกนักร้องดังพวกนั้นอีก ออกมาโทรศัพท์ของเธอดันหายไป ช่างเป็นวันที่แย่ที่สุดตั้งแต่กลับมา
ที่ตึก TM ENTERTAINMENT(ทีเอ็มเอนเตอร์เทนเม้นท์)
“ผมต้องขอโทษด้วยที่ขอร้องให้พวกคุณไปช่วยงานเปิดร้านพรุ่งนี้ เอาเป็นว่าผมจะเลี้ยงขอบคุณทุกคนเลย แล้วเมื่อไหร่คุณแพรจะว่างนัดของผมซะที หึ” เฉลิมชัยชายหนุ่มที่กำลังพูดคุยอย่างอารมณ์ดีกับผู้จัดการสาวภายในห้องประชุม ดีใจที่ได้เจอหน้ากันหลังจากที่พวกเขาไปเตรียมงานเพลงที่ต่างประเทศมา เขาเป็นถึงหลานชายของผู้บริหารกรรมการบริษัท สายตาที่บอกว่ารู้สึกอยากเป็นมากกว่าเจ้านายและลูกน้องกันชายหนุ่มไม่ได้พูดเปล่าแต่มือปลาไหลทักทาย เขาจับมือบางของผู้จัดการสาวขึ้นมาอย่างฉวยโอกาสแต่หญิงสาวก็สะบัดมือออกมาอย่างรวดเร็ว
“ได้ค่ะ ยังไงเจอกันเย็นพรุ่งนี้ ไม่ต้องเลี้ยงขอบคุณหรอกค่ะคุณคิง มันเป็นงานของแพรอยู่แล้ว”
“เมื่อไหร่คุณแพรจะคุยเรื่องเราซะทีคุณตัดสินใจได้หรือยังครับ ผมอยากนัดกินข้าวกับคุณ” ชายหนุ่มที่ยังไม่ละความพยายามเขายังจะทำท่าจะล่วงเกินเธอโดยคว้ามือบางเข้าหาตัวอีกครั้ง
“คือแพรว่าเรา เอ่อ ” ผู้จัดการสาวยังไม่ได้พูดออกไป ก็มีเสียงแทรกเข้ามาเหมือนช่วยขัดจังหวะให้พอดี
“ขอโทษนะครับที่นี้เป็นห้องประชุม พวกผมมีเรื่องจะคุยงานกันรบกวนพี่คิงกลับก่อนนะครับ ว่าไงครับพี่แพรเรื่องงาน เราควรจะเริ่มประชุมกันได้แล้ว ผมไม่มีเวลาว่างนักนะฮะ มีสาวๆ รอนัดกับผมอีกเพียบ” ปกรณ์นักร้องหนุ่มยิ่มกริ่มเข้าพูดได้อย่างภาคภูมิใจเรื่องเกิดกับเรื่องสาวๆ เนี่ย ไม่ทันไรก็รีบเดินเข้าแทรกกลางระหว่างผู้จัดการสาวและรองประธานหนุ่มเข้ามาขัดจังหวะการคุยกันของทั้งสองคนเต็มที่ ตามมาด้วยเพื่อนนักร้องวงอีกสองคนเจษฏาภรณ์ และชินวุฒิที่เดินกันเข้ามาอย่างรู้งาน จนเฉลิมชัยที่ยืนอยู่ข้างผู้จัดการสาวต้องขอตัวออกจากห้องไป พวกเขาเห็นพัชราภรณ์หรือผู้จัดการสาวของตัวเองเข้ามาคุยเรื่องงานนานมาก จนรออยู่ที่รถไม่ไหวจึงเดินขึ้นมาตามแต่คงจะมีแต่ปกรณ์เท่านั้นแหละที่รอไมได้คนเดียวแล้วบอกให้ทุกคนรีบตามเข้ามา หนุ่มเจ้าชู้ก็มักไม่อย่างให้ใครเข้ามายุ่มยามกับคนของตัวเองสักเท่าไร หมายถึงผู้จัดการสาวส่วนตัวของวงนั่นเป็นความคิดของหนุ่มปลาไหลแบบเขา พอปกรณ์เดินเข้ามาและเห็นเฉลิมชัยจับมือเธอ และก็เคยรู้มาเหมือนกันว่ารองประธานคนนี้ชอบตามจีบผู้จัดการสาวของเขาอยู่ยิ่งทำให้วันนี้ชายหนุ่มอารมณ์ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นเลย
กรี๊ด!!!!! เสียงกรีดร้องดังสนั่นของเหล่าแฟนคลับแน่นขนัดอยู่เต็มพื้นที่ท่ามกลางสนามบินขนส่งผู้โดยสารขาเข้าที่ยืนเต็มขวางประตูทั้งชั้นสอง และชั้นสาม แต่มันกลับเป็นเสียงแห่งความสุขของแฟนคลับต่างพากันไปเฝ้ารอคอยการกลับมาจากทัวร์คอนเสิร์ตของนักร้องหนุ่มดังไอดอลขวัญใจค่ายยักษ์ใหญ่ของวงการเพลงและบันเทิง TM Entertainment พวกเขาคือนักร้องรุ่นใหม่ไฟแรงนามว่า วงปริ๊นซ์ (Prince) หรือเทพบุตรแห่งโลกตะวันออกของหญิงสาวและผู้ชายบางคน พวกเขาประกอบไปด้วยนักร้องชายหนุ่มรูปหล่อเสียงสวรรค์ดั่งพระเจ้าประทานมาให้มีสมาชิกในวงรวม 4 คน คือ ยู- ณัฐกฤต ฉายาเจ้าชายหล่อเข้มหัวใจเขาเย็นชาแต่ไม่ได้ไร้รัก, แจ-เจษฏาภรณ์ ฉายาเจ้าชายหน้าหวานชวนเสน่ห์กับหัวใจแสนเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง, มิกกี้ –ปกรณ์ ฉายาเจ้าชายแห่งมิตรภาพที่รักสาวทุกคนได้เสมอ และสุดท้ายน้องเล็ก แม็กซ์-ชินวุฒิ ฉายาเจ้าชายเจ้าเสน่ห์หัวใจของเขามีไว้เพื่อรัก
“เธอเห็นมั้ยปริ้นซ์ออกมาแล้วทั้ง 4 คนเลย” แฟนคลับบอกเมื่อเห็นทั้ง 4 หนุ่มเดินออกมา
“ฉันเลือกไม่ถูกเลย ความวิ้งมันแสบตาไปหมดแล้ว ” สาวๆ อีกหลายคนก็เกิดอาการแสงแห่งความหล่อเต็มตาเข้าให้ กรี๊ด!! เสียงกรีดร้องเมื่อได้เจอคนที่ตัวเองชื่นชอบของแฟนคลับแต่ละคนดังไม่ขาดสายแล้วทุกคนก็พากันวิ่งกรูเข้าไปเพื่อชื่นชมในความหล่อขั้นเทพของนักร้องคนดัง ส่วนคนอื่นๆที่ได้นั่งร่วมไฟท์กับนักร้องดังก็เดินตามกันออกมาติดๆ แต่พวกเขาต่างก็ไม่ได้รับสะดวกเท่าไหร่เพราะเหล่าบอดี้การ์ดของนักร้องดังต้องคอยตามประกบความปลอดภัยให้พวกเขาอยู่ตลอดทำให้การเดินทางภายในสนามบินล่าช้าสำหรับคนอื่นๆ
นักร้องหนุ่มที่เดินตามหลังหญิงสาวออกมา พวกเขาคนหนึ่งในกลุ่มใส่แว่นตาดำอันใหญ่และบังเอิญขณะเดินก็ได้ชนหญิงสาวข้างหน้าโดยบังเอิญจากแรงดันเบียดเสียดของกลุ่มคนแฟนคลับ และตัวเขาเองก็มัวแต่สนใจอยู่กับโทรศัพท์จึงไม่ได้ดดูทางเดินเลย ส่วนบรรดาแฟนคลับก็พยายามหาทางเข้ามาหานักร้องหนุ่มจนบอดี้การ์ดตัวใหญ่ทั้ง 4 คนพยายามพาร่างกายก่ำยำเข้ามาล้อมเหล่านักร้องเพื่อไม่ให้แฟนคลับผู้หญิง และผู้ชายบางคนเข้ามาใกล้จนเกินไป แรงชนทำให้นักร้องหนุ่มหัวหน้าวงถูกดันเบียดกันก่อนจะเซถลาไปชนกับหญิงสาวที่เดินอยู่ด้านหน้าจนร่างบางเกือบจะลื่นไหลไปด้านข้าง ขณะเดียวกับที่เธอเองก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่และโทรศัพท์ของทั้งสองคนจึงหล่นลงมาบนพื้นพร้อมกันอย่างไม่ทันได้ระวังตัว
“ขอโทษครับ” เสียงใสของหัวหน้าวง ยู ณัฐกฤตพูดขึ้น มือหนาเรียวของเขาเอื้อมหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง ระหว่างนั้นหญิงสาวร่างบางสวมแว่นตาสีชาใหญ่ปกปิดดวงตาคู่สวยตรงหน้าก็ก้มลงพร้อมกันกับนักร้องหนุ่ม ต่างฝ่ายต่างก้มลงหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง โทรศัพท์ของเธอหล่นอยู่ตรงหน้านักร้องหนุ่มพอดี นักร้องหนุ่มกำลังจะหยิบมันขึ้นมา แต่ยังไม่ทันไรเขาก็ต้องตกใจอีกครั้งกับเสียงกรี๊ดที่รีบวิ่งกันกรูเข้ามาหานักร้องหนุ่มจนบอดี้การ์ดที่ตามมาต้องรีบเข้ามาประชิดตัวร้องหนุ่มอีกครั้ง ณัฐกฤตหยิบโทรศัพท์ของหญิงสาวที่สวมแว่นตาสีชาใหญ่มาด้วย เขายังไม่ได้ส่งโทรศัพท์ของหญิงสาวคืนให้เลย บอดี้การ์ดตัวใหญ่กำยำก็มาบังร่างของเขาเอาไว้ไม่ให้แฟนคลับเข้าใกล้
“ไม่ได้นะครับ เข้ามาไม่ได้นะครับ” เสียงบอดี้การ์ดบอกหญิงสาวที่กำลังจะเอื้อมมือบางเข้าหานักร้องดังคนหนึ่งและเธอก็ไม่สามารถเอื้อมมือบางเข้าไปถึง ไม่สามารถฝ่าแรงคุมกันจากบอดี้การ์ดตัวยักษ์ใหญ่ และเหล่าบรรดาแฟนคลับไปได้ความอลหม่านสับสนก็เกิดขึ้นภายในสนามบินผู้คนต่างทยอยเบียดกันมุ่งหน้าไปหน้านักร้องหนุ่มทั้ง 4 คน จนบอดี้การ์ดจะต้องรีบพานักร้องหนุ่มไอดอลขึ้นรถตู้ที่มาจอดรับด้านหน้าประตูทางเข้าสนามบินเป็นการเร่งด่วน
“เฮ้!! พวกคุณหยุดก่อนเอาโทรศัพท์ของฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวตะโกนบอกแต่ทว่าเหมือนเสียงของเธอเบาอย่างกับแรงลมน้อยนิด และแทบจะกลืนหายไปท่ามกลางกลุ่มคน บอดี้การ์ดร่างยักษ์ไม่สามารถปล่อยนักร้องหนุ่มให้มีโอกาสคืนโทรศัพท์กับเธอได้ ยิ่งเมื่อเธอพยายามจะวิ่งตามไปก็ไม่ทันการกับความรวดเร็วที่เกิดขึ้น และไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขาได้เลยจนกระทั่งนักร้องหนุ่มทั้ง 4คนและทีมงานบอดี้การ์ดร่างยักษ์ขึ้นรถตู้ออกจากสนามบินลับตาไปอย่างรวดเร็ว
‘บ้าชะมัด!!! ‘เธอสบถหัวเสียและยืนมองหาใครสักคนอยู่ที่นั่งชั้นสองของสนามบิน จนกระทั่งระยะเวลา 3 ชั่งโมงผ่านไป
เวลาเริ่มจะมืดมากขึ้นทุกที หญิงสาวยกนาฬิกาข้อมือคู่สวยขึ้นมาดู 20.00 น. แล้ว ภายใต้แว่นสีชาอันใหญ่ได้รูปกับใบหน้าสาวสวยซึ่งบังตาคู่สวยเอาไว้ก่อนหน้านี้ หญิงสาวถอดมันออกเหลือไว้แต่ใบหน้าสวยใส แต่ไม่พร้อมที่จะมีรอยยิ้มให้ปรากฏขึ้นมาบนหน้าสวยได้ในขณะนี้ หญิงสาวกำลังอารมณ์ไม่ดีเพราะที่เธอไม่สามารถติดต่อใคร โทรศัพท์ของเธอที่ดันเจอปัญหาก่อนหน้านี้แล้วแถมยังโดนนักร้องหนุ่มหยิบมันติดมือหลับไปด้วย เธอไม่สามารถติดต่อกับโทรศัพท์มือถือของเธอได้อาจจะเป็นเพราะเธอลืมชาร์ตแบตที่ใกล้จะหมดเต็มที กับความคิดที่ว่าคงคงจะไม่มีโอกาสได้มันกลับคืนมาแล้ว ตัวเธอไม่ได้สนใจที่จะตามหาโทรศัพท์มือถือต่อเพราะมีสิ่งอื่นต้องทำสำคัญกว่า เหล่าบรรดาแฟนคลับมากมายก่อนหน้านี้ก็ได้หายไปหมดแล้วภายในสนามบินราวดูบางตาไปบ้าง หญิงสาวจึงไปขอใช้โทรศัพท์ของประชาสัมพันธ์ติดต่อกับคนที่เธอกำลังรออยู่ให้มารับกลับกว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็ปาเข้าไปนาน เพราะหญิงสาวไม่ได้บอกคนปลายสายที่จะมารับเอาไว้ล่วงหน้า
“ขอโทษทีมาช้าไปหน่อยกว่าจะเข้ามาได้รถติดมากเลยนะ ฉันดูข่าวมีนักร้องมาด้วยเธอเห็นหรือเปล่าน่าจะมาไฟท์เดียวกันใช่มั้ย” หญิงสาวที่วิ่งหน้าตาตื่นวิ่งเข้ามาหาเพื่อนสนิท พิชญา หรือเรียกว่าเอมี่เธอวิ่งเสียงตื่นเพราะเธอเองก็เป็นแฟนคลับด้วยเหมือนกัน
“ว่าแต่โทรหาตั้งนานทำไมไม่รับ ติดต่อก็ไม่ได้อีก แล้วทำไมมากระทันหันจังที่บ้านรู้หรือเปล่า”
“ก็เพราะมีนักร้องนะซิ ฉันก็เลยต้องมานั่งรอเธอแบบนี้ แย่ชะมัด พรุ่งนี้ฉันมีงานด้วย ถ้าไม่รับปากจะช่วยงานแทนอาเกตุล่ะก็ฉันไม่ไปนอนโรงแรมหรอก ฉันมีเรื่องสำคัญกว่านั้นต้องทำอีกนะ” หญิงสาวคลายยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา สรัญรัชย์ หรือชื่อเล่นว่า นานา เธอเดินทางกลับมาจากอิตาลีหลังจากที่เรียนจบ และทำงานเดินแบบบ้างตอนอยู่ที่นั้น วันนี้เธอถูกขอร้องให้เธอมาช่วยงานเดินแบบห้องเสื้อดังให้กับคอลเลคชั่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวให้กับเพื่อนนางแบบของอาสาวของเธอพวกเขาเคยสนิทกันตอนอยู่อิตาลีด้วยกันที่โน้น
“เรื่องสำคัญอะไรเหรอ จนเธอต้องรีบบินมาโดยไม่บอกันเลยสักคำนะ “ พิชญาช่างสงสัยก็ยังถามต่อ
“อ่อ! ไม่มีอะไรก็อย่างที่บอก มาช่วยงานอาเกตุเดินแบบเท่านั้น” เสียงหวานตอบ
“ว่าไงสองสาวจะคุยกันอีกนานมั้ย พี่รอจนเมื่อยแล้ว” เสียงเข้มของชายหนุ่มที่เดินตามหลังพิชญามาด้วย จิรายุพี่ชายของพิชญายิ้มต้อนรับเธอด้วยใบหน้าอ่อนโยน เขาแทบจะเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นหน้าสาวสวยตรงหน้าเธอดูโตขึ้นเยอะหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว และดูเหมือนเขาจะคิดถึงมากด้วยซ้ำ
“ไปค่ะ พี่เซียร์คิดถึงจังเลย รีบพานานาไปโรงแรมก่อนนะค่ะเหนื่อยจะแย่แล้ว พรุ่งนี้นานามีงานเดินแบบ” สรัญรัชย์แขนเรียวก็โอบกอดชายหนุ่มกลับ
“ไปโรงแรมทำไม” จิรายุมองหน้าเธอก่อนจะอดถามไม่ได้
“ใช่ แล้วจะไปทำไมไม่กลับบ้านล่ะ ไปนอนโรงแรมแล้วอาก้องภพรู้หรือเปล่าว่านานามาถึงแล้ว” พิชญาถามด้วยความสงสัยอีกครั้งเพื่อนของเธอจะไปนอนที่โรงแรมทั้งๆ ที่บ้านตัวเองก็มี อีกอย่างเพื่อนนางแบบสาวของเธอก็รีบโทรตามให้มารับที่สนามบินอย่างกระทันหันด้วย แถมยังไม่ยอมบอกให้รู้ล่วงหน้าว่าจะกลับมาวันนี้
“ขอโทษนะเอมี่ หยุดถามก่อนเถอะ ตอนนี้พานานากลับก่อนแล้วกัน”
ทั้งสองคนพี่น้องพิชญา และจิรายุ จึงช่วยกันหยิบกระเป๋าของสรัญรัชย์ขึ้นรถก่อนจะเดินหน้าพักโรงแรมกลางใจเมืองที่เธอจองเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ตอนนี้สรัญรัชย์เองก็กำลังอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ ได้แต่นั่งหน้าบึ้งไม่รับแขกกับการเสียเวลา แล้วเจอเรื่องตอนที่มาพร้อมพวกนักร้องดังพวกนั้นอีก ออกมาโทรศัพท์ของเธอดันหายไป ช่างเป็นวันที่แย่ที่สุดตั้งแต่กลับมา
ที่ตึก TM ENTERTAINMENT(ทีเอ็มเอนเตอร์เทนเม้นท์)
“ผมต้องขอโทษด้วยที่ขอร้องให้พวกคุณไปช่วยงานเปิดร้านพรุ่งนี้ เอาเป็นว่าผมจะเลี้ยงขอบคุณทุกคนเลย แล้วเมื่อไหร่คุณแพรจะว่างนัดของผมซะที หึ” เฉลิมชัยชายหนุ่มที่กำลังพูดคุยอย่างอารมณ์ดีกับผู้จัดการสาวภายในห้องประชุม ดีใจที่ได้เจอหน้ากันหลังจากที่พวกเขาไปเตรียมงานเพลงที่ต่างประเทศมา เขาเป็นถึงหลานชายของผู้บริหารกรรมการบริษัท สายตาที่บอกว่ารู้สึกอยากเป็นมากกว่าเจ้านายและลูกน้องกันชายหนุ่มไม่ได้พูดเปล่าแต่มือปลาไหลทักทาย เขาจับมือบางของผู้จัดการสาวขึ้นมาอย่างฉวยโอกาสแต่หญิงสาวก็สะบัดมือออกมาอย่างรวดเร็ว
“ได้ค่ะ ยังไงเจอกันเย็นพรุ่งนี้ ไม่ต้องเลี้ยงขอบคุณหรอกค่ะคุณคิง มันเป็นงานของแพรอยู่แล้ว”
“เมื่อไหร่คุณแพรจะคุยเรื่องเราซะทีคุณตัดสินใจได้หรือยังครับ ผมอยากนัดกินข้าวกับคุณ” ชายหนุ่มที่ยังไม่ละความพยายามเขายังจะทำท่าจะล่วงเกินเธอโดยคว้ามือบางเข้าหาตัวอีกครั้ง
“คือแพรว่าเรา เอ่อ ” ผู้จัดการสาวยังไม่ได้พูดออกไป ก็มีเสียงแทรกเข้ามาเหมือนช่วยขัดจังหวะให้พอดี
“ขอโทษนะครับที่นี้เป็นห้องประชุม พวกผมมีเรื่องจะคุยงานกันรบกวนพี่คิงกลับก่อนนะครับ ว่าไงครับพี่แพรเรื่องงาน เราควรจะเริ่มประชุมกันได้แล้ว ผมไม่มีเวลาว่างนักนะฮะ มีสาวๆ รอนัดกับผมอีกเพียบ” ปกรณ์นักร้องหนุ่มยิ่มกริ่มเข้าพูดได้อย่างภาคภูมิใจเรื่องเกิดกับเรื่องสาวๆ เนี่ย ไม่ทันไรก็รีบเดินเข้าแทรกกลางระหว่างผู้จัดการสาวและรองประธานหนุ่มเข้ามาขัดจังหวะการคุยกันของทั้งสองคนเต็มที่ ตามมาด้วยเพื่อนนักร้องวงอีกสองคนเจษฏาภรณ์ และชินวุฒิที่เดินกันเข้ามาอย่างรู้งาน จนเฉลิมชัยที่ยืนอยู่ข้างผู้จัดการสาวต้องขอตัวออกจากห้องไป พวกเขาเห็นพัชราภรณ์หรือผู้จัดการสาวของตัวเองเข้ามาคุยเรื่องงานนานมาก จนรออยู่ที่รถไม่ไหวจึงเดินขึ้นมาตามแต่คงจะมีแต่ปกรณ์เท่านั้นแหละที่รอไมได้คนเดียวแล้วบอกให้ทุกคนรีบตามเข้ามา หนุ่มเจ้าชู้ก็มักไม่อย่างให้ใครเข้ามายุ่มยามกับคนของตัวเองสักเท่าไร หมายถึงผู้จัดการสาวส่วนตัวของวงนั่นเป็นความคิดของหนุ่มปลาไหลแบบเขา พอปกรณ์เดินเข้ามาและเห็นเฉลิมชัยจับมือเธอ และก็เคยรู้มาเหมือนกันว่ารองประธานคนนี้ชอบตามจีบผู้จัดการสาวของเขาอยู่ยิ่งทำให้วันนี้ชายหนุ่มอารมณ์ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นเลย
วรัณรัตน์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 พ.ย. 2554, 20:24:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ธ.ค. 2554, 22:27:25 น.
จำนวนการเข้าชม : 1256
ตอนที่ 2 รีไรท์ >> |