อาทิตย์พรางดาว
เมื่อความเคียดแค้นชิงชังที่มีมาระหว่างพี่น้องต่างมารดา ทำให้เกิดเรื่องราวต่างที่นำมาซึ่งความสุข เศร้า และโศกนาฏกรรม! ดาวเหนือจะทำอย่างไรเมื่อตะวันฉายผู้เป็นเกลียดเธอจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลก และตฤณจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องคนรักไม่ให้โดนทำร้าย ต้องติดตามใน 'อาทิตย์พรางดาว'
Tags: ดราม่า

ตอน: ตอนที่ 4

ตอนที่ 4
“ดาวไปก่อนนะแม่”ร่างโปร่งในชุดเดรสสายเดี่ยวผ้าชีฟองสีฟ้าลายดอกไม้ ทิ้งตัวยาวกรอมเท้า สวมทับด้วยเสื้อคลุมลูกไม้สีเนื้อแขนกุดตะโกนบอกมารดาที่อยู่ในครัว ที่ไหล่ขวามีกระเป๋าผ้าใบใหญ่ ส่วนกระเป๋าใส่งานของเธอนั้นได้แอบเอามาไว้ในรถตั้งแต่เมื่อคืน หลังจากที่มารดาเข้านอนแล้ว คุณบุษบาเดินออกมาหน้าบ้านมองลูกสาวของตนที่นั่งใส่รองเท้าอยู่อย่างกังวลก่อนเอ่ยถาม

“จะไปไหนเหรอดาว”

“ก็พี่เมืองมันนัด บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย”

“เรื่องอะไรล่ะ อย่าบอกนะว่าจะวางแผนไปเที่ยวอีกแล้ว อยู่บ้านบ้างเถอะลูกหรือไม่ก็ไปหางานทำ คุณพ่อจะได้ไม่ว่าเอาอีก”คุณบุษบาบ่นเบาๆ ก่อนจะต้องอึ้งเมื่อลูกสาวพูดสวนกลับมา

“เรื่องของเขา เขาจะว่ายังไงดาวไม่สนใจ ชีวิตดาวดาวลิขิตเอง เขาไม่คิดที่จะสนใจแต่แรกก็ต้องไม่สนใจตลอดไป ฝากบอกเขาด้วยนะแม่ว่าให้ไปสนใจลูกสาวคนโปรดของเขาเถอะ ระวังอย่าให้แรงมากไปกว่านี้เดี๋ยวจะมีคนเขาหมั่นไส้มากขึ้นกว่าเดิม”

“ยายดาว ยังไงเขาก็พ่อของลูกนะ”

“แล้วเขาคิดว่าดาวเป็นลูกรึเปล่า พอเถอะ ดาวไม่อยากคุยเรื่องที่ทำให้เสียอารมณ์แต่เช้า ไปก่อนนะคะ”ดาวเหนือตัดบทเมื่อเห็นมารดาทำท่าจะแก้ต่างให้บิดา ร่างโปร่งเดินตรงไปยังรถของตนก่อนจะชะงงักมือที่กำลังจะเปิดประตูรถเมื่อมารดาถามขึ้นมาว่า

“แล้วจะกลับมากินข้าวเย็นไหมลูก แม่จะได้ทำของโปรดของเราไว้ให้”

“เดี๋ยวโทรมาบอกแล้วกัน เพราะดาวเองก็ยังไม่รู้ว่าพี่เมืองจะคุยนานแค่ไหน”พูดจบก็เปิดประตูแล้วขึ้นรถขับออกไปทันที คุณบุษบามองตามรถของลูกสาวคนเดียวของเธออย่างหนักใจกับอาการต่อต้านบิดาที่หญิงสาวแสดงออก ก่อนจะตัดใจแล้วกลับเข้าครัวไปทำอาหารอย่างที่ตนถนัด


“อืม พี่ว่าโอเลยว่ะไอ้ดาว ลูกค้าต้องชอบแน่”เสียงเมืองแมน พี่รหัสมาดเข้มตัวบึกของดาวเหนือดังขึ้นขณะที่พิจารณาแบบห้องนอนของลูกสาวลูกค้าคนหนึ่งที่ดาวเหนือรับผิดชอบอยู่อย่างชื่นชม ดาวเหนือยิ้มบางๆก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ด้านตรงข้ามกับพี่รหัสซึ่งปัจจุบันคือเจ้านายโดยตรงของเธอ

“ก็นะ คนมันเก่งนี่พี่เมือง ว่าแต่มีงานอะไรอีกไหม ช่วงนี้ว่าง”

“ไม่ค่อยเลยนะเอ็ง ชมนิดเดียวยกหางตัวเองซะงั้น”เมืองแมนค่อนขอดน้องรหัส ก่อนจะเปิดไฟล์งานในคอมพิวเตอร์บนโต๊ะเพื่อหาข้อมูลงานถัดไป เมื่อชายหนุ่มหาเจอแล้วก็สั่งพิมพ์แล้วยื่นส่งไปให้ร่างโปร่งที่นั่งรออยู่ ดาวเหนือรับรายละเอียดของงานไปดูก่อนจะขมวดคิ้ว

“งานนี้อยู่แถวบ้านไอ้ตาลเลย ทำไมไม่ให้ไอ้ตาลไปทำล่ะพี่” หญิงสาวถามอย่างแปลกใจ เพราะว่าสถานที่ในกระดาษนั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับเพื่อนสนิทของเธอซึ่งก็ทำงานในบริษัทนี้เช่นเดียวกัน เมืองแมนถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่เสแสร้ง ก่อนตอบเสียงเครียด

“ตอนแรกก็ส่งมันไป แต่มันดันไปต่อยลูกชายเจ้าของบ้านเสียเลือดกบปาก เพราะไอ้หมอนั่นดันไปจับก้นมันตอนที่มันกำลังดูห้องที่จะให้ตกแต่ง ฝ่ายนั้นก็รู้นิสัยลูกตัวเองอยู่ก็เลยโทรมาคุยกับฉันให้ส่งคนใหม่ไป แล้วคราวนี้เค้าจะคุมลูกชายให้ดี ฉันก็เลยต้องส่งแกไป”

“แล้วพี่ไม่คิดว่าเค้าจะมาทำแบบนั้นดาวเหรอ”หญิงสาวถามกลับหลังจากฟังจบ เธอสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมเธอถึงจะสามารถทำงานนี้ได้ ในเมื่อเธอก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน

“ฉันไม่ห่วงแกหรอกไอ้ดาว แค่แกปรายตาเด็กแถวนี้ยังร้องไห้เลย” เมืองแมนบอกกับรุ่นน้องของตน ซึ่งทำหน้าไม่ค่อยพอใจกับคำตอบของเขาเท่าไหร่นัก ทำให้เขาต้องขยายความ

“ก็แกน่ะ ชอบทำหน้านิ่งไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แถมยังลมเพลมพัด เวลาอารมณ์ดีก็น่าเข้าใกล้ แต่เวลาแกหงุดหงิด ขอบอกตรงๆว่ะ ว่าโคตรน่ากลัว จิตสังหารนี่พุ่งออกมาทั่วร่างเลยทีเดียว ถ้าไอ้บ้านั่นทนได้ก็โคตรคนแล้วล่ะ”

“มากไปรึเปล่าพี่เมือง ดาวยังเป็นมนุษย์ธรรมดาอยู่น่ะ ไม่ใช่เอ๊กซ์เม็น” ดาวเหนือพยายามแก้ต่างให้ตัวเอง แต่เมืองแมนไม่สน ชายหนุ่มยักไหล่ก่อนโบกมือไล่

“ไม่มากหรอก ไป๊! ไปทำงานได้แล้ว”

หญิงสาวส่ายหัวกับการตัดบทของรุ่นพี่ตัวโต ก่อนจะคว้ารายละเอียดของงานชิ้นใหม่ลงกระเป๋า รวบงานเก่าต่างๆที่ค้นออกมาใส่ตามลงไป ก่อนที่จะออกไปเธอก็หันไปบอกกับเจ้าของห้องว่า

“งั้นวันนี้ดาวไปดูห้องจริงก่อนแล้วกัน พี่เมืองโทรบอกเขาให้หน่อยนะ แล้วเดี๋ยวดาวจะโทรไปเองอีกที ก่อนจะเข้าไปที่บ้านเขา”

“เออๆ เดี๋ยวจัดให้” เมืองแมนบอกก่อนจะฉีกกระดาษแถวนั้นออกมาจดหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าส่งไปให้ลูกน้องสาวที่ยื่นมือมารับไปเก็บใส่กระเป๋า ดาวเหนือบอกลาเจ้านายก่อนจะเดินออกไป


“อืม จำได้ว่าบ้านไอ้ตาลอยู่ซอยนี้นี่นา แล้วบ้านลูกค้าก็ควรจะอยู่ซอยถัดไป ก็คือซอยนี้แล้วทำไมกลายเป็นบ้านร้างไปได้ล่ะเนี่ย”ดาวเหนือพึมพำกับตัวเองเบาๆ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน บ่งบอกว่าเจ้าของกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ร่างโปร่งยืนชี้นิ้วไปทางซอยที่จำได้ว่าเป็นซอยบ้านของเพื่อนรักก่อนจะหันกลับมาชี้ซอยที่ตนยืนอยู่ ซึ่งควรจะเป็ยซอยบ้านของลูกค้า แต่บ้านที่อยู่ด้านหน้าของเธอกลับเป็นบ้านร้างที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาใครสักคนที่พอจะถามได้ แต่ก็ไม่พบใคร และก่อนจะได้ขยับขาไปไหนเสียงตะโกนของใครบางคนก็ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงกระพรวน

ดาวเหนือหันขวับไปตามเสียงนั้นและก็พบกับเจ้าตัวยักษ์ขนสีน้ำตาลทองสวย กำลังวิ่งตัวกลมมาทางเธอและยังไม่ทันที่เธอจะได้หลบไปให้พ้นทาง เจ้ายักษ์ตัวนั้นก็ได้กระโดดเข้ามาหาเธอจนล้มลงไปนอนกับพื้นทั้งยังนั่งทับเธอไว้ทั้งตัวอีกต่างหาก! ชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดที่วิ่งตามหลังมา ขยับแว่นตาของตนเล็กน้อยก่อนจะรีบดุเจ้าสุนัขตัวใหญ่ เชื้อสายโกลเด้นรีทริฟเวอร์ที่ยังคงนั่งทับเธออยู่ เสียงเข้ม

“เทอร์โบ ลุกออกมาเดี๋ยวนี้นะ!” เจ้าตัวยักษ์ที่มีชื่อว่าเทอร์โบ หันไปมองหน้าเขาตาปรอย หวังจะอ้อนแต่อีกฝ่ายยังงทำหน้าดุใส่ จนเจ้ายักษ์ค่อยๆลุกเดินลงจากตัวของหญิงสาวไปหาชายหนุ่ม เขาสั่งให้เจ้ายักษ์เทอร์โบนั่งคอย ก่อนจะเดินเข้ามาหาเธอด้วยใบหน้าเป็นกังวล มือใหญ่ช่วยพยุงเธอขึ้นจากพื้น และเมื่อเห็นว่าเธอไม่เป็นอะไรมากก็เอ่ยออกมาว่า

“ต้องขอโทษแทนสุนัขของผมด้วยนะครับ เผอิญว่ากำลังจะจับอาบน้ำแต่เขาไม่ยอมแล้วก็วิ่งหนีมานี่แหละครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ถ้ายังไม่หายรู้สึกผิดก็บอกกันสักนิดว่าที่อยู่นี่...” ว่าพลางก็ยื่นกระดาษที่จดที่อยู่ของลูกค้าให้เขาดู ก่อนจะชี้มือไปยังบ้านร้างด้านหน้าอีกครั้งพร้อมถาม “...ใช่บ้านหลังนี้หรือเปล่าคะ?”

เขารับกระดาษแผ่นนั้นมาดู ก่อนจะตอบพร้อมรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น “ไม่ใช่ครับ บ้านเลขที่นี้อยู่อีกสองซอยถัดไปครับ อยู่ต้นซอยเหมือนหลังนี้เลยครับ”

“ขอบคุณมากค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”ดาวเหนือส่งยิ้มไปให้อีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะชะงัก เขาผงกศีรษะรับคำขอบคุณนั้น ใบหน้าคร้ามคมแดงขึ้นเล็กน้อย ร่างสูงขยับแว่นอีกครั้งก่อนจะนำสายจูงไปเกี่ยวกับปลอกคอของเจ้าเทอร์โบแล้วหันมาส่งยิ้มให้เธอ

“ไม่เป็นไรครับ”

ดาวเหนือย่นจมูกใส่เจ้าตัวโตสีทองที่ยิ้นหน้าเป็นส่งมาให้ ก่อนจะหันหลังเดินจากไปยังบ้านของลูกค้าตามที่ชายหนุ่มบอกโดยไม่ได้คิดอะไร แต่ถ้าหากเธอได้หันหลังไปมองจะเห็นสายตาอ่อนโยนที่มองตามเธอไปจนสุดสายตา...


“อ้าว! ตาพัดมาได้ไงเนี่ยลูก เข้ามาก่อนมา”เสียงคุณบุษบาที่กำลังเตรียมทำขนมดังขึ้นทักทายชายหนุ่มคนรักของลูกสาวอย่างแปลกใจ พัดยศยกไหว้มารดาของคนรักก่อนจะตอบ

“ผมมาทำธุระแถวนี้พอดีน่ะครับ เลยแวะเอาของฝากมาให้ ถุงนี้ของแม่บุษ...” ร่างสูงชูถุงของฝากที่มีแต่ภาษาอังกฤษเต็มไปหมดขึ้นมาให้คุณบุษบาดู ก่อนจะยกอีกถุงขึ้นมา “...ส่วนถุงนี้ของแม่มินกับคุณย่าครับ เดี๋ยวผมค่อยเอาขึ้นไปให้”

“เอ๊ะ! แล้วนี่ไปไหนมาจ้ะเนี่ย”

“ไม่ใช่ผมหรอกครับ คุณแม่ต่างหาก ท่านไปเที่ยวกับทัวร์ที่อังกฤษมาน่ะครับ”
“คุณวินี่ยังแข็งแรงแล้วก็ชอบเที่ยวอยู่เลยนะเนี่ย แล้วนี่คุณวิไปคนเดียวเหรอจ๊ะ”คุณบุษบาถามถึงคุณวิรงรอง มารดาของชายหนุ่มที่ชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่ยังสาวๆยันมีลูกโตเป็นหุ่มแล้วก็ตาม ซึ่งคุณพงษ์ บิดาของพัดยศเองก็ตามใจภรรยาของเขามาก ตัวเธอเองและคุณมินตรายังเคยไปเที่ยวกับคุณวิรงรองบ่อยๆ พัดยศยิ้มก่อนตอบ

“ครับ เพราะผมเองก็เข้าป่า คุณพ่อเลยต้องนั่งเศร้าเฝ้าบริษัทอยู่คนเดียว ท่านยังบ่นๆเลยว่าครามหน้าท่านจะหนีไปเที่ยวบ้าง”

“น่าสงสารคุณพงษ์ คราวหน้าพัดก็เฝ้าบริษัทบ้างแล้วให้คุณพ่อกับคุณแม่ไปกันสองคนก็ได้นี่ลูก”

“ผมก็ว่าอย่างนั้น” ชายหนุ่มตบท้าย ก่อนจะลองถามบางอย่างที่คาใจมาตั้งแต่เมื่อคืนตอนที่พบกับตะวันฉาย แม้จะมั่นใจในตัวคนรักแต่ก็อดคิดมากไม่ได้เพราะตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าป่าด้วยกันดาวเหนือก็ดูแปลกๆไป

“แม่บุษครับ คือว่าเมื่อคืนน้องดาวไปข้างนอกหรือเปล่าครับ”

“หือ? ไม่นี่จ๊ะ ยายดาวน่ะเข้าห้องไปตั้งแต่เย็นแล้วก็ไม่ได้ลงมาอีกเลยจนเช้านั่นแหละ สงสัยคงเพลียจากการเดินทาง”คุณบุษบาตอบ พัดยศลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะนึกรู้ว่าหากดาวเหนือเข้าห้องไปแล้วไม่ลงมาเลยนั่นหมายความว่าหญิงสาวต้องทำงานติดพันอยู่แน่นอน แต่เพื่อความมั่นใจชายหนุ่มเลยถามต่อ

“ตอนดึกๆเลยนะครับ ไม่ได้ออกไปไหนใช่ไหมครับ”

“แม่ว่า คงไม่หรอกจ๊ะ รึไม่ก็ลองไปถามคุณจันทร์ดูสิ เมื่อวานคุณจันทร์เธอมานอนกับยายดาวน่ะ ถ้ายายดาวออกมาจากห้องคุณจันทร์เธอก็คงจะต้องรู้ ว่าแต่พัดถามทำไมล่ะลูก มีอะไรรึเปล่า”คุณบุษบาถามอย่างกังวลเพราะแต่ละคำถาม บ่งบอกได้ว่าลูกสาวของเธอคงจะไปทำอะไรให้เขาไม่สบายใจแน่ๆ

“ไม่มีอะไรหรอกครับแม่ เผอิญผมไปเจอเพื่อนเมื่อเช้า แล้วมันบอกว่าเห็นน้องดาวไปเที่ยวเมื่อคืน ผมเป็นห่วงน่ะครับ เห็นว่าเมื่อวานตอนขากลับน้องดาวดูไม่ค่อยสบายเล็กน้อย เลยกลัวว่าถ้าไปเที่ยวต่ออาจจะอาการหนักลงได้น่ะครับ”พัดยศโกหก เพราะไม่ต้องการให้คุณบุษบาไม่สบายใจ คุณบุษบาถอนหายใจยาวก่อนเอ่ยอย่างหนักใจ

“คงไม่ใช่ยายดาวหรอกจ๊ะ เมื่อวานเขาคงไม่อยากออกไปไหนเท่าไหร่ ตอนเอาของฝากไปให้บ้านใหญ่น่ะ เขาไปทะเลาะกับคุณพ่อมา...”ฟังมารดาของคนรักพูดได้เพียงเท่านี้ก็เงียบไป พัดยศก็นึกรู้ว่าเรื่องที่ทะเลาะหันคงแรงน่าดู เพราะยามใดที่ดาวเหนือทะเลาะกับตะวันฉายหรือบิดาทีไรมักจะเป็นเรื่องที่ใหญ่โตจนไม่อาจสานสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวได้อีกต่อไปทุกที ชายหนุ่มเอื้อมไปกุมมือผอมของคุณบุษบาแล้วบีบเบาๆพร้อมพูดให้กำลังใจ

“สักวันทุกอย่างก็จะดีขึ้นครับแม่บุษ ผมจะคอยช่วยด้วย แม่บุษมีอะไรปรึกษาผมได้นะครับ”คุณบุษบามองว่าที่ลูกเขยอย่างขอบใจ แต่ก็ไม่คลายกังวล

“ขอบใจมากนะ แต่แม่สังหรณ์ยังไงก็บอกไม่ถูก เฮ้อ! ขอให้เป็นแค่ลางสังหรณ์เถอะ”


“อ้าว! มาได้ไงวะ”เสียงใสของหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งไม่ต่างจากเธอนักดังขึ้นเมื่อเดินออกมาจากบ้านแล้วพบว่าคนที่ยืนรออยู่หน้าบ้านคือเพื่อนสนิทที่เพิ่งจะไปป่าด้วยกันมา ดาวเหนือยิ้มก่อนตอบเพื่อนรัก

“ก็มาดูงานที่บ้านที่แกไปต่อยลูกชายเขาไง พี่เมืองให้ฉันมาทำแทนแก แล้วเสร็จงานก็เลยมาหาแกว่าจะขอข้าวบ้านแกกินหน่อยน่ะ ยังไม่อยากกลับบ้าน”

ตรีทิพย์ หรือ ตาลมองเพื่อนอย่างลุแก่โทษ ก่อนจะเบี่ยงตัวให้เพื่อนเข้ามาในบ้าน สองสาวพากันเดินเข้าไปในบ้านด้วยกันพลางสนทนาถึงเรื่องที่ดาวเหนือต้องมาทำงานแทน

“แหม ไอ้พี่เมืองนี่ โยนงานมาให้รุ่นน้องที่เคารพอย่างแกอีกแล้ว ตอนแรกตัวเองบอกว่าจะทำเองไม่ใช่เหรอ”

“ก็ใช่ แต่เห็นบอกว่าติดอีกงานหนึ่งอยู่ แล้วฉันเองก็เพิ่งจะเคลียร์งานเก่าเสร็จพอดี ก็เลยรับงานมาทำเสียเลย”หญิงสาวบอกกับเพื่อนอย่างไม่ใส่ใจ ส่วนตรีทิพย์เมื่อได้ยินคำจอบของเพื่อนก็รู้ได้ในทันทีเลยว่าอีกฝ่ายต้องมีเรื่องกับที่บ้านมาอย่างแน่นอน

“คราวนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ แต่เดี๋ยวก่อน”ร่างโปร่งของตรีทิพย์รีบห้ามเมอื่เห็นว่าเธอกำลังจะเล่า ก่อนจะรีบเดาอย่างสมกับที่คบกันมานาน “ฉันขอเดาว่าเรื่องนี้ต้องมีนางแม่มดตะวันฉายเป็นตัวต้นเหตุอีกเหมือนเดิม ใช่ไหม?”

“ผิด แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่โผล่มา แต่มาท้ายสุดต่างหาก”เธอแย้งยิ้มๆ ตรีทิพย์ทำหน้างเล็กน้อย ก่อนจะถึงบางอ้อเมื่อเธอเฉลย

“พ่อต่างหาก เขาหาว่าฉันเป็นแกะดำของบ้าน ไม่ยอมหาการหางานทำ เอาแต่เที่ยวไปวันๆ แหงล่ะ! อย่างดาวเหนือทำอะไรก็ผิด ส่วนตะวันฉายถูกเสมอ ทำทุกอย่างถูกหมดไม่เว้นแม้แต่การฆ่าคนด้วยคำพูด อย่างที่เรารู้ๆกันอยู่” ตรีทิพย์หัวเราะหึๆ ก่อนจะบอก

“เอาน่า แกน่าจะชิน”

“ก็ชิน แต่รำคาญมากกว่า จะพูดทำไมนักหนา รู้อยู่ว่าไม่โปรดลูกคนนี้นัก บอกตรงๆนะตาล ฉันอยากออกจากบ้านหลังนั้นเต็มแก่แล้ว แต่แม่น่ะสิไม่ยอม ฉันก็เลยต้องทน”

“ความจริงก็มีวิธีที่แกไม่ต้องทนอยู่ที่บ้านนั้นนะ”ตรีทิพย์บอกยิ้มๆให้เพื่อนครุ่นคิด ก่อนจะหายตัวไปในครัวเพื่อที่จะเอาน้ำและขนมออกมา

“วิธีอะไรของแกตาล ฉันไม่เห็นจะมี”ดาวเหนือยังคงนึกไม่ออกถึงวิธีที่เพื่อนพูดถึง ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำตอบ

“ก็แค่แต่งงานไปกับพี่พัดไง คบกันมาก็นานแล้วนา”

“นี่ก็อีกเรื่องที่ฉันอยากมาปรึกษาแก”

“ทำไมยะ หรือว่าพี่พัดเขาขอแกแต่งงานแล้ว”ตรีทิพย์ทำตาโตอย่างดีใจ เพราะเธอจะได้ใส่ชุดสวยๆเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้ว แต่แล้วก็เหมือนกับคนตกจากที่สูงเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมาว่า

“เปล่า ฉันมาปรึกษาว่าฉันจะเลิกกับพี่พัด”

“ห๊า!”
----------------------------------------------------------------------



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 เม.ย. 2554, 21:36:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 เม.ย. 2554, 21:36:47 น.

จำนวนการเข้าชม : 1828





<< ตอนที่ 3   ตอนที่ 5 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account