สุดทางใจ (จบแล้วค่ะ)
"ผมอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุดแต่อย่างน้อยผมก็ดูแลคุณให้ดีที่สุดได้ แค่นี้พอไหม"

"แค่นั้นไม่พอ" คนป่วยปฏิเสธเสียงดังก่อนจะยื่นข้อเสนอที่ทำให้ภีคภัคถึงกับกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่

"คุณต้องทำให้ฉันมีความสุขที่สุดด้วย ทำได้ไหม"

คนที่กลั้นยิ้มไว้นิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "ได้สิ...ไม่มีปัญหา"
Tags: เกศหทัย ภีคภัค สุดทางใจ

ตอน: ตอนพิเศษ : สุดทางใจ...ของสองเรา

ใครเรียกร้องตอนพิเศษระหว่างคุณพีคกับหนูเกด ปอแก้วจัดให้...ฮ่าๆ

แต่ไม่รู้ว่าจะ 'หวาน' ถูกใจหรือเปล่านะคะ บอกกันได้น้า...

ติชมได้นะจ๊ะ

ไปอ่านกันเลยจ้า....

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนพิเศษ : สุดทางใจ...ของสองเรา


หน้าหนาวในเดือนกุมภาพันธ์ย้อนกลับมาอีกครั้ง ชมพูพันธุ์ทิพย์ต้นสูงต้นเดิมยังคงยืนต้นเด่นตระหง่านอยู่หน้าบ้านไม้สักทองบนเนินเขาหลังสวย กลีบดอกสีหวานบอบบางบานแย้มประดับเต็มต้นที่ได้ผลัดใบสีเขียวออกและถูกแต้มแทนด้วยสีชมพูอ่อนหวาน สายลมเย็นๆโชยพัดต้องเนื้อจนเจ้าตัวต้องกระชับเสื้อหนาวตัวหนา เกศหทัยทอดสายตามองชมพูพันธุ์ทิพย์ต้นใหญ่ หลังกลับจากฮันนีมูนรอบสองที่ยุโรปภีคภัคก็ตัดสินใจที่จะมาเธอมาที่นี่อีกครั้ง ในวันที่ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานเต็มต้นเหมือนครั้งแรกที่เรามาที่แห่งนี้ด้วยกัน

ไออุ่นที่ได้รับจากด้านหลังทำให้เกศหทัยระบายยิ้มออกมา อ้อมแขนแข็งแรงที่โอบกอดซ้อนเธอไว้ช่วยให้คลายหนาวได้ไม่น้อย ตั้งแต่เรื่องราวทุกอย่างจบลงอย่างที่ทุกคนมีความสุข เกศหทัยรู้สึกว่าชีวิตที่หายใจอยู่นี้ช่างมีค่าเหลือเกิน คนที่เธอรักล้วนแล้วแต่กำลังใช้ชีวิตในแบบที่แต่ละคนเลือก วศะกับพริมาไปกันได้ด้วยดีจนบางครั้งเธอยังต้องแอบแซวเพื่อนสนิทว่า ‘หวานซะขนาดนี้ไม่กลัวคุณพริมน้ำตาลขึ้นหรือ’ แต่วศะก็ไม่ได้พูดอะไร หากรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ได้เห็นได้ยินทำให้รู้ว่าเพื่อนเธอกำลังมีความสุขเพียงใด

เกศหทัยเองก็มีความสุข...ภีคภัคทำให้เธอยิ้มได้ทุกวัน ไม่รู้เพราะเหตุผลใดสามีของเธอจึงเปลี่ยนไปจากช่างเอาแต่ใจเป็นช่างเอาอกเอาใจไปเสียได้ ความกวนประสาทลดน้อยลงไปมาก ภีคภัคพูดเพราะขึ้น ไม่กวนโมโหเธอวันละสามเวลาหลังอาหารเหมือนเมื่อก่อนจนบางทีก็อดแปลกใจไม่ได้ แม้จะเคยถามว่าทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นคำตอบแนวทีเล่นทีจริงเสียมากกว่า

‘ก็กลัวเมียไม่รักนี่ครับ เลยต้องทำตัวดีๆหน่อย’

แม้เธอจะบอกว่าถึงเขาไม่เปลี่ยนเธอก็คงเปลี่ยนใจไปรักใครไม่ได้แต่คนเป็นสามีก็ยังยืนยันคำเดิม แถมยังเสริมมาด้วยประโยคที่ทำให้หัวใจเธอพองโต

‘คุณเกด...ความรักของคุณต่างหากที่ทำให้ผมเปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น เป็นผู้ชายที่จะรักคุณเพิ่มขึ้นในทุกๆวัน’

เสียงหัวเราะเบาๆเรียกความสนใจจากร่างสูงที่ยืนกอดภรรยาจากด้านหลังได้เป็นอย่างดี ภีคภัคกดจมูกลงบนแก้มนวลอย่างเสียไม่ได้ ก็ใครใช้ให้เธอหัวเราะซะอย่างน่ารักอย่างนี้เล่าบวกกับริมฝีปากที่แย้มยิ้มพอได้เห็นก็ยิ่งอยากจะขอชื่นใจ ให้ตายอย่างไรก็ไม่มีวันเบื่อวันหน่าย

“หัวเราะอะไรหืม” ถามไปก็กดจมูกลงบนแก้มของเกศหทัยอีกข้าง จนภรรยาต้องรีบตีเผียะเข้าที่ท่อนแขนที่โอบเอว

“หอมพอแล้วนะคุณพีค”

“ไม่ให้ผมหอมเมียแล้วจะให้ไปหอมใคร หรือคุณยอมให้ผมไปหอมแก้มคนอื่นล่ะ ถ้าคุณยอมผมก็โอเคนะ...โอ๊ย!” ภีคภัคร้องเสียงหลงเพราะเจอก้ามปูหนีบเข้าเต็มท่อนแขน แถมยังบิดใส่มาเสียเต็มแรงจนต้องรีบคลายอ้อมกอดมาสนใจรอยแดงปื้นใหญ่ที่หลังแขนแทน

“เจ็บนะเนี่ยคุณ อย่างนี้ไม่ใช่หยิกแล้ว มันบิดเนื้อกันชัดๆ” คนเจ็บร้องครวญมือข้างซ้ายยังคงลูบท่อนแขนขวาที่ถูกเกศหทัย ‘บิด’ ป้อยๆ

เกศหทัยหรี่ตามองรอยแดงบนแขนของภีคภัคที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือตนเอง สงสารก็สงสารอยู่หรอก แต่ก็ต้อง ‘สั่งสอน’ ให้รู้เสียบ้างว่าภรรยาคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาที่ใครคิดจะมา ‘ลูบคม’ ก็ทำได้ง่ายๆ ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งก่อนเกศหทัยได้สาบานกับตัวเองว่าเธอจะไม่มีทางให้อภัยกับคนที่คิดจะมาทำร้ายครอบครัวของเธอ ส่วนคนในครอบครัว...ถ้าคิดที่จะออกนอกลู่นอกทางเธอก็จะไม่เอาไว้เหมือนกัน!

“แล้วใครว่าหยิก ฉันตั้งใจบิดเลยล่ะ แล้วถ้าคุณกล้าที่จะไปหอมแก้มผู้หญิงคนอื่นหรือให้ผู้หญิงคนอื่นมาหอมแก้มคุณ ฉันไม่ปล่อยไว้แน่...ทั้งคุณทั้งผู้หญิงคนนั้น” น้ำเสียงเด็ดขาดกับสายตาเฉียบคมเล่นเอาภีคภัคเสียวสันหลังขึ้นมาเป็นริ้วๆ รู้สึกว่าตัวเองพลาดไปถนัดที่ปล่อยภรรยาให้ไปกับชาริภัทรบ่อยๆจนเกศหทัยเริ่มที่จะซึมซับ ‘ความโหด’ ของพี่สาวมาบ้างแล้ว

“งั้นผมต้องไปบอกแม่แล้วสิว่าต่อไปนี้ห้ามหอมแก้มลูกชาย...เพราะเมียหวง” สามีย้อนด้วยหน้าตาทะเล้น

“โดนเสียอีกทีดีไหมคุณพีค” เกศหทัยยกก้ามปูขึ้นมาขู่ แล้วดูจะได้ผลเสียด้วยเมื่อภีคภัคถอยหลังห่างไปหนึ่งก้าว

“ใจเย็นครับคุณภรรยาที่รัก เรามาพักผ่อนกันนะ ไม่ได้มารบ”

“ก็คุณมันน่าโดนดีนี่นา ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคุณกลายเป็นคุณพีคจอมกวนประสาทคนเดิมอีกแล้วนะ” เกศหทัยบ่นต่อหน้าตั้งใจให้เจ้าตัวได้ยิน ทำไมพอกลับมาที่นี่อีกครั้งเธอจึงรู้สึกราวกับว่าเวลาได้ย้อนกลับไปในวันที่เธอมาที่นี่กับภีคภัคครั้งแรก จะต่างกันตรงเรื่องของความรู้สึกที่เปลี่ยนไป เมื่อครั้งก่อนเธอมาที่นี่กับเขาด้วยหัวใจสองดวงที่เดินไปคนละทิศละทาง แต่วันนี้เธอและเขากลับมาที่นี่อีกครั้งด้วยหัวใจที่หลอมรวมเดินไปในทิศทางเดียวกัน

“ก็ผมเคยบอกคุณแล้วไงว่าผมจะพยายามไม่กวนประสาท แต่ไม่ได้สัญญาว่าจะไม่ทำนี่ครับ” ภีคภัคย้อนด้วยคำๆเดิมที่เคยพูดไว้กับเกศหทัย เมื่อโดนสามีย้อนอย่างนี้ภรรยาจะทำอย่างไรได้นอกจากสะบัดหน้าส่งค้อนวงโต ภีคภัคแอบอ่อนอกอ่อนใจ เจออีกแล้วเกศหทัยโหมดขี้งอน แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้หนักใจอะไรเพราะเตรียมแผนง้อไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว

“อย่างอนเลยนะคุณเกดคนดี รอผมตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวมา” บอกกล่าวด้วยคำพูดหวานหูก่อนจะวิ่งเข้าไปในตัวบ้านอย่างรวดเร็วใช้เวลาไม่นานก็วิ่งกลับออกมาพร้อมกล้องถ่ายรูปตัวเก่งและเมื่อเห็นว่าภีคภัคถืออะไรมา เกศหทัยก็พอรู้ได้ทันทีว่าเขาจะง้อเธออย่างไร

...ยังจำได้หรือคุณพีคว่าเคยสัญญาไว้ว่าจะถ่ายรูปให้กันอีก...

“ผมเคยบอกไว้ใช่ไหมว่าจะถ่ายรูปให้คุณอีก เพราะฉะนั้นช่วยเป็นนางแบบให้ด้วยนะครับ” รอยยิ้มละมุนกับแววตาอบอุ่นจากดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจากภีคภัคทำให้เกศหทัยปฏิเสธไม่ออกแถมยังพยักหน้ารับปากไปด้วยซ้ำ รอยยิ้มกับสายตาของภีคภัคเป็นจุดอ่อนของเธอจริงๆ และเขาก็รู้...ว่าเธอจะใจอ่อนถึงได้ช่างอ้อนอย่างนี้เป็นประจำ

เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นหลายต่อหลายครั้งพร้อมกับท่าทางของนางแบบที่เปลี่ยนไป คิดเองบ้างตากล้องบอกให้ทำอย่างโน้นบ้างอย่างนี้บ้าง ยิ่งถ่ายไปก็ยิ่งสนุก เพราะทุกรูปที่ภีคภัคถ่ายเขาครับพูดคำว่า ‘สวยครับ’ ปิดท้ายเสมอ เกศหทัยไม่รู้หรอกว่ามันสวยจริงอย่างที่เขาพูดไหม แต่ก็อดรู้สึกดีนิดๆไม่ได้ที่เขาเอ่ยปากชมเธอทุกครั้งทั้งคำพูดและสายตาที่จ้องมองเธอผ่านหลังเลนส์

“คุณพีค” เสียงหวานใสที่เอ่ยเรียกตากล้องมือสมัครเล่นแต่ฝีมือระดับมืออาชีพ ภีคภัคเลื่อนกล้องลงจากระดับสายตา เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามว่าเธอเรียกกันทำไม

“มาถ่ายด้วยกันสิคะ” นางแบบจำเป็นกวักมือเรียก ภีคภัคยิ้มรับเปลี่ยนทิศทางการยืนจากตรงข้ามไปอยู่เคียงข้างเธอ

“ผมไม่ได้เอาขาตั้งกล้องมาด้วยสิ” แต่ก็ยังแอบบ่น เพราะถ้าพกขาตั้งกล้องมาด้วยคงจับโฟกัสได้ดีกว่านี้แน่

“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ถึงออกมาไม่สวยแต่อย่างน้อยฉันกับคุณจะได้บันทึกความทรงจำร่วมกันไงคะ” เกศหทัยปลอบใจด้วยรอยยิ้มหวาน ภีคภัคยิ้มรับยืดแขนข้างขวาที่ถือกล้องจนสุดแขน กะระยะให้ทั้งเขาและเธออยู่ในเฟรมด้วยสายตาก่อนจะนับเพื่อส่งสัญญาณให้เกศหทัยได้รู้ตัว

เมื่อเสียงกดชัตเตอร์สิ้นสุด ภีคภัคลดกล้องที่ถือลง ดวงตาสีน้ำตาลหันมามองภรรยาที่กำลังอมยิ้ม เมื่อครู่เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีก่อนที่เขาจะกดชัตเตอร์ เกศหทัยแอบขโมยหอมแก้มเขาเบาๆ แล้วไม่ต้องเดาเลยว่ารูปคู่ระหว่างเธอและเขาจะเป็นเช่นไร ถ้าไม่ใช่ภาพที่เธอกำลังเขย่งหอมแก้มและเขาที่หน้าตาคงเหวอสุดๆ

“รูปสวยมั้ยคะ” เกศหทัยแกล้งถาม พอใจไม่น้อยที่เห็นหน้าตาตกใจของภีคภัค รู้อยู่แล้วว่าเขาคงคาดไม่ถึงว่าเธอจะทำอย่างนี้ ก็แค่อยากให้เขารู้สึกแปลกใจบ้าง ที่สำคัญเธออยากให้ ‘รางวัล’ ที่เขายังใส่ใจว่าเคยพูดอะไรไว้กับเธอ

“ถ้าถ่ายอีกรูปผมรับรองว่าสวยกว่านี้นะ” สายตากรุ่มกริ่มทำเอาเกศหทัยหัวเราะพรืด หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธเพราะรู้ทันว่าเขาจะถ่ายรูปออกมาในรูปแบบไหน รูปเมื่อครู่เธอแอบขโมยหอมเขาขืนปล่อยให้ถ่ายอีกรูปคงไม่แคล้วจะโดนเอาคืน และคงไม่ใช่แค่ ‘หอม’ เหมือนอย่างที่เธอทำแน่นอน

จังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์ของเกศหทัยที่ส่งเสียงร้องขึ้นมาพอดี หญิงสาวจึงเลี่ยงเดินออกมารับในระยะห่างที่คำนวณแล้วว่าภีคภัคคงไม่ได้ยิน ความจริงเธอก็ไม่อยากมีลับลมคมในอย่างนี้เท่าไหร่หรอกแต่พอเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาจึงต้องรีบชิ่งห่างออกมาให้พ้นระยะที่ภีคภัคจะได้ยิน เพราะเธอสัญญากับคนๆหนึ่งไว้แล้วว่าขึ้นมาเชียงใหม่คราวนี้เธอจะช่วยเหลือในสิ่งที่เขาร้องขอและจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับไม่บอกใคร...แม้แต่ภีคภัคเองก็ตาม

สายตาคมกริบจ้องมองภรรยาที่เดินไปรับโทรศัพท์ในระยะที่ห่างพอควรด้วยความสงสัย ปกติเกศหทัยจะไม่รับโทรศัพท์อย่างมีพิรุธขนาดนี้ ไม่ว่าจะใครโทรมาถ้าอยู่ต่อหน้าเขาเธอก็มักที่จะรับโทรศัพท์ทันทีเสมอ ไม่ใช่เลี่ยงไปไกลแล้วค่อยรับเสียจนเขาไม่ได้ยินอย่างนี้ ถึงจะอยากรู้...แต่ภีคภัคปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเมื่อเกศหทัยเดินกลับมา รอยยิ้มแปลกๆของสาวตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มรู้ทันทีว่าเธอคงกำลังจะอ้อนขออะไรจากเขาอีกแล้ว

“ไม่ต้องมายิ้มอย่างนั้นเลยนะคุณเกด ผมปฏิเสธทุกคำขอ” ชิงปฏิเสธไปด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แต่มีหรือเกศหทัยจะยอม หญิงสาวช้อนสายตาขึ้นมองอย่างช่างอ้อน รอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มถูกส่งไปให้ร่างสูงอีกครั้ง ท่อนแขนแข็งแรงถูกเกี่ยวไว้อย่างหลวมๆก่อนศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมเส้นเล็กปล่อยสยายถึงกลางหลังจะเอนซบท่อนแขนนั้นเบาๆ

“คุณพีค...” เกศหทัยใส่จริตนิดหน่อยเมื่อเรียกชื่อเล่นของภีคภัคอย่างที่ชาริภัทรเคยสอน

“ไม่ต้องมาทำเสียงอย่างนั้นเลยคุณเกด ผมไม่ใจอ่อนหรอก”

“คุณพีคขา...” มาคราวนี้หญิงสาวเริ่มใช้แผนสองอย่างที่ชาริภัทรได้บอกมา งานนี้ต่อให้ทำอย่างไรเธอก็ต้องทำให้ภีคภัคใจอ่อนให้ได้

“ไม่ครับ” ปากก็บอกปฏิเสธแต่ใครจะไปรู้ว่าใจน่ะอ่อนยวบไปตั้งแต่ที่เธอเรียกเขาว่า ‘คุณพีคขา...’ แล้ว ต้องย้อมรับว่าชาริภัทรสอนเธอมาดีจริงๆว่าต้องอ้อนเขาอย่างไรถึงจะได้ผล แต่ที่แกล้งปฏิเสธเพราะอยากรู้ว่าเธอมีไม้ตายอะไรที่จะใช้จัดการ ภีคภัคมั่นใจว่าพี่สาวต้องสอนไม้ตายนั้นมาแน่ และเขาอยากจะลองวิชานั้นของลูกศิษย์จาก ‘สำนักพี่แพง’ เสียหน่อยว่าจะเป็นอย่างไร

“พี่พีคขา...เกดอยากเข้าเมือง พี่พีคไปส่งเกดหน่อยนะคะ” เกศหทัยกระชิบหวานอยู่ข้างหู ลอบยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นแววชนะลอยมารำไรเมื่อใบหน้าของคนที่อยู่ข้างตัวแดงแปร๊ดตั้งแต่ใบหน้าจนถึงใบหู ภีคภัคก้มหน้าลงใช้มืออีกข้างที่เป็นอิสระปิดหน้าตัวเองก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆเมื่อโดนไม้ตายของเกศหทัยฟาดเข้าเต็มหัวใจ

...พี่พีคงั้นหรือ...พี่แพงนะพี่แพง ปกติแค่คุณเกดพูดหวานๆหน่อยผมก็ใจอ่อนแล้ว เจอแบบนี้ผมจะใจร้ายไม่ตามใจเธอได้อย่างไรกันเล่า...

“โอเคครับ ผมยอมแพ้แล้ว” เมื่อได้ตามที่ต้องการเกศหทัยก็รีบถอยห่างจากภีคภัคทันทีเพราะกลัวว่าจะโดนเขาเอาคืน

ภีคภัคถอนหายใจออกยาว มองคนเจ้าเล่ห์ร้ายที่ได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็รีบถอยฉากอย่างรู้งาน เกศหทัยรู้ดีว่าถ้าเธอถอยช้าไปกว่านี้ต้องโดน ‘เอาคืน’ มากกว่าที่เธอทำไว้แน่

“ขอบคุณค่ะ แล้วฉันจะซื้อเค้กสำหรับวันเกิดของคุณมาให้นะคะ” น้ำเสียงนั้นประจบประแจง แถมยังมีสินบนเป็นเค้กวันเกิดเสียอีกต่างหาก ภีคภัคระบายยิ้ม พยักหน้ารับกับข้อเสนอของภรรยา ที่เขาพาเธอขึ้นมาเชียงใหม่ครั้งนี้ก็เพื่อจะฉลองวันเกิดของตนเองด้วยกันสองต่อสองกับเธอ













เข็มนาฬิกาก้าวข้ามจากวันเก่าเปลี่ยนเป็นวันใหม่ ภีคภัคสวมชุดนอนสีเทานั่งไขว่ห้างภายในห้องนั่งเล่น นิตยสารที่มีอยู่ในห้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษถูกนำกลับมาอ่านวนซ้ำไปหลายรอบ สายตาก็เหลือบมองเวลาเกือบจะทุกห้านาที รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกเมื่อภรรยาที่รักยังไม่ถึงบ้าน หลังจากที่ชายหนุ่มไปส่งเธอในเมืองเรียบร้อยแล้ว เกศหทัยก็ไล่เขากลับทันที แม้ว่าเขาจะปฏิเสธแต่เธอก็ไม่ยอมแถมยังบอกอีกว่าถ้าไม่กลับไปเธอจะโกรธจริงๆ ภีคภัคจึงจำใจที่จะต้องกลับมารอเธอที่บ้าน แต่ป่านนี้ก็ไม่เห็นวี่แววว่าจะกลับ เมื่อช่วงเย็นได้รับแค่โทรศัพท์จากเกศหทัยเพียงว่าเธอจะกลับช้าหน่อยไม่ต้องรอกินข้าวเย็น แต่ภีคภัคก็ไม่นึกว่าจะช้าขนาดนี้พอจะโทรกลับก็ดันติดต่อไม่ได้ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจปิดเครื่องหนีหรือโทรศัพท์แบตหมดจริงๆกันแน่

ภีคภัคเริ่มที่จะมีอารมณ์โกรธกรุ่นเมื่อมีโทรศัพท์โทรเข้ามาจากเบอร์ที่ชายหนุ่มไม่คุ้นเมื่อตอนช่วงบ่ายของวัน หากพอพูดคุยจึงรู้ว่าเป็นหัวหน้าแผนกคนหนึ่งของโรงแรมประจำสาขาที่เชียงใหม่ และเมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากลูกน้อง ภีคภัคแทบอยากจะหายตัวไปโผล่ตรงหน้าเกศหทัยเพื่อจะให้รู้ไปเสียเลยว่าสิ่งที่ได้รับรู้มาว่าเธอกำลังเลือกซื้อแหวนเพชรกับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง!

เสียงรถยนต์บริเวณหน้าบ้านเรียกความสนใจจากภีคภัคได้เป็นอย่างดี ร่างสูงก้าวไปยังหน้าบ้านอย่างรวดเร็วแต่ก็เห็นรถคันที่มาส่งภรรยาเพียงไกลๆ สายตาคมกริบจ้องมองภรรยาที่เพิ่งจะกลับบ้าน เกศหทัยไม่มีท่าทีรู้สึกผิดเลยที่กลับมาช้าเสียขนาดนี้แถมยังยิ้มแป้นกลับมาจนเป็นภีคภัคเองที่โมโหหนักกว่าเดิม ยิ่งเห็นว่าเกศหทัยกลับมาตัวเปล่าโดยไม่มีเค้กที่เธอบอกว่าจะซื้อมาชายหนุ่มยิ่งหัวเสียหนัก เกินกว่าครึ่งของความรู้สึกภีคภัคเชื่อไปแล้วในสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา เกศหทัยออกไปกับผู้ชายอีกคนหนึ่งทั้งวันแถมยังไปเลือกซื้อแหวนเพชรกันอย่างกระหนุงกระหนิงอีกต่างหาก!

“เค้กล่ะ” น้ำเสียงนิ่งเย็นถามขึ้นมาทันทีเมื่อมองไม่เห็นกล่องเค้ก เกศหทัยทำตาโตยกมือข้างหนึ่งปิดปากพร้อมกับอุทานเสียงดัง

“โอ๊ย! ขอโทษนะคุณพีค ฉันลืมไปสนิทจริงๆ ไว้พรุ่งนี้จะตื่นมาอบให้แต่เช้าเลยนะคะ นะ...นะ...” คนขี้ลืมอ้อนเสียงอ่อนแต่คราวนี้ภีคภัคกลับไม่ใจอ่อน เพราะตอนนี้เขากำลังสงสัยว่าเรื่องเธอเข้าเมืองไปเลือกซื้อแหวนเพชรกับผู้ชายนั้นมันเป็นความจริงแค่ไหน ทั้งสงสัยและโมโห...มาก

“แล้ว...”

“เดี๋ยวค่อยคุยนะคะ ขอฉันอาบน้ำก่อน วันนี้ตะลอนมาทั้งวัน เหนียวตัวจะตายอยู่แล้ว” เกศหทัยตัดบทง่ายๆ วิ่งปรู๊ดขึ้นห้องทันที ไม่สนใจเสียงที่เรียกไล่หลังมาสักนิดเดียว

“คุณเกด!” ภีคภัคเรียกภรรยาที่วิ่งขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็วเสียงดังลั่น แต่เกศหทัยก็ไม่หยุดและหันกลับมาฟังกันเลย ภีคภัคจึงทำได้แค่เพียงเดินตามร่างบางขึ้นห้องและนั่งรอด้วยความอดทนจนกว่าเกศหทัยจะออกจากห้องน้ำมาคุยกัน

ราวครึ่งชั่วโมงคนที่ผลุบหายไปในห้องน้ำก็เดินออกมา ผมที่ยาวถึงกลางหลังชุ่มไปด้วยน้ำเนื่องจากเจ้าตัวเพิ่งจะสระผมมาแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจจะเช็ดให้แห้งร้อนถึงภีคภัคที่ต้องเดินเข้าไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่แขวนอยู่ในห้องน้ำออกมาพร้อมกับดึงคนที่ล้มตัวหัวถึงหมอนเรียบร้อยแล้วให้ลุกขึ้นมา

“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยคุณเกด ผมยังไม่แห้งจะนอนเข้าไปได้ยังไง”

“ก็มันง่วง” เกศหทัยแกล้งพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ความจริงกะจะเนียนแกล้งหลับเพราะไม่อยากโดนภีคภัคซักฟอกเสียขาวต่างหาก

“ง่วงก็ยังนอนไม่ได้ นั่งดีๆเลย เช็ดผมก่อน” ภีคภัคฉุดร่างที่อ่อนปวกเปียกให้ลุกขึ้นนั่งก่อนจะบรรจงใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมยาวสลวยของภรรยาเบาๆ

“เสร็จหรือยัง ง่วง” ภรรยาถาม แกล้งทำคอพับคออ่อน สัปหงกไปหลายรอบ

“ยังไม่เสร็จ แล้วไปทำอะไรมาทั้งวันถึงกลับเอาซะป่านนี้” ภีคภัคยังคงเช็ดเส้นผมเส้นเล็กของภรรยาอย่างเบามือ แต่ก็ยังไม่วายจะตั้งคำถามที่สงสัยมาทั้งวัน ถ้าเธอไม่ยอมตอบให้เขาหายข้อกังขาก็อย่าหวังเลยว่าคืนนี้เขาจะปล่อยให้เธอนอนหลับสบาย

“ธุระค่ะ”

“ธุระอะไร”

“อืม...คำถามนี้ขอข้ามได้ไหมคุณพีค” เกศหทัยขอร้องเสียงอ่อน ก็เธอสัญญาไว้แล้วนี่นาว่าจะเก็บเรื่องวันนี้เป็นความลับ

“ทำไม” ภีคภัคถามเสียงเรียบ หยุดมือเมื่อเห็นว่าผมของภรรยาเริ่มหมาดอ้อมมานั่งฝั่งตรงข้ามภรรยา

“ก็ฉันพูดไม่ได้นี่นา” เกศหทัยหลบสายตาคมกล้าที่มองสบมา

“เพราะคุณออกไปเลือกแหวนเพชรกับผู้ชายคนนึงมาใช่ไหม ไปกันมาทั้งวันจนลืมว่าต้องซื้อเค้กกลับมาให้ผม”

เกศหทัยทำตาโตตกใจเมื่อภีคภัครู้ว่าวันนี้เธอไปทำอะไรมา แต่ไอ้อาการหึงหวงอย่างนี้เขาคงไม่รู้แน่ว่าเธอไปกับใคร เพราะถ้ารู้เธอมั่นใจว่าเขาจะไม่แสดงอาการอย่างนี้ออกมาเลย แต่เรื่องอะไรเธอจะบอกความจริงตอนนี้ อย่างน้อยก็ขอเธอยั่วคนขี้หึงหน่อยประไร แล้วค่อยบอกความจริงทีหลังก็แล้วกัน

“รู้ได้ยังไง ฉันบอกให้คุณกลับบ้านไม่ใช่เหรอ หรือว่าคุณแอบตาม” เกศหทัยถามอย่างจับผิด

“ไม่ปฏิเสธแสดงว่าเรื่องจริงใช่ไหมคุณเกด” น้ำเสียงที่พูดออกมานั้นกดต่ำ ภีคภัคพยายามอดทนอย่างสุดกลั้นไม่ให้ระเบิดอารมณ์โกรธออกมา ที่ขึ้นมาเชียงใหม่เพราะเขากะพาเธอมาฉลองวันเกิดด้วยกันไม่ใช่มาทะเลาะกันในวันเกิดอย่างนี้

“ก็จริงน่ะสิคะ” เกศหทัยยิ้ม มองหน้าคนที่ทำคิ้วชนกันอย่างนึกขำ ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้ท่าจะไม่ดี ความคิดแผลงๆของเธอที่ว่าจะแกล้งให้ภีคภัคหึงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปโดยไม่จำเป็น

“คุณเกด!”

“โอ๋ๆคุณพีค...ใจเย็นๆสิคะ ฉันยังพูดไม่จบเสียหน่อย” เกศหทัยบอกเสียงอ่อนพร้อมกับเอื้อมมือไปแตะบริเวณหัวคิ้วของภีคภัคที่ชนกัน

“แล้วคิ้วเนี่ย ผูกเป็นโบว์แบบนี้ รู้ไหมว่าไม่หล่อเลยนะ” เธอย่นจมูกใส่ มือที่เอื้อมไปแตะหัวคิ้วภีคภัคออกแรงนวดเบาๆเพื่อให้คิ้วที่ผูกเป็นโบว์คลายลง

“ทำผิดแล้วยังมาอ้อนอีกนะ บอกมาเดี๋ยวว่าใครมันบังอาจกล้าพาเมียผมไปเลือกซื้อแหวน” น้ำเสียงไม่พอใจของภีคภัคทำเอาเกศหทัยปล่อยหัวเราะเสียงดังลั่นห้องจนคนเป็นสามีสงสัยว่าประโยคที่ตนเองพูดมันน่าขำตรงไหน

“ยืมโทรศัพท์หน่อยสิคะ ของฉันแบตหมดขี้เกียจชาร์จ ขอยืมของคุณนะคะ” ขอตามมารยาทเพราะเกศหทัยก็ไม่รอให้คนเป็นเจ้าของอนุญาตอยู่ดี เกศหทัยคว้าหมับเข้าที่โทรศัพท์มือถือของภีคภัค กดเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจก่อนจะยื่นให้คนที่นั่งตรงข้ามคุย แม้ภีคภัคจะไม่ยอมในทีแรกแต่เมื่อโดนคะยั้นคะยอจึงต้องรับโทรศัพท์ของตัวเองมาคุยอย่างเสียไม่ได้

“ภีคภัคพูดครับ” น้ำเสียงที่ตอบกลับใส่ปลายสายแม้จะสุภาพแต่ก็ฟังดูห้วนไม่เบา

“หมอเขตนะครับคุณพีค” ทันทีที่อีกฝั่งหนึ่งของสัญญาณแนะนำว่าตัวเองเป็นใคร ภีคภัคก็รู้ว่าตัวเองโดนภรรยาย้อนศรเข้าให้แล้ว แทนที่เกศหทัยจะบอกเขาด้วยตัวเองว่าผู้ชายที่เธอไปด้วยคือ ‘นพ. สิขเรศ’ ทุกอย่างก็จบ เขาก็ไม่ต้องมานั่งหึง แต่เธอดันให้หมอเขตเป็นคนมาบอก อย่างนี้กะให้เขาหน้าแตกชัดๆที่หึงไม่ดูตาม้าตาเรือ หึงใครไม่หึงดันไปหึงลูกพี่ลูกน้องของภรรยา

“ครับ ครับหมอเขต”

“วันนี้เกดไปกับผมเองครับ ผมขอให้เกดช่วยเลือกแหวนให้เพราะคิดว่าถ้าให้ผู้หญิงช่วยเลือกคงถูกใจผู้หญิงด้วยกันมากกว่าที่ผมจะเลือกเองน่ะครับ แล้วที่ขอให้เกดไม่บอกใครก็เพราะว่าผมกะจะเซอร์ไพรส์กานต์เขาน่ะครับ” คำอธิบายของคุณหมอเขตไขข้อข้องใจทั้งหมดของภีคภัคจนกระจ่าง

“หมอเขตจะขอกานต์แต่งงานหรือครับ”

“ครับ” น้ำเสียงที่ตอบกลับมามั่นคงและจริงใจ “รบกวนคุณพีคอย่าเพิ่งบอกกานต์นะครับ”

“ได้สิครับ”

“ว่าแต่เราหายกันแล้วนะครับ”

“ครับ?” ภีคภัคย้อนกลับถามเสียงสูง เพราะสงสัยว่าเขาไปติดค้างหมอเขตเรื่องอะไร

“ก็ตอนนั้นผมหึงคุณเรื่องกานต์ ส่วนคราวนี้คุณหึงผมเรื่องเกด”

“อ้อ...” ภีคภัคลากเสียงยาว เหตุการณ์ในครั้งที่ตนขึ้นมาหาณิชกานต์ที่เชียงใหม่เพราะกำลังอกหักจากกณิกนันท์เด่นชัดขึ้นในความทรงจำ คราวนั้น นพ. สิขเรศหึงเสียจนไม่ยอมคุยกับณิชกานต์ร้อนจนชายหนุ่มต้องช่วยเข้าไปไกล่เกลี่ย หากมาคราวนี้เหตุการณ์ดันกลับกัน เป็นภีคภัคเองที่หึงจนร้อนถึงคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นมือที่สามอย่างคุณหมอเขตต้องมาแก้ตัวแทนคนเป็นน้องสาว

“ยัยเกด...บางทีอาจทำตัวให้คุณปวดหัวบ้าง อภัยให้แกด้วยนะครับ”

“ครับ” ภีคภัคตอบรับคำขอนั้น กดวางสายเมื่อความเข้าใจผิดถูกทำให้เข้าใจถูกก่อนจะหันมามองหน้าภรรยาอย่างคาดโทษที่ทำให้เขาหน้าแตกหมอไม่รับเย็บอย่างนี้

“นอนนะ” เกศหทัยเอนตัวลงแต่หัวยังไม่ทันถึงหมอนเพราะภีคภัครั้งแขนและดึงร่างนั้นให้ขึ้นมานั่งด้วยกัน

“ไม่ต้องมาเนียนนอนเลยนะคุณเกด ถึงเรื่องหมอเขตจะเคลียร์แล้วแต่คุณก็ยังลืมซื้อเค้กมาอยู่ดีนะ”

“ก็พรุ่งนี้จะตื่นมาอบให้แต่เช้าไงคะ อุปกรณ์กับส่วนประกอบที่บ้านนี้ยังพอมีอยู่ แต่ตอนนี้ดึกแล้ว ง่วง นอนเถอะนะ” ภรรยายิ้มประจบแต่มีหรือที่ภีคภัคจะยอม ไม่มีทางเสียล่ะ

“วันนี้วันเกิดผมแล้ว ยังไม่ได้ของขวัญเลย” ภีคภัคงัดโหมดช่างอ้อนขึ้นมาใช้อีกครั้ง เกศหทัยมองใบหน้าสามี รอยยิ้มหวานประดับขึ้นบนดวงหน้า เขยิบเข้าจุมพิตบนริมฝีปากหยักลึกของภีคภัคเบาๆก่อนจะถอนจูบเล็กๆนั่นอย่างรวดเร็ว

“สุขสันต์วันเกิดค่ะ”

“ไม่คุ้มเลยครับ วันเกิดคุณปีที่แล้วผมว่าผมจูบเป็นของขวัญให้คุณนานกว่านี้นะ” คำพูดและสายตาของภีคภัคทำให้เกศหทัยหน้าร้อนผ่าว เลือดฝาดแลดูจะสูบฉีดดีกว่าปกติ

“แล้วคุณจะเอายังไงล่ะคะ อยากได้อะไรก็ว่ามาสิ ถ้าฉันทำได้จะทำให้ก็แล้วกัน” เพราะอยากตัดปัญหาจากคนช่างอ้อนจึงบอกไปอย่างนั้น ไม่ได้รู้เลยว่าคำพูดของตัวเองจะกลายเป็นบ่วงที่รัดตัวจนดิ้นไม่หลุดเมื่อภีคภัคบอกสิ่งที่ต้องการ

“ผมอยากได้พีคน้อยกับเกดน้อยครับ คุณเกดให้ได้ไหม”

“คุณพีค” เกศหทัยเรียกอีกฝ่ายเสียงหลง สายตาพล่าเบลอไม่หมด แววตาของภีคภัคที่มองมาทำเธอแทบจะใจอ่อน สายตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นอ่อนหวานเสียไม่มี น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ร้องขอทำให้คำปฏิเสธที่กำลังจะหลุดออกมากลืนหายจนเกศหทัยเองก็ไม่รู้ว่ามันหายไปไหน

“นะครับ...ผมอยากเห็นเกดตัวน้อยที่น่ารักเหมือนคุณ อยากเห็น...พีคตัวน้อยที่ฉลาดเหมือนผม ได้ไหม” คราวนี้ไม่มาเพียงแค่คำพูด ภีคภัคเอื้อมมือขึ้นมาแตะแก้มนวลของภรรยา นิ้วโป้งขยับเกลี่ยเล่นบนแก้มใสเบาๆ

เกศหทัยเม้มริมฝีปากแน่น ใช้สติที่แทบจะไม่เหลือคิดทบทวนว่าเธอพร้อมที่จะทำตามคำร้องขอของภีคภัคหรือไม่ เธอรักเขา ความรู้สึกนี้หญิงสาวมั่นใจอย่างไม่มีข้อสงสัย และก็มั่นใจว่าภีคภัคเองก็ไม่ต่างกัน เขาเองก็รักเธอ ครอบครัวที่ทั้งเขาและเธอร่วมกันฟันฝ่าสิ่งกีดขวางเส้นทางของหัวใจกันมาจะสมบูรณ์ยิ่งขึ้นถ้ามีเสียงเจื้อนแจ้วของเด็กๆสักคนสองคนช่วยสร้างความครึกครื้นให้กับบ้านไม่ให้เงียบเหงาอีกต่อไป

“ขอเป็นพีคน้อยก่อนได้ไหมคะ ฉันอยากให้ลูกคนแรกเป็นผู้ชายจะได้คอยดูแล...ถ้า...ถ้าต่อไปจะมีน้องอีกคน” คนพูดก้มหน้างุด ทั้งเขินทั้งอาย รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผะผ่าวไปหมด ภีคภัคหัวเราะเสียงดังลั่นห้อง ดึงภรรยาที่นั่งก้มหน้าเข้าสู่อ้อมกอดก่อนจะล้มตัวลงบนเตียงนุ่มไปทั้งคู่

เกศหทัยหันหน้าหนีสายตาที่รุกเร้าแต่ภีคภัคก็จับใบหน้านวลให้หันมามองกันตรงๆ ชายหนุ่มอยากให้เธอรู้ว่าเขานั้นรักเธอมากเพียงใด ชีวิตและหัวใจทั้งหมดนี้จะมีเธอเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว ความจริงนี้...ถ้าในอนาคตจะเจอเหตุการณ์อะไรมันก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

“ได้ของขวัญชิ้นนี้...งั้นพรุ่งนี้ฉันไม่ลุกขึ้นมาอบเค้กให้แล้วนะ” เกศหทัยบอกเบาๆ สบสายตาที่ระยิบระยับราวกับดวงตาบนท้องฟ้าอย่างเขินอาย

ภีคภัคยิ้มกว้าง หัวเราะในลำคอเบาๆ ใครจะไปสนกันเล่ากับเรื่องนั้น ใบหน้าคมโน้มเข้าใกล้จนเกศหทัยรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย ริมฝีปากบางถูกทาบทับอย่างอ่อนหวาน เนิ่นนาน หญิงสาวรู้สึกถึงน้ำหนักตัวของอีกฝ่ายที่ทิ้งลงมา ภีคภัคประทับตราแสดงความเป็นเจ้าของทั่วใบหน้ามนเรื่อยมายังคอระหง บทเพลงในค่ำคืนแห่งรักซึ่งอ่อนหวานราวกับกลีบของดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ยังคงบรรเลงไปในท่วงทำนองของมัน ภายในห้องนอนอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรัก อากาศที่หนาวเย็นของเชียงใหม่ไม่ทำให้ความอบอุ่นที่แลกเปลี่ยนกันระหว่างภีคภัคและเกศหทัยลดลง ร่างสองร่างกอดกระหวัดภายใต้ผ้าห่มผืนหนาเมื่อบทเพลงแห่งรักสิ้นสุด ภีคภัคที่ลืมตาในความมืดกดจมูกลงบนหน้าผากมนเบาๆ เกลี่ยผมเส้นเล็กที่ตกมาปรกหน้าของภรรยาอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะปลุกให้เธอตื่น

“ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิดนะครับ ผมจะตั้งหน้าตั้งตารอนายพีคตัวน้อยทุกวันเลย” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบเบาข้างหูของคนที่ชายหนุ่มคิดว่ากำลังอยู่ในห้วงนิทรารมย์ โดยหารู้ไม่ว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดได้ยินทุกคำที่เขาพูด

เกศหทัยลอบยิ้มในความมืด ขยับตัวเข้าชิดเพื่อหาความอบอุ่นซึ่งภีคภัคก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ก่อนจะหลับตาและจมดิ่งในห้วงแห่งความฝันที่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงเป็นความฝันที่หวานกว่าทุกๆคืนที่เคยผ่านมา

“ฉันรักคุณค่ะ” คนที่ซุกในอ้อมอกกว้างเอ่ยขึ้นมาเบาๆ เธอเองก็จะรอคอยของขวัญชิ้นนี้ที่เขามอบให้เช่นกัน รอคอยว่าจะเป็นเกดน้อยหรือพีคน้อยที่จะลืมตาขึ้นมาดูโลก เอื้อนเอ่ยเรียกเธอว่า ‘คุณแม่’ และเรียกเขาว่า ‘คุณพ่อ’

...แต่ถึงจะเป็นพีคน้อยหรือเกดน้อย เธอก็มั่นใจว่าเด็กคนนี้จะน่ารักและเกิดมาอย่างมีความสุข เพราะแกเกิดจากความรักของเธอและเขา ความรัก...ที่มีคำว่า ‘เรา’ อยู่ที่สุดทางของหัวใจ...


-----------------------------------จบตอนพิเศษ (สุดทางใจ...ของสองเรา)-----------------------------------------------------

คุยกันท้ายเรื่อง....


จบลงเรียบร้อยสำหรับ "สุดทางใจ" (ทั้งเรื่องหลักและตอนพิเศษ) ส่วนคู่พี่กัณฐ์กับม่อน ปอแก้วขอติดไว้ก่อนนะคะ คิดว่าคงนำมาเขียนอีกทีหลัง เพราะตอนนี้มีเรื่องที่กำลังเขียนอยู่ และมันก็เยอะมากเกินกว่าที่ปอแก้วจะเขียนสองเรื่องควบ ส่วนเรื่องพี่แพงกับเชส...ปอแก้วกำลังคุยกับเพื่อนอีกคนหนึ่งอยู่ค่ะ คิดว่าจะช่วยกันเขียน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ข้อสรุปอย่างไรเหมือนกันเพราะเพื่อนก็ยังต้องปั่นนิยายบวกทำงาน ส่วนปอแก้วก็ต้องเขียนนิยายบวกกับอ่านหนังสือเตรียมสอบเรียนต่อ T T เลยยังไม่รู้ว่าจะเริ่มเขียนเมื่อไหร่นะคะ (ต้องติดตามต่อไปค่ะ แหะๆ)

หวังว่าตอนพิเศษนี้จะทำให้ทุกคนยิ้มได้นะคะ ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณพีคจะได้ของขวัญเป็น 'พีคน้อยหรือเกดน้อย' แต่ไม่ว่าจะได้อย่างไหนปอแก้วว่าก็น่ารักทั้งคู่ว่าไหมคะ? :")

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอดค่ะ ขอบคุณจริงๆ คนที่ไม่ได้เมนท์ไม่ได้กดไลค์แต่เข้ามาอ่านปอแก้วก็ชื่นใจแล้ว เรื่องแรกที่โพสในนี้ได้รับการต้อนรับอย่างนี้ปอแก้วพอใจแล้วค่ะ ดีใจที่ทุกคนอ่านแล้วมีความสุข ยิ้มได้ (แม้จะกว้างบ้างไม่กว้างบ้างก็ตาม อิอิ) :D

เจอกันเรื่องต่อไปคือ "พื้นที่ชุ่มรัก" นะคะ คาดว่าจะยาวกว่าเรื่องนี้เพราะมี 4 เรื่องย่อย (แหะๆ เป็นครั้งแรกเลยที่แต่งอย่างนี้)

อาจจะมาโพสประมาณกลางเดือนนะคะ ถ้าคนเขียนคึกและได้กำลังใจจากคนอ่านที่น่ารักทุกคนก็จะเร็วกว่านั้น ฮา.... (ขออ้อนหน่อยน้าาาา)

แล้วพบกันใหม่ในเรื่อง 'พื้นที่ชุ่มรัก' จ้า :D (ย้ำอีกที ฮ่าาาาาาา)



*ตอบเมนท์จ้าาาาาาา*


ปอยอะนะ : ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และกำลังใจค่ะ เอาตอนต่อไปมาเสิร์ฟแล้วจ้า :)

็ำHeronett : เพิ่งจะมาสังเกตนิยายที่ตัวเองเขียนเหมือนกันค่ะว่าผู้ชายที่เขียนมีแต่ผู้ชายน่ารัก (น่ากิน) ทั้งน้านนนน ฮ่าๆ ส่วนคุณพีค...ไม่รู้ว่าจะสู้คุณวัศได้หรือเปล่านะคะ ต้องถามคุณ ็ำHeronett ว่าถูกใจหรือเปล่าค่ะ :)

Siang : ในโลกของความจริงอาจจะมีค่ะแค่เราหาเค้าไม่เจอเท่านั้น หรือไม่ก็เค้าไม่เดินลงมาเข้าทางเรานั่นเอง ปอแก้วเลยเขียนผู้ชายลุคแบบนี้ขึ้นมาไงคะ ทดแทนชีวิตจริง ฮ่าๆ ;)

anOO : ปอแก้วก็อยากได้ค่ะ ผู้ชายสี่คนหลักๆเรื่องนี้ (รวมเชสด้วย) ปอแก้วชอบคุณวัศที่สุดค่ะ น่ารัก อบอุ่น อ๊ายยย ><

KipkeLucifer : ดีใจที่ชอบนะคะ ได้ยินแค่นี้คนเขียนก็มีกำลังใจขึ้นเป็นกองเลยล่ะค่ะ ขอบคุณนะจ๊ะ :)

silverraindrop : ของคู่นี้จบแล้วค่ะ ส่วนคู่คุณพีคก็มีตอนพิเศษตอนนี้ตอนเดียวค่ะ ต้องบอกลากันแล้ว...แต่มีเรื่องใหม่ให้ติดตามแน่จ้าาาา :)

nunoi : ผู้ชายในเรื่องนี้ถ้าเจอเดินตัวเป็นๆบนถนนพร้อมกันคงน่ามองน่าดูว่าไหมคะ อิอิ ปอแก้วก็อิจฉาสาวๆเรื่องนี้มาก จะโชคดีไปไหนน้อออ :)

ryoku : ตั้งแต่ที่อ่านนิยายมาเรายังไม่เคยเจอผู้ชายอย่างในนิยายเลย (พระเอกและพระรองอ่ะนะ) จะว่าเราโชคร้ายใช่ไหมนี่...ตอนต่อไปมาแล้ว คุณพีคน่ารักในระดับของคุณพีคนะ ฮ่าๆ ฉากถ่ายรูปมันแอบเป็นความฝันของคนเขียนเองนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ// แล้วถ้าคุณพีคมีลูกเป็นของตัวเองล่ะ จะเป็นยังไงนะ ถ้าเป็นลูกสาวคุณพ่อคงหวงมากเลย ><

tutas : น่ารักมากกกกกกกกกกกที่สุดเลยล่ะค่ะ คนนี้ปอแก้วเชียร์สุดแรงเลย ฮา... คุณ tutas อยากเป็นหนูพริมใช่ไหมคะ มีแฟนเด็กซะน่ารักเชียว ฮ่าๆ :)

WallyValent : อันนี้ใส่อารมณ์ส่วนตัวป่ะจ๊ะ ฮ่าๆๆ ถ้าจะให้ผู้ชายเหล่านั้นไปอยู่ในนิยายเราจะตั้งชื่อนิยายว่าอย่างไรดีล่ะ?? ;P

Amata : ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ และขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ปอแก้วจะตามอ่านพี่กรและหนูไหมต่อไปค่ะ อิอิ :)

nitayab : คู่นี้จบตอนพิเศษเพียงเท่านี้ค่ะ มาอ่านตอนพิเศษของคู่พระเอกนางเอกแทนนะคะ ขอบคุณมากๆที่ติดตามจ้า :)

violette : ดีใจที่คุณ violette ยิ้มแก้มแตกนะคะ ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ปอแก้วมาตลอดจ้า น่ารักจริงๆเลย ตอนพิเศษสุดท้ายนี้ชอบไหม บอกกันได้นะจ๊ะ :D




ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 พ.ย. 2554, 10:12:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ย. 2554, 08:33:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 3410





<< ตอนพิเศษ : ต้นทางใจ...สุดสายรัก (ครึ่งหลัง : สุดสายรัก)   
Siang 25 พ.ย. 2554, 10:32:10 น.
นายพีคกับหนูเกดน่ารักมากกกก รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ


Heronett 25 พ.ย. 2554, 11:22:57 น.
คุณพีคน่่ารักจังเลย อยกได้แบบนี้ๆๆ พี่แพงเค้าสอนหนูเกดดีจริงๆเลย ฮ่าๆ
อยากอ่านพื้นที่ชุ่มรักเร็วๆจังค่ะ รอไม่ไหว(เว่อไปไหม)^^


Amata 25 พ.ย. 2554, 11:37:07 น.
ขอบคุณมากๆสำหรับตอนพิเศษค่า...


silverraindrop 25 พ.ย. 2554, 12:31:07 น.
รอเรื่องใหม่อยู่ค่ะ จะอยู่เป็นกำลังใจให้นะคะ


nunoi 25 พ.ย. 2554, 12:41:09 น.
หวานได้น่ารักมากๆ สมกันที่รอคอยตอนพิเศษจริงๆค่ะ


violette 25 พ.ย. 2554, 12:52:20 น.
ชอบบบค่า น่ารักมากๆๆๆเลยค่า


anOO 25 พ.ย. 2554, 15:09:08 น.
หวานกันจนหยดสุดท้ายจริงๆๆๆๆ


jackrussell 25 พ.ย. 2554, 19:53:34 น.
อ่านตั้งแต่ต้นจนจบทีเดียว อ่านแล้วยิ้มทุกตอนค่ะ
รอเรื่องใหม่ค่ะ


tutas 26 พ.ย. 2554, 09:04:54 น.
น่ารักจัง ^_^


ณัฐวีร์ 4 ธ.ค. 2554, 22:20:06 น.
ชอบจังเลย อยากอ่านเรื่องของพีคน้อยบ้าง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account