พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!

แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก

ตอน: เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 6

ตอนใหม่มาแล้วค่ะ อาทิตย์นี้มาไว ส่งท้ายสิ้นปี :)

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ทิ้งคอมเมนท์และกดไลค์ไว้เป็นกำลังใจนะคะ

ชอบไม่ชอบยังไงบอกได้นะคะ บางคนอาจรู้สึกว่าคู่พี่อาร์มมันหน่วงๆไปหน่อยปอแก้วอยากให้ติดตามต่อไปนะคะ เพราะหลังๆเมื่อพี่อาร์มเปิดใจมากขึ้น ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปค่ะ :)

เจอกันตอนหน้าวันศุกร์นะคะ =]

-------------------------------------------------------------------------------------------------



ตอนที่ 6: นนทรีต้นเดิม (2)



หลังจากอาหารมื้อเย็นชิษวัศอาสาช่วยเธอล้างจานซึ่งตอนแรกเธอก็พยักหน้าให้เขาช่วยแต่โดยดี แต่พอผ่านไปสักพักเมื่อเห็นว่าคนอาสาช่วยล้างจานจะยิ่งทำให้เธอมีภาระมากขึ้นกว่าเดิมด้วยการช่วยทำจานแตกให้เธอเก็บ มุกตาภาจึงตัดสินใจให้เขาไปรอเงียบๆด้านนอกเสียดีกว่า เรื่องล้างจานหรือเก็บกวาดเดี๋ยวเธอจัดการเอง และเมื่อโดนไล่ชิษวัศจึงใช้โอกาสนั้นปลีกตัวไปชำระร่างกาย แต่ก็ยังมีน้ำใจเตรียมผ้าขนหนูและชุดนอนซึ่งเป็นชุดนอนของตัวเองให้มุกตาภา เนื่องจากแอบสังเกตเห็นว่าเธอไม่ได้ซื้อชุดนอนเผื่อมาด้วยก่อนจะวางทั้งหมดที่ถูกพับอย่างเรียบร้อยไว้หน้าห้องนอนที่จัดให้สำหรับเธอ

มุกตาภาเดินออกมาจากเรือนครัวหลังจากที่จัดการภารกิจภายในนั้นเรียบร้อย พอจะเดินเข้าไปในห้องสายตาก็สะดุดอยู่กับกองผ้าที่ตั้งขวางทางเข้า ร่างบางย่อตัวลงหยิบขึ้นมาดู มุมปากกระตุกยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นสิ่งที่วางอยู่ตรงหน้า ผ้าขนหนูกับชุดนอนที่ดูออกว่ายังไงก็เป็นขนาดของผู้ชายตัวโตๆ รู้สึกดีใจไม่น้อยที่ชิษวัศก็ใส่ใจเธอเหมือนกัน หญิงสาวหอบกองผ้าเหล่านั้นไว้แนบอกก่อนจะเดินเข้าห้องไปด้วยรอยยิ้มพราว จนมีเสียงเคาะประตูดังจากด้านนอกตามด้วยเสียงของชิษวัศที่บอกให้เธอไปอาบน้ำได้แล้วหญิงสาวจึงจัดการตระเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวก่อนเปิดประตูห้องออกมาแต่กลับไม่พบคนที่เคาะห้องเมื่อครู่

แม้จะเหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นแม้แต่เงา หญิงสาวจึงเลิกที่จะมองหา หมุนตัวกลับเดินไปยังห้องน้ำซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของเรือนแทน โดยหารู้ไม่ว่าที่ไม่เห็นแม้แต่เงาของอีกคนหลังจากออกจากห้องมานั้นมีสาเหตุมาจากชิษวัศจงใจเลี่ยงที่จะเจอเธอเพราะโทรศัพท์เจ้ากรรมดันส่งเสียงร้องขึ้นมาด้วยเบอร์ที่ชายหนุ่มเองแทบไม่คิดอยากจะรับ แต่ก็ต้องจำใจ...เพราะถ้าไม่กดรับสายไอ้เพื่อนตัวดีมันก็จะโทรย้ำๆอยู่อย่างนี้ไปทั้งคืน

ชิษวัศเลี่ยงที่จะมาคุยโทรศัพท์บริเวณศาลาริมน้ำหน้าบ้าน แสงไฟสีเหลืองนวลเรืองรองจากหลอดไส้ที่ติดอยู่ด้านบนขื่อของศาลาเป็นแหล่งกำเนิดแสงเพียงชนิดเดียวในบริเวณรอบๆนี้ ชายหนุ่มกดรับสายโทรศัพท์ด้วยอารมณ์ประมาณว่าแค่เห็นชื่อว่าใครโทรมาก็หงุดหงิดแล้ว ยิ่งพอยินเสียงยิ่งหงุดหงิดหนัก!

“ว่าไงครับเพื่อนอาร์ม พรีฮันนีมูนที่อยุธยาโรแมนติกไหมวะ” น้ำเสียงยียวนชวนโดนเตะของอารัทธ์ทำเอาชิษวัศอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ลงแม่น้ำเจ้าพระยาแต่ก็ยังยั้งมือไว้ได้ทันเพราะกลัวว่าจะไปสร้างมลพิษเพิ่มให้กับกับแม่น้ำสายหลักของประเทศ

“พรีฮันนีมูนบ้านป๊าแกสิ ลุงชิดไม่สบายต้องผ่าตัดพรุ่งนี้ ไม่รู้เรื่องก็อย่ามาปากมอมนะไอ้อาร์ท” ชิษวัศตอบผ่านทางเครือข่ายสัญญาณไร้สายกลับไปอย่างเผ็ดร้อน

“ลุงชิดไม่สบายแล้วเกี่ยวอะไรกับน้องมุก แกเอาน้องมุกของฉันไปด้วยทำไมวะ” มือข้างขวาที่ยกโทรศัพท์แนบหูจู่ๆก็กำโทรศัพท์แน่นขึ้นมาเมื่อได้ยินคำว่า ‘น้องมุกของฉัน’ พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะต่อบทสนทนากับอารัทธ์โดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ว่าตนเองกำลังโกรธจัดเพียงใด

“รู้ได้ยังไงว่ามุกตาภาอยู่กับฉัน”

“ก็คุณอาจารย์เธอโทรมาคาดคั้นกับฉันว่าเอาเพื่อนเธอไปไว้ที่ไหน แต่ฉันไม่ได้เอาไปมันก็คงไม่พ้นแก...แล้วก็ใช่ซะด้วย” น้ำเสียงที่ตอบกลับมาเป็นน้ำเสียงที่ชิษวัศจับแววขุ่นเคืองของอารัทธ์ที่ถูกนิชิตาซักฟอกไม่ได้เลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยัง เริงร่าผิดปกติอีกต่างหาก

“แกจะเอายังไงกันแน่เรื่องคุณหมูหวานกับมุกตาภา ถ้าจะทำอย่างนี้ต่อไป...”

“พอเลยไอ้อาร์ม...” ปลายสายรีบห้าม ขี้เกียจฟังเสียงคนที่อายุก็ยังไม่เยอะแต่อยากกลายร่างเป็นตาแก่ขี้บ่น

“งั้นแกก็ลองบอกเหตุผลที่ฉันจีบน้องมุกไม่ได้มาสักข้อสิ บางทีฉันอาจรับไว้พิจารณา”

คำถามของอารัทธ์ทำให้ชิษวัศเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ในใจตะโกนออกมาอย่างชัดเจนว่า ‘เพราะฉันหวง’ แต่กลับพูดออกไปอย่างใจนึกไม่ได้ เวลาเจอสิ่งที่อยากได้แต่กลับมาเหตุผลหลายอย่างมาบีบบังคับให้ต้องทิ้งสิ่งนั้นไป เขาสามารถที่ตัดความต้องการต่างๆทิ้งได้โดยไม่ลังเล หากแต่ตอนนี้เขากลับทำอย่างนั้นไม่ได้ ไม่สามารถที่จะตัดความรู้สึกที่มีต่อมุกตาภาออกไปได้ จะพูดออกไปก็ไม่ได้เพราะขัดกับปณิธานของตัวเองที่ตั้งไว้ ทั้งที่เจอผู้หญิงที่ถูกใจแต่กลับทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าเพียงแค่มอง

“บอกไม่ได้ล่ะสิ” คล้ายอารัทธ์จะจับทางได้เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปนาน “ถ้าบอกไม่ได้ แกก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาห้ามฉัน”

“เดี๋ยว...” ชิษวัศเอ่ยรั้ง “แกชอบมุกตาภาจริงๆหรือเปล่า” เป็นคำถามที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งเครียดแต่กลับได้เสียงหัวเราะของอีกฝั่งของสัญญาณกลับมา

“แต่ฉันก็ชอบคุณอาจารย์ด้วยนะ”

“ฉันจริงจังนะไอ้อาร์ท แกชอบมุกตาภาจริงๆหรือเปล่า” หากชิษวัศไม่ขำด้วยเลย ชายหนุ่มยังคงถามด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำ

“แล้วแกถามฉันในฐานะอะไร ถ้าถามในฐานะเจ้านายของน้องมุก ฉันจะมอบโล่เจ้านายดีเด่นแห่งปีให้ที่เป็นห่วงเป็นใยลูกน้องขนาดนี้” อารัทธ์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงล้อเล่นเสียมากกว่าที่จะพูดอย่างเป็นจริงจัง แต่ไม่ได้ทำให้คนที่กำลังยืนหันหน้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนรู้สึกดีขึ้นมาเลย

“แกยังไม่ได้ตอบคำถาม...”

“ฉันไม่ได้โทรมาเล่นเกมยี่สิบคำถามสามตัวช่วยกับแกหรอกนะไอ้อาร์ม ที่โทรมาก็จะมาบอกข่าว” อารัทธ์ชิงพูดก่อนที่ชิษวัศจะพูดจบอีกครั้ง เพราะโดนอีกฝ่ายเอาแต่ถามจึงเกือบลืมว่าที่โทรมาก็เพราะมีเรื่องบางอย่างที่ต้องบอก

“อะไร”

“เฟลอร์กลับมาแล้วนะ” ชื่อของอดีตคนรักกระทบโดนทุกโสตประสาทแต่ชิษวัศกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่คิดว่าตัวเองจะรู้สึกเมื่อได้ยินชื่อเล่นของ ‘ทวิดาร์’ เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขาคบจริงจังจนถึงขั้นเรียกว่า ‘แฟน’ แต่ก็ต้องมีอันเลิกรากันไป เพราะฝ่ายหญิงทนรับกับนิสัยไม่หวานแถมไม่โรแมนติกติดแต่ทำงานอย่างเขาไม่ได้

“อืม...แล้วแกรู้ได้ยังไง”

“ก็เฟลอร์มาหาฉันที่ร้าน มาขอเบอร์ติดต่อแก ฉันก็ให้ไป แล้วเธอติดต่อไปบ้างหรือยัง”

“ยัง” ชิษวัศตอบสั้นๆ ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองที่เพื่อนให้เบอร์โทรศัพท์ของตัวเองแก่ทวิดาร์โดยที่ไม่ขออนุญาตก่อน เพราะแม้จะเลิกรากันไปแต่เขาก็ยังพร้อมที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของเธอเสมอ

“ไม่เป็นไรนะไอ้อาร์ม” ปลายสายถามขึ้นมาอย่างเป็นห่วง เพราะรู้ดีว่าเรื่องเมื่อคราวนั้นทำให้ชิษวัศเจ็บปวดใจมากแค่ไหน ผู้หญิงคนแรกที่เพื่อนของเขาคนนี้ยอมมอบหัวใจให้อย่างจริงจังแต่ทวิดาร์กลับเลือกที่จะทิ้งมันไปอย่างไม่ใยดี เพียงเพราะเหตุผลที่ว่าเธอทนกับนิสัยบางอย่างของชิษวัศไม่ได้

หากคนที่ถูกเป็นห่วงกลับหัวเราะในลำคอเบาๆ นานทีปีหนคนที่อารัทธ์จะแสดงอาการเป็นห่วงเป็นใยอย่างนี้ ชิษวัศจึงอดที่จะแปลกใจไม่ได้

“อย่ามาทำเสียงอย่างนี้น่ะไอ้อาร์ท ฟังแล้วมันขนลุกว่ะ ฉันไม่เป็นไรน่า เลิกเจ็บเลิกปวดเรื่องเฟลอร์ไปนานแล้ว”

“ที่ไม่เจ็บไม่ปวดเพราะมีน้องมุกคอยดามใจอยู่หรือเปล่าวะ...” ชิษวัศยกโทรศัพท์ออกจากหูก่อนจะกดตัดสายทิ้งไปทันที ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดเรื่องมุกตาภากับอารัทธ์ พูดไปก็รังแต่จะขุดหลุมฟังตัวเอง เพราะเวลานี้สิ่งที่อารัทธ์พูดล้วนเป็นความจริงที่เขาหาข้อมาแย้งไม่ได้เลย

ชิษวัศยอมรับว่าผู้หญิงที่ชื่อมุกตาภามีอิทธิพลกับตนเองมากในเวลานี้ ชายหนุ่มเชื่อในเรื่องพรหมลิขิต แต่ไม่ค่อยเชื่อในรักแรกพบ หากพอพบมุกตาภา...เธอทำให้คนอย่างเขาเชื่อในคำๆนั้น เพียงแค่มองก็รู้สึกเหมือนถูกมนต์สะกดยิ่งพอทำความรู้จักพูดคุยก็รู้สึกว่าตัวเองตกบ่วงของเธอเข้าจนถอนทั้งตัวทั้งใจแทบไม่ขึ้น

...เธอไม่น่าอายุอ่อนกว่าถึงหกปีเลยนะมุกตาภา ผิดที่เธอเกิดช้าหรือฉันเกิดก่อนกันแน่หนอ...

คนที่อยู่ในภวังค์ความคิดตกใจเมื่อจู่ๆโทรศัพท์ก็ทั้งสั่นทั้งส่งเสียงเมื่อบอกว่ามีข้อความเข้า ชิษวัศสัมผัสที่หน้าจอเพื่อปลดล็อคก่อนจะพบว่าข้อความถูกส่งมาจากเบอร์ซึ่งไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในเครื่อง ทว่าเมื่อเปิดอ่านชายหนุ่มกลับรู้ดีว่าข้อความนี้ถูกส่งมาจากใคร

‘สบายดีไหมคะอาร์ม เฟลอร์กลับมาจากอเมริกาแล้วนะคะ พรุ่งนี้เย็นอาร์มว่างไหม เฟลอร์จะเข้าไปสวัสดีคุณแม่ของอาร์มเสียหน่อย ว่าจะไปฝากท้องที่บ้านอาร์มด้วยคิดถึงรสมือป้านิ่มมาก จะรอเจออาร์มด้วยนะคะ รักเสมอ...’

ข้อความถูกอ่านต่อจนจบตามติดด้วยเสียงถอนหายใจยาว มาอีหรอบนี้แสดงว่าข่าวที่เขาเคยได้ยินมาว่าทวิดาร์เพิ่งจะเลิกรากับแฟนหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกันคงจะเป็นเรื่องจริงเธอถึงได้ทำท่าว่าจะกลับมาหา ‘ของตาย’ อย่างนี้ แต่ผู้หญิงฉลาดๆอย่างทวิดาร์ก็น่าจะรู้ดีว่าผู้ชายอย่างเขาจะไม่ยอมหันกลับไปหาอะไรเดิมๆอีกเป็นครั้งที่สอง ยิ่งเป็นของที่เคยทำให้เสียใจด้วยแล้ว ต่อให้มาคุกเข่าอ้อนวอนตรงหน้า แม้เพียงหางตาก็อย่าหวังว่าเขาจะมอง แต่ถ้าเธอจะกลับมาในฐานะเพื่อนที่ดีต่อกัน เขาก็คงไม่ใจร้ายพอที่จะตัดไมตรีนั้น ทั้งเธอและเขายังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้เสมอ

“คุณอาร์มคะ” น้ำเสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ชิษวัศรีบปิดหน้าจอโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ทั้งที่ถ้าไม่ทำมุกตาภาก็คงไม่สงสัยอะไรอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่ต้องการให้เธอรู้ว่าเขากำลังอ่านข้อความจาก ‘อดีตแฟนเก่า’ เช่นกัน

ร่างของมุกตาภาค่อยๆปรากฏตัวจากมุมมืดของนนทรีต้นใหญ่จนเข้ามาอยู่บนศาลาริมน้ำด้วยกัน ชิษวัศมองผู้มาใหม่ด้วยรอยยิ้ม ชุดนอนถ้าอยู่บนร่างของเขาคงใส่สบายพอดีตัว หากพอมาอยู่บนร่างของคนตรงหน้า เธอกลับต้องพับทั้งแขนทั้งขาขึ้นไปอีกหลายทบ ดูไปแล้วก็น่ารักดี

“ลงมาทำอะไร” เสียงทุ้มถาม มองคนที่ก้มลงพับขากางเกงขึ้นไปใหม่เนื่องจากมันร่นลงมา

“เห็นคุณไม่อยู่เลยลงมาดู”

“แล้วทำไมไม่นอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะ” ผู้ช่วยสาวทำหน้ามุ่ยเมื่อถูกดุเข้าอีกแล้ว นี่ก็เพิ่งจะสองทุ่มครึ่งแล้วเธอก็ไม่ใช่เด็กอนามัยที่จะต้องรีบเอาหัวหนุนหมอนเพราะกลัวนอนไม่ครบแปดชั่วโมง

“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ ไม่ต้องนอนครบแปดชั่วโมงก็ได้” เธอประชดและได้เสียงหัวเราะในลำคอของชิษวัศตอบกลับมา

“พรุ่งนี้หลังจากลุงชิดผ่าตัดเรียบร้อย ผมจะกลับกรุงเทพฯเลยนะ” ชิษวัศบอกโปรแกรมการเดินทางกลับที่เพิ่งเปลี่ยนหลังจากได้รับข้อความจากทวิดาร์

“มีงานด่วนหรือคะ” มุกตาภารวบรวมความกล้าถามออกไป ดูจากท่าทีของชิษวัศก็พอดูออกว่าเขามีท่าทีคล้ายกำลังมีเรื่องให้หนักใจ

“เปล่า...ธุระส่วนตัวนิดหน่อย”

เธอพยักหน้ารับรู้กับการตัดสินใจของชิษวัศ เรื่องที่ตั้งใจจะพูดกับเขาไม่มีความสำคัญอีกต่อไป มุกตาภาลงมาเพียงเพื่อจะถามว่าพรุ่งนี้เขาอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม เพราะเมื่อวานเธอเห็นว่าฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าที่เขาพาไปซื้อเสื้อผ้าเป็นตลาดสด ถ้าเขาอยากจะกินอะไรเป็นพิเศษเธอจะได้เลือกซื้อวัตถุดิบถูก แต่เมื่อเขาตัดสินใจที่จะกลับ ความห่วงใยของเธอคงต้องเก็บมันไว้ที่เดิม ถึงจะรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อยู่ในสถานที่แห่งความทรงจำได้นานกว่านี้เพราะเขาติดธุระสำคัญจริงๆ มันเป็นเหตุสุดวิสัย และเรื่องกับข้าวฝีมือเธอมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ใครจะต้องเอามาใส่ใจ

ชิษวัศมองหน้าคนที่จู่ๆก็ก้มหน้าก้มตามองแต่พื้นกระดานอย่างสงสัย ทั้งที่เมื่อครู่เธอยังแลดูสดใสอยู่ไม่น้อย แต่ทำไมพอเขาบอกว่าจะกลับกรุงเทพฯวันพรุ่งนี้เธอถึงทำหน้าราวกับว่าเสียใจที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อด้วยเล่า ทำแบบนี้รู้บ้างไหมว่ามันทำให้เขาคิดไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้ว ทำให้คิดว่าเธออยากอยู่ด้วยกันกับเขา...ที่นี่

“ฉัน...ชอบต้นนนทรี” เสียงหวานใสดังขึ้นเรียกสติของคนที่คิดไปไกลให้กลับมาจดจ่ออยู่กับสิ่งตรงหน้า ชิษวัศมองตามดวงตาคู่สวยที่หยุดนิ่งอยู่ที่ต้นนนทรีต้นใหญ่ริมศาลาท่าน้ำ

“ผมก็ชอบนะ จำได้ลางๆว่าตอนเด็กเคยมาเล่นใต้ต้นนนทรีบ่อยๆเวลาปิดเทอม” คำพูดของชิษวัศทำให้มุกตาภาหันมามองร่างสูงตาโต หัวใจพองโตคับอกเมื่อรู้ว่าเขาจำได้ แม้จะลางเลือนแต่ก็ยังพอที่จะจำได้ เพียงเท่านี้หัวใจที่แห้งผากของเธอก็ชุ่มชื่นราวกับมีน้ำทิพย์อาบชโลม แม้จะเป็นเพียงหยาดน้ำทิพย์อันน้อยนิดก็ตาม

“เล่นคนเดียวหรือคะ” เมื่อชิษวัศเริ่มพูดเรื่องราวครั้งอดีต มุกตาภาจึงถือโอกาสนั้นเลียบๆเคียงๆถามเพื่อหวังว่าจะช่วยรื้อฟื้นความทรงจำของเขาขึ้นมาได้บ้าง

ชิษวัศนิ่งไปนิดราวกับว่ากำลังรื้อความทรงจำที่ถูกลืมไว้ที่ไหนสักแห่ง ผิดกับอีกคนที่ตั้งหน้าตั้งตารอฟังคำตอบด้วยแววตาแห่งความหวัง

“เปล่าหรอกครับ เหมือนจะมีเด็กผู้หญิงอีกคนมาเล่นด้วยเป็นประจำทุกๆปิดเทอม ตัวเล็กป้อม ตาโตๆ ผมจำได้เท่านี้ นึกยังไงก็นึกไม่ออก ขนาดชื่อเด็กคนนั้นผมยังจำไม่ได้เลย แย่มากใช่ไหม” ท้ายประโยคชิษวัศถามกลับด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยโดยไม่รู้เลยว่าคำตอบของตนเองได้ทำให้ความหวังของใครคนหนึ่งพังทลายไปต่อหน้าต่อตา...ย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี

มุกตาภากระพริบตาถี่ขึ้นเมื่อน้ำใสอุ่นกำลังจะไหลออกมาจากดวงตา พยายามอย่างสุดกำลังไม่ให้ชิษวัศเห็นว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างไร ดวงหน้าหวานเงยหน้าขึ้นสบนัยน์ตาคมอีกครั้ง รอยยิ้มกว้างที่แกล้งฝืนทำออกไปคือสิ่งที่เธอกำลังแสดงให้ชิษวัศได้ดู

“ไม่หรอกค่ะ ก็คุณจำไม่ได้นี่นา บางที...เด็กคนนั้นก็อาจจะลืมคุณไปแล้วก็ได้นะคะ” แม้จะพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มแต่ภายในหัวใจกลับกำลังเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง แบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกกันว่า ‘หน้าชื่นอกตรม’ ต้องแกล้งทำหน้ายิ้มทั้งที่หัวใจกำลังจะจมไปด้วยหยาดน้ำตา คำพูดที่ต้องโกหกออกไปว่าเด็กคนนั้นได้ลืมเรื่องราวในอดีตไปจนหมดสิ้นซึ่งความจริงเด็กน้อยคนนั้นไม่ได้ลืมพี่อาร์มของเธอเลย ยังคงจดจำได้ดีในทุกวินาทีที่ยังมีลมหายใจ

“นั่นสินะ” ชิษวัศพูดออกมาอย่างโล่งอก “เรื่องสมัยเด็กคงไม่มีใครมานั่งจำกันหรอก” คำพูดของมุกตาภาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเบาใจขึ้นไม่น้อย คล้ายกับว่าความรู้สึกผิดเมื่อครู่ได้ปลิวหายไปกับสายลมที่พัดโชยมาซึ่งต่างจากอีกคนที่ยื่นอยู่บนศาลาริมน้ำหลังเดียวกันราวฟ้ากับดิน มุกตาภารู้สึกว่ากำลังมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับอยู่บนหัวใจของเธอ ทั้งเจ็บทั้งหนัก จะยกออกไปก็ยกไม่พ้นคอยแต่จะหลุดมือร่วงใส่ซ้ำที่เดิม จนเกิดเป็นแผลที่ร้าวลึกและเจ็บปวดสุดขั้วหัวใจ

หญิงสาวขอตัวขึ้นนอนด้วยน้ำเสียงที่เจ้าตัวบังคับอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้มันสั่น ทันทีที่หันหลังให้ชิษวัศ น้ำตาที่กลั้นมานานก็ไหลออกมาเป็นสายโดยร่างไม่สั่นเทาและไร้เสียงสะอื้น แต่ละย่างก้าวที่ค่อยๆเดินห่างจากชิษวัศเป็นไปอย่างเงียบเชียบ หางตาที่ชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาปรายตามองต้นนนทรีต้นใหญ่นิดหนึ่ง ช่อแขนงใบย่อยที่อยู่ในช่อหลักพลิ้วล้อเล่นไปกับสายลมอ่อนราวกับต้องการปลอบประโลมเธอที่บอบช้ำจากเจ้าของของมัน

...นนทรีจ๋า...ขอแค่คืนนี้ให้มุกได้ร้องไห้อย่างที่อยากจะร้องเถอะนะ แล้วพรุ่งนี้...มุกตาภาคนที่เข้มแข็งและมุ่งมั่นที่จะทำให้พี่อาร์มจำเรื่องราวในอดีตให้ได้คนเดิมจะกลับคืนมา แต่คืนนี้...ขอมุกร้องไห้สักคืน...


-------------------------------------------------------------------------------------------------

และแล้ว...พี่อาร์มก็ทำหนูมุกเสียใจอีกจนได้ T T คนอ่านที่น่ารักอย่าเพิ่งเบื่อพี่อาร์มกันนะค้า...พี่อาร์มกำลังจะรู้ความจริงแล้วค่ะ และเหตุการณ์หลังจากนัันก็จะเริ่มเปลี่ยนไป ปอแก้วจะเข็นพี่อาร์มแบบเต็มที่แล้วค่ะ!! อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนนะค้า...

ตอนหน้ามาดูกันว่าพอพี่อาร์มรู้ความจริงแล้วจะมีปฏิกิริยาอย่างไรค่ะ


ตอบเมนท์จ้า...

anOO : นั่นสิคะ เด็กว่าแค่ 6 ปีเอง แต่ทำไมพี่อาร์มถึงไม่กล้า มันมีสาเหตุค่ะ ซึ่งจะเริ่มแง้มๆออกมาแล้ว

Amata : สมควรจะทิ้งมากเลยค่ะ! พี่อาร์มจะได้รู้สักที่ว่าวันที่ไม่มีหนูมุกเป็นยังไง!!

violette : อย่าเพิ่งเบื่อพี่อาร์มนะค้า...เดี๋ยวเค้าก็จะน่ารักแล้วค่ะ อิอิ ส่วนพี่อาร์ทกับหมูหวานคู่นี้เจอกันลับฝีปากกันตลอดๆค่ะ ฮ่าๆ

ปรางขวัญ : จำไม่ได้น่ะสิคะ แต่ตอนหน้าความจริงจะเปิดเผยแล้วค่ะ ว่าพี่อาร์มเคยเจอและเคยรู้จักหนูมุกมาก่อนจริงๆ :)

roseolar : ไม่ต้องเสียใจไปค่ะ ปอแก้วรับปากว่าจะมีตอนของคู่รองเต็มๆแน่ค่ะ ตอนนี้ก็ช่วยลุ้นพี่อาร์มกับหนูมุกไปก่อนนะคะ ตอนนี้อาจจะขัดใจไปหน่อย แต่พอหลังจากตอนหน้ารับรองว่าน่ารักค่ะ :P




ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ธ.ค. 2554, 13:36:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ธ.ค. 2554, 20:18:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 1733





<< เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 5   เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 7 >>
anOO 28 ธ.ค. 2554, 14:06:43 น.
พรุ่งนี้ผ่านมุกไปบ้านด้วยสิ พี่อาร์มจะได้ตาสว่างสักที
คราวนี้จะได้ตัดสินใจได้ว่าควรจะรุกหรือเปล่า


Amata 28 ธ.ค. 2554, 14:38:25 น.
แหม...ไม่เคยมีอารมณ์แบบน้องมุกสักที เคยแต่แบบว่า เธอไม่สนฉัน ฉันก็ไม่ง้อเหมือนกัน ชิ! ก็เลยได้แต่เอาใจช่วยนะจ๊ะ


violette 29 ธ.ค. 2554, 00:02:05 น.
พี่อ๊ามมมมมมมมมมมมม ชริ


roseolar 29 ธ.ค. 2554, 07:13:19 น.
พี่อาร์มจำชื่อเด็กคนนั้นไม่ได้หรือเนี่ย แต่ก็ยังดีที่จำได้บ้างเล็กน้อย
หนูมุกจะเิดินหน้าทำให้พี่อาร์มจำได้แบบเต็มตัวแล้ว เอาใจช่วยเต็มที่ แต่มีทวิดาร์โผล่มานี่สิ ตัวปัญหาเลย อร๊ายยย~อยากอ่านตอนหน้าแล้ว อยากเห็นพี่อาร์มรู้ความจริง อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account