จังหวะรักโดนใจเธอ(Rhythm Of My Heart)
You’re in my thought.
เธออยู่ในความคิดถึงและทุกที่ที่มีฉัน
You’re in my days and in my heart always.
เธออยู่ในทุกๆ วัน และอยู่ในใจของฉันเสมอ
I LOVE YOU BABY. Love and care’s binding our heart to be one.
ฉันรักเธอ ด้วยความรัก และผูกพัน เราจึงรู้สึกเหมือนมีหัวใจดวงเดียวกัน
ALWAYS KEEP THE FAITH!!! จงเชื่อมั่นในศรัทธาอยู่เสมอ
เธออยู่ในความคิดถึงและทุกที่ที่มีฉัน
You’re in my days and in my heart always.
เธออยู่ในทุกๆ วัน และอยู่ในใจของฉันเสมอ
I LOVE YOU BABY. Love and care’s binding our heart to be one.
ฉันรักเธอ ด้วยความรัก และผูกพัน เราจึงรู้สึกเหมือนมีหัวใจดวงเดียวกัน
ALWAYS KEEP THE FAITH!!! จงเชื่อมั่นในศรัทธาอยู่เสมอ
Tags: TVXQ,TOHOSHINKI,JYJ,YUNHO,DBSK
ตอน: ตอนที่ 4
“เอาล่ะค่ะ ไปเดินชุดฟินาเล่สุดท้ายของงานกันแล้ว น้องยูมาตรงนี้คนแรกเลยค่ะ คู่กับน้องนานานะค่ะ” ผู้จัดงานพานักร้องหนุ่มณัฐกฤตขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวเดินคู่กับนางแบบสาวสรัญรัชย์ หญิงสาวที่หันไปมองชายหนุ่มข้างๆ เมื่อได้มายืนอยู่ใกล้ชิดกับเธอแบบนี้ก็ไม่นึกเลยว่าภายใต้แว่นตาดำที่เจอกันวันนั้นยามที่ได้ใกล้กันขนาดนี้ก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆบอกไม่ถูก และไม่แปลกใจที่พวกเขาเป็นนักร้องที่แฟนคลับคลั่งไคล้ด้วยความหล่อเหลาดั่งเทพบุตรแบบนี้กันทุกคน
“คุณคงไม่ยืนจ้องผมออกไปจนอยู่หน้าเวทีหรอกนะครับ หน้าผมมีอะไรติดอยู่เหรอครับ” ณัฐกฤตถามหญิงสาวคู่เดินของเขาที่ยืนจ้องมองหน้าเขาอย่างสงสัยว่าเธอคงจะเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยากอยู่ใกล้ชิดกับเขาเหมือนเพื่อนเหล่านางแบบเธอล่ะซิ แต่ว่าหน้าสวยๆ แบบนี้เขาเองก็ไม่อยากจะปฏิเสธหรอก ยิ่งได้จ้องมองเธอใกล้ๆ ก็รู้สึกเหมือนเคยเห็นหน้าเธอคุ้นๆตา ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่สักพักจนเขาต้องทำหน้าคลายยิ้มออกมา ยามที่เห็นหน้าภายใต้แว่นตาสีชาก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังสักนิด
“อ้าว! คุณเองเหรองผมหยิบโทรศัพท์ติดมือมาด้วย ไม่นึกเลยว่าโลกมันจะกลมแบบนี้ เจอกันอีกแล้วนะ”
“อ่อ! นายที่เจอกันที่สนามบิน แล้วโทรศัพท์ของฉันล่ะ ฉันหวังว่าคุณจะคืนให้ฉันได้” สรัญรัชย์นึกถึงหน้านักร้องหนุ่มเธอจำก็จำได้แล้วว่าเขานั้นเองที่หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอไปด้วย
“ถ้าเดินแบบเสร็จแล้วผมจะคืนให้ล่ะกัน” ณัฐกฤตกระซิบพูดข้างหูหญิงสาว ใบหน้าแทบจะชิดกับแก้มสาวจนได้ยินเสียงสูดลมหายใจเบาหวิว จนเธอต้องมองค้อนเขา
พอพูดจบณัฐกฤตไม่รอช้ารีบคว้าข้อมือบางของนางแบบสวยควงคู่ออกไปหน้าเวทีสัมผัสมือหนาที่จับเรียวมือบางไว้แน่นทำให้สรัญรัชย์เองรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับใจเต้นระรัว สำหรับนักร้องหนุ่มแล้วเธอเองก็คือคนที่ทำให้นักร้องหนุ่มรู้สึกหลงรักตั้งแต่เห็นหน้าเธอครั้งแรกถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ในรูปที่เขาเฝ้าดูอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธออย่างตั้งใจ แล้วตอนนี้เขายังได้มาเจอตัวจริงของเธออีกครั้งหัวใจพองโตของผู้ชายตัวใหญ่ก็รู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูกขึ้นมารู้สึกอิ่มอกอิ่มใจและมันยิ่งกลับทำให้ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกดีขึ้นคงต้องเรียกว่าพรมลิขิตทำให้เรามาพบกันอีก เขาได้แต่คิดไปตลอดทางเดินบนเวที
งานเดินแบบผ่านไปด้วยดีเหล่านางแบบพากันเดินออกมายืนโค้งคำนับและตามด้วยนักร้องหนุ่มทั้ง 4 คน ที่ยืนโพสท์ท่าถ่ายรูปร่วมกับหลานชายผู้บริหารและเจ้าของห้องเสื้อแบรนด์ดัง จนกระทั่งงานแถลงข่าวเปิดตัวได้ปิดลง เหล่าทีมงานก็พากันเข้ามาหลังเวที ภายในห้องแต่งตัวของเหล่านักร้องหนุ่มหล่อทั้ง 4 คนก็กำลังโดนสื่อมวลชนสัมภาษณ์พร้อมทั้งเหล่านางแบบคนอื่นที่รุมขอถ่ายรูปกันเป็นการใหญ่จนหญิงสาวยังไม่สามารถเข้าไปหาณัฐกฤตได้ ร่างบางเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองสบายตัวเดรสตัวสั้นสีขาวเปิดคอกว้างสดใสอยู่ก็ได้แต่ยืนรอจังหวะที่จะเข้าไปคุยกับณัฐกฤต ระหว่างยืนรออยู่ในห้องมือหนาของใครบางคนเข้ามา ดึงร่างของสรัญรัชย์เข้าไปกอดเอาไว้แน่น
“นานา” เสียงของคนที่เดินอย่างรีบร้อนเข้ามาเฉลิมชัยดึงตัวเธอไปกอดอย่างสนิทสนม
“อุ๊ย!! ปล่อยนะ หายใจไม่ออก อ้าว! พี่คิงมางานนี้ด้วยเหรอ” หญิงสาวอุทานเมื่อเงยหน้าขึ้น
“พี่ต่างหากที่ต้องถามเธอกลับมาเมื่อไหร่ เท่าที่รู้มาต้องอีก 4 เดือนไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มจ้องหน้าหญิงสาวอย่างสงสัย เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือญาติผู้น้องของเขาถึงแม้จะไม่สนิทกันเท่าไหร่นัก และตอนนี้ควรจะรอรับปริญญาก่อนถึงจะกลับมาและคนในบ้านของเธอเองก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเธอกลับมาแล้วเท่าที่จำได้เธอไปเรียนอยู่อิตาลี กับญาติของเขาเกตุกาญจน์ตั้งแต่ตอนอายุ 10 ขวบ นานๆ ถึงจะกลับมาหาซะที
“ก็คิดถึงทุกคนอยากกลับมาเร็วๆ รีบกลับมาพี่ไม่ดีใจเหรอที่ได้เจอนานา” หญิงสาวแอบยิ้มขณะประคองกอดพี่ชายญาติผู้พี่แน่น แต่ในท่าทางของเธอที่สนิทสนมอยู่กับชายหนุ่มนั้นกลับทำให้อีกคนที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลนักแถม ยังไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นักเพราะภาพบาดตาของนางแบบสาวทำให้นักร้องหนุ่มณัฐกฤตที่กำลังจะเดินเข้ามา หาเธออีกครั้งหลังจากที่เจอกันแค่แป็บเดียวตอนเดินแบบต้องหยุดชะงัก
“เป็นไงบ้างจ๊ะหนูนานา ดูซิบอกแล้วถ้ามาเดินแบบให้อาต้องสวยจนจำไม่ได้แน่” ซินดี้เดินเข้ามาคุยกับหญิงสาว
“ใช่สวยจนพี่จำไม่ได้ถึงว่า ทำไมคุ้นหน้าจังเลย พี่ซินดี้ก็ไม่ยอมบอกผมซะทีปล่อยให้นึกตั้งนาน”
“พี่คิงอย่าเพิ่งบอกพ่อนะว่านานากลับมาแล้ว นาอยากจะไปงานพรุ่งนี้เอง”
“จะดีเหรอ ไหนคุณลุงบอกว่าเธอไม่ยอมกลับมาร่วมงานแล้ว”
“นานาอยากจะเซอร์ไพรส์คุณพ่อด้วยพี่คิงคอยดูพรุ่งนี้ล่ะกัน เดี๋ยวนานาขอตัวก่อนนะค่ะอาซินดี้ พี่คิงเดี๋ยวค่อยคุยกัน” สรัญรัชย์ขอตัวและเดินตามหานักร้องหนุ่ม แต่ก็ไม่พบตัวของชายหนุ่ม เมื่อได้สอบถามกับทางทีมงานก็รู้ว่าพวกเข้าออกไปได้สักพักแล้ว โดยพวกเขาได้พักผ่อนอยู่แถวโรงแรมด้านข้างของห้างอีกทางหนึ่ง หญิงสาวตัดสินใจแล้วก็ตามออกไปที่ ล็อบบี้ของโรงแรมแต่ก็ใช่ว่าจะได้เข้าไปหานักร้องหนุ่มได้ง่ายๆ บรรดาบอดี้การ์ดจับตาคอยเฝ้าอยู่หน้าห้องพักไม่ให้ใครเข้าไป ถ้าไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถเข้าไปได้เช่นกัน แต่ด้วยโชคดีที่เธอบอกอาซินดี้เอาไว้ และขอบัตรพนักงานที่จะสามารถติดต่อเข้าออกสะดวกขึ้นและสามารถเข้าหานักร้องหนุ่มได้ง่ายด้วยสิทธิพิเศษของเฉลิมชัยพี่ชายของเธอ หญิงสาวจึงได้มีโอกาสที่จะเข้าไปในโรงแรมที่มีนักร้องหนุ่มวงปริ๊นซ์พักอยู่
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหัองพักของนักร้องหนุ่มวงปริ๊นซ์
“ขอโทษค่ะ คือฉันมาหาคน” สรัญรัชย์บอกสายตาก็จ้องเข้าไปด้านในของห้อง
“คุณมาหาใครครับ” ชินวุฒิที่กำลังนั่งเล่นเกมส์ลุกมาเปิดประตูให้ ก่อนจะเห็นนางแบบสาวที่ไม่คุ้นหน้าเธอเท่าไหร่มายืนอยู่ตรงหน้าและชะเง้อมองหาใครสักคนชินวุฒิลุกขึ้นเดินเข้าไปหาหญิงสาว ส่วนคนที่นั่งอยู่ข้างชินวุฒิก็รู้สึกแบบเดียวกัน
“เอ๊ะ! นี่คุณนางแบบสวยๆ เมื่อกี้นี้ครับ มานั่งก่อนไหมครับ” ปกรณ์ที่กำลังนอนเล่นอยู่บนโซฟาก็สะดุ้งตัวโหยงขึ้นเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่กำลังยืนกอดอกทำตัวราวกับผู้ต้องสงสัย มองซ้ายมองขวาอยู่ เขาหรือจะทนได้คนที่มีมิตรภาพงดงามสำหรับหญิงสาวโดยเฉพาะก็ต้องเขาไปช่วยเหลือ
“คือ ฉันมาหาคนที่เดินแบบคู่กับฉันเมื่อกี้นะค่ะ ไม่เห็นในห้องนี้เลย ไม่ทราบว่าคุณเห็นบางมั้ย”
“พี่ยู เหรอครับ เขาไม่ได้อยู่ห้องนี้ลองขึ้นไปอีกชั้นบนสิครับ ” แม็กซ์ยิ้มกริ่มเดินตามปกรณ์เข้ามาบอกเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์เมื่อเจอผู้หญิงสวยๆ น่ารักแบบนี้สองหนุ่มก็รีบแย่งซีนกันใหญ่
“ถ้าคุณไปไม่ถูกให้ผมไปส่งดีกว่าครับ” ปกรณ์รีบเสนอตัว
“ไม่ดีกว่าค่ะ บอกห้องมาเดี๋ยวฉันจะไปเองค่ะ มีธุระนิดหน่อยไม่รบกวนคุณสองคนหรอก”
“ห้อง 816 ฮะ ว่าแต่ให้ผมไปด้วยดีกว่านะ ผมยินดีรับใช้คนสวยแบบคุณเสมอ” ปกรณ์ยังไม่ทันได้พูดจบแต่นางแบบสาวก็รีบก้าวเท้าออกจากห้องของพวกเขาไปไม่รอให้ชายหนุ่มทั้งสองได้ถามชื่อของเธอเลย
“พี่มิกกี้ไปบอกเธอได้งัย แล้วแบบนี้ไม่ไปขัดจังหวะพี่ยูเขาเหรอ เขามีนัดกับยัยชมพู่นางแบบขาวีนคนนั้นนะ ตั้งแต่ตอนเดินแบบแล้วยัยชมพู่นะตามพี่ยูไม่เลิกจนเขาต้องขอเวลาไปเคลียร์กันสองคน ถ้าพี่ยูโกรธขึ้นมาพี่รับผิดชอบนะผมไม่เกี่ยว” ชินวุฒิก้มหน้าเล่นเกมส์ต่อก่อนจะบอกปกรณ์อย่างคาดโทษ เพราะเขาบอกห้องส่วนตัวของหัวหน้าวงแก่หญิงสาวแปลกหน้า
“อ้าว! บรรเลง ฉันจะไปรู้ได้งัยนายไม่บอกตั้งแต่แรก ฉันก็ลืมไปว่ะ แล้วทำไมแกไม่บอกตั้งแต่เมื่อกี้ล่ะไอ้แม็กซ์” ปกรณ์ตำหนิน้องเล็กที่เพิ่งมานึกได้เอาตอนที่เขาพลั้งปากบอกไปแล้ว ช่างเถอะไม่เป็นไรหรอก ปกรณ์นึกในใจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นหลายครั้ง คนที่ขึ้นไปตามหานักร้องหนุ่มณัฐกฤตชั้นบนตามที่เพื่อนร่วมวงตามมา แต่เสียงเรียกหลายครั้งก็ไม่เห็นมีใครจะมาเปิดประตูให้กับเธอเลย
‘ไม่คิดเลยว่านายจะทำให้ฉันเสียเวลามากขนาดนี้เลยนะ เฮ้อ! ไม่เอาแล้วก็ได้ไอ้โทรศัพท์ฉันซื้อใหม่ก็ได้’ นางแบบสาวพลาดคิดโมโหนิดๆ กับการที่ต้องมาทำอะไรและต้องรอคอยอะไรแบบนี้มันไม่ใช่ตัวเธอเลย ไม่เคยมีใครทำให้เธอต้องรอซะหน่อย สรัญรัชย์ยืนอยู่ที่หน้าห้องพักของนักร้องหนุ่ม เธอกำลังลังเลใจอยู่ว่าจะเรียกดีหรือไม่ จริงๆ แล้วโทรศัพท์ก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากนักแต่ว่าเสียดายข้อมูลข้างในและอีกอย่างมันเป็นของเธอและเขาเองก็บอกอยู่แล้วว่าจะคืนให้กับเธอ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นหลายครั้ง
“มีใครอยู่หรือเปล่าเปิดประตูให้ฉันหน่อยค่ะ” สรัญรัชย์พยายามร้องเรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล หญิงสาวจึงแนบใบหน้านวลลงเข้าไปชิดอยู่ที่ประตูห้องของโรงแรมและยังคงเคาะเรียกอยู่ แต่ก็ยังไม่มีใครออกมาเปิดประตูห้องให้กับเธอจนกระทั่งมีเสียงใครบางคนดังขึ้นมาจากด้านหลังทำให้หญิงสาวสะดุ้ง
“อ๊ะ!! นี่เธอมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ เป็นนักข่าวหรือเปล่าเนี่ย หญิงสาวสูงโปร่งหุ่นนางแบบที่ยืนควงแขนมาพร้อมกับชายหนุ่มนักร้องดังณัฐกฤต กำลังยืนเกาะเกี่ยวแขนกันสวีทหวานกันมาตั้งแต่โผล่ออกมาจากประตูลิฟต์ของโรงแรม จนกระทั่งเดินเข้ามาสะดุดบุคคลน่าสงสัยหน้าห้องพักของนักร้องหนุ่ม ทั้งสองจึงหยุดมอง และเห็นหญิงสาวที่คุ้นหน้า
“คุณ” ณัฐกฤตบอกเสียงตกใจเล็กน้อย ก่อนจะมองหน้าหญิงสาวที่ทำให้เขาครุ่นเคืองอารมณ์อยู่ไม่น้อย หลังจากเห็นเธอกับหลานชายเจ้าของบริษัทที่สนิทสนมกอดกันกลมเพราะเข้าใจผิดคิดไปเองว่าเธอก็คงเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เฉลิมชัยชอบควงเล่นๆ เหมือนกับนางแบบคนอื่นเช่นกัน
“รู้จักกันด้วยเหรอค่ะยู นึกว่าใครที่แท้ก็ยัยเด็กเส้นของงานวันนี้จริงๆ แล้ววันนี้ชมพู่ควรจะได้คู่กับยูแท้ๆ เลย” เสียงแหลมของนางแบบสาวที่ควงคู่มากับนักร้องณัฐกฤตพูดแทรกขึ้นและจ้องมองคนตรงหน้าไม่พอใจและรู้สึกอิจฉาสรัญรัชย์นิดๆ ที่ได้เดินแบบเป็นคนเด่นของงานวันนี้
“ฉันมาขอของๆ ฉันคืน” สรัญรัชย์พูดจบเธอก็เงยหน้ามองชายหนุ่มนักร้อง พลางนึกในใจเมื่อได้มาเจอชายหนุ่มใกล้ๆ อีกครั้งก็รู้สึกหวั่นไหวไปกับความหล่อเข้ม และใบหน้ายิ้มมุมปากของเขา ก่อนที่จะยกมือบางแบสูงขึ้นตรงหน้าชายหนุ่มเพื่อขอคืนของๆ เธอ และชายตามองหญิงสาวเพื่อนนางแบบที่จำได้ว่าเคยเจอกันเมื่อบ่ายนี้ข้างกายตั้งแต่หัวจรดเท้าเพราะชุดของแม่นางแบบสาวที่สั้นได้ใจโชว์เห็นขาอ่อนและช่วงบนก็แทบจะล้นทะลักออกมาจากชุดเดรสรัดรูปสีดำของหล่อนแสยะยิ้มพลางนึกสมเพชนางแบบรุ่นพี่ที่กำลังเกาะติดแน่นอยู่กับนักร้องหนุ่มทำยังกับว่าเขาจะหลุดหายจากเธอไป
“คุณคงไม่ยืนจ้องผมออกไปจนอยู่หน้าเวทีหรอกนะครับ หน้าผมมีอะไรติดอยู่เหรอครับ” ณัฐกฤตถามหญิงสาวคู่เดินของเขาที่ยืนจ้องมองหน้าเขาอย่างสงสัยว่าเธอคงจะเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยากอยู่ใกล้ชิดกับเขาเหมือนเพื่อนเหล่านางแบบเธอล่ะซิ แต่ว่าหน้าสวยๆ แบบนี้เขาเองก็ไม่อยากจะปฏิเสธหรอก ยิ่งได้จ้องมองเธอใกล้ๆ ก็รู้สึกเหมือนเคยเห็นหน้าเธอคุ้นๆตา ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่สักพักจนเขาต้องทำหน้าคลายยิ้มออกมา ยามที่เห็นหน้าภายใต้แว่นตาสีชาก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังสักนิด
“อ้าว! คุณเองเหรองผมหยิบโทรศัพท์ติดมือมาด้วย ไม่นึกเลยว่าโลกมันจะกลมแบบนี้ เจอกันอีกแล้วนะ”
“อ่อ! นายที่เจอกันที่สนามบิน แล้วโทรศัพท์ของฉันล่ะ ฉันหวังว่าคุณจะคืนให้ฉันได้” สรัญรัชย์นึกถึงหน้านักร้องหนุ่มเธอจำก็จำได้แล้วว่าเขานั้นเองที่หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอไปด้วย
“ถ้าเดินแบบเสร็จแล้วผมจะคืนให้ล่ะกัน” ณัฐกฤตกระซิบพูดข้างหูหญิงสาว ใบหน้าแทบจะชิดกับแก้มสาวจนได้ยินเสียงสูดลมหายใจเบาหวิว จนเธอต้องมองค้อนเขา
พอพูดจบณัฐกฤตไม่รอช้ารีบคว้าข้อมือบางของนางแบบสวยควงคู่ออกไปหน้าเวทีสัมผัสมือหนาที่จับเรียวมือบางไว้แน่นทำให้สรัญรัชย์เองรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับใจเต้นระรัว สำหรับนักร้องหนุ่มแล้วเธอเองก็คือคนที่ทำให้นักร้องหนุ่มรู้สึกหลงรักตั้งแต่เห็นหน้าเธอครั้งแรกถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ในรูปที่เขาเฝ้าดูอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธออย่างตั้งใจ แล้วตอนนี้เขายังได้มาเจอตัวจริงของเธออีกครั้งหัวใจพองโตของผู้ชายตัวใหญ่ก็รู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูกขึ้นมารู้สึกอิ่มอกอิ่มใจและมันยิ่งกลับทำให้ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกดีขึ้นคงต้องเรียกว่าพรมลิขิตทำให้เรามาพบกันอีก เขาได้แต่คิดไปตลอดทางเดินบนเวที
งานเดินแบบผ่านไปด้วยดีเหล่านางแบบพากันเดินออกมายืนโค้งคำนับและตามด้วยนักร้องหนุ่มทั้ง 4 คน ที่ยืนโพสท์ท่าถ่ายรูปร่วมกับหลานชายผู้บริหารและเจ้าของห้องเสื้อแบรนด์ดัง จนกระทั่งงานแถลงข่าวเปิดตัวได้ปิดลง เหล่าทีมงานก็พากันเข้ามาหลังเวที ภายในห้องแต่งตัวของเหล่านักร้องหนุ่มหล่อทั้ง 4 คนก็กำลังโดนสื่อมวลชนสัมภาษณ์พร้อมทั้งเหล่านางแบบคนอื่นที่รุมขอถ่ายรูปกันเป็นการใหญ่จนหญิงสาวยังไม่สามารถเข้าไปหาณัฐกฤตได้ ร่างบางเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองสบายตัวเดรสตัวสั้นสีขาวเปิดคอกว้างสดใสอยู่ก็ได้แต่ยืนรอจังหวะที่จะเข้าไปคุยกับณัฐกฤต ระหว่างยืนรออยู่ในห้องมือหนาของใครบางคนเข้ามา ดึงร่างของสรัญรัชย์เข้าไปกอดเอาไว้แน่น
“นานา” เสียงของคนที่เดินอย่างรีบร้อนเข้ามาเฉลิมชัยดึงตัวเธอไปกอดอย่างสนิทสนม
“อุ๊ย!! ปล่อยนะ หายใจไม่ออก อ้าว! พี่คิงมางานนี้ด้วยเหรอ” หญิงสาวอุทานเมื่อเงยหน้าขึ้น
“พี่ต่างหากที่ต้องถามเธอกลับมาเมื่อไหร่ เท่าที่รู้มาต้องอีก 4 เดือนไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มจ้องหน้าหญิงสาวอย่างสงสัย เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือญาติผู้น้องของเขาถึงแม้จะไม่สนิทกันเท่าไหร่นัก และตอนนี้ควรจะรอรับปริญญาก่อนถึงจะกลับมาและคนในบ้านของเธอเองก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเธอกลับมาแล้วเท่าที่จำได้เธอไปเรียนอยู่อิตาลี กับญาติของเขาเกตุกาญจน์ตั้งแต่ตอนอายุ 10 ขวบ นานๆ ถึงจะกลับมาหาซะที
“ก็คิดถึงทุกคนอยากกลับมาเร็วๆ รีบกลับมาพี่ไม่ดีใจเหรอที่ได้เจอนานา” หญิงสาวแอบยิ้มขณะประคองกอดพี่ชายญาติผู้พี่แน่น แต่ในท่าทางของเธอที่สนิทสนมอยู่กับชายหนุ่มนั้นกลับทำให้อีกคนที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลนักแถม ยังไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นักเพราะภาพบาดตาของนางแบบสาวทำให้นักร้องหนุ่มณัฐกฤตที่กำลังจะเดินเข้ามา หาเธออีกครั้งหลังจากที่เจอกันแค่แป็บเดียวตอนเดินแบบต้องหยุดชะงัก
“เป็นไงบ้างจ๊ะหนูนานา ดูซิบอกแล้วถ้ามาเดินแบบให้อาต้องสวยจนจำไม่ได้แน่” ซินดี้เดินเข้ามาคุยกับหญิงสาว
“ใช่สวยจนพี่จำไม่ได้ถึงว่า ทำไมคุ้นหน้าจังเลย พี่ซินดี้ก็ไม่ยอมบอกผมซะทีปล่อยให้นึกตั้งนาน”
“พี่คิงอย่าเพิ่งบอกพ่อนะว่านานากลับมาแล้ว นาอยากจะไปงานพรุ่งนี้เอง”
“จะดีเหรอ ไหนคุณลุงบอกว่าเธอไม่ยอมกลับมาร่วมงานแล้ว”
“นานาอยากจะเซอร์ไพรส์คุณพ่อด้วยพี่คิงคอยดูพรุ่งนี้ล่ะกัน เดี๋ยวนานาขอตัวก่อนนะค่ะอาซินดี้ พี่คิงเดี๋ยวค่อยคุยกัน” สรัญรัชย์ขอตัวและเดินตามหานักร้องหนุ่ม แต่ก็ไม่พบตัวของชายหนุ่ม เมื่อได้สอบถามกับทางทีมงานก็รู้ว่าพวกเข้าออกไปได้สักพักแล้ว โดยพวกเขาได้พักผ่อนอยู่แถวโรงแรมด้านข้างของห้างอีกทางหนึ่ง หญิงสาวตัดสินใจแล้วก็ตามออกไปที่ ล็อบบี้ของโรงแรมแต่ก็ใช่ว่าจะได้เข้าไปหานักร้องหนุ่มได้ง่ายๆ บรรดาบอดี้การ์ดจับตาคอยเฝ้าอยู่หน้าห้องพักไม่ให้ใครเข้าไป ถ้าไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถเข้าไปได้เช่นกัน แต่ด้วยโชคดีที่เธอบอกอาซินดี้เอาไว้ และขอบัตรพนักงานที่จะสามารถติดต่อเข้าออกสะดวกขึ้นและสามารถเข้าหานักร้องหนุ่มได้ง่ายด้วยสิทธิพิเศษของเฉลิมชัยพี่ชายของเธอ หญิงสาวจึงได้มีโอกาสที่จะเข้าไปในโรงแรมที่มีนักร้องหนุ่มวงปริ๊นซ์พักอยู่
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหัองพักของนักร้องหนุ่มวงปริ๊นซ์
“ขอโทษค่ะ คือฉันมาหาคน” สรัญรัชย์บอกสายตาก็จ้องเข้าไปด้านในของห้อง
“คุณมาหาใครครับ” ชินวุฒิที่กำลังนั่งเล่นเกมส์ลุกมาเปิดประตูให้ ก่อนจะเห็นนางแบบสาวที่ไม่คุ้นหน้าเธอเท่าไหร่มายืนอยู่ตรงหน้าและชะเง้อมองหาใครสักคนชินวุฒิลุกขึ้นเดินเข้าไปหาหญิงสาว ส่วนคนที่นั่งอยู่ข้างชินวุฒิก็รู้สึกแบบเดียวกัน
“เอ๊ะ! นี่คุณนางแบบสวยๆ เมื่อกี้นี้ครับ มานั่งก่อนไหมครับ” ปกรณ์ที่กำลังนอนเล่นอยู่บนโซฟาก็สะดุ้งตัวโหยงขึ้นเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่กำลังยืนกอดอกทำตัวราวกับผู้ต้องสงสัย มองซ้ายมองขวาอยู่ เขาหรือจะทนได้คนที่มีมิตรภาพงดงามสำหรับหญิงสาวโดยเฉพาะก็ต้องเขาไปช่วยเหลือ
“คือ ฉันมาหาคนที่เดินแบบคู่กับฉันเมื่อกี้นะค่ะ ไม่เห็นในห้องนี้เลย ไม่ทราบว่าคุณเห็นบางมั้ย”
“พี่ยู เหรอครับ เขาไม่ได้อยู่ห้องนี้ลองขึ้นไปอีกชั้นบนสิครับ ” แม็กซ์ยิ้มกริ่มเดินตามปกรณ์เข้ามาบอกเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์เมื่อเจอผู้หญิงสวยๆ น่ารักแบบนี้สองหนุ่มก็รีบแย่งซีนกันใหญ่
“ถ้าคุณไปไม่ถูกให้ผมไปส่งดีกว่าครับ” ปกรณ์รีบเสนอตัว
“ไม่ดีกว่าค่ะ บอกห้องมาเดี๋ยวฉันจะไปเองค่ะ มีธุระนิดหน่อยไม่รบกวนคุณสองคนหรอก”
“ห้อง 816 ฮะ ว่าแต่ให้ผมไปด้วยดีกว่านะ ผมยินดีรับใช้คนสวยแบบคุณเสมอ” ปกรณ์ยังไม่ทันได้พูดจบแต่นางแบบสาวก็รีบก้าวเท้าออกจากห้องของพวกเขาไปไม่รอให้ชายหนุ่มทั้งสองได้ถามชื่อของเธอเลย
“พี่มิกกี้ไปบอกเธอได้งัย แล้วแบบนี้ไม่ไปขัดจังหวะพี่ยูเขาเหรอ เขามีนัดกับยัยชมพู่นางแบบขาวีนคนนั้นนะ ตั้งแต่ตอนเดินแบบแล้วยัยชมพู่นะตามพี่ยูไม่เลิกจนเขาต้องขอเวลาไปเคลียร์กันสองคน ถ้าพี่ยูโกรธขึ้นมาพี่รับผิดชอบนะผมไม่เกี่ยว” ชินวุฒิก้มหน้าเล่นเกมส์ต่อก่อนจะบอกปกรณ์อย่างคาดโทษ เพราะเขาบอกห้องส่วนตัวของหัวหน้าวงแก่หญิงสาวแปลกหน้า
“อ้าว! บรรเลง ฉันจะไปรู้ได้งัยนายไม่บอกตั้งแต่แรก ฉันก็ลืมไปว่ะ แล้วทำไมแกไม่บอกตั้งแต่เมื่อกี้ล่ะไอ้แม็กซ์” ปกรณ์ตำหนิน้องเล็กที่เพิ่งมานึกได้เอาตอนที่เขาพลั้งปากบอกไปแล้ว ช่างเถอะไม่เป็นไรหรอก ปกรณ์นึกในใจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นหลายครั้ง คนที่ขึ้นไปตามหานักร้องหนุ่มณัฐกฤตชั้นบนตามที่เพื่อนร่วมวงตามมา แต่เสียงเรียกหลายครั้งก็ไม่เห็นมีใครจะมาเปิดประตูให้กับเธอเลย
‘ไม่คิดเลยว่านายจะทำให้ฉันเสียเวลามากขนาดนี้เลยนะ เฮ้อ! ไม่เอาแล้วก็ได้ไอ้โทรศัพท์ฉันซื้อใหม่ก็ได้’ นางแบบสาวพลาดคิดโมโหนิดๆ กับการที่ต้องมาทำอะไรและต้องรอคอยอะไรแบบนี้มันไม่ใช่ตัวเธอเลย ไม่เคยมีใครทำให้เธอต้องรอซะหน่อย สรัญรัชย์ยืนอยู่ที่หน้าห้องพักของนักร้องหนุ่ม เธอกำลังลังเลใจอยู่ว่าจะเรียกดีหรือไม่ จริงๆ แล้วโทรศัพท์ก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากนักแต่ว่าเสียดายข้อมูลข้างในและอีกอย่างมันเป็นของเธอและเขาเองก็บอกอยู่แล้วว่าจะคืนให้กับเธอ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นหลายครั้ง
“มีใครอยู่หรือเปล่าเปิดประตูให้ฉันหน่อยค่ะ” สรัญรัชย์พยายามร้องเรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล หญิงสาวจึงแนบใบหน้านวลลงเข้าไปชิดอยู่ที่ประตูห้องของโรงแรมและยังคงเคาะเรียกอยู่ แต่ก็ยังไม่มีใครออกมาเปิดประตูห้องให้กับเธอจนกระทั่งมีเสียงใครบางคนดังขึ้นมาจากด้านหลังทำให้หญิงสาวสะดุ้ง
“อ๊ะ!! นี่เธอมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ เป็นนักข่าวหรือเปล่าเนี่ย หญิงสาวสูงโปร่งหุ่นนางแบบที่ยืนควงแขนมาพร้อมกับชายหนุ่มนักร้องดังณัฐกฤต กำลังยืนเกาะเกี่ยวแขนกันสวีทหวานกันมาตั้งแต่โผล่ออกมาจากประตูลิฟต์ของโรงแรม จนกระทั่งเดินเข้ามาสะดุดบุคคลน่าสงสัยหน้าห้องพักของนักร้องหนุ่ม ทั้งสองจึงหยุดมอง และเห็นหญิงสาวที่คุ้นหน้า
“คุณ” ณัฐกฤตบอกเสียงตกใจเล็กน้อย ก่อนจะมองหน้าหญิงสาวที่ทำให้เขาครุ่นเคืองอารมณ์อยู่ไม่น้อย หลังจากเห็นเธอกับหลานชายเจ้าของบริษัทที่สนิทสนมกอดกันกลมเพราะเข้าใจผิดคิดไปเองว่าเธอก็คงเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เฉลิมชัยชอบควงเล่นๆ เหมือนกับนางแบบคนอื่นเช่นกัน
“รู้จักกันด้วยเหรอค่ะยู นึกว่าใครที่แท้ก็ยัยเด็กเส้นของงานวันนี้จริงๆ แล้ววันนี้ชมพู่ควรจะได้คู่กับยูแท้ๆ เลย” เสียงแหลมของนางแบบสาวที่ควงคู่มากับนักร้องณัฐกฤตพูดแทรกขึ้นและจ้องมองคนตรงหน้าไม่พอใจและรู้สึกอิจฉาสรัญรัชย์นิดๆ ที่ได้เดินแบบเป็นคนเด่นของงานวันนี้
“ฉันมาขอของๆ ฉันคืน” สรัญรัชย์พูดจบเธอก็เงยหน้ามองชายหนุ่มนักร้อง พลางนึกในใจเมื่อได้มาเจอชายหนุ่มใกล้ๆ อีกครั้งก็รู้สึกหวั่นไหวไปกับความหล่อเข้ม และใบหน้ายิ้มมุมปากของเขา ก่อนที่จะยกมือบางแบสูงขึ้นตรงหน้าชายหนุ่มเพื่อขอคืนของๆ เธอ และชายตามองหญิงสาวเพื่อนนางแบบที่จำได้ว่าเคยเจอกันเมื่อบ่ายนี้ข้างกายตั้งแต่หัวจรดเท้าเพราะชุดของแม่นางแบบสาวที่สั้นได้ใจโชว์เห็นขาอ่อนและช่วงบนก็แทบจะล้นทะลักออกมาจากชุดเดรสรัดรูปสีดำของหล่อนแสยะยิ้มพลางนึกสมเพชนางแบบรุ่นพี่ที่กำลังเกาะติดแน่นอยู่กับนักร้องหนุ่มทำยังกับว่าเขาจะหลุดหายจากเธอไป
วรัณรัตน์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ธ.ค. 2554, 22:24:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ธ.ค. 2554, 22:31:49 น.
จำนวนการเข้าชม : 1168
<< ตอนที่ 3 | ตอนที่ 5 >> |