อาทิตย์พรางดาว
เมื่อความเคียดแค้นชิงชังที่มีมาระหว่างพี่น้องต่างมารดา ทำให้เกิดเรื่องราวต่างที่นำมาซึ่งความสุข เศร้า และโศกนาฏกรรม! ดาวเหนือจะทำอย่างไรเมื่อตะวันฉายผู้เป็นเกลียดเธอจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลก และตฤณจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องคนรักไม่ให้โดนทำร้าย ต้องติดตามใน 'อาทิตย์พรางดาว'
Tags: ดราม่า

ตอน: ตอนที่ 15

ตอนที่ 15

“นี่ยายจันทร์ แกแต่งตัวอะไรของแกเนี่ย!”ตะวันฉายอุทานลั่นเมื่อเห็น ‘ชุด’ ที่น้องสาวสุดที่รักใส่ พรายจันทร์ก้มลงมองเสื้อผ้าของตน ก่อนจะถามอย่างงงๆ

“ก็ชุดปกติของจันทร์ไงคะ ไม่เห็นแปลก”

“แกจะกลายเป็นของแปลกแน่ บ้ารึเปล่า ฉันจะพาไปกินอาหารในโรงแรมหรูนะยะ ไม่ใช่ร้านข้างถนน ไปเปลี่ยนเสื้อเดียวนี้!”ตะวันฉายพูดพร้อมกับลากน้องสาวที่เดินตามไปอย่างไม่เต็มใจนัก หญิงสาวเปิดตู้เสื้อผ้าของน้องสาวก่อนจะหยิบๆจับๆแต่ละชุดขึ้นมาพิจารณาดู ก่อนจะตัดสินใจเลือกชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีชมพูอ่อน เนื้อผ้าพลิ้วสวย มีโบว์ขนาดกลางประดับอยู่กลางอก ดูน่ารักอ่อนหวานเหมาะสมกับพรายจันทร์เป็นที่สุดส่งให้เจ้าของเสื้อที่รับไปอย่างเซ็งๆ

ตะวันฉายยิ้มกริ่มเมื่อนึกถึงแผนการในวันนี้ ‘หากสำเร็จ ไม่สิ! มันต้องสำเร็จ นังดาวเหนือจะต้องทรมานเจียนตายซึ่งเป็นอะไรที่สะใจมาก’ ร่างเพรียวนึกถึงบทสรุปของมันอย่างมีความสุข ก่อนจะหันไปเร่งร่างบางที่ยังไม่ออกมาเสียที

“เร็วๆหน่อยยายจันทร์ เปลี่ยนชุดแค่นี้ทำไมมันช้านัก”

“เสร็จแล้วค่ะ “ร่างบางก้าวออกมาจากห้องน้ำ ตะวันฉายมองอย่างพอใจก่อนจะเข้าไปโอบไหล่น้องสาวเอาไว้พร้อมกับชม

“น่ารักมากสวยด้วย แม้จะน้อยกว่าพี่นิดนึงนะไปกันเถอะ”พรายจันทร์ยิ้มฝืดๆรับคำชม เพราะหัวใจเธอยังคงหนักอึ้งเมื่อคิดว่าจะต้องไปพบหน้ากับผู้ที่เป็นเจ้าของหัวใจของเธอมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

หนึ่งชั่วโมงถัดมาพวกเธอก็มาถึงยังโรงแรมที่นัดทานข้าวกับพัดยศเอาไว้ ที่ดาดฟ้าของโรงแรมแห่งมีภัตตาคารกึ่งบาร์ไว้ให้บริการทั้งแขกของโรงแรมและคนอื่นๆ เมื่อเธอและตะวันฉายบอกชื่อของคนที่นัดไว้แล้ว บริกรหนุ่มก็พาพวกเธอเดินไปยังโต๊ะริมดาดฟ้าตัวหนึ่งซึ่งมีชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาเข้มนั่งละเลียดไวน์แดงรออยู่

“ต๊าย!เพิ่งหัวค่ำแท้ๆ นายก็จะเมาแล้วเหรอพัดยศ”พัดยศชะงักมือที่กำลังจะยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม ก่อนจะวางลงแล้วลุกขึ้นยืนตามมารยาทเพื่อต้อนรับสุภาพสตรีทั้งสอง ร่างสูงมองร่างบางในชุดสีชมพูอ่อนก่อนจะส่งยิ้มไปให้

“วันนี้แต่งตัวน่ารักมากครับน้องจันทร์ ส่วนเธอฉันคงไม่ต้องชมหรอกนะ เพราะเธอชมตัวเองได้”เขาหันไปบอกร่างเพรียวที่มองตาเขียว พรายจันทร์ขอบคุณเบาๆก่อนจะก้มหน้าลงเลือกรายการอาหาร

“ใช่ย่ะ ว่าแต่นายยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ”

“ไม่ได้อยากเมา แค่อยากดื่มเฉยๆ”

“ตอบได้น่าโมโหมากนะ แต่เอาเถอะวันนี้ฉันอารมณ์ดีเกินกว่าจะมาโมโหนาย สั่งอะไรไปยัง”

“ยัง ว่าแต่พี่ขอโทษนะครับน้องจันทร์ที่วันนั้นพี่ไปรับสาย น้องจันทร์เลยต้องกลับแท๊กซี่”ชายหนุ่มตอบคำถามอีกฝ่ายอย่างไม่ใส่ใจ เขาหันไปพูดกับพรายจันทร์ที่ยังคงเลือกรายการอาหารอยู่เงียบๆ

“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว”หญิงสาวตอบเสียงเบา พร้อมส่งยิ้มอ่อนๆไปให้ พัดยศยิ้มรับก่อนจะหันไปสั่งอาหารบ้าง ตะวันฉายนั่งฟังอย่างเก็บข้อมูลพลางนึกถึงเรื่องวันนั้นที่คนสนิทเคยเล่าให้ฟัง ทั้งสามคนนั่งสนทนากันไปเรื่อย โดยส่วนมากคนที่ผูกขาดการสนทนาคือตะวันฉายส่วนอีกสองคนต่างก็จมอยู่อยู่กับความคิดของตนเสียส่วนใหญ่


“โอ๊ย!ถึง ซะที ไปไอ้ดาวไปเช็กอินแล้วก็ไปนอนกัน พรุ่งนี้จะได้ตื่นขึ้นมาทำงานอย่างสดชื่น”ตรีทิพย์กระโดดลงมายืนบิดขี้เกียจด้านล่าง แล้วบอกกับเพื่อนรักที่กำลังรับกระเป๋าสัมภาระจากตฤณ

“โห!ที่นอนมาตลอดทางนี่ยังไม่อิ่มอีกเหรอครับคุณผู้หญิง ครบสูตรจริงๆกินเสร็จแล้วนอน อนาคตไม่วายกลายเป็นหมูแน่ๆ”วีกิจบ่นเพราะเขาต้องถ่างตาช่วยตฤณดูทาง ส่วนสาวเจ้าเอาแต่กินกับนอน ยกเว้นดาวเหนือที่ไม่ชอบนอนบนรถเท่าใดนัก ตรีทิพย์สวนกลับอีกฝ่ายทันควัน

“เรื่องของฉัน จะอ้วนจะผอมมันไปหนักหัวนายรึไง”

“ไม่หนักหัวหรอก แต่หนักตัวเพราะอนาคตคุณจะต้องมาเป็นเมียผม ผมไม่อยากโดนช้างทัยเวลานอนหรอกนะ”ชายหนุ่มบอกหน้าตาย ตรีทิพย์หน้าแดงแปร๊ดไม่รู้โกรธหรือเขิน ส่วนดาวเหนือนั้นซ่อนยิ้มกับกระเป๋าใบใหญ่ที่ถือเอาไว้ ตฤณส่ายหัวกับทั้งคู่ก่อนจะเอ่ยปราม

“พอแล้วคุณวี ยังไงยายตาลก็น้องผม”วีกิจจ๋อย ส่วนตรีทิพย์ได้ทีก็เยาะเย้ยใส่อีกฝ่าย ก่อนจะจ๋อยไปด้วยเพราะพี่ชายดุเอา

“สมน้ำหน้า”

“เราเองก็เหมือนกัน คุณวีเขาเตือนด้วยความหวังดี ฟังๆไว้บ้างตาล”

“ค่ะ”แล้วคู่กรณีทั้งสองก็ได้เฉือดเฉือนกันทางสายตา ตฤณทำเป็นไม่เห็นท่าทางนั้นหันไปชวนอีกสาวที่ไม่ได้เข้าร่วมสงครามสายตาให้เข้าไปด้านในโรงแรม

“ไปเถอะครับ น้องดาว ปล่อยให้กัดกันทั้งคืนไปเลย ไม่ต้องห่วงพี่ฉีดยาพิษสุนัขบ้าให้แล้วทั้งคู่”

“ไม่ใช่หมานะ!”เสียงสองเสียงดังประสานกันจากอดีตคู่กรณีที่หันมาจับมือกันแบบเฉพาะกิจเมื่อโดนเล่นงาน ดาวเหนือหัวเราะลั่นก่อนจะเดินตามคุณหมอ(หมา)หนุ่มเข้าไปในโรงแรม ปิดท้ายด้วยสองหนุ่มสาวที่แย่งกันเข้าประตู

“เอาล่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”ตฤณบอกกับทุกคนก่อนที่เขาและวีกิจจะเดินเข้าของตนซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องของสองสาว ตาลแลบลิ้นใส่พี่ชายก่อนจะหันไปตีหน้าหงิกใส่อีกหนุ่มแล้วสะบัดหน้าเข้าห้องไป ดาวเหนือส่งยิ้มให้ทั้งคู่ก่อนจะเดินเข้าห้องไป ตฤณถอนหายใจหนักๆอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าห้องไป

วีกิจมองเพื่อนรุ่นพี่ด้วยความสงสารเพราะแม้ว่าจะรักมากแค่ไหนก็ไม่สามารถบอกให้รับรู้ได้ เพราะตฤณเป็นคนดีเกินไป หากเป็นเขาล่ะก็เมื่อรักแล้วก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รักมาครอง ไม่เลือกวิธีการ ซึ่งการมากระบี่คราวนี้เขาตั้งปณิธานไว้ว่ายังไงก็จะช่วยให้อีกฝ่ายสมหวังให้ได้ เชื่อมือวีกิจเหอะ!


เสียงเรียกเข้าดังขึ้นขัดความเงียบบนโต๊ะอาหาร ตะวันฉายกดรับก่อนจะแหวใส่เลขาฯของตนที่อยู่ปลายสาย อีกฝ่ายพูดอะไรมาไม่ทราบได้แต่สามารถทำให้ร่างเพรียวต้องหน้าซีด ก่อนจะวางสายแล้วหันมาหาพรายจันทร์และพัดยศ

“คุณพิจิตราโทรมาบอกว่าลูกค้าที่ไปเลี้ยงรับรองมีปัญหานิดหน่อย พี่คงต้องไปคุยด้วย แต่ยังกินกันไม่เสร็จเนี่ยสิ เอางี้แล้วกัน นายพัดยศเดี๋ยวไปส่งยายจันทร์ที่บ้านด้วยนะ โอเค๊ ค่าอาหารไม่ต้องฉันจ่ายแล้ว ไปละบาย”ตะวันฉายพูดรวดเดียวจบ ไม่เปิดให้ทั้งคู่ได้แย้งใดๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินฉับๆออกไป พรายจันทร์มองตามพี่สาวไปใบหน้าสวยรูปหัวใจยุ่ง ก่อนจะหันกลับมายิ้มเฝื่อนให้ชายหนุ่มที่ส่ายหัวเบาๆอย่างเหนื่อยใจ

“ขอโทษแทนพี่ตะวันด้วยนะคะ พี่พัด”

“ไม่เป็นไรครับ พี่ชินแล้ว สมัยตอนเรียนไม่ได้เจอกันตรงๆแต่ก็ได้ยินกิตติศัพท์บ่อยอยู่เหมือนกัน”

“ถ้ายังเรากลับกันเลยไหมค่ะ จะได้ไม่ดึก”

“ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ พี่เต็มใจไปส่งอยู่แล้วชดเชยวันนั้นแล้วกัน”พัดยศบอกก่อนจะยกแก้วไวน์ข้างตัวขึ้นดื่ม พรายจันทร์พยักหน้ารับก่อนจะก้มหน้าทานอาหารของตนต่อ ร่างบางแอบลอบมองใบหน้าของอีกฝ่ายสังเกตเห็นความอ่อนล้าบนในหน้าหล่อเหลาอย่างชัดเจน สุดท้ายทนไม่ได้ต้องถามออกไป

“พี่พัดเป็นอะไรรึเปล่าค่ะ ดูเครียดๆ”

“พี่ดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ”ชายหนุ่มถามกลับ พรายจันทร์ยิ้มน้อยๆแทนคำตอบ พัยศถอนหายใจก่อนจะระบายทุกสิ่งออกมา อย่างน้อยก็ดีกว่าเก็บเอาไว้กับตัวจนหมด

“ครับ พี่มีปัญหากับน้องดาวนิดหน่อย”พรายจันทร์หน้าซีด รีบถามทันที

“เพราะพี่ไปรับปส่งจันทร์รึเปล่าคะ”

“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกครับ อันที่จริงพี่กับน้องดาวมีปัญหากันมาพักใหญ่แล้วครับ”ชายหนุ่มเล่าไปพลางมือใหญ่ก็หมุนแก้วไวน์เล่น ดวงตาสีน้ำเข้มมองระลอกไวน์สีแดงที่หมุนวนอยู่ในอย่างเลื่อนลอย ร่างบางขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะถามต่อ

“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”

พัดยศยิ้มหยันให้กับตัวเอง เขายกไวน์ขึ้นดื่มจนหมดแก้วแล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟัง ระหว่างนั้นบริกรหนุ่มคนที่เดินนำหญิงสาวมาที่โต๊ะก็เดินถือไวน์แก้วใหม่เข้ามาสองแก้ว ทั้งคู่ชะงักก่อนหันมามองหน้ากันเองอย่างงงๆ เพราะยังไม่มีใครสั่งเพิ่ม

“คุณผู้หญิงอีกคนเธอสั่งไว้ก่อนจะกลับน่ะครับ รวมทั้งยังจ่ายเงินแล้วด้วย”บริกรหนุ่มว่า ก่อนจะเดินกลับไปทำงานของตนต่อ

“ตะวันฉายนี่เจ้าแม่เผด็จการจริงๆเลย”

“ค่ะ อะไรที่เขาต้องการ ไม่เคยหลุดมือซักอย่าง”

“ไม่จริงๆหรอกครับน้องจันทร์ ไม่มี ’ได้’ ไปตลอดชีวิตหรอกครับ ต้องมีบ้างที่จะเจอกับความผิดหวัง เพียงแต่ว่ามันยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น พัดยศสอนมือใหญ่จะยื่นแก้วไวน์มาทางด้านหน้าเธอเป็นการชวนให้ร่วมชนแก้วกัน ร่างบางยิ้มน้อยๆก่อนจะเอ่ยบางอย่างก่อนจะชนแก้วกับอีกฝ่าย

“พี่พัดเองก็เหมือนกันค่ะ เมื่อมีผิดหวังก็ต้องมีสมหวังในสักวัน เชียร์ส”

“ขอบคุณครับ เชียร์ส”

ห่างออกไปที่ทางเข้าห้องน้ำบริกรหนุ่มคนเดิมมองไปทางทั้งคู่แล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ เขากดโทรศัพท์ในมือไปยังหมายเลขที่ต้องการ ก่อนจะรายงานให้ปลายสายทันทีที่อีกฝ่ายรับ

“เรียบร้อยแล้วครับ”เขาได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของอีกฝ่ายดังลั่น ก่อนจะรับคำสั่งอีกหนึ่งอย่างจากปลายสายแล้ววางสายทันที

“ครับ เดี๋ยวจะโทรกลับไปครับ”


“โอ๊ย!ไอ้ดาวฉันยังไม่อยากตื่นอ่ะ ยังง่วงอยู่เลย”ตรีทิพย์บ่นก่อนจะเดินปิดตาออกจากลิฟต์เพื่อไปยังห้องอาหารที่นัดอีกสองหนุ่มเอาไว้ หญิงสาวทำท่าจะหย่อนตัวลงนั่งที่โซฟาตรงล๊อบบี้ทำให้ดาวเหนือต้องรีบดึงข้อมืออีกฝ่ายอ ย่างแรงเพื่อให้เดินตามไปยังจุดหมาย พร้อมกับดุ

“เรามาทำงานนะ ถ้ามาเที่ยวแกจะนอนจนสว่างอีกรอบก็ตามใจ แต่ตอนนี้ท่องเอาไว้ งาน งาน เงิน เงิน!”

“แต่นี่มันเช้าเกินไปนะ!”

“ตรงไหนไม่ทราบ! นี่มันเก้าโมงกว่าแล้ว พอๆเลยเลิกเถียง ไม่งั้นฉันจะฟ้องคุณวี”สุดท้ายเมื่อเห็นว่ายังไงซะเพื่อนก็ไม่ยอมแน่ ร่างโปร่งเลยงัดเอาไม้ตายก้นหีบขึ้นมาใช้ ทำเอาคนที่กำลังจะเถียงหุบปากฉับ เดินแซงหน้าเธอไปในทันที

“โห!นี่ผมกะว่าถ้าอีกห้านาทีคุณยังไม่มา จะขึ้นไปจูบปลุกแล้วนะ”วีกิจส่งเสียงทักเมื่อเขาเห็นหญิงสาวทั้งสองเดินเข้าประตูห้องอาหารเข้ามา ส่วนตณที่นั่งหันหลังให้ก็ลุกขึ้นเลื่อนเก้าอี้ให้ดาวเหนือที่ส่งคำทักทายไปให้ เช่นเดียวกับวีกิจที่ถึงแม้จะแหย่ตรีทิพย์แต่ก็ยังลุกขึ้นเลื่อนเก้าอี้ให้ตามมารยาทสุภาพบุรุษ

“โทษทีนะ ฉันไม่อย่างได้จูบจากสัตว์ประหลาดหรอก”ตรีทิพย์ย้อนกลับ ซึ่งทำให้ ‘สัตว์ประหลาด’ หน้าตาดีถึงกับตาโต ค้อนขวับๆ

“พูดซะเสียหมด อย่างผมน่ะพี่เคนยังอายนะคุณ”

“อย่าเอาไอดอลของฉันไปเทียบกับหมีควายอย่างคุณนะ!”

“เอาล่ะๆ พอได้แล้ว เดี๋ยวคุณลูกพีชก็รอแย่หรอก รีบกินเข้าไอ้ตาล จะได้พอมีเวลาเที่ยวบ้าง ฉันกะจะไปสุสานหอยหน่อย”ดาวเหนือเตือนเพื่อนรัก ก่อนจะได้รับแรงสนับสนุนจากตฤณที่วางแผนจะไปที่นั่นเช่นกัน

“เรามีเวลาเที่ยวแค่วันนี้วันเดียวแถมยังแค่ครึ่งวันด้วย คงเที่ยวได้แค่บนฝั่งนี่แหละ คงไปพีพีไม่ได้”ชายหนุ่มเสริมต่อ ตรีทิพย์ร้องเบาๆอย่างเสียดาย ส่วนวีกิจยักไหล่เรื่องเที่ยวตามธรรมชาติไม่เคยอยู่ในหัวเขา แต่ถ้าเที่ยวผับเที่ยวบาร์ล่ะก็ หึหึ!

“พี่ตฤณว่าไงผมก็ว่างั้นล่ะครับ”

“ไว้คราวหน้าที่ต้องอยู่เป็นอาทิตย์สิ ค่อยเที่ยวให้พอใจ แต่ตอนนี้ไปกันได้แล้ว เร็ว!”ร่างโปร่งเร่งเพื่อนรักที่หน้างอเพราะขัดใจหลายเรื่อง แต่สุดท้ายก็ยอมเดินตามไปยังลานจอดรถด้านนอก เพื่อไปยังโรงแรมกึ่งรีสอร์ทที่อยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของพวกเธอ


“อืม”ร่างสูงครางเบาๆ ก่อนจะเอามือกุมหัวของตน โดยที่ยังไม่ลืมตา พัดยศนวดขมับตัวเองเบาๆเมื่อยังคงรู้สึกปวดหัวอยู่เล็กน้อย พลางคิดในใจว่าไม่น่าจะดื่มเข้าไปมากเลย ชายหนุ่มตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อที่จะไปแช่ตัวในห้องน้ำเพื่อขับไล่อาการเมาค้าง แต่แล้วก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่าห้องที่ตนอยู่นั้นไม่ใช่ห้องนอนที่บ้าน และเมื่อมองลงไปยังร่างของตนก็พบว่าไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกาย นอกจากผ้านวมผืนใหญ่ผืนเดียวเท่านั้น!

พัดยศมองไปรอบๆห้อง ก่อนที่สายตาคมจะไปสะดุดกับ ร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนอยู่ด้านข้างในสภาพเปล่าเปลือยเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มตัวชาวูบ พยายามยื่นมือหนาที่สั่นเทาไปพลิกอีกฝ่ายเพื่อดูว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆนี้ คือคนที่เขาคิดอยู่หรือเปล่า ในใจก็ภาวนาขอให้ไม่ใช่ แต่แล้วความหวังก็พังทลายเมื่อเห็นใบหน้านั้นชัดๆ ใบหน้ารูปหัวใจหลับตาพริ้ม เส้นผมสีดำยาวสลวยสยายเต็มหมอนนุ่ม เขาทิ้งมือลงข้างตัวอย่างหมดอาลัย และก่อนจะได้คิดต่อไปว่าจะทำอย่างไรต่อไป เสียงคนโวยวายที่หน้าประตูก็ดังขึ้น จนต้องเข้าไปเอาเสื้อคลุมในห้องน้ำมาสวมไว้

ประตูห้องที่เขานอนอยู่ถูกเปิดออกอย่างแรงด้วยฝีมือของหญิงสาวสวยเฉียบ พัดยศหันไปมองแล้วก็ต้องค้างไปเมื่อเห็นบรรดาคนที่ยืนออกันอยู่ด้านหลัง ทั้งแม่เขา แม่ของร่างบางที่นอนอยู่ข้างๆ ส่วนคนที่พุ่งเข้ามาคนแรกนั้น ก็วิ่งเข้ามาผลักเขาออกไปแล้วเขาไปหาน้องสาวของตน พลางเขย่าตัวเรียก เช่นเดียวกับคุณมินตราที่หน้าซีดมองมาทางเขาอย่างผิดหวัง ซึ่งเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะก้มหน้ารับผิดไป คุณวิรงรอง แม่ของเขาก็เดินมายืนข้างๆเงยหน้ามองเขาอย่างพยามถามหาความจริง

“ยายจันทร์ ยายจันทร์ ตื่นสิ! นี่นายพัด นายทำอะไรน้องฉัน ฉันอุตส่าห์ไว้ใจทำไมนายทำแบบนี้ เลวที่สุด!”ตะวันฉายวิ่งมายืนด้านหน้าชายหนุ่มก่อนจะโวยวายใส่ สุดท้ายมือเรียวก็ฟาดเข้าให้ที่ใบหน้าของเขาจนหัน ปรากฏรอยฝ่ามือเด่นชัด พัดยศได้แต่นิ่งไม่ตอบอะไร

“จันทร์ ลูกตื่นสิ!”คุณมินตราเขย่าแขนร่างบางแรงๆ ซึ่งคราวนี้ได้ผลหญิงสาวขยับตัวเล็กน้อย เมื่อลืมตาขึ้นก็พบกับใหบน้าอ่อนโยนที่เวลานี้ฉายแววกังวลอย่างชัดเจนของมารดา พรายจันทร์ส่งยิ้มไปให้ก่อนจะพยายามลุกขึ้น แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อรู้สึกหนาวๆ หญิงสาวก้มลงมองตัวเอง แล้วก็ต้องหน้าซีดเมื่อพบว่าไม่เสื้อผ้าสักชิ้น

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นค่ะแม่ ทำไมจันทร์ถึงมาอยู่ในสภาพนี้!!!”

“พวกฉันสิต้องถามคำนั้น ยายจันทร์! นายพัดมันทำอะไรแก บอกมานะ บอกมา!!”ตะวันฉายปรี่เข้ามาหาน้องสาวเมื่อเห็นอีกฝ่ายฟื้นแล้ว พัดยศเองก็เงยขึ้นมามองเช่นเดียวกัน เขาเองก็แอบหวังอยู่ลึกๆไม่ได้ว่าอีกฝ่ายคงตอบเขาได้

“พี่พัด พี่พัดทำไมค่ะ”ร่างบางยังคงงุนงง ก่อนจะเข้าใจเมื่อเห็นชายหนุ่มชัดๆ หญิงสาวมองอย่างไม่เชื่อสายตา เสียงที่เอ่ยออกมาสั่นเครืออย่างทั้งผิดหวัง ทั้งเสียใจ พัดยศหันหน้าหนีสายตานั้นทันที

“ไม่จริงใช่ไหมคะ ไม่จริงใช่ไหม เราไม่ได้ ไม่ได้”สุดท้ายร่างบางก็ปล่อยโฮออกมา คุณมินตราโผเข้ากอดลูกสาวคนเล็กของเธออย่างสงสาร

“มันเป็นเรื่องจริง เมื่อวานพอเสร็จธุระแล้วฉันก็ไปนอนข้างห้องยายแจน ไม่ได้กลับบ้าน กลับมาตอนเช้าแม่บอกแกยังไม่กลับ ฉันก็ตกใจ รีบมาที่ร้านอาหารถามหาแก มีพนักงานคนหนึ่งบอกว่านายนี่...”พูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่พัดยศ

“...พาแกขึ้นมาที่ห้องนี้ หมอนี่เมาด้วย ส่วนแกหลับสนิท ฉันก็บุกขึ้นมา แล้วก็เจออย่างที่เห็นนี่แหละ”ตะวันฉายสาธยายอย่างเมามัน พรายจันทร์ยิ่งฟังยิ่งน้ำตาไหลมากขึ้น พัดยศเองก็ยืนกำหมัดแน่น หมดหนทางแก้ต่างง งานนี้เขาผิดเต็มประตู คุณวิรงรองเดินเข้ามาหาหญิงสาว ท่านจับมือของหญิงสาวขึ้นมากุมไว้พร้อมกับบอกบางอย่างที่ทำให้ทุกคนในห้องตกตะลึง โดยเฉพาะพัดยศกับพรายจันทร์

“ไม่ต้องห่วงนะหนูจันทร์ ป้าจะต้องรับผิดชอบ ป้าจะให้ตาพัดแต่งงานกับหนู มาเป็นลูกสะใภ้ของป้านะจ๊ะ”

“แม่!/ คุณป้า!”

“มันก็ต้องอย่างนั้นแหละค่ะ! น้องจันทร์เสียหายมากกว่าลูกชายคุณป้า ลองไม่รับผิดชอบสิ ฉันจะเอานายเข้าคุกเลยคอยดู!”ตะวันฉายแทรกขึ้นมา ดวงตาสวยเฉี่ยวปรายมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านข้างๆอย่างโมโห คุณมินตรายังคงไม่สบายใจแม้จะเห็นด้วยกับวิธีการนี้เพราะยังไงซะลูกสาวเธอก็เสียหาย ติดที่ว่าพัดยศมีคนรักอยู่แล้วซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น ลูกสาวคนเล็กของสามีที่เธอเองก็รักประดุจลูก

“ดิฉันทราบค่ะ แต่ทางหนูจันทร์เสียหาย มันไม่มีทางอื่นอีกแล้ว หนูดาวเป็นคนมีเหตุผลแกคงเข้าใจ”คุณวิรงรองเองก็หนักใจ เพราะว่าดาวเหนือเองท่านก็เห็นลูกชายจริงจังกับหญิงสาวมาก และท่านเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไร พัดยศฟังที่มารดาพูดก็ได้แต่เจ็บใจและเสียใจ พรายจันทร์ไม่ได้พูดอะไรยังคงร้องไห้อยู่กับมารดา

“เอาเป็นว่าตามที่พูดนะคะ วันอังคารดิฉันจะพาผู้ใหญ่ไปสู่ขอหนูจันทร์”

“ตกลงค่ะ!”คุณมินตราได้แต่มองสถานการณ์อย่างหนักใจ ต่างกับตะวันฉายที่ตอบตกลงแทนเสร็จสรรพ พร้อมทั้งนัดเวลาให้อีกด้วย เมื่อได้ตามที่ต้องการแล้วหญิงสาวจึงรีบพาร่างบางของน้องสาวที่ใส่เสื้อเรียบร้อยและมารดาออกไปทันที

“แม่กับยายจันทร์ไปรอตะวันที่รถก่อนนะ เมื่อกี้ลืมขอบคุณพนักงานคนนั้น”ร่างเพรียวบอกกับมารดาที่กำลังประคองพรายจันทร์อยู่ คุณมินตราพยักหน้ารับก่อนจะพาร่างอันอ่อนแรงของบุตรสาวคนเล็กเดินไปยังอาคารจอดรถ ตะวันฉายมองทั้งคู่จนลับสายตา หญิงสาวหันซ้ายขวา ก่อนจะเดินตรงไปยังทางหนีไฟ มือเรียวเปิดประตูเข้าไปแล้วยืนรอ ไม่นานนักบริกรหนุ่มคนเดิมในชุดไปรเวทก็เดินตามเข้ามา

“ทำได้ดีมาก นี่ค่าจ้างของนาย ส่วนนี่...”หญิงสาวส่งซองสีขาวหนาให้ชายหนุ่มที่รับไปนับดู ก่อนจะยื่นมือมารับอีกซองที่ส่งตามมา

“...รางวัลที่ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม”

“ขอบคุณครับ”

“อย่าลืมล่ะต้องปิดปากให้สนิท ไม่งั้นนายจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีก”ตะวันฉายสำทับก่อนที่อีกฝ่ายจะเปิดประตูแล้วเดินออกไป หญิงสาวพิงผนังยิ้มออกมาอย่างพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด ใช่!ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือแผนที่เธอวางเอาไว้ ทุกอย่างตั้งแต่ต้น ร่างเพรียวเอ่ยลอยๆ คนเดียว ดวงตาพราวด้วยความสะใจ

“แกต้องเจ็บปวดทรมานจนมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ไม่ได้เลยทีเดียว นังดาวตก!”


“เอาเป็นว่าเดี๋ยวพวกเราจะสั่งของเอาไว้เลยนะคะ แล้วจะให้ส่งมาไว้ที่นี่ อาทิตย์จะมาจัดการให้เรียบร้อย รับรองทันงานเปิดตัวแน่นอนค่ะ”ตรีทิพย์บอกกับลูกค้าสาว เจ้าของโรงแรมกึ่งรีสอร์ทแห่งนี้ พีชญาถอนหายใจ ก่อนจะกล่าวขอบคุณ

“ถ้าไม่ได้พวกคุณลูกพีชคงแย่แน่ ไอ้บริษัทเฮงซวยนั่น! มันรับเงินแล้ว รับปากเสียดิบดี พอถึงวันทำงาน ไม่เห็นโผล่มาสักคน จนลูกพีชต้องไปดู เชื่อไหมค้ะ บริษัทกลายเป็นร้านขายของชำไปเสียแล้ว ลูกพีชแทบจะเป็นลม”พีชญาร่ายยาวอย่างเจ็บแค้น ตรีทิพย์ยิ้มรับก่อนจะตกลงเรื่องวันและเวลาอีกครั้งก่อนจะกลับไปสมทบกับคนอื่นที่ตามดาวเหนือไปถ่ายรูป

“ป่ะ ไปเที่ยวกัน ที่สองที่ก็ยังดี”หญิงสาวเอ่ยชวน ก่อนที่ทุกคนจะร่ำลาเจ้าของโรงแรมคนสวยที่ตามมาส่ง ทั้งหมดตรงไปยังสถานที่สองในสี่หมายมั่นเอาไว้

ใช่เวลาไม่นานจากโรงแรมของพีชญามาถึงสุสานหอย 100 ปี หนึ่งในสถานที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกระบี่ ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ที่สุสานหอยนี้มีซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดหลากหลายชนิด พอมาถึงปุ๊บ ตฤณก็รีบเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นสิ่งที่เขาสนใจอยู่แล้ว ดาวเหนือและคนอื่นๆตามเข้าไปติดๆ ทั้งหมดแยกย้ายกันเดินดูความมหัศจรรย์ของธรรมชาติกันอย่างตื่นตาตื่นใจ ก่อนจะย้ายไปยังแหล่งท่องเที่ยวแห่งต่อไป

ทั้งหมดเดินทางต่อไปที่ป่าพรุท่าปอม ซึ่งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหล่านักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้ความสนใจ สาเหตุมาจากความมหัศจรรย์ของสายน้ำสองสายที่มาบรรจบกันที่แห่งนี้ ทำให้สถานที่แห่งนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ‘คลองสองน้ำ’ สายน้ำสองสายที่ว่าคือ น้ำจืดและน้ำเค็ม กล่าวคือยามที่น้ำทะเลลด น้ำในคลองจะเป็นน้ำจืด เมื่อน้ำทะเลขึ้นน้ำก็จะกลายเป็นน้ำเค็ม อีกทั้งยังรวมไปถึงความงดงามของพืชพรรณธรรมชาติที่อยู่ใต้น้ำซึ่งสามารถสร้างสีสรรให้แก่ลำคลองสายนี้ได้สมบูรณ์ที่สุด สามารถชมธรรมชาติได้ทั้งการเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือจะพายเรือแคนนูก็ย่อมได้

เมื่อมาถึงวีกิจก็ลากเอาตรีทิพย์ให้ออกห่างจากอีกคู่ทันที ตามแผนที่ตนเองวางเอาไว้ โดยบอกว่าจะไปพายเรือเล่นกัน ในตอนแรกตรีทิพย์จะไม่ยอมไป แต่พออีกฝ่ายกระซิบถึงแผนการดังกล่าวหญิงสาวจึงยอมตามไปด้วย ดาวเหนือเหล่มองอย่างสงสัยแต่ไม่ได้ติดใจอะไร

“แน่ใจนะว่าถ้าไปกันสองคนแล้วจะไม่ไปตีกันให้ขายขี้หน้าเขา”ตฤณถามน้องสาวและอีกหนึ่งหนุ่มหน้ายุ่ง วีกิจหัวเราะเบาก่อนให้คำมั่น

“วันนี้ไม่มีทะเลาะแน่นอนพี่ เอาความหล่อของผมเป็นประกัน!”ส่งท้ายด้วยการยักคิ้วให้ ตฤณมองท่าทางกระล่อนของหนุ่มรุ่นน้อง ก่อนจะพูดลอยๆ

“พี่ไว้ใจคุณวีนะ อย่าทำให้พี่ผิดหวัง”วีกิจชะงัก ก่อนจะสบตาคมกล้าคู่นั้น ชายหนุ่มยิ้มออกมาเมื่อเข้าใจความนัยของคำพูดนั้น ก่อนจะตอบ

“คนไหนที่ผมตกลงปลงใจแล้วล่ะก็ ผมจะไม่มีวันทำอะไรที่จะทำให้เขาเสียใจเด็ดขาด!”ว่าแล้วก็ลากแขนร่างบางที่เดินตามไปอย่างเสียไม่ได้ทันที ตฤณมองตาม ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจในคำตอบของชายหนุ่มที่เขามั่นใจว่าจะมารับช่วงดูแลน้องเขาได้ ดาวเหนือเหลือบมองใบหน้าคมที่ดูละมุนยามมองตามหลังผู้เป็นที่รักไป หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่าตนเองจะน่าอิจฉาแค่ไหนหากมีใครมามองแบบนี้บ้าง ร่างโปร่งถอนหายใจก่อนจะออกเดินไปตามเส้นทางธรรมชาติ

หญิงสาวปล่อยตัวเองกับธรรมชาติอันงดงาม เธอชอบที่จะอยู่กับธรรมชาติเพราะรู้สึกได้เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องปั้นหน้าต่างๆให้คนเห็น มือเรียวคว้ากล้องตัวโปรดขึ้นมาถ่ายภาพสวยๆตามมุมต่างๆไว้มาก รวมทั้งภาพของคนสองคนที่แข่งกัยพายเรือแคนนูอย่างไม่มีใครยอมใคร เธอยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนเธอหมดแรงยอมพายตามไปช้า แต่แน่นอนว่าผู้ชนะก็ไม่ได้ทอดทิ้ง กลับยอมผ่อนแรงรอ ความสงบยุติลงเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ดาวเหนือมองก่อนจะกดรับ ก่อนจะกรอกเสียงลงไป

“มีอะไรเหรอแม่”

“เอ่อ คือ ดาวจะกลับวันไหนลูก”

“พรุ่งนี้น่ะ ทำไมเหรอ”หญิงสาวถามกลับ รู้สึกได้ว่าทางโน้นต้องมีอะไรผิดปกติแน่ เพราะปกติแม่เธอจะไม่ค่อยโทรตามแบบนี้เท่าใดนัก น้อยครั้งซึ่งเมื่อโทรมาทีไรแน่นอนว่าต้องมีเรื่อง!

“หนูสะดวกจะคุยไหมลูก”

“แม่พูดมาเถอะ เกิดอะไรขึ้น”ดาวเหนือตัดบท เพราะหากปล่อยใหคุณบุษบาถามต่อไปเรื่อยๆสุดท้ายอาจจะไม่ได้รู้อะไรเลยก็ได้ คุณบุษบาตัดใจพูดออกไป

“ตาพัดกับคุณจันทร์กำลังจะแต่งงานกัน”

“อะไรนะ!”

ดาวเหนืออึ้งไปเมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากมารดา ก่อนจะถอนหายใจออกมา ไม่นึกฝันว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับพี่สาวที่แสนดีของเธอ แต่เธอก็ไม่อยากเชื่อว่าคนอย่างพัดยศจะทำเรื่องแบบนี้เช่นกัน! แม้จะไม่รักแต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่านิสัยของชายหนุ่มเป็นอย่างไร เธฮยืนยันได้เลยว่าคนอย่างพัดยศไม่ใช่คนมักง่าย เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ เพียงแต่ว่าเธอไม่อยากปรักปรำใครโดยไม่มีหลักฐาน โดยเฉพาะหากอีกฝ่ายเป็นตะวันฉาย รัชดารักษ์! คุณบุษบาเริ่มกังวลเมื่อลูกสาวเงียบไป กำลังจะถามออกไปแต่ว่าอีกฝ่ายถามกลับมาก่อน

“แล้วเขาจะแต่งกันวันไหน พี่พัดกับพี่จันทร์น่ะ”

“ยังไม่ได้กำหนดจ๊ะ มะรืนนี้เขาถึงจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ ตอนนี้คุณจันทร์ร้องไห้ใหญ่เลย”

“มันก็แน่อยู่แล้ว”

“ดาวลูกเป็นอะไรไหม”คุณบุษบาถามเรื่องตนกังวล ดาวเหนือเข้าใจว่ามารดาพูดถึงเรื่องอะไร ตอบกลับตามความจริง

“ไม่รู้สึกอะไรซักนิด ดาวกับพี่พัดเราเลิกกันไปนานแล้ว”

“ตายจริง!แม่ไม่รู้เลย ทำไมล่ะลูก”

“ดาวเพิ่งจะรู้ว่าไม่ได้รักพี่เขา ตอนนี้ดาวกับพี่พัดเป็นแค่พี่กับน้องเท่านั้น แม่ต้องเครียดฝากบอกกับทุกคนด้วยว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ต้องกังวลกับดาว ดาวพูดจริงๆ”หญิงสาวบอกกับมารดาจากใจจริง คุณบุษบาแอบโล่งอกเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี

“ดาวไม่ได้โกหกแม่นะ”

“ไม่ แน่นอน”

“งั้นเดี๋ยวแม่จะบอกทุกคนให้จ๊ะ กลับมาเร็วๆนะลูก บายจ๊ะ”คุณบุษบาวางสายลูกสาวก่อนจะเดินไปบ้านใหญ่ ส่วนดาวเหนือเมื่อวางสายแล้วก็ถอนหายใจปลดปล่อยความเครียดเกี่ยวกับเรื่องของพัดยศที่สะสมไว้ รู้สึกปลอดโปร่ง คราวนี้เธอจะได้เริ่มต้นกับความรักจริงๆซะที แต่ติดที่ว่าคนที่เธอรักเขามีคนรักอยู่แล้ว

“น้องดาวครับ”เสียงทุ้มดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้คนกำลังคิดอะไรเพลินสะดุ้งได้ทีเดียว หญิงสาวหันกลับไปดูก็พบกับคนที่หัวใจกำลังคิดถึง ตฤณมีสีหน้าเคร่งเครียด จนเธอสงสัยสุดท้ายเมื่อไม่เห็นว่าอีกฝ่ายพูดอะไรเลยตัดสินใจถาม

“มีอะไรเหรอ พี่ตฤณ”

“เมื่อกี้พี่ได้ยินน้องดาวคุยกับแม่ พี่ขอโทษนะครับที่แอบฟัง”

“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ใช่เรื่องลับอะไร”ตฤณมองสำรวจอีกฝ่าย เมื่อไม่เห็นอาการอะไรใดๆก็ตัดสินใจพูดออกไป เรื่องที่ยินวันนี้เป็นอะไรที่ทำให้เขาทั้งดีใจและเศร้าใจ ดีใจกับตัวเอง เศร้าใจแทนร่างโปร่งเบื้องหน้า แต่สุดท้ายเขาก็ขอใช้โอกาสที่ผู้ชายคนนั้นหยิบยื่นให้ในวันนี้บอกความรู้สึกที่กักเก็บเอาไว้มานาน เขาไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าคำตอบของเธอจะเป็นยังไงขอแค่ได้บอกออกไปให้เธอรับรู้เท่านั้นพอ...

“พี่มีเรื่องจะบอกกับน้องดาวครับ”

“เรื่องอะไร”

“น้องดาวครับ พี่แอบรักผู้หญิงคนหนึ่งมานาน รักโดยไม่มีเหตุผล รู้เพียงแต่ว่ารักตั้งแต่วันแรกที่เห็นรูปถ่ายของเธอคนนั้น ยิ่งรักมากขึ้นเมื่อได้ยิน ได้ฟังเรื่องทุกๆเรื่องของเธอ พี่รู้สึกดีใจ เสียใจไปกับเธอทุกครั้ง...”ชายหนุ่มหยุดเล็กน้อย เพื่อมองปฏิกิริยาของอีกฝ่าย ดาวเหนือนิ่งเงียบแม้จะรู้สึกเจ็บลึกๆเพราะต้องมาฟังเรื่องที่ไม่อยากได้ยิน แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาเล่าให้เธอฟัง ตฤณเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีท่าทีไม่พอใจจากหญิงสาวชายหนุ่มจึงพูดต่อ

“...พี่กับเธอไม่เคยได้เจอกันเลย แม้ว่าเธอจะไปมาบ้านพี่ประจำ”มาถึงตรงนี้ดาวเหนือเริ่มอึ้ว หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่ม ก่อนจะฟังต่อ

“สุดท้ายพี่ก็ได้พบเธอ พี่ดีใจมากแต่ก็ต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอๆว่าเธอมคนรักแล้ว มาในวันนี้พี่ได้รู้มาว่าเธอเลิกกับคนรักของเธอแล้ว จบไม่สวยด้วย แต่ความรักมันสวยงามเสมอนะครับ เราเก็บมันเอาไว้เป็นบทเรียนว่าช่วงหนึ่งในชีวิตรักเราเคยมีเรื่องร้ายๆผ่านเข้ามา แล้วมันก็ผ่านไป พี่อยากจะขอโอกาสครับ น้องดาว ให้พี่ได้มีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในความทรงจำของน้องดาว...”ตฤณคุกเข่าลงกลางทางเดินที่ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินไปมา แต่บัดนี้ทุกคนต่างหยุดยืนมองทั้งคู่ ดาวเหนือมองไปรอบๆอย่างอายๆ ยิ่งเมื่อตฤณพูดประโยคสุดท้ายออกมา

“พี่รักน้องดาว คนกับพี่ได้ไหมครับ”ตฤณกลั้นใจพูดออกไปจนหมด ร่างสูงหลับตาแน่นไม่กล้ามองร่างโปร่งที่ยืนอยู่ ดาวเหนือมองคนตรงหน้าอย่างตื้นตัว น้ำใสคลอหน่วยสุดท้ายก็พูดบางอย่างที่ทำให้ตฤณถึงกับกระโดดตัวลอย

“ตกลงค่ะ”



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 เม.ย. 2554, 06:40:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 เม.ย. 2554, 06:40:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 1806





<< ตอนที่ 14   ตอนที่ 16 >>
Setia 17 เม.ย. 2554, 18:53:36 น.
แหม ขอความรักกันกลางตลาด น่ารักจริง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account