รักแท้หรือแค่เหงา
ความรัก ไม่ต้องการเหตุผล
ความรัก ไม่ต้องการเวลาและสถานที่
ความรัก ไม่จำกัด เพศ วัย
ความรัก มันเป็นความรู้สึกที่ยากที่จะบรรยายลึกซึ้ง
ความรัก สิ่งเดียวที่มนุษย์ยอมแลกสุขเสี่ยววินาทีกับความทุกข์ตลอดไป
ความรัก ระหว่างคนมากก่อน คนมาหลัง ใครจะเป็นฝ่ายถูกเลือก ใครต้องเลือก และไม่ถูกเลือก บทสรุปความรักระหว่าง นนท์กับมน นนท์กับปริม จะลงเอยอย่างไร

Tags: ธีรานนท์ มนทิรา ปริม

ตอน: ตอนที่4. สองครั้งแล้วนะที่เราเจอกัน2

ขอโทษนะคะที่หายไปหลายวัน ยุ่งต่อเนื่องจากคริสมาสจนเลยboxing day ควรเปลี่ยนชื่อเป็น shopping day เพราะเป็นวันแรกหลังคริสมาส วันที่25 ธันวา ห้างรวงปิดหมด 26ธันวา เป็นวันshopping ที่ร้านลดราคาหมด เมื่อสามปีที่แล้ว เราเคยไปยืนรอซื้อเครื่งอเล่นดีวีดีจาก 150 ปอนด์เหลือประมาณ 70 ปอนด์ ต่อแถวกับสามียืนจนขาแข็งเกือบสี่ชั่วโมงถึงได้คิวซื้อ หมดกาแฟไปสามแก้วบริการจากร้าน และเดินไปดูห้างขายของไฮโซ กระเป๋ายี่ห้อต่างๆ วางอยู่ในกระบะ ประมาณ 90% คนเอเซีย แย่งกันซื้อเหมือนของถูก เราไม่ได้แวะไปซื้อคะแคะต้องการเดินดูแลละที่สำคัญเข้าห้องน้ำแต่คนมหาสาร เลยขอลากลับบ้านไปนอนดูทีวีดีกว่า 555

มองใครวะนนท์ เมฆถามขึ้นมองเห็นเพื่อนเงียบเอาแต่มองโต๊ะตรงข้าม เมฆนั่งตรงข้ามกับนนท์จึงมองไม่เห็นว่าธีรานนท์กำลังสนใจอะไร
มองใคร ที่ไหน ต้นถามขึ้นบ้างพร้อมกับหันไปมองตามเพื่อนบ้าง สวยและเซ็กซี่นี่หว่า สี่หนุ่มหันไปมองเธอเป็นจุดเดียวกัน
นายรู้จักหร๋อ เมฆถามนนท์พร้อมหลิ่วตาไปทางโต๊ะนั้น
คุ้นๆแต่ไม่แน่ใจ อาจเป็นผู้หญิงที่มาเที่ยวแล้วเราอาจเห็นบ่อยๆ มั้ง นนท์ตอบอย่างไม่ใช่ใจนัก
ทำไมเห็นผู้หญิงสวยทีไร ต้องคุ้นด้วยวะนนท์ ต้นถามเหมือนจะบอกเป็นนัยยะว่าเราควรจะต้องเดินไปหาแล้วทำความรู้จักเลยดีกว่าอย่าแค่มองเลย
กัน สังเกตเห็นว่าผู้หญิงเหมือนไม่ว่างแล้ว เขามีแฟนแล้วมั้งเพราะไอ้ผู้ชายนั่งข้างกันนั้นแทบจะกินเธอตลอดเวลา เดี๋ยวซบ เดี๋ยวโอบ ไม่ห่างขนาดนั้น ดูตาผูชายซิเชื่อมเหมือนอยู่กันแค่สองคู่
แฟนเฉพาะคืนนี้หรือเปล่าวะ ต้นสวนขึ้นทันทีกับเสียงหัวเราะกวนๆของเขา
ทำอย่างกับพวกนายไม่ทำอย่างนั้นกับผู้หญิงของตัวเอง เมฆพูดแทงใจเพื่อนๆ หัวเราะออกมาบ้าง
นายจะเข้าไปทักไหมนนท์ เสียงของต้นถามแต่ดวงตาของเขายังมองไม่วางคนสวยโต๊ะตรงข้าม แต่พูดไปแล้วสวยทุกคนเลยวะแต่ก็มีคู่กันหมดเหมือนกัน เฮอะ ต้นหายใจกับตัวเองอย่างปลงเพราะเขานั้นเองยังไม่มีเป็นตัวเป็นตน
ไม่ใช่ธุระ นนท์บอกกับเพื่อนๆไม่ใส่ใจหันมาสนใจเครื่องดื่มตรงหน้าต่อและพยายามทำตัวสนุกและทำเหมือนไม่สนใจเธอ แต่ตลอดเวลาเขาคอยชำเลืองดูเธอเป็นระยะๆใครจะรู้ว่าผู้หญิงตรงหน้านี้ดึงความสนใจเขาออกจากกลุ่มเพื่อนเกือบหมดแล้ว


พี่หนึ่งขาช่วยปริมหน่อยนะคะ ปริมโน้มหน้าของเธอกระซิบที่ข้างหูขอร้องจุติภัทธ์หรือหนึ่งเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทตอนเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันและครั้งหนึ่งเขาจีบเธอแต่ไม่ติด แต่ไม่ได้หมายถึงว่าจุติภัทธ์จะหลีกลี้หนีหน้าปริม แต่ความสัมพันธ์ของเขาและเธอเป็นทั้งพี่น้องเป็นทั้งเพื่อน-รู้ใจ แต่ไม่ใช่คนที่ใช่
จุติภัทธ์หนุ่มโสดวัย34 ปีหน้าตาหล่อใสกว่าอายุจริงเสียด้วยซ้ำ หน้าตาอินเทรนที่สาวๆสมัยมีชื่นชม คิ้วสวยไม่คมเข้มเหมือนไทยแท้ จมูกโด่งได้รูป หน้าหวานสวยกว่าผู้หญิง ดวงตาเพียงชั้นเดียวกับผิวที่ขาวอมชมพูนิดๆเมื่อตอนใต้แสงแดดได้รับการถ่ายทอดจากบุพการีคนไทยเชื้อสายจีน

ทำไมผู้ชายหล่อๆที่อยู่ตรงข้ามรบกวนจิตใจที่แข็งๆให้ไขว่เขว่หรือไงฮะ พี่ว่าเขาหล่อดีนะ จุติภัทธ์กระซิบเข้าที่ข้างหูปริมออกความเห็นอย่างรู้ใจเพื่อนสาวดีว่าทำไมเธอถึงใช้วิธีกระซิบบอกเขานั้น
จุติภัทธ์ยกแขนตัวเองขึ้นโอบไหล่มนสวยของปริมอย่างเป็นเจ้าของ เพราะตลอดเวลาที่มีใครสนใจปริมมักจะใช้วิธีนี้กับเขาเป็นประจำ เขาไม่เคยเสียใจหรืออาจจะมีน้อยใจบ้างที่เป็นได้แค่ไม้กันหมาให้กับเธอ เขาเข้าใจและสามารถแยกเยะได้เพราะหัวใจและความรักมีใครที่ไหนบังคับได้

บ้า !!เธอแหววใส่จุติภัทธ์เสียงหลง แค่หล่อนิดหน่อยที่เห็นได้ทั่วไปก็เท่านั้นพี่หนึ่งหล่อกว่าอีกปริมหัวเราะน้อยๆฝ่ามือบางตีเบาๆเข้าที่ต้นแขนของอีกฝ่าย
หือ หล่อน้อยกว่าพี่ด้วย แต่ไม่รักพี่เลย จุติภัทธ์ แกล้งทำเสียงน้อยใจปริม แล้วไงตอนนี้อยากให้พี่ช่วยเป็นผู้ชายของเธอว่างั้น จุติภัทธ์ เย้าปริมอย่างอารมณ์ดีและมือที่โอบไหล่สวยของปริมก็รู้ไปมา
ก็งั้นซิคะ หรืออยากให้ผู้ชายหน้าตาเจ้าชู้นั้นมาเป็นผู้ชายของปริม
ว่ากันไปแล้วเราอยากได้ไหมละ หนึ่งถามกลับปริมบ้าง
พูดน่าเกียจพี่หนึ่ง แต่เอได้ก็ดีคะ ทั้งคู่พูดคุยหยอกเอินกันอย่างสนุกและเพื่อนๆในกลุ่มของปริมนั้นรู้กันดีว่าทั้งสองเป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน
พี่หนึ่งกับปริมดื่มอะไร นิ่มหรือมุกมณีหันไปถามทั้งคู่ มุกมณีเพื่อนสาวของปริมถามขึ้นระหว่างที่ทุกคนในกลุ่มสั่งกันไปหมดแล้วจะดื่มอะไรเหลือเพียงจุติภัทธ์และปริมเท่านั้นมั่วแต่หัวเราะต่อกระซิกกันอย่างสนุกเพียงสองคน
พี่หนึ่งดื่มอะไรคะ ปริมถามขึ้น
แล้วปริมละ จุติภัทธ์ถามกลับ
ปริมขอเป็นน้ำผลไม้ผสมโซดาธรรมดาดีกว่าเพราะต้องขับรถกับบ้าน
งั้นพี่ดื่มได้ เพราะพี่มีคนรับผิดชอบแล้วนะหนูนิ่ม จุติภัทร์พูดเสียงอ่อนหัวเราะนัยตาเย้มใส่นิ่ม
หือ พี่หนึ่งจะไปนอนกับพวกเราที่บ้านสวนยัยปริมหรือคะ มุกมณีถามเสียงหลง ตาเบิกกว้างเล็กน้อย ไม่มีในแผนเลยว่าเพื่อนรุ่นพี่จะไปนอนบ้านสวยของปริมด้วยกัน
ทำไมเหรอ พี่ไปไม่ได้หรือไง จุติภัทธ์รีบแกล้งแทรกขึ้นมาทันที
ไม่ว่าไง แค่ถามคะ มุกมณีพูดเสียงอ่อนๆก่อนจะพูดเชิงเหน็บ นิ่มจะได้เมาด้วยมั้งคะ
จุติภัทธ์หัวเราะเบาๆ ส่วยหน้ากับเพื่อนสาวที่นั่งข้างปริมซึ่งเขาก็สนิทกับเธอเช่นกัน
งั้นต้องถามปริมว่าจะยอมให้ไปนอนบ้านสวยด้วยได้ไหม เขาหันมาถามปริม
ใครกล้าห้ามหลานรักอีกคนของคุณยายละคะ จะดีใจออกนอกหน้าเสียด้วยซ้ำที่พอตื่นเช้ามาจะเจอหลานรักทั้งสองอยู่ที่บ้าน ปริมพูดได้เช่นนั้นเพราะเธอรู้ว่าทั้งจุติภัทธ์และมุกมณีนั้นมาเยี่ยมเยือนท่านรวมทั้งเป็นธุระจัดการเกือบทุกสิ่งอย่างที่เป็นยากสำหรับคนแก่ ทั้งจุติภัทธ์และมุกมณีไปนอนที่บ้านสวนเธอบ่อยครั้งตั้งแต่สมัยเรียนจบมาทำงานงานทั้งสามก็ยังคงสนิทกันมากขึ้นจนกระทั้งปริมตัดสินใจไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่ทั้งสองยังคงไปนอนบ้านสวนเหมือนครั้งที่เธออยู่ เพื่อช่วยดูแลคนแก่ทั้งสามท่านด้วย อีกทั้งยังช่วยสอนท่านใช้อินเตอร์เน็ตหรือSkye เมื่อครั้งปริมยังอยู่ที่อังกฤษ

แล้วมุกมณีของพี่ละจะอนุญาติไหมนะ จุติภัทธ์ยังทำเสียงอ้อน ลอยหน้าล้อเลียนหล่อน
บ้านเขาก็ไม่ อยากไปก็ไปซิคะ เจ้าของตัวจริงเขาอนุญาติแล้วนิ มุกมณีทำเสียงเหมือนน้อยใจย้อยกลับทันทีเหมือนกัน
ทำเอาจุติภัทธ์กับปริมหัวเราะออกมาทันทีอย่างถูกใจ
พอคะพอไปทั้งคู่คะ และไม่ต้องห่วงปริม คืนนี้ขอเป็นสารถี ปริมพูดพลางขำคนทั้งคู่ ยอมรับว่าตอนนี้เธอมีความสุขมากๆทีเดียว ทั้งครอบครัว ทั้งเพื่อน ทั้งงาน โดยเธอไม่ได้นึกเฉลียวใจสักนิดว่าความทุกข์กำลังจะก้าวเข้ามาเช่นกัน


กลับยังปริมไม่ไหว เวียนหัว มึนๆมากเลย มุกมณีพูดเสียงยานคางเล็กน้อยและพยายามคุมสติของตัวเองให้ดีที่สุดด้วย
เป็นไรนะเราร้อยวันพันปีไม่ดื่มทำอย่างกับมีปัญหาซะงั้น จุติภัทธ์หันมาถามเสียงเรียบคล้ายมีเรื่องสงสัย พร้อมกับปริมพยักหน้าสงสัยตามจุติภัทธ์เช่นนั้นเหมือนกัน
แค่อยากดื่มลองดูว่า ถ้าเมาแล้วเป็นไง และวันนี้เราก็มีสารถีไว้ใจได้ เสียงหัวเราะเบาๆกับหน้าตาที่ดูเหมือนอยากรู้อยากเห็นและดูเมาแล้วมันมึนหัวของมุกมณีนั้นแสดงว่าฉันนะบรรลุการทดลองแล้ว ทำให้จุติภัทธ์และปริมคลายความกังวลจริงๆ และยิ้มให้กับเพื่อนสาวที่อยากลองเมา
งั้นปริมไปเข้าห้องน้ำแป๊บ นิ่มไปล้างหน้าล้างตาหน่อยไหมจะได้ขึ้น ปริมเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเพื่อนสาวพร้อมจับหน้าตาเพื่อนที่แดงจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รสหวานสีสวย
ไม่แหละพึ่งไปเข้าห้องน้ำมาเข้าอีกทีที่บ้านปริมแล้วกัน นิ่มส่วยหัวพร้อมยกมือน้อยๆบอกปริม
พี่ไม่ไปปริมไปเถอะขี้เกียจ จุติภัทธ์พูดพร้อมยกแก้วสุดท้ายขึ้นดื่ม หันไปพูดคุยต่อกับเพื่อนที่มาด้วยกันต่อ
งั้นเดี๋ยวมา ปริมลุกอย่างคล่องแคล่วเดินหายไปเข้าห้องน้ำทันที

เราไปห้องน้ำเดียวมา อยู่เฉยๆธีรานนท์ก็พูดขึ้นลอยๆพร้อมลุกอย่างฉับไว
ท่ามันจะปวดมาก เสียงพูดและหัวเราะของต้นขำการกระทำของเพื่อนที่อยู่เฉยๆก็บอกและลุกหายไปอย่างรวดเร็ว
กัน นึกสงสัยว่าเป้าหมายธีรานนท์จริงๆไม่ได้เข้าห้องน้ำแต่ลุกตามสาวสวยใส่เกาะอกนั้นต่างหากแต่เขาก็ไม่ได้บอกให้เพื่อนในกลุ่ม เพราะอยากให้แน่ใจมากกว่านี้ดีกว่า

ธีรานนท์ไม่ได้เข้าห้องน้ำอย่างที่บอกไว้กับเพื่อนแต่แรก เขาทำตัวเหมือนเด็กหนุ่มริเริ่มจีบสาว มือล้วงโทรศัพท์มือเอ็นดรอยที่เพียบพร้อมฟังชั่นมากมายในเครื่องเดียวกดไปเรื่อยๆอย่างค่าเวลา รอเธออย่างกระซับกระซ่าย
ปริมเดินออกจากห้องน้ำจะตรงเข้าไปในร้านแต่อยู่ๆก็มีใครบางคนเดินเข้ามาขวางเธอ ปริมเงยหน้ามองเขาและเอ่ยเพียง คะ อย่างสงสัยว่าทำไมมายืนขวางเธอไว้

เราเคยเจอใช่ไหม ธีรานนท์ถามเธอ พร้อมทำหน้าสงสัยหรี่ตาเล็กน้อย จริงๆแล้วธีรานนท์จำเธอได้ดีทีเดียวเธอยืนต่อแถวเดียวกันเขาอยู่ด้านหลังเธอระหว่างรอขึ้นเครื่องบินที่ลอนดอน และเขาพยายามมองหาเธออีกครั้งเมื่อเครื่องรอเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบแต่เขาไม่เห็นเธอจนนึกว่าคงไม่เจอเธออีกแล้วแต่ระหว่างระหว่างการเดินทางต่อจากดูไบกรุงเทพเขาเห็นเธอลุกขึ้นไปทำธุระ เขานึกขำตัวเองเป็นเอามากเขามองหาเธอมาตลอดแต่เธออยู่ใกล้เขาแค่พนักเก้าอี้กั้นเท่านั้นเอง และครั้งนี้ใจเขาก็ระซ่ำอีกครั้งเมื่อพบเธอและเธอมีคนอื่นแล้ว แล้วจะโทษทีใครในเมื่อตอนนี้เขาก็มีมนทิราเช่นกัน นั้นยังไม่นักรวมอีกสาวสวยวัยใสที่เขาเลี้ยงดูเพื่อปลดปล่อยความเป็นชายเพราะเขาไม่นิยมเที่ยวผู้หญิงกลางคืนและรู้สึกปลอดภัยดีกว่าจะใช้บริการนั้นๆ

มุกเซี่ยวๆคะ หน้าตาก็หล่อแต่ทำไมวิธีจีบสาวถึงได้ห่วยขนาดนี้คะ ขอโทษนะคะฉันไม่ได้รู้จักคุณและไม่อยากรู้จักด้วย ปริมเน้นเสียงตัวเองเหมือนอยากให้เขารู้ตัวและหลีกทางให้เธอแต่เขาหาได้หลบให้เธอไม่ จนเธอต้องเอ่ย กรุณาหลีกทางด้วย ปริมเพียงคิดว่าเขาเข้ามาจีบเธอเท่านั้นและไม่จำเป็นที่ต้องรักษาน้ำใจฝ่ายตรงข้ามด้วยการถนอมคำพูด จะได้จบเธอไม่ชอบให้ท่าใครหรือให้โอกาสลมๆแล้งให้แก่ใคร
หือ นนท์ทำเสียงในลำคอ เบิกตากว้างเล็กน้อยไม่เคยคิดว่าหญิงสาวตรงหน้าจะกล้าพูดกับเขาถึงขนาดนี้ เพราะที่แล้วๆมาเก้าสิบเปอร์เซ็นเขาเป็นฝ่ายถูกรุกมากกว่าจะเดินเข้าหาเหมือนครั้งนี้
ธีรานนท์จ้องที่ใบหน้าสวยของหญิงสาวอย่างค่อยพิจารณา เธอสวยและมีเสน่ห์มาก จมูกโด่งน้อยปลายเล็กๆเชิดๆ ปากได้รูป หางตาที่เชิดขึ้นเล็กดูยั่วเขาน่าดู เขามองต่ำลงเรื่อยๆลงที่ผิวเนียนเปิดช่วงคอ ไหล่ สวยได้รูป บ่าเธอตั้งสวยได้รูปเหมากับชุดเกาะออกสีดำสั้นเหนือเข่า ช่วงขาที่ยาวเรียวดูเซ็กซี่ไม่น้อย ยอมรับว่าเธอสวยดึงดูดใจเขามากทีเดียว เธอไม่ใส่สเป็กเขาแต่เสน่ห์เธอทำให้เขาอยากตอแยเธอ และท่าที่ดูหยิ่งๆไม่แคร์เขานี่แหละ เขาชอบอะไรที่มันได้ยากๆนะเล้าใจดี เธอเหมือนปลุกเสือที่หลับให้ลุกมาล้าเหยื่ออย่างเธอ และถ้าเธอเป็นประเทชอบลองของกับผู้ชาย เขาก็ยินดีสอนให้เธอรู้สักบทด้วยความหมั่นไส้และอยากแกล้งเธอ

ธีรานนธ์โน้มหน้าตัวเองแทบแนบใบหูและแก้มของเธอ นนท์ได้กลิ่นน้ำหอมบางๆชั้นดีจากตัวเธอ มือข้างซ้ายที่ว่างอยู่ยั้งเอวคอด ฝ่ามือของเขาเลื่อนมาจับตรงกลางระหว่างเอวกับสะโพกแนบชิดเข้าที่ลำตัวของเขา เขารู้สึกอกงามและช่วงหน้าท้องที่ราบแบนของเธอนั้นสัมผัสเขาโดยตรง นนท์พูดเสียงพล่าอย่างเย้าเธอ หร๋อครับ นนท์ยังไม่คลายแขนแกร่งออกจากระหว่างเอวและสโพกกลมของเธอ
ปริม หน้าแดงรือ รู้สึกหวิวในใจและตกใจการกระทำที่อุกอาจของเขาที่ไม่เคยมีใครกล้าทำกับเธอมาก่อนและไม่ทันระวังตัวทำให้เขาสามารถกอดเธอได้ง่าย และดูเหมือนเธอจะโดนขโมยหอมแก้มด้วย และเธอยังอยู่ในอ้อมกอดเขา เมื่อปริมได้สติกลับคืนมา ปากเธอสั่นเล็กน้อย เธอพยายามใช้แขนข้างขวาผลักอกเขาเพื่อให้เขาคลายวงแขนของเขาออกจากตัวเธอ และพยายามที่จะโยกลำตัวเพื่อหลุด แต่หาได้เป็นผลไม่ เพราะเหมือนยิ่งรัดขึ้น

ปล่อยนะอีตาบ้า เธอแหว๋วใส่เขาเสียงดังกัดฟันได้ยินเพียงสองคน นายทำอย่างนี้ได้ไง ปล่อยนะ ปริมทั้งผลักออกและปัดป้องใบหน้าของเธอเองข้างที่เขาโน้มลงมาแทบแนบชิดแก้ม สายตาเขาที่มองเธอช่างร้ายกาจและยั่วโมโหเธอยิ่งนัก ปริมรู้สึกขยะแขยงหน้าตาหล่อ ตาเจ้าชู้ กับยิ้มยั่วของเขาย่งนัก ปริมยังไม่หยุดดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากโอบกอดของเขา
ธีรานนท์เหมือนจงใจเมื่อเห็นว่าเธอมีสติกลับมาและพยายามขัดขืนออกจากอ้อมกอดของเขา เขายิ่งอยากแกล้งเธอมากขึ้น แต่เขาจำเป็นต้องปล่อยเพราะสถานที่ไม่เหมาะอย่างยิ่งเขานึกเสียดายที่ต้องปล่อยเธอจากโอบกอดของเขาเหมือนกัน แต่ก่อนปล่อย เขาก้มหน้าหอมแก้มเธอหนักๆครั้งสูดเอาความหอมจากเธอเต็มปอด และเขาพูดว่า หอม ผมชื่อนนท์หรือธีรานนท์นะครับยินดีที่ได้รู้จัก ผมชอบคุณดิ้นในอ้อมกอดผมจังเพราะส่วนที่ยืนออกมาจากอกคุณนะช่างนิ่มดี ธีรานนท์ยังพูดยั่วข้างๆหูของเธอและผละออกทันทีอย่างเบามือเพราะถ้าช้าอาจโดนฝ่ามือเธอ

ว้าย !! เธอร้องเสียงหลงไม่นึกว่าเขาจะกล้าพูดถึงเพียงนี้ ปริมลูบหน้า ลูบหูอย่างรังเกียจ พลางใช้แขนทั้งสองข้างของตัวเองปกป้องส่วนที่เปิดเผย ปริมทำหน้ารังเกียจเขาอย่างเห็นได้ชัด ปริมกำมือมั้งสองแน่นด้วยความโกธร เธอตัดสินใจเดินเข้าไปหาเขาและใกล้อีกครั้ง ก่อนใช้สั้นเข็มร้องเท้าสั้นสูงของเธอกระแทกลงที่ปลายเท้าของธีรานนท์ทันทีอย่างสุดแรงและพูดว่า “ไปตายลงนรกซะไอ้โรคจิต”ปริมกึ่งเดินกึ่งวิ่งหนีเขาทันทีโดยไม่หันมามองอีกเลย
ธีรานนท์ไม่คิดว่าเธอจะใช้วีนี้เลยไม่ทันระวังด้วย เขายกขาขึ้นลงไปมาด้วยความเจ็บปวด แทบจะล้มลงถอดรองเท้าตัวเองดูนิ้วเท้าตัวเองว่าเป็นไง แต่เขาหาได้โกธรเธอไม่ เขาหัวเราะอย่างถูกใจถึงมันจะเจ็บมากก็ตามที หวังว่าโชคชะตาจะทำให้เราพบกันอีกนะ เขาพูดเบาๆและยิ้มอย่างพอใจกับตัวเอง ถ้าเขารู้ว่าโชคชะตากำลังทดสอบจิตใจเขา เขาคงจะไม่ขอพบเธออีกเป็นแน่…..





เตโช
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ธ.ค. 2554, 07:59:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ธ.ค. 2554, 07:59:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1222





<< ตอนที่3 สองครั้งแล้วนะที่เราเจอกัน1   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account