พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!

แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก

ตอน: เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 16

ตอนต่อไปมาแล้วค่ะ ขอบคุณทุกเมนท์ ทุกคนที่กดเข้ามาอ่านและทุกไลค์ที่กดให้กำลังใจกันนะคะ

ขอให้มีความสุข...สุขสันต์วันแห่งความรัก (ล่วงหน้า) นะคะ

-----------------------------------------------------------------------------------------------






ตอนที่ 18: คำตอบที่รอคอย





“คุณเก็บของหรือยัง ฉันไม่อยากกลับถึงบ้านค่ำนะ พรุ่งนี้มีสอนเช้า” นิชิตาที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดแจงกระเป๋าเสื้อผ้าของตนเองเงยหน้าขึ้นมาบอกคนที่กำลังนั่งเล่น Tablet อยู่บนอีกเตียงหนึ่งอย่างสบายใจ

“อยู่ต่ออีกวันได้ไหมคุณอาจารย์ ถือว่าพรีฮันนีมูน...เฮ้ย!!” คำสุดท้ายเป็นคำอุทานเสียงดังเมื่อขวดโลชั่นขนาดพอเหมาะมือลอยหวือเฉียดหน้าอารัทธ์ไปเพียงเสี้ยวเดียวเพราะคนถูกประทุษร้ายไวพอที่จะหลบได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงจะเจ็บอยู่ไม่น้อยเชียว

“เล่นอะไรเนี่ยคุณอาจารย์ เกิดผมหลบไม่ทันจะเป็นยังไง” อารัทธ์บ่นอุบหากคนที่จงใจเขวี้ยงเจ้าขวดโลชั่นขวดนั้นกลับเชิดหน้าขึ้นพร้อมมองชายหนุ่มตาขวาง

“มันก็โดนหน้าคุณน่ะสิ! พูดอะไรไม่คิด” นิชิตาตอบกลับเสียงเขียว

“ใครว่าไม่คิด นี่ผมคิดแล้วนะ”

“อยากโดนอีกหรือไง” ไม่พูดเปล่าเพราะมืออีกข้างหนึ่งหยิบกระปุกครีมทาหน้าที่คราวนี้เป็นกระปุกแก้วที่ถ้าเกิดปาถูกเป้าหมายจริงๆคงได้เลือกตกยางออกกันบ้าง

“ผมแค่ลองขอดู เผื่อคุณอาจารย์จะเห็นใจ...” อารัทธ์ลากเสียงยาว ตีหน้าเศร้าทำตาละห้อยราวกับเด็กน้อยที่กำลังขอของเล่นจากคุณแม่

“เห็นใจกับผีสิ แค่เมื่อคืนฉันยอมให้คุณเข้ามาในห้องก็ใจดีมากพอแล้ว ได้คืบอย่ามาเอาศอก” ว่าพร้อมกับจัดการเก็บของใช้ส่วนตัวลงในกระเป๋า

อารัทธ์เด้งตัวขึ้นมานั่งขัดสมาธิ หากในมือก็ยังถือเจ้า Tablet สีขาวเครื่องบาง

“แล้วน้องมุกจะกลับเมื่อไหร่ คุณได้ถามมาหรือเปล่า”

“ทำไมคุณไม่ถามพี่อาร์ม” นิชิตาไม่ยอมตอบคำถาม แต่ตั้งคำถามถามกลับไป

“แค่มันรู้ว่าผมตามมันมามันก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้ว ขืนไปจู้จี้ถามมันมีหวังได้โดนมันไล่เตะสิครับ” คนที่ยังนั่งกด Tablet อย่างสบายอารมณ์บอกตามความจริง สายตายังคงจ้องมองหน้าจอจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าคนที่นั่งเก็บของอยู่อีกเตียงกำลังอมยิ้ม

“ถ้าพี่อาร์มไล่เตะคุณจริง ฉันจะฝากส่วนของฉันอีกหนึ่งที”

อารัทธ์ละความสนใจกับจาก Tablet เครื่องโปรด ดวงตาชั้นเดียวจ้องมองอีกคนหนึ่งอย่างไม่ละสายตาจนคนที่ถูกมองรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนๆอย่างไรชอบกล

“มองอะไร” นิชิตาถามเสียงเย็น ไม่ชอบเสียเลยที่อารัทธ์จะมองเธอด้วยสายตาอย่างนี้ มันรู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะกักขังเธอไม่ให้ไปไหนด้วยสายตาที่จริงจัง

“ทำไมคุณเรียกไอ้อาร์มว่าพี่อาร์ม”

นิชิตาเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างสงสัยเมื่อจู่ๆอารัทธ์ก็ถามคำถามขึ้นมาตอนนี้ ทั้งๆที่เธอเรียกชิษวัศว่า ‘พี่อาร์ม’ อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ที่มุกตาภาแนะนำให้รู้จัก ถ้าจะสงสัยทำไมไม่สงสัยตั้งแต่แรก มาสงสัยกันตอนนี้ไม่ช้าไปหน่อยหรืออย่างไร

“แล้วคุณจะถามทำไม”

“ผมถามเพราะต้องการคำตอบนะคุณอาจารย์ ไม่ได้ต้องการให้คุณถามผมกลับ”

คนที่โดนย้อนนิ่มๆตวัดค้อนวงโต ไม่ชอบเอาเสียเลยเวลาที่อารัทธ์ทำเสียงนิ่งๆเย็นๆอย่างนี้ใส่กัน เวลาเขาทำท่าทางอย่างนี้ทีไร ไม่รู้ทำไมเธอถึงไม่ค่อยกล้าจะตีรวนใส่เขาสักที

“ก็เรียกตามมุก” นิชิตาตอบตามจริง เธอเรียกชิษวัศว่า ‘พี่อาร์ม’ เพราะเธอเรียกตามมุกตาภา

“แล้วทำไมไม่เรียกผมว่า ‘พี่อาร์ท’ บ้าง”

น้ำเสียงเย็นเฉียบเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นอบอุ่นขึ้นมาทันตา นิชิตาจ้องมองผู้ชายที่ชอบวนเวียนอยู่รอบตัวเธออย่างพินิจ สมองกำลังประมวลกับคำพูดเหล่านั้นว่ามันจริงจังแค่ไหนและคราวนี้...เธอยังลองเปิดหัวใจเพื่อสัมผัสกับความรู้สึกที่อารัทธ์ถ่ายทอดมาว่ามันเป็นความรู้สึกที่แท้จริง...หรือแค่ต้องการหลอกลวงกัน

“ทำไมไม่เรียกผมว่า ‘พี่อาร์ท’ บ้างครับ...หมูหวาน” อีกครั้งที่อารัทธ์เรียกชื่อเล่นของอาจารย์สาวตรงๆ และก็เป็นอีกครั้งที่นิชิตาควบคุมหัวใจตัวเองไม่ให้มันสั่นไหวไม่ได้เช่นกัน

“บอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียกว่าหมูหวาน”

“เหตุผลล่ะครับ”

พอถูกย้อนถามถึงเหตุผล นิชิตากลับเงียบไปพักหนึ่ง ทั้งที่หญิงสาวเป็นคนที่มีเหตุผลเสมอเวลาจะทำอะไรแต่พอเรื่องนี้...พอเธอถูกอารัทธ์ถามถึงเหตุผลเธอกลับอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบเขาไปเช่นไร

“เพราะฉันไม่ชิน”

“ต่อไปคุณก็จะชินเอง” อารัทธ์บอกพร้อมยิ้มน้อยๆ แต่คนที่ยังไม่ชินกลับขมวดคิ้วมุ่น เป็นตายร้ายดียังไงเธอก็จะไม่มีวันยอมให้อารัทธ์เรียกชื่อเล่นเธอเด็ดขาด มันไม่ดีแน่ถ้าจะปล่อยให้เขาเรียกเธออย่างสนิทสนมอย่างนั้น แม้จะไม่อยากยอมรับแต่ความจริงมันก็คือสิ่งที่คนเราไม่สามารถหลีกหนีได้

ความจริงที่ว่า...เธอกลัว...กลัวเหลือเกินที่จะเดินตามรอยเดียวกับนิษศินี และกลัว...ว่าอารัทธ์จะทิ้งเธอไปอย่างนั้นเช่นกัน

...แค่คราวพีรัชเธอก็เจ็บปวดมากพอแล้ว ไม่อยากเลยที่จะเจ็บซ้ำอีกครั้ง...

“ฉันไม่อยากเคยชิน ไม่อยากเอาตัวเองไปผูกติดกับใคร เพราะฉะนั้นอะไรที่คุณหวังมันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก” ปากขยับปฏิเสธหากสายตากลับไม่กล้าสบมอง นิชิตาพูดไปพร้อมกับๆกระเป๋าเสื้อผ้าที่ถูกปิดลง

“บอกแล้วไงครับถึงคุณจะปฏิเสธผมไปทั้งชีวิต ผมก็จะตามบอกรักคุณไปทั้งชีวิตเหมือนกัน”

“แล้วคุณก็จะเบื่อไปเอง” นิชิตาบอกเบาๆ ก้าวลงจากเตียงก่อนจะลงไปยืนเต็มความสูงของตัวเอง “พี่อาร์มกับมุกจะออกจากที่นี่ช่วงบ่าย ฉันให้เวลาคุณครึ่งชั่วโมง เก็บของให้เรียบร้อยด้วยนะคะ” ตอบคำถามที่อารัทธ์สงสัยในตอนแรกเรียบร้อยแล้วจึงยกกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องไป

อารัทธ์มองตามร่างเล็กบางที่เพิ่งออกไปอย่างอ่อนใจ แม้จะรู้จักนิชิตามาสักพักแต่ชายหนุ่มกลับหาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะเหตุใดคุณอาจารย์ของเขาถึงทำท่าเข็ดขยาดกับความรักเสียขนาดนั้น จริงอยู่ที่ภาพลักษณ์ภายนอกของเขาจะเป็นผู้ชายที่คบผู้หญิงแทบจะไม่ซ้ำหน้า หากตั้งแต่เจอเธอ ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เธอได้เห็นแล้วว่าเขาจริงจังกับเธอมากเพียงใด แค่เธอ...ที่เขายอมยกและหยุดหัวใจไว้ตรงนี้...แต่ทำไมถึงไม่ยอมเชื่อกัน

...ต้องทำอย่างไรถึงจะยอมเชื่อใจกันหรือคุณอาจารย์...ผมต้องทำอย่างไรคุณถึงจะยอมเชื่อและยอมเปิดหัวใจให้ผมบ้าง...แค่เพียงนิดหน่อยก็ยังดี...












ชิษวัศกลับจากการหารือกับว่าที่หุ้นส่วนคนใหม่ซึ่งได้บทสรุปที่ชายหนุ่มเองรู้สึกพอใจไม่น้อยเมื่ออีกฝ่ายยอมรับและพอใจกับข้อเสนอที่ตนเองได้เสนอไป และเมื่อคุยเรื่องงานเสร็จเรียบร้อยชิษวัศก็รีบกลับมายังห้องพักอย่างรวดเร็วด้วยใจที่เป็นห่วงมุกตาภาที่นอนป่วย ไม่รู้ว่าเธอจะค่อยยังชั่วขึ้นหรือเป็นหนักกกว่าเดิม

...แต่ถ้าเป็นหนักกว่าเดิม พี่ก็มียาขนานพิเศษเพื่อหนูมุกเพียงคนเดียว...

ประตูห้องพักถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่ก้าวเท้าเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว จุดหมายปลายทางคือเตียงกว้างที่คนป่วยนอนหลับสนิทโดยหารู้ไม่ว่าอีกคนหนึ่งได้กลับมาถึงห้องและค่อยๆทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆเธอ
ชิษวัศค่อยๆเกลี่ยเส้นผมเส้นเล็กที่ตกมาปรกบริเวณหน้าผากมน ยามหลับมุกตาภายิ่งแลดูเหมือนเด็กน้อย ดวงตาสีนิลค่อยๆสำรวจใบหน้าของคนที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราอย่างพินิจ แก้มที่ยุ้ยแสนยุ้ยเมื่อครั้งยังเด็กแปรเปลี่ยนมาเป็นแก้มนวลสีชมพูเลือดฝาดที่ใสจนเห็นเส้นเลือดจางๆ ปลายจมูกเชิดรั้น คิ้วที่ไม่ต้องกันก็สวยได้อย่างธรรมชาติ สุดท้ายสายตาคู่นั้นก็มาหยุดตรงริมฝีปากบางสวย ที่มักแย้มยิ้มอยู่เสมอเวลาอยู่ต่อหน้าเขา ไม่ว่าเขาจะร้ายหรือจะดีกับเธอก็ตาม

“ถ้าพี่รัก...หนูมุกจะไม่ทิ้งพี่ไปใช่ไหม” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยเบาๆราวกับต้องมนต์สะกด ใบหน้าคมค่อยๆก้มลงทีละนิดจนจมูกโด่งสันจนกับปลายจมูกเชิดรั้น หากกิริยาทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักเมื่อคนที่นอนหลับลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่รวยรินรดใบหน้า

“พะ...พี่อาร์ม!” คนที่เพิ่งตื่นเรียกชื่อผู้ชายที่กำลังก้มหน้าลงมาชิดกับเธอด้วยนำเสียงตกใจ ชิษวัศอมยิ้มน้อยๆก่อนจะกลับมานั่งในท่าปกติ ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับท่าทีแตกตื่นของอีกฝ่าย แถมยังทำหน้าและตั้งคำถามกลับราวกับว่าเหตุการณ์ที่ตนเองตั้งใจทำเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น!

“ตื่นแล้วเหรอ”

มุกตาภาตวัดสายตามองค้อน ความจริงเธอก็ไม่ได้อยากตื่นขึ้นมานักหรอก อาการปวดท้องนั้นทุเลาลงมากและเธอก็กำลังนอนหลับสบายๆ แต่ใครก็ไม่รู้ดันมาหายใจรดอยู่ตรงหน้า ขืนไม่ตื่นเธอคงเสียเปรียบเขาไปเสียหมด

“พี่อาร์มจะทำอะไร” คนป่วยถามเสียงเขียว

“ก็จะมาดูว่าหนูมุกค่อยยังชั่วหรือยังครับ”

“มุกค่อยยังชั่วแล้ว กลับกรุงเทพฯเลยก็ได้ค่ะ” มุกตาภาบอกเสียงเบา ค่อยๆเขยิบตัวเองให้ห่างจากร่างสูงที่ทรุดตัวลงนั่งอยู่ข้างๆกัน

“แน่นะ” ไม่พูดเปล่า เพราะชิษวัศขยับตัวร่นระยะที่มุกตาภาออกห่างไปเมื่อครู่ให้มาอยู่ในระยะประชิดดังเดิม

“พะ...พี่อาร์ม!” แล้วก็เป็นอีกครั้งที่มุกตาภาต้องเรียกชื่อของอีกฝ่ายด้วยน้ำเวียงตะกุกตะกักเมื่อใบหน้าคมสันนั้นแทบจะชิดกับใบหน้าของเธอ

“พี่ถามว่าแน่ใช่ไหม คำตอบล่ะครับ” ลมหายใจอุ่นๆของชิษวัศที่รวยรินรดใบหน้าทำให้หญิงสาวต้องรีบหันหน้าหลบ แต่เมื่อทำอย่างนั้นจมูกโด่งสันของพี่อาร์มกลับกดลงบนแก้มนวลของเธอเต็มๆ

“จะหันแก้มมาให้พี่หอมทำไมไม่บอกกันก่อน พี่จะได้เตรียมตัวกดจมูกลงไปหนักๆ” น้ำเสียงที่กลั้วหัวเราะทำเอาคนที่หันแก้มไปให้หอมหน้าร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ ทั้งๆที่จงใจหลบแท้ๆ แต่สุดท้ายก็ยังคงเป็นเธอที่เสียเปรียบเขาเห็นๆอยู่ทุกประตู

“พี่อาร์มขา...ถอยออกไปก่อนได้ไหมคะ” เมื่อเห็นว่าคนตัวโตยังไม่ยอมขยับเขยื่อนไปไหน มุกตาภาจึงหันมาใช้ไม้เดิม นั่นคือการเอาน้ำเย็นเข้าลูบ...พูดจาหวานๆ เพราะๆเข้าไว้

ชิษวัศกระตุกยิ้มมุมปากอย่างรู้ทันว่าเมื่อใดที่มุกตาภาพูดจาหวานๆเพราะๆกว่าปกติที่เธอเคยทำ แสดงว่าหญิงสาวหาทางออกของปัญหาวิธีอื่นไม่ได้นอกจาก ‘การอ้อนพี่อาร์ม’ อย่างที่เด็กหญิงมุกตาภาตัวจ้อยเคยทำ

“เรียกอย่างนี้พี่ไม่อยากปล่อยไปเลยรู้ไหม” น้ำเสียงทุ้มนุ่มประดุจความหอมหวานของเกสรดอกไม้ยั่วยวนเหล่าภู่ผึ้งนานาพันธุ์ให้มาลิ้มลอง มุกตาภารู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นผึ้งตัวน้อยที่ถูกดอกไม้เจ้าเล่ห์อย่างชิษวัศหลอกล่อให้เข้ามาติดกับด้วยสายตาและคำหวาน

“ไม่อยากปล่อยไปทั้งชีวิตหรือเปล่าคะ” ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้คนที่เสียเปรียบอยู่ทุกประตูนึกใจกล้าขึ้นมาต่อกรด้วยคำถามที่เป็นราวกับไม้หน้าสามฟาดลงกลางกระหม่อมจนฝ่ายที่คิดว่าตัวเองนั้นถือไพ่เหนือกว่ากลับโดนพลิกเกมกลายเป็นฝ่ายที่แทบจะไปต่อไม่เป็น

มุกตาภาแอบยิ้มมุมปากนิดหนึ่งเมื่อเห็นชิษวัศตะลึงค้างไปพักใหญ่เมื่อถูกเธอตั้งคำถามกลับไปอย่างนั้น ชิษวัศคงไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำอะไรบ้าบิ่นทั้งที่สถานการณ์เป็นรองขนาดนี้ แต่หญิงสาวอยากให้ชายหนุ่มได้รู้ไว้...ว่าถ้าเขากำลังเล่นอยู่กับความรู้สึกของเธอโดยที่ไม่คิดจะจริงจังหรือทำเพื่อแค่จะเอาคืน เธอจะไม่มีวันให้อภัยเขาแน่...และเมื่อถึงเวลานั้น...เธอจะหันหลังเดินจากไปจากผู้ชายคนนี้ทันที แม้เขาจะเป็นรักแรกและรักเดียวของเธอก็ตาม

“พี่อาร์ม...” มุกตาภาเรียกชื่อเล่นอีกฝ่ายเสียงยาว “มุกถามอยู่นะคะ ว่าพี่อาร์มไม่อยากปล่อยไปทั้งชีวิตหรือเปล่า ขอคำตอบด้วยได้ไหมคะ” คราวนี้หญิงสาวใช้วิธีเดียวกันกับที่ชิษวัศขอคำตอบจากเธอ จะปรับเปลี่ยนไปนิดคงเป็นรอยยิ้มกับสายตาที่หวานปานน้ำผึ้งกระมังที่ต่างจากวิธีของชิษวัศออกไป

“ถามพี่อย่างนี้แสดงว่าเมื่อคืนจำได้ทุกอย่างใช่ไหมว่าพูดอะไรกับพี่บ้าง” เมื่อรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงกลับมาได้ครบถ้วน ชิษวัศจึงกลับเข้ามาสู่บทสนทนา คำถามที่ค้างคาใจมาตั้งแต่เมื่อคืนถูกถามขึ้นมาอีกครั้ง เขาอยากรู้...ว่าคำรักของมุกตาภาเมื่อคืนมันมาจากใจจริงของเธอทั้งหมด หรือพูดออกมาเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์

“มุกถามพี่อาร์มก่อนนะ” มุกตาภาเลี่ยงไม่ตอบคำถามของชิษวัศ แม้ในคราวแรกเธอจะไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เพราะความเขินอาย แต่ถ้าคำยืนยันของเธอจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับชิษวัศว่าทุกคำที่เธอพูดนั้นล้วนออกมาจากหัวใจ ถ้าคำยืนยันของเธอจะช่วยให้ชิษวัศยอมผิดข้อห้ามของตัวเอง...เธอก็พร้อมที่จะยืนยันคำพูดที่ได้พูดเมื่อคืน...อีกครั้ง

“แต่พี่ต้องการคำตอบก่อนครับ” ชิษวัศเริ่มงัดนิสัยเอาแต่ใจที่ไม่ได้ใช้มานานขึ้นมาใช้

“แล้วถ้ามุกบอกว่าจำได้...ความรู้สึกของพี่อาร์มจะเปลี่ยนไปไหม” มุกตาภาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีนิลอย่างค้นหา หากเจ้าของดวงตากลับนิ่งไปนิดก่อนจะขยับริมฝีปากเอ่ยออกมา

“พี่...ไม่มั่นใจ” คำตอบของชิษวัศรวมถึงสีหน้าและท่าทางที่แสดงออกมาทำเอามุกตาภาเกือบหลุดหัวเราะกิ๊ก ใครจะไปรู้เล่าหนอว่าคนอย่างชิษวัศจะมีมุมที่ไม่มั่นใจไหล่ตกอย่างนี้ด้วย เห็นแล้วก็อดที่จะขำไม่ได้แต่เธอก็ต้องตีสีหน้านิ่งเฉยไว้เพราะคำตอบที่เธอต้องการไม่ใช่คำว่า ‘ไม่มั่นใจ’

“การที่มุกยืนยันว่ามุกจำคำพูดของตัวเองที่บอกพี่อาร์มเมื่อคืนได้ มุกไม่ได้อยากได้คำตอบจากพี่อาร์มว่าไม่มั่นใจนะคะ...มุกอยากได้คำตอบแค่ว่า...เปลี่ยน หรือ ไม่เปลี่ยน”

“เป็นผู้หญิงมาขอเอาคำตอบจากผู้ชายอย่างนี้ไม่น่ารักเลยนะหนูมุก” ชิษวัศตำหนิเสียงต่ำแต่คนถูกตำหนิกลับทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว ถึงชิษวัศต่อว่าเธอมากกว่านี้ก็ได้ แต่ตอนนี้เธอตัดสินใจแล้วว่าต้องรู้ให้ได้ว่าพี่อาร์มคิดอย่างไรกับเธอกันแน่...แค่น้องสาว...หรือมากกว่านั้น

“การขอคำตอบจากพี่อาร์ม มุกยอมที่จะไม่น่ารักก็ได้ เพราะมุกรู้ว่าคนอย่างพี่อาร์มถ้าไม่ต้อนให้จนมุม พี่อาร์มไม่มีทางที่จะยอมพูดความจริงแน่ ว่ายังไงคะ คำตอบของมุก เปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน”

ชิษวัศจ้องมองดวงตาคู่สวยกลับก่อนจะถอนหายใจออกยาว นอกจากบิดาและมารดา มุกตาภาเป็นคนแรกที่ต้อนชายหนุ่มจนจนมุมเสียขนาดนี้ ทั้งคำพูด ดวงตา สีหน้า ท่าทางที่แน่วแน่จริงจังของเธอนั้นราวกับเป็นกำแพงกั้นตัวเขาเองไว้หมดทุกด้าน ไม่ว่าจะคิดหาทางออกทางไหนก็หนีไม่พ้น เพราะฉะนั้นหนทางที่ดีที่สุดคงจะเป็นหันหน้าและตอบคำถามในสิ่งที่เธออยากรู้

“พี่...ชอบหนูมุกมากนะครับ แล้วก็คิดว่าคำว่า ‘ชอบ’ คงเปลี่ยนเป็นคำว่า ‘รัก’ ได้ไม่ยาก”

หัวใจดวงน้อยของคนที่รอคอยคำตอบเต้นโครมครามอย่างที่เจ้าตัวก็ห้ามมันไม่อยู่ คำพูดของชิษวัศคือคำตอบที่มุกตาภารอคอยมานานแสนนาน เธอเฝ้ารอ...ว่าเมื่อไรที่พี่อาร์มจะใจตรงกันกับเธอ

“แต่ยิ่งพี่ชอบมากเท่าไหร่ พี่ก็ยิ่งไม่มั่นใจมากขึ้นเท่านั้น ข้อห้ามของพี่พี่สร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองไม่ให้หัวใจดวงนี้เจ็บเป็นครั้งที่สอง พี่รู้...ว่าหนูมุกคิดยังไงกับพี่ แต่พี่...ไม่มั่นใจว่าจะรักหนูมุกได้ดีพอ”

ความจริงในใจจากปากของชิษวัศสร้างรอยยิ้มละมุนบนดวงหน้าสวยหวาน มุกตาภาเอื้อมมือมากอบกุมมือใหญ่ที่คอยจับจูงและประคับประคองเธอไว้เสมอเมื่อครั้งยังเด็ก มือคู่เธอต้องจำใจจากไปเกินกว่าสิบปี หากก็เป็นมือคู่นี้อีกเช่นกันที่จากนี้และตลอดไปเธอจะคอยกอบกุมพร้อมกับเดินเคียงข้างเขาตลอดไป

“มุกรักพี่อาร์มเพราะเป็นพี่อาร์ม ไม่ได้รักพี่อาร์มเพราะพี่อาร์มจะรักมุกได้ดีหรือไม่ดี เข้าใจหรือเปล่าคะ”

ชิษวัศมองคนที่ส่งรอยยิ้มละมุนละไมมาให้ด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนแม้ตอนที่คบกับทวิดาร์ มันเป็นความรู้สึกที่อ่อนหวานทว่าอบอุ่น แววตาของมุกตาภาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเชื่อมั่นและเชื่อใจในคำพูดของเธอ การกระทำของเธอทำให้เขาอยากจะลองเชื่อและก้าวเข้าไปใกล้เธออีกก้าวหนึ่ง

“ถ้าหนูมุกจะเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นพี่ก็ไม่ว่านะครับ”

แม้จะตัดสินใจแล้วว่าจะลองก้าวพ้นข้อห้ามของตัวเองแต่ชิษวัศก็ยังเปิดโอกาสให้มุกตาภาลองมองคนอื่นบ้าง เพราะชายหนุ่มก็ยังไม่มั่นใจว่าท้ายที่สุดแล้วถ้าเธอค่อยๆรู้จักเขามากขึ้น เธอจะทนรับได้และไม่หันหลังเดินจากไปเหมือนกับทวิดาร์หรือไม่

“ถ้าจะปฏิเสธก็ปฏิเสธมาตรงๆดีกว่าค่ะ อย่าไล่มุกให้ไปรักคนอื่นเพราะมุกไม่คิดจะรักใครนอกจากพี่อาร์ม” มุกตาภาสวนกลับเสียงสะบัด ความรู้สึกน้อยอกน้อยใจแล่นขึ้นมาเป็นริ้ว

“พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ชิษวัศรีบแก้ “แต่พี่ก็ไม่อยากให้หนูมุกปิดโอกาสตัวเองโดยที่ไม่มองคนอื่น พี่บอกแล้วว่าพี่ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีอะไรหรอกนะครับ พี่เมื่อตอนเป็นเด็กกับพี่ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันต่างกันแล้ว พี่อยากให้หนูมุกคิดให้ดี”

“จะตอนเป็นเด็กหรือตอนนี้พี่อาร์มก็คือคนที่มุกรัก ต่อให้มุกลองเปิดใจมองคนอื่นแต่มุกมั่นใจว่ามุกไม่สามารถรักใครได้เท่ากับพี่อาร์ม” หญิงสาวตอบกลับอย่างหนักแน่น ความผูกพันเมื่อครั้งวัยเยาว์ถักทอและสานต่อจนกลายเป็นความรักที่ต่อให้เวลาจะผ่านพ้นล่วงเลยไปนานแค่ไหน ทว่าความรักนั้นก็ยังคงอยู่ ไม่ได้ลบเลือนหรือจืดจางไปตามกาลเวลา

ชิษวัศถอนหายใจออกยาว ดวงตาคู่คมสีนิลจ้องมองไปยังดวงตาคู่โตสีน้ำตาลเข้มที่มองสบตาด้วยแววตาที่เฝ้ารอการตัดสินใจของชายหนุ่ม

“พี่ตอนนี้กับพี่ตอนเด็กมันต่างกันแล้วนะครับ” ชิษวัศเน้นย้ำคำพูดเดิมเพื่อให้มุกตาภารับรู้อีกครั้ง

“ค่ะ”

“ถึงพี่จะไม่ได้เลวร้ายแต่ก็ไม่ใช่ชายหนุ่มผู้แสนดีอย่างพระเอกละครด้วยนะครับ”

“ค่ะ”

“พี่ไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษตลอดเวลาด้วยนะครับ” ประโยคนี้ของชิษวัศทำเอามุกตาภากลั้นยิ้มแทบตาย

“มุกรู้แล้ว พี่อาร์มน่ะเจ้าเล่ห์จะตาย แล้วยังไงต่อคะ”

“วันสำคัญหรือวันครบรอบอะไรพวกนั้นพี่ก็ไม่ค่อยจำด้วยนะครับ”

“ค่ะ พี่อาร์มไม่ต้องจำก็ได้ เดี๋ยวมุกจำเอง”

“พี่บ้างาน ทำงานจนไม่ดูเวลา ชอบผิดนัดหรือสายบ่อยๆด้วยนะครับ”

“ค่ะ มีคนเคยบอกมุกแล้ว” มุกตาภายังคงยอมรับในข้อเสียที่ชิษวัศกำลังงัดมาบอกเธอ แม้หลายคนอาจจะมองว่าชิษวัศเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบแต่เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่ ผู้ชายคนนี้ก็เป็นผู้ชายธรรมดาที่ต้องการคนคอยให้กำลัง คอยอยู่เคียงข้างและเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น

“ถ้าจะเป็นแฟนพี่ต้องอดทนมากๆเลยนะครับ”

“ค่ะ...เอ๊ะ!” มุกตาภาตอบรับแล้วก็ต้องร้องขึ้นมาเสียงดังเมื่อสะดุดกับคำว่า ‘แฟน’

“พี่อาร์มบอกว่า ‘แฟน’ หรือคะ สรุปว่าพี่อาร์มยอมผิดข้อต้องห้ามของตัวเองแล้วใช่ไหม” ดวงตาเป็นประกายราวกับเด็กน้อยที่ดีใจเวลาผู้ปกครองพาไปเที่ยวคือแววตาที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของมุกตาภาตอนนี้
ชิษวัศเอื้อมมือขึ้นมาโยกศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีดำสนิทที่ลื่นสลวยเบาๆ

“แล้วใครใช้ให้หนูมุกมาทำให้พี่ตบะแตกล่ะ แบบนี้มันน่านักเชียว” ไม่พูดเปล่าเพราะชิษวัศถือโอกาสกดจมูกลงบนแก้มนวลเสียหนึ่งที

“พี่อาร์มจะหอมอีกข้างมั้ย มุกจะหันให้หอม” มุกตาภาแกล้งพูดอย่างก๋ากั่น ไม่รู้เสียแล้วว่าคำท้าของตนเองสร้างไฟเสน่หาให้กับอีกคนมากแค่ไหน

มือที่จับอยู่บนศีรษะของหญิงสาวค่อยๆลดลงจนถึงข้างแก้มก่อนที่ชายหนุ่มจะนิ้วหัวแม่มือเกลี่ยแก้มใสเบาๆ

“พูดอย่างนี้พี่จะคิดว่าหนูมุกกำลัง ‘ท้า’ พี่อยู่นะ”

มุกตาภาเม้มริมฝีปากของตัวเองจนเป็นเส้นตรงเมื่อสถานการณ์เริ่มจะตกเป็นรองชิษวัศเข้าให้อีกแล้ว แต่ก็ยังทำเป็นเก่งกล้ามองสบดวงตาคู่คมนั่นตรงๆ

“มุกไม่ได้ท้า”

“ถ้าอย่างนั้นพี่จะทำจริงๆนะ” มุกตาภานิ่งไม่ตอบคำตอบใดกลับไป คำพูดที่ฟังดูแสนจะกำกวมของชิษวัศสร้างความเขินอายให้กับหญิงสาวได้ไม่น้อยเมื่อดวงหน้าหวานค่อยซับสีเลือดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“เงียบอย่างนี้แสดงว่าไม่ว่าอะไรนะครับ” ทันทีที่จบประโยคชิษวัศ ริมฝีปากหยักลึกก็ประทับลงบนริมฝีปากบางสวยอย่างรวดเร็วทว่าเนิ่นนาน จูบที่อ่อนโยนอ่อนหวานแต่ก็แฝงไปด้วยความเร่าร้อนเมื่อชิษวัศค่อยๆสอนบทเรียนให้กับสาวน้อยคนนี้ไปทีละนิด และเมื่อชายหนุ่มพอใจกับผลงานการสอนบทเรียนแรกของตัวเองจึงค่อยๆถอนจูบออกอย่างเชื่องช้า เพราะถ้าปล่อยให้นานกว่านี้ ชิษวัศเองก็ไม่มั่นใจเลยว่ามันจะจบลงที่เพียงแค่จูบนี้เพียงจูบเดียว

“ถ้าจะจูบต้องจูบอย่างนี้รู้ไหม อย่างที่หนูมุกจูบพี่ตอนนั้นน่ะ ใช้ไม่ได้เลย”

คำพูดผสมรอยยิ้มยั่วของชิษวัศทำให้ใบหน้าที่แดงด้วยความเขินอายอยู่แล้วยิ่งแดงเข้าไปใหญ่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อครู่

“คนหน้าไม่อาย” พูดพร้อมตวัดค้อนเสียอีกหนึ่งทีเพื่อกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง

“ถือว่าเป็นของกำนัลแรกสำหรับแฟนของพี่ก็แล้วกันครับ” ชิษวัศบอกพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นมายืนข้างๆเตียงก่อนจะหงายมือยื่นไปตรงหน้ามุกตาภา

“กลับกันได้แล้วครับ”

มุกตาภายิ้มรับก่อนจะยื่นมือไปวางบนมือของชิษวัศรอจนเขากุมไว้พร้อมกับออกแรงดึงเบาๆให้เธอลุกขึ้นมายืนที่ข้างๆเตียงด้วยกัน

“กลับกรุงเทพฯคราวนี้พี่คงต้องจัดการอะไรหลายเรื่องทีเดียว” ชิษวัศพูดพลางกับลากกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองและ มุกตาไปยังหน้าประตูห้อง

“เรื่องงานเหรอคะ” คนที่เดินตามหลังมาถามกลับ ชิษวัศพยักหน้ารับ

“เรื่องงานก็เรื่องหนึ่งครับ แต่ยังมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า” บอกพร้อมกับส่งสายตาแปลกๆมายังคนที่ตอนนี้หยุดยืนอยู่ข้างๆกัน

“อะไรคะ” มุกตาภาตั้งคำถามอีกครั้ง เพราะรู้ทันว่าชิษวัศต้องการให้เธอถามเขากลับ

“พี่จะไปบอกไอ้อาร์ทว่าอย่าริอาจจะมายุ่งกับหนูมุกของพี่...” ชิษวัศทอดทั้งเสียงทั้งสายตามายังร่างบางที่ยืนเคียงข้างกัน

“ผู้หญิงของพี่...พี่หวง”

มุกตาภาแทบจะหลบสายตาวิบวับที่จ้องมองมายังตัวเองแทบไม่ทัน ใครจะไปรู้ว่าเพียงชั่วพริบตาชิษวัศจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ หรือบางทีเขาอาจจะไม่เคยเปลี่ยนแต่เป็นเธอเองต่างหากที่ไม่เคยรู้เลยว่าพี่อาร์มมีมุมที่นิสัยอย่างนี้อยู่ด้วย

“พี่อาร์ทไม่ได้คิดกับมุกอย่างนั้นซะหน่อย พี่อาร์มนั่นแหละคิดไปเอง” มุกตาภาแก้ต่างแทนอารัทธ์ แม้จะพอรู้มาบ้างว่าอารัทธ์นั้นเจ้าชู้ แต่ท่าทีที่ชายหนุ่มแสดงกับเธอมันไม่ได้เข้าข่ายชู้สาวเลยสักนิด ถ้าเป็นนิชิตาสิว่าไปอย่าง

“เอาเป็นว่าพี่ต้องบอกมันไว้ก็แล้วกัน อาร์ทมันจะได้รับรู้ไว้ว่าอย่าคิดที่จะมายุ่งกับผู้หญิงของพี่”

“เผด็จการ” แม้จะต่อว่าแต่ดวงตาของหญิงสาวกลับฉายชัดไปด้วยความดีใจ

“มีแฟนน่ารักต้องเผด็จการไว้ครับ ผู้ชายคนอื่นจะได้รู้ไว้ว่ามุกเม็ดนี้มีคนจองแล้ว”

ชิษวัศบอกพร้อมรอยยิ้มกว้าง ยิ้ม...ที่ทำให้มุกตาภาอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบกลับไป เวลาที่เธอเฝ้ารอคอยความรักของพี่อาร์มนั้นไม่ได้สูญเปล่าเลยเมื่อตอนนี้เธอได้รับความรักนั้นตอบกลับมา หญิงสาวไม่รู้ว่าตอนนี้ชิษวัศรักเธอเท่ากับที่เธอรักเขาหรือไม่ แต่นั่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไปในเมื่อตอนนี้ เวลานี้ทั้งเธอและชิษวัศ ‘เรา’ มีความรู้สึกที่ตรงกัน เพียงเท่านี้ก็พอแล้วสำหรับการรอคอยอันแสนยาวนานของเธอ


-----------------------------------------------------------------------------------------------

เขียนตอนนี้จบแล้วต้องถอนหายใจยาวๆหนึ่งที เฮ้อออออออ...พี่อาร์มยอมแพ้ซักที! วางมาดมานาน เย้.....

ถือว่าการมาหัวหินประสบผลสำเร็จนะคะ ฮ่าๆ หนูมุกทำลายข้อห้ามของพี่อาร์มจนได้ และถ้าพี่อาร์มไม่ยอมรับสงสัยคงจะโดนคนอ่านที่น่ารักรุมเสียมิใช่น้อย แหะๆๆ

ตอนหน้ามาดูกันค่ะว่าพอเป็นแฟนแล้วจะมีเรื่องอะไรมาทดสอบคู่รักคู่นี้กันบ้าง (แอบกระซิบบอกว่าตอนหน้าพี่อาร์ทเจอพี่สาวหมูหวานแล้วนะคะ อิอิ)

ปล. ชอบก็กดไลค์เป็นกำลังใจกันนะค้า...ทักทายกันหน่อยจ้าาาาาา :)



ตอบเมนท์จ้า...

คุณ violette : อ่านตอนนี้แล้วยังอ๊ายอยู่มั้ยคะ อิอิอิ

คุณ roseolar : เป็นยาวิเศษที่พี่อาร์มคิดค้นมาเองค่ะ ท่าทางจะได้ผลซะด้วย หนูมุกหายเป็นปลิดทิ้งเลย ฮ่าๆ // ปล. ปอแก้วกระซิบบอกเองแหละค่ะ บอกว่า...พี่อาร์มขาคนอ่านเค้าเริ่มจะเซ็งพี่อาร์มแล้วนะช่วยทำตัวน่ารักๆหน่อยเถอะ เดี๋ยวเรตติ้ง (ที่ไม่ค่อยจะมี) จะตกหมด 5555

คุณ anOO : หนูมุกแทบอยากจะหายในทันทีเลยล่ะค่ะ

คุณ teesaparn : อยากได้เหรอคะ อิอิ เดี๋ยวปอแก้วบอกพี่อาร์มให้เนอะ :P

คุณ nunoi : ฮ่าๆ คุณ nunoi อยากป่วยและได้ยาวิเศษบ้าง เดี๋ยวปอแก้วบอกพี่อาร์มให้ค่ะ :)

คุณ mookisme : 55555 ดิ้นเลยๆ พี่อาร์มน่ารักใช่ม้าาาาาา ><

คุณ Amata : พี่อาร์มกลัวคนอ่านจะไม่รักค่ะเลยต้องทำตัวดีขึ้นบ้าง :)






ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.พ. 2555, 11:00:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.พ. 2555, 22:58:15 น.

จำนวนการเข้าชม : 1830





<< เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 15   เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 17 >>
nunoi 12 ก.พ. 2555, 13:23:18 น.
พี่อาร์มน่ารักขึ้นเยอะเชียว


roseolar 12 ก.พ. 2555, 20:10:49 น.
พี่อาร์มกับหมูหวานมีอดีตฝังใจกับรักครั้งแรกด้วยกันทั้งคู่
ตอนนี้หนูมุกต้อนพี่อาร์มออกจากคอกช้ำรักมาอยู่ในคอกมีรักได้แล้ว หวังว่าอีกไม่นาน...พี่อาร์ทจะต้อนหมูหวานมาไว้เป็นหมูในอวยใจได้สักทีนะคะ คริคริ
ตอนนี้ หนูมุกยังคงก๋ากั่นได้อย่างน่ารักคงเส้นคงวาเหมือนเคย เฮ้อ!ลุ้นกับคู่นี้จนเหนื่อย ในที่สุดก็ลงล็อคซะที จะเหลือก็แต่หมูหวานจอมเฮี๊ยบเนี่ยแหละ อยากจะรู้นัก เจอพี่อาร์ทอ้อนหนักๆ มีเหรอจะยังใจแข็งอยู่ได้ ขนาดคนอ่านยังระทวยแล้วเนี่ย พี่อาร์ทขา หมูหวานไม่รักไม่เป็นไร คนอ่านคนนี้หัวใจยังว่างนะค้าา
สุดท้ายนี้ เป็นกำลังใจให้คุณปอแก้วนะคะ สู้ๆค่ะ ^ ^


WallyValent 12 ก.พ. 2555, 21:21:49 น.
พอรักกันเสร็จก็หึงเลยนะพี่อาร์ม
ปล.ยังอยากได้อยู่ หนูมุกอย่าเผลอนะคะ 555+ (ประกาศศึกต่อไป อิอิ)


violette 12 ก.พ. 2555, 21:28:04 น.
แหม้ ปากไม่แข็งแล้วน่ารักเชียวนะคะพี่อาร์ม
ส่วนนายอาร์ทก็รอต่อไปดีกว่า อิอิ


pattisa 12 ก.พ. 2555, 22:24:06 น.
แหมๆ พี่อาร์ม ได้ทีเอาเปรียบหนูมุกใหญ่


anOO 13 ก.พ. 2555, 13:31:19 น.
พี่อาร์ม แอบสอนวิชาให้พี่อาร์ทบ้างนะ
ตอนนี้พี่อาร์มน่ารักมากถึงมากที่สุด แต่คิดว่าคงจะน่ารักได้มากกว่านี้ด้วย


mookisme 13 ก.พ. 2555, 20:22:10 น.
ทำได้ อย่างเดียวคือกรี๊ดดดดดดดดดดดด พี่อาร์มขาาาาา


Amata 27 ก.พ. 2555, 11:55:11 น.
ขอโทษที(ติดงาน)ไม่ได้เข้ามาซะนาน ตามให้กำลังใจก่อนแล้วกันนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account