เพลิงรัก มนต์สวาท
เดี๋ยวมาลงจ้ะ
Tags: มนต์ดำ เสน่ห์ยาแฝด เพียงดาว อัศนัย เพลงพิณ

ตอน: ตอนที่ 15

ตอนที่ 15

อัศนัยมองข้าวของในกล่องกระดาษพรุ่งนี้เขาจะเอาไปแจกพวกเด็กๆ ในไร่ให้หมด จบกันทีสำหรับผู้หญิงหลายใจมารยาสาไถอย่างเพลงพิณ อัศนัยหยุดคิดและหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงกุกกักตรงหน้าห้อง คนอยากรู้อยากเห็นรีบหลบทันที คิดจะเดินหนีกลับไปที่ห้องของตนแต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเธอก้าวขาไม่ออกทั้งๆ ที่พยายามอย่างเต็มที่แต่เมื่อพอจะก้าวออกได้ขาเรียวยาวก็เดินตรงทื่อเข้าไปในห้องของเขาเสียอย่างนั้นเหมือนถูกใครมาบังคับ

“เกิดอะไรขึ้นทำไมขาฉันมันถึงได้...” หญิงสาวพยายามจะเดินออกออกแต่ทว่าเจ้าขาสองข้างกลับไม่เชื่อฟังมันพาเธอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

ใบหน้าหล่อขั้นเทพแต่เพียงดาวรับรู้ถึงรังสีอำมหิตที่แพร่ออกมาจากสายตาของเขาในยามนี้ที่จ้องมาที่เธอ ริ้วแห่งความโกรธวิ่งวนอยู่บนใบหน้าหล่อคม

“คุณกล้ามากนะที่มาแอบดูผม มิหนำซ้ำยังกล้าบุกรุกเข้ามาอีก อยากรู้อะไรเหรอ” เสียงดุดันพูดจบก็พา มือแข็งแรงคว้าหมับที่ไหล่ลาดของเธอ

“ฉันไม่ได้อยากจะเดินเข้ามาแต่ขามันพามาเอง” น้ำเสียงสั่น ตัวเย็นเฉียบ

ที่กำลังโกรธอยู่นั้นแทบจะหัวเราะออกมาแต่ซ่อนไว้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย


“คุณนี่ยังสติดีอยู่หรือเปล่าถ้าขาคุณไม่เดินมาจะใช้แขนเดินแทนหรือไง”

“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” หญิงสาวพยายามอธิบายเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นด้วยใบหน้าตื่นเต้น

“อย่ามาพยายามหาเรื่องเบี่ยงประเด็น รีบตอบผมมาว่าคุณมาทำอะไรลับๆ ล่อๆ อยู่ที่หน้าห้องผม หรือว่าอยากดูของดีฟรีๆ เหมือนคราวก่อน” สายตาเจ้าเล่ห์ลวนลามเธอไปทั้งตัว

เพียงดาวขืนตัวออกห่างจากเขา แต่กลับถูกมือใหญ่คว้าเอวเอาไว้แทนจากนั้นดันร่างบางไปติดผนังและกักกันเอาไว้ด้วยอ้อมแขน ทำให้หญิงสาวไม่มีทางหนีออกไปได้ เท่านั้นยังไม่พอเขายังเบียดอกแกร่งเข้ามาหาเธอจนแทบจะหายใจรดกัน

“คุณนี่มันน่ากินดีเหมือนกันนะ”

“คุณมันเป็นพวกโรคจิตชอบใช้ความรุนแรงชอบแสดงนิสัยป่าเถื่อนต่อหน้าผู้หญิง ปล่อยสิฉันจะออกไป”

“ไม่จนกว่าจะตอบคำถามของผมมาก่อน” เขาโลมเลียเธอทางสายตา จนหญิงสาวหน้าชาด้วยความอายเพราะยามที่เธอหายใจหน้าอกอวบอัดคู่งามมันจะกระเพื่อมไหวตามไปด้วย และสายตาพญาเหยี่ยวก็มองมันอย่างมีเลศนัย

“ก็ ก็”
“ก็อะไรอย่ามาอึกอัก”

“ก็แค่สงสัยว่าคุณทำอะไรอยู่ ฉันเห็นคุณเก็บข้าวของพวกนั้นโยนไปในกล่องแล้วก็ยังมีรูปคุณพิณอีก”แววตาแห่งความสงสัยบังเกิดขึ้นในดวงตาของหญิงสาวและมองด้วยความสงสัยไปที่กล่องใบสีน้ำตาล


อัศนัยขยับกายไปบังเอาไว้


“ไม่ต้องยุ่งสักเรื่องจะได้ไหม”


“ใครว่าอยากจะยุ่ง ฉันแค่แปลกใจก็เท่านั้น” หญิงสาวทำสีหน้าเหมือนกับคิดอะไรออก
“อย่าบอกนะว่าคุณกับแฟนกำลังจะเลิกกัน”

อัศนัยกำลังหนักใจกับเรื่องนี้เขาควรจะทำอย่างไรกับเพลงพิณ


“ไม่ต้องมาคาดเดาเรื่องส่วนตัวของผม ว่าแต่น้องสาวกับคุณพ่อคุณเป็นยังไงบ้าง” อัศนัยรีบเปลี่ยนประเด็นเพื่อกลบเกลื่อน


“ตอนนี้ยัยฟ้าฟื้นแล้วไม่เป็นอะไร แต่ว่า” หญิงสาวกำลังชั่งน้ำหนักว่าจะเล่าให้เขาฟังดีไหม
“แต่อะไรบอกมา”

“ยัยฟ้าเล่าให้ฟังว่าก่อนมาที่นี่เธอกับพ่อเจอผี” สายตาแสดงความหวาดระแวงกวาดมองไปจนทั่วห้องและแหงนมองบนฝ้า
ท่าทางของอัศนัยบอกว่าไม่เชื่อ
“พวกคุณนี่แปลกพอกันทั้งครอบครัว ผมว่าคิดกันไปเองมากกว่าผีมีจริงซะที่ไหนคุณเคยเห็นเหรอ” เขาถาม
หญิงสาวถอนหายใจยาวๆ ต่อให้เธอเล่าให้ตายคนอย่างเขาก็คงไม่เชื่อ


“แต่ฉันเคยเห็นตัวเป็นๆ ด้วย”


เขาขมวดคิ้วเข้ม


“ถ้าอย่างนั้นช่วยบอกผมหน่อยสิว่าผีหน้าตามันเป็นยังไง” รอยยิ้มหยันสายตาดูแคลนราวกับว่าเห็นเป็นเรื่องตลก

“อยากเห็นใช่ไหมคะ คุณหันหลังไปสิ” อัศนัยไหวไหล่เขาหันไปมองและเห็นกระจก ต้องยอมรับว่าเขาเสียทีเธอแล้ว



“ผีทะเลยังไงล่ะ เห็นแล้วใช่ไหมคะ” หญิงสาวหัวเราะเยาะและผละออกจากอ้อมแขนของเขาฝ่ามือใหญ่ก็รั้งเอวเธอเอาไว้ได้ทันแถมยังดันอกแกร่งมาเบียดเสียดกับอกหยุ่นของเธออย่างแน่นแฟ้นจนหญิงสาวทำท่าว่าจะหายใจไม่ออก

“คิดจะหลอกด่าแล้วเดินหนีเหรอ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก” เขาขู่

“คุณจะคุกคามฉันมากเกินไปแล้ว ทำไมจะต้องให้ฉันตบแล้วคุณจูบเหมือนในละครเลยไหมถึงจะพอใจ” หญิงสาวยื่นหน้าสวยเข้าไปหาอย่างลอยหน้าลอยตา

อัศนัยผลักร่างบางออกห่าง เพราะกลัวจะอดใจไม่ไหว

“โธ่! นึกว่าจะแน่” เพราะเธอชะล่าใจคิดว่าเขาคงไม่ทำ

ว้าย!


แต่แล้วเอวคอดก็ถูกคนร่างสูงใหญ่ดึงเข้ามาหาจนแนบชิดเบียดกับความแกร่งแข็งแรงที่ซ่อนอยู่ในกางเกงยีนส์เนื้อดีอย่างที่อัศนัยชอบใส่เป็นประจำ

“อย่าใช้สายตาท้าทายผมอีก”


“เพราะคนอย่างผมไม่ต้องรอให้คุณตบก็พร้อมจะจูบจริงได้ทุกมื่อ”

“ไม่นะ ไม่ ฉันแค่พูดเล่น” หญิงสาวผลักเขาเต็มแรงแต่มันเหมือนแรงมดที่ไม่ทำให้ก้อนหินใหญ่ขยับเขยื้อนริมฝีปากหยักร้อนครอบคลุมริมฝีปากเรียวนุ่มจนเต็มพื้นที่ ก่อนจะบดขยี้จนพอใจ ไม่ฟังเสียงอู้อี้ที่กำลังประท้วง เขาต้องยอมรับว่ามันทั้งหวานทั้งหอมชวนให้ลิ้มลองเป็นที่สุด แต่คิดจะหยุดเมื่อเห็นหญิงสาวฟูมฟายน้ำหูน้ำตาไหลยังกับถูกเขาข่มขืน แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเมื่อหางตาของเขาเห็นเพลงพิณยืนอยู่ตรงหน้าประตูเธอคงมาหาเขาและถือวิสาสะขึ้นมาที่ห้องนอนอย่างเช่นเคยทำมาก่อน มันทำให้แผนการร้ายวิ่งปราดเข้ามาในสมอง แผนที่จะสนองความเจ็บปวดให้กับผู้หญิงที่เขาเคยรักจนหมดใจ

มือใหญ่กอบกุมขยุ้มขยำไปมาที่สะโพกงาม เขาโน้มตัวเบียดแผงอกเข้าไปหาอกอวบก่อนจะซุกไซ้เคราบางๆ ไปทั่วลำคอระหงแม้หญิงสาวจะพยายามต่อต้านด้วยการผลักดันเต็มแรงแต่เขาก็ไม่ยอมถอยห่างจากร่างกายเธอแม้แต่ก้าวเดียว ตาเรียวคู่คมของอัศนัยมองเห็นคนเคยรักยืนตาค้างอยู่หน้าประตูก่อนจะรีบปรี่เดินเข้ามาอย่างคนกำลังของขึ้น

“อั๊ด! คุณกำลังทำอะไรกับแม่นี่” เสียงที่เคยหวานเปลี่ยนเป็นตวาดแว้ดอย่างลืมตัว จนไม่มีเค้าเหลือ
เพลงพิณคนเดิม

“ไม่มีตาเหรอถึงไม่รู้ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่” เขาหันมายิ้มเย็นสายตาของเขาเปลี่ยนไปจนเพลงพิณหัวใจกระตุกวาบ

“นี่มันอะไรกันคะอั๊ด” เพลงพิณตั้งคำถามขึ้นทันที

เพียงดาวอยากจะแทรกกายให้หายไปในผนังปูนถ้าหากเธอทำได้

“ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกคุณแต่อย่าเอาฉันเข้าไปเกี่ยว” เพียงดาวสะอื้นไห้รู้สึกถึงความอัปยศเธอใช้จังหวะที่เขาเผลอเพราะหันไปตอบคำถามเพลงพิณหนีจากพันธนาการแแต่คนตาไวก็ดึงข้อมือเอาไว้

เพลงพิณปรายตามองแล้วเจ็บแปลบๆ


“อย่าบอกนะว่าคุณกำลังหลงเสน่ห์แม่นี่ ใช่สิพิณถึงรู้สึกว่าช่วงนี้คุณดูเปลี่ยนไป คงมีอะไรกับมันแล้วสิ”สายตาเหยียดหยามจิกตามองมาที่เพียงดาวราวกับเป็นมือที่สาม


“ยัง แต่กำลังจะมีถ้าหากคุณไม่มาขวางเอาไว้ก่อน” แววตาร้ายกาจฉายชัดออกมา เพียงดาวหยุดมองแสดงว่าคืนนั้นเขาหลอกเธอ

“คุณทรยศพิณ ไหนคุณเคยสัญญาว่าจะไม่ทิ้งพิณ ที่คุณจะแต่งงานกับมันก็เพราะทำตามหน้าที่ แล้วคุณก็จะหย่าจากมันและมาแต่งงานกับพิณ”

“ทุกอย่างมันจบลงแล้วเพลงพิณตั้งแต่วันที่ผมรับรู้ว่าคุณไม่ได้มีผมคนเดียว” แวบหนึ่งแสดงความเจ็บปวดก่อนจะเปลี่ยนเป็นเฉยชา

เพียงดาวมองทั้งคู่สลับกันไปมา เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้เพลงพิณมีผู้ชายคนอื่นซ่อนอยู่แล้วเขาจับได้อย่างนั้นเหรอ

เพลงพิณโกรธจนตัวเนื้อสั่นไม่มีวันที่เธอจะยอมเป็นคนถูกทิ้ง


“คุณอย่ามาใส่ร้ายพิณ เอาอะไรมาพูดว่าพิณมีคนอื่น คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชายเบื่อแล้วจะทิ้งกันง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ” เธอพ่นคำตัดพ้อจากนั้นปรี่เข้าไปทุบเขาแรงๆ อาละวาดใส่อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

“เมื่อก่อนพี่รุตบอกผม ผมไม่เคยเชื่อจนวันที่ผมได้ยินกับหูได้เห็นกับตา” เขาพูดอย่างช้าๆ แต่มันชัดจนทำให้เพลงพิณหยุดมือที่กำลังจะทุบอกเขา จากนั้นเขาก็ผลักเธอออกห่างอย่างรังเกียจ

“ไม่ต้องมาทำหน้าตกตะลึงแบบนั้นหรอกไอ้หน้าใสๆ หัวใจเชือดคอแบบคุณผมจะไม่เชื่ออีกแล้ว คุณจำได้ไหมว่าวันที่คุณไม่สบายและผมไปรับคุณที่บ้าน ผมไปเร็วกว่าเวลานัดหนึ่งชั่วโมงเลยทำให้ได้เห็นอะไรดีๆ แต่คุณคงไม่รู้ตัวเพราะมัวหลงระเริงกับเกมรักบนเตียงอยู่”

ความเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศชั้นดีไมได้ช่วยอะไรเลยเมื่อเหงื่อแย่งกันผุดไปทั่วใบหน้า
“ไม่จริงๆ พิณไม่เคยทำแบบนั้นอั๊ดเอาอะไรมาพูดคะ” น้ำเสียงอ่อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อถูกจับได้ เธอเซไปหน่อยก่อนจะหันไปมองเพียงดาวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อจากนั้นชี้หน้าเพียงดาว
“เพราะแกคนเดียวที่ทำให้คุณอั๊ดเปลี่ยนไป ตอนแรกฉันคิดว่าแกไม่อยากแต่งงานกับเขาจริงๆ ซะอีกที่ไหนได้”
“ฉันไม่เคยคิดจะแย่งผู้ชายของคุณ ถ้าคุณจะช่วยเอามือเขาออกไปจากเอวฉันได้มันจะเป็นการดีมากเลย”ไม่ใช่แต่ขอความช่วยเหลือเพียงดาวก็พยายามผลักไสมือปลาหมึกที่ดึงเธอไว้อย่างเหนียวแน่น แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย

“อั๊ดทำไมคุณทำแบบนี้ นี่มันต่อหน้าพิณเลยนะคะ หรือเพราะแกทำเสน่ห์ใส่เขา”

อัศนัยถอนใจ


“อย่าไปโทษใครเลย หากจะโทษต้องโทษตัวคุณเองกับความสำส่อนที่มีอยู่ในตัว ไม่รู้ว่าผมหน้ามืดตามัวไปได้ยังไง”
หญิงสาวปล่อยโฮเมื่อเห็นชัดๆ ว่าเขากำลังจะทิ้งเธอไป ที่สำคัญสมบัติมากมายของนรบดีที่เธอคิดว่าอยู่แค่เอื้อมก็จะต้องหายวับไปกับตาเพราะเขาไม่ได้ลุ่มหลงเธอดังเช่นแต่ก่อนแล้ว
“พิณยอมรับก็ได้ค่ะ พิณกับพี่อิง…..แต่นั่นเป็นเพราะพิณถูกบังคับ”
“ถ้าคุณอ้างว่าถูกนายอิงข่มขืน แล้วช่วยบอกหน่อยสิว่ารูปพวกนี้ล่ะถูกข่มขืนหรือเต็มใจ” สายตาเจ็บช้ำปล่อยมือจากเพียงดาวและก้าวไปหยิบซองสีน้ำตาลในลังขึ้นมายื่นมันให้กับเพลงพิณ

“ นี่มันอะไรคะอั๊ด” หญิงสาวมือสั่นยื่นมือไปรับซองมาถือเอาไว้

“ดูให้เต็มตา ผมไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้”

เพลงพิณเปิดซองสีน้ำตาลแล้วต้องผงะถอยหลังรูปแต่ละใบมันบอกได้ถึงเรื่องราวทั้งหมดว่าเธอกำลังทำอะไรกับใคร ภาพกอดรัดฟัดเหวี่ยงบนเตียงนอนกับผู้ชายหน้าตาละม้ายคล้ายอิงมันคงถูกลอบถ่ายจากพวกนักสืบเอกชน แต่ละรูปไม่ได้แสดงให้เห็นว่าหญิงสาวถูกข่มขืนหรือฝืนใจไปทั้งหมด เพราะบางรูปเหมือนเธอจะเต็มใจ เพราะรูปอีกหลายใบมันแสดงหลักฐานว่าอิงนอนอยู่ด้านล่างส่วนหญิงสาวเปลือยเปล่าอยู่ด้านบนและเป็นคนควบคุมการขับขี่เสียเอง


“อั๊ด พิณขอโทษค่ะ อย่าทิ้งพิณไปนะคะ” หญิงสาวทรุดไปกองที่พื้นและกอดขาเขาเอาไว้แน่นในขณะที่เพียงดาวพูดไม่ออกรู้สึกตัวเองเป็นส่วนเกินในห้องนี้

“พิณผมจะพูดกับคุณเป็นครั้งสุดท้าย การกระทำของคุณมันเกินที่ผมจะรับได้ ขอให้ความสัมพันธ์ของเรามันจบกันแค่นี้”



“หือๆๆๆ ไม่นะอั๊ด พิณไม่ยอม พิณขอร้องล่ะ คุณจะให้พิณทำอะไรก็ได้แต่อย่าไล่พิณออกไปจากชีวิตของคุณ”

อัศนัยหลับตานิ่ง ไม่มีทางที่เขาจะหลงเชื่อหญิงแพศยาอย่างเพลงพิณอีก

“ออกไปจากห้องผมได้แล้ว” แค่คำพูดสั้นๆ แต่น้ำเสียงของเขาฟังดูน่ากลัว มีอำนาจอย่างประหลาด

“โธ่! อั๊ด” แต่เพลงพิณรู้ดียามนี้เธอไม่สามารถจะกุมหัวใจเขาเอาไว้ได้อีก จะขอร้องอะไรไปมันก็ไม่มีประโชน์ ที่เธอต้องโชคร้ายเงินทองมหาศาลหายวับไปตรงหน้าก็เพราะพี่อิงคนเดียวหญิงสาวนึกโทษเขาในใจ

“ผมบอกให้ออกไปยังไงล่ะ” เขายังคงหันหลังแต่น้ำเสียงเย็นชายิ่งกว่าครั้งแรก จนเพลงพิณต้องยอมถอยห่างแต่ก็หันไปจิกตาใส่เพียงดาวบอกเป็นนัยๆ ว่ายังไงเธอก็ไม่ยอมแพ้ ++++++++++++++++++++

เพลงพิณกำลังเดินออกจากคฤหาสน์ด้วยอาการกระฟัดกระเฟียด
“เพราะไอ้พี่อิงคนเดียวเลยกลายเป็นแบบนี้ พิณไม่มีทางยอมหรอกอั๊ดจะต้องเป็นของพิณเท่านั้น”

เมื่อเห็นสายตาของป้าแช่มที่กำลังเดินผ่านมาและมองด้วยสายตาสงสัยเธอก็ยิ่งโกรธเข้าไปอีก

“มองอะไรอีแก่ระวังตัวเอาไว้ให้ดีเถอะจะเสกหนังควายใส่ท้องแกคอยดู แกคงจะระริกระรี้อยากได้นังเพียงดาวมาเป็นนายหญิงใช่ไหมฉันจะบอกเอาไว้ให้ว่าไม่มีทาง” จากนั้นเธอก็เดินชนไหล่จนแม่บ้านสูงวัยเซจนเกือบจะล้ม

“โอ๊ย! ตายแล้ว” แม่บ้านพยายามประคองตัวยกมือทาบอกด้วยความตกใจ และมองตามหญิงสาวที่ขับรถพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง

“นังมารร้ายตัวจริงๆ เผยธาตุแท้ออกมาเสียที” แม่บ้านถอนหายใจออกมาแรงๆ

เพียงดาวขยับร่างกายภายในห้องเงียบสนิทจนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นตุบๆ เธอมองแผ่นหลังกว้างและไหล่ลาดของอัศนัยจากทางด้านหลัง ไม่รู้ว่าเธอควรจะทำตัวอย่างไรดีสองเท้าน้อยๆ รีบซอยถอยหลังกำลังจะออกจากห้อง


“ปิดประตู แล้วมานั่งนี่” เขาสั่ง

เพียงดาวทำหน้าตาลังเล แต่แล้วหญิงสาวก็เลือกที่จะเปิดประตูออกไปแต่ทว่าเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นกับเธออีกครั้งเมื่อมีลมพัดผ่านตัวเธอจากทางด้านหลังประตูปิดเองได้เสียงดังปังเหมือนกับว่ามีคนเดินออกไปและจัดการขังเธอกับอัศนัยเอาไว้ด้วยกัน เพียงดาวพยายามเปิดประตูแต่เปิดเท่าไหร่ก็ไม่ออก

“อะไรกันเนี่ย” ขนแขนของหญิงสาวลุกชัน
“ทำไมประตูมันเปิดไม่ออก”
คนที่นั่งหันหลังหันมามอง

“หน้าซีดเชียวเป็นอะไรไป ”

“คุณเห็นเหมือนที่ฉันเห็นหรือเปล่าประตูปิดเองได้ ผีหลอกแน่ๆ เลย” ตาของเพียงดาวขยายโตขึ้นยิ่งบวกกับเรื่องที่น้องสาวเล่าให้ฟังมันก็วนให้เชื่อ

“ไร้สาระแบบนี้เรียนจบเมืองนอกมาได้ยังไง” อัศนัยสั่นศีรษะ


เขาเอื้อมมือไปที่ประตูแล้วลองเปิดมันออก


“ไม่เห็นจะมีอะไร คุณใช้มุขนี้เรียกความสนใจจากผมหรือเปล่า” เขามองหญิงสาวด้วยสายตาค้นหาความจริง


“เปล่านะเมื่อกี้มันยังเปิดไม่ออกอยู่เลย” เพียงดาวรีบแก้ตัว และงงกับเหตุการณ์

“อย่างนั้นเหรอ คงกลัวมากล่ะสิผมรับขวัญให้เอาไหม” เขาถาม มันไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ

“ไม่ต้อง ฉันจะกลับห้องแล้ว” เพราะรู้ว่าคนดีๆ อย่างเขาอันตรายกว่าผีเสียอีก

“ทำไมล่ะ ไหนบอกว่ากลัวผีไม่ใช่เหรอ”

“ฉันไม่อยากรบกวนคนกำลังอกหัก คุณคงอยากมีเวลาส่วนตัว” หญิงสาวหาทางออกและบิดลูกบิดประตูแต่ผลที่ได้คือเปิดไม่ออก
“บางทีผีที่คุณว่าเขาอาจจะอยากให้คืนนี้คุณนอนในห้องของผมก็ได้”

“ถ้ามีก็คงเป็นผีทะเลน่ะสิ” พูดจบหญิงสาวก็ยกมือปิดปากมองซ้ายทีขวาทีเพราะคิดว่าหากพูดอะไรไปไม่ดีสิ่งที่เหนือธรรมชาติอาจจะลงโทษเธอด้วยการออกมาให้เห็นก็ได้


“ผีทะเลหน้าตาแบบผม แล้วชอบทำแบบนี้ด้วยหรือเปล่า” เขาอุ้มเธอจนตัวลอย และก้าวฉับๆ ไปที่เตียง
กรี๊ดๆๆๆๆ “จะทำอะไรปล่อยนะ คนเจ้าเล่ห์ ”

“ผมกำลังอกหัก คืนนี้ไม่อยากนอนคนเดียว อยู่เป็นเพื่อนผมนะ” เขาตอบไม่ได้ถามสักคำว่าเธอตกลงไหม แต่อันที่จริงอัศนัยทำใจเรื่องอดีตแฟนสาวได้นานแล้ว

จากนั้นก็วางร่างบางบนเตียง

“ไม่ๆ อย่าทำอะไรฉันนะ ฉันจะกลับห้อง”

“จะกลับไปทำไม อีกหน่อยเราก็ต้องนอนห้องเดียวกันอยู่แล้ว”

“ไหนตอนนั้นคุณกับคุณพิณเคยบอกว่าหลังการแต่งงานเราจะนอนแยกห้องกัน”

“นั่นมันตอนนั้น แต่ตอนนี้ผมเริ่มเปลี่ยนใจแล้ว”

หญิงสาวหน้าถอดสีไม่คิดว่าจะเจอไม้นี้


“คุณไม่รักษาคำพูด”


“อย่ามาเรื่องมากน่า เอาเป็นว่าคืนนี้คุณนอนกับผมบนเตียงนี้ผมสัญญาว่าจะไม่แตะเนื้อต้องตัวคุณ หากคุณไม่มาสะกิดผมก่อนโอเค”

หญิงสาวส่ายหน้า
“แต่เจ้าของห้องตอบว่าโอเค” และกดร่างบางลงบนเตียงนอนหญิงสาวพยายามจะขยับลุกหนี

“ถ้าคุณพยายามจะหนีจะดิ้น ผมจะทำอย่างอื่นมากกว่าการนอนมองคุณเฉยๆ” เขาขู่

เพียงดาวตั้งคำถามว่าทำไมเธอจะต้องกลัวเขาด้วยล่ะคนสวยคิดจะฝ่าฝืนคำสั่ง แต่สายตาคู่ที่นอนตะแคงข้างและมองมาที่เธอทำให้หญิงสาวตอบตัวเองว่านอนนิ่งๆ จะดีกว่า และไม่นานนักหลังจากมองตากันไปมาทั้งคู่ก็เผลอหลับไป แต่หญิงสาวต้องสะดุ้งตื่นอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าเหมือนมีฝ่ามือใหญ่มาลูบที่ศีรษะ หัวใจเต้นตึกตักเต็มไปด้วยความกลัว เปลือกตาที่หนักอึ้งเพราะกำลังง่วงนอนค่อยๆ ลืมขึ้นอย่างช้าๆ ส่วนเรียวแขนพยายามไขว่คว้าหาคนที่นอนข้างๆ และสะกิดเขา

“คุณๆ ตื่นเถอะ” เพียงดาวยังคงหลับตาเพราะกลัวว่าเมื่อตื่นขึ้นมาจะพบภาพหน้ากลัวสยองขวัญ

“สะกิดผมทำไม” เขาจับมือบางเอาไว้ และดึงไปจุมพิตเอาดื้อๆ

“ผีมันจับหัวฉัน” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่น

“ลืมตาก่อนสิบางทีมันอาจไม่มีผีอย่างที่คุณคิดก็ได้” เขาบอกพลางอมยิ้ม นึกขำหญิงสาวที่นอนเคียงข้าง

“ไม่ฉันกลัว” คนกลัวผีกระเถิบเข้ามาใกล้คนข้างๆ
“มันยังลูบอยู่เลย”


เขาไม่ได้พูดอะไรได้แต่หัวเราะหึๆ เพียงดาวตั้งสติมือที่ลูบหัวเธอนั้นมีไออุ่นร้อน เอ...หรืว่าจะไม่ใช่ผี หญิงสาวนึกออกและรีบลืมตาก็เห็นใบหน้าของเขาอยู่ใกล้เธอแค่คืบ อีกทั้งผีที่คิดว่ากำลังลูบหัวที่แท้ก็คือเขานี่เอง

“ถอยไปนะคนบ้า ผีทะเล ทำให้คนอื่นเขาตกใจหมด” หญิงสาวกระแทกเสียงใส่และขยับหนี

อัศนัยรีบคว้าเอวบางและดึงมากอดเอาดื้อๆ


“กลัวผีไม่ใช่เหรอ เขยิบมาใกล้ผมสิจะหนีทำไม”


“ปล่อยนะ ไหนคุณบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉันยังไงล่ะ”


“ก็ผมบอกแล้วยังไงล่ะว่าจะไม่ทำอะไรหากคุณไม่มาสะกิดผมก่อน” เขาค้านยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ผิดคำสัญญา จากนั้นก็ดึงเธอเข้ามากอดแถมยังหอมที่แก้มอีกฟอด



“คนอกหักบ้าอะไรถึงหื่นแบบนี้ ฉันถามจริงๆ คุณคิดจะเขี่ยแฟนทิ้งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หรือว่าจับได้ว่าเธอมีผู้ชายอื่นด้วยกันแน่”

“จะให้ผมตอบตรงๆ ก็ได้ ผมเคยรักเพลงพิณมากจนไม่คิดว่าจะรักใครได้อีก” เขาย้ำคำว่าเคย

“แต่เมื่อจับได้ว่าเธอทรยศคนอย่างนายอัศนัยก็จะไม่ยอมโง่เป็นควายให้ใครสวมเขาได้อีก”

“และฉันไปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ นายถึงได้มาทำท่าทางหื่นใส่ฉัน”

“ก็คุณกับผมกำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหน้าที่เยียวยาหัวใจผมก็ขอยกให้คุณด้วย”

“แต่ฉันไม่รับ” เธอเถียงและเบี่ยงหลบจมูกโด่งเป็นสันที่กำลังจะทาบทับลงมาที่พวงแก้มอย่างว่องไว


“จะเป็นไรไปยังไงคุณก็คงไม่รอดมือผมอยู่แล้ว น้ำตาลใกล้มดใครจะอดใจไหว” เขาทำตาวาวใส่ “หรือว่าจะคิดไปอ่อยให้กับไอ้ลูกชายเจ้าของโรงเรียนอนุบาลนั่น ”




“อย่ามาพูดจาถ่อยๆ กับฉันนะคุณอัศนัย” ร่างบางผลักเขาและกระโจนลงจากเตียง
“คนอย่างเพียงดาวไม่ยอมให้ใครมารังแกง่ายๆ รู้เอาไว้ด้วย” คนสวยรีบวิ่งออกจากห้อง

อัศนัยมองตามหลังหญิงสาวไป


“คืนนี้ผมจะปล่อยคุณไปก่อน” จากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอน
++++++++++++++++++++++++++++++


เมื่อเพียงดาวออกจากห้องไปแล้วคนตัวสูงก็ล้มตัวลงนอนแม้ว่าจะข่มตาให้หลับได้ยากเพราะความสับสนในตัวเอง อีกทั้งตอนนี้เขาปวดหัวอยากจะอาเจียน และแล้วชายหนุ่มก็ดีดตัวขึ้นจากที่นอนวิ่งไปโก่งคออาเจียนใส่ชักโครกจนแทบจะหมดไส้หมดพุง เมื่อเอามันออกจนหมดอาการคลื่นเหียนเวียนหัวค่อยทุเลาลงอัศนัยกำลังจะกดปุ่มเพื่อชำระสิ่งปฏิกูลที่อยู่ในชักโครก แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ออกมากับอาหารที่ย่อยสลายไปบ้างแล้วมีเส้นผมรวมอยู่ด้วย



อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 มี.ค. 2555, 15:30:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 มี.ค. 2555, 15:30:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 11181





<< ตอนที่ 11   ตอนที่ 16 >>
Auuuu 2 มี.ค. 2555, 15:44:47 น.
ไอ๊หย่ะะะ คุณไสยเสื่อมรึ??


lovemuay 2 มี.ค. 2555, 17:35:48 น.
โดนเสกของเข้าท้องรึไงนะ?
ดูเหมือนว่าผีทะเลจะน่ากลัวกว่าผีชนิดอื่นนะ อิอิ


Zephyr 2 มี.ค. 2555, 17:45:49 น.
โอ๊ะโอ คุณไสยหลุดออกมาแล้ว
แต่คุณอั๊ดยังมั่วนิ่มตลอดๆๆ ซึนเรื่อยๆ มึนได้อีก
คุณอนิรุตน์ก็อยากเป็นกามเทพ อิอิ


แพม 3 มี.ค. 2555, 10:46:04 น.
อ่านข้ามตอนแน่ๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account