เมียกำมะลอ ภาคต่อเมียบังเอิญ Romance
เมียกำมะลอ

เอเดรียน มาร์เซโล แฝดพี่ 27 ปี
หนุ่มนักธุรกิจผู้เงียบขรึมต่างจากน้องชาย ผู้ที่ได้ฉายา แวมไพร์หน้าหยก ชีวิตนี้เขาหลีกหนีการแต่งงานสุดชีวิต แต่จะทำยังไงเมื่อปะป๊ากับหม่าม๊าอยากอุ้มหลาน??
เขาจ้างเธอมาแต่งงาน เมื่อเจ้าน้องชายฝาแฝดตัวดีกะล่อนจนมารดาอ่อนใจ จึงเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องหาคนมาเป็นเจ้าสาวและยอมแต่งงานแทน สัญญาแต่งงานเป็นเวลา 2 ปี และเธอต้องมีลูกให้เขาเธอจึงจะเป็นอิสระ หากสัญญานี้จะเป็นอย่างไร เมื่อสุดท้ายคนที่ไม่อยากปล่อยเธอไปกลับเป็นเขาเอง

กนกวดี รอซ 20 ปี
เธอยอมรับข้อเสนอของชายแปลกหน้าอย่างง่ายๆ เพราะเขาเป็นคนที่เธอแอบรัก พี่ชายวัยเด็กในอดีตจะจำน้องน้อยคนนี้ได้หรือไม่ หรือเธอต้องเสียเวลา 2 ปีไปเฉยๆ หัวใจของเธอจะสามารถละลายน้ำแข็งของแวมไพร์หน้าหยกได้หรือเปล่า เธอเองก็ไม่มั่นใจ

เอดาน มาร์เซโล แฝดน้อง 27 ปี
หนุ่มเพลย์บอยผู้ติดอันดับหนุ่มโสดน่าหม่ำของนิตรสารดังในยุโรป หลีกหนีการมีห่วงสุดชีวิต เมื่อปะป๊ากับหม่าม๊าอยากได้หลาน ต้องพึ่งเอเดรียนแล้วล่ะครับ
เขาหงุดหงิดหัวใจนักเมื่อน้องสาวสุดที่รักที่เป็นไม้เบื่อไม้เมามีพฤติกรรมแปลกๆกับเพื่อนสนิท ไม่จริง เขารับไม่ได้ เขาหวงน้องก็จริงแต่ไม่ใช่จะยอมให้น้องไปชอบเพศเดียวกันนะ และเพศเดียวกันเนี่ยก็แสบสันต์ใช่เล่น ที่สำคัญหน้าอกหน้าใจช่างเกินตัวซะเหลือเกิน ไม่ได้ๆ เรื่องนี้มันผิดที่ยัยเพื่อนน้องเขา หากเขาเปลี่ยนเธอคนนั้นให้เป็นผู้หญิงเต็มตัว ไม่หลงผิดคิดรักเพศเดียวกัน น้องสาวเขาก็รอด งานนี้ถนัดนัก อย่าหวังเลยว่าเธอจะหันไปติดใจเพศเดียวกันอีก ดารากานต์

ดารากานต์ ธรรมรัตน์ 20 ปี
หญิงสาวห้าวๆ ผู้เกลียดผู้ชายเจ้าชู้ที่สุดในชีวิต เธอจะทำอย่างไร เมื่อนายกะล่อนพี่ชายเพื่อนรักคิดเองเออเองว่าเธอเป็นคู่เลสเบี้ยนของน้องสาว บททำโทษที่ร้ายกาจตามแบบฉบับนายตัวร้ายเอดานจึงมาลงที่เธอ ‘ฉันจะทำให้เธอรู้ว่า รสรักจากผู้ชายมันดีกว่าสิ่งที่เธอเคยผ่านมา!!!!!’

แองเจลิน่า มาร์เซโล น้องสาวคนสุดท้อง 19 ปี
สาวสวยลูกสาวคนสุดท้องของตระกูล ที่มีบิดาและพี่ชายฝาแฝดหวงยิ่งกว่าไข่ในหิน ขยับเป็นไม่ได้ เธอโหยหาอิสระมาตลอดชีวิต เมื่อได้มันมาเธอจึงไม่รีรอที่จะใช้มันให้คุ้มค่า แต่อิสระที่เธอได้มามันก็แค่ชั่วคราวเมื่อเธอต้องเปลี่ยนจากกรงรักของครอบครัวไปสู่กรงรักของมาเฟียหนุ่ม คู่แข่งธุรกิจสายการบินของตระกูล

โรมิโอ มาเรซ อายุ 30 ปี
มาเฟียหนุ่มสัญชาติอิตาเลียน ผู้นำด้านธุรกิจการบิน เมื่อธุรกิจการบินที่เปิดใหม่ของตระกูลมาร์เซโลกำลังแย่งผู้โดยสารเขาไป จุดอ่อนมีเพียงหนึ่งเดียวที่เขาจะทำคือฉกชิงตัวและหัวใจของลูกสาวคนเล็กของตระกูลนี้มา เพื่อให้ธุรกิจสายการบินที่มีมาเป็นของเขาโดยไม่ต้องเสียแรง แม้จะได้เธอมาแบบมาเฟีย แต่เมื่อมาเฟียมีหัวใจ ถึงต้องโดนพ่อตาฆ่าตายก็ยอม!!!

** พบกับเรื่องราวของฝาแฝดสุดเฮี้ยว ที่นิสัยต่างกันสุดขั้ว เขาจะทำยังไงกับการหาหลานให้ป๊ะป๋ากับหม่าม๊า *

Tags: ตบจูบ, วรรณกรรมผู้ใหญ่

ตอน: บทที่ 1 คำสั่งด่วน

บทที่ 1 คำสั่งด่วน
“อะไรนะครับปาเดร หม่าม๊าให้กลับไปหาเย็นนี้ แต่ผมมีงานต้องเคลียร์นะครับ นายเอดานมันหนีไปกกสาวที่ไหนไม่รู้ทิ้งงานกองเบ้อเริ่มไว้ให้ผม พรุ่งนี้ได้ไหมครับ” เอเดรียน มาร์เซโล นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานหรูร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อบิดาโทรมาบอกคำสั่งด่วนจากคนเป็นแม่ที่เรียกตัวเขากลับ งานนี้คงไม่มีอะไรถ้าไม่ใช่ข่าวที่ผู้หญิงหิวเงินคนนั้นปั้นขึ้น เขายังไม่มีเวลามาขวางหรือแถลงข่าวใดๆทั้งสิ้นในตอนนี้ เพราะสายการบินต้องประสบปัญหาน้ำมันแพง เขาต้องแก้ไขไปก่อน สายการบินที่พ่อเขาก่อตั้งเป็นบูติกแอร์ไลน์ ในตอนนี้มันกลายเป็นสายการบิน 5 ดาวที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกทุกๆปี เป็นที่เรียบร้อย แต่ด้วยผลกำไรที่ลดลงจากราคาน้ำมันทำให้เขาต้องคิดนโยบายใหม่ๆเพื่อแก้ไข ไหนจะงานขยายโรงแรมที่ไอ้น้องฝาแฝดตัวดีมาทิ้งให้เขาทำ เพราะหนีเที่ยวอีก
“ไม่ได้หรอกเอเดรียน งานนี้แม่เราเขาไม่ยอมหากไม่กลับ เขาลั่นว่าไม่ต้องมาเรียกเขาว่าหม่าม๊าเลยนะ” อันเดรสบอกลูกอย่างเครียดๆ อย่าว่าแต่ลูกเลย งานนี้พ่อก็โดนไปเต็มๆเลยลูกเอ๋ย
“อะไรนะครับ แล้วนายเอดานล่ะครับ” เอเดรียนคิดถึงน้องทันที เพราะไม่รู้ตอนนี้ไปสนุกอยู่แถวไหน
“รายนั้นเดี๋ยวพ่อจัดการเอง ยังไงลูกก็กลับมาให้แม่เห็นหน้าก่อนนะ เรื่องข่าวค่อยแก้ตัวกับแม่เอา พ่อจะโทรตามไอ้ตัวแสบก่อน” อันเดรสบอกลูกชายคนโตเสร็จก็จัดการโทรตามเจ้าลูกแฝดคนเล็กทันที งานนี้หากจะตามเจ้าตัวแสบต้องพึ่งจีพีอาร์เอสติดตามตัวแล้วล่ะ โชคดีที่เขาให้เจ้าลูกชายใส่แหวนและสร้อยประจำตระกูลซึ่งจะมีจีพีอาร์เอสติดตามตัว เพื่อป้องกันหากมีคนลักพาตัวหรือเมื่อลูกชาย ลูกสาวได้รับอันตราย เขาจะได้ส่งคนไปช่วยไว้ทัน
“ฮัลโหล ว่าไงครับปาเดร” เสียงทุ้มที่ไม่ต่างจากแฝดพี่ตอบมาตามสายทันทีที่รู้ว่าใครโทรมา
“อยู่ไหนเอดาน”
“อยู่ในสเปนนี่แหละครับ ผมพักร้อน พ่อว่าไงครับ”
“แม่เรียกตัวให้กลับบ้านด่วนเย็นนี้”
“อะไรนะครับ แต่ปาเดร ผมเพิ่งมาถึง พรุ่งนี้ได้ไหมครับ” เอดานอ้อนพ่อมาตามสายทันทีที่รับรู้คำสั่งด่วนนั้น
“ไม่ได้ แม่แกสั่งว่าหากไม่กลับ ก็ไม่ต้องเรียกเขาว่าหม่าม๊า เลือกเอาละกัน” อันเดรสพูดจบก็ลอบยิ้มทันที งานนี้สนุกแน่ ไอ้ตัวแสบโดนดัดนิสัยจากภรรยา แต่ว่าจะดัดได้มากน้อยก็ค่อยมาดูกัน
“หา ไม่จริง หม่าม๊าใจร้าย” เอดานโอดครวญมาตามสายทันที
“ไปอ้อนแม่เขาเองละกัน ดูสิว่าแม่แกจะใจอ่อนไหม รีบกลับมาล่ะ แค่นี้นะ” อันเดรสเอ่ยลาเจ้าแฝดคนเล็กจอมกะล่อนอย่างหมั่นไส้ แหมมันอ้อนเมียเขาตั้งแต่เล็กจนโต น่ากระทึบจริงๆเลย
เอดานเมื่อวางสายจากบิดาก็เดินออกไปสั่งให้ผู้ช่วยส่วนตัวเตรียมของเพราะเขาจะนั่ง ฮ กลับคฤหาสถ์ ต้องรีบไปอ้อนหม่าม๊าก่อนจะได้ลดโทษให้เหลือน้อยๆ
“เอดานคะ นั่นคุณจะไปไหนคะ เรายังไม่ได้สนุกกันเลยนะ” อิซซาแบลล่า มิสยูนิเวิร์สปีล่าสุด ร้องถามทันทีเมื่อเธอเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขากำลังเดินออกจากห้อง
“วันนี้ผมจะกลับบ้านนะ คุณกลับไปก่อนเดี๋ยวให้เลขาโทรหา” เอดานเอ่ยบอกนางงามสาวด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกก่อนจะเดินออกไปขึ้น ฮ ทันที ไม่มีผู้หญิงคนไหนสำคัญกับเขาเท่าหม่าม๊าที่บ้าน
“กรี๊ดดดดดด บ้า บ้า เอาฉันมาทิ้งไว้ที่นี่แล้วฉันจะกลับยังไง” อิซซาแบลล่ากรีดร้องอย่างโมโหเมื่อแผนจับผู้ชายคนนี้หลุดลอยไปอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะเรียกเธออีกเมื่อไหร่ เธอต้องพยายามแทบตายกว่าเขาจะสนใจเธอ เธอหันรีหันขวางก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นกระดาษเล็กๆใบหนึ่งวางบนหัวเตียง เมื่อเธอเดินไปหยิบก็พบว่าเป็นเช็คเงินสด ตัวเลขที่กรอกในเช็คใบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว หญิงสาวยิ้มออกมาก่อนจะนอนราบไปกับเตียงแล้ววาดฝันอย่างเป็นสุข หากเธอแต่งงานกับผู้ชายคนนี้คงจะสุขสบายไปตลอดชีวิต ซื้อของแบรนด์เนมและช็อปปิงได้ทุกวัน ซื้อรถหรูๆ กรี๊ดดดดดดดด...........
**********
“มาแล้วหรอเจ้าตัวดี ลืมหน้าหม่าม๊าแล้วหรือยัง หายไปนานขนาดนี้” แก้วกัลยาเหน็บเจ้าลูกชายคนเล็กที่มาถึงก่อนอย่างงอนๆ ก่อนจะโดนลูกชายตัวแสบสวมกอดและหอมแก้มทั้งสองข้างของเธออย่างออดอ้อน เรียกค้อนวงใหญ่แจกไปทันที
“หม่าม๊า เอดานคิดถึงหม่าม๊ามากเลยนะครับ แต่เอดานติดงานจริ๊งจริงครับ” เอดานรีบตอบมารดาเสียงสูงทันทีที่ได้ยินคำต่อว่ามาเช่นนั้น
“เสียงสูงเชียวนะ” แก้วกัลยาตวัดสายตาค้อนลูกชายสุดที่รักอย่างหมั่นไส้
“โธ่ หม่าม๊า ผมพูดความจริงทุกอย่างเลยนะ ‘งานยุ่ง’ จริงๆครับ” เอดานยังคงแถมารดาไปเรื่อยอย่างไม่ยอมรับ เพราะเขาถือว่าเป็นการช่วยชีวิตตำแหน่งลูกรักและช่วยประคองสถานะให้ตัวเอง หากมารดาเขากริ้วมากกว่านี้ ท่านอาจจับลูกท่านหลานเธอคนใดคนหนึ่งมาให้เขาก็เป็นได้ ซึ่งนั่นมันช่างเป็นนรกสำหรับชีวิตโสดสำราญของเขาดีๆนี่เอง การมีผู้หญิงเพียงคนเดียวในชีวิต โอ้ว พระเจ้า แค่คิดก็สยองซะแล้ว
“ย่ะ งานที่ว่าน่ะ งานใต้กระโปรงหรือเปล่า แต่ช่างเถอะ หม่าม๊าถือว่าที่ผ่านมาหม๊าม๊าปล่อยหนูให้เป็นอิสระมากพอแล้ว ตั้งแต่นี้ไปหนูต้องไปตรวจร่างกายและเตรียมแต่งงานกับผู้หญิงที่หม๊าม๊าเลือกให้ แต่หม่าม๊าเข้าใจหากหนูจะมีแฟนหรือคนรักที่ดีพร้อมและเหมาะสมที่หนูคิดจะแต่งงานด้วย” แก้วกัลยาร่ายยาวเพื่อทำตามที่ตนตั้งใจไว้ โดยไม่สังเกตุสีหน้าลูกชายสุดที่รักสักนิดว่าตอนนี้จะหน้าเหวอสักเพียงไหน อีกทั้งสรรพนามที่หม่าม๊าเรียก ช่างแอ๊บแบ๊วและไม่แมนเป็นยิ่งนัก เขาเคยขอร้องมารดาสักล้านครั้งได้ ให้ท่านเปลี่ยนมาเรียกอย่างอื่นแต่ท่านก็หายอมไม่ มีแต่สีหน้างอนๆเท่านั้นหากเขาขอหลายครั้งจนเกินควร ก็จะไม่ให้เขาอายได้อย่างไร หม่าม๊ายังแทนเขาด้วยหนูในบางครั้งอย่างติดปาก
“หม่าม๊า ผมมีแฟนแล้วครับ หม๊าม๊าไม่ต้องห่วง รับรองว่าผมจะควงแฟนมาอวดปาเดรกับหม๊าม๊าในอาทิตย์หน้านี่แหละครับ” เอดานรีบร้องบอกมารดาทันทีที่รู้ว่าโอกาสรอดมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ก่อนจะหน้าเหวออีกครั้งเมื่อมารดาตอบออกมา
“ยังไม่จบ หนูต้องแต่งงานภายในสามเดือน โอเคไหม หม่าม๊าอยากเลี้ยงหลาน หม๊าม๊าเหงา ลูกชายสองคนก็ไม่ยอมอยู่ให้หม่าม๊าชื่นใจ ลูกสาวก็เรียนอยู่ไกล” แก้วกัลยาตอบออกมาอย่างประชดประชันลูกแฝดคนเล็กอย่างงอนๆ เพราะทั้งสองอยู่แต่คอนโดไม่ยอมกลับบ้านให้เธอได้เห็นหน้าบ้างเลย แฝดพี่ยังดีที่กลับบ้าง แต่แฝดน้องนี่สิ ตะลอนกกสาวที่ไหนไม่รู้
‘หม่าม๊านี่นะเหงา เห็นสวีทกับปาเดรจนคิดว่าจะมีน้องอีกซะแล้ว’ถ้าไม่ติดว่าปาเดรรักหม่าม๊ามากจนไม่อยากเห็นหม่าม๊าผ่าคลอดอีกล่ะก็ ป่านนี้เขาคงมีน้องตั้งทีมฟุตบอลได้ บิดาเขาลงทุนทำหมันเลยทีเดียว เพราะไม่อยากให้หม่าม๊าเจ็บ แมนซะไม่มี เฮ้อ บางทีเขาก็คิดว่าพ่อเขาเนี่ยช่างเป็นพ่อพระ และรักหม่าม๊าเขาจนเกินพอดี และไอ้ที่เขาไม่ค่อยจะมาที่บ้านเนี่ยไม่ใช่อะไรหรอก ก็ปาเดรแหละ หวงหม่าม๊าซะขนาดนั้น กอดหม่าม๊านิด หอมหม่าม๊าหน่อยเป็นตาขวาง เป็นต่อว่า อยากจะตะโกนบอกบิดาซะเหลือเกินว่า หม่าม๊าหนูเหมือนกันนะ เหมือนตอนเด็กๆ ซึ่งเขาจำได้ว่า บิดาก็หวงแบบนี้แหละ แต่พวกเขาก็ดื้อเงียบ ทั้งกอดทั้งหอมอยู่ดี พร้อมทั้งทำหน้ามึนตอบบิดาไปว่าหม่าม๊าเป็นของพวกเขาแล้ว ปะป๊าหมดสิ้น จำได้ว่าตอนนั้นพวกเขาโดนร่างแหจากคำพูดสามหาวในครั้งนั้นด้วยการโดนจับไปอยู่โรงเรียนประจำเลยทีเดียว บิดาเขานี่หวงโหดจริงๆ พอจบประถมซึ่งก็ผ่านไปสามปี พวกเขาถึงได้กลับมาอยู่ที่บ้านกับหม่าม๊าเต็มที่เหมือนเดิม และแอบหอมมารดาหลับหลังบิดาเอา ซึ่งสองแสบอย่างพวกเขาอยากจะบอกบิดาว่า พวกเขาจะเป็นเด็กขาดความอบอุ่นจากมารดาแล้วนะ ทั้งๆที่มารดาก็รักเขามากแต่บิดาก็หวงซะ เฮ้อ ฝาแฝดเซ็งเลยล่ะ เอดานแอบบ่นบิดาในใจ
“ปาเดรปล่อยให้หม่าม๊าเหงาได้ไง เอ๊ มีอีหนูหรือเปล่าน๊า โอ๊ย” เอดานใส่ร้ายบิดาที่รักยังไม่ทันจบ ฝ่ามืออรหันต์ก็ฟาดลงมาที่ศีรษะเขาทันที ฝีมือใครไม่ได้หากไม่ใช่ฝีมือบิดาที่ร้ากมากนั่นเอง น้ำหนักมือนี่ไม่เบาเลยจริงๆปะป๊าจอมหวง
“ปากหรืออะไรน่ะเอดาน ที่รักอย่าไปฟังลูกนะจ๊ะ ก็รู้อยู่ว่าผมน่ะอยู่กับที่รักตลอด จะมีช่วงนี้แหละที่เจ้าแฝดมันอู้งาน ลาพักร้อนยาวไปกกสาว” อันเดรสรีบแก้ตัวทันที หน็อยไอ้แฝดจอมแสบ เด็กๆแสบยังไงโตมาก็ยังเป็นแบบนั้น หึ่ม ถ้าไม่เป็นลูกนะตบให้ตายแล้ว หน็อยมาสร้างความร้าวฉานให้พ่อกับแม่ซะได้
“คุณนี่ แก้วยังไม่ว่าอะไรสักคำ ตีลูกทำไมคะ ลูกโตแล้วนะ ไม่กลัวลูกอายเด็กในบ้านหรือไง” แก้วกัลยาเอ็ดสามีเสียงเขียว ในขณะที่เอดานก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วยกับมารดา เขาไม่ได้เจ็บใจสักนิดที่บิดาตบหัวมาได้ แค่อยากเอาคืนบิดาเบาๆ โทษฐานที่หวงเกินเหตุจนพวกเขากลายเป็นเด็กขาดความอบอุ่น แต่งานนี้เขาต้องทำตัวเป็นกลาง ไม่สองมาตรฐาน(ให้บิดาเห็น)เด็ดขาด เดี๋ยวมรดกจะกลายเป็นชื่อแองจี้ น้องสาวคนเดียวกับเอเดรียนหมด โวะโฮะๆ
“ไม่เป็นไรครับหม่าม๊า ปาเดรแค่เตือนเท่านั้นเอง ใช่ไหมครับ ว่าแต่ทำไมหม่าม๊าเรียกแต่ผมละครับ เจ้าเอเดรียนไม่เห็นมาเลย” เอดานได้ทีถามหาแฝดผู้พี่ผู้มีนิสัยต่างกับเขาลิบลับ มีแต่คนบอกว่าเอเดรียนเป็นผู้ใหญ่กว่า มีความรับผิดชอบกว่า และหาว่าเขาร้าย เชอะ ใครจะไปรู้เอเดรียนน่ะร้ายกว่าเขาตั้งหลายเท่า ร้ายเปิดเผยแบบพระเอกสมัยใหม่ (แบบเขา) หรือจะสู้ร้ายลึก ร้ายอย่างปกปิดอย่างพระเอกยุคโบราณอย่างเจ้าเอเดรียน พระเอกสมัยใหม่อย่างเขาเริ่มจะน้อยใจทุกคนแล้วนะ
แก้วกัลยาคิดได้ว่าแฝดคนโตยังไม่มาเลย จึงหันไปหาสามีอย่างต้องการถาม ก่อนจะได้รับการส่ายหัวเบาๆอย่างไม่รู้เรื่องเป็นคำตอบ พร้อมชูโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเป็นการบ่งบอกว่าเขาได้บอกลูกแล้วนะเมียจ๋า
“มาแล้วครับหม่าม๊า ปาเดร” เอเดรียนเดินเข้ามาในห้องรับแขกทันได้ยินสิ่งที่แฝดผู้น้องจอมกะล่อนฟ้องมารดาพอดี จึงยืนรอสักพักก่อนจะเดินเข้ามา ชายหนุ่มเดินเข้าไปโอบกอดมารดาหลวมๆก่อนจะยกมือไหว้บิดาแบบที่มารดาสอนตั้งแต่เด็กแล้วนั่งลงข้างแฝดน้องด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่สนใจอาการยักคิ้วกวนๆของเจ้าแสบสักนิด แม้ในใจจะคิดหาทางเอาคืนเจ้าแสบในคราวหลังอยู่ก็ตาม
“มาก็ดีแล้วลูก แม่จะได้บอกทั้งสองคนให้จบทีเดียว เอดานบอกแม่ว่าน้องน่ะมีคนรักแล้ว แม่ก็อยากให้เอดานพาคนรักมาให้แม่ดู ถ้าไม่เลวร้ายอะไรนักแม่กับพ่อก็จะจัดงานแต่งให้ ส่วนหนูเอเดรียนมันถึงเวลาแล้วนะที่หนูควรจะมีใครสักคน เรื่องผู้หญิงคนนั้นแม่ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน ทุกวันนี้มีคนประเภทนี้เยอะ ถ้าไม่ใช่ก็เคลียร์ตัวเองซะ ถ้าใช่ก็ยอมรับเธอแบบที่ลูกผู้ชายสมควรทำนะลูก หรือถ้าหนูยังไม่มีใคร แม่ก็อยากให้หนูรู้จักลูกสาวเพื่อนแม่ นิสัยดี น่ารักเชียวล่ะ อ้อ แม่สบายใจระดับนึงแล้ว เพราะเอดานก็คงจะมีหลานให้แม่ได้อุ้มเร็วๆนี้ เพราะแม่คิดว่าลูกชายแม่ต้องเลือกคนดีมาเป็นคู่ชีวิต” แก้วกัลยาบอกลูกแฝดที่เธอรักมากทั้งสองอย่างอารมณ์ดี มันถึงเวลาที่ลูกชายของเธอจะเป็นฝั่งเป็นฝาสักที ที่ผ่านมาเธอเลี้ยงทั้งสองอย่างให้อิสระในการตัดสินใจชีวิตตัวเอง เรื่องการแต่งงานเธอก็จะปล่อย แต่แค่ตีกรอบให้มันเร็วขึ้น แต่ยังไงซะเธอเชื่อว่าลูกชายเธอทั้งสองต้องเลือกคนดีมาเป็นคู่ชีวิตแน่ เธอมั่นใจ
“เฮ้ย หม่าม๊า ได้ไง” เอดานร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อมารดาปล่อยแฝดผู้พี่ไปเยี่ยงนั้น เขาไม่ย้อมมมมมม ไม่จริ๊งงงงงง หม๊าม๊าลำเอียง แค่เขามาถึงก่อนเองนะ โอ้วโน
“ครับหม่าม๊า เอเดรียนเอ่ยตอบรับมารดาไปก่อนอย่างพอใจ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ให้แฝดน้อง” เสียใจนะ นายมาก่อนเอง หึหึ เขาไม่อยากจะบอกหรอกนะ ว่าเรื่องมันน่าจะเป็นแบบนี้ เพราะเขาตั้งใจมาช้าเอง เพราะรู้ว่าเจ้าเอดานต้องมาก่อนและต้องโดนมารดาเขายำก่อน ซึ่งเมื่อโดนก่อน เขาก็รอด หึหึ
‘ฮึ่ม เขาพลาด พลาดอีกแล้ว หน็อย เจ้าเอเดรียนฉลาดกว่าเขานิดนึงอีกแล้ว ทำไม ทำไม เขาต้องแพ้ด้วย เฮ้อ แล้วทีนี้จะหาใครมาเป็นแฟนกำมะลอได้ล่ะ ใครกัน ใคร’ เอดานคิดในใจอย่างโมโหปนกังวล คู่ควงที่ผ่านมาของเขาจนถึงปัจจุบันไม่มีใครเหมาะที่จะแต่งงานด้วยสักนิด ไม่ใช่เขารังเกียจที่เธอเคยผ่านผู้ชายมาก่อน แต่ด้วยนิสัย ลักษณะการใช้ชีวิต เข้ากับมารดาเขาไม่ได้แน่ ที่สำคัญทุกคนล้วนต้องการเกาะเขาทั้งนั้น มีหวังแต่งกันไปสมบัติที่มาและที่หามาได้ต้องหมดไปกับการพนัน ไม่ก็คุณเธอผลาญไปเข้าสังคมอันไร้สาระเป็นแน่ ใช่ว่าเขาจะงกหรือมีเงินไม่พอหรอก ไอ้เฉพาะเงินที่เขาหามาตั้งแต่เรียนจบมัธยม และเริ่มนำเงินเก็บมาลงทุนนั่นนี่กับเอเดรียนบ้าง เพื่อนร่วมชั้นบ้างมันก็สร้างกำไรให้เขามากโข แต่ครั้งจะปล่อยให้มันหายไปกับผู้หญิงมันก็ดูจะโง่ไป
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าจ๊ะหนูเอดาน” แก้วกัลยาหันมาถามแฝดเล็กอย่างสงสัย ก่อนจะหันไปมองเอเดรียนว่าน้องเป็นอะไร ซึ่งรายนั้นก็ส่ายหัวเป็นคำตอบทันที
“ปะเปล่าครับ หม่าม๊า” เอดานปฏิเสธมารดาทันทีอย่างรวดเร็ว ก็แหมครั้นจะให้เขาตอบมารดาว่ามี เขาก็ชะตาขาดสิ มารดาเขาเกลียดคนโกหกที่สุด ยิ่งเป็นคนในครอบครัวยิ่งแล้วใหญ่ งานนี้มันต้องเป็นเขาเองที่ต้องหาใครสักคนมาเป็นกันชน อาจจะจ้างมาแต่งงานสักล้านดอลล่าและอยู่กันสักปีค่อยหย่า เลวร้ายกว่านั้นอาจจะจ้างมาท้องด้วยเลย จับเธอเซ็นต์สัญญาให้ท้องและยกลูกให้เขาแค่นี้ก็จบ
“งั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว เอเดรียน น้องเป็นไงบ้างลูก แม่เป็นห่วงน้องจังไปเรียนคนเดียว” แก้วกัลยาหันไปถามลูกชายคนโตเกี่ยวกับลูกสาวคนสุดท้อง ที่ตอนนี้เรียนปริญญาตรีเทอมสุดท้ายที่อังกฤษ ลูกสาวคนนี้มีอายุห่างจากพี่ฝาแฝดเกือบ 8 ปี แต่เพราะเข้าเรียนตั้งแต่เด็กและหัวไว อีกทั้งเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษใช้เวลาแค่สามปี จึงใกล้จบแล้ว แต่ด้วยอายุแค่ 19 เธอจึงน่าเป็นห่วงนัก ลูกสาวเธอเกลียดคนเจ้าชู้เข้าไส้และเป็นไม้เบื่อไม้เมากับลูกชายคนรองเป็นที่สุด เพราะมักเห็นพี่ชายรองอย่าเอดานควงสาวๆไม่ซ้ำหน้าให้เห็นเสมอ และนั่นทำให้ลูกสาวเธอเกลียดผู้ชายจนไม่เคยมีแฟนเลยตั้งแต่เรียนมา เพราะเมื่อเธอแอบถาม (เพราะคุณพ่อจอมหวงฝากให้ถาม) ก็จะได้คำตอบที่เป็นที่ชื่นใจของบิดาเป็นนักหนาว่า หากไม่ได้คนดีและรักเธอจริงแบบปาเดร เธอจะขออยู่เป็นโสดตลอดชีวิต งานนี้คนที่ยิ้มแก้มตุ่ยจะเป็นใครไม่ได้ หากไม่ใช่ สามีเธอ เพราะหวงลูกสาวยังกับไข่ในหิน เพราะเป็นลูกสาวคนเดียวและคนเล็ก บางทีหวงออกนอกหน้าจนเจ้าแฝดมีเคือง มันช่างเป็นเรื่องน่าตลกนัก ที่เมื่อหนูแฝดของเธอโตขึ้นมักจะงอนบิดาเธอบ่อยๆ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แอบถามหลายครั้งเจ้าแฝดก็ให้เธอไปถามบิดาเอง และเมื่อเธอถามสามีก็ไม่ได้คำตอบออะไรที่ทำให้เธอเข้าใจได้เลย
“น้องเหลือแค่สอบอีกสองวิชาก็จบครับ แต่น้องขอไปเที่ยวแบบ backpack อยู่ยุโรปสักเดือน ฝากให้ผมมาขอปาเดรและหม่าม๊าให้หน่อย น้องขอไปคนเดียวและที่สำคัญขอไม่ให้พวกเราส่งบอดี้การ์ดไปด้วยครับ” เอเดรียนเอ่ยบอกในสิ่งที่น้องสาวสุดที่รักขอมาแก่บิดามารดา ตัวเขานั้นหวงน้องไม่ต่างจากบิดาเลยสักนิด ในใจก็ภาวนาให้บิดาไม่ยอมที เพราะมันอันตรายเกินไปหากน้องสาวเขาจะไปเที่ยวคนเดียว แม้จะเป็นยุโรปก็ตาม เพราะผู้ชายมักจะมองผู้หญิงที่เที่ยวคนเดียวในทางไม่ดีเสมอ อีกทั้งน้องเขาหน้าตาก็ออกทางเอเชียมากกว่ายุโรป ด้วยส่วนสูงแค่ 160 ผิวขาวอย่างมารดา ผมสีดำยาวมีแค่สีตาสีฟ้าเข้มเท่านั้นที่บ่งบอกว่าน้องเขาเป็นลูกครึ่งแต่มันก็ถูกบดบังด้วยแว่นสายตาที่น้องเขาชอบใส่ ดังนั้นถ้ามองเผินๆคนอื่นมักจะคิดว่าน้องเขาเป็นคนเอเชีย นั่นคือสิ่งที่เขาห่วง บางชาติในยุโรปยังไม่เปิดรับคนเอเชียมากนักโดยเฉพาะสาวเอเชีย ทุกวันนี้เขาจึงส่งลูกน้องถึงสิบคนคอยดูแลน้องเขา แม้จะมีแค่สองคนที่น้องเขารับรู้ แต่ที่เหลือแปดคนก็จะแฝงตัวอยู่ใกล้ๆน้องเขาเพื่อคอยดูแลอย่างดี ไม่ให้ผู้ชายหน้าไหนหรือแม้กระทั่งผู้หญิงคนใดมาคิดร้ายกับน้องเขาได้
เอดานได้ยินในสิ่งที่แฝดพี่ขอก็หน้านิ่วทันที เห็นทีเขาต้องโทรไปเตือนน้องน้อยเขาแล้ว แม้จะทะเลาะกัน แต่ใครจะรู้ว่าสายใยของคนเป็นพี่อย่างเขาแฝงด้วยความห่วงใยและหวงน้องสาวคนนี้ไม่ต่างจากแฝดพี่หรือบิดาสักนิด น้องเขาสวยน่ารักยังกับนางฟ้าตัวน้อยๆ ตากลมโตสีฟ้าสามารถละลายใจหนุ่มๆในโรงเรียนได้ตั้งแต่สมัยอนุบาลจนถึงมหาลัย แต่ที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบ อาจเป็นเพราะกลัวอิทธิพลของครอบครัวเขาซะมากกว่า หากปล่อยให้น้องน้อยไปเที่ยวคนเดียวมีหวังไอ้พวกหนุ่มๆ เดินตามต้อยๆเป็นแน่ ไม่ย้อม ไม่ยอมมมมมมมมมมมมมม
“อะไรนะ ไม่มีทาง!!! พ่อไม่มีทางยอม บอกน้องไปได้เลย อยากไปไหนบอกมา ให้เอาเครื่องบินส่วนตัวไป และเช่า ฮ ที่นั่นเอา จะไปแบบยาจกทำไม น้องเรายิ่งบอบบางอยู่ ครอบครัวเราทำธุรกิจแม้ว่าจะไม่ใช่ธุรกิจมืดแต่คู่แข่งมันก็เยอะ หากพวกมันรู้น้องเราจะอันตรายนะ มา! เดี๋ยวพ่อคุยกับน้องเอง เอเดรียนต่อสายให้พ่อเลย ถ้าไม่ฟังพ่อจะตามไปอยู่ด้วย สองวิชาอีกอาทิตย์เดียวก็สอบเสร็จ ถือโอกาสพาหม่าม๊าไปฮันนิมูนด้วย” อันเดรสบอกออกมาอย่างเฉียบขาด งานนี้เขาไม่มีทางยอม ถ้าลูกสาวตัวน้อยดื้อเขาคงต้องใช้มารตการขั้นเด็ดขาด ไม่ใช่ว่าจะไม่ปล่อย แต่ลูกเขาเป็นผู้หญิงย่อมหวงมากเป็นธรรมดา อันเดรสบ่นออกมาโดยไม่ทันได้สังเกตุอาการหน้าแดงระเรื่อของภรรยากับคำว่าจะพาหม่าม๊าไปฮันนิมูน กอร์ปกับอาการส่ายหน้าอย่างระอาของเจ้าแฝดที่กระทำทันทีเมื่อได้ยินคำพูดคุ้นหู เพราะตั้งแต่จำความได้ รู้สึกว่าบิดาเขาจะพามารดาไปฮันนิมูนเกือบร้อยครั้ง ไม่ได้เวอร์ บิดาเขาไปฮันนิมูนบ่อยจนไม่รู้จะสรรหาคำใดมาพูด ช่างรักกันจนพวกเขาเพลียใจจริงๆ เอเดรียนและเอดานคิด หากแต่เอเดรียนก็ไม่ลืมที่จะกดโทรศัพท์เครื่องบางในมือหาน้องน้อยตามคำสั่งบิดา
“ค่ะพี่เอเดรียน” เสียงใสเอ่ยทักพี่ชายมาตามสายทันที ด้วยเบอร์ที่โชว์เป็นชื่อพี่ชายนั่นเอง
“ปาเดรเองนะ แองจี้” อันเดรสทักลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ใบหน้าติดจะยิ้มน้อยๆ ลูกสาวเขาช่างเหมือนแม่เหลือเกิน มีแค่ตาเท่านั้นที่ได้เขามา
“ปาเดรหรอคะ พี่เอเดรียนบอกเรื่องนั้นแล้วสิ ปาเดร ให้แองจี้ไปนะคะ นะนะนะ แองจี้สัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดี จะพกปืนตามที่เคยขอให้พก นะคะ นะนะ” แองจี้ หรือแองเจลิน่า เมื่อรู้ว่าในสายเป็นบิดาสุดที่รักจึงออดอ้อนมาตามสายทันที เธอรู้ว่าบิดาเธอแพ้คำออดอ้อนของเธอและมารดาเพียงใด เพราะที่เธอได้มาเรียนไกลถึงอังกฤษนี่ก็เป็นเพราะออดอ้อนขอบิดานี่แหละ ซึ่งกว่าจะได้เธอต้องใช้เวลากว่าสามปี แต่เรื่องเที่ยวน่าจะง่ายกว่านะ เธอคิด แม้ในใจจะกลัวอยู่ไม่น้อยก็ตาม
“แองจี้ลูก หนูเป็นผู้หญิง หากอยากเที่ยวทำไมไม่เอาเครื่องบินส่วนตัวเราไปล่ะลูก พ่อจะไม่ว่าสักคำ แต่นี่หนูจะสะพายเป้ตะลอนเที่ยวแบบนักศึกษาจบใหม่ทั่วไป มันอันตรายมากนะ พ่อไม่อนุญาติ” อันเดรสเอ่ยตอบลูกสาวทันที งานนี้เขาต้องทำใจแข็งเข้าไว้ ไม่ใช่ไม่รักลูก แต่นี่คือการแสดงความรักของเขา เขาทนไม่ได้หรอกหากลูกสาวจะเที่ยวคนเดียวแบบนั้น มันอันตรายเกินไป
“พ่อขา แองจี้ไม่ได้ไปคนเดียวนะคะ มีเพื่อนแองจี้ไปด้วยคนนึง เธอเป็นคนไทยค่ะ เธอเป็นถึงนักกีฬามหาวิทยาลัยเลยนะคะ ทั้งคาราเต้ ยูโด เทควอนโด ปาเดรเชื่อใจได้ และแองจี้เองก็ยิงปืนเป็น แค่นี้สบายปร๋อค่ะ นะนะ ปาเดรสุดที่รัก ให้แองจี้ไปนะ เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนรักแองจี้เลยล่ะค่ะ รักมาก ขาดกันไม่ได้เลย ขาดกันไปตายเลยแหละค่ะ” แองเจลิน่ายังคงออดอ้อนบิดามาตามสาย เธอเชื่อว่าหากบิดารู้ว่าเธอมีเพื่อนย่อมปล่อยให้ไปแน่ ตอนแรกเธอกะไปคนเดียว แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจแล้ว เพราะเธอจะไปเที่ยวเอเชียแทน ด้วยดารากานต์เพื่อนรักจากเมืองไทยคนนี้เก็บเงินได้ไม่เยอะ ครั้นเธอเสนอออกให้เพื่อนเธอก็ไม่เอา จึงเปลี่ยนแพลนไปเที่ยวเมืองไทยน่าจะดีกว่า
“ถึงงั้นก็เถอะ พ่อก็ยังไม่อนุญาติอยู่ดี ทุกคนเป็นห่วงรู้ไหมยัยหนู” อันเดรสยังคงไม่ยอมให้ลูกสาวสุดที่รักไปเที่ยวง่ายๆ หากดูแล้วลูกสาวสุดที่รักก็ไม่ยอมง่ายๆเช่นเดียวกัน ไม่รู้ลูกเขาทั้งสามดื้อเหมือนใคร บทจะเอา หรือจะทำอะไรก็เล่นเอาซะคนเป็นพ่อเป็นแม่แบบเขาปวดกบาลทุกที เมื่อลูกสาวยังอ้อนไม่เลิกจึงต้องส่งให้ภรรยาคนสวยทำหน้าที่จัดการ เพราะทั้งบ้านเกรงใจเมียเขาเป็นที่สุด เธอไม่โหดเลยสักนิด แต่หากเธอเอ่ยปากเพียงเท่านั้นทุกคนต้องทำตาม ไม่งั้นก็อย่างที่เห็น เจ้าฝาแฝดที่ว่าซน ที่ว่าแน่ยังต้องกลับมา
“แองจี้ นี่หม่าม๊านะคะ ไหนลองพูดมาสิว่าหนูจะทำอะไร” แก้วกัลยาทักลูกสาวเสียงหวานก่อนจะนิ่งฟังเงียบๆ ซึ่งลูกสาวคนเล็กของเธอก็บอกและขอเหมือนที่บอกกับบิดาไปก่อนหน้านี้เปี๊ยบแก้ไขแค่สถานที่เปลี่ยนเป็นเมืองไทย เมื่อเธอฟังก็คิดตาม ลูกสาวเธออยู่ภายใต้อิทธิพลของครอบครัวมาตลอด คงจะมีบ้างที่อยากจะไปไหนเหมือนคนธรรมดา เธอจึงหาทางออกของเรื่องนี้ให้ลูกทันที
“แม่จะอนุญาติให้หนูไป แต่มีข้อแม้ แม่จะส่งเอดานไปเป็นเพื่อนอีกคน และนอกนั้นแม่จะปล่อย โอเคไหม” แก้วกัลยาบอกลูกสาวออกไป ซึ่งฝ่ายนั้นก็ร้องหา ออกมาดังๆ ทันที หากแต่เมื่อมารดาอนุญาติแค่นี้เธอก็ต้องจำใจฟัง เพราะไม่งั้นเธอก็อด อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องเป็นคุณหนูมาเฟียที่มีบอดี้การ์ดตามเป็นพรวนให้ตกเป็นเป้าสายตาใครๆละกัน
“ค่ะ หม่าม๊า ขอบคุณนะคะ แองจี้รักหม่าม๊าที่สุดเลยค่ะ ฝากบอกพี่เอดานด้วยนะคะ ว่าให้บินมาหาแองจี้อีกสี่วัน แค่นี้ก่อนนะคะหม่าม๊า แองจี้คิดถึงทุกคนค่ะ” แองเจลิน่าพูดจบก็วางสายทันที ก่อนจะรีบโทรบอกเพื่อนรักอย่างดารากานต์ว่าทุกคนให้เธอไปเที่ยวได้แล้ว แม้จะมียักษ์สุดแสนเจ้าชู้อย่างพี่ชายไปด้วย แต่งานนี้เธอก็มีวิธีกันไม่ให้พี่ชายจอมกะล่อนมายุ่งกับเพื่อนเธอ แต่ถึงเธอจะไม่คิดแผนเธอก็เชื่อว่า ดารากานต์สามารถเอาตัวรอดจากการหว่านเสน่ห์ของพี่ชายเธอได้ เพราะรายนี้เกลียดคนเจ้าชู้ไม่ต่างจากเธอ ด้วยเพราะดารากานต์ต้องอยู่กับยายเพียงลำพัง และเพราะความเจ้าชู้ของบิดาที่ทอดทิ้งมารดาของดารากานต์ไป จึงทำให้มารดาของดารากานต์ต้องตรอมใจตาย ดารากานต์จึงเป็นลูกกำพร้าอยู่กับยายเพียงแค่สองคน และที่มาเรียนได้เพราะทุนรัฐบาลซึ่งเพื่อนเธอต้องกลับไปทำงานชดใช้เป็นระยะเวลาสองเท่าของระยะเวลาที่เรียนมา หากไม่ชดใช้ก็ต้องจ่ายเงินมูลค่ามหาศาลสำหรับดารากานต์ ซึ่งมีค่าแค่น้อยนิดมากสำหรับเธอ และในใจเธออยากให้เพื่อนมาทำงานที่บริษัทของตระกูลมากกว่า แต่เธอรู้ดีว่าดารากานต์คงไม่เอาอย่างแน่นอน จึงปล่อยให้เพื่อนจัดการชีวิตเอง
“เอดานดูแลน้องดีๆนะ อย่าให้ใครมาทำอะไรน้องได้ หากมีอะไรแปลกๆ เรียกลูกน้องได้เลย พ่อส่งลูกน้องตามไปสิบคน แต่ไม่ให้ยัยหนูรู้ ยังไงพ่อก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เข้าใจนะ ส่วนเรื่องงานเดี๋ยวพ่อจะดูแลเอง” อันเดรสกำชับลูกชายอย่างแน่วแน่ หลังจากได้ยินภรรยาอนุญาติให้ลูกสาวไป เขาเคารพการตัดสินใจของภรรยาเสมอ แม้จะห่วงแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อภรรยาอนุญาติเขาก็แค่หาทางป้องกันเพียงแค่นั้น แต่อันเดรสลืมนึกไปว่า หากพรหมลิขิตได้ขีดไว้แล้วยากนักที่จะต้านได้



กาญจน์เกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 มี.ค. 2555, 13:40:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 มี.ค. 2555, 13:40:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 3506





<< บทนำ   บทที่ 2 แผนพลิก >>
Zephyr 3 มี.ค. 2555, 14:25:55 น.
ครอบครัวสุขสุนต์จริงจริ้ง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account