เลือดรักทระนง
เด็กหญิงคนหนึ่งซ฿งถือกำเนิดมาจากโจร ปล้นฆ่า และเลือดอีกส่วนมาจากแม่ที่ไม่ยอมรับในความเป้นลูกของเธอ กระถินยังยืนหยัดที่จะอยู่อย่างทระนงในศักดิ์ศรีและค่าแห่งความเป้นคน ด้วยความรัก และซื่อสัตย์ต่อผู้มีพระคุณ
Tags: ศักดิ์ศรี คือสิ่งที่ต้องรักษา

ตอน: พินัยกรรม


คุณพระศานต์พารามไปที่บริษัท ท่านทำการค้ากับพวกฝรั่ง ธุรกิจดำเนินไปด้วยดี รามลองดูงานที่พระศานต์ส่งมาให้
เวลาบ่ายนายสมพรเข้ามาส่งบัญชีให้พระศานต์ตรวจดู พระศานต์บอกลูกชายว่า
“สมพรทำหน้าที่บัญชี คนนี้ที่ช่วยดูแลเจ้าซนอีกที อ้อสมพรวันนี้คุณมินตรายังไม่มาอีกหรือ”
“คุณมินตราเธอบอกมาว่าสอบกลางเทอมเก็บคะแนนสำคัญขอรับ มาไม่ได้”
“อ้าว แล้วทำไมมันไม่บอกฉันเสียก่อนเล่า มาบอกนายสมพร ถ้าจะสนิทกันมากล่ะสิ”
สมพรยิ้มกว้าง หากเมื่อเหลือบไปเห็นสายตาเย็นชาขอองลูกชายเจ้าของบริษัท ทำให้สมพรทำท่าจืดเจื่อน ท่าทางเหมือนดอกไม้บานเมื่อครู่ห่อเหี่ยวลงแทบไม่ทันทีเดียว
“เอ่อ ไม่สนิทมากดังที่คุณท่านเข้าใจดอกครับ เพียงแต่ว่า ถ้าคุณมินตรามีธุระสำคัญเธอจะบอกกระผมขอรับ”
“ทนายทดไปไหนล่ะวันนี้”
“เพิ่งออกไปเมื่อสักสิบโมงนี่ขอรับคุณท่าน เห็นเด็กบอกว่าคุณทดไปเจรจาความกับคู่ค้าของบริษัทเราขอรับ”
“อ้อ เช่นนั้นก็แล้วไปเถอะ นี่ได้รู้จักลูกชายฉันอย่างจริงจังแล้วนะ อีกไม่เท่าไหร่เขาจะมานั่งตรงนี้แทนฉันแล้ว”
“ขอรับ สาวๆตื่นเต้นกันใหญ่ นี่ยังพูดถึงคุณรามไม่จางเสียงเลยขอรับ”
คุณพระหัวเราะเบาๆ หากลูกชายทำสีหน้าเรียบเฉย ไม่ยินดี ยินร้ายจนสมพรรู้สึกว่า รามดูดุกว่าพระศานต์มากนัก อีกหน่อยเขาคงเดินมาทำงานตัวลีบกว่านี้เป็นแน่
“เอ่อแล้วคุณมินตราจะมาทำหน้าที่เลขาของคุณราม หรือว่ามาเป็นสมุห์บัญชีที่นี่ขอรับ”
“เจ้าซนของฉันเป็นคนละเอียด บัญชีสะอาดมากน่าที่จะให้อยู่ฝ่ายตรวจสอบบัญชี”
“เช่นนั้นคุณมินตราคงจะเรียนต่อกระมังครับ”
“คุณสนิทกับมินตรามากนักหรือคุณสมพร”รามโพล่งออกมาอย่างบังคับตัวเองให้นิ่งไม่ได้ เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยมาทุกประโยคมีชื่อมินตราเสมอ
“เอ่อ”สมพรเกือบสำลัก เพราะโดนคำถามเดียวกันสองครั้ง
“ไม่สนิทดอกขอรับคุณราม เพียงแต่ผมออยากรู้อยากเห็นมากไปหน่อยขอรับ”
“คุณจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณพ่อเป็นการส่วนตัว”
“ขอรับ”สมพรรีบออกมาอย่างมีมารยาท และกลัวว่าตัวเองจะอดปากพูดเรื่องของกระถินอีกไม่ได้ เขาคิดถึงเธอมากนี่นา อยากพูด อยากอวดความสนิทสนม แต่ว่าอวด ผิดคนไปหน่อยเท่านั้นเอง
ทางด้านพุดกรองนัดแนะกับทนายทดอย่างเหิมเกริมมากขึ้น ด้วยตัณหาของนางเวลานี้ ไม่เลือกเวลาเสียเลย หลังจากอิ่มเอมจากกามารมณ์สมใจแล้ว พุดกรองนอนแนบข้างทนายทด ปรึกษาเรื่องร้อนใจ
“เราช้าไม่ได้แล้วนะทด นายรามเป็นหนุ่ม ท่าทางคุณพระจะยกสมบัติทั้งหมดให้เสียด้วย”
“ผมกำลังหาทางอยู่”
“นี่เราจะหาทางทำพินัยกรรมได้มั้ย”
“พินัยกรรม ไม่มีความหมายหรอกถ้าคุณพระมีชีวิตอยู่”
“เช่นนั้นเราก็อย่าให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปสิทด”
“ครั้งที่แล้วพลาดไปได้ น่าเสียดายจริงๆ”
“ครั้งนั้น นังกระถินตัวดี สาระแนมาขวางเสียได้ ครั้งนี่ฉันจะทำให้แนบเนียนทีเดียว ไม่มีทางให้พลาดอีก”
“ผมตามใจคุณพุดกรองทุกอย่างครับ”
“แล้วเรื่องไอ้นิธิล่ะ อย่าให้รู้ว่าส่งเสียมันเด็ดขาดนะทด ฉันเกลียดมัน”
“ไม่เลยครับ ผมเองไม่อยากเอาธุระแต่แรกแล้ว ตั้งแต่ไล่มันออกจากบ้านผมก็ไม่ได้ข่าวมันอีกเลยครับ”
“ช่างมัน มันอยากเจียมตัว มันจะเป็นตายก็เรื่องของมัน”
“ครับ มาพูดเรื่องของเราดีกว่าครับ”ทดกล่าวมีเลศนัย
สองชายหญิงโอบกอดสบตาเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและความชั่วร้าย

ที่วังนารายณ์
ปาริชาติมาหารามตามที่อยู่ซึ่งให้ไว้แก่กัน
เวลานั้นสร้อยสนไม่ได้อยู่บนตึก ซึ่งเธอมักนั่งเหงาอยู่ในสวนตามลำพังเสมอ แม่นิ่มต้องเป็นฝ่ายมารับรองเพราะนายไม่อยู่สักคนเดียว หากว่าไม่นานนัก พุดกรองกลับมา แม่นิ่มจึงรายงานว่าปาริชาติเป็นเพื่อนของราม พุดกรองเพียงพยักหน้ารับจากนั้นจึงทำหน้าที่เจ้าของบ้าน ด้วยการเป็นเจ้าของจริงๆ
ปาริชาตินั่งอยู่ในห้อง เธอเคยชินกับการนั่งไขว้ขา ดังนั้นกิริยาจึงขัดนัยน์ตาพุดกรอง อย่าว่าแต่ท่านั่งเท่านั้น ความสวยของปาริชาติยิ่งนำความไม่พอใจมาให้พุดกรองอย่างมาก
แม่นิ่มขอตัวจากมา พอพ้นห้องหญิงมากวัยแอบส่ายหน้า ไม่ชอบกริยามารยาทของปาริชาติ หญิงที่รามบอกว่า มีเพียงคนเดียวที่ยินดีในการรู้จัก
“จ๊ะเอ๋ค่ะ แม่นมขา”กระถินดักหน้าแม่นิ่ม แม่นิ่มสะดุ้งอย่างตกใจ กระถินยิ้มอย่างร่าเริง ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม แล้วสวมกอดท่านอย่างที่เคยทำ
แม่นิ่มยิ้มรับอย่างชื่นใจ อดนำไปเปรียบกับสาวทันสมัยคนเมื่อครู่นี้ ว่า ปาริชาติ สู้กระถินเรื่องมารยาทไม่ได้
“หิวมั้ยคะคุณของนม”
“หิวมากค่ะแม่นม แต่มีงานค้างไว้ค่ะ ต้องรีบทำก่อนวันนี้ไม่มีการบ้าน กระถินขอทำงานที่ห้องหนังสือนะคะ ส่วนขนมคงต้องขอพี่จันทร์ให้มาส่งทัพหน้าเสียแล้วค่ะแม่นมขา”
“นมมาส่งให้เองค่ะคุณกระถิน”
“ไม่เอา ถ้าแม่มาเอง กระถินไม่หิวแล้วค่ะ”
“เอ๊ะคุณกระถินนี่ แม่เหนื่อยมากแล้วนี่คะ เดี๋ยวต้องเตรียมอาหารมื้อพิเศษคุณท่านอีก กระถินห้ามเด็ดขาดนะคะ ห้ามแม่นมมาส่งเอง ถ้ามาเองกระถินจะไปตีพี่จันทร์แทนนะคะ”
“ถูกมัดมือชกอย่างนี้นมคงไม่มีทางสู้แล้วค่ะคุณของนม”
แม่นิ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้มแฝงความสุขเต็มเปี่ยม ก่อนที่จะแยกกันกับคนที่นางรักที่สุด

พุดกรองกระแอมไอเป็นสัญญาณว่ามีคนเข้าไป ปาริชาติ เหลือบสายตานิด ก่อนเอ่ยแนะนำตัวเองว่า
“ดิฉันเป็นเพื่อนของราม ชื่อปาริชาติค่ะ”
“ฉันเป็นแม่ของเขา”พุดกรองเอ่ยปากบอกอย่างไว้ตัว ปาริชาติยิ้มในสีหน้า ขยับท่านั่งให้เป็นเกียรติกับอีกฝ่าย และยังเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไร้ความตื่นเต้นว่า
“อ้อคงเป็นแม่เลี้ยงที่รามเล่าให้ฟัง ดิฉันคือปูเป้เพื่อนของรามทายาทของบ้านนี้ค่ะ”
“ช่างดีจริงที่คุณรามคบหาคนหัวนอกที่ไม่มีกิริยางดงามอย่างชาวไทยเสียเลย นี่คงต้องรอลูกสร้อยกลับมาทำให้ดูนะ ว่าคนไทยเขาพบผู้ใหญ่ต้องมีกิริยาอย่างไร”
ปาริชาติสลับขาลงนั่งเอียงขาไปทางเดียวกันในทันใด พุดกรองเยาะยิ้มมุมปาก ปาริชาติไหวไหล่ไม่ชอบใจ ก่อนเอ่ยออกมาอย่างไม่แยแสในวัฒนะธรรมที่พุดกรองเอ่ยอ้าง
“ฉันเรียนเมืองนอก ชอบนั่งตามสบาย”
“เห็นอยู่ค่ะว่าคุณนั่งตามสบาย พอวางขาลงมานั่งเอนขาพับมองคล้ายๆนางเงือกด้วยซ้ำไป อ้อคุณคงไม่รู้จักวรรณคดีไทยอีกล่ะ”
“เพิ่งเข้าใจรามเดี๋ยวนี้เองว่าทำไมเอ่ยถึงแม่เลี้ยงของเขาอย่างไม่ยินดีนัก”
พุดกรองชาไปทั้งหน้าเมื่อโดนอีกฝ่ายตอกกลับอย่างไร้ซึ่งความเกรงใจ
“อ้อ ลืมบอกคุณไปว่า นอกจากฉันจะเป็นเพื่อนของรามแล้ว ฉันเป็นลูกสาวของนายพลเอกหลวงภิบาล”
กระถินเดินผ่านห้องโถงเลยมาถึงห้องรับแขก ได้ยินเสียงสนทนาของสองหญิง ๙อปาริชาติทำให้ หญิงสาวยอมเสียมารยาทแอบฟังคำสนทนาของสองหญิงต่างวัยอยู่นาน ได้ยินถ้อยคำทั้งหมด
ทุกประโยคที่เข้ามากระทบโสตของเด็กสาวคนกล้า ทำให้ใจแกร่งเต้นรัวตลอดเวลา แม้พุดกรองจะไม่นับว่าเธอเป็นลูก แต่เธอปฏิเสธความเป็นแม่ของอีกฝ่ายไม่ได้ แม่ของเธอโดนผู้ดี เพื่อนของรามอวดเบ่งเข้าจนยืนหอบหายใจอย่างน่ากลัววายตาย ใครที่ไม่ชอบพุดกรองอาจรู้สึกสมใจที่พุดกรองเกิดอาการเถียงไม่ออก แต่สำหรับกระถิน คำว่าแม่เวียนวนมาให้กระถินรู้สึก “เจ็บแทน”
กระถินเม้มริมฝีปาก ทนอดกลั้นที่จะไม่เข้าไปร่วมวงสนทนากระทบกระแทกนั้น
“ไม่เห็นเด็กรับใช้สักคนฉันอยากได้ชาฝรั่งแทนน้ำเปล่าจะได้มั้ย ถ้าคุณพุดกรองจะจัดการให้ดิฉันเอง”
กระถินแทรกตัวเข้าไปในทันที พุดกรองรู้สึกเหมือนกับว่านางได้หอก ได้โล่เพิ่มมาอย่างที่นางเองไม่รู้สึกตัว พุดกรองหันมาสั่งกระถินตามคำของปาริชาติ
“ได้ยินมั้ยว่าเพื่อนคนสำคัญของคุณรามต้องการชาฝรั่ง”
กระถินยิ้มให้ปาริชาติ ซึ่งอีกฝ่ายยืดกายเล็กน้อย ก่อนถาม
“เธอเป็นใครหรือ สวมเครื่องแบบนักเรียนอย่างนี้คงไม่ได้เป็นคนใช้ดอกกระมัง”
“เป็นคนใช้ค่ะ แต่ว่าชาฝรั่งที่นี่ไม่นิยมดื่มค่ะ”
“อะไรกัน บ้านขนาดนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีของทันสมัย”
“บ้านนี้ไม่ค่อยทันสมัยดอกค่ะคุณผู้หญิง หากคุณชอบมาก เวลาไปเยี่ยมเพื่อนชาย อย่างบ้านนี้ คุณพกติดมาด้วยสิคะ แล้วจะชงให้ดื่มค่ะ”
“ตายแล้ว นี่เธอเป็นแค่คนใช้ เธอกล้าดีอย่างไรมายอกย้อนฉันอย่างนี้ ช่างไพร่อย่างที่สุด”
“ตกลงว่าชาฝรั่งไม่มี คุณผู้หญิงรับน้ำเปล่ารอพี่รามไปพลางๆก่อนนะคะ น้ำเปล่าที่นี่มีอีกหลายโอ่งทีเดียวค่ะ”
“ตายแล้ว ตายจริง เกิดมาฉันไม่เคยเห็นคนใช้บ้านไหนปากเสียเท่าเธออีกแล้ว”
“อ้อ คุณผู้หญิงไปเยี่ยมผู้ชายมาหลายบ้านแล้วหรือคะ หวังใจว่าจะเยี่ยมบ้านพี่รามเป็นบ้านสุดท้ายนะคะ ไม่เช่นนั้นพี่รามคงได้ช้ำใจน่าดู เพราะเธอเป็นแค่ตัวเลือกเท่านั้น”
ปาริชาติลุกพรวด คว้ากระเป๋าคล้องข้อมือ ก้าวผ่านหน้าสองแม่ลูกไปอย่างเดือดดาน พุดกรองเหลือบสายตามามองกระถินซึ่งก้มหน้ายิ้มกลบเกลื่อน
“แกมันร้ายนักนังกระถิน”พุดกรองต่อว่า แต่ในใจรู้สึกว่าได้แก้รำผู้ดีอย่างปาริชาติไปแล้วอย่างที่ไม่หลงเหลือความแค้นติดใจแม้สักนิดเดียว จากนั้นพุดกรองผละจากไป ปล่อยให้กระถินรับหน้าคุณพระ ซึ่งนางคะเนว่าใกล้จะกลับมาพร้อมราม
กระถินขึ้นไปห้องสมุดเพื่อทำหน้าที่บัญชีต่อไป
ปาริชาติเดินหน้าตึง คอเชิด ก้าวฉับๆผ่านออกมาพบจันทร์ยืนถือถาดขนมค้างเติ่งหน้าห้อง เธอชายหางตาอย่างดูแคลน เพราะนึกรู้ว่าอีกฝ่ายคงมาแอบฟังคำสนทนาภายในห้อง ยิ่งคิด เธอยิ่งพานชิงชังบ่าวไพร่ในวังแห่งนี้เป็นอันมาก
“คุณกระถินนะคุณกระถิน ทำไมไปหาเรื่องขนาดนั้นได้นะ”จันทร์รำพึง
เวลานั้นเอง พระศานต์และรามกลับมาจากบริษัท ปาริชาติเดินหน้าตึงกำลังไปถึงรถ รามรีบเรียกอีกฝ่ายไว้
“ปูเป้”
ปาริชาติหยุดยืนนิ่ง รามเดินเข้าไปหา หญิงสาวเงยขึ้นมองอีกฝ่ายจากนั้นน้ำตาแห่งความเจ็บใจหยาดรินลงมาไม่ขาดสาย
“คุณเป็นอะไรไป”
“เกิดมาปูเป้ไม่เคยเจ็บอย่างนี้เลยนะคะราม ทำไมคนใช้ของคุณจึงเลวมากเหลือเกิน”
“ใครทำอะไรคุณหรือ มานี่เถิด ผมจะจัดการให้”
“ไม่ค่ะ ปูเป้ไม่ลดตัวลงไปมีเรื่องกับคนใช้ดอกค่ะ วันนี้ปูเป้ขอตัวกลับก่อน ปูเป้จะมาบอกว่าจะเดินทางไปต่างประเทศอาทิตย์หน้านี้”
“ผมก็ไปทริปนั้นเช่นกัน เอ่อคุณจะไม่อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนหรือ”
“ไม่ค่ะ ปูเป้ทนเห็นคนใช้คนนั้นไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ ไล่ออกเสียคงดี”
“ให้ผมไปดูก่อนนะว่าใครกล้าเสียมารยาทกับเพื่อนของผม”
“คงเป็นคนของแม่เลี้ยงคุณกระมัง ปูเป้กลับก่อนล่ะ”
ปาริชาติขึ้นรถและติดเครื่องยนต์ออกไปทันที หญิงสาวทิ้งให้รามแก้ปัญหา ซึ่งเธอทำให้เขารู้ว่าใหญ่มาก ขนาดที่ว่าเธอไม่ยอมอยู่หรือยอมมาบ้านนี้อีก ถ้าไม่จัดการ “คนใช้”คนนั้น
คุณพระหยุดรอที่บันได ท่านสังเกตมารยาทของหญิงสาวซึ่งมอองข้ามหัวผู้ใหญ่อย่างท่านไปอย่างไม่น่าที่จะทำได้ รามเดินกลับมาที่บิดา พลางส่ายหน้าบอกกับท่านว่า
“แย่จริง”
“เรื่องเพื่อนหญิงของรามไม่ยอมมารู้จักพ่อหรือ”
คุณพระย้อนไปคนละเรื่องกับที่ลูกชายอุทานออกมา รามสะอึก อึ้งไปชั่วขณะ ก่อนบอกบิดาว่า
“ปูเป้คงถูกใครสักคนแกล้งขอรับคุณพ่อ เธอฟ้องร้องมาว่าคนใช้ที่นี่ไร้มารยาท เธอว่าเป็นคนของพุดกรอง”
“เรียกมาดูทีว่าใครมันกล้า”
ฝ่ายจันทร์หลังจากเห็นปูเป้แสดงความฉุนเฉียวเชิดใส่แล้ว เธอจึงขึ้นไปส่งขนมให้กระถิน
เวลานั้นหญิงสาวอยู่ในห้องสมุด ซึ่งเป็นห้องกว้างพอควร มีตู้หนังสือตั้งชิดมุมห้องล้วนเป็นตู้ใหญ่ ใส่หนังสือ อ่านเล่น หนังสือวิชาการ และหนังสือหมวดภานิชเป็นภาษาต่างประเทศ กลางห้องเป็นหนังสืออ่านเล่น และเป็นหนังสือนอกเวลาเรียน รวมทั้งหนังสือล้อเลียนสังคมของ นักเขียนชื่อดังหลายคน
มุมหนึ่งตั้งเป็นโต๊ะทำงาน มีเก้าอี้บุนวมสีน้ำตาลแก่ และไม่ห่างกันมาก มีเก้าอี้และโต๊ะชุดหรู สำหรับให้นั่งอ่านหนังสือเล่นเป้นกลุ่ม หรือให้นั่งวิจารณ์หนังสือกัน ซึ่งเวลาหลายปีมานี้ เก้าอี้ชุดเล็กเป็นที่นั่งสำหรับกระถินและคุณพระ เสียส่วนใหญ่ที่ได้ใช้
กระถินเดินไปหยิบสมุดบัญชีหลายเล่มมาจากตู้หนังสือ ปิดล็อกกุญแจ ซึ่งเธอถือลูกกุญแจ อีกหนึ่งและของคุณพระดอกหนึ่ง เพื่อสะดวกในการใช้ และเป็นเรื่องที่ปิดไม่ให้คนนอกรู้
เด็กสาวนำสมุดที่ว่ามานั่งตรวจดูรายการอย่างละเอียด เมื่อพบว่ามีสิ่งน่าสงสัยเธอจดไว้ต่างหาก จากนั้นจึงค้นหาที่มาที่ไปของรายรับและรายจ่ายที่สมควรแก่กันหรือไม่ จันทร์ทำถอนใจยาว กระถินรู้ทันจึงว่า
“แอบฟังมาเต็มหูแล้วอย่ามาทำถอนใจให้กระถินถามเลยว่ามีเรื่องอะไรหนักใจ”
“นั่นเป็นเพื่อนคุณรามนะคะคุณกระถิน ทำไมไปแกล้งเธอ”
“แหมเธอบอกเองว่าเป็นลูกนายทหารใหญ่โต ทำไมจึงไม่รู้จักอดทนเล่าจ๊ะ ทอทหารอดทน ใครไม่รู้นะที่ท่องมาก่อนเป็นคนแรก แต่ทุกคนก็ได้จำกันขึ้นใจ”
“บ้านเรามีชาฝรั่งนะคะ ทำไมไปให้เธอขนมาเอง”
“เอกระถินไม่รู้นี่ว่ามี เพราะไม่เห็นมีใครอยากดื่มสักคน นี่ถ้าพี่จันทร์กลัวมากนักพี่จันทร์ไปอยู่กับเขาดีมั้ย เพราะอีกไม่นานพี่รามก็พามาเป็นเจ้านายบ้านนี้แล้วล่ะ”
“ขนาดคุณผู้หญิงยังอึ้งไปไม่ต่อคำ จันทร์คงไม่กล้าไปอยู่กับใครนอกจากเกาะคุณกระถินจนตายดีกว่าค่ะ”
“โอ๊ยไม่รับค่ะไม่รับ กระถินจะอยู่กับแม่นิ่มของกระถินสองคนเท่านั้น”หญิงสาวบอกพลางหัวเราะเสียงใส
เวลาต่อมา คุณพระ และรามเดินเข้ามายังห้องหนังสือ จันทร์รีบค้อมกายถอยไปยืนรอรับคำสั่ง กระถินวางมือจากถ้วยขนมซึ่งรองท้องลงไปอย่างรวดเร็ว เธอทานขนมหมดถ้วยในระหว่างคุยกับจันทร์
เด็กสาวผุดลุกยืนรับคุณพระ และบางอย่างทำให้เคืองหน้าคมคายของรามจึงได้เมินไม่มองเสียอย่างนั้น รามมองเห็นการวางท่าทีหมางเมินของกระถินเข้าพอดี เขาอึ้งไปอย่างสนิทใจ
เมื่อคุณพระนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมสีน้ำตาลเข้มคนล่ะตัวแล้ว กระถินจึงนั่งเก้าอี้ชุดเดียวกันตัวเดิม พลางถามเจาะจงไปที่คุณพระ
“คุณลุงกลับมานานแล้วหรือคะ”
“ไม่นานดอกเจ้าซน ตรวจบัญชีหรือ”
“เจ้าค่ะ กระถินเห็นช่องว่างนิดหนึ่งค่ะเรื่องการสั่งของเกินความจำเป็นค่ะ”
“รามมาดูที”คุณพระเรียกรามให้มาดู
“พ่อจะไปพักสักหน่อย แล้วนี่พุดกรองไปไหน หมู่นี้ไม่ค่อยอยู่บ้านเอาเสียนะ”
“เมื่อครู่ยังอยู่ค่ะ”กระถินรีบกล่าวแก้ออกมาทันที
รามสบตาคู่คมของกระถินนิดเดียวจึงพอเดาได้ว่า กระถินน่าที่จะรู้ว่าปาริชาติมา เพราะเมื่อกระถินหลุดปากมาแล้วหญิงสาวหลุบตาลงมองพื้นอย่างมีพิรุธ
คุณพระจึงแทรกคำมาว่า
“แล้วแกรู้เรื่องคนใช้ของพุดกรองหาเรื่องเพื่อนของรามหรือเปล่าเจ้าซน”
“เอ่อ คนใช้คนนั้นไม่ได้หาเรื่องนี่เจ้าคะคุณลุง”กระถินบอกเสียงอ่อย ส่งบัญชีให้รามอย่างพยายามเกลื่อนไม่ให้สนใจเรื่องของ “คนใช้ฝีปากกล้า”
รามรับไปดูคร่าวๆแล้วปิดสมุด
“ปูเป้ฟ้องว่าคนคนนั้นเสียมารยาทกับเธอมากที่สุด หวังว่าคนนั้นจะไม่ใช่เธอนะกระถิน”
กระถินเชิดหน้าง้ำด้วยความไม่พอใจอย่างที่อดกลั้นไม่ได้ ทั้งที่เธอนั้นพยายามแล้วเชียว คุณพระรู้ตัวทันทีว่า น่าที่จะเป็นเจ้าซนคนนี้เสียแล้วที่ทำให้ ปาริชาติก้นร้อนกลับแทบไม่ทัน ท่านไม่ถามแต่รอคำกล่าวแก้ของคนที่เถียงคำไม่ตกฟาก
“พอดีพี่รามคงหวังผิดคนเสียแล้วค่ะ”
“หมายความว่าอะไรกระถิน”
“กระถินคือคนใช้คนที่ถูกต่อว่าค่ะ”
“แล้วมันเรื่องอะไรเธอจึงเสียมารยาทกับเขา ทั้งที่เธอได้รับการอบรมมาอย่างดีจากแม่นมของพี่แล้ว ทำไมให้เขามาดูถูกเธอขนาดนั้น เธอจงใจให้เขาดูถูกหรือกระถิน”
“เพื่อนพี่รามต่างหากเสียมารยาทต่อผู้ใหญ่ ต่อให้เป็นคนหัวนอกก็เถอะ”
“หยุดนะกระถิน”รามปรามเสียงดัง
“เธอไม่มีสิทธิ์มาว่าเพื่อนพี่อย่างนั้น”
“เช่นนั้นวันหลังพอคุณปูเป้ของพี่รามมาที่บ้านนี้จะให้ทุกคนวิ่งหนีเธอแทนหรือเปล่าคะ”
รามโกรธมาก โกรธอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะโกรธกระถินมากเพียงนี้ เขาไม่ตอบออกมา แต่ผุดลุกจากไปพร้อมกับบัญชีที่ถูกคุณพระให้ตรวจอีกที
กระถินอ้าปากค้างทำท่าเหมือนจะทักท้วง แต่เลือกที่จะเงียบ คุณพระส่ายศีรษะอย่างระอาใจกับการชอบเอาชนะคนของกระถินจนบางครั้งดูเหมือนไร้เหตุผล เมื่อกระถินหันมาหาเพื่อน จึงถูกมองดุ
“แกมันปากพาจนรู้มั้ยเจ้าซน”
“คุณลุงไม่เข้าข้างกระถินหรือเจ้าคะ”กระถินทำเสียงอ่อยก่อนกล่าวแก้ออกมาว่า
“เขาดูถูกคุณพุดกรองจนกระถินทนไม่ไหวนี่เจ้าคะ มีหน้ามาใช้คุณพุดกรองได้อย่างไรกันคะ”
“นั่นมันเรื่องของเจ้ากับคนอื่น แต่เมื่อครู่เจ้ามีเรื่องกับพี่ราม”
“เป็นเรื่องเดียวกันนี่เจ้าคะ” กระถินอยากอธิบาย
“เมื่อครู่นี้เรียกว่าเจ้าอยากหาเรื่องรามมากกว่า”
กระถินก้มหน้าไม่กล้ามองประมุขบ้าน ใจเด็กสาวกระวนกระวาย อาจบางทีเจ้าตัวเพิ่งรู้ว่าบินออกนอกอกไล่หลังรามไปแล้วกระมัง
“ถึงเจ้าจะหวงพี่ราม แต่ก็ควรจะให้อยู่อย่างพอเหมาะพอควร ไปเอะอะกับคนของพี่รามดังนี้มันไม่งาม”ครานี้เด็กสาวเถียงเสียงสูง
“กระถินไม่ได้หวงนะเจ้าคะ” คุณพระหัวเราะในคอก่อนเอ่ยออกมาว่า
“รู้มั้ยว่า ผู้หญิงเมื่อเถียงเสียงสูงๆแสดงว่ากำลังปิดบังความจริงหรือพูดไม่จริง”
กระถินเลยปิดปากเงียบ หากถ้อยคำของคุณพระคือคำตอบให้เธอยอมรับว่า ชังน้ำหน้าปาริชาติ แง่งอนเข้าใส่ราม เหตุผลเพราะหวง
หวง อย่างที่เธอหวงแม่นิ่มหรือ เธอรีบกลบความคิดที่กำลังเข้าเนื้อไปเรื่อยๆเสียโดยเร็ว ด้วยการหันไปสนใจคุณพระมากกว่า
“คุณลุงไปที่บริษัทมาวันนี้มีอะไรบ้างเจ้าคะ”
คุณพระกลับเอ่ยไปอีกทาง
“กระถิน ไปหยิบหนังสือสมุทรโฆษคำฉันท์มาที อ้อไปปิดประตูเสียก่อนด้วย”
กระถินทำตามอย่างงุนงง แต่ไม่ปล่อยให้ความงงอยู่ได้แม้เพียงอึดใจจึงเอ่ยออกมาว่า
“คุณลุงคงไม่ให้กระถินอ่านสมุทรโฆษคำฉันท์ให้ฟังเวลานี้นะคะ”
คุณพระไม่ตอบ เพราะรู้ใจคนดื้อดีว่า คงกระวนกระวายใจอยากรู้มากเพียงใด และเป็นอย่างที่ท่านคาดเดา เพราะกระถินรีบปิดประตู ก่อนเดินไปที่ตู้หนังสือไม้สัก กั้นชั้นทั้งหมดสามชั้น มีกระจกปิดอย่างเรียบร้อย ตั้งอยู่มุมห้อง ในตู้หลังนี้จะเต็มไปด้วยหนังสือวรรณคดีทั้งหมด
หนังสือวรรณคดีเล่มนี้ของจริงเป็นเพียงหนังสือปกอ่อน ซึ่งเรียบเรียงกันมาอย่างง่ายๆ แต่คุณพระเป็นคนรักหนังสือ จึงสั่งทำปกแข็งเพื่อง่ายต่อการเก็บรักษา เพราะท่านรักการอ่านยิ่งนัก
กระถินนำมาให้ คุณพระท่านรีบว่า
“เปิดดูหน้ากลาง”
“หน้ากลาง ตอนธารีวาดรูปหรือเจ้าคะ”เจ้าซนของคุณพระก็เป็นนักอ่านและนักจำ คุณพระเลยย้อน
“อ่านทุกเรื่องเลยหรือเจ้าซน เอ้า นั่งลง”ท่านให้นั่งเก้าอี้ตัวที่รามลุกจากไป
กระถินยิ้มเจื่อน ก่อนสารภาพ
“เรื่องนี้กระถินนึกไม่พอใจพระเอกเจ้าค่ะ โดนเทวดาอุ้มสมเมียใหม่ ลืมเมียเก่าสนิททีเดียว”
“เป็นนิทานชาดก ของพระพุทธเจ้าเสวยชาติเป็นพระสมุทรโฆษ สุดท้ายก็รับพระชายากลับแกนี่ท่าทางจะเป็นเจ้าสาวขี้หึงไม่น้อยล่ะ”
กระถินหน้าแดงจัด ก่อนอุบอิบไม่วายเถียงว่า
“กระถินไม่เป็นเจ้าสาวใครดอกเจ้าค่ะ”
“เปิดดูหน้ากลางหรือยัง”
ท่านท้วง กระถินจึงเปิดหนังสือวรรณคดีออกดูจึงเห็นกระดาษพับอยู๋สามหน้า เด็กสาวจึงรื้อออกอ่าน สายตาคมกริบอ่านตามหนังสือซึ่งเขียนด้วยความบรรจง เธอจำได้สนิทใจว่านี่คือลายมือของคุณพระ
ซึ่งร่างแบบคร่าวๆ ในนั้นมีรายละเอียดที่คุณพระเขียนพินัยกรรมเอาไว้ โดยยังไม่มีการจัดทำให้ถูกกฎหมาย
“นแล้ว เจ้าจะท้วงอะไรมั้ยกระถิน”
“ทำไม ทำไมคุณลุงให้กระถินดูเล่าเจ้าคะ”
“ลุงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเอกสารสำคัญอย่างนี้ถึงไม่ไว้ใจใครเท่าเจ้าสักคน เจ้าซน แม้แต่รามก็เถอะ ลุงไม่ไว้ใจน้ำใจเขาเท่าเจ้า”
กระถินจุกในลำคอขึ้นมาอย่างเต็มตื้น คุณพระเอื้อมมือมาลูบศีรษะของกระถินเบาๆเอ่อยออกมาด้วยความเอ็นดู
“เจ้ามันไม่กลัวใคร มีน้ำใจ แม้จะแสดงท่าแกร่งกร้าว แต่เจ้าเป็นคนดีมากเจ้าซน เจ้าแยกแยะผิดถูกได้ด้วยหัวใจของเจ้า ลุงถึงได้เลือกให้เจ้ารู้ว่าลุงต้องการอะไร ลุงบอกตามตรงว่าไม่ไว้ใจพุดกรอง แต่ลุงก็เลี้ยงเขามานานแล้ว ยังไงแม้สมบัตินี้ตกกับราม และเจ้ามีส่วนได้ดูแลของพุดกรองและคนอื่นในบ้านนี้ เป็นหน้าที่ของเจ้า เจ้ามินตราของลุง”
กระถินพูดไม่ออก เมื่อในพินัยกรรมนั้นเธอมีส่วนได้ในทรัพย์สินมากกว่ามารดาที่ควรจะได้ แต่เมื่อคุณพระให้เหตุผลแล้วกระถินจึงได้แต่นิ่งอึ้งไป...
แม้คุณพระไม่รู้การกระทำชั่วร้ายของพุดกรองที่ทรยศต่อท่าน แต่ลางสังหรณ์ท่านมีว่าอีกฝ่ายคงไม่ซื่อสัตย์เท่าใด ดังนั้นท่านไว้ใจกระถินผู้เป็นลูกให้ดูแลในส่วนของพุดกรอง
“พินัยกรรมนี้ยังไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ลุงรอให้รามกลับไปเรียนต่อก่อน เจ้าก็คงรู้ว่ารามเขาเป็นคนแข็งมากเรื่องสมบัติพวกนี้ ลุงไม่อยากให้เขามาวุ่นวายจนไร้ความยุติธรรม เอาเป็นว่าเจ้ารับรู้ก็แล้วกันนะ”
“กระถินไม่รับรู้ไม่ได้หรือเจ้าคะคุณลุง ให้พี่รามอยากทำตามใจของพี่ราม ตามสิทธิ์ของพี่รามไม่ดีหรือเจ้าคะ”
“แม่เจ้าเป็นเมียลุงมานานนะ ลุงอยากให้เจ้าดูแลแทนราม ซึ่งเจ้าคงรู้ว่ารามรู้สึกอย่างไรกับแม่ของเจ้า”
พี่รามงก...กระถินคิด แต่ไตร่ตรองด้วยใจเป็นธรรมแล้วเธอย่อมทราบดีแก่ใจว่า “แม่”ไม่สมควรได้รับสมบัติสักชิ้นเดียวจากคุณแม่ของราม เพราะ “แม่”....ดูหมิ่นน้ำใจดีงามของคุณพระด้วยการกระทำที่กระถินไม่อยากนึกถึงคำที่แย่ไปว่าคำว่า ไม่รู้บุญคุณ
“เอาไปเก็บที่เดิมไป แล้วก็ไปพักผ่อนได้แล้ว เรื่องมากนักเชียวเจ้าตัวดีคนนี้”ท่านสั่งพลางผุดลุกจากเก้าอี้ กระถินเดินไปส่งท่าน พลางเปิดประตูให้ จึงเห็นรามมายืนทำปึ่งอยู่หน้าห้อง เด็กสาวรีบผลุบ เอา
หนังสือสำคัญไปไว้ที่เดิมอย่างไม่ให้อีกฝ่ายจับพิรุธได้
รามกลับมาในห้องสมุด คุณพระเหลือบสายตามองเล็กน้อย ก่อนยิ้มในสีหน้า แล้วเดินจากไปไม่เข้าไปวุ่นวายกับหนุ่มสาวทั้งสอง ซึ่งท่านรักเอ็นดูไม่ต่างกันมากนัก
รามจ้องมองกระถิน โดยไม่พูด กระถินอึดอัดใจ ด้วยคำที่ฟ้องในสมอง...หวง หวง หวง เธอหวงราม กับปาริชาติจริงเสียด้วย ความคมคาย หล่อจัดของราม ก่อกวนใจดวงน้อยๆให้รู้สึกตัวว่า...โอยกระถิน แย่แล้ว เธอมีใจให้พี่รามคนนี้เกินพี่ชายไปหรือ ไม่เอา ไม่อยากเป็นอย่างนี้ ไม่อยู่ตรงนี้แล้ว
เด็กสาวรีบเดินเลี่ยงออกจากห้อง แต่รามฉวยต้นแขนอีกฝ่ายไว้ กระถินรู้สึกเหมือนโดนเหล็กนาบจนร้อนจึงปลดมือของรามออกทันที



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 เม.ย. 2554, 11:21:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 เม.ย. 2554, 11:21:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 3812





<< สองศรีพี่น้อง   คำสอน >>
mottanoy 23 เม.ย. 2554, 12:20:53 น.
แล้วเมื่อไหร่จะทำให้ถูกต้องล่ะคะ เดี๋ยวไม่ทันสองชู้นั่น


Gingfara 23 เม.ย. 2554, 12:27:54 น.
ว้าวช่วงนี้ได้อ่านเร็วดีจังค่ะ


ก้อนอิฐ 23 เม.ย. 2554, 13:32:58 น.
พี่รามจะทําอะไรน้องกะถินคะ


Noka 24 เม.ย. 2554, 09:25:18 น.
รอตอนใหม่ด้วยคนค่ะ


nutcha 24 เม.ย. 2554, 18:51:55 น.
ดีใจได้อ่านตอนใหม่แล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account