นิดหน่อยค่ะ...คุณแม่มาดมั่น VS คุณพ่อซื้อบื้อ
<center>เมื่อ...รุจิรา รุ่งเรืองเจริญสุข ตกปากรับคำท้าแฟนหนุ่ม

เธอจึงต้องหาคนมาเป็นสามีและพ่อของลูก

หากคงไม่มีใครอีกแล้วนอกจากเขา...นายอิสระ อดิเรกชีพ

หรือ พี่อิ อดีตคนรู้ใจ ผู้ชายบื้อที่เธอไม่ชอบขี้หน้า

เพราะเชื่อเสมอว่า...เขาโง่ และผู้หญิงฉลาดอย่างเธอ

ไม่ต้องการคนโง่เช่นเขา ทว่างานนี้เธอกลับต้องใช้คนโง่คนนี้

เพราะเขาทั้งซื่อทั้งบื้อ เขาไม่มีทางมาต่อกรกับเธอได้

เธอเชื่ออย่างนั้น

ส่วนเขา นายอิสระ อดีเรกชีพ

เมื่อถูกจู่โจมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เขาจึงเผลอไผลไปกับเธอ

ตกเป็นหมากตัวหนึ่งในเกมนี้ของเธออย่างไม่รู้ตัว

แต่หากวันใดที่เขารู้ล่ะ เรื่องวุ่นๆ จะบังเกิดขึ้นไหม

และเขาจะยอมให้อภัยเธอหรือเปล่า

จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามกันต่อค่ะ
</center>
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอน ๑ จุดเริ่มต้นของจุดจบ

ตอน ๑ จุดเริ่มต้นของจุดจบ

“วันนี้พี่อิไปส่งน้องนิดหน่อยนะ จิมีประชุม จิต้องรีบไป” รุจิรา พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเสมือนไม่ใส่ใจอะไรตามเคย ก่อนจะวางช้อนลงกับจานอาหารบนโต๊ะทานข้าว แล้วทำท่าจะลุกออกไปจากโต๊ะ
“แต่วันนี้พี่มีส่งต้นฉบับนะครับ และจะเลยไปหาบอกอด้วย พี่คงไปส่งลูกไม่ได้” อิสระ รีบเอ่ยขึ้นขัด เมื่อเห็นภรรยาจะจากไป แต่ก็พยายามที่จะอธิบายความจำเป็นที่ตัวเองไม่สามารถไปส่งลูกสาวตัวน้อยได้ให้เธอฟังอย่างมีเหตุผล หากแต่คนแล้งน้ำใจกลับไม่แยแส
“ไม่รู้แหละ พี่อิต้องไปส่ง ไม่งั้นจิให้คนรถไปส่งเอง” รุจิราแสดงอาการเอาแต่ใจออกมาทันที เมื่อถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ พร้อมกับรีบลุกไปจากโต๊ะอาหาร ทำท่าขึงขัง จริงจัง เพื่อให้อีกฝ่ายยอมให้เช่นเคยทุกครั้ง แม้ความจริงแล้ว เธอไม่มีงานสำคัญอะไร ประชุมก็ไม่มี เพียงแต่แค่วันนี้เธอมีนัดพิเศษกับอดีตคนรักเก่า ก็แค่นั้นเอง สาวเจ้าจึงต้องรีบร้อนและปฏิเสธคุณพ่อและคุณลูกสาวตัวน้อยของตัวเองทุกกรณี
อิสระปรือตาสูงขึ้นเหนือจานกับข้าวที่กำลังจะป้อนลูกสาว เขาลอบมองภรรยาด้วยสายตาขัดเคือง ผู้หญิงบ้าอะไร เห็นแก่ตัวที่สุด เขาบริภาษเธอในใจอย่างขึ้งโกรธ กำลังจะอ้าปากขึ้นทักท้วงเธอ หากแต่ลูกสาวตัวน้อยกลับขัดขึ้นเสียก่อน
“ไม่เป็นไรค่ะ น้องนิดหน่อยไปกับลุงน้อยก็ได้ค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยตัดสินใจแทนคนหนุ่มคนสาวทั้งสองทันควัน ด้วยเห็นว่าจะเกี่ยงกันเหมือนทุกวัน และนั่นหมายถึงแกต้องไปโรงเรียนสาย
“แหม...ลูกสาวแม่เก่งที่สุดเลยค่ะ ไปกับลุงน้อยน่ะดีแล้ว ไม่ใช่ว่าคุณแม่ไม่อยากไปส่งนะคะ แต่น้องนิดหน่อยต้องเข้าใจคุณแม่นะคะ ว่าคุณแม่ไม่ค่อยว่างจริงๆ”
เฮ้อ...กรรม เด็กตัวแค่นี้จะไปเข้าใจอะไร ขนาดตัวเธอแก่จนมีลูกโตขนาดนี้แล้ว เธอยังไม่เคยยอมเข้าใจใครเลย มีแต่ทำให้ตัวเองได้ แล้วปล่อยให้คนอื่นลำบาก
อิสระต่อว่าคุณภรรเมียของเขาในใจ ขณะยื่นมือไปลูบหลังลูกสาวตัวน้อยเสมือนปลอบประโลมให้แกอย่าน้อยใจ ก่อนจะตวัดสายตามองกลับมายังแม่ยอดรักของตัวเองที่ช่างหาเรื่องมาให้ทุกคน แล้วค่อยเค้นเสียงขุ่นมัวออกมาตะคอกใส่เธอด้วยความอดทนที่ถึงขีดสุด
“จิเห็นแก่ตัวมากเกินไปแล้วนะ ทำไมถึงทำแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีประชุมที่ไหน ทำไมต้องโกหกพี่กับลูก”
“ใครบอกว่าจิไม่มีประชุม พี่อิรู้ได้ยังไง”
“พี่ถามจากคุณนุช และคุณนุชก็บอกว่าจิว่างทั้งวัน”
“จิไม่ได้ว่างค่ะ นุชไม่รู้ แต่จิมีนัดสำคัญ—”
“นัดสำคัญกับคุณทศกรละสิไม่ว่า”
นี่ค่ะ คุณพ่อที่สุดแสนจะใจเย็นของหนู และคนเฉยๆ ที่ไม่คิดอะไรมาก ไหงไปพาลถึงต้นเหตุของเรื่องอย่างนั้น
เด็กหญิงตัวน้อยทำตาปริบๆ มองคุณพ่อคุณแม่ทะเลาะกันอย่างไม่อยากจะแย่แสอะไร เพราะมันบ่อยและเคยชินจนแกรำคาญ
“พี่อิอย่ามาพูดจาถากถางจิอย่างนี้นะ ไม่ว่าจิจะทำอะไร มันก็เป็นเรื่องของจิ พี่อิไม่มีสิทธิ์มาว่า เพราะเราหย่ากันตั้งแต่ที่จิยังไม่คลอด เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน!”
“งั้นเหรอ แล้วทำไมเราถึงยังอยู่ด้วยกัน นอนด้วยกันล่ะ”
“ก็...ก็...จิห่วงสุขภาพของอาสร้อย ถ้าอาสร้อยหายเมื่อไร จิก็จะพาลูกไปจากที่นี่”
“ไปจากที่นี่ แล้วจิจะพาลูกไปอยู่ไหน อยู่กับคุณทศกรของจิงั้นเหรอ!” เลือดขึ้นหน้าทันที เมื่อสมองมันบอกว่าเมียรักจะพาลูกไปอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่เขา ไปเรียกคนอื่นว่าพ่อ อิสระจึงถึงกับรีบตัดบทภรรยาทันควัน พร้อมกับมือใหญ่ว่องไวรีบกระชากดึงเธอมาแนบอก แล้วฉุดลากเธอให้เดินออกไปกับตัวเอง ท่ามกลางสายตาแป๋วแววของลูกสาวตัวน้อยที่ยังคงนั่งนิ่งๆ มองอยู่ที่โต๊ะอาหาร แต่การกระทำดุดันของคนทั้งสองไม่มีผลอะไรกับเด็กน้อยเลย ไม่มีอีกแล้ว เพราะว่า...
หนูชินแล้วค่ะ หนูเห็นมาตั้งแต่เพิ่งจำความได้ อีกเดี๋ยวก็ดีกัน และหนูก็สายตามเคย...เฮ้อ...น้องนิดหน่อยตัวน้อยได้แต่มองตามคนสองคนที่ฉุดกระชากลากกันเข้าห้องนอนไปอย่างเบื่อหน่าย ศีรษะดกเล็กส่ายไปมาด้วยความอ่อนใจ
“ปล่อยนะ บอกให้ปล่อยไงเล่า ไอ้...ไอ้พี่อิบ้า ไอ้พี่อิทุเรศ จิบอกให้ปล่อยไงเล่า!”
แม้จะจากกันไปไกลแล้ว แต่เสียงของคุณแม่ก็ยังดังแว่วๆ มาจากห้องนอน ให้ได้ยิน เด็กหญิง อาจารี ตัวน้อยจึงได้แต่มองไป พลอยถอนหายใจไปด้วยอย่างเหนื่อยใจมากมาย กับการกระทำที่ยิ่งกว่าเด็กของคุณแม่กับคุณพ่อ
ทำไมพวกเขาไม่ยอมพูดดีๆ กัน เฮ้อ... เด็กหญิงตัวน้อยเท้าคางตระหนัก...


"""""



เทียมทราย
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 มี.ค. 2555, 14:10:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 มี.ค. 2555, 14:26:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1797





   ตอน ๒ เหตุของเรื่อง >>
violette 10 มี.ค. 2555, 14:39:25 น.
เอื้อกกก เริ่มเรื่องมาก็น่าติดตามแล้วสิคะ


เทียนจันทร์ 10 มี.ค. 2555, 20:18:03 น.
แวะมาเป็นกำลังใจให้ค่ะ แต่ช่วยเว้นบรรทัดหน่อยก็ดี


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account