เล่ห์รัก...เล่ห์แค้น
เป็นนิยายเรื่องแรกของปอแก้ว...ที่เคยลงจนจบไว้นานมากแล้ว ตอนนี้เลยลองเอามาปัดฝุ่นรีไรท์ใหม่ค่ะ :)

-----------------------------------------------------------------

เรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่เริ่มด้วยความแค้นเมื่อ ‘ธนาดล’ ลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธฤตกลับมาจากต่างประเทศ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแก้แค้นศิรสาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงโดยใช้ ‘ศรินดา’ ซึ่งเป็นลูกสาวเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้
Tags: ธนาดล ศรินดา พนาดร สลิลธาร

ตอน: บทที่ 6

ตอนแรกว่าจะมาโพสตอนเย็น แต่ต้องไปธุระกับแม่ค่ะกะทันหันค่ะ เลยเอามาลงซะดึกเลย

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน คอมเมนท์คุยกันและกดไลค์ให้กันนะคะ

ชอบไม่ชอบยังไงบอกได้จ้าาา ขอบคุณค่ะ :)

--------------------------------------------------------------------------------------



บทที่ 6



ปึงๆๆ!! เสียงทุบประตูอย่างแรงทำให้คนที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างตกใจ

ปึงๆๆ!! เสียงนั้นยังคงทุบอยู่ที่ประตูห้องนอนเธอเหมือนเดิม รินก้าวลงจากเตียงอย่างหวาดกลัว ในหัวไม่มีความคิดเลยว่ามารดาจะได้ยินเสียงนี้เพราะห้องทุกห้องให้บ้านหลังนี้ ล้วนแต่ออกแบบมาให้เป็นห้องที่เก็บเสียงทั้งหมด

ร่างบางเดินมาจนถึงหน้าประตู หญิงสาวพยายามรวบรวมสติมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ คนที่เคาะห้องของเธอไม่ใช่โขมยเป็นแน่ เพราะคงไม่มีโขมยหน้าไหนที่เคาะประตูห้องก่อนที่จะปล้น แล้วใคร? ใครล่ะที่มาเคาะห้องเธอดึกๆดื่นๆแบบนี้ แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาอยู่ในหัว

คุณพ่อ!

คิดได้ดังนั้นจึงรีบปลดล็อดประตูทันทีด้วยอารามที่คิดว่าพ่อเลี้ยงธฤตอาการทรุดหนักจนต้องให้คนมาตามเธอกับแม่ถึงบ้าน และนั่นทำให้อีกฝ่ายที่อยู่ด้านนอกเปิดประตูแทรกตัวเองเข้ามาให้ห้องนอนของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว

สิ่งแรกที่ทำให้รินถึงกับต้องนิ่วหน้าในความมืดคือกลิ่นเหล้าคละคลุ้งที่ลอยมาเตะจมูกเธอเต็มๆ แสงของพระจันทร์หน้าหนาวที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้หญิงสาวเห็นเค้าหน้าของบุคคลที่ย่างกรายเข้ามาในห้อง ถึงแม้ว่าแสงจันทร์จะบางเบาแค่ไหน หากสาดแสงแค่เพียงนิดเดียวให้เห็น เธอก็รู้ว่าใครคือคนที่เข้ามาในห้องเธอ

คุณดล!!

รินก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณที่บ่งบอกถึง ‘อันตราย’ หญิงสาวเอื้อมหาสวิตซ์ไฟอย่างสะเปะสะปะในความมืด ทว่าชายหนุ่มยังคงก้าวเข้ามาหาหญิงสาวอย่างช้าๆหากทุกก้าวกลับสร้างความอึดอัดและน่ากลัวให้รินเป็นอย่างดี

“คุณ...คุณเข้ามาทำไม” รินถามเสียงสั่น ขายังก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆจนหลังชนกับผนังอีกด้านนั่นล่ะ หญิงสาวถึงได้หน้าซีด ตัวเย็นเมื่อรู้ว่าทางหนีของเธอตันแล้ว

คนที่บุกรุกห้องส่วนตัวของคนอื่นในยามวิกาลตอบกลับเสียงเย็น “เธอเปิดประตูให้ฉันเขามาเองนะ”

“ฉันนึกว่าคุณพ่อเป็นอะไร” หญิงสาวเถียง แต่ชายหนุ่มกลับหัวเราะต่ำๆออกมา

“คุณพ่องั้นเหรอ อย่าเอาคุณพ่อมาอ้างดีกว่ามั้ง ฉันรู้นะ ว่าเธอต้องการอะไร” เขาพูดเสียงต่ำ แสงจันทร์ที่ส่องแสงเข้ามาทำให้แววตาเจ้าชู้ประกาย แววตาที่หญิงสาวรู้สึกว่าอันตรายอยู่ใกล้ตัวเธอ

“ฉันต้องการอะไร! คุณอย่ามาทุเรศนะ ออกไป ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้ ออกไป๊!!” หญิงสาวรวบแรงทั้งหมดผลักคนตัวโตจนกระเด็นออกห่างจากตัวเองก่อนจะหาโอกาสวิ่งไปทางประตูเพื่อหนีออกจากสถานการณ์ล่อแหลมแบบนี้แต่อ้อมแขนแข็งแรงของคนเมาก็รวดเร็วพอที่จะตวัดร่างบางเข้ามาตัวแล้วรัดไว้แน่นยิ่งกว่างูเหลือม! จมูกโด่งซุกไซ้หาความหอมหวานจากซอกคอขาวเนียน รินเบี่ยงหลบจมูกนั้นเป็นพัลวัน มือก็ทั้งฟาด ตี ทุบ จิก ข่วน เท่าที่จะทำให้เขาเจ็บตัวจนปล่อยเธอให้เป็นอิสระ

“ปล่อยนะคุณดล ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” หญิงสาวร้องออกมาเสียงดัง ธนาดลดันหญิงสาวให้ออกห่างตัว...เพียงแค่นิดเดียวโดยมือหนายังตรึงอยู่ที่ไหล่ทั้งสองข้างของเธอ

“ร้องไปเลย ร้องไป! ร้องไห้ตายยังไงก็ไม่มีใครได้ยินเธอ เธอน่าจะชอบนะที่ฉันเลือกเธอเป็นนางบำเรอคนหนึ่ง เงินฉันก็มี มีมากว่าไอ้นนท์อีก เธอชอบไม่ใช่เหรอ เรื่องจับผู้ชายที่รวยๆเนี่ย” รินสะบัดตัวออกจากพันธนาการของผู้ชายตรงหน้า ฝ่ามือเรียวฝาดไปอย่างแรงที่สุดเท่าที่หญิงสาวเคยตบคนกระทบลงบนใบหน้าของธนาดลเต็มแรงและข้างเดียวกับสองแผลที่เขาโดนมาเมื่อเช้า

เผียะ!!!

“หยุดดูถูกฉันได้แล้วนะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างนั้น คุณอย่าเอาความคิดสกปรกๆ เลวๆของคุณมาคิดว่าฉันจะเป็นอย่างที่คุณคิด!”

“คำก็สกปรก...สองคำก็เลว เธอคิดว่าผู้หญิงอย่างเธอมันดีนักหรือไง แม่เป็นยังไงลูกก็คงไม่ด้อยไปกว่า”

เผียะ!!!

รินตบหน้าคนปากเสียไปอีกหนึ่งที จนอีกฝ่ายมองเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว

“สองทีแล้วนะศรินดา เธอตบฉันสองทีแล้วนะ” เขาพูดเสียงเหี้ยม

“น้อยไปด้วยซ้ำ คนอย่างคุณมันต้องโดนมากกว่านี้ มันต้องเจ็บมากกว่านี้!” หญิงสาวตะโกนใส่หน้า
ธนาดล

“งั้นก็มาดูว่าฉันหรือเธอ ใครจะเจ็บมากกว่ากัน!” พูดจบร่างบางก็ถูกอุ้มพาดบ่าก่อนจะถูกโยนลงบนเตียงของตัวเองอย่างรวดเร็ว ไม่ทันจะได้หนี ร่างหนักๆของธนาดลก็ขึ้นมาทาบทับ ชายหนุ่มล็อคมือหญิงสาวไว้มั่น

“คุณ...คุณจะทำอะไร” รินถามเสียงสั้น น้ำตาเริ่มไหล

“เวลาแบบนี้เขาทำอะไรกันล่ะ หืม” ธนาดลตอบด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่ม

“ไม่ได้นะ คุณจะทำอย่างนี้กับฉันไม่...” คำว่า ‘ได้’ ถูกกลืนลงคอเพราะจูบอันดูดดื่มของธนาดล รินส่งเสียงอู้อี้ประท้วงในลำคอ มือที่ถูกเขาล็อดไว้บิดไปมาเพื่อหวังว่ามันคงจะหลุด เนิ่นนานกว่าอีกฝ่ายจะถอนจูบ หญิงสาวต้องหายใจเข้าปวดเฮือกใหญ่ราวกับขาดอากาศหายใจ น้ำอุ่นๆไหลรินออกจากดวงตา
“ร้องไห้เหรอศรินดา ดีใจหรือเสียใจล่ะที่กำลังจะเป็นเมียฉัน” คนที่เป็นต่ออยู่ทุกประตูเย้ยหยัน

รินกัดฟันแน่น “คุณมันน่าขยะแขยง”

ธนาดลบีบข้อมือเล็กที่เขาจับไว้ “งั้นเธอก็เป็นเมียของคนที่น่าขยะแขยงนี่แล้วกัน!” ริมฝีปากหยักลึกประกบปากบางอีกรอบ คราวนี้ดุดัน และร้อนแรงกว่าคราวแรกมากนัก จนรินอ่อนแรงไปเสียดื้อๆ ริมฝีปากอุ่นร้อนไหลเรื่อยลงมายังซอกคอขาวเนียน มือข้างหนึ่งปล่อยจากมือเล็กที่จับไว้ตอนแรกก่อนที่จะใช้มันไล้ลงมายังสาบเสื้อและค่อยๆปลดกระดุมชุดนอนลายมิ้กกี้เมาท์นั่นทีละเม็ด

“หยุดเดี๋ยวนี้นะคุณดล หยุด! ฉันบอกให้หยุด!!” หญิงสาวร้องห้ามทั้งน้ำตา ชายหนุ่มจึงประกบปากเธออีกรอบเพื่อไม่ให้ฝ่ายนั้นส่งเสียงมาให้เขารำคาญใจส่วนมือก็ยังคงทำหน้าที่ของมันต่อไปจนหยุดที่เนินอก ริมฝีปากที่รุนแรงค่อยแผ่วเบาๆ จนกลายเป็นอ่อนโยน...และหยุดการรุกราน มือที่ปลดกระดุมเสื้อหยุดการกระทำ ใบหน้าคมซุกเข้ากับซอกคอขาว น้ำหนักของธนาดลทั้งหมดก็ทับลงมาบนร่างเล็กบางของศรินดา

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งไปหญิงสาวจึงรีบผลักคนตัวโตออกจนชายหนุ่มกลิ้งไปนอนหงายอีกฝากของเตียง รินรีบจัดการกับกระดุมที่ถูกปลด มือเรียวแตะริมฝีปากที่บัดนี้บวมแดงอย่างแผ่วเบา ตาโตมองคนที่เพิ่งรังแกเธอไปเมื่อครู่แต่ตอนนี้กลับนอนหลับสนิท มือเรียวคว้าหมอนข้างลายคิตตี้ฟาดไปที่ร่างสูงที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงเธอไม่ยั้ง

“คนบ้า คนเลว คนฉวยโอกาส คนชั่ว เลวๆๆ ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณเลย” หมอนข้างใบยาวถูกฟาดไม่ยั้งบนใบหน้าหล่อเหลานั้นนับสิบที แต่คนที่ถูกตีกลับไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย รินเหวี่ยงหมอนข้างกลับคืนเตียงอีกครั้งโดยตั้งใจเล็งให้โดนคนที่นอนอยู่ ร่างบางเดินลิ่วเข้าสู่ห้องน้ำก่อนที่จะเปิดก๊อกน้ำล้างหน้าล้างตา และไม่ลืมที่จะเอามือชุ่มน้ำถูปากแรงๆเพื่อลบรอยประทับบ้าๆนั่น

หญิงสาวมองใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยหยดน้ำของตัวเองที่กระจก ฉันเกลียดคุณ จำไว้ให้ดีนะคุณดล ว่าฉันเกลียดคุณ!!

ศรินดาเดินมาที่ขอบเตียงด้านที่ชายหนุ่มนอนอยู่แต่ก็ยังระวัง เว้นระยะห่าง เพราะกลัวอีกฝ่ายพรวดพราดขึ้นมาทำร้ายอะไรอีก เธอจะทำอย่างไรดี ถ้าจะเรียกเอื้องมาช่วย แล้วถ้าเอื้องถามว่าคุณดลเข้ามาทำอะไรของเธอ เธอจะตอบว่าอย่างไร หรือว่าฆาตกรรมให้ตายไปเลย หลับๆแบบนี้แหละ ฆ่าง่ายดี ตอนหลังหญิงสาวแกล้งคิดเล่นๆเพราะยังไงเธอไม่มีวันยอมให้ผู้ชายคนนี้ตายง่ายๆ เขาต้องอยู่ให้เธอเอาคืนกับสิ่งที่เขาทำกับเธอ เพราะฉะนั้นเขายังเป็นอะไรไปตอนนี้ไม่ได้

แล้วสมองอันบรรเจิดก็ทำให้ศรินดาคิดอะไรแผลงๆขึ้นมาอีกจนได้ หญิงสาวเปิดตู้เสื้อผ้า ค้นหาเชือกที่จำได้ว่าเคยเก็บไว้ในนี้ รอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าหวานที่หาของจนเจอ ก่อนจะพาร่างของตัวเองมาหยุดอยู่ข้างๆคนที่หลับสนิท

...ขอคิดดอกเบี้ยก่อนแล้วกันนะคุณดล...

รินจัดการเอาเชือกมามัดแขนมัดขาของธนาดลให้ติดกันแน่น

...หึ! อยากจะรู้นักว่าตื่นขึ้นมาโดนมัดแขนมัดขาแล้วจะทำหน้ายังไง...

ก่อนจะยืนมองดูคนที่ยอมให้มัดแขนมัดขาอย่างไม่รู้เรื่อง

...ยังไม่พอหรอกคุณดล แค่นี้น่ะมันน้อยไป...

คิดได้อย่างนั้นจึงเดินอ้อมเตียงไปที่โต๊ะเครื่องแป้งก่อนที่จะคุ้ยหายางมัดผมหลากสีสัน

...วันนี้รินบาร์เบอร์จะทำผมให้คุณนะคะคุณดล...

แล้วช่างทำผมมือใหม่ก็จัดการมัดจุกเล็กๆให้ธนาดลด้วยยางหลากสีสันจนเต็มศีรษะของชายหนุ่ม เสร็จแล้วก็พิศมองผลงานแสนบรรเจิดของตัวเอง

...ขาดอะไรไปอย่างนะ อ๋อ...

พอนึกออกหญิงสาวจึงเดินไปหยิบแป้งเด็กมาผสมกับน้ำนิดหน่อยพอเปียกแล้วจึงจัดการละเลงแป้งเหล่านั้นบนใบหน้าของศัตรูหมายเลขหนึ่งด้วยฝีมือศิลปิน

...เป็นตัวอะไรดีนะ แมวดีมั้ย... คิดเสร็จก็จัดการเติมหนวดแมวไปสองข้างแก้ม ข้างละสามเส้น

...ขอให้หลับฝันร้ายนะคะ...คุณดล!!...

ร่างบางเดินออกจากห้องนอนตัวเองเพราะโดนผู้ชายนิสัยไม่ดียึดห้องไว้ เธอจึงต้องย้ายตัวเองไปนอนห้องที่เคยให้สลิลธารมาพักแทน

ปัง!

ประตูห้องนอนถูกปิดลงโดยที่ศรินดาไม่รู้เลยว่าคำขอของตัวเองที่ให้ผู้ชายที่นอนอยู่ในห้องฝันร้ายนั้นจะเป็นจริง











ธนาดลรู้สึกว่าตัวเองกำลังจมดิ่งสู่ความมืดมิด ค่อยๆลึกขึ้น...ลึกขึ้น จนเขาเองหาทางขึ้นจากที่แห่งความมืดมิดที่เยือกเย็นและเหน็บหนาวนั่นไม่ได้

‘คุณแม่...คุณแม่จะไปไหน’ เด้กชายธนาดลวิ่งเข้ามากอดเอวมารดาไว้แน่น เมื่อเห็นว่ามารดาหอบกระเป๋าเดินออกจากบ้าน

‘แม่จะไปอยู่บ้านแม่ ดลไปอยู่กับแม่นะครับ’ พินธุอรย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้า เอื้อมมือลุบหัวลูกชายคนเล็กอย่างรักใคร่

‘ดลต้องอยู่กับผม!!’ พ่อเลี้ยงธฤตเมื่อคราวยังหนุ่มเอ่ยเสียงเข้ม พินธุอรเงยหน้ามอง ‘อดีต’ สามีด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆ

‘คุณได้ตาต้นไปแล้ว ไหนจะได้เมียใหม่ ลูกติดของเมียใหม่คุณอีกคนล่ะ คุณจะเอาลูกฉันไปอีกคนทำไม!’ พินธุอรดึงตัวลูกชายมากอดไว้อย่างหวงแหน

‘ลูกต้องอยู่กับผม’ คนที่เคยมีฐานะเป็นอดีตสามีหมาดๆย้ำคำเดิม

‘ขอมากไปรึเปล่าคะคุณธฤต คุณได้เมียใหม่ ได้ลูกใหม่ แล้วคุณเคยให้อะไรฉันบ้าง คุณพรากตาต้นไปจากฉันคนนึงแล้ว คุณจะพรากตาดลไปจากฉันอีกคนเหรอ ฉันไม่ยอมหรอก’

‘คุณพ่อ...ดลจะอยู่กับคุณแม่’ เด็กชายบอกอย่างแน่วแน่

‘อยู่กับพ่อดีกว่าครับดล คลอยากมีน้องสาวไม่ใช่เหรอครับ’ บิดาหว่านล้อม

‘ไม่เอา! คนพวกนั้นทำให้คุณแม่ร้องไห้ ทำให้คุณแม่ไม่ยิ้ม ดลเกลียดพวกนั้น!!’

‘ดล!’ ผู้เป็นบิดาตวาดเสียงดังจนลูกชายตัวน้อยผวากอดมารดาแน่น พินธุอรมองอดีตสามีตาขวาง

‘คุณไม่มีสิทธิมาตวาดลูกนะคุณธฤต ไปหาเมียคุณสิ อย่ามายุ่งกับฉันกับลูก แล้วอย่าลืมดูแลตาต้นให้ดีด้วย ถ้าลูกฉันต้องร้องไห้เพราะคุณหรือเพราะใคร ฉันจะมาเอาลูกของฉันคืน...ไปครับดล’ พูดจบแม่ลูกจูงมือกันออกจากบ้านหลังใหญ่โดยมีพ่อเลี้ยงธฤตมองตาม

ภาพความทรงจำอันแสนขมขื่นในวัยเด็กถูกเปลี่ยนฉากเปลี่ยนเรื่องราวไปยังอีกเวลาหนึ่ง

‘คุณแม่! คุณแม่เป็นอะไรครับ’ เด็กชายธนาดลวิ่งเข้ามาหามารดาในห้องเมื่อเลยเวลาอาหารเช้าไปนานกว่าเคย

‘คุณแม่...คุณแม่ไม่สบาย คุณแม่ไปหาหมอนะ เดี๋ยวดลโทรบอกคุณยาย ให้คุณยายพาคุณแม่ไป` เด็กชายดึงมือมารดาให้ลุกขึ้น พิธุอรมองลูกชายน้ำตาคลอ

‘ดลครับ ถ้าแม่ไม่อยู่ดลไปอยู่กับคุณพ่อนะครับ’

‘ไม่ครับ! ดลจะอยู่กับคุณแม่ ถ้าคุณแม่ไม่อยู่ดลจะอยู่กับคุณยาย’ ลูกชายตอบเสียงดัง

‘ดลไม่ชอบผู้หญิงคนนั้น คุณยายก็ไม่ชอบ ดลเกลียด ผู้หญิงคนนั้นทำให้คุณแม่ร้องไห้ ทำให้คุณแม่ไม่ยิ้มสวยๆอย่างเคย’ ลูกชายกอดเอวมารดาแน่นขึ้น

‘ไปอยู่กับคุณพ่อนะครับ แม่คุยกับคุณยายแล้ว ดลไปอยู่กับคุณพ่อแล้วคุณยายจะไปเยี่ยมดลบ่อยๆดีไหมครับ’

‘คุณแม่จะไปไหน’ ลูกชายตัวน้อยถามอย่างสงสัย

‘แม่จะไปอยู่บนฟ้า’

‘ไม่เอา! ดลไม่ให้คุณแม่ไป คุณแม่ต้องอยู่กัยดลที่นี่ ดลอยากลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน มีคุณพ่อ มีคุณแม่ มีพี่ต้น ผู้หญิงคนนั้นแย่งคุณพ่อ แย่งพี่ต้น ไปจากดล ไปจากคุณแม่ ผู้หญิงคนนั้นนิสัยไม่ดีใช่ไหมครับ’
พินธุอรอึ้งไปกับคำพูดของลูกชาย ถึงจะอายุแค่ไม่กี่ขวบ หากธนาดลกลับรู้เรื่องอะไรมากมายระหว่าง แม่ พ่อ และผู้หญิงอีกคน ผู้หญิงที่เข้ามาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอ จริงอยู่ที่เธอมีเรื่องระหองระแหงใจกับสามีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ถ้าสามีเธอไม่เจอกับผู้หญิงคนนั้น เขาก็จะไม่ขอหย่ากับเธอเร็วขนาดนี้

‘ใช่ครับ ผู้หญิงคนนั้นนิสัยไม่ดี เขาแย่งทุกอย่างไปจากแม่ เขาแย่งคุณพ่อไปจากแม่`’น้ำใสๆไหลล้นออกมาจากดวงตาของพินธุอร ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะโคลงด้วยอาการไออย่างแรง เธอเอามือป้องปาก แล้วก็ต้องตะลึงเมื่อเสมหะเหล่านั้นกลายเป็นเลือดสีแดงสด มืออีกข้างที่กอดบุตรชายไว้กระชับแน่นขึ้น รู้ตัวดีว่าเวลาที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้คงมีอีกไม่มากนัก

นับวันอาการของพินธุอรเริ่มทรุดหนัก ไม่ว่าลูกชายหรือมารดาของเธอเองจะพยายามเกลี้ยกล่อมมากแค่ไหนก็ไม่ได้ผล หน้าตาที่สูสะสวยบัดนี้กลับตอบ หม่นหมองและซีดเผือด สายตาอ้างว้างโดดเดี่ยวไร้ซึ่งกำลังใจทอดออกนอกหน้าต่างไปไกล

ลูกชายเฝ้ามองมารดาที่มีอาการอย่างคนตรอมใจอย่งนี้ทุกวัน จนมาวันหนึ่งวันที่ลูกชายตัวน้อยของพินธุอรยกชามโจ๊กที่เจ้าตัวลงมือทำเองมาให้คุณแม่กิน

‘คุณแม่ ดลต้มโจ๊กมาให้ คุณแม่กินเยอะๆนะครับ จะได้หาย’ เด็กชายแตะแขนมารดาเบาๆเพื่อจะเขย่าเรียกแต่แล้วมือเล็กขาวนั่นก็ต้องสะดุ้งเมื่อพบว่าตัวมารดานั้นเย็นเฉียบ

‘คุณแม่!’ เด็กชายเขย่าตัวมารดาอย่างแรงราวกลับจะปลุกให้ตื่นจากการนอนหลับ

‘คุณแม่! คุณแม่ตื่นสิ! คุณแม่อย่าตายนะ! คุณแม่ห้ามตายนะครับ! คุณแม่!!!’ เด็กชายกอดร่างไร้วิญญาณของมารดา น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย เสียงสะอื้นปานจะขาดใจ คุณแม่...ดลจะไม่มีวันให้อภัยผู้หญิงคนนั้น เขาพรากสิ่งที่สำคัญที่สุดไปจากชีวิตดล เพราะฉะนั้นดลก็จะพรากสิ่งที่สำคัญที่สุดไปจากชีวิตเขา! พอดลโตขึ้นดลจะแก้แค้นให้คุณแม่ คุณแม่จะต้องไม่ร้องไห้คนเดียว คุณแม่จะต้องไม่เสียใจคนเดียว!!











“คุณแม่!” ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันที่ตัวเองไม่เคยฝันแบบนี้มานาน ตามติดด้วยความรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆกว่าร้อยกิโลมาทุบหัวเพราะมันปวดร้าวราวกลับว่าจะระเบิดมาเสียให้ได้

ปวดหัวชิบ! ชายหนุ่มเอื้อมมือมากุมหัว แต่ก็ต้องยกค้างเมื่อมือทั้งสองถูกมัดไว้ติดกัน

ศรินดา!

ชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว เมื่อคืนก็พอจำได้ว่าทำอะไรลงไปบ้างแต่ช่วงหลังๆรู้สึกว่าอยู่ดีๆสติก็ขาดห้วงไปเสียเฉยๆ

...รอดไปนะ...ถือว่าคราวนี้เธอโชคดีที่รอดไปได้ แต่ถ้าคราวหน้า อย่าหวังเลยว่าจะรอด!...

ชายหนุ่มพยายามแกะเชือกที่มือออก สักพักพันธนาการนั้นก็หลุดออกตามความต้องการ ชายหนุ่มก้าวลงจากเตียงแต่แล้วก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อขาทั้งสองข้างยังติดกันอยู่ มือหนาเปิดผ้าที่คลุมตัวไว้

...แสบนักนะศรินดา!...

ธนาดลแกะเชือกที่มัดขาไว้อย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มอยากอาบน้ำเย็นๆสักที เพราะปวดหัวและเหนียวตัวเต็มที เมื่อคืนก่อนจะกลับบ้านก็ดื่มน้ำเมาไปเสียมาก ร่างสูงเดินออกจากห้องนอนของศรินดา แล้วก็ต้องชะงักเป็นครั้งที่สามเมื่อเห็นสภาพผมและใบหน้าของตัวเองผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้งของเจ้าของห้อง

...นี่มันทรงบ้าอะไรวะเนี่ย แล้วหน้านี่มันอะไรกัน!...

ชายหนุ่มค่อยๆแกะหนังยางหลากสีสันบนหัวออกจนหมด เช็ดหนวดแมวพร้อยบนใบหน้า ร่างสูงเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว

“เอื้อง! เอื้อง!!” เสียงดุดันตะโกนเรียกสาวใช้ลั่นบ้าน

“เจ้า”

“ศรินดาไปไหน”

“ออกไปกับคุณนนท์ตั้งแต่เช้าแล้วเจ้า” ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดทันทีที่รู้ว่าศรินดาออกไปกับนนทนัฐตั้งแต่เช้า

...หึ! ต้องหาคนมาปลอบใจตั้งแต่เช้าเลยหรือไง...

ประชดประชันคนที่ออกไปแล้วในใจก่อนจะเดินลิ่วกลับเข้าห้องนอนตัวเองเพื่อชำระล้างร่างกายให้สดชื่น











ศรินดามาโรงพยาบาลพร้อมกับนนทนัฐที่อาสามาส่ง ทั้งคู่เดินเข้าโรงพยาบาลด้วยกัน มือข้างหนึ่งของ นนทนัฐหิ้วกระเช้าผลไม้ที่พ่อตนมาเยี่ยมพ่อเลี้ยงธฤต พนาดรซึ่งเดินออกจากห้องพักของบิดาจึงเจอทั้งคู่ที่กำลังเดินมาพอดี

“ดลกลับบ้านรึยังริน” ชายหนุ่มถามน้องสาวอย่างเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของน้องชาย

“กลับแล้วค่ะ” ถ้าพนาดรจับน้ำเสียงของหญิงสาวดีๆจะพบว่ามันติดสะบัดๆอย่างไม่อยากจะพูดถึงผู้ชายคนนั้นเท่าไหร่

“สวัสดีครับพี่ต้น” นนทนัฐหาจังหวะทักทายพี่ชายของศรินดาอย่างนอบน้อม

“อืม” หากพนาดรทำเพียงแค่รับคำเบาๆเท่านั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบนนทนัฐหากอะไรบางอย่างบอกให้เขาระวังผู้ชายคนนี้ไว้

“สภาพปกติดีใช่ไหม” พนาดรถามขึ้นมาอีกคำถามจนน้องสาวขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าพี่ต้นของเธอเอ่ยถึงใคร

“ใครคะ”

“ดล”

“เอ่อ...ค่ะ ก็ดี” หญิงสาวตอบ ก็คงจะดีแล้วมั้ง ถ้าแกะเชือกที่เธอมัดออกน่ะนะ

“น้ำย้ายออกจากบ้านแล้วนะคะ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า” รินถามคำถามอย่างนึกขึ้นได้ พนาดรนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะตอบตามปกติราวกับไม่รู้สึก

“เหรอ...ไม่มีหรอก พี่จะไปมีปัญหากับน้ำได้ยังไง”

“งั้นเหรอคะ แล้วทำไม....” ยังไม่ทันถามจนจบก็ต้องหยุดถาม เพราะพี่ชายหยิบโทรศัพท์ที่ส่งเสียงเรียกขึ้นมารับเสียก่อน

“ว่าไง”

“นายน้อยมีเรื่องกับไอ้ชัยครับ”

“หา! ว่าไงนะ ได้ๆ เดี๋ยวฉันไปจัดการ ห้ามให้อยู่นะ กันนายดลออกมาให้ได้” พนาดรกรอกเสียงใส่โทรศัพท์อย่างร้อนรน ส่วนคนที่ยืนอยู่ข้างๆก็จับได้แว่วๆว่ามีชื่อของธนาดลอยู่ด้วย

...ยังไม่ส่างเมาหรือไงนะ...

“มีอะไรคะพี่ต้น” รินหยั่งเชิงถาม

“นายดลมีเรื่องกับไอ้ชัย คนงานในไร่” พนาดรบอกอย่างหัวเสีย

...ทำไมมันมีแต่เรื่องแบบนี้วะ!...

“รินไปเป็นเพื่อนไหมคะ พี่ต้นเฝ้าคุณพ่อมาทั้งคืน จัดการคนเดียวรินเป็นห่วง” พนาดรพยักหน้า หาใครซักคนไปเป็นเพื่อนก็ดี เพราะตอนนี้สติสัมปชัญญะเขาแทบจะไม่เหลือแล้ว

“ไปได้ก็ดี พี่เองก็มึนๆแล้ว ไม่รู้เรื่องอะไรต่อเรื่องอะไรบ้าง” ชายหนุ่มบอก ศรินดาพยักหน้าเพื่อเป็นการยืนยันอีกทีก่อนที่จะหันมาบอกนนทนัฐ

“ขอโทษนะนนท์ รินต้องไปกับพี่ต้น” หญิงสาวขอโทษขอโพยเพราะสัญญากับชายหนุ่มว่าจะไปกินข้าวกลางวันด้วยเพื่อตอบแทนที่เขาช่วยเธอไว้คราวที่มีปัญหากับชินานาฏ

“ไม่เป็นไรไว้คราวหลังก็ได้ จัดการปัญหาได้แล้ว โทรบอกนนท์นะ นนท์เป็นห่วง กลัวไอ้ดลมันจะทำอะไรริน”

“จ้ะ” รินยิ้มให้ และวิ่งตามร่างสูงของพนาดรไปอย่างรวดเร็ว ในใจกระหวัดไปนึกถึงคนที่กำลังมีเรื่องกับคนงานในไร่

... ผีบ้าอะไรเข้าสิงอีกนะ ถึงได้ไปหาเรื่องต่อยกับชาวบ้าน ดี! ให้โดนต่อยให้ตายไปเลย...

--------------------------------------------------------------------------------------

คุณดลคงโดนต่อว่าอีกแน่ๆค่ะ ปอแก้วทำใจไว้แล้ว ^^" เพราะพระเอกเรื่องนี้แย่ถึงแย่ที่สุดเลยค่ะ แต่เขาก็มีปมนะคะ เด็กแค่นั้นแต่ต้องเห็นแม่ตัวเองมีชีวิตอยู่ก็เหมือนตาย โศกเศร้าตลอดเวลา

ยังไงก็...ต่อว่ากันตามสบายค่า แหะๆๆๆ อยากรู้ว่าเพื่อนๆคิดยังไงค่ะ



ตอบเมนท์ดีกว่าค่าาาา...

คุณ tutas : พี่อาร์มและพี่อาร์ทมาแล้วนะคะ และก็ตามมาด้วยคุณดลค่า หวังว่าจะชอบน้าาา :)

คุณ บุรีวาด : คุณดลเธอฟาดน้ำเมามาเต็มที่ค่ะ ไหนจะโดนพ่อตบทำร้ายจิตใจมากอีก เธอเลยลงกับนางเอกเราค่ะ แต่ดีที่เมาพับหลับไปก่อน

คุณ ดาวคันชั่ง : ตัวหมอเขตมีหลายคนกรี๊ดมากค่ะ (อย่างน้อยก็เพื่อนๆของปอแก้วล่ะ ฮ่าๆ) ตอนนี้คงรู้แล้วนะคะว่ารินโดนอะไรบ้าง และคุณดลโดนเอาคืนอย่างไรบ้าง

คุณ anOO : เรื่องในวัยเด็กมันฝังใจมากน่ะค่ะ ดูเหมือนจะน่าสงสารแต่อีกมุมก็ดูเหมือนจะไม่น่าสงสารใช่ไหมคะ

คุณ nunoi : หลังๆอยากจะบอกว่าคุณดลเจอหนักเลยค่ะ แค้นเขาเยอะแต่พอรักไปแล้วล่ะก็...เจ็บเยอะเหมือนกันค่ะ

คุณ Amata : ใช่เลยค่ะ เป็นพระเอกที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยเขียนมาเลยค่ะ



ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 เม.ย. 2555, 22:59:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 เม.ย. 2555, 22:59:54 น.

จำนวนการเข้าชม : 1977





<< บทที่ 5   บทที่ 7 >>
ดาวคันชั่ง 10 เม.ย. 2555, 23:55:55 น.
เอ่อ แอบฮานางเอกนะคะ ยังอุตส่าห์แกล้งแบบมีอารมณ์ขันอีก 55+

นายดลความจริงก็น่าสงสาร แต่รินน่าสงสารกว่าที่ต้องเป็นเครื่องระบายความแค้น - -'


หมูบูลิน 11 เม.ย. 2555, 00:13:22 น.
อยากจะต่อยหน้านายดลซักที


tutas 11 เม.ย. 2555, 11:17:37 น.
ฮ่าๆๆๆๆ นึกภาพคุณดลตอนเข้ารินบาเบอร์แล้วฮาค่ะ แล้วคราวหน้ารินจะรอดน้ำมือคุณดลมั๊ยเนี้ยยยย


Amata 11 เม.ย. 2555, 13:21:02 น.
ตรงข้ามกับนายดลของเราเลยแฮะ ว่าแต่ชื่อของตัวกับเค้าทำไมมันวนเวียนๆเหมือนกันงี้ล่ะ ทั้งสองเรื่องเลย ฮ่าๆๆ
แต่หนูรินไว้ใจเสียงยามวิกาลอีกแล้วนะ รู้ทั้งรู้ว่าตัวแสบอยู่ในบ้านทั้งตัวเอ๊ยคน คราวหน้าเช็คดูให้ดีก่อนล่ะหนูริน...


มุกมาดา 11 เม.ย. 2555, 14:50:08 น.
เข้ามาอ่านสองตอนรวดค่ะ โอ้ คุณดลจัดหนัก แต่คุณรินสนองคืนเร็วทันใจ อิ อิ


anOO 11 เม.ย. 2555, 15:29:24 น.
นึกว่ายัยรินจะไม่รอดซะแล้ว แต่ไปแกล้งกันแบบนี้
เดี๋ยวได้มีเอาคืนอีกหลายรอบ


nunoi 11 เม.ย. 2555, 16:35:16 น.
ทีจริงก็แอบสงสารนายดลนะ แต่ก็ไม่น่าจะมาลงกับหนูรินเลย แล้วจะรอดน้ำมือนายดลไหม๊เนี๊ยะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account