เหนือความทรงจำ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หัวใจของเขายังมีเธอเพียงคนเดียว แม้ความทรงจำของเธอจะไม่เคยมีเขาอยู่เลย แต่หัวใจของเขาจะมั่นคงเพียงเธอตลอดไป
Tags: โรแมนติก รัก เศร้าซึ้ง

ตอน: ตอนที่ 14

หลายวันแล้วที่มหาสมุทรจะมานั่งหน้าเศร้าทอดสายตามองบึงน้ำด้านหลังบ้านอย่างเงียบขรึมเพียงลำพัง เมทินีถอนหายใจเบา ๆ อย่างสุดทนหลังแอบมองสภาพของพี่ชายมานานนับตั้งแต่วันที่พี่ชายนัดพบแพรธาราที่ร้านอาหารประจำ ใจอยากเข้าไปคุยไปปลอบแต่ก็ไม่กล้า ได้แต่เดินวนไปเวียนมาหน้าประตูด้านหลังบ้านด้วยความเป็นห่วงกังวล

“โอ๊ย...ทำไมยังไม่มาอีกนะ”

ร่างบางบ่นพลางกุมมือถือแน่นขึ้นกว่าเดิม นับหนึ่งถึงแค่สามความอดทนก็หมดจนต้องกดเบอร์โทรศัพท์เบอร์เดิมซ้ำเป็นรอบที่สาม

“จ้า...กำลังขับรถอยู่จ้า รีบเต็มที่แล้ว”

“รีบกว่านี้ได้ไหมคะ” เมทินีเร่ง “เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี นี่เรื่องความเป็นความตายของเพื่อนสนิทพี่นะ...อย่าชักช้าได้ไหม”

“ใจร้อนที่หนึ่ง”

เสียงทุ้มครางพลางส่ายหน้าเหนื่อยใจกับสาวห้าวเหลือกำลัง เขารู้ดีว่าเรื่องจะเป็นจะตายของเพื่อนก็คงไม่พ้นเรื่องอดีตภรรยาที่ชายหนุ่มลืมไม่ลง หรือเรียกให้ถูกคือไม่พยายามจะลืมเลยสักนิด ยังคงเก็บทุกอย่างระหว่างกันไว้จนน่าห่วงกังวล ข่าวล่าสุดที่เขารู้คือเพื่อนเพิ่งไปพบอดีตภรรยามา ฝ่ายหญิงคงจะพูดให้สะเทือนใจถึงได้กลับมานั่งเศร้าเงียบขรึมเหมือนตอนที่เลิกรากันใหม่ ๆ

“มาถึงเสียทีนะคะ แมร์รอจนเริ่มหงุดหงิดแล้วนะคะ”

เมทินีปราดไปยืนข้างประตูรถฝั่งคนขับทันทีที่รถของเพื่อนรักพี่ชายจอดสนิท

“คิดถึงพี่หรือจ๊ะ”

“พี่หมอ”

แพทย์หนุ่มรีบสงบปากสงบคำเมื่อเห็นสาวในดวงใจมองมาตาเขียว ก็สาวน้อยนี่หมัดหนักนัก ยิ่งศอกของเธอก็ใช่ย่อย เขาโดนมาหลายทีจนจะช้ำในตายอยู่แล้ว นี่ถ้าไม่ใช่หมอคงรักษาตัวเองไม่รอด แต่ไม่วายอ้อนหาข้อแก้ตัวไว้ก่อน

“ขอโทษจ๊ะ...พี่ล้อเล่น คือจริง ๆ รถมันติดน่ะ”

“เหตุผลยอดฮิต...แมร์ไม่รับเป็นข้อแก้ตัวหรอกนะคะ”

“เอ่อ...แล้ว...แล้วพี่ก็โทรไปช่วยเจ้าพลด้วย แมร์บอกเรื่องคอขาดบาดตายไม่ใช่เหรอ...แบบนี้ต้องใช้จอมวาทศิลป์อย่างเจ้าพลมาช่วยด้วย”

“หึ...ชื่อไตรภพแปลว่าสามโลก” เมทินีไม่วายแขวะ “แต่ขอให้ช่วยอะไร...ไม่เห็นจะทำเองได้สักอย่าง หาแต่ตัวช่วยอยู่เรื่อย”

“อ้าว...สามโลกนี่ล่ะจ๊ะใช่เลย พี่ถึงรู้ว่าใครคนไหนควรทำอะไรไงจ๊ะ”

เมทินีตวัดค้อนใส่จอมแก้ตัวอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเร่งเมื่อนึกเรื่องสำคัญได้

“พอเลย...แมร์ไม่เถียงด้วยแล้ว”

สาวสวยขัด พลางดันหลังชายหนุ่มให้เดินนำ

“รีบเข้าไปคุยกับพี่มาร์คเร็ว ๆ เลย คุยกันลำพังสองคนอย่างนี้ล่ะดีจะได้สืบความลับได้”

“อ้อ...ส่วนเราน่ะ” หมอหนุ่มเหลียวมามองอย่างรู้ทัน “ก็เป็นนางแอบเช่นเคยใช่ไหมล่ะ”

“ปากดีนะ...ปากดีแบบนี้ต้องให้รางวัล”

ไตรภพครางเสียงต่ำแบบไม่ทันได้ตั้งตัว สีข้างขวาก็โดนถองจนจุกไปเต็ม ๆ ต้องเดินงอตัวเข้าไปทักทายเพื่อนรักแบบไร้ฟอร์ม

“ไง...ไอ้ภพ วันนี้เจ็บตัวเรื่องอะไรอีกล่ะ”

“หึ...น้องสาวนาย ไม่ต้องมีประเด็นอะไรก็อัดฉันได้” ไตรภพรีบฟ้อง “ฉันมันเป็นกระสอบทรายประจำตัวอยู่แล้วนี่”

“แล้วนี่...มีอะไรกับฉันล่ะ มาแบบไม่บอกไม่กล่าวเนี่ย”

ไตรภพถอนหายใจ พลางทรุดนั่งข้าง ๆ เพื่อนรัก

“มีคนเคยบอกฉันว่ามีเพียงเวลาเท่านั้นที่รู้คุณค่าของความรัก ฉันไม่รู้ว่าควรเชื่อเรื่องนี้ดีไหม”

“น้องสาวฉันคงเล่าให้ฟังแล้วสิว่าฉันไปพบแพรมา”

ไตรภพไม่ได้ตอบรับ เพียงแค่คลี่ยิ้มบาง ๆ เพราะรู้ดีว่าไม่มีใครบังคับเพื่อนรักได้เว้นเพียงเพื่อนอยากเล่าอยากสารภาพให้ฟังจริง ๆ เท่านั้น

“ใช่ วันนั้นแพรมาขอรูปของตาหนู ฉันรู้ว่าที่ทำนั้นไม่ถูก” มหาสมุทรสารภาพ “แต่อัลบัมรูปเป็นข้ออ้างและโอกาสเดียวที่ฉันจะได้ใกล้ชิดกับแพรอีกครั้ง ถึงจะเป็นแค่ข้าวกลางวันมื้อเดียวแต่มันก็คุ้มค่ามาก”

“มันรังแต่จะเจ็บปวดเกินไปหรือเปล่าเพื่อน”

ไตรภพแย้งอย่างคนที่รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับสองคนนี้มาก่อน คนหนึ่งสูญเสียความทรงจำ อีกคนหนึ่งรักษาคำมั่นสัญญายิ่งชีพ หนทางออกแทบมองไม่เห็นนอกจากเส้นทางแห่งความรักที่แสนรันทด

“ไม่เลย...มันเป็นมื้อที่มีค่ามากเพราะทำให้ฉันได้รู้ว่าฉันไม่มีทางลืมแพรได้เลย ไม่ลืม และไม่อยากลืมด้วย ฉันยังรักแพรอยู่เต็มหัวใจ”

มหาสมุทรเปิดเผยทุกความรู้สึกในหัวใจ ทุกการตัดสินใจที่เขาใช้เวลาครุ่นคิดอยู่หลายวัน

“ฉันไม่มีวันที่จะรักใครหรือแต่งงานกับใครได้อีก ไม่มีวันที่จะเป็นลูกกตัญญูสร้างครอบครัวใหม่ให้คุณพ่อคุณแม่ได้สบายใจหรือเบาใจได้เลย คุณพ่อคุณแม่คงไม่มีวันได้เล่นกับหลานชายตัวน้อย ๆ อย่างที่ท่านวาดฝันจากฉันได้อีก”

“เฮ้ย...ใจเย็น ๆ” ไตรภพทั้งห้ามทั้งปลอบ “อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุปสิ ให้เวลากับตัวเองมากกว่านี้อีกสักนิดก่อน เรื่องแบบนี้ถึงจะไม่ลืมก็เก็บไว้ในความทรงจำได้ แล้ววันหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปนายจะเข้าใจและเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้เองล่ะ”

“เก็บไว้ในความทรงจำเพื่อจะลืมเลือนเหมือนแพรอย่างนั้นสิ”

มหาสมุทรเอ่ยถามเสียงเศร้า เบนสายตาจากเพื่อนรักไปที่ระรอกคลื่นในบึงอย่างหมองหม่น

“ไม่มีทางหรอก ทุกอย่างถูกจารึกไว้ในหัวใจแล้ว...จะไม่มีวันลบออกอีกและฉันก็ไม่ต้องการลบด้วย”

“โอ๊ย...ทนไม่ไหวแล้วนะ”

คนชอบแอบฟังหมดความอดทนเมื่อพี่ชายเอาแต่ดื้อรัน เพื่อนรักทั้งห้ามทั้งเตือนก็ยังไม่ยอมฟัง จนต้องลุกจากที่ซ่อนมาโวยวายตามประสาสาวมั่น

“เลิกดื้อเสียที พี่แพรไม่มีวันกลับมารักพี่แล้ว...เขามีคนรักใหม่ไปแล้ว ไม่เข้าใจหรือไง”

“น้องแมร์...”

“พี่หมอไม่ต้องมาห้ามนะ” ตาดุตวัดฉับ “ใคร ๆ ก็รู้ว่าสองครอบครัวนั่นทำธุรกิจร่วมกัน ยังไง ๆ พวกเขาก็ต้องแต่งงานกันอยู่ดี แมร์ไม่เข้าใจว่าพี่มาร์คจะมานั่งทนสูญเสียชีวิตของตัวเองกับเรื่องแบบนี้ทำไม”

“มันไม่ใช่เรื่องแบบนี้ แต่เป็นความรู้สึกที่พี่ยินดีจะอยู่ต่อ อยู่เพื่อแอบมองแพรห่าง ๆ เห็นเขามีความสุข...พี่ก็พอใจแล้ว”

มหาสมุทรเถียงกลับด้วยรอยยิ้ม ตัดสินใจแล้วว่าจะทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

“พี่จะไม่ยอมถูกบังคับให้แต่งงานกับใครอื่นอีก...ไม่ขอทำอีกแล้ว ไม่ต้องการทำร้ายจิตใจใครอีกและจะไม่ทำร้ายหัวใจของตัวเองเหมือนกัน”

“โอ๊ย...รัก ๆๆๆ เขารักตัวเองด้วยหรือไง”

“น้องแมร์...”

ไตรภพเรียกชื่อสาวมั่นที่เริ่มหงุดหงิดเพื่อเตือนสติ

“ไม่ต้องมาเรียก แมร์ไม่เข้าใจพี่มาร์คเลย คนเขาไม่รักเราก็อย่าไปรักเขาสิ...ทำไมต้องทนเสียใจคนเดียวด้วย” เมทินีต่อว่า “เราต้องรักตัวเองอยู่กับตัวเอง หรือถ้ามันทำยากนัก...ให้แมร์ช่วยไหม เอาวิธีไหนดีล่ะ”

สาวห้าวทำท่าครุ่นคิด เดินวนรอบตัวพี่ชายเพื่อหาวิธีการ

“อ้อ...คิดออกแล้ว” สาวสวยตบมือเบา ๆ “ทุบหัวดีไหม...ให้สมองกระทบกระเทือนมาก ๆ จะได้ความจำเสื่อมเหมือนพี่แพร์”

“เอ่อ...”

“ต้องทำยังไงบ้างคะพี่หมอ” สาวสวยหันมาถามหนุ่มหล่อที่กำลังอึ้งหนัก “บอกวิธีแมร์มาเร็ว เดี๋ยวแมร์จะได้เตรียมอุปกรณ์ไว้ให้”

“โอ๊ย...เบา ๆ เถอะจ๊ะน้องแมร์” ไตรภพคราง แทบอย่างเป็นลม “ความคิดนี้ไม่ได้ผลหรอกจ๊ะ เผลอ ๆ ทำไปแล้วแทนที่เจ้ามาร์คจะแค่ความจำเสื่อม จะกลายเป็นพิการหรือนอนเป็นอัมพาตจะยุ่งนะครับ เรื่องของสมองไม่ใช่เรื่องจิตใจกระทบกระเทือนเหมือนน้องแพรนะครับ”

“โอ๊ย...โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้...แล้วจะเอายังไงล่ะ”

มหาสมุทรส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มอ่อนใจกับสาวช่างคิดรู้ว่าน้องรักน้องห่วง แต่การตัดสินใจครั้งนี้เขาครุ่นคิดมาหลายวันแล้วและจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงไม่ว่าใครจะคัดค้านก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เขาคิดว่าตัวเองต้องรับผิดชอบต่อครอบครัววิษณุวงษ์และคงไม่มีใครทำได้ดีกว่าเขาอีกนอกจากน้องสาว จึงสรุปรวบรัดแบบไม่ปรึกษาใครทั้งสิ้น

“พี่ก็ไม่เอายังไงหรอก แค่ให้เราแต่งงานกับเจ้าหมอซะแล้วก็รีบผลิตทายาทสักสามสี่คนให้คุณพ่อคุณแม่และคุณปู่แทนพี่ก็พอแล้ว”

“ด้วยความเต็มใจเลยเพื่อน”

“อะไรนะ”

สาวมั่นโวยลั่น หันมาถลึงตาดุคุณหมอหนุ่มอย่างไม่พอใจ

“แมร์ไม่เคยรับปากว่าเป็นแฟนพี่หมอสักหน่อย ไม่เคยคบ...จะให้แต่งได้ไง พี่มาร์คกับพี่หมออย่ามามั่วนะ”

“อ้าว...แล้วเห็นมีปัญหาหนักอกหนักใจทีไรก็ไปจิกเรียกเพื่อนพี่มาแบบนี้หมายความว่าไง” มหาสมุทรย้อนบ้าง “นี่ถ้าเจ้าหมอกำลังจีบสาวอยู่ก็เสียโอกาสพอดี เธอก็ต้องรับผิดชอบชีวิตมันจะให้มันเป็นผู้ชายขายไม่ออกได้ไง”

“โอ๊ย...ขายไม่ออกก็ยกให้ฟรีไปเลย แต่ไม่ต้องมายกให้แมร์เพราะแมร์ไม่เอา”

เมทินีโวยวาย สะบัดหน้าเดินหนีพี่ชายและคุณหมอหนุ่มไปอย่างหงุดหงิด เดินบ่นกับลมกับแล้งอย่างไม่พอใจที่หวยมาออกที่ตัวเอง

“หาเรื่องไล่น้องได้ชะงัดนะเนี่ย”

“ไม่ได้ไล่น้อง แค่อยากเปิดโอกาสให้นายเท่านั้น” มหาสมุทรปฏิเสธ “แล้วก็รีบทำคะแนนปิดประมูลซะ อย่าให้เหมือนฉันที่ต่อให้อยากได้โอกาสแค่ไหนก็ไม่มีวันได้อีกเล้ว”

“มาร์ค...”

“ฉันไม่เป็นไร แค่หวังให้ชาตินี้มีรักก็พอใจแล้ว...เพียงแค่ให้รักของฉันมั่นคงเหมือนที่รับปากแพรไว้ในวันแต่งงานได้จริง”

“ความจริงถ้านายจะลองกลับไปหาน้องแพร...พยายามที่จะรื้อฟื้นความทรงจำของน้องแพรล่ะ บางที...”

“ความรักอยู่เหนือความทรงจำ...ภพ ไม่ใช่ที่สมองรู้สึกแต่หัวใจต่างหากที่รู้สึกรัก”

ไตรภพจนทุกคำพูดได้แต่พยักหน้าและตบบ่าเพื่อนรักเบา ๆ อย่างเข้าใจและให้กำลังใจ ทราบดีว่าเพื่อนรักภรรยาเก่ามากแค่ไหน และเจ็บปวดเพียงใดที่ไม่มีวันได้ใช้ชีวิตร่วมกันอีก เมื่อสาวสวยคนนั้นไม่มีเพื่อนรักของเขาในหัวใจอีกแล้ว

“โห...รถติดเป็นบ้า” เสียงทุ้มดังมาแต่ไกล “ไม่รู้ถนนทากาวยี่ห้ออะไร...ติดหนึบแบบไม่ยอมให้รถเคลื่อนเลยว่ะ”

ดวงตาสองคู่หันมามองผู้มาใหม่พร้อมกันแบบไม่ต้องนัด แต่ทำให้หนุ่มกระล่อนจอมเจ้าชู้ชะงักค้าง ก่อนจะส่งยิ้มแหย ๆ ให้อย่างรู้ตัว

“เออ...ขอโทษที่มาสาย หวัดดียามเย็นก็ได้นะ”

“ขอบคุณครับคุณเพื่อน” ไตรภพแซว “มาล่าขนาดนี้...ถ้าไอ้มาร์คอยากฆ่าตัวตายคงไปสวรรค์นานแล้ว”

“โฮ...โดนน้องแมร์เล่นงานไปกี่ดอกล่ะไอ้คุณหมอถึงได้พาลใส่ฉันเนี่ย” กำพลบ่น “เมื่อครู่สวนกับน้องแมร์ก็เห็นเดินบ่นหงุดหงิดอยู่คนเดียวนี่”

ไตรภพพ่นลมหายใจระบายเครียดเมื่อนึกความรักของตัวเอง ก่อนเฉลย

“ก็ไอ้มาร์คมันเปิดประมูลฉันไง ว่าที่เจ้าสาวเลยเดินหนีดื้อ ๆ”

“อ้อ...ปิดการขายไม่ได้...งั้นฉันช่วยปิดให้ไหม วิธีการฉันมีเยอะ” กำพลโอ่ “ทดลองมากับหลายคนโดยเฉพาะน้องนี รับประกันค่าตัวสูงกว่าหุ้นน้ำมันแน่นอน”

“ไอ้เพื่อนบ้า”

ไตรภพแยกเขี้ยวใส่ไอ้เพื่อนรักจอมกะล่อนที่รู้ทั้งรู้ว่าเขาตามรักตามจีบน้องสาวของมหาสมุทรมาตั้งแต่วันแรกที่พบหน้า เรียกว่า รักแรกพบ ก็ว่าได้ แต่สาวเจ้าก็ไม่เคยแสดงให้เห็นว่ามีเยื่อใยสักครั้ง

“อ้าว...ก็อยากช่วย”

“ช่วยให้เขาโกรธแล้วก็สะบัดบ๊อบใส่ฉันใช่ไหม”

“ยายแมร์รักนาย”

มหาสมุทรโพล่งแบบไม่ต้องเกริ่น แต่ทำเอาสองเพื่อนรักตาโต

“รักของเขาไม่เหมือนฉัน ถ้าเกลียดจะไม่อยากเห็นหน้า...ถ้าเฉยจะไม่ใส่ใจ แต่ถ้ารักจะแกล้งและเซ้าซี้...ยึดถือเกาะติดเหมือนเป็นเจ้าของ”

“เออว่ะ...” กำพลพยักหน้าเห็นด้วย “กับฉันน้องแมร์ไม่เคยแกล้ง คุยกันสนุก...เฮฮาแบบสาวลุย ๆ แต่กับนาย...”

“ทั้งศอกทั้งหมัด...โทรจิกก่อนใคร ต่อให้ป่วยก็ต้องรีบมาหาใช่ไหม”

สองหนุ่มหัวเราะลั่น ทุกคำบรรยายของไตรภพเป็นเรื่องจริง นักข่าวสาวคนสวยที่ห้าวไม่เกรงใจใครมีท่าทางแบบนี้กับไตรภพคนเดียวเท่านั้น อาการแกล้งและทำร้ายร่างกายไม่เคยเกิดขึ้นกับหนุ่มหล่อคนอื่นที่เข้ามาจีบหญิงสาวเลยสักครั้ง สิ่งที่หนุ่ม ๆ ได้รับคือรอยยิ้มและบทสนทนาที่สนุกสนาน แต่ไม่เคยได้ใกล้ชิดและขอคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือเหมือนที่ไตรภพได้รับ



แพรธารากอดอัลบัมรูปภาพที่ได้รับจากมหาสมุทรไว้แน่น ทรุดตัวนั่งบนเตียงนุ่มด้วยหัวใจสั่น ๆ ทั้งตื่นเต้นและสับสนที่จะเปิดดูภาพเด็กน้อยที่ใคร ๆ บอกว่าคือลูกชายของเธอ หากความอยากรู้มีมากกว่าความลังเลมือบางค่อย ๆ เปิดดูอัลบัมภาพทีละหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลายแต่สิ่งที่โดดเด่นในใจที่สุดคือความพยายามที่จะจดจำทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กน้อย แต่กลับไม่มีภาพใดหลุดเข้ามาในความทรงจำเลยสักนิด

“ทำไม...ทำไม...”

สาวสวยพึมพำกับตัวเอง ยกมือแตะศีรษะของตัวเองอย่างไม่เข้าใจ

“ลูก...ตาหนูชิน”

น้ำตาหยดเล็กค่อย ๆ ไหลอย่างทำใจไม่ได้เมื่อพยายามนึกเรื่องลูก แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ความผูกพันเดียวที่ทำให้หัวใจไม่เจ็บปวดนัก คือ รอยยิ้มสดใส แววตาใสซื่อบริสุทธิ์ มือบางสัมผัสภาพเด็กน้อยที่กำลังยิ้มน่ารัก ยอมเชื่อหมดใจว่าเด็กในรูปต้องเป็นลูกของเธอแน่ แต่ยิ่งเชื่อยิ่งเจ็บปวดที่ตัวเองจำลูกชายไม่ได้ แม้ทราบดีว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นอุบัติเหตุ แต่คงจะดีไม่น้อยถ้าลูกยังอยู่ และคงจะเป็นอย่างที่เด็กวัยรุ่นในศูนย์ชุมชนว่า...ลูกคงน่ารักเหมือนเด็กน้ำฝน คงจะตื่นเต้นที่ได้รับประทานไอศกรีมรสหวานฉ่ำเย็นเหมือนกัน

“เป็นอะไรไปลูก”

ลลิตาทักอย่างตกใจเมื่อเข้ามาเห็นลูกสาวคนโตร้องไห้ แต่ยิ่งช็อคเมื่อลูกสาวหันมาสบตาพร้อมกับอัลบัมภาพ...ภาพที่ท่านไม่เคยเห็นมานานมากแล้ว

“ทำไมคะ...ทำไมทำแบบนี้กับแพร ทำไมยอมให้แพรลืมแกคะ”

“แพร...”

ลลิตาพอตั้งสติได้ก็รีบสวมกอดลูกรักอย่างปลอบโยน พอถูกกอดสาวสวยก็ยิ่งสะอื้นหนัก หัวใจของคนเป็นแม่อ่อนยวบสงสารลูกจนกลั้นน้ำตาไม่ไหว สุดท้ายกลายเป็นกอดกันร้องไห้

“แม่ขอโทษ แต่แม่ไม่อยากเห็นแพรเจ็บ”

“แต่แพรเจ็บค่ะแม่ แพรเคยรู้สึกว่าตัวเองอ้างว้าง” แพรธาราสารภาพ “แพรเคยคิดว่าเพราะตัวเองห่างครอบครัวไปเรียนไกลถึงที่โน่น แต่ที่จริงคงไม่ใช่เพราะแพรมีห่วงต่างหาก...ห่วงที่ไม่ได้ดูแลตาหนูให้ดี”

“ไม่จริงจ๊ะ แพรรักตาหนู...รักแกเหมือนที่แม่รักแพร”

ลลิตาเถียง พลางลูบหลังลูบไหล่ให้ลูกสาวอย่างปลอบขวัญ

“ที่แพรเป็นแบบนี้ก็เพราะรักแกมากจนทำใจเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ คุณหมอบอกว่าแพรช็อค...คาดว่าก่อนที่แพรจะหมดสติคงหันไปเห็นสภาพของตาหนู ทำให้ส่วนลึกในใจแพรไม่ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น”

“แต่แพรก็ผิด...ผิดที่ให้ลูกนั่งข้างหลัง ถ้าแพรให้ลูกนั่งด้านข้าง...ลูกคงไม่เป็นอะไร”

“ไม่มีใครรู้หรอกนะแพรว่าที่ไหนที่ปลอดภัยที่สุด เราเคยเชื่อว่าด้านหลังจะช่วยป้องกันตาหนูจากการกระแทก แพรเอาลูกใส่ที่นั่งเด็กแล้ว แต่ทุกอย่างมันคือฟ้าลิขิต...ลิขิตให้ตาหนูอยู่กับเราได้แค่นี้”

“แล้ว...”

แพรธาราอยากจะถามถึงมหาสมุทร แต่ก็ไม่รู้ว่าจะถามมารดาว่าอะไรดี ความรู้สึกที่มีต่อเขาตอนนี้คืออะไร เมื่อเธอยอมเชื่อแล้วว่าครั้งหนึ่งเคยแต่งงานกับเขา เคยมีลูกชายที่น่ารักด้วยกัน

“แล้วอะไรจ๊ะ”

“เปล่าค่ะ”

“แพร...” ลลิตาเดาออกว่าตอนนี้ลูกสาวคงยังสับสนมาก “แม่รู้ว่าแพรสับสนไม่เข้าใจ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นเกินกว่าแพรจะรับได้ แต่แม่อยากบอกแพรว่าบางอย่างที่ผ่านไปแล้วก็ต้องปล่อยให้ผ่านไป แพรคงกลับไปแก้ไขไม่ได้อีกแล้วไม่ว่าจะเรื่องลูกหรือว่ามาร์ค”

แพรธาราหลบตามารดาที่กำลังจ้องเธอเหมือนจะค้นหา เหมือนท่านจะเดาความรู้สึกบางอย่างที่ซุกซ่อนในใจของเธอได้

“แม่ไม่เคยโกรธมาร์ค แม่รู้ว่ามาร์คเองก็เจ็บ...แม่ไม่เคยอยากให้พวกลูกเลิกกัน” ลลิตากล่าว “แต่เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้ว แพรคงรู้ใช่ไหมว่าครอบครัวเรากับครอบครัวนั้นก็เหมือนมีเส้นใยบาง ๆ ขวางกันอยู่ มันไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีก”

“แพรไม่เคยคิด...”

“แม่แค่อยากให้แพรคิดถึงแซมให้มาก เป็นแฟนกันมาสามปี...ธุรกิจของครอบครัวก็มีร่วมกันแล้ว”

ลลิดตาขัดขึ้น ไม่ต้องการให้ลูกสาวลำบากใจแต่อย่างไรก็ต้องเตือนสติกันไว้

“แม่เชื่อว่าคุณพ่อและคุณปู่จะไม่มีวันสนับสนุนใครอีกนอกจากแซม”

ชื่อของคนรักที่มารดาพยายามย้ำเตือนทำให้ดอกเตอร์สาวหวนคิดถึงเรื่องที่บ้านพักชายทะเล

“คุณแม่ไม่คิดบ้างหรือคะว่าแซมอาจจะรังเกียจแพรและเป็นฝ่ายขอเลิกกับแพรก็ได้”

“ไม่มีทาง”

ลลิดาปฏิเสธอย่างมั่นใจด้วยรู้จักแม่ของสุทัศน์ดี ไม่มีทางที่คนอย่างนาถยาจะยอมเสียผลประโยชน์ที่สู้อุตส่าห์ลงทุนลงแรงไปแน่นอน ทั้งที่ใจจริงลลิตายอมรับกับตัวเองว่าเธอภาวนาขอให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง เพราะสิ่งที่มหาสมุทรทำเพื่อช่วยรักษาชื่อเสียงของแพรธาราให้หลุดพ้นจากข่าวอื้อฉาว ทำให้นางมั่นใจว่ามหาสมุทรยังคงรักแพรธาราเสมอ สิ่งที่อดีตลูกเขยทำพิสูจน์ให้เห็นความมั่นคงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ระหว่างสุทัศน์กับมหาสมุทรลลิตาแอบหวังลึก ๆ ว่าลูกสาวจะได้กลับไปคืนดีกับสามีเก่า ผู้ชายที่ทำให้ลูกสาวของนางมีรอยยิ้มที่สดใสยิ่งกว่าที่ใครเคยทำได้

“แม่มั่นใจขนาดนั้นเลยหรือคะ”

แพรธาราย้ำถาม เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นทำให้แพรธาราไม่มั่นใจในความรักของสุทัศน์อีก ที่สำคัญยิ่งได้พบกับมหาสมุทรมากขึ้นเท่าไหร่ หัวใจของเธอกลับรู้สึกหวั่นไหวมากขึ้นทุกวันจนไม่มั่นใจเลยว่าเธอจะยังยอมแต่งงานกับสุทัศน์ได้อีกไหม

“ทำไมถามแม่แบบนั้น” ลลิตาเลิกคิ้วอย่างสงสัย “แซมเคยพูดหรือแสดงกิริยาไม่ดีกับลูกหรือจ๊ะ”

“เปล่าค่ะ” แพรธาราเลือกที่จะปฏิเสธ “แพรแค่กลัวว่าข่าวลือตอนนั้นอาจจะทำให้แซมและครอบครัวของเขาเห็นว่าแพรไม่เหมาะสมที่จะเป็นสะใภ้ของตระกูลใหญ่อย่างนารินรักษ์”

“อีกหน่อยแพรจะเข้าใจคำว่าเหมาะสมของนารินรักษ์...มันมีมูลค่ามากกว่าที่แพรคิด”

ลลิตากล่าวด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน ยังจำได้ดีว่านาถยามารดาของสุทัศน์ร้ายและเหลี่ยมจัดแค่ไหน กว่านางจะคว้าตำแหน่งสะใภ้ของตระกูลนี้มาได้ ต้องแก่งแย่งและทำร้ายใครมาบ้าง นางก็ยินดีจะทำเพื่อสนองความต้องการของตนเอง



*************************

sai- รู้สึกพี่มาร์คจะได้คะแนนความเห็นใจเยอะดีจัง พิมดาวแอบดีใจแทนพี่มาร์ค แต่ตอนนี้ขอเรียกคะแนนสงสารอีกตอน ตอนหน้าจะพาแพรกลับมาหาพี่มาร์คอีกครั้ง และต้องขึ้นกับพี่มาร์คแล้วว่าจะทำให้ความรู้สึกของแพรเปลี่ยนได้ไหม

panon- ตอนนี้ก็คิดว่าคะแนนสงสารพี่มาร์คน่าจะเพิ่มอีกสักขีดสองขีดนะคะ

ใบบัวน่ารัก – ตาหนูเสียตั้งแต่ยังไม่ขวบค่ะ ประสบอุบัติเหตุระหว่างจะไปหาหมอค่ะ ลองอ่านตอนที่ 12 ดูได้ค่ะ น่าจะเข้าใจเพิ่มขึ้นมั้ง อิอิ คือเขียนเป็นเรื่องเล่าน่ะค่ะไม่ได้เขียนฉากอุบัติเหตุเลยอาจจะไม่ได้อธิบายมากนักค่ะ

an00 - ใช่เลย รักสาวเจ้าต้องอดทน แม้จะเป็นการอดทนที่ไม่มีความหวัง พี่มาร์คก็ต้องทน อิอิ

Auuuu – แบบเรื่องนี้เป็นเรื่องเศร้า เลยค่อนข้างมีแต่อารมณ์เศร้า รู้สึกจะมีตอนนี้ในส่วนน้องแมร์นี่ล่ะค่ะที่ได้แอบโล่งเล็ก ๆ น้อย ๆ

teesaparn – เรื่องแรกเลยค่ะที่เขียนเศร้า ให้ค่าตัวพระเอกเยอะขนาด ตอบแทนที่เรียกมาใช้งานให้อยู่อารมณ์พระรองแบบแอบรักเขาข้างเดียวอยู่นั่นล่ะ กว่าจะสุขนี่พระเอกคงงอนไรเตอร์ไม่น้อย 555+





พิมดาว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 เม.ย. 2555, 22:47:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 เม.ย. 2555, 22:47:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1347





<< ตอนที่ 13   ตอนที่ 15 >>
sai 16 เม.ย. 2555, 02:02:55 น.
อยากให้คนอื่นเห็นธาตุแท้ของนาบแซมไวไว จริงๆ


ใบบัวน่ารัก 16 เม.ย. 2555, 08:20:52 น.
แต่งงานเพราะธุรกิจ ผลประโยชน์
แล้วความรัก หละคะ
อยู่ที่ใด?


panon 16 เม.ย. 2555, 09:17:37 น.
มันจะต้องมีอะไรสักอย่างที่มาทำให้ปู่ของแพรเห็นธาตุแท้นายแซมมมมมม


anOO 16 เม.ย. 2555, 15:28:17 น.
ตกลงครอบครัวแพร รักกันจริงไหมนี่
ไม่คิดถึงความรู้สึกแพรกันบ้างเลยเหรอ หวังว่าจะได้เห็นด้านเลวๆ ของนายแซมเร็วๆ นี้


Edelweiss 16 เม.ย. 2555, 20:45:58 น.
อยากให้คุณปู่รู้เรื่องที่นายแซมจะมัดมือชกแพรจัง


Auuuu 16 เม.ย. 2555, 22:08:01 น.
เฮ้ออออ สงสารมาร์คมากๆๆๆๆ
อยากให้ทุกคนเห็นธาตุแท้ อยากให้แพรเล่ามากกว่าเก็บไว้เอง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account