เล่ห์รัก...เล่ห์แค้น
เป็นนิยายเรื่องแรกของปอแก้ว...ที่เคยลงจนจบไว้นานมากแล้ว ตอนนี้เลยลองเอามาปัดฝุ่นรีไรท์ใหม่ค่ะ :)

-----------------------------------------------------------------

เรื่องราวความรักระหว่างคนสองคนที่เริ่มด้วยความแค้นเมื่อ ‘ธนาดล’ ลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงธฤตกลับมาจากต่างประเทศ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแก้แค้นศิรสาซึ่งเป็นแม่เลี้ยงโดยใช้ ‘ศรินดา’ ซึ่งเป็นลูกสาวเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นครั้งนี้
Tags: ธนาดล ศรินดา พนาดร สลิลธาร

ตอน: บทที่ 15




บทที่ 15



เช้าวันใหม่ ศรินดาลืมตาตื่นพร้อมกับสลิลธารที่นอนอยู่ข้างๆ หญิงสาวคลี่ยิ้มออกน้อยๆ ยอมรับว่ารู้สึกดีขึ้นมากหลังจากที่คุณหมอน้ำมาอยู่เป็นเพื่อน อย่างน้อย...เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ตัวคนเดียว

“จะกลับแล้วหรือน้ำ อยู่ที่นี่อีกคืนได้ไหม” ศรินดาร้องขอเสียงอ่อน

“ฉันก็อยากอยู่หรอกริน แต่วันนี่ต้องไปทำธุระเรื่องย้ายมาทำงานที่นี่ แล้วเย็นๆจะเข้ามา”

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเข้ามาก็ได้ แกเข้ามาก็รบกวนหมอเขตให้มาส่งเปล่าๆ ฉันอยู่ได้ ไม่เป็นไรหรอก” เพื่อนสาวคนสนิทยิ้มยืนยัน

“อยู่ได้แน่นะริน” สลิลธารถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

“แน่สิ...ฉันอยู่ได้” ศรินดาเองก็ย้ำคำตอบอีกครั้งเช่นกัน

“ริน...ฉันขอแกอีกครั้งได้ไหม พอเถอะนะ อย่าแก้แค้นเลย” สลิลธารยังคงไม่ละความพยายาม เธอไม่อยากให้เพื่อนจมอยู่กับความแค้นแบบนี้...ไม่อยากเลย

ศรินดาส่ายหน้า ดวงตาบอกถึงความแน่วแน่เกินบรรยาย “ไม่ได้ ฉันทำไม่ได้” และคำตอบของคนตรงหน้าก็ทำให้สลิลธารต้องถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วเธอก็ไม่อาจจะนับเพราะมันมากเหลือเกิน

...ทำไมถึงได้หัวแข็งกันแบบนี้นะ...

...ทั้งริน...ทั้งคุณดล...














สลิลธารเดินลงมายังโถงชั้นล่างเพื่อเตรียมตัวกลับเข้าเมือง เช้านี้หญิงสาวยังไม่เห็นแม้แต่เงาของธนาดล สิ่งที่เห็นกลับมีเพียงแต่ผู้ชายร่างสูงที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับเขา ผู้ชายคนที่เธอไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุด...พนาดร

“กลับแล้วหรือ”

“ค่ะ”

“กลับยังไง”

“กำลังจะโทรให้หมอเขตมารับค่ะ”

“ไม่ต้อง” พนาดรบอกเสียงห้วน สลิลธารมองไปยังร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ

“เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง น้ำไม่ต้องโทร”

“ไม่เป็นไรค่ะ น้ำคงไม่รบกวนพี่ต้น” หญิงสาวปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

“แต่พี่ไม่ถือว่ามันเป็นการรบกวน” มือหนาคว้าเข้าที่ข้อมือเล็กก่อนจะออกแรงดึงเบาๆให้เดินตามโดยไม่ฟังคำปฏิเสธคำใดที่หลุดออกจากปากของสลิลธาร

...เขาฟังคำปฏิเสธของเธอมามากพอแล้ว คราวนี้...เขาจะไม่ฟังคำปฏิเสธของเธออีก...














ศรินดาเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเองหลังจากที่สลิลธารกลับไปซักพักใหญ่ หญิงสาวในชุดเสื้อเนื้อนิ่มสีเขียวอ่อนแขนยาวกับกระโปรงตัวยาวกรอมเท้าเดินออกมาจากห้อง หากร่างบางก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับใครบางคนที่กำลังเดินมาทางเธอ ขาเรียวก้าวถอยอย่างห้ามไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายก้าวเข้ามาอย่างคุกคาม ธนาดลดึงร่างนั้นให้ชิดตัว...เบาๆ

...เพราะเขา...กลัวเธอเจ็บ...ไปมากกว่านี้...

“คุณจะทำอะไร” รินถามด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น

“แล้วเธอล่ะจะทำอะไร จะหนีฉันไปไหนศรินดา” ธนาดลพยายามสุดความสามารถที่จะบังคับเสียงให้เยือกเย็นดังเดิม

...เธอจะรู้บ้างไหม...ว่าน้ำเสียงของเขา...มันไม่เยือกเย็นดังเดิม...

...ไม่เลย...สักนิดเดียว...

ศรินดามองอีกฝ่ายด้วยแววตาแข็งกร้าว “ฉันไม่ได้หนีคุณ” หญิงสาวพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“คิดได้แบบนี้ก็ดี เพราะต่อให้เธอหนีฉันยังไง เธอก็หนีฉันไม่พ้น!” น้ำเสียงของธนาดลนั้นดุดันอย่างตั้งใจ เพราะชายหนุ่มต้องการให้ศรินดาเกลียดตนเองมากกว่านี้ มากกว่าที่เธอเกลียดอยู่ตอนนี้

ช่วยเกลียดฉันให้มากกว่านี้

เกลียด...มากกว่าที่เธอเกลียดอยู่ตอนนี้

และช่วย...ทำให้ฉันเกลียดเธอด้วย...ศรินดา

ศรินดาสบตาอีกฝ่ายด้วยดวงตาที่เอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตา แว่บหนึ่งเธอเห็นว่าดวงตาคู่คมคู่นั้นมีรอยหวั่นไหว แต่พอเธอมองอีกทีร่องรอยนั้นก็หายไปราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น

...เธอคงตาฝาดไป เพราะคนอย่างธนาดล เขาไม่มีสายตาอย่างนั้นไว้มองเธอ...ไม่มี...

“ฉันไม่หนีคุณไปไหนหรอกค่ะ เพราะฉันยังไม่ได้แก้แค้นคุณให้สาสมกับที่คุณทำกับฉัน!”

“ดี...งั้นเธอก็จำไว้ เธอเป็นของฉัน ของฉันคนเดียวเท่านั้นศรินดา ต่อให้คนทั้งโลกชอบเธอ อยากได้เธอนักหนา ถ้าฉันไม่ให้ ก็อย่าหวังว่าหน้าไหนมันจะได้ไป!”

มือบางเงื้อขึ้นหวังจะตบหน้าของคนเห็นแก่ตัวให้เจ็บสักฉาด แต่พอจะฟาดลงมามือหนาใหญ่ของ
ธนาดลก็จับไว้ได้ทันท่วงที

“เมื่อวานฉันปล่อยให้เธอตบมามากพอแล้วศรินดา” ชายหนุ่มกดเสียงลงต่ำ ดึงร่างบางให้เดินตาม

“คุณจะพาฉันไปไหน” รินร้องเสียงหลง

“ไม่ได้พาเธอไปฆ่าก็แล้วกัน”

ศรินดาพยายามบิดข้อมือให้หลุดจากการจับกุม หากก็ไม่สำเร็จ ความจริงเธอก็ไม่น่าที่จะทำอย่างนี้ให้เจ็บตัวฟรี เพราะไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอก็ไม่เคยหลุดจากพันธนาการของธนาดลได้เลย

“ผมพาศรินดามาแล้วนะครับคุณพ่อ คุยกันเอาเองแล้วกัน” พูดจบชายหนุ่มก็หันหลังเดินจากไป ศรินดามองหน้าพ่อเลี้ยงอย่างไม่เข้าใจในคำพูดของธนาดลก่อนหน้านี้

“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณพ่อ” คนเป็นลูกเลี้ยงถามขึ้นมาเบาๆ

“เป็นอะไรหรือเปล่าริน ทำไมตาบวมแบบนั้น” พ่อเลี้ยงธฤตพิศดูดวงหน้าของลูกเลี้ยงสาว

“เปล่าหรอกค่ะคุณพ่อ เมื่อคืนรินดูหนังแล้วมันเศร้าน่ะค่ะ” หญิงสาวโกหกถึงแม้จะรู้ว่ามันไม่ดีก็ตา “แล้วคุณพ่อมีอะไรกับรินหรือคะ”

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก พ่อแค่จะให้รินไปออกงานกับดลคืนพรุ่งนี้เท่านั้นเอง พ่อบอกดลไปแล้วแต่ดลให้พ่อมาคุยกับรินอีกที”

ดวงตาโตสวยเบิกกว้าง อะไรกัน นี่มันอะไรกัน เธอ...ต้องไปงานกับธนาดลอย่างนั้นหรือ!?

...ไม่...เธอไม่ไป!...

“รินไม่ไปค่ะคุณพ่อ” คำตอบของศรินดาคราวนี้ไม่มีแววลังเลเหมือนคราวก่อนๆเลยแม้แต่น้อย

“ขอเหตุผลด้วยศรินดา” พ่อเลี้ยงธฤตถามเสียงเข้ม รินมองพ่อเลี้ยงอย่างหวาดๆ น้อยครั้งที่คุณพ่อจะเรียกชื่อเธอเต็มๆ ยามท่านเรียก นั่นหมายความว่า...ท่านกำลังโกรธและไม่พอใจ

“ไม่มีค่ะ” หญิงสาวตอบตามความจริง เธอไม่มีเหตุผลดีพอที่จะบอก มันก็เป็นแค่เหตุผลของเด็กดื้อคนหนึ่ง เหตุผลที่ว่าเธอไม่อยากไป ไม่อยากไปกับผู้ชายใจร้ายคนนั้น!

“งั้นพ่อก็คงต้องให้รินไป ในเมื่อรินไม่มีเหตุผลที่ดีพอ” พ่อเลี้ยงธฤตกล่าวเสียงเรียบ

รินขบริมฝีปากล่างแน่น เสียงหวานปฏิเสธอีกครั้ง “รินไม่ไปค่ะคุณพ่อ”

“แต่รินต้องไป! พ่อไม่เคยบังคับอะไรรินถ้ารินไม่เต็มใจ แต่คราวนี้พ่อจำเป็นต้องทำ เพื่อไร่ของเรา ดลไม่รู้จักใครเลย มีรินไปด้วยจะได้คอยช่วยเหลือ พ่อขอรินแค่นี้ รินทำให้พ่อไม่ได้หรือ”

ศรินดามองหน้าพ่อเลี้ยงนิ่ง คราวนี้เธอจะยอมใจอ่อนเหมือนอย่างเคยหรือปฏิเสธเสียงแข็ง จนคุณพ่อต้องหมดหวังในตัวเธอหรือ...เธอเลือกอย่างหลังไม่ได้อยู่แล้วศรินดา

“ได้ค่ะ...คุณพ่อ” ศรินดารับคำสั้นๆ เดินออกจากห้องหนังสือโดยไม่ปริปากพูดคำใดออกมาสักคำ

“ริน”

หากหญิงสาวก็ต้องชะงักเมื่อพ่อเลี้ยงเรียกไว้ “คะ?”

“รินยังไม่มีชุด พ่อจะให้ดลพาไป...”

“ไม่ต้องค่ะคุณพ่อ รินไปกับน้ำจะสะดวกกว่า” ลูกเลี้ยงสาวรีบปฏิเสธก่อนที่บิดาจะพูดจบ เธอรังเกียจ... รังเกียจที่จะไปไหนต่อไหนกับผู้ชายคนนั้น รังเกียจแม้แต่หน้าเธอก็ไม่อยากมองเห็น แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอเลือกที่จะปฏิเสธสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เลย

“รู้เรื่องแล้วใช่ไหม” ร่างบางที่กำลังเดินผ่านห้องรับแขกชะงักค้างเมื่อได้ยินเสียงที่ต่อให้อีกกี่ปีเธอก็ไม่มีวันลืม หากหญิงสาวไม่ตอบหากเดินไปโดยไม่สนใจคนที่ตั้งคำถาม

“เดินหนีทั้งๆที่ยังไม่ได้ตอบคำถาม เธอนี่มารยาทไม่ดีเลยนะศรินดา ไม่มีใครสั่งสอนหรือ” คนที่นั่งบนโซฟาเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูแคลน

“มีค่ะ แต่บางครั้งมารยาทก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้กับคนจำพวกคุณ” ศรินดาสวนกลับอย่างไม่เกรงกลัว

ธนาดลพยายามที่จะข่มใจให้นิ่ง เขาสัญญากับแม่แล้วว่าเขาจะกลับมาเป็นธนาดลคนเดิม เขาจะไม่วอกแวกให้ใครจับได้ว่าแท้ที่จริงแล้ว...ในนี้...ในหัวใจ...มันไม่เหมือนเดิม

“แล้วอย่างฉันนี่เธอจัดอยู่จำพวกไหนล่ะศรินดา พอที่จะสู้กับบรรดาพวกผู้ชายของเธอได้ไหม”

“ผู้ชายคนไหนของฉันล่ะคะ คุณบอกมาคนนึงสิ ฉันมีเยอะจนไม่รู้ว่าจะเอาคนไหนมาเทียบกับคุณดี”

ความที่ว่าจะข่มใจให้นิ่งพอกลับแกว่งเสียดื้อๆเมื่อผู้หญิงตรงหน้าจงใจยั่วโมโห มือที่คิดว่าจะเก็บให้เรียบร้อยเผลอเอื้อมไปจับท่อนแขนกลมกลึงนั่นตั่งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมยังออกแรงบีบอย่างไม่รู้ตัวเพราะตอนนี้ความโกรธกำลังเข้าครอบงำจนเขาไม่ได้คิดอะไร

“มีเยอะนักใช่ไหมศรินดา ผู้ชายของเธอน่ะ มีเยอะนักหรือ”

รินเชิดหน้า ตอนนี้เธอไม่กลัวเขา ไม่กลัว!

“เยอะสิคะ ก็ฉันมันชอบยั่วผู้ชายอย่างที่คุณบอกนี่ ฉันมันก็แค่ผู้หญิงเลวๆที่ชอบยั่วผู้ชาย ก็ต้องมีผู้ชายเยอะเป็นธรรมดา ไม่เห็นแปลกเลย”

“รวมทั้งไอ้นนท์ด้วยงั้นสิ” น้ำเสียงห้าวตวัดสูงราวกับต้องการที่จะเย้ยหยัน

“ไม่ค่ะ ฉันไม่เคยเอานนท์ไปรวมกับกับผู้ชายพวกนั้น เพราะนนท์เป็นคนพิเศษสำหรับฉันเสมอ”

คำว่า ‘นนท์เป็นคนพิเศษ’ ทำให้มือที่จับแขนของศรินดาไว้คลายออกอย่างง่ายดาย ธนาดลหันหลังให้ร่างนั้นทันทีก่อนจะเดินจากไปอย่างช้าๆ

หญิงสาวเองก็ออกจะตะลึงกึ่งแปลกใจเล็กน้อยเหมือนกะนว่าทำไมคราวนี้ธนาดลถึงปล่อยเธอไปง่ายนัก ทั้งๆที่ธรรมดาเขาน่าจะว่าเธอแรงๆให้ได้เห็นน้ำตาของเธอก่อนเขาถึงจะพอใจ แต่รินก็ปัดความคิดนั้นออกไปอย่างง่ายดาย

...ช่างเขาสิ เธอจะไปสนทำไม เขาจะคิดอะไรหรือจะทำอะไรก็เรื่องของเขา เธอคิดอย่างเดียวว่าจะต้องแก้แค้นเขาให้ได้ก็พอ...

รินหมายมั่นในใจโดยไม่รู้สึกตัวสักนิดว่า คำพูดของเธอเมื่อครู่มันก็เป็นการแก้แค้นธนาดลแล้ว แถมเป็นการแก้แค้นที่ทำให้อีกฝ่าย ‘เจ็บ’ จนเกินที่จะบรรยาย

ก้าวแต่ละก้าว ธนาดลรู้สึกว่ามันช่างหนักนัก กว่าที่เข้าจะก้าวให้พ้นจากจุดๆนั้น เสียงของใครบางคงยังคงดังก้องอยู่ในหัวให้เขาเจ็บใจเล่น

‘...นนท์เป็นคนพิเศษสำหรับฉันเสมอ’

เธอ...จะรู้ตัวบ้างไหมศรินดา ว่าคำพูดของเธอแค่นี้ มันเหมือนมีดที่เฉือดเฉือนหัวใจฉันให้บอบช้ำไม่มีชิ้นดี

หยุด! หยุดได้แล้วไอ้ดล หยุดความรู้สึกพวกนี้ได้แล้ว

จำไว้ว่าแม่ต้องตายยังไง

จำไว้ว่าเขาต้องแก้แค้นสองแม่ลูกคู่นี้

จำไว้...ว่าเขารักศรินดาไม่ได้ รักไม่ได้...












“แกชวนฉันมาเดินห้างทำไมเนี่ยริน” สลิลธารถามทันทีเมื่อตัวเองกับเพื่อนก้าวเข้าสู้ห้างสรรพสินค้าชื้อดังของจังหวัดเชียงใหม่

“มาซื้อชุด...ออกงาน”

“งานอะไร”

“งานการกุศลล่ะมั้ง คุณพ่อบอกให้ฉันไป” รินตอบอย่างไม่ใส่ใจ เพราะเธอก็ไม่อยากไปงานนี้สักเท่าไหร่

“กับใคร...พี่ต้นเหรอ”

ศรินดาส่ายหน้า "เปล่า...คุณดลต่างหาก"

“หา! คุณดลเนี่ยนะ นี่พ่อเลี้ยงแกจะบ้าไปแล้วที่ให้แกไปกับคุณดล แกยอมเข้าไปได้ยังไง” สลิลธารถามเสียงสูง ไม่เข้าใจจริงๆว่าเพื่อนเธอยอมเข้าไปได้อย่างไร ไปออกงานกับคนที่จ้องจะแก้แค้นอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้น แล้วชีวิตจะเหลือรอดกลับมาไหมล่ะนี่

“ฉันไม่มีทางเลือก” คำตอบของเพื่อนสาวทำเอาสลิลธารถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ทำไมเพื่อนเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย

“แกเอาตัวรอดได้ใช่ไหมริน” สลิลธารถามอย่างเป็นห่วง เป็นห่วงจริงๆ เป็นห่วงมากเสียด้วย

รินยิ้มกว้างให้เพื่อน “ได้สิ...ฉันเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว”

...แล้วฉันก็มีแผนแล้วด้วย ฉันจะทำในสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นชอบยัดเยียดให้ฉันเป็น!...

ศรินดาเดินเข้าไปเลือกชุดเกาะอกผ้าชีฟองสีโอลโรส ยาวกรอมเท้าอย่างไม่ลังเล จนคนที่มาด้วยซึ่งกำลังดูการเลือกชุดของเพื่อนแล้วก็อึ้งๆไปพักใหญ่ มือขาวเรียวสวยดึงแขนเพื่อนเบาๆก่อนกระซิบว่า

“เดี๋ยวๆ สีโอลโรสมันก็ช่วยขับผิวแกอยู่หรอกนะ แต่ว่า เกาะอกเลยเหรอ ฉันจำได้ว่าแกเคยบอกว่าต่อให้ตายแกก็ไม่มีวันใส่”

“ก็ฉันอยากใส่นี่ ฉันอยากให้ทุกคนมามองที่ฉันเยอะๆ...ไม่ได้เหรอ” รินตอบหน้าตายจนสลิลธารมองเพื่อนอย่างไม่เชื่อในสายตาว่าศรินดาที่ตนเองรู้จักจะพูดอะไรออกมาอย่างนี้

“แกจะบ้าเหรอ! กำลังประชดใครอยู่รึเปล่า” เมื่อเจอถามดักทางแบบนี้ ศรินดาถึงกลับอึกอักในคำพูดที่จะตอบออกมา

“ปะ..เปล่านี่ ฉันไม่ได้ประชดใคร ทำไมฉันต้องประชดใครด้วยล่ะ”

สลิลธารจ้องหน้าเพื่อน รินรีบหลบสายตาคู่นั้น

“ให้มันจริงอย่างที่พูดเถอะ”

ศรินดาเม้มปากแน่น เธอไม่ได้ประชดใคร ไม่ได้อยากให้ใครมาสนใจ ไม่ใช่...สักนิดเดียว













เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมกับที่รินเดินหิ้วถุงเสื้อผ้าพะรุงพะรังเข้าบ้าน หญิงสาววางถุงไว้ข้างลำตัวก่อนที่จะรับโทรศัพท์

“ว่าไงจ๊ะนนท์” ชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอมือถือทำให้เธอรู้ว่าคนที่โทรมาคือนนทนัฐ

“ชื่นใจจัง ได้ยินเสียงรินซักที”

“โทรมาแค่อยากได้ยินเสียงรินหรือไง” ปากบางคลี่ยิ้มน้อยๆเมื่อตอบกลับไป

“ครึ่งนึง” อีกฝ่ายตอบสั้นๆ

“แล้วอีกครึ่งนึงล่ะ” ศรินดาถามกลับอย่างใคร่รู้

“นนท์จะถามรินว่าคืนพรุ่งนี้รินจะไปงานหรือเปล่า”

“ไปสิ นนท์ไปด้วยหรือ”

“ไปครับ” เหมือนสวรรค์ทรงโปรด รินยิ้มกว้างขึ้นทันใด พร้อมกับที่ร่างของธนาดลเดินมาเห็นเข้าพอดี

“รินดีใจจังเลยที่นนท์ไป ดีใจจริงๆ”

แล้วโทรศัพท์มือถือของเธอก็หลุดออกจากมือไปเหมือนคราวก่อนหน้านั้น หากคราวนี้มันไม่มีพื้นดินนุ่มๆรองรับแต่กลับมีเพียงพื้นไม้แข็งๆจนโทรศัพท์ที่ถูกขว้างลงพื้นแตกกระจายไม่มีชิ้นดี

ศรินดามองโทรศัทท์ที่กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกับบุคคลที่เป็นคนขว้างมันกับมือสลับกัน มือบางกำแน่นก่อนที่จะเข้าไปทุบคนตัวโตที่ยืนทำหน้าบึ้งคิ้วขมวดอยู่

“คุณมันบ้า! มีสิทธิ์อะไรมาทำลายของของฉัน” ศรินดาใช้กำปั้นทุบไปที่ลำตัวของคนตัวโตซ้ำๆหากมือหนาของธนาดลรวบมือเล็กๆคู่นั้นไว้อย่างง่ายดาย

“สิทธิ์ที่เธอเป็นคนของฉันไงศรินดา สิทธิ์ที่ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้ ไม่อยากไปกับฉันถึงต้องโทรไปบอกไอ้นนท์ให้ไปเป็นเพื่อนเลยหรือไง” ธนาดลเริ่มพาลพาโล ทั้งๆที่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเข้าใจเลยสักนิด

ผู้หญิงตรงหน้าเขา...ไม่ได้อยากออกงานกับนนทนัฐ แต่ศรินดาเพียงแค่กลัว...กลัวว่าชายผู้ที่เคียงข้างเธอไปงานจะทิ้งเธอราวกับทิ้งของที่ไม่ต้องการชิ้นหนึ่งไว้ที่งานสังคม...เพียงเท่านั้น

“รู้ตัวก็ดีนี่คะ ว่าฉันไม่อยากไป...กับคุณ” หากแต่รินก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธอะไร หญิงสาวยอมรับเสียด้วยซ้ำว่าเธอโทรนัดกับนนทนัฐจริง

สิ้นเสียงหวานธนาดลก็ประทับจูบลงมาอย่างหนักหน่วงรุนแรงตามอารมณ์ที่ตัวเขาเองกำลังโกรธ ศ รินดาผลักคนที่กำลังใช้กำลังระรานเธอออกไปอย่างแรง ก่อนที่จะสะบัดฝ่ามือไปที่ใบหน้านั้นแรงๆหนึ่งที

เผียะ!

“คุณมันก็ทำได้แค่นี้ ดีแต่รังแกฉัน ดีแต่ใช้กำลังระราน ฉันเกลียดคุณ เกลียดที่สุด!” รินหยิบถุงเสื้อผ้าทั้งหมดและวิ่งขึ้นบ้านไป

ธนาดลเอามือข้างหนึ่งลูบแก้มเบาๆ แววตาที่แข็งกร้าวอ่อนลงทันใดเมื่อบุคคลที่ทิ้งรอยฝ่ามือไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว

...เจ็บครับแม่ ผม...เจ็บจริงๆ...


-----------------------------------------------------------------------------------------------

คุณดลดราม่ากันต่อไปค่าาาา ช่วยเป็นกำลังใจและหมั่นไส้ปนสงสารคุณดลกันต่อไปนะค้าาาา

ขอบคุณค่ะ! ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน คอมเมนท์แล้วก็กดไลค์นะคะ :-)

เจอกันวันพรุ่งนี้ค่ะ!!

ปล. ใครจำหมอเขตไม่ได้... หมอเขตคือลูกพี่ลูกน้องของหนูเกด (เกศหทัย) นางเอกในเรื่องสุดทางใจนะคะ :)



คุยกันเหมือนเดิมค่ะ...



คุณ roseolar : ไม่รู้จะหาอะไรมาง้างปากพี่น้องคู่นี้เหมือนกันค่ะ ปากแข็งเกิน...// ปล. เรื่องหมอเขต คิดว่าน้ำคงรู้สึกล่ะค่ะ เพราะคนเขียนเองปลื้มหมอเขตเหมือนกัน 5555

คุณ บุรีวาด : งั้นก็ช่วยตามเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่และคนเขียนคนนี้ด้วยนะคะ :)

คุณ Auuuu : น่ารัก นิสัยดี หล่อ มีฐานะ ชาติตระกูลดี เพอเฟ็คเชียวค่ะ!!

คุณ anOO : แหะๆ เศร้าไปก่อนค่ะ ซักพัก (ไม่ใหญ่นัก) หวานจะตามมาค่าาาา

คุณ เด็กหญิงม่อน : ตอนนี้อยู่ในช่วงเศร้าค่ะ แต่โหมดน่ารักก็มีน้าาาา ;)

คุณ ดาวคันชั่ง : ปอแก้วก็เลือกไม่ถูกนะคะ คนนี้ก็ดี คนนั้นก็ดี ><~ ส่วนคู่พระนาง...รอวันที่เขารักกันด้วยกันนะคะ :)

คุณ nunoi : ทุกคนยังคงต้องชอกช้ำระกำทรวงกันต่อไปค่ะ ฮืออออ...แต่ก็มีสอดแทรกความน่ารักและความแค้นของคุณดลอยู่ดีนะคะ แฮ่ๆ ;P

คุณ Amata : ถ้าอย่างนั้นมาช่วยลุ้นว่าเมื่อไหร่ความรักจะลงตัว...นะคะ ^_^

คุณ MYsister : ถึงร้ายก็รักเลยเหรอคะ ถ้าคุณดลมาได้ยินดีใจตายเลย 555 ก็เขาร้ายไว้เยอะนี่นะ กลัวจะไม่มีคนรักค่ะ *^*



ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 เม.ย. 2555, 11:40:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 เม.ย. 2555, 11:40:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 2038





<< บทที่ 14   บทที่ 16 >>
nunoi 23 เม.ย. 2555, 12:12:30 น.
วันงานหนูรินจะรอดไหม๊เนี๊ยะ เล่นใส่ชุดสวยซะขนาดนั้น คุณดลต้องหึง+โมโห แน่ๆ


teesaparn 23 เม.ย. 2555, 12:48:03 น.
เออ ปากพาซวยแต้ๆ เลยอีตาคุณดล หวานๆ หน้อยก่อบ่ะได๊ คนเฮา...
คนเปิ้นอุตส่าห์แต่งตั๋วออกจะงามจะชมเปิ้นสักนิดก่อบ่ะมี


anOO 23 เม.ย. 2555, 15:06:52 น.
เล่นเลือกชุดมายั่ว (โมโห) กันแบบนี้
ท่าทางจะอยู่ในงานได้ไม่เกินสิบนาทีแหงๆๆๆ


sunflower 23 เม.ย. 2555, 18:43:26 น.
คุณดลก็น่าสงสานอยู่น่ะ@_@


Heronett 23 เม.ย. 2555, 19:14:40 น.
คุณดลลลลล หึงเค้าก็บอกเค้าไป


ดาวคันชั่ง 23 เม.ย. 2555, 19:59:31 น.
ขนาดแค่คุยโทรศัพท์ คุณดลยังหึงขนาดนี้ ไปที่งานจะเป็นไงเนี่ยริน


MYsister 23 เม.ย. 2555, 21:31:56 น.
T_T writer & nu' rin ja tum rai kun Don pai teung nai ka.... kun Don na song-sarn mak... Mom tai,Dad mai son-jai,,,, lov mai som-wung.....


Amata 23 เม.ย. 2555, 22:40:10 น.
เจอสัมผัสรักอย่างแรง ดังเผียะ เข้าให้ เป็นไงล่ะ


เด็กหญิงม่อน 24 เม.ย. 2555, 01:30:10 น.
สงสารนายดลจัง รีบหวานๆกันเร็วน๊า


WallyValent 24 เม.ย. 2555, 08:55:01 น.
เขาไม่เต็มใจก็ปล่อยเขาไปคุณดล เราอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ 555+
ในงานเลี้ยงนี่ท่าจะมัน ฮ่าๆ


Auuuu 24 เม.ย. 2555, 22:54:42 น.
แอบสงสารคุณดลเล็กๆ :(


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account