พื้นที่ชุ่มรัก
เมื่อได้รับคำขาดจากเหล่าคุณปู่คุณตาว่าต้องการเห็นหน้าหลานเขยหลานสะใภ้ก่อนวันเริ่มศักราชใหม่ซึ่งเหลือเวลาอีกครึ่งปี บรรดาหลานๆจึงปวดหัวหนักเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตามหาหลานเขยหลานสะใภ้ที่จุดไหนของประเทศ และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าหลานคนใดคนหนึ่งทำตามความต้องการของท่านไม่ได้ ทุกคนจะต้องชดใช้ที่ทำให้คุณปู่คุณตาผิดหวังด้วยเงินและทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลที่พอจะทำให้หลานๆสุดที่รักของพวกท่านล้มละลายกันได้ทีเดียว!!

แล้วจะให้บรรดาหลานสุดที่รักทั้ง 5 คนยอมขัดใจคุณปู่คุณตาได้อย่างไร นอกจากต้องก้มหน้ารับคำสั่งอาญาสิทธิ์แต่โดยดี และคงต้องเริ่มปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง เวลาที่เหลืออยู่คงต้องงัดทุกกลยุทธทุกอย่างขึ้นมาใช้เพราะหลานๆได้ลงมติอย่าง (เกือบ) เป็นเอกฉันท์กันมาแล้วว่างานนี้...แพ้ไม่ได้!
Tags: แผนการ คุณปู่ คุณตา หลาน ความรัก พื้นที่ชุ่มรัก ผลิดอกออกรัก

ตอน: เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 27




ตอนที่ 28: แผนการของทวิดาร์



เช้าวันใหม่ที่อากาศสดใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง หากหัวใจของใครบางคนกลับขุ่นมัวราวกับมีเมฆหมอกมาปกคลุม มุกตาภาก้าวลงจากเตียงกว้าง ปกติเวลานี้เธอต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ความรับผิดชอบสำหรับหญิงสาวคือสิ่งที่ต้องมาเป็นอันดับแรก หากวันนี้...ก็จะเป็นครั้งแรกเช่นกันที่เธอจะไม่มีความรับผิดชอบ วันนี้...เธอจะเป็นเด็กเกเรที่ไม่ยอมไปทำงานโดยไม่มีการโทรไปลาให้คนเป็นเจ้านายรับทราบ

...เธอจะประท้วง ใครจะทำไม...

ดวงหน้าหวานสะบัดใส่กรอบรูปคู่ระหว่างตัวเองกับชิษวัศที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตัวเตี้ยข้างๆเตียง รู้ว่าคนตัวโตคนไม่พอใจแน่ที่เธอทำนิสัย ‘เด็ก’ อย่างนี้ นิสัยที่ครั้งหนึ่งชิษวัศเคยบอกกับเธอว่าที่เขาไม่อยากจะคบเด็กก็ด้วยเหตุผลอย่างนี้...ไม่มีเหตุผล ขี้งอนและความอดทนต่ำ

“พี่อาร์มทำให้มุกน้อยใจเองนะ ช่วยไม่ได้” ใช่ว่าเปล่าเพราะหญิงสาวยังแลบลิ้นใส่คนในรูปที่กำลังยืนยิ้มให้เธอ มุกตาภาจัดการตัดการติดต่อสื่อสารทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์บ้านหรือโทรศัพท์มือถือ วันนี้เธอจะไม่รับโทรศัพท์ของใครทั้งนั้น เผื่อคนที่ทำให้เธอเสียใจจะได้รู้ตัวบ้าง ให้เขาได้รู้สึกบ้างว่าหนึ่งวันที่ไม่มีเธอมันเป็นอย่างไร!

...เหมือนกับที่มุกเสียใจ...กับหนึ่งวันที่ไม่มีพี่อาร์ม...

หนึ่งวันของคนที่หยุดงานโดยไม่มีการบอกกล่าวนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว มุกตาภาใช้เวลาที่มีในการอบขนมเค้ก แม้ช่วงนี้จะห่างหายจากการเข้าครัวทำขนมไปนานแต่เมื่อเห็น ‘เค้กส้มในตำนาน’ สำเร็จอย่างงดงาม คนทำก็รู้สึกปลื้มใจไม่ได้

...ต้องตัดแบ่งไปให้พี่อาร์ม...

ร่างบางชะงักไปนิดหนึ่ง ทั้งๆที่บอกตัวเองอย่างแน่วแน่แล้วว่าวันนี้เธอจะไม่คิดถึงผู้ชายที่ชื่อชิษวัศ หากในส่วนลึกของหัวใจ มุกตาภารู้ดีว่าไม่เคยมีสักเสี้ยวนาทีที่เธอจะลืมพี่อาร์ม...ไม่เคยเลย เสียงถอนหายใจดังออกมาพร้อมๆกับเค้กส้มที่ถูกเก็บเข้าใส่ในตู้เย็น มุกตาภาถอดผ้ากันเปื้อนสีเขียวอ่อนลายแมวน้อยน่ารักออก แว่บหนึ่งที่เห็น...ภาพของชิษวัศเมื่อครั้งที่เคยใส่ผ้ากันเปื้อนผืนนี้ก็ฉายชัดในความทรงจำ ทั้งที่คิดว่าจะเอาคืนที่เขาทำให้เธอเสียใจ แต่ไปๆมาๆกลับเป็นเธอเสียเองที่คิดถึงอีกฝ่ายตลอดเวลา

มุกตาภาจัดการเก็บผ้ากันเปื้อนผืนนั้นไว้ที่เดิมก่อนที่ร่างบางจะหมุนตัวเดินออกจากห้องครัวเมื่อเกิดเสียงกริ่งดังขึ้นที่ด้านนอกของตัวบ้าน ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมๆกับร่างของแขกที่โผล่พ้นจนเข้ามาอยู่ในสายตา คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นอย่างสงสัยเล็กน้อยว่านิชิตามาโผล่อยู่ที่หน้าบ้านของเธอโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าเพราะเหตุผลใด

“จะมาทำไมไม่บอก แล้วนี่มาได้ยังไง เลิกงานแล้วเหรอ” คนที่ยังสงสัยรัวคำถาม

“ก่อนจะถามหมูหวาน บอกหมูหวานมาก่อนดีกว่าไหมว่าทำไมไม่ไปทำงาน” อาจารย์สาวคาดคั้นเพื่อนสาวด้วยสายตาที่มักใช้เป็นประจำยามที่ต้องจัดการเหล่านิสิตแสนเฮี้ยว

มุกตาภารีบหลบสายตาภายใต้กรอบแว่นสายตาของนิชิตาอย่างรวดเร็ว นี่ขนาดเธอเบี้ยวงานอยู่บ้านเงียบๆโดยที่ไม่ได้บอกใครเลยสักคนนะ แล้วเพื่อนเธอคนนี้รู้ได้อย่างไรว่าวันนี้เธอกลายเป็นเด็กเกเรไม่ยอมไปทำงาน

“รู้ได้ยังไง มุกไม่ได้บอกใครเลยนะ” บอกเบาๆโดยยังไม่กล้าสบตาอาจารย์สาวหน้าหมวย

“ก็ทำไมจะไม่รู้ พี่อาร์มเป็นห่วงมุกมากขนาดไหนรู้บ้างหรือเปล่า โทรมาหาหมูหวานแทบจะทุกครึ่งชั่วโมงเลยล่ะมั้งว่าติดต่อมุกได้ไหม ทั้งๆที่ตัวเองก็กำลังเจอปัญหาหนักขนาดนั้น”

คำพูดของเพื่อนสาวทำเอามุกตาภาตาโต เธอพอรู้ว่าชิษวัศนั้นห่วง แต่ไม่คิดว่าพอถูกเธอทำท่าทีห่างเหินไปเมื่อวานเขาจะยังห่วงเธอมากอย่างนี้ และที่นิชิตาบอกว่าชิษวัศกำลังมีปัญหา...เธอกลับลืมสิ่งนี้ไปเสียสนิทเพราะมัวแต่งอนแล้วน้อยใจจนลืมไปว่าที่บริษัทกำลังมีปัญหาซึ่งเธอยังไม่รู้ว่ามันคือปัญหาอะไร

“พี่อาร์มโทรหาหมูหวานหรือ” คราวนี้เป็นฝ่ายมุกตาภาที่ถามกลับเสียงเบา “แล้ว...แล้วพี่อาร์มบอกหมูหวานหรือเปล่าว่ากำลังมีปัญหาอะไร”

“อะไรนะ!” นิชิตาอุทานเสียงดังเมื่อรู้ว่าเพื่อนสาวยังไม่รู้ข่าวคราวของครอบครัวตตินรากรณ์ที่ตอนนี้กำลังดังกระฉ่อนไปทั่วเมือง!

“นี่มุกไม่รู้ข่าวของบ้านพี่อาร์มเลยหรือ ลงข่าวในหนังสือพิมพ์แถมในอินเทอร์เน็ตยังโพสรูปรูปให้ว่อนขนาดนั้น มุกไม่ได้เช็คข่าวเลยหรือไง”

มุกตาภาส่ายหน้าปฏิเสธ วันสองวันมานี้เธอแทบไม่ได้เปิดหนังสื่อพิมพ์หรือเช็คข่าวในอินเทอร์เน็ตหรือพวกสังคมออนไลน์เลย จึงไม่รู้ว่าทางครอบครัวของชิษวัศกำลังมีปัญหาใหญ่โตแถมยังเป็นปัญหาที่กระทบมาถึงบริษัทเสียด้วย คิดได้ดังนั้นหญิงสาวจึงรีบหยิบโทรศัพท์ที่ถือติดมือมาด้วยก่อนจะจัดการเปิดเครื่องและกดหาเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ในลิสต์หมายเลขที่โทรออก

“โทรหาใคร พี่อาร์มเหรอ” นิชิตาตามเมื่อเห็นมุกตาภารีบร้อนโทรศัพท์ทันทีที่พอจะรู้เรื่องราว

“เปล่า...โทรหาคุณเกม” มุกตาภาปฏิเสธ

“อ้าว...แล้วทำไมไม่โทรหาพี่อาร์ม” แต่คนเป็นอาจารย์ยังคงถามซักไซ้ต่อ

“ก็...เมื่อวานมุกพูดไม่ดีกับพี่อาร์มไว้...” เสียงหวานชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะเปิดปากบอกความจริงในใจ “..กลัว”

นิชิตาไม่พูดอะไรและไม่อธิบายเรื่องราวที่พอรู้มาจากข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์มาบ้างให้มุกตาภารู้ เพราะหญิงสาวคิดว่าปล่อยให้เพื่อนรู้จากคนในครอบครัวนั้นน่าจะดีกว่า เพราะ ‘คุณเกม’ ที่เพื่อนเธอบอก ถ้าจำไม่ผิด...น่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของชิษวัศ รู้จากปากคนในอย่างนี้คงจะละเอียดกว่ารู้ข่าวจากหนังสือพิมพ์แน่ ที่สำคัญ...ข่าวที่ได้รับรู้น่าจะมีแต่ความจริง

เจ้าของบ้านกระตุกข้อมือของเพื่อนสาวเบาๆเพื่อเรียกให้เดินตามเข้ามานั่งในสวนบริเวณบ้านระหว่างรอสายของกันตวิชญ์ และเมื่อปลายสายกรอกเสียงกลับมาหญิงสาวจึงใช้เวลาคุยกับกันตวิชญ์พักหนึ่งก่อนจะวางสาย ใบหน้าหวานแสดงออกทางสีหน้าว่าไม่ค่อยสู้ดีนักเมื่อรู้ข่าวระหว่างภูมิรพีและเรศิกานต์ แม้เธอจะไม่ค่อยรู้จักคนทั้งคู่มากนักแต่เท่าที่เคยฟังจากน้ำเสียงของชิษวัศเวลาพูดถึงภูมิรพี หญิงสาวพบว่าพี่อาร์มของเธอ...รักน้องชายคนนี้มากกว่าคนอื่นๆ ยิ่งภูมิรพีเจอเหตุการณ์อย่างนี้ด้วยแล้วถ้าไม่นับบรรดาผู้ใหญ่ในตตินรากรณ์ เธอรู้ว่าชิษวัศคงจะโกรธและเครียดมากกว่าใคร

“เป็นไง” นิชิตาถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนคุยโทรศัพท์เรียบร้อย

“แถลงข่าวเรียบร้อยแล้ว”

“แล้วพี่อาร์มเป็นไงบ้าง” มาคำถามนี้คนถูกถามเงียบไปพักหนึ่งเพราะคำพูดของกันตวิชญ์ที่บอกเธอผ่านทางสัญญาณโทรศัพท์ยังคงดังก้องอยู่ในหัว

‘พี่อาร์มดูแย่มากนะครับ’

“ไม่ค่อยดี” หญิงสาวตอบคำถามนั้นเสียงเบา รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างไรบอกไม่ถูก ทั้งยังรู้สึกผิดเต็มหัวใจที่เมื่อวานแสดงท่าทีเฉยชาอย่างนั้น

“โทรไปหาสิ พี่อาร์มน่ะ มีเรื่องอะไรกันก็คุยให้เข้าใจสิมุก จะได้ไม่ต้องมานั่งคิดเองฝ่ายเดียวอย่างนี้ แล้วถ้ามุกคิดว่าตัวเองทำอะไรให้พี่อาร์มเสียใจ มุกก็ขอโทษสิ หมูหวานมั่นใจว่าพี่อาร์มต้องให้อภัยอยู่แล้ว พี่อาร์มรักมุกมากนะ ไม่รู้หรือ”

มุกตาภามองหน้าเพื่อน ทำไมเธอจะไม่รู้...เธอต้องรู้อยู่แล้ว รู้ดีกว่าใครด้วยซ้ำว่าชิษวัศนั้นทั้งรักและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน หญิงสาวรู้ว่าถ้าเอ่ยปากขอโทษ พี่อาร์มจะต้องให้อภัย เขาจะคอยยืนอยู่ตรงที่ที่เดิม ส่งยิ้มที่อบอุ่นและอ่อนโยนมาให้เธอพร้อมกับบอกว่า...ไม่เป็นไร

“ไว้พรุ่งนี้มุกจะขอโทษพี่อาร์มเอง มุกไม่อยากโทรไปขอโทษ เพราะมุกต่อว่าพี่อาร์มตอนอยู่ต่อหน้า เพราะฉันนั้นมุกก็ต้องขอโทษพี่อาร์มต่อหน้าเหมือนกัน”

นิชิตาพยักหน้ารับรู้ เห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนสาว “แล้วพรุ่งนี้มุกต้องไปหัวหินใช่ไหม จะไปยังไง เข้าบริษัทก่อนหรือจะขับรถลงไปเองเลย” ถามเพราะความเป็นห่วงเนื่องจากมุกตาภายังไม่ชินกับการขับรถออกต่างจากจังหวัดเท่าไรนัก

“คงเข้าบริษัทก่อน ขืนขับรถไปเองพี่อาร์มได้โกรธมุกอีกเรื่องนึงแน่” หญิงสาวแอบย่นจมูก นึกภาพออกเลยว่าถ้าเธอขับรถไปหัวหินเอง ชิษวัศจะโกรธเพราะเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน

...พี่อาร์มของเธอน่ารักอย่างนี้เสมอ...

“งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วหมูหวานกลับนะ” เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มจะค่อยๆคลี่คลาย อาจารย์สาวจึงขอตัวกลับบ้างเพราะเย็นนี้เธอเองก็มีธุระเหมือนกัน

“อื้อ กลับเถอะจ้ะ เดี๋ยวแม่พี่อาร์ทจะรอ” ท้ายประโยคมุกตาภาหลิ่วตาแซวเพื่อน ใบหน้าขาวๆของอาจารย์สาวจึงแดงเรื่อขึ้นมาอย่างเขินอาย

“ร้ายนักนะ” นิชิตาหนีบก้ามปูเข้าที่แขนของมุกตาภาเบาๆก่อนจะโบกมือลาแนบคู่มากับรอยยิ้มกว้าง มุกตาภายิ้มรับรอยยิ้มนั้นของเพื่อนสาว ตอนนี้เธอเองก็มีเรื่องที่จะต้องคิดจะต้องทำเช่นกันว่าวันพรุ่งนี้...เธอจะเริ่มคุยกับชิษวัศอย่างไร ผู้ชายตัวโตคนนั้นคงกำลังโกรธและน้อยใจอยู่แน่ที่เธอแสดงท่าทีอย่างนี้ แต่ทำให้ทำอย่างไรได้ล่ะ! ในเมื่อเธอเองก็น้อยใจเขาเหมือนกัน!

...แต่เห็นว่าพี่อาร์มเจอเรื่องหนักๆมาเยอะหรอกนะ ครั้งนี้มุกถึงยอมให้ ถ้ามีครั้งหน้า...มุกจะไม่ยอมหายงอนง่ายๆแน่...












เป็นเวลาประมาณบ่ายสองโมงที่มุกตาภาเดินทางมาถึงบริษัท ร่างสูงของคนที่คุ้นตาและคุ้นเหลือเกินในหัวใจอดที่จะทำให้หญิงสาวรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้ ชิษวัศเพียงแค่มองมายังเธอ ไม่ยิ้มให้ ไม่ทักทาย เสียงทุ้มเปล่งขึ้นมาสั่งแค่ว่าให้เธอทิ้งรถไว้ที่บริษัทและไปกับเขา...เท่านั้น

ตลอดเส้นทาง...ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าระหว่างชิษวัศและมุกตาภานั้นแทบจะไม่มีการสนทนาปฏิสัมพันธ์กันเลยแม้แต่น้อย ถ้าจะมีคงมีเพียงแค่มุกตาภาฝ่ายเดียวเท่านั้นที่เริ่มพูดก่อน หากพอมีคนชวนคุยแค่อีกคนกลับไม่ยอมคุยตอบ กิริยาเหล่านั้นก็ทำให้หญิงสาวใจแป้วไปเหมือนกัน

...โกรธกันมากหรืออย่างไรคะพี่อาร์ม...

แม้จะตั้งคำถามนี้ในใจอยู่หลายต่อหลายรอบแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะถามอีกฝ่ายในตอนนี้ เพราะชิษวัศใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงกว่าก็ขับรถจนถึงหัวหิน พอมาถึงเรื่องส่วนตัวทั้งหมดจึงต้องถูกพับเก็บไปตามระเบียบ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าต้องมีเพียงแต่เรื่องงานและเธอต้องทำงานให้ดีที่สุดในฐานะผู้ช่วยของคุณชิษวัศ ตตินรากรณ์

หากเอาเข้าจริงงานที่มุกตาภาจะต้องจัดการนั้นมีไม่มากอย่างที่หญิงสาวคิดไว้เพราะทวิดาร์ซึ่งเป็นผู้ช่วยทางฝ่ายบริษัทของไบรอันนั้นจัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วแถมยังดีมากจนมุกตาภาอดที่จะคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้ช่างเก่งเสียจริง ทวิดาร์อยู่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องภูมิรพีแต่ก็ยังหาเวลามาเพื่อจัดการงานเลี้ยงเพื่อสร้างความสัมพันธ์ของทั้งสองบริษัทได้แถมยังกระฉับกระเฉิงต้อนรับและพูดคุยกับพนักงานของทั้งสองบริษัทอย่างเป็นกันเอง แบบนี้ถ้าจะเรียกว่า ‘สวยทั้งรูปจูบก็หอม’ คงไม่ผิดนัก

“ทำไมหลบมุมมานั่งอยู่คนเดียวครับ” ร่างบางสะดุ้งนิดหนึ่งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่ดังขึ้นมาด้านข้าง แก้วน้ำส้มประดับด้วยดอกกล้วยไม้สีม่วงถูกยื่นมาตรงหน้า มุกตาภาจึงเอื้อมมือไปรับพร้อมกับแย้มยิ้มนิดๆเพื่อเป็นการขอบคุณก่อนจะทอดสายตามองทะเลและพระอาทิตย์ที่ค่อยๆจมลงสู่ทะเลอันแสนกว้างใหญ่

“เป็นอะไรหรือเพิร์ล” ไบรอันถามพร้อมๆกับทรุดตัวลงนั่งข้างมุกตาภาโดยที่หญิงสาวหารู้ไม่ว่าไม่ไกลจากจุดที่เธอนั่ง สายตาอีกคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมาที่เธออย่างไม่วางตา!

“กำลังคิดว่าพี่เฟลอร์เก่งจังค่ะ จัดการทุกอย่างคนเดียวได้อย่างดีมากๆจนมุกแทบไม่ต้องทำอะไร เก่ง...จนมุกคิดว่าตัวเองแย่ไปเลย” ประโยคหลังเสียงหวานลดความดังจนแทบกลายเป็นเสียงกระซิบหากไบรอันก็ได้ยิน

“เพิร์ลไม่ได้แย่เสียหน่อย” ไบรอันพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและแววตาที่จับจ้องไปยังคนข้างๆก็มั่นคงเช่นกัน “มั่นใจในตัวเองสิครับ เพิร์ลมีดีมากกว่าที่ตัวเองคิดเสียอีก”

แววตาวิบวับกับแสงสีส้มยามพระอาทิตย์ตกดินอดที่จะสร้างรอยสั่นไหวแปลกๆในใจของมุกตาภาไม่ได้ ก็เธอไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นาที่จะไม่รู้สึกรู้สมถ้ามีผู้ชายที่ดูดีทั้งรูปสมบัติและคุณสมบัติขนาดนี้มานั่งอยู่ข้างๆแถมยังมาทำสายตาอย่างนี้ใส่อีก ทางที่ดี...เธอน่าจะขอปลีกตัวไปจากจุดนี้ให้เร็วที่สุดเพราะไม่อยากให้ชิษวัศเข้าใจผิดและมีปัญหากันไปมากกว่านี้

“มุกขอตัวก่อนนะคะ บังเอิญว่ามีเรื่องที่จะต้องทำ” มุกตาภาตัดบทก่อนจะเดินจากไปเสียดื้อๆ ขืนอยู่ตรงนั้นต่อไปเธอคงจะมั่นใจว่าสายตาอย่างนั้นของไบรอันไม่ได้คิดกับเธอเพียงแค่ ‘เพื่อน’ เป็นแน่ และเธอไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น

หัวใจดวงนี้เธอไม่คิดจะมอบมันให้กับใคร...นอกจากพี่อาร์มของเธอคนเดียว













ร่างบางระหงเดินมาเรื่อยๆจนหยุดอยู่ที่ร้านขายของที่ระลึกที่ตั้งอยู่ในโรงแรมซึ่งไกลจากชายหาดที่ใช้จัดงานไม่มากนัก มุกตาภาออกมาเดินเล่นคนเดียวโดยไม่บอกใครแม้แต่ชิษวัศ เพราะไม่อยากรบกวนคนที่กำลังพูดคุยเรื่องงานกันอย่างออกรสกับพนักงานของทั้งสองบริษัทโดยที่ข้างๆตัวของเขามีทวิดาร์เดินเคียงข้าง...ไม่ใช่เธอ

...จนได้สิมุกตาภา...เธอน้อยใจเขาอีกแล้ว...

หญิงสาวรีบปัดความคิดเหล่านั้นออกจากหัวสมองอย่างรวดเร็ว เพราะเธอตั้งใจไว้แล้วว่าวันนี้เธอจะมา ‘ขอโทษ’ และ ‘ปลอบใจ’ ไม่ได้มาตั้งแง่และขี้งอนอย่างที่เธอทำกับชิษวัศไปเมื่อวันนั้น เธอรู้ว่าตอนนี้พี่อาร์มกำลังอยากได้กำลังใจที่สุด และยิ่งรู้...ว่ากำลังใจของตัวเองมีค่ามากมายกับเขาขนาดไหน

แล้วดวงตาคู่สวยก็ต้องสะดุดกับเจ้าตุ๊กตาหมีถักโคร์เชต์คู่หนึ่ง ตัวหนึ่งสีเบจในชุดกระโปรงถักสีม่วงอ่อนมือข้างซ้ายถือช่อกุหลาบชมพูส่วนมือข้างขวาถูกเย็บติดไว้กับเจ้าตุ๊กตาหมีอีกตัวหนึ่งซึ่งใส่เสื้อสีฟ้าทับด้วยเอี๊ยมกางเกงสีแดง ดูไปก็น่ารักดี และพอยิ่งดูก็ยิ่งนึกถึงสมัยเมื่อครั้งยังเด็ก บอกใครหลายคนจะเชื่อไหมว่าชิษวัศเองก็เคยใส่เอี๊ยมสีแดงอย่างนี้และเธอก็เคยใส่ชุดกระโปรงสีม่วงอ่อนอย่างนี้เช่นกัน หญิงสาวยังจำได้ดีเพราะความทรงจำนั้นของเธอได้ถูกบันทึกเป็นภาพถ่ายที่เธอยังเก็บมาจนถึงวันนี้

...ถ้าเธอมีตุ๊กตาคู่นี้พร้อมกับคำว่า ‘ขอโทษ’ พี่อาร์มจะยอมหายโกรธหรือเปล่านะ...

คิดในใจพลางหยิบเจ้าตุ๊กตาหมีขึ้นมาพินิจหากสายตาก็ต้องชะงักงันอีกครั้งเมื่อเห็นตุ๊กตาหมีอีกคู่หนึ่งซึ่งวางอยู่ไม่ห่างกันนัก ทว่าสองตัวนั้นอยู่ในชุดที่ขาวสะอาดตา ตัวผู้ชายอยู่ในชุดทักซิโด้สีขาวส่วนตัวผู้หญิงอยู่ในชุดกระโปรงบานๆพองสีขาวเฉกเช่นกัน บริเวณศีรษะถูกประดับด้วยเวลสีขาวตวัดขึ้นไปทางด้านหลัง ภาพที่เห็นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตุ๊กตาหมีคู่นี้กำลังอยู่ในพิธีแต่งงาน...ซึ่งเธอเองก็หวังว่าจะมีวันนั้นดั่งตุ๊กตาคู่นี้เช่นกัน

“รับไปสองคู่เลยไหมคะ” พนักงานซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของร้านถามด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นลูกค้าทำท่าสนใจสนใจเจ้าตุ๊กตาหมีทั้งสองคู่อย่างมาก

“คือว่า...” ลูกค้าสาวอ้ำอึ้งมองตุ๊กตาหมีในมือสลับกับอีกคู่หนึ่งที่วางไว้บนชั้นโชว์ แม้จะรู้สึกชอบทั้งสองคู่สองแบบแต่มุกตาภาก็ยังไม่กล้าพอที่จะซื้อเจ้าสองตัวที่สวมชุดแต่งงาน

“ถ้ารับสองคู่ทางร้านลดให้ราคาพิเศษก็ได้นะคะ” เจ้าของร้านบอกอย่างใจดีซึ่งความจริงมุกตาภาก็อยากจะได้ทั้งสองคู่แต่จะให้เธอซื้อเจ้าหมีคู่บ่าวสาวคู่นั้นไปด้วยในเวลานี้หญิงสาวคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาอันสมควร

“ไว้ก่อนดีกว่าค่ะ เอาแค่คู่นี้ก่อน” มือเรียวสวยยื่นเจ้าตุ๊กตาหมีที่ได้เลือกไว้ทั้งสองตัวให้กับคนขายเพื่อคิดเงิน

“คู่นั้นรอแฟนซื้อให้หรือคะ” คนขายหลิ่วตาไปยังตุ๊กตาหมีคู่บ่าวสาว อดที่จะเอ่ยปากแซวไม่ได้ คงเพราะเห็นว่าลูกค้าสาวมีอาการลังเลว่าจะซื้อดีหรือไม่ซื้อดี

มุกตาภายิ้มรับ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธคำพูดนั้น หญิงสาวทำเพียงแค่ยื่นธนบัตรสีเทาให้กับเจ้าของร้านและเธอจากไปเมื่อได้ทั้งของและเงินทอนเท่านั้น และเพราะคิดว่าจะนำเจ้าสองตัวนี้ไปให้ชิษวัศเลย มุกตาภาจึงบอกให้ทางร้านว่าไม่ต้องห่อของขวัญ เธออยากให้เขาทันทีว่าสิ่งที่เธอยื่นให้คืออะไร และอยากให้ชิษวัศจำได้ว่าเจ้าหมีสองตัวนี้คือพี่อาร์มและหนูมุกในวันวาน

ขาเรียวสวยก้าวลงบันไดที่เชื่อมระหว่างตัวโรงแรมกับชายหาดทีละก้าวเพื่อกลับไปยังงานเลี้ยง หากจู่ๆก็มีลมแรงพัดฝุ่นขึ้นมาจนมุกตาภาต้องหลับตาปี๋โดยอัตโนมัติจนเผลอทำตุ๊กตาหมีในมือตกลงพื้นเบื้องล่างผ่านบันไดทีละขั้น...ทีละขั้นแล้วก็หยุดพอดิบพอดีตรงปลายเท้าของอีกบุคคลหนึ่งซึ่งยืนต่ำกว่าบันไดขั้นที่มุกตาภายืนอยู่สามขั้น

ทวิดาร์หยิบตุ๊กตาหมีทั้งสองตัวที่จับมือกันไว้ขึ้นมาดูก่อนจะปรายตาขึ้นมองคนที่น่าจะเป็นเจ้าของพวกมัน รอยยิ้มที่ปกติมักเป็นรอยยิ้มที่อ่อนหวานกลับกลายเป็นรอยยิ้มมาดร้าย เลือดเย็นและเจ้าแผนการ

“ของน้องมุกเหรอคะ” น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นทำให้มุกตาภารู้สึกไม่พอใจอย่างไรชอบกล มันเหมือนกับว่าคนถามรู้อยู่แล้วว่าคำตอบเป็นอย่างไร ทั้งๆที่รู้แต่ก็ยังจะถาม

“ขอคืนด้วยค่ะพี่เฟลอร์” มุกตาภาก้าวเดินลงมาจากบันไดและหยุดบนขั้นที่สูงกว่าทวิดาร์หนึ่งขั้น

“ซื้อให้ใครคะ อาร์มเหรอ?” ทวิดาร์ขยับเจ้าตุ๊กตาหมีทั้งสองตัวนิดหนึ่ง

“เรื่องส่วนตัวค่ะ” มุกตาภาบอกเสียงเรียบ พยายามที่จะระงับอารมณ์โกรธที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆให้ลดต่ำลงหากสายตายังคงจับจ้องที่ดวงหน้าของทวิดาร์ไม่วางตา

“ขอของของมุกคืนด้วยค่ะพี่เฟลอร์” เสียงหวานยังคงย้ำคำเดิม

“อืม...” ทวิดาร์ลากเสียงในลำคอเสียงยาว “ถ้าพี่คืนเจ้าตุ๊กตาสองตัวนี้ให้ แล้วหนูมุกจะคืนอาร์มให้พี่เป็นการตอบแทนหรือเปล่าล่ะคะ”

มุกตาภาแทบจะหาเสียงของตัวเองไม่เจอไปพักใหญ่ ลมหายใจกระตุกขึ้นมาแปลกๆเมื่อได้ยินความจริงจากปากของผู้หญิงตรงหน้า ได้ฟังกับหูเพื่อตอกย้ำความมั่นใจว่าสิ่งที่เธอคิดมาตลอดนั้นคือความจริง!

ทวิดาร์อยากได้ชิษวัศกลับคืน!!

“คุณคิดแบบนี้จริงๆด้วย” จากสรรพนามที่เคยเรียกแทนทวิดาร์ว่า ‘พี่เฟลอร์’ กลับแปรเปลี่ยนเป็น ‘คุณ’ อย่างเฉยชาและห่างเหิน

“แล้วเธอคิดว่าฉันเข้าใกล้อาร์มเพราะแค่ว่าอยากเป็นเพื่อนที่ดีเท่านั้นเหรอ หึ! คิดง่ายไปล่ะมั้ง” เช่นเดียวกัน...ทวิดาร์เปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองว่า ‘พี่’ เป็น ‘ฉัน’ และเรียกแทนอีกหนึ่งสาวว่า... ‘เธอ’

“แต่พี่อาร์มไม่มีวันกลับไปหาคุณ” มุกตาภาเชิดหน้าท้าทาย ถ้าอีกฝ่ายตั้งใจจะชนกันต่อหน้าอย่างนี้ก็ไม่มีอะไรที่เธอจะต้องกลัวอีกต่อไป!

“มั่นใจจริงนะ” น้ำเสียงนั้นเย้ยหยันอย่างชัดเจน “อะไรที่ทำให้เธอมั่นใจว่าอาร์มจะเลือกเธอแล้วไม่กลับมาเลือกฉัน ความผูกพันตั้งแต่เด็กงั้นเหรอ ความทรงจำที่อาร์มเคยลืม ถ้าคนอย่างฉันคิดจะลบมันออกไปหมด เธอคิดว่าฉันจะทำไม่ได้งั้นหรือ”

“ใช่ค่ะ...ทำไม่ได้” มุกตาภาเน้นย้ำคำตอบของตัวเองทุกคนหากคู่สนทนากลับรักษาอาการได้ดี ทวิดาร์ไม่แสดงความไม่พอใจออดมาให้เห็น กลับกัน...ภายใต้ใบหน้าสวยหวาน หญิงสาวยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉยเว้นเสียแต่ริมฝีปากที่เหยียดยิ้มบางๆ มุกตาภาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะพูดต่อ

“ฉันเชื่อว่าพี่อาร์มจะไม่มีวันกลับไปหาผู้หญิงที่เป็นอดีตสำหรับเขา ที่สำคัญ...คนอย่างพี่อาร์มไม่มีวันที่จะกลับไปหาคนที่เคยหันหลังเดินจากไป...อย่างคุณ”

“เอ...จะเป็นอย่างนั้นจริงไหมนะ เธออยากลองดูหน่อยมั้ยล่ะ” คำพูดแปลกๆของทวิดาร์สร้างความสงสัยให้กับมุกตาภาไม่น้อย ไม่เข้าใจว่าทวิดาร์ต้องการจะสื่อสารอะไรกับเธอ และผู้หญิงคนนี้กำลังมีแผนการอะไร

“ต้องการอะไร คิดจะทำอะไร” เสียงที่ถามออกไปนั้นติดไปทางสั่นนิดๆแม้เจ้าตัวจะพยายามพูดให้เป็นปกติที่สุดก็ตาม

ทวิดาร์ไม่ตอบอะไร หญิงสาวทำเพียงแค่ชูตุ๊กตาหมีที่ถือไว้ขึ้นสุดแขน ดวงตาเรียวสวยปรายตามองมายังมุกตาภานิดหนึ่ง ริมฝีปากบางที่เคลือบลิสกรอสสีชมพูหวานเหยียดยิ้มร้าย มุกตาภารู้ทันทีว่าคนตรงหน้าต้องการจะทำอะไร ร่างบางจึงรีบกระโดดจับข้อมือของทวิดาร์ทันทีก่อนที่ผู้หญิงคนนี้จะเขวี้ยงตุ๊กตาของเธอออกจากมือ

“เอาของฉันคืนมา เอาคืนมา!”

การยื้อยุดชุดกระชากจึงเริ่มขึ้นเมื่อทั้งเจ้าของและคนที่ไม่ใช่เจ้าของกลับไม่ยอมปล่อยมือออกจากตุ๊กตาหมีทั้งคู่ แต่ดูจากสถานการณ์ทวิดาร์นั้นเหมือนจะมีภาษีมากกว่าทางด้านสรีระของร่างกายที่ทั้งสูงและเพรียวกว่ามุกตาภา แถมสาวเจ้ายังพยายามใช้เล็บยาวๆที่เคลือบไว้ด้วยสีแดงสดจิกข่วนให้อีกฝ่ายได้แผล

หากพอยื้อกันไปสักพักฝ่ายที่ได้เปรียบอย่างทวิดาร์กลับยอมอ่อนข้อและจงใจทำให้ตนเองตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ รอยยิ้มหยันปรากฏขึ้นบนดวงหน้าสวยอีกครั้ง อีกมือที่ไม่ได้ถือตุ๊กตาหมียกขึ้นสูงก่อนจะฟาดลงบนแก้มนวลของตัวเองเต็มแรงจนเลือดไหลซิบข้างมุมปาก!

มุกตาภามองภาพนั้นอย่างตะลึงงัน ไม่คิดว่าทวิดาร์จะเล่นบททำร้ายตัวเองอย่างนี้!

“น้องมุกจะทำอะไรคะ พี่แค่ช่วยเก็บ ทำไมจะต้องโมโหขนาดนี้ด้วย” นักแสดงมือหนึ่งยังคงแสดงต่อ ทวิดาร์บีบเสียงน่าสงสาร มุกตาภามองคนตรงหน้าอย่างสมเพช

“คิดจะทำอะไร ทำร้ายตัวเองแล้วกลับไปออดอ้อนพี่อาร์มหรือ เธอนี่มันมารยาห้าร้อยเล่มเกวียนจริงๆ...” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นก็แฝงไปด้วยความสมเพชไม่ต่างกันก่อนจะยื้อยุดตุ๊กตาหมีหวังจะเอาคืนพร้อมกับกดเสียงต่ำ “...เอาคืนมา!!”

“โอ๊ย! น้องมุก พี่เจ็บนะคะ” ทวิดาร์แกล้งเซถลาคล้ายจะล้มก่อนจะกระซิบที่ข้างหูของมุกตาภาเบาๆ “เกมนี้...ฉันชนะ”

มุกตาภาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจว่าทวิดาร์ชนะได้อย่างไร หากต่อมาไม่ถึงเสี้ยววินาทีหญิงสาวก็รับรู้ในสิ่งที่ทวิดาร์ต้องการจะบอกทันทีเมื่อร่างเพรียวระหงปล่อยมือทั้งสองข้างที่จับข้อมือและตุ๊กตาหมีของเธอไว้พร้อมๆกับทิ้งตัวตกบันไดที่มีความสูงประมาณห้าขั้น! เลือดสีแดงฉานค่อยๆไหลรินจากบริเวณข้างขมับเรื่อยมาถึงข้างแก้ม ร่างบางร่างนั้นสลบเหมือดไม่ได้สติ!!

คู่กรณีอย่างมุกตาภามองภาพนั้นอย่างตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าทวิดาร์จะใช้ไม้นี้ เธอไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะยอมเจ็บตัวเพื่อทำให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการ เธอคิดไม่ถึงจริงๆ! และยิ่งไปกว่านั้นกลับมีบุคคลที่หญิงสาวไม่คิดว่าจะเจอ ณ ตรงนี้ ร่างสูงของชิษวัศและไบรอันนั้นยืนอยู่ที่ปลายสุดของบันได ดูจากสีหน้าของชิษวัศ มุกตาภามั่นใจว่าเขาได้ยินเหตุการณ์ที่ทวิดาร์พยายามสร้างสถานการณ์ขึ้นมาทั้งหมดเริ่มตั้งแต่ตอนที่ทวิดาร์ตบหน้าตัวเองและทิ้งตัวตกบันไดไปเอง หากสิ่งที่ชิษวัศเข้าใจคงไม่พ้นว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เธอเป็นคนทำ!

เธอเป็นคนทำร้ายและผลักทวิดาร์ตกบันได!



-----------------------------------------------------------------------------------------------------

จุดเปลี่ยนมาแล้วววววว และพี่อาร์มก็ดันมาเห็นอย่างพอเหมาะพอเจาะเสียด้วย
เรื่องนี้ใกล้จบแล้วนะคะ บางอย่างกำลังจะถูกเฉลยออกมาค่ะ



คุยกันเหมือนอย่างเคย...



คุณ roseolar : ใช่เลยค่ะ...เพราะถูกสอนมาว่าให้เชื่อในสิ่งที่ตาตัวเองเห็นพี่อาร์มถึงเป็นอย่างนี้ (พี่อาร์มเธอใช้ข้อนี้ย้อนคุณปู่ด้วยนะคะ แต่เป็นตอนไหนนั้นต้องติดตามน้า ใกล้แล้วค่ะ) พอเกิดเหตุการณ์อย่างนี้คนที่โชคร้ายก็คือหนูมุกเลยล่ะค่ะ (และแน่นอนว่า...ตอนหน้าหมูหวานจะมาช่วยยยย ><)

คุณ nunoi : อยากจะเชื่อแต่สิ่งที่เห็นมันค้านกัน คนเถรตรงอย่างพี่อาร์มก็สับสนไปเหมือนกันค่ะ

คุณ tutas : ไม่เชียร์พี่อาร์มหน่อยเหรอคะ งานนี้ปอแก้วว่าพี่อาร์มก็น่าสงสารนะคะ(แต่หนูมุกก็ยังน่าสงสารกว่าอยู่ดี) // ปล. อ่านตอนหน้าไม่รู้ว่าคุณ tutas จะยังเชียร์พี่อาร์ทอยู่รึเปล่าน้าาา???

คุณ anOO : พี่อาร์มเหมือนว่าจะเข้าใจแต่บางทีก็เหมือนว่าจะไม่เข้าใจอ่ะค่ะ คิดนู่นนี่นั่นเยอะแยะไปหมด

คุณ ดาวคันชั่ง : ถ้าอย่างนั้นตอนหน้าคุณดาวคันชั่งต้องหงุดหงิดพี่อาร์ม...มากกกกกแน่เลยค่ะ T^T

คุณ violette: ตอนหน้าหมูหวานมาช่วยแล้วค่าาาา พี่อาร์มน่ะเอาแต่ความคิดตัวเองไม่คิดถึงใจหนูมุกบ้างเลยยยย

คุณ หมูบูลิน : เป็นพระเอกที่ปอแก้วเขียนเองยังขัดใจเลยค่ะ +_+!



ปอแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 พ.ค. 2555, 17:09:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 พ.ค. 2555, 17:30:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 1955





<< เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 26   เขตพื้นที่ที่ 1 : ผลิดอก...ออกรัก : ตอนที่ 28 >>
ปอแก้ว 5 พ.ค. 2555, 17:12:43 น.
มีข่าวมาบอกค่าาา...เรื่องคุณดล...ปอแก้วขอติดไว้ก่อนนะคะ ยังแก้ตอนต่อไปไม่เสร็จอ่ะค่ะ
วันนี้ต้องไปทำธุระแบบด่วนๆ เลยยังแก้ไม่เสร็จเลย แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอามาต่อให้ค่ะ :)


anOO 5 พ.ค. 2555, 18:39:32 น.
ถ้างานนี้พี่อาร์มซื่อบื้อนะ หนูมุกทิ้งพี่อาร์มไปเลย
ยัยเฟลอร์ร้ายจริงๆ


Kazalong 5 พ.ค. 2555, 21:23:09 น.
โหยใจร้ายมาก อย่าไปหลงกลนะคุณอาร์ม


violette 5 พ.ค. 2555, 21:46:52 น.
ร้ายจริงๆยัยเฟลอร์ ถ้านายอาร์มเชื่อยัยเฟลออีกนี่ยกมุกให้ไบรอันเลยค่ะ น่ารำคาญมาก
หวังว่าหมูหวานมากช่วยอย่างที่คุณปอแก้วบอกนี่คงมีคลิปฟรืออะไรดีๆเก็บไว้นะคะ
ไม่งั้นละก็คงต้องหาพยานช่วยล่ะยัยนี้ร้ายจริงๆ


nunoi 5 พ.ค. 2555, 22:18:49 น.
มารร้ายจริงๆ ยัยเฟลอร์ พี่อาร์มจะหลงกลอีกหรือเปล่านะ


หมูบูลิน 5 พ.ค. 2555, 22:54:25 น.
ยัยเฟลอร์ร้ายมากกกกก พระเองถ้ายังจะเชื่อยัยนี้นะ หน้าเอาไปยิงทิ้งซะนี้ แค้นๆๆแทนหนูมุก


ดาวคันชั่ง 6 พ.ค. 2555, 13:40:41 น.
ในที่สุดเห็นธาตุแท้จนได้นะเฟลอร์ เมื่อไหร่พี่อาร์มจะตาสว่างซะทีเนี่ย สงสารหนูมุก


roseolar 6 พ.ค. 2555, 19:04:51 น.
โอ๊ยยย!!!พี่อาร์มอย่าโง่นะ ถ้าโง่จะยุให้หนูมุกรับรักไบรอันไปเลย ชิ~
นี่ถ้าเป็นพี่อาร์ทคงเชื่อใจคนที่ตัวเองรัก แต่พี่อาร์มนี่..คนอ่านไม่มั่นใจเลยจริงจริ๊ง
แต่ไม่แน่นา อาจมี surprise พี่อาร์มเดินมาโอบหนูมุกแล้วบอกว่า "พี่เชื่อมุกเสมอ" ชวิ้งงง


lookAme 9 พ.ค. 2555, 12:18:07 น.
โอ๊ยยยย ถ้าพี่อาร์มจะเชื่อว่าหนูมุกทำก็ไม่ต้องอยู่แล้วค่ะ


mookisme 16 พ.ค. 2555, 17:15:55 น.
เข้ามาเจิมอีกละลอกก หลังจากหายไปนานนน..
ทำไม๊ ทำไม มีแต่อุปสรรคเน้อออ ฮ่าๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account