เหนือความทรงจำ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หัวใจของเขายังมีเธอเพียงคนเดียว แม้ความทรงจำของเธอจะไม่เคยมีเขาอยู่เลย แต่หัวใจของเขาจะมั่นคงเพียงเธอตลอดไป
Tags: โรแมนติก รัก เศร้าซึ้ง

ตอน: ตอนที่ 16

วันนั้นคำว่า ‘บ้านของเรา’ แพรธาราได้ยินชัด แต่ไม่อาจแปลความหมายได้เพราะหัวใจยังมีความคลางแคลงหลายอย่าง แต่อย่างหนึ่งที่เธอจดจำได้ขึ้นใจว่าคนที่รู้จักบ้านหลังนี้คือพี่หนุ่ม

“คุณแพรเรียกพี่หรือครับ”

“ค่ะ แพร...” แพรธาราเงียบไปเล็กน้อยคล้ายจะทบทวนการตัดสินใจของตัวเอง “แพรอยากออกไปข้างนอกค่ะ แต่แพรไม่คุ้นทางเลยอยากให้พี่หนุ่มขับรถให้ค่ะ”

“จะไปซื้อของหรือครับ”

“ไม่เชิงค่ะ คือแพรจะไปหลายที่ก็เลยอยากได้ตัวช่วยค่ะ”

พี่หนุ่มคลี่ยิ้มซื่อ ๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ

“ได้ครับคุณแพร เดี๋ยวพี่ไปเตรียมรถเลยน่ะครับ”

“ค่ะ”

แพรธารารับคำอย่างโล่งใจที่พี่หนุ่มไม่ซักถามมากมาย ตั้งใจว่าขึ้นรถแล้วถึงจะบอกสถานที่ที่ต้องการจะไป

“ตกลงคุณแพรอยากไปห้างไหนครับ...ห้างในตัวเมืองหรือเปล่าครับ”

“แพรอยากไปสุขุมวิทค่ะ”

“คุณแพรจะไปซื้อเสื้อผ้าหรือครับ เห็นว่าแถวนั้นมีห้างเพิ่งเปิดใหม่น่าสนใจอยู่นะครับ”

“เปล่าค่ะ” แพรธาราปฏิเสธ “แพรไม่ได้จะไปห้าง แพรจะไปที่บ้าน...บ้านพี่มาร์คที่สุขุวิท บ้านที่ตาหนูชินเคยอยู่”

พี่หนุ่มตกใจจนเผลอเหยียบเบรคสนั่นพร้อมเสียงแตรรถคันหลังดังลั่นพอกัน กว่าจะตั้งสติได้ก็เกือบนาที

“ขอ...ขอโทษครับคุณแพร ไม่เป็นไรนะครับ”

“แพรเตรียมตัวมาดีค่ะ รู้ว่าจะต้องเจอสถานการณ์อะไร”

“ครับ...”

“พี่หนุ่มไม่ได้หูฝาด...ไม่ได้ฝัน แพรขอย้ำชัด ๆ ว่าแพรอยากไปบ้านพี่มาร์คที่สุขุมวิท...บ้านที่ตาหนูชินเคยอยู่”

“คุณ...คุณแพรทราบ”

แพรธาราส่ายหน้าน้อย ๆ เมื่อเห็นสีหน้าอึ้งปนช็อคของคนขับรถคนสนิทที่ตอนนี้คงเครียดจัดจนต้องรีบขับรถเข้าจอดข้างทาง

“ถ้าหมายถึงทุกเรื่องทุกอย่าง แพรไม่ทราบหรอกค่ะ...แพรไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบ้านนั้นอยู่ตรงไหนของสุขุมวิท แต่แพรรู้ว่าพี่หนุ่มทราบ”

“พี่...พี่ไม่...”

“แพรรู้ว่าพี่หนุ่มกลัวคุณปู่ แพรถึงรอให้เราขับรถออกมาก่อนถึงค่อยบอก” แพรธารากล่าวอย่างเดาใจอีกฝ่ายได้ “แพรอยากให้พี่หนุ่มสงสารแพร และก็ช่วยแพรค่ะ”

“คุณแพร...พี่....”

“นะคะ ช่วยแพรด้วย” แพรธาราวิงวอน “อย่าให้แพรต้องอยู่กับความสงสัยไปชั่วชีวิตเลยนะคะ บ้านหลังนั้นแพรไม่รู้ว่าสำคัญแค่ไหน แต่ถ้าตาหนูเคยอยู่แพรก็อยากเห็นค่ะ”

หนุ่มสบตากับคุณหนูคนสวยผ่านกระจกมองหลัง กลัวคุณสิทธิพงศ์ก็กลัวแต่ก็แพ้สายตาอ้อนวอนของคุณหนูที่รู้จักมาตั้งแต่เด็ก ๆ สุดท้ายจึงยอมเคลื่อนรถสู่เส้นทางไปสุขุมวิท

“ขอบคุณค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ แต่...” หนุ่มลังเลชั่วอึดใจ “บ้านหลังนั้นไม่ใช่แค่ที่อยู่ของคุณหนูชินหรอกครับ มันเป็นเรือนหอคุณพ่อคุณแม่ของคุณหนูชินด้วยครับ”

แพรธารายกมือปิดปากตัวเองด้วยความตกใจ สมองแปลความได้ทันที คำว่า “บ้านของเรา” ไม่ได้มีความหมายใดเลย นอกจาก “เรือนหอ” บ้านพักที่อบอุ่นของครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวนั้น



รถยนต์ยุโรปคันใหญ่จอดเทียบหน้าคฤหาสน์ราคาแพงในหมู่บ้านเศรษฐีหรูย่านสุขุมวิท แพรธาราเหลียวมองคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มหาสมุทรบอกว่า “บ้านของเรา” อย่างพยายามจะทวนความทรงจำ และเช่นเคยไม่มีภาพใดผุดขึ้นมาในสมอง

“บ้านสวยจังนะคะ... สนามหน้าบ้านกว้างจัง”

“คุณมาร์คดูแลอย่างดีครับ พี่เคยเจอกับแม่บ้านของที่นี่...เธอบอกว่าคุณมาร์คกลับมาพักที่นี่ทุกอาทิตย์ครับ”

แพรธาราไม่ได้สนใจคำพูดของหนุ่มเท่าไหร่ นอกจากสนใจว่าบ้านหลังนี้เคยอบอุ่นแค่ไหน จึงเผลอเปิดประตูรถลงไปหยุดยืนหน้าบ้านอย่างพยายามจะเก็บทุกรายละเอียด

“แพร...”

มหาสมุทรร้องเรียกด้วยความดีใจปนแปลกใจ เมื่อเห็นสาวสวยหยุดยืนหน้าประตูรั้วอัลลอยด์สีน้ำเงินเข้ม ชายหนุ่มรีบกดรีโมทเปิดประตูรั้วพลางสาวเท้าไปหาอย่างรวดเร็ว

“พี่มาร์ค...”

แพรธาราผละถอยห่างเมื่อประตูรั้วเลื่อนเปิดอัตโนมัติ งุนงงชั่วครู่ก็เห็นร่างสูงมาหยุดยืนตรงหน้าแล้ว

“ไม่คิดว่าแพรจะมา เข้าไปในบ้านก่อนไหมครับ”

“เอ่อ...”

สีหน้าดอกเตอร์สาวฉายชัดว่าลังเล จนมหาสมุทรแทบจะกลั้นหายใจรอคำตอบ

“ก็ได้ค่ะ แต่แพรมีเวลาไม่มาก...ตั้งใจแค่จะผ่านมาดูเฉย ๆ”

“ครับ พี่เข้าใจ”

มหาสมุทรตอบรับ อย่างน้อยก็ดีใจที่ได้มีโอกาสพาหญิงสาวในดวงใจกลับมาที่บ้านหลังนี้อีกครั้ง บ้านที่เขาเชื่อหมดหัวใจว่าเต็มไปด้วยความรักระหว่างเขาและเธอ

“พี่...พี่จะพาเดินชมบ้านดีไหม”

มหาสมุทรทำลายความเงียบ หลังพาแพรธาราเข้ามานั่งพักดื่มน้ำที่ห้องนั่งเล่น

“คะ...”

“ห้องนี้ตาหนูเคยนั่งเล่นของเล่นตอนเย็น ๆ เวลาพี่กลับมาแกจะร้องลั่นตบมือดีใจที่จะได้เล่นกับคุณพ่อ”

“เดินชมบ้านก็ดีค่ะ” แพรธารายิ้ม “ช่วยเล่าเรื่องของตาหนูให้มากกว่านี้ได้ไหมคะ”

“ไปดูห้องตาหนูไหม”

สาวสวยพยักหน้าอย่างยินดี ตื่นเต้นที่จะได้เห็นห้องนอนของลูกชาย ระหว่างเดินนำเจ้าของบ้านหนุ่มก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี เขาอธิบายรายละเอียดแต่ละห้องอย่างเต็มใจตั้งแต่ห้องอาหาร ห้องครัว ห้องหนังสือ จนขึ้นมาที่ชั้นสองห้องนอนของชินภัทร

“ห้องตาหนูเป็นสีฟ้า...ห้องลูกชายนี่นะ” มหาสมุทรเล่า “แต่ทุกอย่างในห้องนี้แทบจะไม่มีชิ้นไหนที่พวกเราซื้อเลย...มีแต่โมบายอันใหญ่ที่ห้อยเหนือเตียงนี่ล่ะที่เรามีสิทธิ์ซื้อ”

“คะ...”

“ตาหนูเป็นทั้งหลานรักเหลนรัก” อดีตแพทย์หนุ่มเฉลย “ทั้งเตียงทั้งผ้าอ้อม ขวดนม ของใช้สำหรับเด็กทุกอย่าง พวกญาติรุมซื้อมาให้จนใช้แทบไม่ทัน”

มหาสมุทรเดินไปหยิบตุ๊กตาทหารแบกปืนและรถแข่งคันเล็กมายื่นให้แพรธารา

“ดูสิ...ตาหนูยังไม่ถึงห้าเดือน แต่พวกญาติก็ซื้อของเล่นสำหรับเด็กรู้ความให้แล้ว...เขาเห่อตาหนูกันจนแพรต้องออกปากห้ามนั่นล่ะ พวกเขาถึงหยุดซื้อ”

“แกคงน่ารักและมีความสุขมาก”

“ตาหนูเป็นเด็กอารมณ์ดี ญาติ ๆ ก็มั่นมาเล่นด้วยทำให้แกหัวเราะ...ไม่ดื้อไม่งอแง”

แพรธาราเดินไปลูบจับเตียงนอนเล็ก ๆ ของชินภัทร และตุ๊กตาหมีพูห์ตัวเล็กอย่างเผลอ ๆ แต่ก็สะดุดใจเล็กน้อยที่ทุกอย่างดูสะอาดไม่มีฝุ่นสักนิด

“เดินหมดทุกห้องแล้ว ไปเดินเล่นในสวนไหมครับ” มหาสมุทรชวนเมื่อเห็นสาวสวยเงียบไป “แพรชอบพาตาหนูไปนั่งรับลมตอนเย็น ๆ ที่ศาลากลางสวนหลังทานข้าวเสร็จนะจ๊ะ”

“ไปสิคะ”

แพรธารายิ้มให้ สาวเท้าเดินตามเจ้าของบ้านหนุ่ม แต่ไม่วายเหลียวกลับมามองห้องนอนสีฟ้าครามอีกครั้งอย่างจะประทับให้อยู่ในใจ

“ลมเย็นดีจังนะคะ มองจากข้างนอกเห็นสนามกว้างดี แต่พอได้มานั่งเล่นด้วยก็รู้สึกว่ามันร่มรื่นมากเลยนะคะ”

“ก่อนย้ายเข้ามาอยู่ คุณพ่อคุณแม่จ้างคนมาแต่งสวนครับ...ท่านอยากให้บ้านนี้อยู่แล้วเย็นสบาย ทุกคนในครอบครัวจะได้มีความสุขน่ะครับ”

แพรธารานึกสงสารเมื่อเห็นรอยยิ้มและแววตาเศร้าของหนุ่มตรงหน้า ไม่รู้จะปลอบเขาอย่างไรดีเพราะตัวเองจำเรื่องราวที่เขาเล่าไม่ได้สักเรื่อง สุดท้ายจึงได้แต่นิ่งเงียบปล่อยให้เวลาค่อย ๆ หมุนไปพร้อมกับสายลม

“หิวไหมครับ...เย็นมากแล้วนี่”

มหาสมุทรเอ่ยถามเมื่อเริ่มรู้สึกตัว

“แพรควรจะรีบกลับ”

“กลับเวลานี้...รถจะติดมาก ทานรองท้องหน่อยก็ยังดีนะครับจะได้ไม่หิว”

แพรธาราเหลือบมองนาฬิกาข้อมืออย่างกังวล แต่พอสบกับสายตาของหนุ่มตรงหน้าก็ใจอ่อนเมื่อพบแต่ความห่วงใยและจริงใจ

“ก็ได้ค่ะ”

“งั้นแพรนั่งคอยตรงนี้สักครู่ เดี๋ยวพี่จะโชว์ฝีมือทำกับข้าวสูตรเด็ดให้ชิม”

“แพรขอไปช่วยด้วยดีกว่าค่ะ จะได้เสร็จเร็ว ๆ”

มหาสมุทรไม่ขัดข้อง ชายหนุ่มเดินนำพาแขกสาวสวยไปที่ห้องครัวอย่างเต็มใจที่สุด ตั้งใจจะเก็บช่วงเวลาดี ๆ ที่ได้ทำอาหารร่วมกับแพรธาราไว้ในใจเพื่อต่อเติมความสุขให้กับชีวิตอีกครั้ง

“เมื่อก่อนแพรก็มาช่วยพี่ทำกับข้าวแบบนี้”

อดีตแพทย์หนุ่มเผลอเล่าอย่างมีความสุข เมื่อเห็นสาวสวยบรรจงจัดผักสลัดใส่จาน

“เขาว่าผู้หญิงต้องมีเสน่ห์ปลายจวัก แต่พี่ว่าเสน่ห์นี้ต้องยกให้พี่มากกว่า...รสมือของแพรสู้พี่ไม่ได้”

“ขี้โม้”

แพรธาราเผลอย่นจมูกใส่คนเข้าข้างตัวเอง กิริยานั้นยิ่งทำให้มหาสมุทรปล่อยใจตัวเองกลับไปสู่อดีตที่ไม่อาจลบเลือน

“โม้เหรอ...ลองชิมน้ำซอสนี่ดูก่อน พี่เพิ่งทำเมื่อวานเอง”

หนุ่มหล่อตักซอสเทอริยากิให้สาวตรงหน้าลิ้มลอง แพรธาราชะงักเล็กน้อยแต่ก็ยอมชิม

“อร่อยจังค่ะ ไม่หวานไม่เค็มเกิน”

“บอกแล้วว่าพี่มีฝีมือ” มหาสมุทรอวด “เมื่อก่อนทุกเดือนพี่จะทำไก่ย่างเทอริยากิให้แพรประจำ แพรบอกว่าหอมและกลมกล่อม แต่จริง ๆ ของชอบของแพรคือสลัดแอปเปิ้ลหรือไม่ก็ซีซาร์สลัดไก่ย่าง เสียดายวันนี้ไม่มีแอปเปิ้ลนะ...ไม่งั้นพี่จะทำสลัดน้ำใสใส่แอปเปิ้ลให้ทาน”

ดอกเตอร์สาวมองหนุ่มตรงหน้าอย่างอึ้ง ๆ เขารู้จักเธอ...เข้าใจเธอ เข้าใจมาก...มากกว่าสุทัศน์หรือแม้แต่เพื่อนสาวคนสนิทของเธอ

“วันหลังเราไปที่สวนสาธารณะข้างในหมู่บ้านกันไหม ตาหนูชอบไปที่นั่น”

ไม่มีคำตอบจากสาวตรงหน้า จนมหาสมุทรเริ่มเอ๊ะใจยิ่งหันมาเห็นสาวสวยยืนมองชามผักสลัดนิ่งก็นึกเศร้าใจ เข้าใจว่าสาวสวยรำคาญ

“แพร...แพรจ๊ะ เป็นอะไรหรือเปล่า”

“คะ...”

“หึ...” มหาสมุทรหัวเราะเบา ๆ “สงสัยพี่ชวนแพรคุยมากไปจนแพรเบื่อแล้วสิ แต่อาหารเสร็จพอดีนะ เดี๋ยวดูสิว่าฝีมือพี่จะพอแก้ตัวที่พี่พูดมากได้ไหม”

แพรธาราหัวเราะเบา ๆ เมื่อคนขี้อวดเริ่มถ่อมตัว ก่อนจะช่วยเขาจัดเตรียมโต๊ะอาหารและร่วมกันรับประทานอาหารด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย

“เป็นยังไงบ้าง...อาหารฝีมือพี่”

“หักคะแนนขี้อวดลงสักสองคะแนนก็พอใช้ค่ะ”

สองหนุ่มสาวหัวเราะพร้อมกันอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะช่วยกันเก็บโต๊ะอาหาร

“อุ๊ย...เลอะหมดเลย”

สาวสวยอุทาน หลังเผลอปัดถ้วยน้ำซอสเทอริยากิหกใส่เสื้อตัวเอง

“ไปล้างตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่าครับ”

มหาสมุทรทักเมื่อเห็นแพรธาราใช้ทิชชูเช็ดคราบน้ำซอสแต่เท่าไหร่ก็ไม่ออก

“ซอสพวกนี้ค่อนข้างเหนียว...เช็ดคงไม่ออกหรอกครับ พี่ว่าขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อข้างบนดีกว่า”

“แต่ว่า...”

“ขึ้นไปข้างบน...ห้องที่สองจากขวามือครับ”

มหาสมุทรไม่ฟังเสียงโต้แย้ง ชายหนุ่มดุนหลังหญิงสาวไปที่บันไดทันที แพรธาราลังเลจนต้องเหลียวมามองหน้าเขาซ้ำ แต่ชายหนุ่มเพียงแค่ส่งยิ้มพร้อมโบกมือไล่ให้หญิงสาวทำตามคำแนะนำของเขา

“ห้องนี้สินะ”

แพรธาราพึมพำ พร้อมกับผลักประตูห้องเข้าไป หากดวงตาคู่สวยต้องเบิกกว้างอย่างตกใจและอึ้งเมื่อเห็นข้าวของมากมายที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้าน ทั้งครีมและของใช้มากมายสำหรับผู้หญิงที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้คือของทุกชิ้นเป็นยี่ห้อเดียวกับที่เธอใช้ แม้แต่สีผ้าปูที่นอนก็เป็นสีโปรดของเธอ

“เขายังเก็บทุกอย่างไว้เหมือนเดิม ยังทนรอเราทั้งที่ไม่มีความหมายอีกแล้วนะเหรอ”

“แพร...เรียบร้อยไหมจ๊ะ”

“ค่ะ...สักครู่ค่ะ”

หญิงสาวใช้เวลาชั่วครู่ล้างตัว ก่อนจะถือวิสาสะหยิบชุดเดรสสั้นสีโอรสมาเปลี่ยน

มหาสมุทรส่งยิ้มให้เมื่อแพรธาราเดินลงบันไดมาที่ชั้นล่าง เผลอส่งสายตาชื่นชมเมื่อได้เห็นสาวในดวงใจสวมชุดเดรสที่เขาซื้อให้อีกครั้ง

“แพรขอยืมชุดนี้ก่อนนะคะ แล้วจะรีบซักมาคืนให้”

“ไม่ต้องคืนหรอกครับ...มันเป็นของแพรอยู่แล้ว”

มหาสมุทรแย้ง แต่พอเห็นสีหน้าไม่สบายใจของสาวตรงหน้าจึงเสเปลี่ยนเรื่อง

“อืม...เมื่อครู่ที่เรียกไม่ได้ตั้งใจจะเร่งหรอกครับ แต่กลัวพี่หนุ่มจะโดนดุที่พาคุณหนูแพรมาเที่ยวเพลินจนเย็นค่ำ”

“ค่ะ” แพรธาราพลิกดูนาฬิกาข้อมือบอกเวลาหกโมงเย็น “แพรต้องรีบกลับก่อนแล้วค่ะ”

“ครับ...”

มหาสมุทรตอบรับ รู้สึกใจหายที่เวลาดี ๆ กำลังจะหมดลง อยากรั้งอีกฝ่ายให้อยู่ด้วยนานที่สุดแต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้ สิ่งเดียวที่พอจะทำได้คือบอกความรู้สึกที่ซ่อนไว้ในหัวใจ

“พี่ดีใจนะที่วันนี้แพรแวะมา แล้วพี่จะคอย...คอยวันที่แพรว่างและกลับมาที่นี่อีก”

ไม่มีคำตอบรับ นอกจากร่างบางค่อย ๆ เดินห่างไปช้า ๆ พร้อมพระอาทิตย์ที่ลาลับขอบฟ้า



การรอคอยสำหรับบางคนคือความสูญเปล่า แต่สำหรับมหาสมุทรการรอคอยคือการมีความหวัง ทุกวันที่หมุนเวียนไปไม่ได้ทำให้หมดหวังแต่ทำให้ยังมีกำลังใจที่จะรอคอยความหวังที่เป็นจริง และโชคชะตาไม่เคยใจร้ายทั้งที่การจากกันครั้งก่อนแพรธาราไม่ได้ตอบรับสักคำว่าจะกลับมาที่บ้านหลังนี้อีก หากวันนี้ร่างบางกำลังยืนยิ้มอ่อน ๆ อยู่ตรงหน้าของเขา

“แพรคงไม่ได้มารบกวนใช่ไหมคะ”

แพรธาราออกตัว รู้สึกเก้อเขินที่ได้พบเขาอีกครั้ง แต่ก็ไม่อาจห้ามใจตัวเองไม่ให้กลับมาที่นี่

“ไม่ครับ พี่คอย...คอยว่าเมื่อไหร่แพรจะมา”

“คอยแพร...”

“คือ...”

มหาสมุทรเงียบไปชั่วครู่ นึกตำหนิตัวเองที่เผลอแสดงความรู้สึกมากเกิน เกรงว่าจะเป็นการกดดันให้แพรธาราคิดมากจนเครียด

“พี่แค่คิดว่าถ้าแพรมาอีก อยากจะพาไปเที่ยวสวนสาธารณะข้างในหมู่บ้านน่ะครับ”

“สวนสาธารณะที่พี่บอกว่าตาหนูชอบน่ะหรือคะ”

“แพรจำได้”

เสียงถามสดใส ยิ่งเห็นหญิงสาวพยักหน้าก็ยิ่งดีใจ

“ค่ะ...แพรบอกแล้วว่าแพรอยากรู้เรื่องตาหนู อยากจะจำแกให้ได้แต่แพร...”

“พี่ไปเตรียมของก่อนนะ เราไปปิคนิคที่นั่นกันเถอะ” มหาสมุทรรีบขัดขึ้นทันทีเมื่อเห็นสาวสวยมีแววเศร้า “วันนี้อากาศเย็นสบายเหมาะจะนั่งเล่น พอช่วงสาย ๆ ก็เริ่มมีคนมาเดินเล่นกันแล้วล่ะ รอพี่แป๊บนะ”

แพรธารานั่งซ้อนท้ายจักรยานที่อดีตคุณหมอปั่นให้อย่างงุนงง เขาเตรียมข้าวของรวดเร็วราวกับรู้ว่าเธอจะมา ที่สำคัญแทนที่จะชวนเธอขึ้นรถยนต์กลับชวนเธอนั่งซ้อนท้ายจักรยาน คิดถึงตรงนี้เธอก็อยากจะหัวเราะแล้ว ผู้ชายที่เธอกำลังเกาะเอวเขาอยู่มีแต่เรื่องให้น่าประหลาดใจ

“ถึงแล้วครับ”

มหาสมุทรบอก หลังเคลื่อนรถจักรยานเข้าจอดที่ช่องจอดรถด้านหน้าสวนสาธารณะ

“เดี๋ยวเราไปนั่งเล่นตรงนั้นกันนะครับ พี่เตรียมแซนวิชกับสลัดแอปเปิ้ลมาด้วยล่ะ”

“ค่ะ”

แพรธารารับคำเสียงเบา ตกใจที่เขาถือวิสาสะจูงมือพาเธอไปหยุดใต้ต้นราชพฤกษ์ที่แพร่กิ่งก้านกว้างใหญ่ มหาสมุทรจัดการปูผ้าผืนหนาบนสนามหญ้าและวางตะกร้าปิคนิคที่บรรจุทั้งอาหารและน้ำดื่มบนผืนผ้าอย่างเรียบร้อย

“นั่งเลยจ๊ะ มุมนี้เป็นมุมโปรดจะเห็นสวนได้โดยรอบ...และก็พวกเด็ก ๆ จะวิ่งเล่นกันอยู่ทางโน้น”

แพรธารามองตามมือของชายหนุ่มเห็นเด็กเล็กหลายสิบคน บางกำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน บางก็เล่นเครื่องเล่นที่ทางสวนสาธารณะจัดเตรียมไว้ให้

“วันนี้แดดไม่แรง คุณพ่อคุณแม่คงพาเด็ก ๆ ออกมาเที่ยวเล่นกันเยอะเลยล่ะ”

มหาสมุทรเล่าอย่างอารมณ์ดี มีความสุขที่ได้ใช้ช่วงเวลาดี ๆ กับแพรธาราอีกครั้ง

“ตาหนูชอบมาคลานเล่นแถวนี้ บางครั้งมีเด็กเล็กวิ่งผ่านมาลูกก็จะร้องอ้อแอ้เรียกเพื่อนเล่นต่างวัยให้หันมาสนใจจนพี่ต้องอุ้มพาไปดูพวกเด็ก ๆ เล่นของเล่นกัน และที่ชอบที่สุดคือเวลาพี่จับให้ลูกเป็นเครื่องบินร่อนไปร่อนมา...แกจะหัวเราะตลอด”

แพรธาราจินตนาการตามทุกคำพูดที่มหาสมุทรเล่าว่าลูกชายตัวน้อยมาคลานเตาะแตะที่นี่ เริ่มหัดเดิน หัวเราะอย่างมีความสุขเวลาที่เด็กโตวิ่งมาหอมแก้มเพราะความน่ารักของตาหนู

“ลูกจะหัวเราะทุกครั้งที่ถูกหอมแก้ม แต่พี่สิโดนแพรดุตลอดว่าให้คนอื่นหอมลูกพร่ำเพรื่อแพรกลัวว่าลูกจะป่วยต้องรีบพากลับบ้านไปอาบน้ำทุกที” มหาสมุทรเล่าเสียงกลั้วหัวเราะ “แพรน่ะรักความสะอาดยิ่งกว่าคุณหมออย่างพี่เสียอีก แต่ลูกก็ชอบนะ...ลูกชอบอาบน้ำอุ่น”

“ลูกคงชอบที่นี่มากนะคะ แกมีความสุขใช่ไหมคะ”

“ครับ ลูกชอบมีเพื่อน...พอเห็นเด็ก ๆ รุ่นเดียวกันก็ดีใจ เห็นพี่ตัวโตวิ่งมาแหย่ก็ตื่นเต้นร้องลั่น...กรี๊ดกร๊าดตามประสา”

แพรธารายิ้มทั้งน้ำตา แค่ได้ฟังเรื่องเท่านี้...หัวใจของเธอก็อิ่มเอิบแล้ว แม้ไม่มีความทรงจำเก่ากลับมาแต่เธอก็เชื่อว่าความทรงจำใหม่ที่ได้ฟังได้รับรู้เรื่องราวของตาหนูจากมหาสมุทรก็เติมเต็มหัวใจที่อ้างว้างของเธอได้ ตั้งแต่ได้รู้เรื่องนี้เธอก็ไม่คิดอีกแล้วว่าชีวิตของตัวเองขาดหายไปอีก ความเหงาที่ตอบไม่ได้ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย

มหาสมุทรจัดแบ่งแซนวิชและสลัดใส่จานเล็กวางไว้ตรงหน้าแพรธาราอย่างเอาใจ พร้อมเทน้ำผลไม้ใส่แก้วพลาสติกไว้ให้ข้างตัว สายตาของเขาแฝงด้วยความรักเต็มเปี่ยม เมื่อเห็นสาวสวยมองรอบ ๆ สวนสาธารณะอย่างสนใจและผ่อนคลายก็รู้สึกเบาใจ

“เดี๋ยวพี่ขอไปล้างมือหน่อยนะ แพรนั่งเล่นก่อนนะครับ”

“ค่ะ”

แพรธารายิ้มรับ พลางหันไปสนใจพวกเด็ก ๆ ต่อโดยเฉพาะเจ้าหนูตัวน้อยที่กำลังวิ่งเล่นเตะลูกบอลอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข พอเตะไปได้ไกลหน่อยเด็กน้อยก็หัวเราะวิ่งตามลูกบอลไปเตะไปเรื่อย ๆ จนข้ามสนามหญ้าไปอยู่แถวริมถนน

ดอกเตอร์สาวลุกขึ้นยืนมองอย่างเป็นห่วง ใจหล่นวูบเมื่อเห็นหนูน้อยเตะลูกบอลลงไปบนถนน สาวสวยถลาวิ่งไปหาเมื่อเหลือบเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งกำลังวิ่งตรงมาที่ลูกบอล ซ้ำร้ายหนูน้อยไร้เดียงสากลับวิ่งตามลูกบอลอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว แพรธาราคว้าตัวเด็กน้อยหลบรถมอเตอร์ไซด์ได้ฉิวเฉียด แต่รองเท้าเจ้ากรรมกลับส้นหัก หญิงสาวจึงต้องเดินเขยกพาเด็กน้อยข้ามถนนกลับมาที่สวนสาธารณะ

หากรถยนต์คันเล็กที่เลี้ยวออกมาจากสโมสรใกล้ ๆ กลับพุ่งมาทางเธอด้วยความเร็วเกินปกติ แพรธาราตัวชาวาบรู้ดีว่าคงวิ่งไม่ทันแน่ สาวสวยกระชับอ้อมกอดหันตัวเองออกด้านนอกเพื่อปกป้องเด็กน้อย คิดว่าตัวเองคงไม่รอดแน่ แต่อ้อมกอดแกร่งคว้าร่างบางและร่างจิ๋วดึงหลบล้มไปด้วยกันได้ทันเพียงเสี้ยววินาที แต่เป็นเสี้ยววินาทีที่ทำให้หัวใจของดอกเตอร์สาวสัมผัสถึงความอบอุ่นและพร้อมปกป้อง เสียงบางอย่างดังกังวาลในสมอง

“แพรก็รักพี่ค่ะ จะรักตลอดไป...แพรสัญญา”

น้ำตาใสหยาดหยดเมื่อเสียงนั้นจางหาย ความรู้สึกเจ็บปวดจากความอ้างว้างและสูญเสียเข้ามาแทนที่

“แพรเจ็บตรงไหนหรือครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่า...ขอพี่ดูหน่อยครับ”

มหาสมุทรเอ่ยถามเสียงร้อนรนอย่างห่วงใยเมื่อเห็นน้ำตาของสาวในอ้อมกอด พลางสัมผัสตามร่างบางอย่างกังวลเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบเรียกก็ไม่ขานรับ ตาคมสำรวจมองหาบาดแผลก่อนจะถอนใจเบา ๆ เมื่อไม่พบ

“โอ๋...ไม่ต้องกลัวนะครับ ปลอดภัยแล้ว”

ชายหนุ่มดึงร่างบางมากอดลูบผมและหลังให้อย่างอ่อนโยน เอ่ยปลอยราวพี่ชายปลอบน้องสาว

“ไม่ต้องตกใจนะครับ...ทำใจให้สบาย มีสตินะแพร...มีสตินะครับ”

“เอ่อ...แพรไม่เป็นไรแล้วค่ะ” แพรธารารีบขยับถอยห่างเมื่อรู้สึกตัว “แล้วเด็กคนนั้นล่ะคะ”

“คุณแม่กอดปลอบ...โอ๋อยู่นั่นไง” มหาสมุทรยิ้ม พลางชี้มือไปทางด้านหลัง “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เจ้าหนูนี่ไม่ได้กลัวหรอกนะ เขาคิดว่าเล่นกัน...ที่โยเยเพราะเสียดายลูกบอลน่ะครับ”

แพรธารายิ้มออกอย่างโล่งใจ เมื่อมองตามมหาสมุทรแล้วเห็นสภาพลูกบอลที่โดนรถยนต์เล็กทับจนแบนบี้

“ขอบคุณที่ช่วยตาหนูนะคะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับแก...ฉันคงไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิต”

คุณแม่ของหนูน้อยรีบเดินเข้ามาขอบคุณแพรธาราและมหาสมุทรซ้ำอีกรอบเมื่อสองหนุ่มสาวขยับลุกขึ้น

“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันยินดีที่สุดที่ได้ช่วยค่ะ”

แพรธาราตอบรับด้วยรอยยิ้มเศร้า แต่ก็ดีใจที่ได้ช่วยให้ใครสักคนไม่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างอ้างว้างและรู้สึกผิดเหมือนอย่างที่เธอรู้สึก แม้เธอจะโชคดีที่จำไม่ได้ แต่ความรู้สึกลึก ๆ ในใจคงยังโทษตัวเองเสมอ ทั้งที่จำไม่ได้ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดและอ้างว้างอยู่ดี

“พี่ว่าเที่ยงแล้วเรากลับกันเถอะครับ”

มหาสมุทรโอบรั้งร่างบางอย่างอ่อนโยน เข้าใจความรู้สึกลึก ๆ ของแพรธาราดี

“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”

แพรธาราพยักหน้ากับมหาสมุทร ก่อนหันไปเอ่ยลาคุณแม่ของเจ้าหนูน้อย

“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ หวังว่าคราวหน้าเราจะพบกันอีกนะคะ”

ต่างฝ่ายต่างยิ้มและร่ำรากันอย่างมิตรภาพ แพรธาราและมหาสมุทรไม่ลืมหันไปโบกมือให้ตาหนูตัวน้อยที่คุณพ่อพาไปซื้อไอศกรีมปลอบใจหลังจากเสียลูกบอลของเล่นชิ้นโปรดไป


************************

Edelweiss – ตอนนี้คงไม่ต้องสงสารมาก พี่มาร์คได้มีวันดี ๆ กับน้องแพรสมใจ

sai – อันที่จริงอาจจะว่าคุณปู่เป็นผู้ร้ายตัวจริงก็ได้ ถ้าจะบอกว่าจอมบงการที่เจ้ากี้เจ้าการชีวิตคนอื่นเป็นตัวร้าย แต่ที่ร้ายก็เพราะรักค่ะ ส่วนจะร้ายต่อกว่านี้หรือจะลดลงมาตามลุ้นตอนหน้ากันค่ะ

an00 – ใช่เลย...หัวอ่อนเสมอค่ะ เรื่องนี้น่าจะบอกว่าขัดใจนางเอกที่สุด แต่เขามีเป้าหมายในชีวิตอยู่แล้วค่ะว่าทำทุกอย่างตามที่ปู่หรือพ่อแม่บอกเพราะรักค่ะ ถึงมันจะเป็นความรักที่หลายคนว่าไม่ถูก คนเราควรมีสิทธิ์เลือกทุกอย่างเองก็ตาม

Pat- ที่ต้องเลิกกันเพราะคุณปู่โกรธมาร์คที่ทำให้แพรขับรถออกไปแล้วประสบอุบัติเหตุค่ะ จริง ๆ ไม่ใช่เพราะมาร์คหรอกแต่คุณปู่พาลน่ะค่ะ ตามได้จากตอนที่ 3 ที่คุณปู่บีบให้มาร์คทำตามที่ท่านสั่งน่ะค่ะ แล้วก็ตอนที่ 12 ค่ะ ที่จะเล่าความเป็นมาของแพรและมาร์คน่ะค่ะ ส่วนใหญ่เรื่องนี้จะเรื่องเป็นเรื่องเล่าถึงอดีตไม่ได้ย้อนกลับเข้าไปในเหตุการณ์ให้เห็นการกระทำของแต่ละคนน่ะค่ะ

Auuuu – ตอนนี้พี่มาร์คพอจะได้หายใจด้วยรอยยิ้มหน่อยน่ะคะ ค่อนข้างยาวนิดนึงเพราะอยากให้ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นช่วงดี ๆ ของทั้งสองคนจริง ก่อนจะกลับโหมดเดิม อิอิ

panon – คาดว่าตอนนี้ไม่น่าสงสารนะคะ อาจจะแอบเศร้าแต่ก็คงเรียกว่าเป็นรอยยิ้มทั้งน้ำตาได้นะ ถ้ามีใครร้องไห้ 5555+


**********************



พิมดาว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 เม.ย. 2555, 13:23:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 เม.ย. 2555, 13:23:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 1312





<< ตอนที่ 15   ตอนที่ 17 >>
anOO 29 เม.ย. 2555, 14:04:05 น.
เห็นได้มีความสุขร่วมกันแบบนี้ ไม่อยากคิดต่อเลย
ว่าความสุขที่มีอาจจะกำลังหมดลงไป


Pat 29 เม.ย. 2555, 16:25:45 น.
แพรเกือบจะจำได้แล้ว ดีจัง เผื่ออะไรๆจะได้ดีขึ้น


Auuuu 29 เม.ย. 2555, 17:01:12 น.
พระเอกน่ารักมากๆๆ ทำทุกๆอย่างเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป



panon 30 เม.ย. 2555, 08:43:27 น.
โอ๊ยยยยยยยยยยยซึ้งๆๆๆๆชอบจังพี่มาร์คเนี่ยสุภาพบุรุษที่สุดในโลกกกกกกกกกกกกกกกก


teesaparn 30 เม.ย. 2555, 12:13:16 น.
สงสัยว่าสลัดจานนี้จะหวานเป๋นพิเศษ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account