เพลงลิขิตบันดาลชักพา
เพลงรัก...สาวอวบที่เพิ่งอกหักเพราะรักเก่ากำลังหมั้นหมายกับคนอื่น โดนหลานสาวตัวดีหลอกให้มาเที่ยวปารีสเป็นเพื่อน แต่พอมาถึงเธอกลับต้องเล่นเรียลลิตี้เป็นคู่ฮันนีมูนของนักร้องดังซะงั้น งานนี้สาวอวบขึ้นคานจะทำอย่างไร..... ในเมื่อรักเก่าก็กลับมาทำให้หัวใจหวั่นไหว แต่ความรักครั้งใหม่ก็กำลังเริ่มต้น
Tags: รัก,ท่องเที่ยว,ฝรั่งเศส
ตอน: บทที่ 8
“กรี๊ด..................”
เสียงกรีดร้องดังลั่นทำให้คนที่จมอยู่ในห้วงนิทรา ผวาลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ แต่ก่อนที่เขาจะรู้ว่าอะไรไปเป็นไร ‘แรง’ บางอย่าง ก็พุ่งมากระแทกใส่ จนเขากระเด็นตกไปอยู่ข้างเตียงอย่างรวดเร็ว
“เอ๊ย!!!” แทนกวีอุทานออกมา ขณะพยายามยันกายขึ้น แล้วสิ่งที่ปรากฏ...ที่กำลังยื่นหน้าจากบนเตียงมาจ้องมองเขา ก็ทำให้ชายหนุ่มร้องดังด้วยความตกใจมากกว่าเดิม “เอ๊ย!!!”
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้.... เธอ เธอทำอะไรฉันเนี่ย” หญิงสาวร่างอวบที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง เครื่องสำอางเปรอะเปื้อนเต็มหน้า ซึ่งกำลังซ่อนร่างเอาไว้ใต้ผ้าห่มผืนหนา ชี้หน้ามาที่เขาด้วยความตระหนกถึงขีดสุด “ไอ้ชั่ว ไอ้เลว เธอมัน...” เธอด่าทอ พร้อมกับคว้าหมอนมาปาใส่เขา ชายหนุ่มที่ตื่นเต็มตาแต่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างพยายามปัดป้อง พร้อมร้องห้ามไปด้วย
“เอ๊ย.. เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน”
“ไม่ๆ ไอ้คนบ้ากาม ออกไปจากห้องฉันเลยนะ ไอ้หื่น ไอ้นักร้องเฮงซวย” เธอว่า พร้อมกับคว้าหมอนอีกใบมากระหน่ำตีใส่คนที่กำลังลุกขึ้น ก่อนในที่สุดแทนกวีจะยึดอาวุธจากมือเธอได้
“ป้า!!! นี่มันอะไรกัน” เขาตะโกนถามเสียงหอบ ด้วยความตกใจไม่แพ้กัน เพลงรักจ้องหน้าเขาเขม็ง ก่อนจะแผดเสียงใส่ด้วยความโกรธจัด
“ฉันควรถามเธอมากกว่า เธอทำอะไรฉัน ไอ้วิตถาร น่าเกลียด จิตทราม นิสัยไม่ดี ฉัน.... ฉันจะ....”
“ป้า.... ใจเย็นก่อน” เขาห้าม เมื่อเห็นเธอเบะหน้าทำท่าจะร้องไห้ “อย่าเพิ่งฟูมฟาย ขอเวลาผมแปปนึง”
นักร้องหนุ่มพยายามใช้สมองที่เพิ่งตื่นของตัวเองไตร่ตรองว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจำได้ว่าเมื่อคืนหลังจบมื้ออาหาร เขาและสมาชิกที่เหลือยกเว้นคีตภัคไปนั่งดื่มกันต่อ แต่เบียร์สองสามกระป๋องที่ดื่มเข้าไป ไม่น่าจะทำให้เขาเมาจนขาดสติ ขนาดที่จะ....
ชายหนุ่มมองตัวเองที่มีใส่เพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว มันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะปกติเขาไม่ชอบใส่เสื้อผ้าเวลานอน แต่การที่เดรสสีดำของเธอตกอยู่บนพรมสีเลือดนกนี่สิ แสดงว่าคนที่ห่อตัวด้วยผ้าห่มตอนนี้.... แทนกวีกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก ขณะมองเห็นเสื้อผ้าของตัวเองกระจัดกระจายอยู่ใกล้กระเป๋าเดินทางสีแดงที่เปิดอ้าอยู่
เดี๋ยวนะ.... กระเป๋าสีแดง!!?!!
แทนกวีชะงัก ก่อนจะอุทานออกมา “ป้า!!! นี่มันห้องนอนนะ”
“ห้องเธอ?” เพลงรักทวนคำ เกือบจะต่อว่าเพราะคิดว่าเขากำลังโกหก แต่นักร้องหนุ่มก็เหมือนอ่านสีหน้าของเธอออก เขาจึงชี้ไปที่กระเป๋าเดินทางของตัวเอง หญิงสาวที่ตกใจแทบสิ้นสติเมื่อลืมตามาเห็น ‘ผู้ชาย’ นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ จึงเริ่มสำรวจรอบตัวบ้าง
เธอจำไม่ได้ว่าการตกแต่งห้องนอนเธอเป็นแบบไหน ใช่วอลเปเปอร์ลายดอกอย่างนี้หรือเปล่า แต่จำได้ว่าวิวที่มองออกไปจากหน้าต่างบานสูงข้างเตียง คือบ่อน้ำพุและทางรถวิ่งหน้าปราสาท ไม่ใช่ผืนป่าเขียวขจีใต้แผ่นฟ้าที่เริ่มสว่างอย่างที่เห็นอยู่นี้
“นี่เป็นห้องของเธอ...” หญิงสาวเหมือนย้ำกับตัวเอง
“ป้ามาทำอะไรในห้องผม”
“ฉัน...” เธอพยายามนึก แต่ก็นึกไม่ออก “ฉันจะมาทำอะไรในห้องเธอล่ะ เธอนั่นแหละพาฉันมาทำอะไรในห้องนี้ โอ๊ย ทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ หรือว่าเธอ... เธอมอมยาฉันใช่ไหม”
“ไปกันใหญ่แล้วป้า ไม่มีใครมอมป้าทั้งนั้น มีแต่ป้านั่นแหละมอมตัวเอง เล่นซดไวน์ไปเกือบหมดขวด จำไม่ได้เลยละสิ”
“ไวน์!?! ฉันเนี่ยนะ ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ฉันไม่ดื่มไวน์ เธอเอาเรื่องอะไรมาพูดเนี่ย ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้”
“ผมละอยากอัดวิดีโอให้ป้าดูตัวเองจริงๆ เอ๊ย...พี่โต้งกับลูกแก้วอัดไว้อยู่แล้วนี่นา นี่ถ้าป้าไม่เชื่อก็ไปดูกับตาได้เลย ป้าเมามาก ผมต้องอุ้มไปนอนที่ห้อง แต่ห้องป้านะ ตอนนั้นใครๆ ก็อยู่ น้องพลอยก็อยู่เป็นพยานให้ได้... แล้วทำไมป้าถึงมานอนให้ห้องผมเนี่ย หรือว่า ป้าเดินละเมอมาลักหลับผม”
“ไอ้บ้า ฉันจะทำอย่างนั้นได้ยังไง” เธอตวาดว่า ก่อนยกมือขึ้นกุมขมับ “โอ๊ย ปวดหัวจัง”
แทนกวีมองหญิงสาวด้วยความหนักใจ ก่อนถอนหายใจออกมา “ป้ารีบแต่งตัวเถอะ”
“รู้แล้วน่าไม่ต้องมาบอก” เธอทำท่าจะลงจากเตียง แต่ก็นึกขึ้นได้ “หันไปเลยนะ ฉันจะลุก”
“ทำเหมือนผมอยากดูมาก” เขาประชด แต่ก็หันไปอีกทางโดยดี เพลงก้าวลงจากเตียงโดยมีผ้าห่มพันรอบกาย โดยไม่ลืมก้มลงคว้าเดรสสีดำที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าหลุดออกจากตัวได้อย่างไร ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!! หญิงสาวพยายามทบทวนกับตัวเองอย่างเคร่งเครียด ลำพังแค่เข้าห้องนอนผู้ชายก็น่าอายมากพอแล้ว แต่นี่เธอยังเปลื้องผ้าอยู่บนเตียงเดียวกับเขาอีก เพลงรักรีบตรงไปยังอ่างล้างหน้า แล้วก็ต้องผวาเมื่อเห็นเงาที่สะท้อนออกมาจากกระจก
แวบแรกที่คิดคือผู้หญิงบ้าคนนั้นเป็นใคร ก่อนที่สมองจะจดจำได้ว่านั่นคือตัวเธอเอง หญิงสาวอ้าปากค้างกับเปียผมที่หลุดลุ่ย เครื่องสำอางเละเต็มใบหน้า... เมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไม!?!
หรือว่าเธอจะเมาอย่างที่เขาบอกจริงๆ แล้วอะไรที่ทำให้เธอขาดสติถึงขนาดนี้ได้ ไวน์ขาวหรอ ไวน์ขาวจากไหน แล้วเธอมาอยู่ในห้องเขาได้ยังไง แล้วทำไมเธอถึงถอดเสื้อ หญิงสาวคิดขณะเอาเสื้อตัวเดิมมาใส่ ก่อนจะพบว่าซิปเสื้อปริแตกพร้อมกับรอยเย็บตรงสะโพกได้ขาดเป็นทางยาว เหตุการณ์บางอย่างปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง เสียงดังแคว็กราวกับนกแสกร้องท่ามกลางความมืดตอนที่เธอขยับตัว มันเป็นความทรงจำที่กระท่อนกระแท่นเกิดกว่าจะปะติดปะต่อได้
โอ๊ย ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว
เพลงรักรีบคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวที่วางอยู่บนชั้นใสใกล้อ่างอาบน้ำ ก่อนล้างหน้าลวกๆ แล้วรีบออกมา เธอเหลือบมองชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อคลุมสีขาวเช่นเดียวกันซึ่งนั่งอยู่ปลายเตียง ทำท่าจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ได้แต่หลบตา
หากเมื่อคืนเธอเมา แล้วเขาไม่ได้เป็นคนพาเธอเข้ามาในห้องนี้ ก็คงเป็นเธอเองที่กระทำการน่าขายหน้าทั้งหมด ไม่รู้ว่าวิธีไหน แต่มันก็ทำให้เธอมองหน้าเขาไม่ได้ เพลงรักรีบตรงไปยังประตูโดยไม่พูดอะไร ก่อนที่เสียงของชายหนุ่มจะดังขึ้นมา
“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมมั่นใจ ว่าผมไม่ได้ทำอะไรป้าแน่ๆ”
หญิงสาวร่างอวบชะงัก ก่อนจะตอบโดยไม่หันกลับมามองด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร แต่เรื่องนี้....อย่าให้คนอื่นรู้เด็ดขาด โดยเฉพาะพลอย”
เธอก้าวออกไปทันทีที่เอ่ยจบ แต่ก่อนที่บานประตูจะปิดลง เสียงอุทานของเธอ ก็ดังแว่วกลับเข้ามา
“พลอย!!!”
-------------------------------------------------------------------------------
บางที... สวรรค์คงรู้ว่าเธอเคยแอบขโมยขนมเพื่อนเมื่อตอนอนุบาล จึงส่งวิบากกรรรมมาตามรังควานชีวิตเธอไม่หยุดหย่อนเช่นนี้
ทั้งที่อายุก็เลยเบญจเพสมาหลายปี แต่ทำไมเรื่องราวเลวร้ายจึงไม่เคยราวีไปจากชีวิตเธอ แค่เปิดประตูออกมาเจอหลานสาว เพลงรักก็ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร ยิ่งได้เห็นว่าหลานยืนอยู่กับใคร... เธอก็อยากกลั้นใจตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด
เป็นช่วงเวลาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแท้จริง ก่อนที่เด็กสาวในชุดนอนจะโวยวายเสียงดัง
“ทำไมน้าเพลงออกมาจากห้องพี่แทน น้าเพลงไปทำอะไรในห้องพี่แทน!!! แล้วทำไมน้าเพลงแต่งตัวแบบนี้ นั่นชุดที่น้าเพลงใส่เมื่อคืนนี่” พิมพลอยที่ยิงคำถามโดยไม่เว้นวรรคหายใจ บุ้ยใบ้ไปยังเดรสสีดำในมือผู้เป็นน้า ก่อนจะเบิ่งตาโตเมื่อนึกบางอย่างได้ “อย่าบอกนะว่า เมื่อคืนน้าเพลงนอนห้องพี่แทน!?!”
“พลอย!!!” เพลงรักอุทานซ้ำ เพราะไม่รู้จะตอบเช่นไร ขณะที่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“ถ้าน้าของเธอนอนที่ห้องคนอื่น... ทำไมเธอไม่รู้”
“ก็เมื่อคืนพลอยกลับมา พลอยไม่ได้เปิดไฟ พลอยเกรงใจคิดว่าน้าเพลงนอนอยู่ แล้วพลอยก็ง่วงมากด้วย หัวถึงหมอนก็หลับสนิทเลย พลอยจะรู้ได้ยังไงว่าน้าเพลงหายไป” เด็กสาวเถียงด้วยความไม่พอใจคนถามเป็นทุนเดิม แม้ว่าคนที่บังเอิญเจอหน้าห้องแต่เช้าตรู่ จะแสดงความห่วงใยเมื่อรู้ว่าน้าสาวของเธอหายไป แต่การที่เขาตั้งคำถามเหมือนต่อว่า... มันก็ทำให้เธอยิ่งหงุดหงิด
“ตกลงน้าเพลงหายไปตั้งแต่เมื่อไร แล้วน้าเพลงเข้าไปทำอะไรในห้องพี่แทน!?!”
“น้า.... น้า...” เพลงรักได้แต่อ้ำอึ้ง โดนหลานสาวซักไซ้มันก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งมีสายตาคาดคั้นของผู้ชายร่างสูงใหญ่จับจ้องมาอีก เธอก็ยิ่งไม่รู้จะแต่งเรื่องอะไรมาโกหก “น้าแค่...แค่..”
“แค่มายืมยาสีฟันของพี่นะค่ะ” เสียงของชายหนุ่มเหมือนห่วงยางที่โยนมาให้คนใกล้จมน้ำ เธอรู้สึกรอดตายอย่างปาฏิหาริย์หลังขาดอากาศหายใจอยู่พักใหญ่ “มายืมแล้วก็ลืมเอาไป สมกับเป็นป้าจริงๆ แก่แล้วแก่เลยนะเนี่ย”
แทนกวีว่า พร้อมกับเดินเอายาสีฟันยัดใส่ในมือหญิงสาว ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “อ้าว...พี่คีย์ มาทำตรงอะไรนี้ครับ ห้องพี่คีย์อยู่อีกชั้นไม่ใช่หรอ หรือว่ามาหาพี่นัด... เช้านี้ยังไม่เห็นเลยนะ” เขาทำตัวปกติได้อย่างแนบเนียน
“นายตื่นนานแล้วหรอ” คีตภัคถามด้วยความคลางแคลง จะให้เขาเชื่อว่าเป็นแค่เรื่องยาสีฟัน...มันคงไม่ง่ายอย่างนั้น
“ก็ตื่นตอนที่ป้ามาเคาะประตูห้องเนี่ยแหละ สงสัยจะกลัวน้องพลอยเป็นลมเพราะกลิ่นปาก เลยรีบมาขอยืมยาสีฟันจากผมทั้งๆ ที่แต่งตัวแบบนี้ ไปๆ ป้า เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อซะ พาน้องพลอยเข้าไปด้วย”
นักร้องหนุ่มหาทางหลีกเลี่ยงสายตาจับผิดของคีตภัคได้อย่างสวยงาม เพลงรักรู้สึกขอบคุณแต่ก็ยังทำใจให้มองหน้าเขาไม่ได้อยู่ดี เธอจึงหันไปอีกทาง แล้วก็ทันได้เห็นหน้าแดงก่ำของหลาน
“พลอย!?! พลอยเป็นอะไร”
“พี่แทน... พี่แทน” เด็กสาวพูดจาตะกุกตะกัก มือข้างหนึ่งยกขึ้นจับตรงหน้าอกด้านซ้าย ส่วนอีกมือ ชี้มายังแผ่นอกผึงผายใต้เสื้อคลุมที่มัดไว้หลวมๆ ของนักร้องในดวงใจ เพลงรักเข้าใจอาการของหลานได้อย่างง่ายดาย เธอจึงรีบดุนหลังอีกฝ่ายให้กลับเข้าไปยังห้องฝั่งตรงข้ามด้วยกัน
แทนกวีหายใจออกมาอย่างโล่งอก แม้จะรู้ว่าพายุไม่ได้สงบ หากแต่กำลังก่อตัวขึ้นต่างหาก
“แทน ไปคุยกันที่ห้อง”
-------------------------------------------------------------------------------
ท่านประธานใหญ่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการคาดคั้นอย่างที่แทนกวีเตรียมคำตอบไว้ หากแต่ชายหนุ่มในเชิ้ตยีนส์สีเข้มที่เดินตามกลับเข้ามาในห้อง กลับใช้สายตากวาดมองไปรอบๆ อย่างเคร่งเครียด ซึ่งก็ทำให้แทนกวีที่ทำเป็นสาละวนเตรียมเสื้อผ้าอยู่หน้ากระเป๋าเดินทาง รู้สึกกระสับกระส่ายเต็มทน
“คุณนัดหายไปไหน” น้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงความต้องการบางอย่างเอาไว้ คนที่อยู่ด้วยกันมานานพอจะสัมผัสได้ว่า ‘การสืบสวน’ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ตื่นมาก็ไม่เจอ” เขาพยายามตอบกลับไปอย่างระมัดระวัง “พี่แทนลองไปดูข้างล่างไหม พี่นัดอาจลงไปเดินเล่น”
“ไม่ล่ะ ฉันรอในนี้ดีกว่า นายจะอาบน้ำไม่ใช่หรอ ไปสิ” คีตภัคว่า ขณะเดินมาหยุดที่ปลายเตียง ซึ่งน่ากลัวเหลือเกินว่าคนช่างสังเกตจะสงสัยว่าทำไมผ้าปูเตียงถึงได้ยับย่นนัก แถมผ้าห่มกับหมอนก็ยังกระเด็นไปคนละทิศละทาง นักร้องหนุ่มจึงแกล้งทำเป็นหาว แล้วรีบกระโดดกลับขึ้นที่นอนเพื่อเบี่ยงความสนใจอย่างรวดเร็ว
“ผมง่วงจังเลยพี่คีย์ ขอนอนต่ออีกนิดล่ะกันนะ”
“เมื่อคืนนายไม่ได้นอนหรอ” คำถามกลับของคีตภัคทำให้แทนกวีสะดุ้ง
“เอ๊ย นอนสิพี่ ทำไมจะไม่ได้นอนเล่า” เขารีบปฏิเสธอย่างมีพิรุธ นักร้องหนุ่มอาจเป็นคนกะล่อน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านประธานใหญ่ มันก็ยากที่จะแต่งเรื่องโกหก
“แล้วนอนกับใคร”
“เอ๊ย!!! จะให้นอนกับใคร ก็ต้องนอนกับพี่นัดสิ พี่คีย์ถามแปลกๆ” นักร้องหนุ่มว่า รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ขณะที่คีตภัคก้มลงหยิบหมอนที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมา แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยะเยือกเย็น
“คุณนัดแต่งหน้าเวลานอนด้วยหรอ”
“เอิ่ม...” แทนกวีอ้ำอึ้ง เครื่องสำอางที่เปรอะอยู่บนปลอกหมอนสีขาวทำให้ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร เขายันกายขึ้นมาก่อนตอบอ้อมแอ้ม “พี่นัดเขาก็เป็นอย่างนี้แหละ รักสวนรักงาม...”
“หรอ...” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สวนกลับเสียงเครียด แล้วก้มลงหยิบ ‘บางอย่าง’ มาชูใส่หน้าคนบนเตียง แทนกวีอ้าปากค้าง เมื่อเห็นว่ามันคืออะไร “แล้วผ้าเช็ดปากนี่ล่ะ ฉันจำได้ว่าเห็นนายผูกให้เพลงรักเมื่อวาน... นายจะบอกว่าคนละผืนก็ได้... แต่ฉันไม่เชื่อ”
เป็นน้ำเสียงจริงจังที่สุดเท่าที่แทนกวีเคยได้ยินมา เขามองหน้าเครียดขึงของอีกฝ่าย ก่อนถอนหายใจยาวพรืด
“ผมรู้ว่าพี่คีย์กำลังคิดอะไร แต่ผมกับป้าไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ”
“แล้วเพลงรักมาอยู่ในห้องนายได้ยังไง แล้วทำไมเธอถึงกลับออกไปด้วยสภาพแบบนั้น”
“ผมก็ไม่รู้”
“ไม่รู้!!! แทนกวี!!! เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลกนะ”
“แล้วพี่คีย์เห็นผมหัวเราะตอนไหน ผมก็ไม่ขำเหมือนกัน อยู่ๆ ตื่นมา ก็มาเจอเรื่องแบบนี้ เมื่อคืนผมเมาก็จริงนะพี่คีย์ แต่ผมก็ไม่ได้หน้ามืดจนไปลากป้ามาปล้ำในห้องนี้แน่ นี่ผมก็งงไปหมดแล้ว พี่คีย์ลองไปถามป้าเขาดูสิ ว่าทำไมถึงมานอนแก้ผ้าบนเตียงผม”
“แทนกวี!!! นายกำลังพูดจาดูถูกเพลงรักอยู่ รู้ตัวใช่ไหม เพลงรักเป็นฝ่ายเสียหาย อย่าทำให้เธอต้องเสื่อมเสียไปมากกว่านี้”
“ผมขอโทษ” นักร้องหนุ่มยอมรับที่พูดจาไม่ดี แต่ก็คิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของเขา เขาจึงเอ่ยต่อด้วยความหงุดหงิด “ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แต่รับรองว่าผมไม่ใช่ ‘ฝ่าย’ ที่ทำอะไรป้าแน่ๆ”
“แทนกวี!!!” คีตภัคคำรามชื่อนักร้องหนุ่มด้วยความโกรธจัด แทนกวีจงใจยั่วโมโหด้วยการท้าทายคำเตือนที่เขาเพิ่งบอกไป ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ไม่เคยเกรี้ยวกราดใส่ใคร จึงจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาน่ากลัว
ขณะที่ทั้งคู่ต่างมองกันด้วยความไม่พอใจ ประตูห้องพักก็เปิดออก พร้อมเสียงร่าเริงของนิยมการที่ดังเข้ามา
“บองชูร์ เมอร์สิเออ...อุ้ย อ้าว.... คุณคีย์ก็อยู่ด้วยหรอ แล้วทำไมทำหน้าซีเรียสกันอย่างนั้นละคะ มีเรื่องอะไรกันหรอคะ”
----------------------------------------------------------------------------
เพลงรักไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี
หญิงสาวในเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินกับกางเกงยีนส์สีดำถอนหายใจขาว หลังเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคนอื่นซึ่งกำลังรับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ อยู่ในซาลูนตรงชั้นล่างติดกับล็อบบี้ ด้วยการมานั่งเครียดเพียงลำพัง ณ เวิ้งเล็กๆ ของบ้านฝรั่งเศสทรงโบราณ บนเนินเตี้ยห่างออกจากตัวปราสาทที่พักไม่มากนัก
แสงอาทิตย์ของเช้าวันที่สองในฝรั่งเศส กำลังส่องสว่างขึ้นเรื่อยๆ แต่ความอับอายกำลังทำให้เธอมองเห็นแต่ความดำมืด แม้หลานสาวจะไม่ติดใจเรื่องการขอยืมยาสีฟันที่นักร้องหนุ่มอ้าง แต่คนอื่นล่ะ...
ไม่มีทางเลยสำหรับคีตภัคที่มาอยู่ในเหตุการณ์ด้วยความบังเอิญ ทำไมเขาถึงต้องมาหานิยมการในจังหวะที่หลานสาวเธอเปิดประตูออกไปด้วยความตื่นตระหนกด้วย พิมพลอยเล่าให้ฟังว่าชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถามอย่างร้อนรนว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนอาสาตามหาน้าสาวให้ด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะไปไหน สาวร่างอวบในชุดเสื้อคลุมก็ออกมาจากห้องตรงข้ามเสียก่อน
เพลงรักถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ด้วยความเคร่งเครียด ก่อนใบหน้าขาวใสของชายหนุ่มที่หลับตาพริ้ม และท่อนบนอันเปล่าเปลือยของเขาจะลอยขึ้นมาในหัว นี่เธอ ‘นอน’ กับเขาจริงๆ นะหรือ ไม่นะเพลงรัก ทำไมเธอถึงสร้างความอัปยศอดสูให้แก่ชีวิตตัวเองเช่นนี้ หญิงสาวซบหน้าลงกับฝ่ามือด้วยความสิ้นหวัง เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรแล้ว
“ป้ามานั่งอยู่นี่เอง” เสียงทักไม่ดังนักแต่ก็ทำให้คนใจลอยถึงกับสะดุ้ง เพลงรักหันมองต้นเสียง ก่อนชะงักเมื่อเห็นคนซึ่งปรากฏอยู่ในความคิด กำลังถีบจักรยานป้วนเปี้ยนอยู่รอบกาย
“คนอื่นเขาเก็บกระเป๋าเตรียมจะขึ้นรถกันหมดแล้ว ป้ากลับมานั่งชมวิวอยู่ตรงนี้... นี่ป้า มาขี่จักรยานเล่นกันไหม”
“จะบ้าหรอ เกิดเรื่องอย่างนี้เธอยังมีแก่ใจมาขี่จักรยานอีก” เพลงรักต่อว่า แต่เสียงกลับสั่น ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ใจจะเต้นระรัวขึ้นเมื่อนึกถึงท่อนแขนล่ำๆ กับกล้ามท้องเป็นมัดของชายหนุ่มยามไร้อาภรณ์ปกปิด ไม่รู้ว่าเขาซ่อนร่างกายกำยำของตัวเองไว้ใต้เสื้อยืดสีเหลืองตัวเล็กนั้นได้อย่างไร
“นี่ป้ามองอะไร” ชายหนุ่มที่หยุดปั่นจักรยาน เอ่ยทักเมื่อเห็นสายตาของเธอ เพลงรักสะดุ้งอีกครั้งด้วยความตกใจ นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่ หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ เธอกลายเป็นสาวหื่นไปได้อย่างไร หญิงสาวรีบสะบัดหน้าไล่ความคิดลามกออกไปจากหัว ก่อนกลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเองด้วยการทำเป็นหงุดหงิด
“ฉันไม่ได้มองอะไร นี่เธออย่ามาอยู่ใกล้ฉันนักได้ไหม เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิด”
“เข้าใจผิดเรื่องอะไร... เรื่องที่เราสองคนนอนด้วยกันนะหรอ”
“บ้า!!! น่าเกลียด อย่าพูดอย่างนี้นะ ฉันไม่ได้นอนกับเธอ ไม่สิ เราไม่นอนด้วยกัน มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ไม่ๆ... มันไม่เคยเกิดขึ้น เมื่อเช้าฉันแค่ไปยืมยาสีฟันเธอเท่านั้น จบแค่นั้น ไม่เคยมีเรื่องบัดสีบัดเถลิงใดๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น”
“นี่...” ชายหนุ่มว่า แล้วเดินมาใกล้ มองหญิงสาวร่างอวบอย่างพิจารณา “นี่ป้าไม่เคยใช่ไหม”
“เคย!?! เคยอะไร”
“ก็...” เขาเว้นจังหวะไป ก่อนแตะนิ้วชี้สองข้างเข้าหากัน “อย่างนั้นน่ะ ป้าไม่เคยใช่ไหม ถึงได้ทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ ก็แค่นอนด้วยกัน ไม่เห็นจะต้องโวยวายเลย นี่ผมจะบอกความจริงให้นะป้า...”
ก่อนที่เขาจะทันได้เอ่ยอะไรออกมา ‘บางอย่าง’ ก็กระทบเข้าที่ใบหน้า... ไม่แรง แต่น่าตกใจ
“เอ๊ย!!! นี่ป้าตบผมทำไม”
“สั่งสอนเด็กใจง่ายอย่างเธอไง สำหรับเธออาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ เธออาจมั่วกับใครก็ได้ แต่สำหรับฉัน... นี่ไม่ใช่กิจวัตรประจำวัน มันไม่ใช่แค่ ‘นอน’ ด้วยกัน แต่มันคือความเสื่อมเสียอย่างที่สุดในชีวิตของฉัน ถึงเธอจะไม่ให้เกียรติฉัน แต่ก็อย่าดูถูกผู้หญิงคนอื่นอย่างนี้” หญิงสาวว่า แล้วก็สะบัดหน้าก่อนจะวิ่งหนีไป แทนกวีนิ่งงันอยู่อึดใจ ก่อนจะรีบปั่นจักรยานตามร่างอวบซึ่งมุ่งหน้าไปยังที่พัก
โดยไม่ได้สังเกตว่ามีใครคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่แถวนั้น ได้ยินบทสนทนาทั้งหมดอย่างชัดเจน
แทนกวีกับเพลงรัก... นอนด้วยกันอย่างนั้นหรอ
เสียงกรีดร้องดังลั่นทำให้คนที่จมอยู่ในห้วงนิทรา ผวาลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ แต่ก่อนที่เขาจะรู้ว่าอะไรไปเป็นไร ‘แรง’ บางอย่าง ก็พุ่งมากระแทกใส่ จนเขากระเด็นตกไปอยู่ข้างเตียงอย่างรวดเร็ว
“เอ๊ย!!!” แทนกวีอุทานออกมา ขณะพยายามยันกายขึ้น แล้วสิ่งที่ปรากฏ...ที่กำลังยื่นหน้าจากบนเตียงมาจ้องมองเขา ก็ทำให้ชายหนุ่มร้องดังด้วยความตกใจมากกว่าเดิม “เอ๊ย!!!”
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้.... เธอ เธอทำอะไรฉันเนี่ย” หญิงสาวร่างอวบที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง เครื่องสำอางเปรอะเปื้อนเต็มหน้า ซึ่งกำลังซ่อนร่างเอาไว้ใต้ผ้าห่มผืนหนา ชี้หน้ามาที่เขาด้วยความตระหนกถึงขีดสุด “ไอ้ชั่ว ไอ้เลว เธอมัน...” เธอด่าทอ พร้อมกับคว้าหมอนมาปาใส่เขา ชายหนุ่มที่ตื่นเต็มตาแต่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างพยายามปัดป้อง พร้อมร้องห้ามไปด้วย
“เอ๊ย.. เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน”
“ไม่ๆ ไอ้คนบ้ากาม ออกไปจากห้องฉันเลยนะ ไอ้หื่น ไอ้นักร้องเฮงซวย” เธอว่า พร้อมกับคว้าหมอนอีกใบมากระหน่ำตีใส่คนที่กำลังลุกขึ้น ก่อนในที่สุดแทนกวีจะยึดอาวุธจากมือเธอได้
“ป้า!!! นี่มันอะไรกัน” เขาตะโกนถามเสียงหอบ ด้วยความตกใจไม่แพ้กัน เพลงรักจ้องหน้าเขาเขม็ง ก่อนจะแผดเสียงใส่ด้วยความโกรธจัด
“ฉันควรถามเธอมากกว่า เธอทำอะไรฉัน ไอ้วิตถาร น่าเกลียด จิตทราม นิสัยไม่ดี ฉัน.... ฉันจะ....”
“ป้า.... ใจเย็นก่อน” เขาห้าม เมื่อเห็นเธอเบะหน้าทำท่าจะร้องไห้ “อย่าเพิ่งฟูมฟาย ขอเวลาผมแปปนึง”
นักร้องหนุ่มพยายามใช้สมองที่เพิ่งตื่นของตัวเองไตร่ตรองว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจำได้ว่าเมื่อคืนหลังจบมื้ออาหาร เขาและสมาชิกที่เหลือยกเว้นคีตภัคไปนั่งดื่มกันต่อ แต่เบียร์สองสามกระป๋องที่ดื่มเข้าไป ไม่น่าจะทำให้เขาเมาจนขาดสติ ขนาดที่จะ....
ชายหนุ่มมองตัวเองที่มีใส่เพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว มันไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะปกติเขาไม่ชอบใส่เสื้อผ้าเวลานอน แต่การที่เดรสสีดำของเธอตกอยู่บนพรมสีเลือดนกนี่สิ แสดงว่าคนที่ห่อตัวด้วยผ้าห่มตอนนี้.... แทนกวีกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก ขณะมองเห็นเสื้อผ้าของตัวเองกระจัดกระจายอยู่ใกล้กระเป๋าเดินทางสีแดงที่เปิดอ้าอยู่
เดี๋ยวนะ.... กระเป๋าสีแดง!!?!!
แทนกวีชะงัก ก่อนจะอุทานออกมา “ป้า!!! นี่มันห้องนอนนะ”
“ห้องเธอ?” เพลงรักทวนคำ เกือบจะต่อว่าเพราะคิดว่าเขากำลังโกหก แต่นักร้องหนุ่มก็เหมือนอ่านสีหน้าของเธอออก เขาจึงชี้ไปที่กระเป๋าเดินทางของตัวเอง หญิงสาวที่ตกใจแทบสิ้นสติเมื่อลืมตามาเห็น ‘ผู้ชาย’ นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ จึงเริ่มสำรวจรอบตัวบ้าง
เธอจำไม่ได้ว่าการตกแต่งห้องนอนเธอเป็นแบบไหน ใช่วอลเปเปอร์ลายดอกอย่างนี้หรือเปล่า แต่จำได้ว่าวิวที่มองออกไปจากหน้าต่างบานสูงข้างเตียง คือบ่อน้ำพุและทางรถวิ่งหน้าปราสาท ไม่ใช่ผืนป่าเขียวขจีใต้แผ่นฟ้าที่เริ่มสว่างอย่างที่เห็นอยู่นี้
“นี่เป็นห้องของเธอ...” หญิงสาวเหมือนย้ำกับตัวเอง
“ป้ามาทำอะไรในห้องผม”
“ฉัน...” เธอพยายามนึก แต่ก็นึกไม่ออก “ฉันจะมาทำอะไรในห้องเธอล่ะ เธอนั่นแหละพาฉันมาทำอะไรในห้องนี้ โอ๊ย ทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ หรือว่าเธอ... เธอมอมยาฉันใช่ไหม”
“ไปกันใหญ่แล้วป้า ไม่มีใครมอมป้าทั้งนั้น มีแต่ป้านั่นแหละมอมตัวเอง เล่นซดไวน์ไปเกือบหมดขวด จำไม่ได้เลยละสิ”
“ไวน์!?! ฉันเนี่ยนะ ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ฉันไม่ดื่มไวน์ เธอเอาเรื่องอะไรมาพูดเนี่ย ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้”
“ผมละอยากอัดวิดีโอให้ป้าดูตัวเองจริงๆ เอ๊ย...พี่โต้งกับลูกแก้วอัดไว้อยู่แล้วนี่นา นี่ถ้าป้าไม่เชื่อก็ไปดูกับตาได้เลย ป้าเมามาก ผมต้องอุ้มไปนอนที่ห้อง แต่ห้องป้านะ ตอนนั้นใครๆ ก็อยู่ น้องพลอยก็อยู่เป็นพยานให้ได้... แล้วทำไมป้าถึงมานอนให้ห้องผมเนี่ย หรือว่า ป้าเดินละเมอมาลักหลับผม”
“ไอ้บ้า ฉันจะทำอย่างนั้นได้ยังไง” เธอตวาดว่า ก่อนยกมือขึ้นกุมขมับ “โอ๊ย ปวดหัวจัง”
แทนกวีมองหญิงสาวด้วยความหนักใจ ก่อนถอนหายใจออกมา “ป้ารีบแต่งตัวเถอะ”
“รู้แล้วน่าไม่ต้องมาบอก” เธอทำท่าจะลงจากเตียง แต่ก็นึกขึ้นได้ “หันไปเลยนะ ฉันจะลุก”
“ทำเหมือนผมอยากดูมาก” เขาประชด แต่ก็หันไปอีกทางโดยดี เพลงก้าวลงจากเตียงโดยมีผ้าห่มพันรอบกาย โดยไม่ลืมก้มลงคว้าเดรสสีดำที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าหลุดออกจากตัวได้อย่างไร ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!! หญิงสาวพยายามทบทวนกับตัวเองอย่างเคร่งเครียด ลำพังแค่เข้าห้องนอนผู้ชายก็น่าอายมากพอแล้ว แต่นี่เธอยังเปลื้องผ้าอยู่บนเตียงเดียวกับเขาอีก เพลงรักรีบตรงไปยังอ่างล้างหน้า แล้วก็ต้องผวาเมื่อเห็นเงาที่สะท้อนออกมาจากกระจก
แวบแรกที่คิดคือผู้หญิงบ้าคนนั้นเป็นใคร ก่อนที่สมองจะจดจำได้ว่านั่นคือตัวเธอเอง หญิงสาวอ้าปากค้างกับเปียผมที่หลุดลุ่ย เครื่องสำอางเละเต็มใบหน้า... เมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไม!?!
หรือว่าเธอจะเมาอย่างที่เขาบอกจริงๆ แล้วอะไรที่ทำให้เธอขาดสติถึงขนาดนี้ได้ ไวน์ขาวหรอ ไวน์ขาวจากไหน แล้วเธอมาอยู่ในห้องเขาได้ยังไง แล้วทำไมเธอถึงถอดเสื้อ หญิงสาวคิดขณะเอาเสื้อตัวเดิมมาใส่ ก่อนจะพบว่าซิปเสื้อปริแตกพร้อมกับรอยเย็บตรงสะโพกได้ขาดเป็นทางยาว เหตุการณ์บางอย่างปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง เสียงดังแคว็กราวกับนกแสกร้องท่ามกลางความมืดตอนที่เธอขยับตัว มันเป็นความทรงจำที่กระท่อนกระแท่นเกิดกว่าจะปะติดปะต่อได้
โอ๊ย ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว
เพลงรักรีบคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวที่วางอยู่บนชั้นใสใกล้อ่างอาบน้ำ ก่อนล้างหน้าลวกๆ แล้วรีบออกมา เธอเหลือบมองชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อคลุมสีขาวเช่นเดียวกันซึ่งนั่งอยู่ปลายเตียง ทำท่าจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ได้แต่หลบตา
หากเมื่อคืนเธอเมา แล้วเขาไม่ได้เป็นคนพาเธอเข้ามาในห้องนี้ ก็คงเป็นเธอเองที่กระทำการน่าขายหน้าทั้งหมด ไม่รู้ว่าวิธีไหน แต่มันก็ทำให้เธอมองหน้าเขาไม่ได้ เพลงรักรีบตรงไปยังประตูโดยไม่พูดอะไร ก่อนที่เสียงของชายหนุ่มจะดังขึ้นมา
“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมมั่นใจ ว่าผมไม่ได้ทำอะไรป้าแน่ๆ”
หญิงสาวร่างอวบชะงัก ก่อนจะตอบโดยไม่หันกลับมามองด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร แต่เรื่องนี้....อย่าให้คนอื่นรู้เด็ดขาด โดยเฉพาะพลอย”
เธอก้าวออกไปทันทีที่เอ่ยจบ แต่ก่อนที่บานประตูจะปิดลง เสียงอุทานของเธอ ก็ดังแว่วกลับเข้ามา
“พลอย!!!”
-------------------------------------------------------------------------------
บางที... สวรรค์คงรู้ว่าเธอเคยแอบขโมยขนมเพื่อนเมื่อตอนอนุบาล จึงส่งวิบากกรรรมมาตามรังควานชีวิตเธอไม่หยุดหย่อนเช่นนี้
ทั้งที่อายุก็เลยเบญจเพสมาหลายปี แต่ทำไมเรื่องราวเลวร้ายจึงไม่เคยราวีไปจากชีวิตเธอ แค่เปิดประตูออกมาเจอหลานสาว เพลงรักก็ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร ยิ่งได้เห็นว่าหลานยืนอยู่กับใคร... เธอก็อยากกลั้นใจตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด
เป็นช่วงเวลาที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแท้จริง ก่อนที่เด็กสาวในชุดนอนจะโวยวายเสียงดัง
“ทำไมน้าเพลงออกมาจากห้องพี่แทน น้าเพลงไปทำอะไรในห้องพี่แทน!!! แล้วทำไมน้าเพลงแต่งตัวแบบนี้ นั่นชุดที่น้าเพลงใส่เมื่อคืนนี่” พิมพลอยที่ยิงคำถามโดยไม่เว้นวรรคหายใจ บุ้ยใบ้ไปยังเดรสสีดำในมือผู้เป็นน้า ก่อนจะเบิ่งตาโตเมื่อนึกบางอย่างได้ “อย่าบอกนะว่า เมื่อคืนน้าเพลงนอนห้องพี่แทน!?!”
“พลอย!!!” เพลงรักอุทานซ้ำ เพราะไม่รู้จะตอบเช่นไร ขณะที่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“ถ้าน้าของเธอนอนที่ห้องคนอื่น... ทำไมเธอไม่รู้”
“ก็เมื่อคืนพลอยกลับมา พลอยไม่ได้เปิดไฟ พลอยเกรงใจคิดว่าน้าเพลงนอนอยู่ แล้วพลอยก็ง่วงมากด้วย หัวถึงหมอนก็หลับสนิทเลย พลอยจะรู้ได้ยังไงว่าน้าเพลงหายไป” เด็กสาวเถียงด้วยความไม่พอใจคนถามเป็นทุนเดิม แม้ว่าคนที่บังเอิญเจอหน้าห้องแต่เช้าตรู่ จะแสดงความห่วงใยเมื่อรู้ว่าน้าสาวของเธอหายไป แต่การที่เขาตั้งคำถามเหมือนต่อว่า... มันก็ทำให้เธอยิ่งหงุดหงิด
“ตกลงน้าเพลงหายไปตั้งแต่เมื่อไร แล้วน้าเพลงเข้าไปทำอะไรในห้องพี่แทน!?!”
“น้า.... น้า...” เพลงรักได้แต่อ้ำอึ้ง โดนหลานสาวซักไซ้มันก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งมีสายตาคาดคั้นของผู้ชายร่างสูงใหญ่จับจ้องมาอีก เธอก็ยิ่งไม่รู้จะแต่งเรื่องอะไรมาโกหก “น้าแค่...แค่..”
“แค่มายืมยาสีฟันของพี่นะค่ะ” เสียงของชายหนุ่มเหมือนห่วงยางที่โยนมาให้คนใกล้จมน้ำ เธอรู้สึกรอดตายอย่างปาฏิหาริย์หลังขาดอากาศหายใจอยู่พักใหญ่ “มายืมแล้วก็ลืมเอาไป สมกับเป็นป้าจริงๆ แก่แล้วแก่เลยนะเนี่ย”
แทนกวีว่า พร้อมกับเดินเอายาสีฟันยัดใส่ในมือหญิงสาว ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “อ้าว...พี่คีย์ มาทำตรงอะไรนี้ครับ ห้องพี่คีย์อยู่อีกชั้นไม่ใช่หรอ หรือว่ามาหาพี่นัด... เช้านี้ยังไม่เห็นเลยนะ” เขาทำตัวปกติได้อย่างแนบเนียน
“นายตื่นนานแล้วหรอ” คีตภัคถามด้วยความคลางแคลง จะให้เขาเชื่อว่าเป็นแค่เรื่องยาสีฟัน...มันคงไม่ง่ายอย่างนั้น
“ก็ตื่นตอนที่ป้ามาเคาะประตูห้องเนี่ยแหละ สงสัยจะกลัวน้องพลอยเป็นลมเพราะกลิ่นปาก เลยรีบมาขอยืมยาสีฟันจากผมทั้งๆ ที่แต่งตัวแบบนี้ ไปๆ ป้า เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อซะ พาน้องพลอยเข้าไปด้วย”
นักร้องหนุ่มหาทางหลีกเลี่ยงสายตาจับผิดของคีตภัคได้อย่างสวยงาม เพลงรักรู้สึกขอบคุณแต่ก็ยังทำใจให้มองหน้าเขาไม่ได้อยู่ดี เธอจึงหันไปอีกทาง แล้วก็ทันได้เห็นหน้าแดงก่ำของหลาน
“พลอย!?! พลอยเป็นอะไร”
“พี่แทน... พี่แทน” เด็กสาวพูดจาตะกุกตะกัก มือข้างหนึ่งยกขึ้นจับตรงหน้าอกด้านซ้าย ส่วนอีกมือ ชี้มายังแผ่นอกผึงผายใต้เสื้อคลุมที่มัดไว้หลวมๆ ของนักร้องในดวงใจ เพลงรักเข้าใจอาการของหลานได้อย่างง่ายดาย เธอจึงรีบดุนหลังอีกฝ่ายให้กลับเข้าไปยังห้องฝั่งตรงข้ามด้วยกัน
แทนกวีหายใจออกมาอย่างโล่งอก แม้จะรู้ว่าพายุไม่ได้สงบ หากแต่กำลังก่อตัวขึ้นต่างหาก
“แทน ไปคุยกันที่ห้อง”
-------------------------------------------------------------------------------
ท่านประธานใหญ่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการคาดคั้นอย่างที่แทนกวีเตรียมคำตอบไว้ หากแต่ชายหนุ่มในเชิ้ตยีนส์สีเข้มที่เดินตามกลับเข้ามาในห้อง กลับใช้สายตากวาดมองไปรอบๆ อย่างเคร่งเครียด ซึ่งก็ทำให้แทนกวีที่ทำเป็นสาละวนเตรียมเสื้อผ้าอยู่หน้ากระเป๋าเดินทาง รู้สึกกระสับกระส่ายเต็มทน
“คุณนัดหายไปไหน” น้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงความต้องการบางอย่างเอาไว้ คนที่อยู่ด้วยกันมานานพอจะสัมผัสได้ว่า ‘การสืบสวน’ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ตื่นมาก็ไม่เจอ” เขาพยายามตอบกลับไปอย่างระมัดระวัง “พี่แทนลองไปดูข้างล่างไหม พี่นัดอาจลงไปเดินเล่น”
“ไม่ล่ะ ฉันรอในนี้ดีกว่า นายจะอาบน้ำไม่ใช่หรอ ไปสิ” คีตภัคว่า ขณะเดินมาหยุดที่ปลายเตียง ซึ่งน่ากลัวเหลือเกินว่าคนช่างสังเกตจะสงสัยว่าทำไมผ้าปูเตียงถึงได้ยับย่นนัก แถมผ้าห่มกับหมอนก็ยังกระเด็นไปคนละทิศละทาง นักร้องหนุ่มจึงแกล้งทำเป็นหาว แล้วรีบกระโดดกลับขึ้นที่นอนเพื่อเบี่ยงความสนใจอย่างรวดเร็ว
“ผมง่วงจังเลยพี่คีย์ ขอนอนต่ออีกนิดล่ะกันนะ”
“เมื่อคืนนายไม่ได้นอนหรอ” คำถามกลับของคีตภัคทำให้แทนกวีสะดุ้ง
“เอ๊ย นอนสิพี่ ทำไมจะไม่ได้นอนเล่า” เขารีบปฏิเสธอย่างมีพิรุธ นักร้องหนุ่มอาจเป็นคนกะล่อน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านประธานใหญ่ มันก็ยากที่จะแต่งเรื่องโกหก
“แล้วนอนกับใคร”
“เอ๊ย!!! จะให้นอนกับใคร ก็ต้องนอนกับพี่นัดสิ พี่คีย์ถามแปลกๆ” นักร้องหนุ่มว่า รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ขณะที่คีตภัคก้มลงหยิบหมอนที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมา แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยะเยือกเย็น
“คุณนัดแต่งหน้าเวลานอนด้วยหรอ”
“เอิ่ม...” แทนกวีอ้ำอึ้ง เครื่องสำอางที่เปรอะอยู่บนปลอกหมอนสีขาวทำให้ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร เขายันกายขึ้นมาก่อนตอบอ้อมแอ้ม “พี่นัดเขาก็เป็นอย่างนี้แหละ รักสวนรักงาม...”
“หรอ...” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สวนกลับเสียงเครียด แล้วก้มลงหยิบ ‘บางอย่าง’ มาชูใส่หน้าคนบนเตียง แทนกวีอ้าปากค้าง เมื่อเห็นว่ามันคืออะไร “แล้วผ้าเช็ดปากนี่ล่ะ ฉันจำได้ว่าเห็นนายผูกให้เพลงรักเมื่อวาน... นายจะบอกว่าคนละผืนก็ได้... แต่ฉันไม่เชื่อ”
เป็นน้ำเสียงจริงจังที่สุดเท่าที่แทนกวีเคยได้ยินมา เขามองหน้าเครียดขึงของอีกฝ่าย ก่อนถอนหายใจยาวพรืด
“ผมรู้ว่าพี่คีย์กำลังคิดอะไร แต่ผมกับป้าไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ”
“แล้วเพลงรักมาอยู่ในห้องนายได้ยังไง แล้วทำไมเธอถึงกลับออกไปด้วยสภาพแบบนั้น”
“ผมก็ไม่รู้”
“ไม่รู้!!! แทนกวี!!! เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลกนะ”
“แล้วพี่คีย์เห็นผมหัวเราะตอนไหน ผมก็ไม่ขำเหมือนกัน อยู่ๆ ตื่นมา ก็มาเจอเรื่องแบบนี้ เมื่อคืนผมเมาก็จริงนะพี่คีย์ แต่ผมก็ไม่ได้หน้ามืดจนไปลากป้ามาปล้ำในห้องนี้แน่ นี่ผมก็งงไปหมดแล้ว พี่คีย์ลองไปถามป้าเขาดูสิ ว่าทำไมถึงมานอนแก้ผ้าบนเตียงผม”
“แทนกวี!!! นายกำลังพูดจาดูถูกเพลงรักอยู่ รู้ตัวใช่ไหม เพลงรักเป็นฝ่ายเสียหาย อย่าทำให้เธอต้องเสื่อมเสียไปมากกว่านี้”
“ผมขอโทษ” นักร้องหนุ่มยอมรับที่พูดจาไม่ดี แต่ก็คิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของเขา เขาจึงเอ่ยต่อด้วยความหงุดหงิด “ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แต่รับรองว่าผมไม่ใช่ ‘ฝ่าย’ ที่ทำอะไรป้าแน่ๆ”
“แทนกวี!!!” คีตภัคคำรามชื่อนักร้องหนุ่มด้วยความโกรธจัด แทนกวีจงใจยั่วโมโหด้วยการท้าทายคำเตือนที่เขาเพิ่งบอกไป ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ไม่เคยเกรี้ยวกราดใส่ใคร จึงจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาน่ากลัว
ขณะที่ทั้งคู่ต่างมองกันด้วยความไม่พอใจ ประตูห้องพักก็เปิดออก พร้อมเสียงร่าเริงของนิยมการที่ดังเข้ามา
“บองชูร์ เมอร์สิเออ...อุ้ย อ้าว.... คุณคีย์ก็อยู่ด้วยหรอ แล้วทำไมทำหน้าซีเรียสกันอย่างนั้นละคะ มีเรื่องอะไรกันหรอคะ”
----------------------------------------------------------------------------
เพลงรักไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี
หญิงสาวในเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินกับกางเกงยีนส์สีดำถอนหายใจขาว หลังเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคนอื่นซึ่งกำลังรับประทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ อยู่ในซาลูนตรงชั้นล่างติดกับล็อบบี้ ด้วยการมานั่งเครียดเพียงลำพัง ณ เวิ้งเล็กๆ ของบ้านฝรั่งเศสทรงโบราณ บนเนินเตี้ยห่างออกจากตัวปราสาทที่พักไม่มากนัก
แสงอาทิตย์ของเช้าวันที่สองในฝรั่งเศส กำลังส่องสว่างขึ้นเรื่อยๆ แต่ความอับอายกำลังทำให้เธอมองเห็นแต่ความดำมืด แม้หลานสาวจะไม่ติดใจเรื่องการขอยืมยาสีฟันที่นักร้องหนุ่มอ้าง แต่คนอื่นล่ะ...
ไม่มีทางเลยสำหรับคีตภัคที่มาอยู่ในเหตุการณ์ด้วยความบังเอิญ ทำไมเขาถึงต้องมาหานิยมการในจังหวะที่หลานสาวเธอเปิดประตูออกไปด้วยความตื่นตระหนกด้วย พิมพลอยเล่าให้ฟังว่าชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถามอย่างร้อนรนว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนอาสาตามหาน้าสาวให้ด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะไปไหน สาวร่างอวบในชุดเสื้อคลุมก็ออกมาจากห้องตรงข้ามเสียก่อน
เพลงรักถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ด้วยความเคร่งเครียด ก่อนใบหน้าขาวใสของชายหนุ่มที่หลับตาพริ้ม และท่อนบนอันเปล่าเปลือยของเขาจะลอยขึ้นมาในหัว นี่เธอ ‘นอน’ กับเขาจริงๆ นะหรือ ไม่นะเพลงรัก ทำไมเธอถึงสร้างความอัปยศอดสูให้แก่ชีวิตตัวเองเช่นนี้ หญิงสาวซบหน้าลงกับฝ่ามือด้วยความสิ้นหวัง เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรแล้ว
“ป้ามานั่งอยู่นี่เอง” เสียงทักไม่ดังนักแต่ก็ทำให้คนใจลอยถึงกับสะดุ้ง เพลงรักหันมองต้นเสียง ก่อนชะงักเมื่อเห็นคนซึ่งปรากฏอยู่ในความคิด กำลังถีบจักรยานป้วนเปี้ยนอยู่รอบกาย
“คนอื่นเขาเก็บกระเป๋าเตรียมจะขึ้นรถกันหมดแล้ว ป้ากลับมานั่งชมวิวอยู่ตรงนี้... นี่ป้า มาขี่จักรยานเล่นกันไหม”
“จะบ้าหรอ เกิดเรื่องอย่างนี้เธอยังมีแก่ใจมาขี่จักรยานอีก” เพลงรักต่อว่า แต่เสียงกลับสั่น ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ใจจะเต้นระรัวขึ้นเมื่อนึกถึงท่อนแขนล่ำๆ กับกล้ามท้องเป็นมัดของชายหนุ่มยามไร้อาภรณ์ปกปิด ไม่รู้ว่าเขาซ่อนร่างกายกำยำของตัวเองไว้ใต้เสื้อยืดสีเหลืองตัวเล็กนั้นได้อย่างไร
“นี่ป้ามองอะไร” ชายหนุ่มที่หยุดปั่นจักรยาน เอ่ยทักเมื่อเห็นสายตาของเธอ เพลงรักสะดุ้งอีกครั้งด้วยความตกใจ นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่ หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ เธอกลายเป็นสาวหื่นไปได้อย่างไร หญิงสาวรีบสะบัดหน้าไล่ความคิดลามกออกไปจากหัว ก่อนกลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเองด้วยการทำเป็นหงุดหงิด
“ฉันไม่ได้มองอะไร นี่เธออย่ามาอยู่ใกล้ฉันนักได้ไหม เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิด”
“เข้าใจผิดเรื่องอะไร... เรื่องที่เราสองคนนอนด้วยกันนะหรอ”
“บ้า!!! น่าเกลียด อย่าพูดอย่างนี้นะ ฉันไม่ได้นอนกับเธอ ไม่สิ เราไม่นอนด้วยกัน มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ไม่ๆ... มันไม่เคยเกิดขึ้น เมื่อเช้าฉันแค่ไปยืมยาสีฟันเธอเท่านั้น จบแค่นั้น ไม่เคยมีเรื่องบัดสีบัดเถลิงใดๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น”
“นี่...” ชายหนุ่มว่า แล้วเดินมาใกล้ มองหญิงสาวร่างอวบอย่างพิจารณา “นี่ป้าไม่เคยใช่ไหม”
“เคย!?! เคยอะไร”
“ก็...” เขาเว้นจังหวะไป ก่อนแตะนิ้วชี้สองข้างเข้าหากัน “อย่างนั้นน่ะ ป้าไม่เคยใช่ไหม ถึงได้ทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ ก็แค่นอนด้วยกัน ไม่เห็นจะต้องโวยวายเลย นี่ผมจะบอกความจริงให้นะป้า...”
ก่อนที่เขาจะทันได้เอ่ยอะไรออกมา ‘บางอย่าง’ ก็กระทบเข้าที่ใบหน้า... ไม่แรง แต่น่าตกใจ
“เอ๊ย!!! นี่ป้าตบผมทำไม”
“สั่งสอนเด็กใจง่ายอย่างเธอไง สำหรับเธออาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ เธออาจมั่วกับใครก็ได้ แต่สำหรับฉัน... นี่ไม่ใช่กิจวัตรประจำวัน มันไม่ใช่แค่ ‘นอน’ ด้วยกัน แต่มันคือความเสื่อมเสียอย่างที่สุดในชีวิตของฉัน ถึงเธอจะไม่ให้เกียรติฉัน แต่ก็อย่าดูถูกผู้หญิงคนอื่นอย่างนี้” หญิงสาวว่า แล้วก็สะบัดหน้าก่อนจะวิ่งหนีไป แทนกวีนิ่งงันอยู่อึดใจ ก่อนจะรีบปั่นจักรยานตามร่างอวบซึ่งมุ่งหน้าไปยังที่พัก
โดยไม่ได้สังเกตว่ามีใครคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่แถวนั้น ได้ยินบทสนทนาทั้งหมดอย่างชัดเจน
แทนกวีกับเพลงรัก... นอนด้วยกันอย่างนั้นหรอ
ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 พ.ค. 2555, 13:40:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 พ.ค. 2555, 13:40:38 น.
จำนวนการเข้าชม : 1729
<< บทที่ 6 | บทที่ 10 >> |
ปอยฝ้าย 2 พ.ค. 2555, 15:30:45 น.
กรี้ด มีนอนด้วยกันแล้วววว
กรี้ด มีนอนด้วยกันแล้วววว
โฉมฉาย 2 พ.ค. 2555, 15:57:28 น.
ทำไมถึงอยู่บนเตียงเดียวกัน เหมือนพลาดเหตุการณ์อะไรไปสักอย่าง ตกลงว่าแทนคู่กันเพลงรักใช่ไหม
ทำไมถึงอยู่บนเตียงเดียวกัน เหมือนพลาดเหตุการณ์อะไรไปสักอย่าง ตกลงว่าแทนคู่กันเพลงรักใช่ไหม
ปลายสี 2 พ.ค. 2555, 19:10:49 น.
ปอยฝ้าย : แค่นอนเตียงเดียวกันเองค่ะ 555
โฉมฉาย : ไม่พลาดค่ะ เดี๋ยวอธิบายค่ะ
ืีnunoi : ต้องติดตามนะคะ ว่าพี่คีย์โดนบังคับหรือเปล่า ^^
Auuu : ไม่ซับซ้อนค่ะ อย่าเพิ่งเครียดนะ
Pat : ขอให้ติดตามค่ะ
ปอยฝ้าย : แค่นอนเตียงเดียวกันเองค่ะ 555
โฉมฉาย : ไม่พลาดค่ะ เดี๋ยวอธิบายค่ะ
ืีnunoi : ต้องติดตามนะคะ ว่าพี่คีย์โดนบังคับหรือเปล่า ^^
Auuu : ไม่ซับซ้อนค่ะ อย่าเพิ่งเครียดนะ
Pat : ขอให้ติดตามค่ะ
roseolar 2 พ.ค. 2555, 19:14:23 น.
โอ้วววว!!!!
เหตุไฉนมานอนเตียงเดียวกันได้เนี่ย หรือเทพจะอุ้มสม
ตอนนี้ทำให้รู้สึกว่าแทนเป็นพระเอกรึเปล่าน้า
แต่คิดไปคิดมา เสียดายคุณคีย์อ่ะ อยากให้คุณคีย์เป็นพระเอก
โอ้วววว!!!!
เหตุไฉนมานอนเตียงเดียวกันได้เนี่ย หรือเทพจะอุ้มสม
ตอนนี้ทำให้รู้สึกว่าแทนเป็นพระเอกรึเปล่าน้า
แต่คิดไปคิดมา เสียดายคุณคีย์อ่ะ อยากให้คุณคีย์เป็นพระเอก
พลอย 2 พ.ค. 2555, 21:11:23 น.
เห็นด้วย เสียดายคุณคีย์
เห็นด้วย เสียดายคุณคีย์
Pat 2 พ.ค. 2555, 21:12:56 น.
อืม เป็นแผนของใครบางคนหรือเปล่านิ แต่จะทำไปเพื่ออะไรน้า?
อืม เป็นแผนของใครบางคนหรือเปล่านิ แต่จะทำไปเพื่ออะไรน้า?