เล่ห์รักสาวนักพิสูจน์อักษร (ใช้ชื่อนี้ไปก่อนค่ะ)
เล่ห์รัก สาวนักพิสูจน์อักษร

พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…

แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น

แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า

ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)

ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น

+++++++++++++++++++++++++++++


Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่21

ตอนที่ 21


หลังจากพยาบาลสาวได้ขอตัวออกไปนอกห้องเพื่อให้นายหัวเมฆาได้มีเวลาพูดคุยกับพีระดาสองต่อสองตามที่เขาต้องการแล้ว ทันทีที่ประตูปิดนายหัวเมฆาก็ขยับข้ามไปนั่งฝั่งเดียวกับพีระดา ทำให้เจ้าของห้องสาวตกใจและขยับหนีนิดหน่อยแบบงงๆ ว่าเขาจะมาไม้ไหนกัน
“พีระดาครับ”เขามองหน้าสวยจัดของเธอพร้อมส่งสายตาหวานฉ่ำ
“มีอะไรคะนายหัว”

“หายโกรธผมหรือยังครับ”ฝ่ามือหนาอุ่นถือวิสาสะจับมือเรียวของเธอมากุมเอาไว้พร้อมบีบกระชับอย่างแน่นหนา รอยยิ้มอบอุ่นส่งตามติดไปให้หญิงสาว


“ปล่อยเถอะค่ะนายหัว” พีระดาดึงมือกลับและถอยห่างออกไปทันที สีหน้าแสดงออกว่าไม่พอใจ

“ทำไมล่ะครับ หรือคุณยังไม่หายโกรธผม ผมเสียใจจริงๆกับเรื่องที่เกิดขึ้น”

“เอาเป็นว่าฉันให้อภัยคุณในเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดก็แล้วกัน เพราะฉันเองก็เป็นสาเหตุให้คุณต้องเจ็บตัวมากขนาดนี้”พีระดามองสภาพร่างกายของเขาที่ยังไม่หายดีด้วยฝีมือของภาคินัย


“ไม่เป็นอะไร สำหรับคุณผมอภัยให้ได้เสมอ” น้ำเสียงหวานนุ่ม พีระดามึนงงเขาไม่เหมือนนายหัวเมฆาคนเดิมที่เธอเคยพบครั้งแรก


“ แต่คุณทำแบบนี้มันไม่เหมาะเลยนะคะ คุณน่าจะทราบจากข่าวแล้วว่าฉันกำลังจะแต่งงาน” แม้ว่าพีระดาจะไม่มั่นใจว่างานแต่งงานจะถูกจัดขึ้นหรือเปล่าเพราะปัญหาที่ยังเคลียร์กันไม่จบ แต่ก็ไม่อยากให้ความหวังนายหัวเมฆาเพราะรู้หัวใจตัวเองดี


“ผมทราบเรื่องที่คุณตัดสินใจแต่งงานจากข่าวในหนังสือพิมพ์แล้วครับถึงต้องมาหาคุณถึงที่นี่”


“อย่าบอกนะคะว่านายหัวจะมาแสดงความยินดีกับฉัน”หญิงสาวหัวเราะแหะๆอยากรู้จริงว่าเขาจะมาไม้ไหนอีก แต่คราวนี้ท่าทางเข้ม ขรึม ดุดันเปลี่ยนไปสิ้นเชิงกลายมาเป็นหวานเลี่ยนจนเธอรู้สึกสยอง

นายหัวเมฆาหุบยิ้มทันที “เปล่าครับ ที่มาหาคุณก็เพราะผมมาขอร้องให้คุณตัดสินใจใหม่”


“ตัดสินใจใหม่อย่างนั้นเหรอคะ”


“ใช่ครับ การแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นคุณก็รู้ว่ามันเป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของผู้หญิงทีเดียว”


“แน่นอนค่ะ”


“ถ้าตัดสินใจผิดก็เหมือนกลับผลักตัวเองลงไปในหุบเหว” คนช่างเปรียบเปรยเริ่มหว่านล้อม


พีระดาพยักหน้ารับคำ“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะ”



“เพราะฉะนั้นคุณควรจะเลือกคนที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด คนที่รักและพร้อมจะดูแลชีวิตของคุณตลอดไป”


พีระดายิ้มแบบฝืดๆเริ่มรู้ตัวว่านายหัวเมฆาจะหว่านล้อมเข้าเรื่องอะไร “หวังว่านายหัวคงไม่ได้หมายความว่าให้ฉันเลิกกับเขาและมาคบกับคุณแทนนะคะ”


เขาขยับเข้ามาใกล้เธออีกนิดพีระดาถอยล่นไปติดขอบโซฟา “มันจะดีกว่าไหมครับถ้าคุณเลื่อนการแต่งงานออกไป และรับผมไว้พิจรณาอีกสักคน”

“อะไรนะ! ” หญิงสาวเบิกตากว้าง


“ฟังไม่ผิดหรอกครับ ผมมาหาคุณก็เพราะเรื่องนี้”


หญิงสาวกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก “คุณก็ทราบดีนี่คะการแต่งงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ประกาศว่าแต่งงานออกไปแล้วจู่ๆจะมาเลื่อนเพื่อขอดูใจกับผู้ชายอีกคนใครเขาทำกันบ้างล่ะคะ มันเป็นเรื่องบ้าที่สุดตั้งแต่ฉันเคยได้ยินมา”


“แต่มันก็ดีกว่าการที่คุณแต่งงานไปแล้วมารู้ตัวอีกทีว่าเลือกคนผิด นายภาคินัยเป็นเสือผู้หญิงเจ้าชู้ตัวยงผมให้คนไปสืบมา” นายหัวเมฆาพูดอย่างมั่นใจเพราะเขาให้คนไปสืบมาจริงๆแต่เขาคงลืมไปว่าคนเราสามารถเปลี่ยนกันได้หากเจอคนที่ใช่เหมือนที่เขาเองกำลังเป็นอยู่ในเวลานี้


พีระดามั่นใจว่าคนตรงหน้าก็คงไม่เบาเหมือนกันนั่นแหละในเรื่องผู้หญิง


“เหมือนนายหัวเมฆาด้วยหรือเปล่าค่ะ”


คนผิวแทนหน้าคมแทบจะสะอึกเมื่อถูกโต้ในประเด็นนี้ “เมื่อก่อนใช่ แต่นับจากนี้ผมจะไม่ทำตัวเหมือนเมื่อก่อนถ้าหากคุณให้โอกาสผม”

พีระดาทำทีเดินไปหยิบรีโมตมาเปลี่ยนช่องรายการโทรทัศน์จากนั้นก็ย้ายไปนั่งในฝั่งตรงกันข้ามกับเขา

เขารับรู้ความรู้สึกเธอได้“กลัวผมเหรอครับ ผมไม่ฉวยโอกาสกับคุณหรอกผมสัญญา” นัยน์ตาแวววาวระยับมองเธอ

พีระดารู้สึกว่าห้องนี้แม้จะเปิดแอร์จนเย็นฉ่ำแต่เวลานี้ความเย็นของแอร์ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลยเมื่อเจอบุกหนักถึงลูกถึงคนแบบนี้


“ฉันไม่ได้กลัวคุณหรอกค่ะ ฉันเชื่อว่าลึกๆแล้วคุณไม่ใช่คนชั่วร้ายอะไร” หญิงสาวตอบตรงกับใจ “แต่ว่าเรื่องของเรามันคงเป็นไปไม่ได้ คุณสนใจฉันจริงๆหรือว่าแค่อยากจะเอาชนะกันแน่ถามใจตัวเองอีกอีกทีดีกว่าค่ะ”

นายหัวเมฆาเม้มริมฝีปากแน่น


“พีระดา คุณเชื่อเรื่องรักแรกพบไหม” คนถามสื่อบางอย่างออกมาจากแววตา

พีระดานึกย้อนไปถึงงานสัปดาห์หนังสือครั้งหนึ่ง ภาคินัยไปร่วมงานและแจกลายเซ็นให้กับบรรดาแฟนคลับแค่เพียงเห็นหน้าเขาแวบแรกความรู้สึกบางอย่างมันก็วิ่งเข้ามาเกาะกุมหัวใจของเธอเอาไว้ทันที ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มบางๆ


“เชื่อสิคะ เพราะมันเคยเกิดขึ้นกับฉันเหมือนกัน”


“นั่นแหละครับคือสิ่งที่ผมจะบอกกับคุณ” เขามองหน้าเธอจ้องลึกไปในดวงตาคู่สวย “มันเกิดขึ้นกับผมทันทีที่เห็นหน้าคุณ แม้ว่าผมจะพยายามปฏิเสธคุณออกไปจากหัวใจตั้งไม่รู้กี่ร้อยรอบ”


พีระดารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเขาจู่โจมเธอจนตั้งตัวไม่ติด


“นายหัวเมฆาคะ ฉันขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆที่คุณมีให้แต่ฉันคงต้องตอบตามตรงมันไม่มีทางเป็นไปได้”


นายหัวเมฆารู้สึกเจ็บลึกๆในหัวใจอาการแบบนี้เขาไม่เคยเป็นมาก่อน “สำหรับผมไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ผมจะรอพีระดาถ้าคุณยังไม่แต่งงานผมก็ยังมีสิทธิ์ที่จะสู้จนวินาทีสุดท้าย”


ร่างสูงยืนขึ้นเต็มความสูงเกือบร้อยแปดสิบ “วันนี้ผมรบกวนคุณมากไปแล้ว ผมคงต้องขอตัวกลับก่อนแต่ผมยังอยู่ที่นี่อีกหลายวันจนกว่าจะตามเมยาวีพบ ผมจะมาหาคุณอีกจนกว่าคุณจะใจอ่อนรับข้อเสนอของผม” นายหัวเมฆาหันมามองหน้าพีระดาแวบหนึ่งก่อนจะเดินออกไปจากห้องด้วยความรู้สึกเจ็บลึกๆที่ถูกปฏิเสธแต่เขาก็จะสู้จนวินาทีสุดท้ายเพื่อชิงหัวใจของเธอมา


++++++++++++++++++++++++++++++


สุชาวีดูดกาแฟสดแก้วใหญ่อย่างสบายอารมณ์ กลิ่นหอมของกาแฟคั่วบดรสดียังติดอยู่ที่ปลายจมูก เธอชอบทานกาแฟสดมันหอมและกลมกล่อมกว่ากาแฟสำเร็จรูป สุชาวีเคยแอบคิดคิดฝันว่าอยากมีร้านกาแฟสดเล็กๆในทำเลดีๆ ที่มีเบเกอรีฝีมือของเธอทำเองบริการลูกค้าไปด้วย แต่ทว่าเมื่อนึกถึงเงินเก็บในบัญชีทีไรแล้วก็ได้แต่ถอนใจมันก็คงเป็นแค่ความฝันเท่านั้น ตอนนี้ที่สำคัญคงจะต้องหาเงินใช้หนี้บัตรเครดิตก้อนใหญ่ให้หมดเสียก่อน เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจแท้ๆทำให้เธอเป็นหนี้เกือบสองแสน


ตาหวานคมของเธอมองอะไรไปเรื่อยเปื่อยในขณะที่มือเรียวเล็กกำลังตักสตอร์เบอร์รีย์ชีสเค้กที่หายไปเกือบครึ่งเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย รถคันหนึ่งที่ดูคุ้นตาขับเข้ามาในคอนโดหรูแห่งนี้ จากนั้นผู้ชายที่ทำให้สุชาวีจำได้ไม่มีวันลืมก็เดินออกมาและอ้อมไปเปิดประตูรถให้สาวนักศึกษาหุ่นบางหน้าตาดี เมื่อผู้ชายคนนั้นหันหน้ามาทางเธอพร้อมกับกำลังเดินควงสาวนักศึกษาตรงมาที่ร้านกาแฟใต้คอนโดสุชาวีนั่งอยู่


“กิตติ!


พยาบาลสาวลุกขึ้นยืนทันทีขาทั้งสองข้างรู้สึกว่าไม่มีเรี่ยวแรงมันแข็งดั่งโดนสาปเธอกำลังตัดสินใจว่าจะวิ่งเข้าไปหาเขา หรือควรจะวิ่งหนีไปให้ไกลจากคนแบบนี้ดี สุชาวียังลังเลว่าการจะวิ่งเข้าไปทวงเงินสองแสนที่เขาเอาไปมันจะได้ผลออกมาเป็นแบบไหน หรือว่าเธอจะทนใช้หนี้ต่อไปคิดเสียว่าทำทานและรีบหลบให้ไกลจากผู้ชายคนนี้ แต่เธอตัดสินใจช้าไปเมื่อเสียงกระดิ่งหน้าร้านกาแฟดังขึ้นเพราะมีลูกค้าเปิดประตูร้านเข้ามา เสียงพนักงานประจำร้านกาแฟสดร้องทักทายสวัสดีลูกค้าใหม่ ปลุกสติให้พยาบาลสาวตื่นมาพบกับความเป็นจริงตรงหน้า


“เดี๋ยวลูกน้ำขอซื้อขนมเค้กกับกาแฟเย็นไปฝากพี่เขาเสียหน่อยนะคะ พี่เขาคงไม่ได้ออกมาจากห้องเลยทั้งวัน”

“ดูท่าทางจะสนิทกันมากนะลูกน้ำถึงยอมให้รุ่นพี่คนนี้เขามาค้างด้วยที่คอนโด”


“พี่เขาเป็นรุ่นพี่ที่คณะของลูกน้ำค่ะแต่เขาจบไปได้สองปีแล้ว ตอนลูกน้ำเข้าปีหนึ่งพี่คนนี้เป็นพี่รหัสของลูกน้ำเขาดูแลลูกน้ำอย่างดี แต่ที่พี่เขามาหาลูกน้ำครั้งนี้ลูกน้ำก็รู้สึกแปลกใจมันไม่เหมือนการมาเยี่ยม พี่เขารวยจะตายไปจะพักโรงแรมห้าดาวก็ยังไหวแต่ทำไมต้องขอมาค้างกับลูกน้ำด้วยก็ไม่รู้”


“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้พี่ก็อดล่ะสิ.........”ชายหนุ่มทำตาวาวใส่สาวน้อย


“พี่กิตล่ะก็” สาวน้อยร่างบางทุบแขนเขากลับเบาๆ


แต่เมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นเพื่อจะเดินไปที่เคาร์เตอร์กาแฟผู้หญิงที่ยืนอยู่ในร้านคนหนึ่งทำให้เขาชะงักอยู่กับที่เมื่อเห็นหน้าเธอ เขา ปล่อยมือที่โอบรัดเอวแบบบางของนักศึกษาสาวลงทันที


“สุชาวี!”


“คุณมาทำอะไรที่นี่สุชาวี”ท่าทีตะลึงงันของกิตตินักศึกษาที่มาด้วยถึงกับตีสีหน้าไม่พอใจออกมา


“ใครกันคะพี่กิต มองเสียตะลึงขนาดนั้น”


“ไม่ใช่เรื่องของเธอลูกน้ำ ขึ้นไปรอพี่ที่ห้องก่อน”


“ลูกน้ำไม่ไป บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ทำไมต้องมองกันขนาดนี้ด้วย”


“ลูกน้ำขึ้นไปสิ”


“ไม่ไป บอกมานะผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”


กิตติบีบต้นแขนเรียวของนักศึกษาสาวในเครื่องแบบแน่นและกระซิบเบาๆ


“ขึ้นไปรอบนห้องของเธอเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”


“พี่กิต”


นักศึกษาสาวกระฟัดกระเฟียดผลักประตูออกไปอย่างหัวเสีย พยาบาลสาวเมินหน้าไปทางอื่น


กิตติรีบเดินเข้ามาหาพยาบาลสาวทันที“คุณหายไปอยู่ไหนมาสุชาวีผมตามหาคุณจนทั่ว เบอร์มือถืดเดิมคุณก็เปลี่ยนใหม่”


“จะตามหาฉันอีกทำไมคะกิตติในเมื่อคุณเองที่เป็นฝ่ายขอถอนหมั้นฉัน”


กิตติอึกอัก “ผมขอโทษสุชาวี ผมรู้แล้วว่าเรื่องนั้นมันเกิดจากการเข้าใจผิด ผมเจอไอ้เวรตะไลนั่น มันบอกความจริงกับผมหมดแล้ว ผมขอโทษที่ไม่เชื่อคุณตั้งแต่ทีแรก”


สุชาวียิ้มหยัน “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดีใจที่คุณไม่เชื่อเพราะมันทำให้ฉันได้รู้ว่าตัวเองโชคดีที่ไม่ตกลงแต่งงานกับคุณไปเสียก่อน”


พยาบาลสาวเดินเลี่ยงเขาไปเพื่อจะเดินออกไปข้างนอกแต่ถูกดึงตัวกลับมา


“สุชาวี ผมขอโทษผมรู้ว่าผมผิดคุณจะไม่ให้อภัยผมเลยเหรอ”


“เราจบกันไปแล้วนะคะกิตติ คุณเองก็มีคนอื่นแล้วจะมายุ่งกับฉันอีกทำไม”


“เด็กนั่นก็แค่ของเล่นแก้เหงาของผมเท่านั้น คุณต่างหากที่ผมรักจริง”


“แต่ฉันคงจะรักคนอย่างคุณไม่ลงอีแล้ว”เธอเหยียดยิ้มราวกับเขาเป็นสิ่งที่น่ารังเกลียดที่สุดในสามโลก


“ทำไมมองผมแบบนี้สุชาวี!” เขาดึงเธอเข้ามากอดไม่สนใจพนักงานในร้านที่นานมา


“ให้อภัยผมนะ แล้วผมจะดีกับคุณให้มากๆ จะไม่ทำให้คุณเจ็บอีก”


“พอกันที” สุชาวีผลักเขาออกห่างและตบหน้าเขาแรงที่สุดเท่าที่เธอมีแรงอยู่


“ถ้าจะติดต่อฉันขอให้เป็นเรื่องที่คุณคิดจะเอาเงินสองแสนมาคืนฉันดีกว่า”


“เอ่อ...วันนี้ผมยังไม่มีหรอก.... แต่ว่าอีกไม่นานผมคงได้เงินก้อนใหญ่ ตอนนี้ผมมีช่องทางหาเงินได้ทีละมากๆ ผมจะให้คุณได้มากกว่าสองแสนที่เคยยืมไปอีก”


“คงจะเข้าบ่อน หรือไม่ก็เล่นพนันบอลอีกตามเคย” สุชาวีส่ายหน้าและยิ้มเยาะ


“ไม่ใช่ มันดีกว่านั้นอีกและได้เงินชัวร์”


“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนมีเงินมาคืนเมื่อไหร่ค่อยติดต่อมาละกัน” สุชาวีไม่อยากสนใจเขาอีกเธอเข็ดหลาบกับผู้ชายแบบกิตติ


“เดี๋ยวสุชาวี คุณยังไปไม่ได้นะคุณต้องบอกผมมาก่อนว่าคุณพักอยู่ที่ไหน และผมจะติดต่อกับคุณได้อย่างไร”


“อย่ารู้เลยดีกว่าค่ะ ถ้าคุณมีเงินคืนฉันเมื่อไหร่ก็เมลล์ไปบอกฉันละกัน ฉันยังใช้เมลล์เดิม”


“ไม่นะ บอกผมมาเดี๋ยวนี้นะสุชาวีว่าตอนนี้คุณทำอะไรอยู่ที่ไหน”เขาเอาร่างบังประตูไม่ปล่อยให้เธอออกไปโดยง่าย เมื่อหญิงสาวพยายามดันเขาให้ออกไปกิตติกับกอดเธอเอาไว้แน่น


“ปล่อยฉันค่ะ คุณไม่มีสิทธิ์จะมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตของฉันอีก”


“ผมไม่ให้คุณไปสุชาวีคุณต้องบอกผมมาก่อน อย่าเดินหนีผมไปแบบนี้”


“ เอามือคุณออกไป” สุชาวีมีน้ำเสียงโกรธจัดปนรังเกียจและผลักดันกิตติออกห่างแต่ไม่ได้ผล พนักงานในร้านกาแฟมองมาด้วยความสนใจแต่ไม่กล้าเข้ามาช่วยเหลือเพราะไม่แน่ใจว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอย่างไร



แต่แล้วไม่ถึงครึ่งนาทีต่อมากิตติก็ถูกกระชากอย่างแรงจากนั้นหมัดหนักๆของคนหน้าคมผิวเข้มก็กระแทกกำปั้นไปที่ใบหน้าของกิตติอย่างแรงจนเขาล้มลงไม่เป็นท่า


“ใครวะ มึงเป็นใคร มาชกกูทำไมเนี่ย เสือกอะไรกับเรื่องชาวบ้านด้วย” กิตติโวยวายทั้งที่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมามอง เขากุมโหนกแก้มที่ปวดหนึบอย่างเจ็บปวดและเจ็บใจแต่เมื่อเห็นคนที่ฝากกำปั้นมาบนใบหน้าอย่างเต็มตาก็แทบไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ได้


“นายหัวเมฆา!”


คนที่กำลังโมโหจัดเมื่อเห็นผู้หญิงกำลังถูกลวนลามกลางวันแสกๆ และที่สำคัญเธอเป็นพยาบาลส่วนตัวของเขากลับต้องประหลาดใจเมื่อคนที่เขาชกรู้จักชื่อของเขา ไม่ต่างจากสุชาวีที่ยืนอยู่ข้างๆนายหัวเมฆาก็ประหลาดใจที่กิตติรู้จักกับนายหัว


นายหัวเลือดร้อนเริ่มรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาผู้ชายตรงหน้าขึ้นมาเขาพยายามจะนึกและเริ่มจำได้


“ที่แท้ก็นายนี่เอง”


เมื่อแน่ใจว่าคนที่ชกเป็นใคร นายกิตติก็เปลี่ยนท่าทีดูสุภาพขึ้นมาก


“นายหัวเมฆา มาทำอะไรที่นี่เหรอครับถึงว่าผมโทรไปหาที่ไร่เขาบอกว่านายหัวไม่อยู่”


“ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคนอย่างนาย แต่จำเอาไว้ว่าอย่างมายุ่งกับพยาบาลส่วนตัวของผมอีก” เขาคาดโทษก่อนจะดึงมือสุชาวีให้ตามออกไปเมื่อเห็นพยาบาลสาวเอาแต่ยืนงง


“พยาบาลส่วนตัว!”


พยาบาลส่วนตัวหรือคู่นอนส่วนตัวกันแน่วะกูไม่เชื่อหรอก กิตติคิดและยิ้มหยันอยู่ในใจเขามองตามร่างของทั้งคู่ที่ผลักประตูเดินออกไปความรู้สึกเสียดายสุชาวีแล่นเข้าจับใจ แต่ไม่กล้าต่อกรกับนายหัวเมฆาด้วยเหตุผลหลายข้อนายหัวหนุ่มมหาเศรษฐีกระเป๋าหนักคนนี้เคยเป็นลูกค้าระดับวีไอพีของเขาแม้ว่าพักหลังจะไม่ยอมใช้บริการจากเขาอีกเลยไม่ว่าเขาจะพยายามโทรไปเสนอบริการอย่างไร ซึ่งกิตติคิดว่าอาจเป็นเพราะสุชาวีก็ได้


กิตติจัดเสื้อผ้าของเขาให้เข้าที่อย่างอารมณ์เสียและกระแทกกำปั้นที่โต๊ะนั่งดื่มกาแฟโดยไม่สนใจพนักงานประจำร้านที่มองมา


กิตติเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีแต่มีนิสัยเห็นแก่ตัวอย่างถึงที่สุดเขามีความฝันว่าอยากจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ดีและที่สำคัญเธอจะต้องมีพรหมจรรย์ให้เขาได้ฝ่าฟันมันในคืนเข้าหอเมื่อพ่อแม่ของเขาไปทาบทามสุชาวีซึ่งเป็นลูกของเพื่อนสนิทมาเป็นคู่หมั้นเขาก็ไม่คัดค้านเพราะเห็นว่าเธอสวย กริยามารยาทเรียบร้อย และเขาเชื่อมั่นว่าเธอเป็นสาวพรหมจรรย์ จนกระทั่งเมื่อสามปีก่อนสุชาวีโชคร้ายขณะเดินทางกลับบ้านเธอถูกคนเมายาที่กำลังหนีตำรวจจับเป็นตัวประกันเข้าไปในบ้านร้างสองวันสองคืนซึ่งตอนนั้นเป็นข่าวด้วยรายการโทรทัศน์หลายรายการติดตามข่าวนี้กิตติเชื่อว่ากว่าตำรวจจะช่วยเธอออกมาได้สองวันที่อยู่กับคนร้ายเมายาพรหมจรรย์ของเธอคงถูกย่ำยีไม่เหลือชิ้นดี กิตติรับไม่ได้ที่คู่หมั้นสาวจะไม่หลงเหลือความบริสุทธิ์เอาไว้ให้เขาอีกเขาตัดสินใจให้ทางบ้านขอถอนหมั้นเธอซะแต่ภายหลังที่เธอหายตัวไปเขาเพิ่งจะมารู้ความจริงจากปากไอ้คนร้ายที่บังเอิญเขาเจอมันหลังจากมันพ้นโทษออกมามันสารภาพกลับเขาว่ามันไม่ได้แตะต้องเธอสักนิด พยาบาลสาวเป็นคนดีมากพยาบาลสาวทำแผลที่ถูกยิงให้กับมันทำให้กิตติเสียดายสุชาวีขึ้นมา


เบื้องหน้ากิตติเป็นเซลล์ขายยาและอาหารเสริมของบริษัทยักษ์ใหญ่ส่วนเบื้องหลังกิตติคือผีพนันตัวยงและหันเหเข้ามาเป็นนายหน้าค้าน้ำกามให้กับดาราและนางแบบ ตลอดจนนักศึกษาที่ต้องการหารายได้ก้อนงาม จากการขายเรือนร่างของพวกเธอให้กับพวกมหาเศรษฐีและเหล่าบรรดาไฮโซด้วยความเต็มใจ


++++++++++++++++++++++++++++++


ความอึมครึมภายในรถสิ้นสุดลงเมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจจะพูดขึ้นก่อน แต่มันเป็นความบังเอิญที่คนทั้งคู่พูดขึ้นพร้อมๆกันในประโยคคำถามเดียวกัน


“คุณรู้จักผู้ชายคนนั้นด้วยเหรอ”


“ค่ะ” สุชาวีพยักหน้า


“ถ้าอย่างนั้นคุณเล่ามาก่อน” นายหัวเมฆาพูด

“กิตติเป็นอดีตคู่หมั้นของฉัน แต่เขาขอถอนหมั้นฉันเมื่อสองปีก่อน”

นายหัวเมฆาขมวดคิ้วไม่อยากเชื่อว่าสุชาวีจะเคยเป็นคู่หมั้นของคนแบบนั้น

“คิดอย่างไรไปรักกับคนแบบนั้น”


สุชาวีส่ายหน้า “มันก็แค่การจับคู่ของผู้ใหญ่ ในตอนแรกฉันก็คิดว่าเขาเป็นคนดีจึงไม่ได้ปฏิเสธ” สุชาวีไม่ปฏิเสธว่าครั้งแรกๆที่พบกันด้วยบุคลิกหน้าตาเขา ความอ่อนโยนสุภาพทำให้เธอไม่ปฏิเสธการหมั้นหมายจากผู้ใหญ่แต่เมื่อรู้จักเขามากขึ้นเธอจึงรู้ว่าภายใต้หน้ากากที่หล่อเหลาข้างในเต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้ายและความเห็นแก่ตัว


“แล้วคุณล่ะคะรู้จักกับเขาได้อย่างไร”


“ก็อาชีพของหมอนั่นไง” สุชาวีแปลกใจนิดหน่อยไร่กาแฟของเขา ต้องสั่งซื้ออาหารเสริมด้วยเหรอ


“เขาขายยากับอาหารเสริม จะเกี่ยวข้องกับที่ไร่กาแฟของคุณได้ยังไง หรือว่าคุณสั่งอาหารเสริมจากบริษัทของเขามาให้พนักงานทาน” พยาบาลสาวตีสีหน้างง


“คุณเป็นคู่หมั้นของนายกิตติไม่รู้จริงๆเหรอว่าไอ้หมอนั่นทำอาชีพอะไรกันแน่”


“รู้สิคะ เขาเป็นเซลล์ขายยาและพวกอาหารเสริมนำเข้าของบริษัทดังแห่งหนึ่ง แต่ปัจจุบันฉันไม่ทราบว่าเขายังทำงานที่เดิมอยู่อีกหรือเปล่า”


นายหัวเมฆามองสุชาวีอย่างประเมินว่าเธอไม่รู้จริงๆหรือแกล้งไม่รู้กันแน่


“คุณแน่ใจเหรอว่าเขาขายยา เพราะนายกิตติที่ผมรู้จักเขาคือนายหน้าค้าเนื้อสดระดับไฮเกรด”


สุชาวีไม่อยากจะเชื่อจากคำบอกเล่าของนายหัว แต่มันก็คงไม่แปลกถ้ากิตติจะทำเพราะคนอย่างเขาเห็นแก่ตัวและเห็นแก่เงินอย่างที่สุด


“เขาถลำลึกได้ขนาดนั้นเชียวเหรอ”


“ดูคุณไม่แปลกใจเท่าไหร่เลย”


“ฉันเชื่อว่าเขาเลวได้กว่านี้อีกเยอะ”


“ผมก็คิดเหมือนกัน”


“ถ้าเขาเป็นนายหน้า คุณก็เป็นลูกค้าของเขาสินะถึงได้รู้จักกัน” สุชาวีคิดตาม


นายหัวเมฆายิ้มแบ่งรับแบ่งสู้ “ก็แค่เคยเป็นน่ะ ของสวยๆงามๆ ที่เขาเต็มใจไม่ได้บังคับมา แต่นั้นมันเมื่อก่อนน่ะพักหลังมาผมชักเบื่อ แต่นายคนนี้ก็ยังตื้อเสนอสาวๆมาให้ไม่หยุดหย่อน”


พยาบาลสาวรู้สึกรังเกียจกิตติมากกว่าเดิมอีกเป็นสิบเท่า แต่ก็มองนายหัวเมฆาด้วยสายตาแปลกๆ



“ทำไมคุณมองผมด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายโสดที่ยังไม่มีใครจับจอง เวลาต้องการขึ้นมาคุณจะให้พวกเราทำอย่างไรล่ะ มันก็ดีกว่าไปนั่งหลอกผู้หญิงเอาไว้สนองความต้องการทั้งที่ไม่ได้รักเขาจริงไม่ใช่เหรอ”


“พวกเศรษฐีอย่างคุณคงมีความสุขมากที่ได้ใช้เงินซื้อพวกเธอมาตอบสนองอารมณ์”น้ำเสียงและสายตาของพยาบาลสาวเจือความเศร้าลงไป


“ท่าทางร่างกายอาจจะใช้ แต่ทางใจมันไม่มีความสุขหรอกคุณ”


“ว่าแต่คุณจะมานั่งซักเรื่องส่วนตัวของผมทำไมกัน”


“ก็ตอนนี้คุณให้ฉันเป็นพยาบาลส่วนตัวไม่ใช่เหรอคะ บางทีฉันอาจจะบริการตัวเลือดหาเชื้อเอชไอวี หรือไม่ก็สอนวิธีใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องให้กับคุณเป็นบริการแถมเสียเลย”พยาบาลคนสวยประชด


นายหัวเมฆาหัวเราะเบาๆในลำคอ“ถ้าเรารู้จักกันนานกว่านี้ผมคงนึกว่าคุณแอบชอบผมเลยพูดประชดเพราะความหึงหวง”


“คนหลงตัวเอง”สุชาวีค้าน


“หลงตัวเองตรงไหนพวกผู้หญิงนี่แปลกพอเล่าเรื่องจริงให้ฟังกลับรับไม่ได้ แต่ทีเรื่องโกหกล่ะชอบฟังกันจริง”


“ฉันแค่ไม่ชอบผู้ชายที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆก็เท่านั้น”


เขายิ้มและมองหน้าเธอ “ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน ถึงคิดจะหาแบบถาวรอยู่นี่ไง”


“หาทั้งทีจะหาที่เขาโสดหน่อยก็ไม่ได้ ทำไมต้องไปยุ่งกับคนที่เขามีเจ้าของอยู่แล้ว”

นายหัวเมฆามองหน้าเธอ “คุณนี่เป็นพยาบาลที่พูดมากชะมัด”


“ก็เพราะฉันพูดแทงใจดำคุณใช่ไหมล่ะ คุณพีระดากับคุณภาคินัยเขารักกันคุณจะไปแทรกกลางระหว่างเขาทำไม”


เขาไม่ตอบเธอทำทีเป็นไม่ได้ยิน แต่ก็คิดตามที่เธอพูดอยู่ทุกคำ คนอย่างเขาเป็นฝ่ายเลือกมาโดยตลอด ทำไมครั้งนี้เขาถึงต้องยอมเป็นตัวเลือกเสียเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++


“มาแล้วเหรอคะพี่กิต”ร่างบางวิ่งเข้าไปกอดเอวแล้วซบอกเขย่งขึ้นไปหอมฟอดใหญ่


“เดี๋ยวรุ่นพี่เธอคนนั้นก็มาเห็นหรอก” กิตติมองไปรอบห้องแต่ไร้วี่แววผู้หญิงที่เขาเห็นเมื่อวันก่อนที่ห้องนี้


“พี่เขาไม่อยู่ค่ะออกไปเมื่อครู่นี้”


กิตตินั่งกระสับกระส่ายบนโซฟาเขายิ่งคิดก็ยิ่งแค้น กระแทกแก้วน้ำลงบนโต๊ะอย่างแรงหลังจากรับน้ำเย็นๆจากลูกน้ำมาดื่ม


“โมโหอะไรคะพี่กิต ทำไมต้องมาปึงปังใส่ลูกน้ำด้วย”


“เงียบไปเลย” เขาตวาดและหัวเสียใส่เธอ


“พี่กิตอย่ามาตวาดลูกน้ำนะ และบอกลูกน้ำมาเดี๋ยวนี้ว่านังผู้หญิงในร้านกาแฟคนนั้นเป็นใคร”


“อย่ามายุ่งเรื่องของพี่ลูกน้ำถ้าอยากจะคบกันอย่างมีความสุขหุบปากซะ”


“แต่ลูกน้ำเป็นแฟนพี่นะ ลูกน้ำมีสิทธ์จะรู้”เธอยืนกราน


กิตติโมโหจัดที่วันนี้ลูกน้ำงี่เง่าใส่เขา “แฟนเหรอ”เขายิ้มหยันมองสาวน้อยราวกับสิ่งของด้อยค่า


“เธอมันก็แค่นางบำเรอที่ฉันเลี้ยงไว้ดูเล่นเท่านั้นแหละลูกน้ำ” เขาผลักไหล่สาวน้อยจนเธอเซไปกระแทกกับขอบโซฟา


“พี่กิต!” ลูกน้ำกรีดร้องเจ็บใจที่เขาดูถูกเธอทั้งที่เธอรักเขาจนหมดหัวใจ


“มานี่เลยมาหวงนักใช่ไหม ก็ได้ฉันกำลังอยากอยู่พอดี” เขามองหญิงสาวราวกับเหยื่ออารมณ์ ยามที่เขาโกรธช่างแตกต่างกับเวลาที่เขาอารมณ์ดีราวกับคนละคนเรื่องนี้ลูกน้ำรู้ดี


“ปล่อยนะลูกน้ำเจ็บ พี่จะทำอะไร”


สาวน้อยถูกเขากระชากจากโซฟาและลากไปที่เตียงนอนก่อนจะกระชากเสื้อสายเดี่ยวสีชมพูของเธอจนขาดวิ่นเขามองสาวน้อยบนเตียงแต่จินตนาการว่าเธอคือสุชาวีอดีตคู่หมั้นสาวที่เขายังไม่เคยได้ลิ้มลอง


“เธอต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”


“พี่กิตลูกน้ำเจ็บ”เธอพยายามผลักดันเขาออก ปกติเขาไม่เคยรุนแรงกับเธอทั้งสองยินยอมพร้อมใจในภาระกิจบนเตียงแต่ว่าวันนี้กิตติทำราวกับว่าเธอเป็นตุ๊กตายางให้เขาระบายอารมณ์


“เจ็บเหรอ ก็ชอบไม่ใช่เหรอ จะว่าไปเธอก็คงจะหุ่นใกล้เคียงกับสุชาวีเขา”


“หมายความว่าไง พี่กิตนอนกับฉันแต่จินตนาการถึงนังนั้นเหรอ” คำพูดของเขาราวกับใบมีดโกนอันเฉียบคมที่กรีดเข้าไปในหัวใจดวงน้อย

“มันก็แค่จินตนาการเท่านั้นจะเป็นไรไป” กิตติหัวเราะเสียงดังเขาพยายามมองภาพสาวน้อยที่ดีดดิ้นอยู่บนเตียงเวลานี้ให้เป็นภาพของสุชาวีที่กำลังเปล่าเปลือย


ทุกแรงที่เขากดและบดขยี้ลงไปทำให้สาวน้อยร่างบางต้องสะดุ้งเฮือกทุกครั้งไป เขาปฏิบัติกับเธออย่างดิบเถื่อนเพื่อนสนองตัณหา ราคะของตนมันไม่ได้มีความรักเจือปนอยู่แม้แต่น้อย ทำให้หญิงสาวเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งร่างกาย ทุกท่าทางที่เขากระทำกับเธอนั่นคือทุกอย่างที่เขาอยากจะลิ้มรสจากเรือนกายของสุชาวี เขาอิจฉานายหัวเมฆาซึ่งเขาคิดว่านายหัวคงไม่ปล่อยเธอเอาไว้แน่ นั่นทำให้เขาหมายมั่นว่าแม้ไม่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของสุชาวีแต่ชาตินี้เขาจะต้องลิ้มลองเธอให้ได้สักครั้ง


เขามองสาวน้อยทีน้ำตานองหน้าเพราะเขาทำกับเธอรุนแรง เมื่อเขาจับเธอพลิกหันหลังและกดศีรษะของเธอลงแนบเตียงเธอพยายามจะดิ้นหนีเขาจึงฟาดมือลงไปที่สะโพกงอนงามของเธอย่างแรงจากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง


“สุชาวี อย่าหนีสิผมจะทำให้คุณสนุกจนลืมไอ้นายหัวนั่นไปเลย”


“พี่กิต! ฮืออออ ปล่อยลูกน้ำนะ” เธอรู้ด้วยสัญชาติญาณว่าเขาใช้ร่างกายของเธอจินตนาการถึงผู้หญิงอื่น


“เป็นไงบ้างสุชาวี ผมไม่น่าปล่อยคุณเอาไว้เลยนะ” เขากระแทกกระทั้นถาโถมจนหญิงสาวร่างบางบอบช้ำร่างกายแทบจะปริแตกเป็นเสี่ยงๆ


เขาลงโทษเธอด้วยอาวุธประจำกายของเขาอย่างไม่ยั้งไม่ฟังเสียงร้องไห้หรือต่อต้านใดๆทั้งสิ้น


“สุชาวีคุณเป็นของผมได้ยินไหม” เขาตะโกนก้องก่อนจะกระแทกร่างลงไปหาร่างบางจนสุดแรงจากนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว กิตติปลดปล่อยความหื่นกระหายลงไปตามช่องทางของมันจากนั้นเขาก็ฟุบลงไปกับเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรงไม่สนใจว่าเหยื่ออารมณ์ของเขาจะร้องไห้อย่างน่าเวทนา


เสียงโทรศัพท์ปลุกให้กิตติตื่นขึ้นมา เมื่อเขาเห็นว่าเป็นเบอร์นักการเมืองรุ่นใหญ่กระเป๋าหนักก็รีบรับทันที ทั้งสองคุยกันสักพักเหมือนว่ากิตติกำลังมีปัญหาเขาไม่สามารถจัดหาตามที่นักการเมืองคนนั้นต้องการได้


“ท่านครับที่ใหม่ๆสดๆ ผมก็บอกท่านไปหมดแล้วนะครับ เพราะว่าทางเรามีกฏอยู่หนึ่งข้อที่จะรับจัดหาให้แต่พวกดารา นางแบบที่เต็มใจจะรับงานเท่านั้นไม่มีการบังคับกัน”


“แต่ที่คุณเสนอมาทุกคนผมก็เคยลองมาจนครบหมดทุกคนแล้ว อยากจะได้นางแบบฮ็อตๆหน่อย หาให้ทีสิงานนี้ไม่อั้นนะกิตติผมทุ่มเต็มที่แต่ผมจะต้องได้เธอมาอยู่บนเตียงในวันพรุ่งนี้ที่โรงแรมเดิมละกัน”


ปลายสายสั่งเสร็จก็กดวางทันทีเพราะรู้ว่าคนโลภอย่างกิตติต้องจัดหามาให้เขาจนได้


“โธ่โว้ย! สวยๆทั้งนั้นแม่งไม่เลือก ดันจะเลือกทีกูไม่มี”


กิตติบ่นอุบหลังจากวางโทรศัพท์และรีบโทรหาใครคนหนึ่งซึ่งจะทำหน้าที่จัดหานางแบบหน้าใหม่ที่สวยแต่ไม่ดัง หรือนางแบบดังแต่ร้อนเงินเป็นหนี้สินเยอะ บ้างก็บ้าแบรนด์เนมอยากจะไฮโซแต่พื้นฐานฐานะทางการเงินของตนเองไม่ดีมาทำงานกับกิตติ โดยกิตติจะให้ค่านายหน้าเธอถึงยี่สิบเปอร์เซ็นจากค่าตัวของดาราหรือนางแบบคนนั้นซึ่งไม่น้อยทีเดียว เพราะถ้าระดับดังๆแล้วล่ะก็คืนหนึ่งก็ไม่ต่ำกว่าห้าแสนทีเดียว


“มีอะไรคุณกิตติ ตอนนี้ฉันพบแพทย์อยู่ไม่สะดวกคุย เดี๋ยวค่อยโทรมาใหม่ได้ไหม”


“มันเป็นเรื่องด่วนครับคุณเขม ลูกค้ากระเป๋าหนักของเรา ต้องการนางแบบที่ยังไม่เคยผ่านงานคุณเขมช่วยหาให้ผมหน่อยสิงานนี้งบไม่อั้น”


เขมมิกาหันไปยิ้มให้กับคุณหมอที่กำลังตรวจผิวหนังให้เธออยู่ “ขอตัวสักครู่นะคะคุณหมอ”


นางแบบสาวรีบออกมาจากห้องตรวจและแหวใส่คนที่โทรมาทันที


“นี่คุณกิต ของแบบนี้นึกว่าจะหากันได้ง่ายๆหรือไง แล้วไม่ให้เวลาฉันจู่ๆก็จะให้หาเด็กให้ไม่มีทางหรอก ก็มีแต่แม่พวกนั้นที่เคยแนะนำไปให้นั่นแหละ”


“แต่ท่านไม่ต้องการน่ะสิครับ ท่านขอที่ใหม่และสดจริงๆ ยิ่งดังยิ่งดี”


“แล้วจะให้ฉันไปหาที่ไหน ไอ้ที่ดังๆก็คงมีเงินจนใช้แทบไม่ทันเขาจะมาทำแบบนั้นทำไม”


“แต่ท่านทุ่มค่าตัวไม่อั้นจริงๆนะครับคุณเขม ท่านบอกว่าห้าแสนสำหรับคืนนี้”


“อะไรนะ!” นางแบบสาวตื่นเต้น “นี่ท่านของคุณกิตเกิดเป็นอะไรขึ้นมาเนี่ยถึงได้ทุ่มหนักขนาดนี้”


“ท่านได้ยามาใหม่น่ะครับก็เลยอยากจะลองกับนางแบบสวยๆ ยี่สิบเปอร์เซ็นมันจะเป็นของคุณเขมทันที”เขมมิกาคิดหนักใช่ว่าจะหาคนมารับงานแบบนี้ได้ เพราะนางแบบที่รับงานเสริมแบบนี้ถือเป็นแกะดำที่ทำให้วงการเสื่อมเสีย พวกที่ชอบขุดทอง ขายนาผืนน้อยนี้ห่างข่าวรั่วไหลไปก็เรียกว่าหากินในวงการไม่ได้อีกแล้ว จึงไม่ค่อยมีนางแบบคนไหนกล้าทำยกเว้นพวกที่เดือดร้อนเงินจริงๆ


เขมมิกาพยายามคิดที่จะติดต่อหานางแบบคนไหนไปให้ท่านของนายกิต นางแบบสาวยิ้มร้าย


“ฉันรู้แล้วล่ะ คุณกิตว่าคืนนี้จะส่งใครไปให้ท่านของคุณ”


น้ำเสียงของกิตติแสดงความตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที “ใครกันครับคุณเขม”


หลังจากที่เขมมิกาบอกชื่อนางแบบสุดฮ็อตที่เธอจะส่งไปให้กิตติพาไปสังเวยตัณหาให้กับนักการเมืองใหญ่ในค่ำคืนนี้ กิตติยอมรับว่าคาดไม่ถึงทีเดียวเขาตกใจมาก

“จะเป็นไปได้ยังไงครับนางแบบคนนี้จะรับงานแบบนี้ด้วยเหรอ ค่าตัวเดินแบบเธอคืนหนึ่งก็ไม่น้อยกว่าคุณเขมไม่ใช่เหรอครับ”


“นี่นายกิตติอย่าเอาฉันไปเปรีบกับอีนังนั่นนะ” เขมมิกาแหวใส่ด้วยความโกรธ เธอไม่ชอบและรับไม่ได้หากต้องถูกเอาตัวมาเปรียบกับนางแบบน้องใหม่ชื่อดัง


“ขอโทษทีครับคุณเขม แต่ผมสังสัยก็เท่านั้นผมไม่คิดว่าเราจะได้ของดีขนาดนั้นมาให้ท่าน”


“เชื่อมือฉันเถอะคืนนี้เจอกัน”จากนั้นเขมมิกาก็นัดแนะกับกิตติ เมื่อวางสายนางแบบสาวก็ลอบยิ้มอย่างสะใจให้กับแผนการร้ายที่วางเอาไว้ในสมอง มันช่างประจวบเหมาะที่คืนนี้เธอมีงานเดินแบบงานเดียวกับนางแบบสาวรุ่นน้องคนดังที่กำลังมีข่าวว่าจะละทิ้งวงการนางแบบหลังแต่งงาน



“งานนี้แกเน่าแน่”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 พ.ค. 2555, 16:27:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 พ.ค. 2555, 16:36:16 น.

จำนวนการเข้าชม : 3833





<< ตอนที่ 20   ตอนที่ 22 >>
อัปสรา 9 พ.ค. 2555, 16:37:48 น.
ไม่ได้มาอัพนานเลยเนอะ ขอแจ้งข่าวหน่อยค่ะ เพลิงรักมนต์สวาท ผ่านการพิจรณาจาก สนพ. ธราธรแล้วนะคะ


violette 9 พ.ค. 2555, 17:10:21 น.
กรี๊ดดดดด จะเอานางเอกเราไปขายเหรอเนี่ย
ซีนนี้พระเกหายไปเลย อิอิ
นายหัวไม่หลงรักคุณพยาบาลบ้างเหรอค้า


anOO 9 พ.ค. 2555, 18:33:53 น.
เมื่อไหร่นางเอกเราจะหมดเวร หมดกรรมกับเรื่องแบบนี้สักทีนะ


konhin 9 พ.ค. 2555, 19:07:45 น.
อ้ากกก เลวอ่ะ


picky 9 พ.ค. 2555, 19:46:57 น.
เอ่อ ชื่อนี่เปลี่ยนอีกได้ไหม เพราะชื่อซ้ำนะ เล่ห์ลวงบ่วงรัก นี่เห็นหลายเล่มมาก ลองดูในอากู๋สิ มีไม่ต่ำกว่า 4 สำนักพิมพ์


lovemuay 9 พ.ค. 2555, 20:16:39 น.
ยินดีด้วยนะคะที่หนังสือผ่านแล้ว อิอิ
----
นางเอกเราชัวร์ อุปสรรคของนางเอกเราช่างเยอะเหลือเกิน -*-



อัปสรา 9 พ.ค. 2555, 21:02:12 น.
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตามค่ะ คุณ Picky คะคิดจะเปลี่ยนอยู่เหมือนกันตั้งใจว่าให้จบเรื่องก่อนจะให้แฟนนิยายเสนอชื่อ ชื่อไหนไม่ซ้ำและถูกใจเข้ากับเนื้อหามากที่สุดจะแจกหนังสือ 8 เล่มพร้อมลายเซ็นค่ะ


kaero 10 พ.ค. 2555, 11:47:32 น.
ตายหล่ะหว่า นางเอกชัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account