เพลงลิขิตบันดาลชักพา
เพลงรัก...สาวอวบที่เพิ่งอกหักเพราะรักเก่ากำลังหมั้นหมายกับคนอื่น โดนหลานสาวตัวดีหลอกให้มาเที่ยวปารีสเป็นเพื่อน แต่พอมาถึงเธอกลับต้องเล่นเรียลลิตี้เป็นคู่ฮันนีมูนของนักร้องดังซะงั้น งานนี้สาวอวบขึ้นคานจะทำอย่างไร..... ในเมื่อรักเก่าก็กลับมาทำให้หัวใจหวั่นไหว แต่ความรักครั้งใหม่ก็กำลังเริ่มต้น
Tags: รัก,ท่องเที่ยว,ฝรั่งเศส

ตอน: บทที่ 17

“ผมขอโทษจริงๆ นะครับแม่ แต่นี่คือสิ่งที่พ่อต้องการ ยังไงผมก็ต้องทำ”

เสียงแว่วๆ ลอยมาให้ได้ยินแค่นั้น ก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ซึ่งยืนหันหน้าออกไปยังทิวทัศน์ด้านหนึ่งของหอเหล็กสูงจะวางสาย พิมพลอยที่ก้าวตามออกมาชะงักเล็กน้อย เธอตั้งใจจะต่อว่าที่เขาทำร้ายจิตใจน้าสาวทั้งในอดีตและปัจจุบัน แต่เมื่อเห็นไหล่กว้างผึ่งผายลู่ลงเล็กน้อยยามที่เขาทอดสายตาไปยังเบื้องล่าง เด็กสาวก็พูดอะไรไม่ออก

เธอยืนค้างอยู่กับที่ จนกระทั่งคีตภัคหันกลับมา สายตาคมแสดงความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ “เธอออกมาทำอะไร”

“ก็...” เด็กสาวอ้ำอึ้ง การที่เขายิงคำถามมาก่อน ทำให้เธอลืมเรื่องที่เตรียมไว้เสียอย่างนั้น “ก็ออกมาหาคุณคีตภัคนั่นแหละ คือพลอยจะมาบอกว่าเสื้อที่พลอยยืมคุณไปเมื่อวานอยู่ในรถ อยากเอามาคืนแต่คุณก็ตัวติดอยู่กับคู่หมั้นยังกะปาท่องโก๋ เดี๋ยวถ้าพลอยทะเล่อทะล่าเข้าไปคู่หมั้นของคุณจะคิดว่าพลอยให้ท่าให้เรือคุณอีก พลอยไม่ได้อดทนเก่งเหมือนน้าเพลง พลอยไม่ยอมโดนด่าทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก”

“นั่นก็ดีแล้ว” เขาเอ่ยสั้นๆ ทำเอาเด็กสาวอ้าปากงง

“อะไรดีแล้ว!?! ที่น้าเพลงไม่ยอมตอบโต้ แต่กลับไปนอนร้องไห้อย่างนั้นหรอเรียกว่าดี หรือว่าที่คู่หมั้นของคุณด่าน้าเพลงต่อหน้าทุกคนเมื่อคืนนี้ นั่นคือดีของคุณหรอ... คุณนี่เป็นผู้ชายที่ใจร้าย แล้วก็เห็นแก่ตัวมากๆ เลยนะคุณคีตภัค”

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถอนหายใจ รู้ว่าเด็กสาวจงใจหาเรื่อง แต่เขาก็เหนื่อยล้าเกินกว่าจะอธิบาย “ฉันเห็นแก่ตัวจริงๆ อย่างที่เธอว่านั่นแหละพิมพลอย ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนขี้ขลาดเลยนะ แต่กับเรื่องนี้... ฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับมันเลย”
เด็กสาวมองอย่างไม่เข้าใจ เธอกำลังตำหนิการกระทำของเขาและคู่หมั้น แต่ทำไมเขาถึงกลับทำราวกับเธอเป็นเพื่อนสนิท มาระบายความในใจเสียงเครียดอย่างนั้น พิมพลอยครุ่นคิดอยู่อึดใจ ก่อนเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา

“คุณคีตภัคยังรักน้าเพลงอยู่หรือเปล่า”

คราวนี้ชายหนุ่มเงียบพักใหญ่เลยทีเดียว ก่อนถอนหายใจหนักอึ้งออกมา ทำให้เธอตีความหมายว่าเขาไม่มีใจให้น้าสาวของเธอแล้ว “ถ้าคุณไม่รักน้าเพลงแล้ว ก็อย่ามายุ่งกับน้าเพลง อย่าให้คู่หมั้นของคุณมายุ่งกับน้าเพลงด้วย ถึงพลอยจะไม่ได้สนิทกับน้าเพลงมาก แต่น้าเพลงก็เป็นน้าของพลอย พลอยไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรคนในครอบครัวของพลอยเด็ดขาด”

“ฉันก็เหมือนกัน ฉันก็ไม่อยากให้ใครทำร้ายครอบครัวของฉัน... โดยเฉพาะตัวฉันเอง”

คำตอบกลับของเขาทำให้พิมพลอยอ้าปากค้างกว้างกว่าเดิม คำพูดและพฤติกรรมของเขาทำให้เธอยิ่งสับสนขึ้นเรื่อย ๆ

“เธอเข้าไปข้างในก่อนเถอะ ถ้าไม่อยากให้คู่หมั้นของฉันโวยวายที่เห็นเรากลับพร้อมกัน”

เด็กสาวร่างบางยอมทำตามที่เขาบอก ไม่ใช่เพราะเชื่อฟัง แต่เพราะไม่รู้จะพูดจะถามอะไรต่างหาก เธอไม่เข้าใจผู้ชายตัวใหญ่ร่างยักษ์คนนี้เลยจริงๆ
เห็นแก่ตัว…ทำร้าย... ครอบครัว... พิมพลอยขบคิดขณะเดินกลับเข้าไปในร้าน คนเห็นแก่ตัวที่กำลังจะทำร้ายครอบครัว

หรือว่าเขาจะยังรักน้าเพลงอยู่นะ

-------------------------------------------------------------------------------

เพลงรักคิดว่าการกลับมาเจอคนที่เคยทำให้เจ็บ สร้างความปวดร้าวอย่างมหาศาล เธอกำลังทุกข์ทรมานที่สุดในห้าปี แต่ทำไม...บ่อยครั้งที่เผลอ เธอจึงมีรอยยิ้ม

ไม่ว่าจะเป็นตอนอาหารจานหลักมาเสิร์ฟ แล้วชายหนุ่มข้างกายจิ้มปลากะพงที่เธอบรรจงหั่นพอดีคำไปจากจานเธอหน้าตาเฉย เธอเลยเอาคืนด้วยการฉกปลาเนื้อแน่นในจากเขามาทั้งชิ้น รอยยิ้มสะใจจึงเกิดขึ้นเมื่อเขาเบะหน้าเหมือนเด็กร้องไห้ พร้อมยกมือยอมแพ้

หรือตอนที่แทนกวีเลื่อนเค้กชอกโกเลตรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ามาให้เธอจัดการ อย่างเช่นทุกครั้งที่มีของหวานผสมนม แต่เธอกลับบอกเขาว่านี่เป็นเค้กรสขมเพราะทำมาจากดาร์กชอกโกเลตให้เขาลองชิม เธอก็ต้องกลั้นรอยยิ้มขำแทบตาย เมื่อเห็นหน้าเหยเกของเขายามลิ้นสัมผัสรสชาติหวานเลี่ยน และความมันที่มีนมเป็นส่วนประกอบ

มันเป็นไปโดยที่เธอก็ไม่รู้ตัว การอยู่กับนักร้องหนุ่ม...ฟังถ้อยคำยั่วโมโห ดูลีลากวนประสาท ทำให้เธอลืมความเจ็บปวดที่สะสมมาตลอดห้าปี ลืมรอยน้ำตาที่รินไหลตลอดคืน และลืม...’อดีต’ ที่จับจ้องเธออยู่อีกโต๊ะเสียสนิท

เพลงรักไม่รู้เลยว่าตั้งแต่เมื่อไรที่มันเกิดขึ้น แล้วเธอก็ไม่มีทางรู้อีกเช่นกันว่า รอยยิ้มของเธอทำให้ชายหนุ่มข้างกายลอบยิ้มพอใจ เมื่อเห็นว่าคนรักกำมะลอของเขา ไม่ทำตัวหงอยเหงาอย่างที่ผ่านมาตลอดเช้า

นับว่าฝีมือในการดึงดูดความสนใจของเขายังมีประสิทธิภาพอยู่ นักร้องหนุ่มยิ้มอย่างภาคภูมิ จนกระทั่งจบมื้ออาหารราวบ่ายโมงกว่า ยืนชมวิวบนชั้น 1 ของหอไอเฟลเพื่อให้ลูกแก้วและโต้งบันทึกภาพสักพัก แล้วสมาชิกทั้งหมดมายืนเบียดกันอยู่ในลิฟต์ตัวใหญ่ร่วมกับนักท่องเที่ยวคนอื่น ความเบิกบานของเขาก็มีอันต้องถูกรบกวน เมื่อ ‘จดหมายลับ’ ถูกสอดเข้ามาในมืออย่างลับๆ

แทนกวีทำตัวเป็นปกติ เก็บซ่อนจดหมายเอาไว้ รอจนกระทั่งน่านฟ้าปล่อยให้ทุกคนแวะเข้าห้องน้ำก่อนกลับขึ้นรถทัวร์ เปิดอ่านกระดาษแผ่นเล็กโดยไม่ให้ใครเห็น แล้วข้อความในนั้น ก็ทำให้เขาขมวดคิ้ว

‘พลอยสืบเรื่องน้าเพลงกับคุณคีตภัคแล้วนะคะ ทั้งสองคนเคยคบกันตอนสมัยเรียน แต่คุณคีตภัคทิ้งน้าเพลงไปคบกับคนที่เขาหมั้นอยู่ตอนนี้ พลอยคิดว่าน้าเพลงยังคงรักคุณคีตภัคอยู่ เพราะน้าเพลงยังนอนกอดตุ๊กตาหมีพูห์ที่คุณคีตภัคให้อยู่ทุกคืนเลย แต่พลอยไม่รู้ว่าคุณคีตภัคคิดยังไง พลอยสงสัยนะคะว่าเขาอาจจะชอบน้าเพลงอยู่เหมือนกัน เพราะผ้าเช็ดหน้าลายพิกเล็ตที่น้าเพลงปักให้ เขาก็ยังเก็บไว้ ยังไงพลอยขอเวลาพิสูจน์อีกทีนะคะ แล้วจะรีบรายงานพี่แทนทันที… ยังไงพี่แทนก็ไม่ต้องห่วงนะคะ ว่าอาการของน้าเพลงจะทำให้งานมีปัญหา พลอยจะดูแลน้าเพลงอย่างดี ไม่ยอมให้น้าเพลงเสียใจจนทำงานไม่ได้เด็ดขาดเลยค่ะ สู้ๆ นะคะพี่แทน’

แทนกวีพับจดหมายด้วยความหงุดหงิด ไม่ได้สนใจประโยคส่งท้ายของเด็กสาวที่เขียนมามากนัก เพราะกำลังเครียดว่าป้าอ้วนกับพี่คีย์ยังคงมีเยื่อใยต่อกันจริงๆ หรอ ถ้าอย่างนั้นการที่เขาสั่งรูมเซอร์วิสไปขัดจังหวะก็ทำถูกแล้วใช่ไหม แม้จะผิดแผนไปหน่อยตรงที่มีดาราฉายเข้ามาเกี่ยวและทำให้เพลงรักต้องโดนด่า แต่ก็คงดีกว่าปล่อยให้คู่หมั้นของคีตภัคเปิดประตูเข้าไปเจอฉากอีโรติกสุดเร่าร้อน
คนที่แอบมองเหตุการณ์เมื่อเช้าหลังบานประตูห้องพักตัวเองกระแทกลมหายใจด้วยความขุ่นเคือง เขาจะต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่คนใกล้ตัวของเขาทั้งสองจะทำผิดศีลธรรมไปมากกว่านี้...

นี่เขาคิดในฐานะของนักร้องขวัญใจประชาชน 4 ปีซ้อน ที่ต้องรับผิดชอบต่อความดีงามของสังคมหรอกนะ ไม่มีความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวพันแม้แต่น้อย

-----------------------------------------------------------------------------

“ตรงนี้แหละค่ะที่นัดตี้เคยเห็นพระเอกนางเอกในละครมายืนกอดกัน เราถ่ายวีทีอาร์โปรโมตกันตรงนี้เลยดีไหมคะ เอาให้เห็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศสเป็นแบคกราวน์... ต้องเริ่ดมากแน่ๆ”

นิยมการร้องอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น เมื่อมายืนอยู่กลางชอมป์ เดอ มาร์ส (Champ de mars) ซึ่งเป็นสนามหญ้าสีเขียวสด ขนาบสองข้างด้วยต้นไม้ที่ตัดเป็นทรงสี่เหลี่ยมตรงเป็นแถว มองตรงไปจะเห็นหอไอเฟลตระหง่าน ส่วนด้านหลังคือโรงเรียนเตรียมทหาร Ecole militaire ซึ่งน่านฟ้าพามาเดินย่อยหลังอาหารกลางวัน

พื้นที่โล่งกว้างทำให้ลมเย็นพัดมาทักทายอย่างสะดวก แต่ไม่หนาวจัดเหมือนเช่นตอนล่องเรือ เพราะมีแสงอาทิตย์จัดจ้าส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้าสีฟ้าสด อากาศของบ่ายวันที่สามในฝรั่งเศสเป็นใจราวกับรอต้อนรับคณะถ่ายทำจากเมืองไทย ท่ามกลางหนุ่มสาวปารีเซียงที่นอนอาบแดดกันอย่างสบายอารมณ์

“เดี๋ยวแทนกับคุณเพลงนั่งเล่นกันแถวนี้ ถ้าคุณเพลงไม่รู้จะคุยอะไรก็เอาคำถามที่ฉันให้เมื่อวานมาถามก็ได้นะคะ ยังเหลืออีกหลายข้อเลยไม่ใช่หรอ เออ แทน อย่าลืมเอากล้องที่สปอนเซอร์ให้มาถ่ายรูปด้วยนะ พี่นัด... น้ำส้มที่แทนเป็นพรีเซนเตอร์ เอามาใช้ประกอบฉากนี้เลยก็ได้” ครีเอทีฟสาวยิงคำสั่งใส่หลายคนอย่างรวดเร็ว เพราะได้รับอนุญาตจากตัวโปรดิวเซอร์ที่โดนคุมเข้ม ให้ควบคุมงานทุกอย่างได้อย่างเต็มที่

และเมื่อเตรียมความพร้อมเสร็จเรียบร้อย ลูกแก้วจึงสั่งแอคชั่น คู่รักก็เดินเคียงข้างกันมาทรุดตัวลงนั่งบนสนามหญ้า ที่มองเห็นหอเหล็กเป็นฉากหลังอย่างชัดเจน เกิดความเงียบที่น่าอึดอัด ก่อนที่เพลงรักจะเหลือบมองคนข้างกายด้วยความไม่เข้าใจ

ตั้งแต่ออกมาจากหอไอเฟล แทนกวีก็ทำหน้าบึ้ง ไม่พูดจา เธอถามคำ เขาก็ตอบคำ เป็นอย่างนี้จนกระทั่งการถ่ายทำดำเนินไปพักใหญ่ แล้วเธอก็เริ่มทนกับความผิดปกติของเขาไม่ไหว จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ แต่แทนที่แทนกวีจะตอบ เขากลับเมินใส่เธอเสียอย่างนั้น เพลงรักจึงพยายามอีกครั้งด้วยการใช้ศอกกระทุ้งเข้าที่แขนล่ำเป็นการเรียก คราวนี้ทำให้เขากระเถิบหนีไปเลยทีเดียว

“นี่ แทนกวี ถ้าเธอไม่พูด ฉันจะไม่ง้อแล้วนะ” สาวร่างอวบที่นั่งบนพื้นหญ้าว่า ทำเอาชายหนุ่มข้างกายหันขวับมาทันที

“โห... มาสะกิดกระดิ๊กๆ สองสามที นี่เรียกว่าง้อแล้วหรอ ง้ออย่างนี้ใครที่ไหนมันจะไปยอมคืนดีด้วยเล่า”

“อ้าว!!! แล้วจะให้ง้อยังไง ฉันยังไม่รู้เลยว่าเธอโกรธฉัน แล้วนี่เธอโกรธฉันเรื่องอะไร หรือว่าที่ฉันหลอกให้เธอกินเค้กชอกโกเลต”

“ผมไม่โกรธเรื่องไร้สาระอย่างนั้นหรอน่า” เขาว่าเสียงหงุดหงิด ซึ่งเพลงรักอยากจะถามเหลือเกินว่าที่ทำงอนไม่มีเหตุผลอยู่นี่ เรียกว่ามีสาระมากเลยใช่ไหม แต่เธอก็เพียงแค่ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยออกมา

“หายงอนนะ... เดี๋ยวให้ดาวสามดวงเลย”

“เอ๊ย ผมไม่ใช่เด็กนักเรียนของป้านะ”

เพลงรักหัวเราะ เมื่อได้ยินเขาโวยวาย “ก็เธอทำตัวเป็นเด็กๆ นี่นา โกรธอะไรก็ไม่ยอมบอก อยู่ๆ ก็ไม่พูด นี่ ขี้งอนอย่างนี้... เป็นผู้ชายป่ะเนี่ย” เธอกระเซ้า ซึ่งไม่ใช่นิสัยปกติของเธอเลยสักนิด... สงสัยจะติดมาจากคนข้างๆ

“อยากพิสูจน์ไหมล่ะ”

เขาจ้องหน้า ใช้ดวงตากลมหวานสบลึกถึงนัยน์ตาเธออย่างท้าทาย เพลงรักรู้สึกแปลกๆ ใบหน้าขาวนวลระเรื่อขึ้นจนเปลี่ยนเป็นแดงจัด ซึ่งก็ทำให้ความหงุดหงิดของใครบางคนหลังได้รับจดหมายลับ แปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ “คิดจริงนะเราเนี่ย”

“ตาบ้า” เพลงรักว่าเสียงเบา รู้สึกใจสั่นจนต้องรีบเสมองไปทางอื่น แล้วเธอก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า

หนุ่มสาวปารีเซียงคู่หนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกล กำลังกอดจูบดูดดื่มกันอย่างเปิดเผย สาวหัวโบราณเลยตกใจจนอ้าปากค้าง จ้องตาไม่กระพริบ นักร้องหนุ่มสังเกตเห็นอาการของเธอเลยหันมองตาม แล้วเขาก็ต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าเธอจ้องอะไร

“นี่... ป้าอยากพิสูจน์ความเป็นชายของผมด้วยวิธีนั้นหรอ โหย...หื่นใช่เล่นนะเนี่ย เอ้า!!! มาก็ได้มา ถ้าอยากทำจริงเดี๋ยวผมยอมสละริมฝีปากตัวเองเพื่อป้าก็ได้ มา…” ว่าเสร็จเขาก็ห่อปากพร้อมยื่นหน้ามาใกล้ เพลงรักที่เรียกสติกลับคืนมาได้รีบยกมือดันหน้าเขาออกไปทันที

“ตาบ้า ชักจะทะลึ่งใหญ่แล้วนะ”

“ก็ยังน้อยกว่าป้าแหละน่า” แทนกวีเอ่ยพร้อมหัวเราะอีกครั้ง “ป้า ผมถามจริงๆ ป้าจูจุ๊บครั้งสุดท้ายเมื่อไร”

เพลงรักถึงกับสะดุ้ง ก่อนละล่ำละลักตำหนิเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายเต็มพิกัดของตัวเองเอาไว้ “ตาบ้าแทนกวี ทำไมถามอย่างนี้ น่าเกลียด...”

“อ้าว!!! ก็ผมอยากรู้นี่น่าว่าแฟนของผมจูจุ๊บกับผู้ชายอื่นครั้งสุดท้ายเมื่อไร ทำไม... ผมถามไม่ได้หรือไง” เสียงสุดท้ายสะบัดเล็กน้อยเหมือนไม่พอใจ ซึ่งเพลงรักก็ไม่แน่ใจว่าเขาแค่แกล้งหรือเปล่า แต่มันก็ทำให้เธอยอมตอบคำถามน่าอายนั้นออกไป

“ฉันไม่เคย... พอใจหรือยัง”

“ไม่เคย!!! ป้าไม่เคย....จุ๊บๆ กับใครจริงๆ หรอ แล้วแฟนเก่าป้าล่ะ ป้าก็ไม่เคยหรอ”

คำว่า ‘แฟนเก่า’ ทำให้เพลงรักชะงัก บรรยากาศแสนหวานเมื่อครู่มลายหายไปอย่างรวดเร็ว แทนกวีก็พอสัมผัสได้ว่าหญิงสาวข้างกายเกร็งตัวด้วยความอึดอัด สายตาของเธอเหลือบไปยังชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนกอดอกอยู่ข้างคู่หมั้น หลังกล้องที่กำลังบันทึกภาพ นี่เธอยังอาลัยอาวรณ์พี่คีย์อยู่ใช่ไหมเนี่ย

“ป้า!!! นี่ป้ายังคิดอะไรกับแฟนเก่าของป้าอยู่ใช่ไหม”

คำถามตรงเป้า ไม่อ้อมค้อม ทำให้เพลงรักสะดุ้ง เธอหันขวับกลับมายังชายหนุ่มทันที

“เธอ...เธอไม่ควรถามแบบนี้”

“ทำไมไม่ควรถามล่ะ แฟนเก่าก็คืออดีต ทำไมจะถามถึงอดีตไม่ได้ หรือว่าเขายังเป็นปัจจุบันสำหรับป้าอยู่ แล้วผมล่ะ เป็นอะไร”

แทนกวีถามเสียงดัง จริงจังเสียจนนิยมการที่ยืนมองอยู่รอบนอกสงสัยว่าอารมณ์ที่ใส่มานั่นของจริงหรือเปล่า เช่นเดียวกับเพลงรักที่มองเขาอย่างไม่เข้าใจ

“นี่...เธอกำลังแสดงอยู่ใช่ไหม”

“ไม่รู้ ผมถามป้าก่อน ป้าตอบผมมาก่อน ตกลงว่าป้ายังรู้สึกอะไรกับแฟนเก่าอยู่หรือเปล่า”

หญิงสาวร่างอวบถอนหายใจ แต่สุดท้ายเธอก็เอ่ยออกมา

“อืม...ฉันยังรู้สึก”

-----------------------------------------------------------------------------

“คีย์... ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ เธอจะลากฉันออกมาทำไม... ฉันบอกให้ปล่อย”
ดาราฉายโวยวายแต่เสียงไม่ต่างจากกระซิบ ทั้งที่อยากกรีดร้องให้ดังลั่นสมกับความโกรธเคืองในใจ และดีดดิ้นออกจากวงแขนของชายหนุ่มที่รัดร่างของเธอไว้ แต่เธอก็ไม่สามารถทำอย่างใจได้ เพราะเกรงสายตาคนอื่นๆ ที่ผ่านไปมาจะหาว่าเธอเป็นหญิงบ้า อาละวาดไม่เลือกสถานที่

“ฉันจะปล่อยก็ต่อเมื่อเธอใจเย็นลงแล้ว” คีตภัคบอกด้วยเสียงเรียบ แม้จะประหลาดใจอยู่บ้างตอนได้ยินเพลงรักบอกว่ายังคงรู้สึกกับเขา หรือตกใจไม่น้อยตอนเห็นหญิงสาวข้างตัวถลาออกไปหมายจะจัดการกับเพลงรัก แต่เมื่อเขาพาตัวเองและดาราฉายออกมาพ้นรัศมีอันตราย เขาก็กลับมารักษาอาการสงบได้ดังเดิม

“ฉันคงเย็นได้หรอก เธอยิ่งลากฉันออกมาอย่างนี้ ฉันก็ยิ่งหงุดหงิด เธอก็ได้ยินนะคีย์ ยายเพลงรักนั่นบอกว่ายังชอบเธออยู่ ทำไมถึงกล้าขนาดนี้ จะหน้าด้านหน้าทนไปถึงไหน ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย”

“เพลงไม่ได้บอกว่าชอบฉัน แต่บอกว่ายังคงรู้สึก...”

“ก็นั่นไง จะรู้สึกอะไรถ้าไม่ใช่รู้สึกชอบ นี่คีย์ เธอจะเข้าข้างยายนั่นไปให้ได้เลยใช่ไหม ทำไม...หรือว่าเธอก็ยังคงรู้สึกอะไรกับยายนั่นเหมือนกัน”

คีตภัคถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถ้าเขาบอกว่าใช่...เธอคงอาละวาดมากกว่านี้ แต่ถ้าบอกว่าไม่... นั่นก็จะเป็นการโกหก

“ความรู้สึกของคนเรามีหลายแบบนะดารา... รัก ชอบก็คือรู้สึก แต่ว่าโกรธ เกลียด ก็คือรู้สึกเหมือนกัน ทำไมเธอไม่คิดล่ะ ว่าเพลงอาจจะรู้สึกเกลียดฉันก็ได้ ในเมื่อฉันเคยทำร้ายจิตใจเพลงขนาดนั้น”

“คีย์!!! เธอยิ่งพูด ก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าเธอกำลังปกป้องยายนั่นอยู่... นี่เธอแคร์ยายนั่นมากเลย เธอรู้ตัวหรือเปล่า”

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ไม่พูดอะไร ซึ่งทำให้ดาราฉายทนไม่ไหว “โอกาสของคนเรามันมีจำกัดนะคีย์ ถ้าเธอทำตัวให้เป็นคู่หมั้นที่ดีไม่ได้ ก็อย่าเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวนักเลย”

เธอเอ่ยจบ ก็หมุนตัวแล้วเดินหนีกลับไปทางโรงเรียนเตรียมทหาร ตรงข้ามกับทีมงานที่ยังปักหลักถ่ายทำฉากหอไอเฟล คีตภัคมองด้วยความหนักใจ

ดาราฉายคิดว่าเพลงรักยังคงรู้สึก ‘รัก’ คีตภัคอยู่ ส่วนเขาก็คิดว่าเธอรู้สึก ‘โกรธเกลียด’ กับสิ่งที่เขาเคยทำไว้ แต่เพราะทั้งสองออกมาก่อน จึงไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่เพลงรักรู้สึกนั้น ไม่ใช่อย่างที่ทั้งสองต่างคิดเลย



********************************
ตอบคอมเม้นค้าาา ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ แต่ทำไมยิ่งโพสยิ่งคนอ่านน้อยลง ไม่สนุกหรอค่ะ TT^TT คิดเห็นยังไงช่วยบอกกันด้วยนะ เงียบเหงาแล้วมันวังเวงใจอ่ะค่ะ

Pat : ถ้าบอกหมดเดี๋ยวเรื่องจะจบเร็วนะ ขอกั๊กไว้หน่อย 555
ืnunoi : นิดนึงนะคะ ดาราจะได้มีบทบาท
roseolar : ดีใจที่มีคนเห็นใจดารา ขอบคุณสำหรับการอ่านนะคะ
ขอให้สนุกค้าาา



ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 พ.ค. 2555, 15:37:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 พ.ค. 2555, 15:37:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 1838





<< บทที่ 16   บทที่ 25 >>
โฉมฉาย 14 พ.ค. 2555, 17:17:36 น.
สนุกค่ะ แต่ปมเยอะเหลือเกิน ตกลงว่าแม่กับพ่อพี่คีย์มาเกี่ยวไรด้วย รออ่านต่อค่ะ


Pat 14 พ.ค. 2555, 18:50:18 น.
ก็สนุกอยู่นะคะ มีปมให้คาดเดาไปเรื่อย :-) อยากขอไรเตอร์สักเรื่องค่ะ คำว่า'หรอ'นะค่ะ อ่านแล้วรู้สึกขัดใจ (มันน่าจะเป็นคำว่าเหรอ หรือใช้คำอื่นแทน) หวังว่าคงไม่โกรธที่ติงนะคะ


พลอย 14 พ.ค. 2555, 18:52:09 น.
ชอบค่ะ อ่านแล้วอยากไปฝรั่งเศส ส่วนแทนก็น่ารักดีค่ะ


ปอยฝ้าย 14 พ.ค. 2555, 19:23:06 น.
อาจจะไม่ได้เข้ามาบ่อย แต่ว่าตามอ่านอยฺู่นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


roseolar 14 พ.ค. 2555, 19:24:57 น.
ช็อคไปเลยตอนที่นายแทนพูดว่า"แล้วผมล่ะ เป็นอะไร" เดี๋ยวนี้เสน่ห์นายแทนชักจะมาแรงแซงทางโค้งคุณคีย์เข้าไปทุกวันละนะ
สนุกค่ะ อย่างที่หลายคนบอก ดูมีอะไรให้น่าค้นหาดี บางครั้งเหมือนจะแน่ใจว่าคุณคีย์คู่กับพลอยนะ แต่พออ่านบทบรรยายหรือช่วงสนทนาระหว่างคุณคีย์กับดารามันก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เอ...หรือระหว่างคุณคีย์กับดารา มีสิ่งที่เรียกว่าความรักเกิดขึ้นกันนะ
พูดจริงๆว่ายังเสียดายไม่หายที่คุณคีย์ไม่ได้คู่กับเพลงรัก เพราะบุคลิกของคุณคีย์ดูเหมาะกับเป็นพระเอกมากกว่า ไม่ใช่ว่าแทนไม่น่ารักนะคะ แต่บทมันส่งให้คุณคีย์โผล่มาในจังหวะที่น่าจะเป็นพระเอกพอดี เชื่อว่าหลายคนก็คงผิดหวังเหมือนกัน
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มีส่วนลดทอนความสนุกของตัวเรื่องลงเลยค่ะ กลับเข้มข้นขึ้นเพราะลุ้นว่าจะเป็นไปในทางที่คาดเดามั้ย คนอ่านยังคงมีอยู่ แต่บางคนอาจไม่สะดวกในการคอมเมนท์ เพราะงั้นอย่าเพิ่งน้อยใจไปนะคะ ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ยืนยันว่าเรื่องนี้สนุก สู้ๆนะคะ รออ่านตอนต่อไปค่า


greenish 14 พ.ค. 2555, 20:33:30 น.
ตามอ่านอยู่นะ แต่อาจไม่ได้เข้ามาทุกวัน ไว้รอซื้อตอนเป็นหนังสือแล้วกันนะ สู้ๆ


pattisa 14 พ.ค. 2555, 22:40:48 น.
ถ้าไม่รู้สึกรัก โกรธ เกลียด เเล้วเพลงรู้สึกอะไรเนี่ย เสียใจเหรอ


nunoi 14 พ.ค. 2555, 23:26:00 น.
สนุกค่ะ แอบคิดเหมือนคุณ roseoler เหมือนกันค่ะที่อยากให้คุณคีย์เป็นพระเอก แต่ยังไงก็สนุกค่ะได้ลุ้นตลอดเลยเพราะไรเตอร์ชอบจบบทให้คนอ่านแบบว่า อ๊ากกกก ตลอดอ่ะ


wane 15 พ.ค. 2555, 06:37:49 น.
อ่านรวดเดียวถึงตอนนี้เลย สนุกมากค๊า ...อยากให้คีย์คู่กับเพลงมากกว่า ในเมื่อทั้งสองยังรักกัน ก็น่าจะได้กลับมารักกันใหม่นะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account