กลัวเธอจะเปลี่ยนไป
ปาร เด็กสาวกำลังเริ่มชีวิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย เธอได้พี่รหัสเป็นผู้ชาย แต่เกิดเหตุไม่เข้าใจกันขึ้น ต่อมาต้องไปเข้าค่ายรับน้องใหม่ ปารต้องเจอกับอะไรบ้าง เขาและเธอจะปรับความเข้าใจกันได้รึเปล่า ติดตามได้เลยค่า...


Tags: เรื่องยาว

ตอน: ตอนที่5

รถบัสคันใหญ่สองคัน แล่นมาถึงก้นอ้าวตั้งแต่ตอนสาย เสียงคลื่นซัดเข้าสู่ฝั่งเป็นระยะ ๆ ดังซ่า…ซ่า… ลมพัดเอากลิ่นอายทะเลมาปะทะอย่างคุ้นเคย หาดทรายขาวเรียวยาวสุดสายตา มองเห็นเรือประมงอยู่ไกลลิบ อวน และแหตาข่ายที่กางอยู่ตามที่ต่าง ๆ เป็นสัญลักษณ์ของการดำรงชีพของชาวบ้านแถบนี้ บ้านชาวประมงถูกสร้างขึ้นอย่างง่าย ๆ ประปรายอยู่ริมหาด มีร้านอาหารทะเล และเตียงผ้าใบเรียงรายเป็นระยะ ฟ้าสีครามสดใส ทะเลสีเขียวมรกตกำลังเต้นระยิบระยับดูงดงาม ความงามของธรรมชาติดูหม่นหมองไปถนัดตา เมื่อหันไปเจอเศษขยะ ขวดเหล้า ขวดเบียร์ ซองมาม่า รองเท้าข้างหนึ่งบ้าง กล่องโฟม ซองยาสระผม เศษกระดาษห่อท็อฟฟี่ และอื่น ๆ อีกมากมาย มองไปตรงไหน ก็เกะกะสายตาไปหมด

ขบวนการรับน้องเริ่มขึ้น รุ่นพี่เริ่มฝึกวิชาเสริมสวยให้กับน้อง ๆ ทุกคน ด้วยการผูกผมจุก ให้คนละสามสี่จุก ใบหน้าถูกพอกทาด้วยสีสันแสบตา และลวดลายน่าเกลียดสุด ๆ พวกผู้ชายถูกถอดเสื้อ ให้ใส่ยกทรงของผู้หญิงแทน แล้วแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ รุ่นพี่หน้าตาดุ ๆ คอยส่งไอ้โน่ ไอ้นี่มาให้อม แล้วบอกให้ส่งอันที่อมแล้วต่อไปให้คนอื่นอมต่อ วนไปวนมา

“เอ้า! อมไว้! “ รุ่นพี่หน้าโหด หนวดเคลาเฟิ้ม ผิวดำเข้ม ตัวโตยังกะยักษ์ขหมูขี ส่งอมยิ้มมาให้ปารอมไว้ แล้วเดินไปดูน้องคนอื่น ๆ
“ปาร…กินเข้าไปเลย” ยนตร์แอบเข้ามากระซิบเบา ๆ
ปารทำตาม เพราะคิดว่า คนอื่นจะได้ไม่ต้องอมต่อ เธอเคี้ยวกลืนลงไป
“อ้าว..!! น้อง! อมยิ้มล่ะ” ชายหน้าดุเดินกลับมาโวยวายเสียงดัง

ปารหน้าถอดสี จ๋อยลงทันที ก่อนที่จะตะกุกตะกักตอบไปอย่างยากเย็น
“อยู่…อยู่ในท้องแล้วค่ะ”
“พี่สั่งให้อม ไม่ได้ให้กิน แทงปาไหลเดี๋ยวนี้ 30!!” เขาสั่งเสียงเหี้ยมดังลั่น ทำเอาหน้าของปาร หดเล็กลงเข้าไปอีก แต่ไม่วายที่จะหันไปขว้างค้อนใส่ยนตร์ด้วยสายตา

นับว่า โชคดีที่เธอถูกทำโทษ ทำให้รอดพ้นจากการอมมะนาวครึ่งลูกที่ต้องส่งให้เพื่อนอมต่อด้วยปากต่อปาก แม้จะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่ก็อดรู้สึกสะอิดสะเอียนไม่ได้ น้ำลายงี้…ยี้….แต่ทุกคนก็ต้องทำตามคำสั่งบ้า ๆ บอ ๆ ไปตามระเบียบ

จากนั้นทุกคนถูกปิดตา ต้องเดินไปตามฐานต่าง ๆ โดนรุ่นพี่สั่งให้ทำโน่น ทำนี่ ซึ่งล้วนแล้วแต่น่าเกลียด แปลกประหลาด และไม่เป็นผู้เป็นคน ต้องกินอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด
“กินเข้าไปน้อง!!” เสียงรุ่นพี่สั่งให้น้องที่เดินมาถึงฐานนั้น ให้กินไข่นกกระทาที่อมมาจากฐานที่แล้ว
“ทั้งเปลือกเลยหรือคะ” ปารถามเสียงหลง
“อะ! แกะเปลือกก่อนก็ได้”
“แต่…พี่คะ มันยังไม่สุขเลย”
“เอ๊ะ! ยังไง! พี่บอกให้กินเข้าไป”

ยนตร์คอยสังเกตคนคุม เมื่อเห็นเขาหันไปทางอื่น รีบบอกปารให้ขุดหลุมฝังไข่เสีย ปารรีบทำตามทันที แล้วก้มหน้านิ่งไว้ ขืนกินเข้าไป มีหวังอวกแตกออกมาพอดี

ชายหนุ่มสะพายกล้อง เดินไปเก็บภาพตามฐานต่าง ๆ อดขยักแขยงไม่ได้ เมื่อเดินไปหยุดที่ฐานแปรงฟัน มองน้ำในโถที่แต่ละคนถูกบังคับให้อมแล้วแปรงฟันด้วยยาสีฟัน ก่อนจะบ้วนกลับลงไปในโถตามเดิม ไม่รู้กี่คนต่อกี่คน มีทั้งน้ำลาย ยาสีฟัน ขี้ฟัน เชื้อโรค ไม่รู้มีเศษอาหารด้วยหรือเปล่า หากมีใครอวกใส่ลงไปด้วย ดีที่แต่ละคนถูกปิดตาเอาไว้ เขารู้สึกสงสารจนต้องแวบขโมยโถน้ำไปเททิ้ง แอบเปลี่ยนน้ำมาให้ใหม่อยู่เสมอ

“ปาร…เป็นไงบ้าง กินน้ำจ้ะ” ยนตร์มองสาวน้อยที่มุดขึ้นมาจากหลุมทราย ผมเผ้าหยุ่งเหยิง หัวเต็มไปด้วยฟักทองเละ ๆ หน้าตาเนื้อตัวมอมแมม
“น้ำจริง ๆ นะ ไม่ได้แกล้ง กินเถอะ”
ปารจึงยอมดูดน้ำจากหลอดกาแฟอย่างกระหาย
“พอ ๆ ไปได้แล้ว ไว้ให้คนอื่นเขากินมั่ง” เขาไล่เธอให้คลานไปฐานต่อไป

ตอนเย็นกิจกรรมตามฐานต่าง ๆ จึงสิ้นสุดลง รุ่นพี่อนุญาตให้น้อง ๆ เล่นน้ำทะเลได้ แต่ต้องให้พี่รหัสเป็นคนแกะผ้าผูกตาให้ก่อน ห้ามแกะเองหรือให้เพื่อนแกะให้
“เอ้า! ปาร พูดเพราะ ๆ ซิ แล้วจะแกะผ้าออกให้”

ปารนิ่งเฉย ได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่น นึกถึงตอนที่ถูกเพื่อน ๆ ของเขาล้อครั้งใด แล้วเขาแอบอมยิ้มสบายใจอย่างมีความสุข เธอก็ยังอดมีน้ำโห แค้นใจไม่หาย ทั้งเจ็บใจทั้งเสียใจ อับอายขายหน้าที่สุด ไม่เคยคิดว่าจะโกรธเขาได้นานขนาดนี้เลย เพียงแต่ยังทำใจยอมรับกับการกระทำของเขาที่ผ่านมานี้ไม่ได้

ยนตร์ถอนใจ “ไม่อยากพูดก็ไม่ต้อง! พี่ไม่บังคับ” แล้วแกะผ้าผูกตาออกให้

ปารค่อย ๆ เดินเข้าหาทะเลอย่างช้า ๆ ด้วยความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ อย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนเธอตัวนิดเดียวเมื่อเทียบกับพื้นทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล นานแล้วที่เธอไม่ได้มาทะเลเลย ภาพท้องทะเลเบื้องหน้าดูเวิ้งว้าง แฝงความน่ากลัวอยู่ลึก ๆ คล้ายจะกลืนกินสิ่งที่พัดหลงเข้าไปให้จมลงสู่ก้นบึ้งของทะเล คลื่นค่อย ๆ ม้วนตัวแล้วซัดกระแทกเข้าหาฝั่ง เป็นระยะ ๆ ตลอดเวลา พื้นน้ำใสจนมองเห็นทรายเบื้องล่าง

ยนตร์เดินตามน้องรหัสของเขาด้วยความห่วงใย เขาไม่แน่ใจว่า เธอว่ายน้ำเก่งขึ้นหรือยัง หลังจากที่เคยพยายามสอนเธอหัดว่ายน้ำเมื่อนานมาแล้ว แม้ว่าเธอจะพอว่ายน้ำเป็นแล้ว แต่ในความรู้สึกของเขา เธอก็ยังว่ายน้ำไม่ได้เรื่องอยู่ดี เขาพยายามชวนเธอพูดคุย แต่สาวน้อยก็ยังคงไม่พูดไม่จา ตีสีหน้าเครียดอยู่อย่างเดิม จนต้องเดินผละออกมาอย่างเหนื่อยใจ

“ทำไงก็ไม่หายโกรธซักที ขี้งอนชะมัดเลย” เขาบ่นอยู่ในใจ ถึงอย่างไรเขายังไม่เคยคิดจะยอมแพ้ หันกลับไปมองอีกครั้ง เห็นเธอกำลังตะกุยตะกายเหมือนกำลังจะจมน้ำ เขาตกใจรีบว่ายเข้าไปช่วย แต่เขาก็ได้แต่เฝ้ามองเธออย่างเป็นห่วง เมื่อมีเด็กหนุ่มรุ่นน้องด้วยกัน เข้าไปช่วยเธอก่อนที่เขาจะว่ายไปถึง

“เป็นไรหรือเปล่าครับ”
ปารลืมตามองคนที่ช่วยเธอไว้ มือของเขายังประคองเธอไว้ในอ้อมแขน ในใจรู้สึกผิดหวังที่เขาไม่ใช่ “พี่ยนตร์” ของเธอ
“ขอบคุณค่ะ ไม่เป็นไรแล้วค่ะ” ปารยิ้มแห้ง ๆ ให้เขา ก่อนที่จะผละออกมาอย่างห่อเหี่ยวหัวใจ

‘บ้าจัง ทำไมต้องคิดถึงพี่ยนตร์ด้วยนะ’ เธอตำหนิตัวเอง และคิดว่า ต่อไปนี้เธอจะช่วยตัวเองโดยไม่หวังความช่วยเหลือจากเขาอีกแล้ว

ปารเปลี่ยนท่าว่ายน้ำจากท่าลูกหมาตกน้ำเป็นท่าฟรีสไตล์ ด้วยเหตุผลที่ว่า “พี่ยนตร์” เป็นคนสอนท่าลูกหมาตกน้ำให้เธอ แต่ไม่ว่าจะว่ายท่าไหน ก็ยังคงเป็นท่าว่ายน้ำที่เขาเคยสอนให้เธออยู่ดี เพราะอย่างไรเขาก็เป็นคนสอนให้เธอว่ายน้ำเป็นนั่นเอง อยู่ ๆ เธอรู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่แขนขวาขึ้นมาเฉย ๆ ปวดแสบไปทั้งแขน เหมือนโดนอะไรบางอย่าง และสิ่งนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพิษ คลื่นลูกโตซัดมาในจังหวะที่เธอกำลังตกใจ จึงทำให้สำลักน้ำอย่างแรง ทั้งไอสำลักน้ำ ทั้งแสบร้อนไปทั้งแขน แต่ต้องฝืนใช้แขนนั้นช่วยพยุงตัวอีกแรงหนึ่งอย่างทุกลักทุเล แล้วตะเกียกตะกายว่ายน้ำกลับเข้าหาฝั่ง เริ่มรู้สึกเหนื่อยและกำลังจะหมดแรง

ยนตร์เข้าไปประคองร่างของปารเอาไว้ เมื่อเห็นเธอท่าทางไม่ค่อยดี
“ปาร! ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
ปารเงยหน้ามองเขา ไม่พูดอะไร แต่พยายามผละออกจากการช่วยเหลือของเขา
“ปารว่ายกลับเองได้หรอ ดูปารเหนื่อยมากนะ” เขาพยายามบังคับน้ำเสียงให้ปกติ แม้จะเริ่มรู้สึกโกรธที่เธอดื้อดึง

“ต่อไปนี้ พี่ยนตร์ไม่ต้องมาคอยช่วยปาร หรือทำอะไรให้ปารอีกแล้ว ปารไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากพี่ยนตร์อีกต่อไปแล้ว” แม้เสียงนั้นจะเบาด้วยความเหนื่อยอ่อนแต่เขาก็ได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ

“อยากให้ไอ้หนุ่มคนนั้นมาช่วยใช่มั้ยล่ะ ถึงไม่อยากรับความช่วยเหลือจากพี่” เขาเริ่มโมโห ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมต้องไปพาดพิงถึงรุ่นน้องที่ช่วยเธอเอาไว้ก่อนหน้านี้ด้วยนะ
“พี่จะไปตามเขามาให้ ถ้าเธอต้องการ”
ยนตร์ปล่อยมือ

ทันทีที่ยนตร์ปล่อยมือ ร่างของเด็กสาวก็จมดิ่งลงไปในน้ำด้วยความเหนื่อยล้าเต็มที่

เขาตกใจ รีบคว้าตัวเธอขึ้นมา แล้วพากลับเข้าฝั่งทันที วางเธอลงบนพื้นทราย พร้อมปฐมพยาบาลเบื้องต้น
“ปารฟื้นสิ! ปารไม่เป็นไรใช่มั้ย” เขาตบหน้าเธอถี่ ๆ เบา ๆ
“ฟื้นเร็วเข้า ปาร!” มองร่างเธอที่นอนแน่นิ่ง ได้แต่ภาวนาอยู่ในใจ ขอให้เธอฟื้น
“ถ้าเธอไม่ฟื้นพี่ต้องเม้าท์ทูเม้าท์นะ ว่าพี่ไม่ได้นะ” เขาใจคอไม่ค่อยดีเอาเสียเลย เพราะไม่อยากใช้วิธีผายปอดด้วยการเม้าท์ทูเม้าท์แบบในละครซักเท่าไหร่
“พี่ไม่เคยนะปาร อย่าล้อเล่นสิ ลืมตา เร็วเข้า” เขาก้มมองหน้าซีดขาวของเธอพลางเขย่าตัวสาวน้อย แต่ร่างนั้นยังคงนอนนิ่งงัน ไม่กระดุกกระดิก

ยนตร์ยกมืออังลมหายใจของเธอที่แผ่วเบา แล้วตัดสินใจผายปอดให้เธอ ทำสมาธินิ่งชั่วอึดใจ และบอกตัวเองว่า นี่คือการช่วยเหลือ ไม่ใช่การล่วงเกินเธอ ยกคางของเธอให้สูงเงยไปทางด้านหลัง อ้าปากเด็กสาว เอามือครอบริมฝีปากของปารเอาไว้ เขานึกถึงวิธีผายปอดแบบเซี่ยงเส้าหลง ในหนังจีนเรื่องเจาะเวลาหาจิ๋นซี ที่ใช้วิธีผายปอดแบบเม้าท์ทูเม้าท์ได้อย่างเป็นสุภาพบุรุษที่ไม่เหมือนใคร

ชายหนุ่มเงยหน้า สูดลมหายใจทางปากเข้าปอดให้เต็มที่

เหมือนเด็กสาวจะได้ยินถ้อยคำ ครู่หนึ่งต่อมาเธอไอถี่ ๆ และสำรอกน้ำออกมา

ยนตร์รีบประคองเธอลุกขึ้นนั่ง ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างดีใจ ที่เห็นเธอฟื้น

“โดนอะไรมาปาร แมงกะพรุนหรือเปล่า” เขาสังเกตเห็นแขนขวาของเธอแดงปื้นไปทั้งแขน เห็นรุ่นน้องและเพื่อน ๆ เขาโดนไปหลายคนแล้ว

ปารไม่ตอบ ขยับตัวเองลุกขึ้นยืน

“เดี๋ยวพี่จะไปเก็บผักบุ้งทะเลมาทาให้นะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอดึงแขนตัวเองออกจากมือชายหนุ่ม แล้วผละเดินจากมา

ความรู้สึกที่ค่อย ๆ สะสมมาทีละเล็กละน้อย ความอึดอัดใจ ความน้อยใจที่ทับถมอยู่ในใจ วันแล้ววันเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่เธอแสดงแต่อาการเฉยชา ถูกกดดันจนระเบิดออกมาอย่างสุดที่จะทนอดกลั้นต่อไปได้อีกแล้ว

“หยุด!! อยู่ตรงนั้นนะปาร!!” ยนตร์ตะโกนสั่งเสียงดังลั่น

เด็กสาวชะงัก!!

น้ำเสียงโกรธจัดจนแตกพร่านั้น ทำให้เธอไม่กล้าที่จะก้าวเท้าออกไป และสัมผัสได้ว่าเขากำลังโกรธเธอมาก ๆ ที่เธอปฏิเสธความหวังดีของเขาอย่างนี้ อยากจะสั่งเท้าให้วิ่งออกไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่เท้ากลับไม่ยอมทำตามคำสั่ง

“มานี่! เดี๋ยวนี้!”

นอกจากเท้าจะไม่ยอมทำตามคำสั่งเธอแล้ว ยังเดินเข้าไปหาเขาตามคำสั่งเขาอีก ตอนนี้เธอหยุดโกรธเขาชั่วคราว ราวกับว่า ความโกรธถูกถ่ายเทไปกองรวมอยู่ที่เขาหมดแล้ว เลือดฝาดฉีดขึ้นหน้าจนใบหน้าเขาแดงจัด ในดวงตาเหมือนมีน้ำใส ๆ คลออยู่

“รออยู่นี่นะ” เขาลดเสียงฉุนเฉียวลง และเริ่มรู้สึกดีขึ้นที่เธอเชื่อฟัง

ยนตร์เดินไปเก็บผักบุ้งทะเลที่เรื้อยแผ่กิ่งก้านสาขาอยู่เต็มแนวของหาดทรายด้านบน แล้วเดินกลับมา ขยี้ผักบุ้งทะเล เค้นน้ำทาบนแขนขวาของเด็กสาวที่เป็นรอยปื้นแดงเต็มไปหมด

ปารรู้สึกปวดแสบปวดร้อนอย่างมาก บริเวณที่เป็นรอยแดง แต่พยายามไม่แสดงออกมาทางสีหน้า ได้แต่มองเขาก้มหน้าก้มตาเอาผักบุ้งทะเลทาแขนให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างตั้งอกตั้งใจ สายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของเขาแบบนี้ ไม่เคยเปลี่ยนเลย เหมือนที่เธอเคยเห็นเมื่อครั้งยังเยาว์วัย

น้ำตาพาลรื้นขึ้นมาคลอดวงตาของเธอเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามกดข่มความรู้สึก พยายามที่จะอดทน อดกลั้น พยายามจะซ่อนมันเอาไว้ พยายามจะไม่ให้เขาเห็นน้ำตา แต่ยิ่งห้ามกลับยิ่งทำให้เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นหนักมากกว่าเดิม จนตัวสั่นเทาไปหมด ยิ่งเห็นเขาทำดีกับเธอน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมาอย่างไม่สามารถกลั้นเอาไว้ได้เลย

ยนตร์ดึงเด็กสาวเข้ามากอดไว้ ยกมือตบหลังเธอเบา ๆ ปลอบโยน
“ปาร…พี่ขอโทษ ขอโทษนะ อย่าทำแบบนี้ได้มั้ย… “ เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจเหลือเกินกับการเฉยชาของเธออย่างนี้
“เราดีกันนะ ปารเลิกโกรธพี่นะ ได้มั้ย… พี่ขอร้อง…”

เมื่อเด็กสาวได้สติ คิดได้ว่า เธอโตแล้ว ไม่ควรจะร้องไห้ให้เขาคอยปลอบเหมือนเด็ก ๆ อีกแล้ว เธอต้องหัดเข้มแข็งด้วยตัวเองซะที เธอรีบวิ่งผละออกไปจากอ้อมแขนของเขา

เขามองเธอวิ่งจากไปอย่างงุนงง ไม่เข้าใจว่า เขาทำอะไรผิดอีกแล้วหรือ? รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างวิ่งตามเธอไปด้วย

==============

สวัสดีค่า...สบายดีกันรึเปล่าคะ อากาศเปลี่ยนแปลงระวังรักษาสุขภาพกันด้วย ตอนนี้ป่วยเป็นไข้ หวังว่าเพื่อน ๆ คงสบายดีนะคะ ^^



ริเศรษฐ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 พ.ค. 2555, 19:30:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 พ.ค. 2555, 19:30:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 1605





<< ตอนที่ 4   ตอนที่6 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account