คุณทวดออนไลน์ (The Real of Life online)
เมื่อคุณทวดเข้าไปเล่นเกมออนไลน์ (เนื้อเรื่องนี้ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ เขียนเน้นฮาเพียงอย่างเดียวค่ะ)
Tags: เฮฮา บ้าบอ มาริโอ เกมออนไลน์ คุณทวด
ตอน: บทที่ 8
บทที่ 8 มิตรภาพ
“วู้! อิสระจ๋าข้ามาแล้ว!!”
มาริโอโห่เสียงร้องอย่างดีใจหลังจากที่วิ่งหนีได้มาไกลพอสมควร นั่นก็เป็นเพราะว่าเกมนี้ถูกตั้งโปรแกรมให้ทาสรับใช้ของผู้เล่นสามารถไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องให้เจ้านายตามไปด้วย แต่ถ้าหากเจ้านายเรียกหาแล้ว ไม่ว่าทาสรับใช้จะอยู่ที่ห่างไกลหรือกำลังทำอะไรอยู่ก็ตามที มันก็จะต้องหายตัวกลับไปอยู่ข้างกายเจ้านายอัตโนมัติทันทีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งราตรีพิสุทธิ์เองก็ได้เรียนรู้วิชาการเรียกทาสรับใช้ของตัวเองนี้จากเมฆามาแล้วด้วยเช่นกัน
เมื่อมาริโอวิ่งมาได้สักพักแล้วจึงหยุดลงที่ลำธารแห่งหนึ่งเพื่อพักให้หายเหนื่อย
“ลำธาร! โห น้ำใสแจ๋วซะด้วย ไปกินน้ำดีกว่าเรา” เห็ดมาริโอพูดก่อนจะวิ่งเข้าไปกินน้ำในลำธาร ซึ่งมาริโอกินน้ำสักอึกใหญ่ได้แล้ว มันก็กระโดดลงว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน “เจ้าก็ลงมาเล่นน้ำด้วยสิไอ้เด็กเปรต”
มาริโอเผลอร้องเรียกหาราตรีพิสุทธิ์ด้วยความลืมตัว แต่พอมันหันกลับไปดูฝั่งก็พบกับความว่างเปล่า
จริงสิ ข้าทิ้งไอ้เด็กนั่นมานี่...
มาริโอคิดในใจก่อนจะนึกความหลังที่ทารกน้อยผมสีเงินเป็นผู้ทำอาหารให้มันกินทั้งๆที่อีกฝ่ายยังเล็กกว่ามันมาก ไหนจะช่วงเวลาที่มาริโอท้องเสียเพราะมันได้ชิมฝีมือการทำอาหารของทารกน้อยตนนั้น อีกฝ่ายก็ยังสู้อุตส่าห์คลานไปหาผลไม้มาบดให้มันทานแก้ท้องเสียอีก
“เฮ้ย! นี่ข้าจะไปคิดถึงไอ้เด็กเปรตนั่นไปทำไมกัน อุตส่าห์รอดพ้นเงื้อมมือมันแล้วแท้ๆ เฮ้อ! นอนเล่นดีกว่า”
มาริโอพูดก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแผ่บนพื้นหญ้าที่เขียวชอุ่ม ถึงแม้ที่นี่จะมีลมเย็นๆพัดพาให้น่านอนก็ตาม แต่มันกลับรู้สึกร้อนรุ่มจนนอนไม่หลับ แล้วมาริโอนอนมองท้องฟ้าอยู่เนิ่นนานก็พลันคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้อีกครั้ง หลังจากที่มาริโอถูกห้อยหัวอยู่นานเกือบสามชั่วโมง ทารกน้อยก็ได้คลานมาหามันถึงที่ตามลำพัง
“อ๋อโอ้ดอี้ไอ้ออยอาน อ้าอาอ้วยเอ้าแอ้ว (ขอโทษที่ให้คอยนาน ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว)”
ทารกผมสีเงินบอกก่อนจะมองซ้ายมองขวาราวกับหาอะไรบางอย่าง
“อ๊ะ อั้นไอ (อ๊ะ นั่นไง)” แล้วร่างเล็กคลานหายไปจากสายตาของมันสักพัก ก่อนจะโผล่ออกมาอีกครั้งพร้อมกับไม้ยาวด้ามหนึ่งซึ่งปลายไม้มีมีดสั้นเล่มหนึ่งถูกมัดติดเชือกมาด้วย “อิ้งๆอ๊ะ เอี๋ยวอะอัดเอื๊อกไอ้ (นิ่งๆนะ เดี๋ยวจะตัดเชือกให้)”
แล้วเจ้านายก็ทำให้มันเป็นอิสระจากการถูกห้อยหัว ก่อนจะคลานมาหามันอีกครั้งพร้อมกับตัดเชือกที่มัดรอบตัวออก
“อิ๋วอื๋ออัง อ้าเอาอาอ๋านอับอาๆไอ้เอาอิน (หิวหรือยัง ข้าเอาอาหารกับยามาให้เจ้ากิน)” เนื่องจากมาริโอถูกเมฆาเฆี่ยนอย่างหนัก แถมหิวจนไส้จะขาดจึงได้แต่นอนนิ่งมองร่างเล็กที่นั่งอยู่เบื้องหน้ามันเพียงอย่างเดียว “อ้าวแอ้วอัน อะอับไอ้อ้ายออกอึ๊ (อ้าวแล้วกัน ขยับไม่ได้หรอกรึ)”
ร่างเล็กพูดด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่ามันไม่ยอมดื่มยากับทานอาหารตามที่สั่ง
“ฮู้! อั๋นเอี๋ยวอ้าอ้อนไอ้แอ้วอันอะ (ฮู้! งั้นเดี๋ยวข้าป้อนให้แล้วกันนะ)” แล้วเจ้านายของมาริโอก็ป้อนอาหารให้มันจริงๆ ซึ่งทำเอามาริโอถึงกับอึ้ง ไหนจะป้อนยาให้มันหลังจากป้อนข้าวเสร็จกับทายาบนแผลที่ถูกเฆี่ยนด้วยแส้ให้มันอีก
นี่มันคิดถูกหรือคิดผิดที่บังอาจทิ้งเจ้านายไว้เบื้องหลังแล้ววิ่งหนีเอาตัวรอดแบบนี้
มาริโอครุ่นคิดในใจอย่างกลัดกลุ้ม ก่อนมันจะวาดภาพร่างทารกถูกเหล่าหนอนยักษ์สีเขียวหลายร้อยตัวรุมทำร้ายอย่างน่ากลัว เจ้านายของมันทั้งตัวเล็กทั้งไม่มีเรี่ยวแรงพอจะถืออาวุธอะไรได้นอกจากแส้กำราบสัตว์กับค้อนพลาสติกเท่านั้น ซึ่งผิดกับหนอนยักษ์ที่มีระดับมากกว่าราตรีพิสุทธิ์ลิบลับ นี่ถ้าได้มันสักคนคอยอยู่ช่วยป้องกัน ก็คงจะพอพาหนีได้อยู่บ้าง ทว่าความคิดด้านเลวของมาริโอขัดแย้งกับความคิดด้านดี มันจึงเลือกที่จะนอนต่อ
ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ ไอ้เด็กเปรตนั่นจะได้ลิ้มรสของความเจ็บปวดเหมือนมันซะบ้าง
มาริโอคิดในใจพลางหลับตาลง ก่อนที่มันจะได้เห็นภาพเจ้านายมันที่ชุ่มไปด้วยเลือด
“กร็อด!”
มาริโอกัดฟันตัวเองด้วยความเกรี้ยวกราด ซึ่งมันก็รีบลุกขึ้นยืนก่อนจะวิ่งกลับไปยังทิศที่มันเคยทิ้งเจ้านายของมันเอาไว้
อย่าเพิ่งรีบตายไปก่อนล่ะไอ้เด็กเปรต!
ย้อนกลับมาทางด้านราตรีอีกครั้ง ซึ่งเธอเกือบจะถูกหนอนยักษ์ฆ่าถ้าไม่ได้สร้อยผลึกเกล็ดย้อนของท่านแม่คอยป้องกันเอาไว้แล้วล่ะก็ เธอคงตายไปนานตั้งแต่การโจมตีครั้งแรกของหนอนยักษ์ไปนานแล้ว แต่พอเวลาผ่านไปได้ไม่นาน บาเรียที่คอยคุ้มกันราตรีก็เริ่มมีรอยร้าวขึ้นปรากฏ ซึ่งทำเอาราตรีถึงกับใจเสีย
ไม่นะ...
อย่าเพิ่งมาหายตอนนี้เลยได้โปรด...
“พระเอกมาแล้ว!”
จู่ๆ เสียงใครบางคนก็ดังขึ้นแทรกความคิด ซึ่งทำให้ราตรีรีบหันหลังกลับไปมองก่อนจะเห็นมาริโอยืนเต๊ะบนโขดหินด้วยท่าที่มันคิดว่าเท่ห์ที่สุดในชีวิต
มาริโอ!
ราตรีเห็นแล้วรู้สึกเป็นปลื้มแกมสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงคิดกลับมาช่วยเธอทั้งๆที่มันสามารถหนีเอาตัวรอดไปแล้วด้วยซ้ำ
“อับอาอำไอเอ้าอ้า! อากอะอายอึ๊ไอ อี๋ไออ๊ะ! (กลับมาทำไมเจ้าบ้า! อยากจะตายรึไง หนีไปซะ!)” ราตรีตะโกนบอกมัน เพราะเธอไม่ต้องการให้มันกลับมาช่วยเธอ แต่ทว่ามาริโอหาได้ทำตามไม่ มันกลับวิ่งกระโดดข้ามเป็นระยะๆเพื่อหลบหนอนยักษ์ที่ขวางทางมันอยู่ “อย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้มาช่วยเจ้า”
มาริโอบอกในขณะที่มันกระโดดถีบตัวหนอนยักษ์ที่ยืนขวางทางมัน
“เพราะคนที่จะจัดการกับเจ้าคือข้าคนเดียวเท่านั้น”
ถึงแม้คำพูดของมาริโอจะฟังดูน่าโมโห แต่มันก็ทำให้ราตรียิ้มออกมาได้อีกครั้ง เมื่อมาริโอได้ฝ่าวงหนอนยักษ์นับร้อยตัวจนเข้ามาถึงตรงที่ราตรีนอนอยู่ได้แล้ว บาเรียที่เคยคุ้มกันราตรีก็พลันหายไปทันที
“เวรล่ะ! บาเรียหาย!!”
มาริโอร้องอย่างตกใจก่อนจะคาบเสื้อราตรีดึงขึ้นมา ซึ่งราตรีเองก็ใช่ว่าจะอยู่เฉย เธอรีบปีนขึ้นกลับไปนั่งบนหัวมาริโอตามเดิมก่อนจะหยิบแส้กำราบสัตว์ขึ้นมาโจมตีหนอนยักษ์อย่างเร็ว ส่วนมาริโอก็รีบงัดไม้ตายของตัวเองมาใช้กับพวกหนอนยักษ์ต่อ ถึงแม้ราตรีจะได้มาริโอกลับมาช่วยแล้ว แต่มันก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้มาก มันทำได้ก็แค่เตะถีบกับกระโดดเหยียบเท่านั้น ซึ่งไม่นานนักทั้งคู่ก็เริ่มถูกฝูงหนอนยักษ์บีบเข้าเป็นวงแคบ
“ไอ้อีอ้าเอะอะอองเอ่าอื๋ออ้นอูกไออ๋ออาอิโอ้ (ไม่มีท่าเตะกระดองเต่าหรือพ่นลูกไฟเหรอมาริโอ)” ราตรีถามอย่างพึ่งนึกขึ้นได้ขณะที่เธอกำลังใช้แส้ฟาดหนอนยักษ์อย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนคนถูกถามได้แต่มึนงงกับคำถามของราตรี “อั้นไอ้อ้ออะโอดเอียบเอ้าอ้วกอี้ไอเอื้อยๆ อะไอ้อ็อคอึ่งอ้อยอัว (งั้นไม่ก็กระโดดเหยียบเจ้าพวกนี้ไปเรื่อยๆ จะได้ตัวป๊อก 100 ตัว)”
“ชื่อเหมือนแต่เกมไม่เหมือนนะเฟ้ย!” มาริโอตอบกลับอย่างฉุนเฉียวพลางกระโดดเหยียบหนอนยักษ์ตัวหนึ่ง “ถ้าเจ้าทำขนาดนั้นได้ เรามาฟิวชั่นกันเลยดีกว่าไหม”
ราตรีได้ยินก็นึกขำที่อีกฝ่ายพูด
เข้าใจพูดประชดดีนะ
หากด้วยสถานการณ์ปกติราตรีคงคิดจะพูดกับมาริโอต่ออีกแน่ แต่ตอนนี้มันฉุกเฉินเกินกว่าที่จะล้อกันเล่นได้ ทันทีที่มาริโอจะกระโดดโจมตีอีกครั้ง กลับโดนบอสหนอนยักษ์ที่แอบอยู่มุมอับสายตาของมันเข้าเล่นงานจนทำให้มาริโอกับราตรีต้องล้มลงไปนอนกับพื้น
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกบอสหนอนยักษ์ระดับ10 โจมตี ทำให้พลังลดลง 5”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของบอสหนอนยักษ์ ทำให้พลังลดลง 8”
ระบบประกาศก้องหัวราตรีพิสุทธิ์ ซึ่งมาริโอก็ได้คืบคลานมาหาเธอก่อนจะใช้ตัวบังไว้
“อำอะไออะอาอิโอ้ อ่อยอ้าออกไออะ! (ทำอะไรนะมาริโอ ปล่อยข้าออกไปนะ!)”
ราตรีบอกพลางใช้มือสองข้างดันอีกฝ่ายให้ออก แต่มาริโอกลับหาทำตามไม่
“ไม่ ข้าจะไม่ให้เจ้าต้องตายก่อนข้าไอ้เด็กเปรต” มาริโอบอกเสียงเข้ม “ต้องมีใครสักคนมาช่วยเจ้าอย่างแน่นอน ข้าเชื่ออย่างนั้น”
มาริโอพูดก่อนจะโดนบอสหนอนยักษ์กับพวกหนอนยักษ์รุมกระหน่ำเข้าโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกบอสหนอนยักษ์ระดับ10 โจมตี ทำให้พลังลดลง 10”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ2 โจมตี ทำให้พลังลดลง 8”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ3 โจมตี ทำให้พลังลดลง 7”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ8 โจมตี ทำให้พลังลดลง 3”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ7 โจมตี ทำให้พลังลดลง 7”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ5 โจมตี ทำให้พลังลดลง 2”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ1 โจมตี ทำให้พลังลดลง 1”
เสียงระบบประกาศอย่างบ้าคลั่งผนวกกับเลือดที่ไหลกระเซ็นจากมาริโอทำให้ราตรีนึกเจ็บใจที่ตัวเองช่วยอะไรมันไม่ได้ ส่วนคนที่ป้องกันเธออยู่ก็ได้แต่กระอักเลือดโดยไม่ร้องเสียงออกมาซักนิดเดียว
“มะ…มาริ…โอ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ราตรีเรียกชื่อมาริโอได้อย่างชัดเจน ซึ่งทำให้มันรู้สึกดีใจที่ได้ยินเจ้านายมันพูดชัดเป็นครั้งแรก แล้วมาริโอก็ได้กระอักเลือดอีกครั้ง ก่อนจะพลันล้มลงทับราตรีทันที
“เนื่องจากเห็ดมาริโอเสียเลือดมากเกินไป ทำให้ติดค่าสถานะมึนงง”
พอมาริโอทรุดตัวลงทับราตรีแล้ว จู่ๆ พื้นที่รอบข้างเกิดเสียงระเบิดดังลั่น ซึ่งราตรีก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะเธอถูกมาริโอทับจึงมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
เกิดอะไรขึ้นละนี่?
ในระหว่างที่ราตรีรอคอยว่ามันเกิดอะไรขึ้นนั้น เสียงระบบก็ได้ประกาศบอกค่าประสบการณ์ที่ราตรีได้รับจากพวกหนอนยักษ์ทั้งๆที่เธอไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 2 ชิ้น”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 5 ชิ้น”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 4 ชิ้น”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 6 ชิ้น”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 7 ชิ้น”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 2 ชิ้น”
ถึงแม้ราตรีจะได้ของมายังไงนั้น เธอก็ไม่สนมันอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้เธอเป็นห่วงมาริโอมากที่สุด ใบหน้าที่ปราศจากเลือดของมันทำให้ราตรีถึงกับคิดมาก เธอกลัวมันจะตายหากมันไม่ได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด
อย่าทอดทิ้งเราไปอีกคนนะมาริโอ
ราตรีครุ่นคิดอย่างกลัดกลุ้ม แล้วทันใดนั้นก็มีใครบางคนยกตัวมาริโอที่อยู่บนตัวของราตรีขึ้น ทำให้เธอได้เห็นบุคคลแปลกหน้าได้อย่างชัดเจน เผยให้เห็นหนุ่มหล่อนัยน์ตาสีดำกับเส้นผมสีม่วงยาวลากพื้นอายุราวสามสิบต้นในชุดนักบวชสีขาวกำลังมองหน้าเธออยู่
“เอ่อ...สวัสดี....ไม่เป็นไรใช่ไหมน้องสะ...เอ่อ...ชาย”
อีกฝ่ายกล่าวอย่างไม่แน่ใจกับคำพูดของตัวเอง แต่ทว่าราตรีหาได้ตอบคำถามนั้นไม่
“อี้อายอ้วยมะริโออี อ๋ออ้องอ่ะ อันอำอังอะอาย! (พี่ชายช่วยมาริโอที ขอร้องล่ะ มันกำลังจะตาย!)” ราตรีพูดขอร้องจนน้ำตาไหลอาบแก้ม “ไอ้โอดอะอั๊บ อ้วยอันอี (ได้โปรดนะครับ ช่วยมันที)”
ชายหนุ่มได้ยินที่เธอพูดถึงกับขมวดคิ้วมึนงงอยู่สักพัก ก่อนจะร้องเสียงสูง
“อ้อ ได้สิพี่ชายจะช่วยเดี๋ยวนี้แหละ”
แล้วชายหนุ่มแปลกหน้าก็รีบช่วยมาริโออย่างเร็ว โดยใช้เวทมนตร์ในการรักษามาริโอกับดื่มยาสีน้ำตาลเพียงแค่ครั้งเดียว
“เห็ดมาริโอได้รับการฟื้นฟูบาดแผล 100%”
“เห็ดมาริโอได้รับยาแก้สถานะมึนงง”
เสียงของระบบประกาศก่อนที่มาริโอจะลืมตาขึ้นมา ซึ่งทำให้ราตรีลืมตัวเผลอเข้าไปกอดมาริโอด้วยความดีใจ
“มะรีโอ้!”
“มะเหงกแน่ะ! ใครมะรีโอ้กันไอ้เด็กเปรต” มาริโอเถียงทันทีที่ได้ยินคำพูดไม่ชัดเจนของเจ้านายมัน พร้อมทั้งพยายามดันร่างเล็กให้ออกห่างด้วยความเขินอายที่ถูกกอด “พูดให้ชัดๆสิ มาริโอ! ไม่ใช่มะรีโอ้ จำไว้ให้ดี”
“มะรีโอ้!”
ราตรีไม่สนว่าตัวเองจะพูดผิดพูดถูก ขอเพียงได้เห็นมาริโอปลอดภัยก็พอใจแล้ว ส่วนมาริโอเมื่อสายตาเริ่มชัดเจนแล้ว มันก็ได้เห็นคราบน้ำตาของผู้เป็นนายซึ่งพอเดาได้ว่าอีกฝ่ายร้องไห้ทำไม
มัน…ร้องไห้เพราะข้ารึเนี่ย
“ค่ามิตรภาพของท่านเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 1”
ระบบประกาศแทรกอย่างขัดจังหวะ ซึ่งทำเอาราตรีแทบขมวดคิ้ว
“ว่าแต่...” มาริโอพูดเกริ่นพลางเงยหน้ามองผู้มาใหม่อย่างสงสัย “เจ้าเป็นใครกัน แล้วพวกฝูงหนอนยักษ์มันหายหัวไปไหนกันหมดเนี่ย”
ราตรีได้ยินที่มาริโอพูดก็รีบเช็ดน้ำตาก่อนจะตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“อี้ชายอนอี้อาอ้วยอ้วกเอาอะมะรีโอ้ อ่วนอ้วกอ๋อนอั๊กอ้อไอ้อี้อายอนอี้อัดอานไอ้ (พี่ชายคนนี้มาช่วยพวกเรานะมาริโอ ส่วนพวกหนอนยักษ์ก็ได้พี่ชายคนนี้จัดการให้)”
“อย่างนั้นเองหรอกรึ”
มาริโอพูดพลางเงยหน้ามองชายหนุ่มที่มาช่วย แต่ทว่าไม่รู้ทำไมพอมาริโอมองอีกฝ่ายแล้วพลันนึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก
ชะรอยว่าจะเป็นพวกไม่หวังดีปลอมตัวมา
“ออบอุนอั๊บอี้อายอี้อาอ้วยอ้วกอ้า (ขอบคุณครับพี่ชายที่มาช่วยพวกข้า)”
ราตรีหันไปขอบคุณชายหนุ่มอย่างจริงใจโดยเธอลืมไปว่าตัวเองยังพูดไม่ชัดเจน จึงทำให้อีกฝ่ายถึงกับขมวดคิ้วเป็นรอบที่สอง ซึ่งมาริโอเห็นชายหนุ่มทำหน้ามึนงงก็พอเข้าใจดีว่าทำไมอีกฝ่ายถึงทำหน้าแบบนั้น
“อะแฮ่ม!” มาริโอทำท่ากระแอมไอก่อนจะเชิดหน้าขึ้นพูดว่า “จะแปลให้เอาบุญแล้วกัน ฮึ เจ้านายของข้าบอกว่าขอบคุณที่ช่วย...แต่ไม่มีของมีค่าตอบแทนให้หรอกนะ”
ราตรีแทบอ้าปากค้างเมื่อได้ยินทาสของตัวเองพูดแปลให้อีกฝ่ายฟัง ส่วนชายหนุ่มเมื่อได้ยินที่มาริโอพูดกลับทำหน้าขมวดคิ้วมองมาริโอราวกับใช้ความคิด ก่อนจะพูดกลับมาด้วยสีหน้าสบายๆว่า
“ของตอบแทนรึ หึ ไม่ต้องหรอก บังเอิญว่าบ้านรวย แต่คิดดูๆได้กินเห็ดย่างจิ้มน้ำพริกก็ไม่เลว”
มาริโอได้ยินคำด่าของอีกฝ่ายก็แทบลมออกหู จนหวิดขอสรรเสริญมารดาของชายหนุ่มสักครั้ง
“จริงสิ เกือบลืมแนะนำตัวไปเลย” จู่ๆ ชายหนุ่มก็พูดเปลี่ยนเรื่องอย่างหน้าตาเฉยโดยไม่สนใจมาริโอที่ทำหน้าบึ้งตึงใส่ “พี่ชื่อปริ๊นซ์ ยินดีที่ได้รู้จักนะน้องชาย”
“เอ้นอันอั๊บอั้นอี้อิ้น อ้าอื้อ… (เช่นกันครับท่านพี่ปริ๊นซ์ ข้าชื่อ…)”
“…ราตรีพิสุทธิ์ เจ้านายข้าชื่อราตรีพิสุทธิ์ ส่วนข้า…มาริโอ ผู้ไร้พ่าย” มาริโอแย่งเธอพูดกะทันหัน ทำให้ราตรีต้องอ้าปากค้างเป็นรอบที่สอง “เมื่อรู้แล้วก็จงกลับไปซะ พวกข้าไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใครอีก”
ปริ๊นซ์ยิ้มแล้วส่ายหน้าเมื่อได้ยินที่มาริโอพูด
“คงไม่ได้หรอกคุณมาริโอผู้ไร้พ่าย” ปริ๊นซ์พูดแกมขำขัน “เพราะฉันคงไม่ใจร้ายพอที่จะทิ้งให้เด็กทารกผู้น่ารักกับเห็ดตัวหนึ่งที่อวดเบ่งเหมือนเกรียนเดินหลงในป่าเขาวงกตได้ตามลำพังหรอกจริงไหม”
คำพูดของปริ๊นซ์ทำเอามาริโอแทบอยากเค้นคออีกฝ่ายให้ตายคามือ
“แกไอ้!”
“มะรีโอ้!” ราตรีรีบห้ามเพราะกลัวมาริโอจะทำเสียมารยาทอีก เธอจึงใช้ค้อนพลาสติกของเด็กทุบหัวมาริโอเสียหนึ่งที “อี๊บอ๋อโอดเอาอ๊ะ แอ้วอ้อออบอุนเอาอ้วย เอาอุดอ่าอ้วยอ้วกเอาไอ้อะ (รีบขอโทษเขาซะ แล้วก็ขอบคุณเขาด้วย เขาอุตส่าห์ช่วยพวกเราไว้นะ)”
“แต่ข้าไม่ยอม…”
“มะรีโอ้”
ราตรีเรียกชื่อมันพลางจ้องอย่างเอาเรื่อง ถ้ามาริโอไม่เห็นแก่หน้าราตรีผู้เป็นนายแล้วล่ะก็ มันคงเอาเรื่องไปนานแล้ว
“ก็ได้...ขอโทษ! และ...ขอบคุณ!”
“หึ มิได้ๆ” ปริ๊นซ์ยิ้มตอบอย่างพอใจ ซึ่งหลังจากนั้นชายหนุ่มก็เอ่ยปากอาสาที่จะพาราตรีกับมาริโอออกไปยังนอกเขตป่าเขาวงกต ทีแรกราตรีลังเลที่จะตอบตกลง เพราะเธอกังวลว่าถ้าหากเมฆากลับเข้ามาในเกมอีกครั้งจะไม่เจอพวกเธออีก “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงไปน้องราตรี ถ้าน้องคิดจะตามหาเพื่อนในเกมแล้วล่ะก็ น้องสามารถไปเขียนบอกได้ที่ป้ายประกาศออกตามหาคนตรงใจกลางเมืองเริ่มต้นได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่เว้นวันหยุดราชการ ส่วนเรื่องเงินนั้น...น้องราตรีไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะเกมนี้เขาให้ผู้เล่นใช้บริการได้ฟรีทุกคน”
ปริ๊นซ์ตอบข้อสงสัยให้แก่ราตรีพิสุทธิ์ ซึ่งทำให้เธอยอมตกลงไปกับปริ๊นซ์แต่โดยดีอย่างไร้ข้อกังขา
“วู้! อิสระจ๋าข้ามาแล้ว!!”
มาริโอโห่เสียงร้องอย่างดีใจหลังจากที่วิ่งหนีได้มาไกลพอสมควร นั่นก็เป็นเพราะว่าเกมนี้ถูกตั้งโปรแกรมให้ทาสรับใช้ของผู้เล่นสามารถไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องให้เจ้านายตามไปด้วย แต่ถ้าหากเจ้านายเรียกหาแล้ว ไม่ว่าทาสรับใช้จะอยู่ที่ห่างไกลหรือกำลังทำอะไรอยู่ก็ตามที มันก็จะต้องหายตัวกลับไปอยู่ข้างกายเจ้านายอัตโนมัติทันทีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งราตรีพิสุทธิ์เองก็ได้เรียนรู้วิชาการเรียกทาสรับใช้ของตัวเองนี้จากเมฆามาแล้วด้วยเช่นกัน
เมื่อมาริโอวิ่งมาได้สักพักแล้วจึงหยุดลงที่ลำธารแห่งหนึ่งเพื่อพักให้หายเหนื่อย
“ลำธาร! โห น้ำใสแจ๋วซะด้วย ไปกินน้ำดีกว่าเรา” เห็ดมาริโอพูดก่อนจะวิ่งเข้าไปกินน้ำในลำธาร ซึ่งมาริโอกินน้ำสักอึกใหญ่ได้แล้ว มันก็กระโดดลงว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน “เจ้าก็ลงมาเล่นน้ำด้วยสิไอ้เด็กเปรต”
มาริโอเผลอร้องเรียกหาราตรีพิสุทธิ์ด้วยความลืมตัว แต่พอมันหันกลับไปดูฝั่งก็พบกับความว่างเปล่า
จริงสิ ข้าทิ้งไอ้เด็กนั่นมานี่...
มาริโอคิดในใจก่อนจะนึกความหลังที่ทารกน้อยผมสีเงินเป็นผู้ทำอาหารให้มันกินทั้งๆที่อีกฝ่ายยังเล็กกว่ามันมาก ไหนจะช่วงเวลาที่มาริโอท้องเสียเพราะมันได้ชิมฝีมือการทำอาหารของทารกน้อยตนนั้น อีกฝ่ายก็ยังสู้อุตส่าห์คลานไปหาผลไม้มาบดให้มันทานแก้ท้องเสียอีก
“เฮ้ย! นี่ข้าจะไปคิดถึงไอ้เด็กเปรตนั่นไปทำไมกัน อุตส่าห์รอดพ้นเงื้อมมือมันแล้วแท้ๆ เฮ้อ! นอนเล่นดีกว่า”
มาริโอพูดก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแผ่บนพื้นหญ้าที่เขียวชอุ่ม ถึงแม้ที่นี่จะมีลมเย็นๆพัดพาให้น่านอนก็ตาม แต่มันกลับรู้สึกร้อนรุ่มจนนอนไม่หลับ แล้วมาริโอนอนมองท้องฟ้าอยู่เนิ่นนานก็พลันคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้อีกครั้ง หลังจากที่มาริโอถูกห้อยหัวอยู่นานเกือบสามชั่วโมง ทารกน้อยก็ได้คลานมาหามันถึงที่ตามลำพัง
“อ๋อโอ้ดอี้ไอ้ออยอาน อ้าอาอ้วยเอ้าแอ้ว (ขอโทษที่ให้คอยนาน ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว)”
ทารกผมสีเงินบอกก่อนจะมองซ้ายมองขวาราวกับหาอะไรบางอย่าง
“อ๊ะ อั้นไอ (อ๊ะ นั่นไง)” แล้วร่างเล็กคลานหายไปจากสายตาของมันสักพัก ก่อนจะโผล่ออกมาอีกครั้งพร้อมกับไม้ยาวด้ามหนึ่งซึ่งปลายไม้มีมีดสั้นเล่มหนึ่งถูกมัดติดเชือกมาด้วย “อิ้งๆอ๊ะ เอี๋ยวอะอัดเอื๊อกไอ้ (นิ่งๆนะ เดี๋ยวจะตัดเชือกให้)”
แล้วเจ้านายก็ทำให้มันเป็นอิสระจากการถูกห้อยหัว ก่อนจะคลานมาหามันอีกครั้งพร้อมกับตัดเชือกที่มัดรอบตัวออก
“อิ๋วอื๋ออัง อ้าเอาอาอ๋านอับอาๆไอ้เอาอิน (หิวหรือยัง ข้าเอาอาหารกับยามาให้เจ้ากิน)” เนื่องจากมาริโอถูกเมฆาเฆี่ยนอย่างหนัก แถมหิวจนไส้จะขาดจึงได้แต่นอนนิ่งมองร่างเล็กที่นั่งอยู่เบื้องหน้ามันเพียงอย่างเดียว “อ้าวแอ้วอัน อะอับไอ้อ้ายออกอึ๊ (อ้าวแล้วกัน ขยับไม่ได้หรอกรึ)”
ร่างเล็กพูดด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นว่ามันไม่ยอมดื่มยากับทานอาหารตามที่สั่ง
“ฮู้! อั๋นเอี๋ยวอ้าอ้อนไอ้แอ้วอันอะ (ฮู้! งั้นเดี๋ยวข้าป้อนให้แล้วกันนะ)” แล้วเจ้านายของมาริโอก็ป้อนอาหารให้มันจริงๆ ซึ่งทำเอามาริโอถึงกับอึ้ง ไหนจะป้อนยาให้มันหลังจากป้อนข้าวเสร็จกับทายาบนแผลที่ถูกเฆี่ยนด้วยแส้ให้มันอีก
นี่มันคิดถูกหรือคิดผิดที่บังอาจทิ้งเจ้านายไว้เบื้องหลังแล้ววิ่งหนีเอาตัวรอดแบบนี้
มาริโอครุ่นคิดในใจอย่างกลัดกลุ้ม ก่อนมันจะวาดภาพร่างทารกถูกเหล่าหนอนยักษ์สีเขียวหลายร้อยตัวรุมทำร้ายอย่างน่ากลัว เจ้านายของมันทั้งตัวเล็กทั้งไม่มีเรี่ยวแรงพอจะถืออาวุธอะไรได้นอกจากแส้กำราบสัตว์กับค้อนพลาสติกเท่านั้น ซึ่งผิดกับหนอนยักษ์ที่มีระดับมากกว่าราตรีพิสุทธิ์ลิบลับ นี่ถ้าได้มันสักคนคอยอยู่ช่วยป้องกัน ก็คงจะพอพาหนีได้อยู่บ้าง ทว่าความคิดด้านเลวของมาริโอขัดแย้งกับความคิดด้านดี มันจึงเลือกที่จะนอนต่อ
ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ ไอ้เด็กเปรตนั่นจะได้ลิ้มรสของความเจ็บปวดเหมือนมันซะบ้าง
มาริโอคิดในใจพลางหลับตาลง ก่อนที่มันจะได้เห็นภาพเจ้านายมันที่ชุ่มไปด้วยเลือด
“กร็อด!”
มาริโอกัดฟันตัวเองด้วยความเกรี้ยวกราด ซึ่งมันก็รีบลุกขึ้นยืนก่อนจะวิ่งกลับไปยังทิศที่มันเคยทิ้งเจ้านายของมันเอาไว้
อย่าเพิ่งรีบตายไปก่อนล่ะไอ้เด็กเปรต!
ย้อนกลับมาทางด้านราตรีอีกครั้ง ซึ่งเธอเกือบจะถูกหนอนยักษ์ฆ่าถ้าไม่ได้สร้อยผลึกเกล็ดย้อนของท่านแม่คอยป้องกันเอาไว้แล้วล่ะก็ เธอคงตายไปนานตั้งแต่การโจมตีครั้งแรกของหนอนยักษ์ไปนานแล้ว แต่พอเวลาผ่านไปได้ไม่นาน บาเรียที่คอยคุ้มกันราตรีก็เริ่มมีรอยร้าวขึ้นปรากฏ ซึ่งทำเอาราตรีถึงกับใจเสีย
ไม่นะ...
อย่าเพิ่งมาหายตอนนี้เลยได้โปรด...
“พระเอกมาแล้ว!”
จู่ๆ เสียงใครบางคนก็ดังขึ้นแทรกความคิด ซึ่งทำให้ราตรีรีบหันหลังกลับไปมองก่อนจะเห็นมาริโอยืนเต๊ะบนโขดหินด้วยท่าที่มันคิดว่าเท่ห์ที่สุดในชีวิต
มาริโอ!
ราตรีเห็นแล้วรู้สึกเป็นปลื้มแกมสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงคิดกลับมาช่วยเธอทั้งๆที่มันสามารถหนีเอาตัวรอดไปแล้วด้วยซ้ำ
“อับอาอำไอเอ้าอ้า! อากอะอายอึ๊ไอ อี๋ไออ๊ะ! (กลับมาทำไมเจ้าบ้า! อยากจะตายรึไง หนีไปซะ!)” ราตรีตะโกนบอกมัน เพราะเธอไม่ต้องการให้มันกลับมาช่วยเธอ แต่ทว่ามาริโอหาได้ทำตามไม่ มันกลับวิ่งกระโดดข้ามเป็นระยะๆเพื่อหลบหนอนยักษ์ที่ขวางทางมันอยู่ “อย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้มาช่วยเจ้า”
มาริโอบอกในขณะที่มันกระโดดถีบตัวหนอนยักษ์ที่ยืนขวางทางมัน
“เพราะคนที่จะจัดการกับเจ้าคือข้าคนเดียวเท่านั้น”
ถึงแม้คำพูดของมาริโอจะฟังดูน่าโมโห แต่มันก็ทำให้ราตรียิ้มออกมาได้อีกครั้ง เมื่อมาริโอได้ฝ่าวงหนอนยักษ์นับร้อยตัวจนเข้ามาถึงตรงที่ราตรีนอนอยู่ได้แล้ว บาเรียที่เคยคุ้มกันราตรีก็พลันหายไปทันที
“เวรล่ะ! บาเรียหาย!!”
มาริโอร้องอย่างตกใจก่อนจะคาบเสื้อราตรีดึงขึ้นมา ซึ่งราตรีเองก็ใช่ว่าจะอยู่เฉย เธอรีบปีนขึ้นกลับไปนั่งบนหัวมาริโอตามเดิมก่อนจะหยิบแส้กำราบสัตว์ขึ้นมาโจมตีหนอนยักษ์อย่างเร็ว ส่วนมาริโอก็รีบงัดไม้ตายของตัวเองมาใช้กับพวกหนอนยักษ์ต่อ ถึงแม้ราตรีจะได้มาริโอกลับมาช่วยแล้ว แต่มันก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้มาก มันทำได้ก็แค่เตะถีบกับกระโดดเหยียบเท่านั้น ซึ่งไม่นานนักทั้งคู่ก็เริ่มถูกฝูงหนอนยักษ์บีบเข้าเป็นวงแคบ
“ไอ้อีอ้าเอะอะอองเอ่าอื๋ออ้นอูกไออ๋ออาอิโอ้ (ไม่มีท่าเตะกระดองเต่าหรือพ่นลูกไฟเหรอมาริโอ)” ราตรีถามอย่างพึ่งนึกขึ้นได้ขณะที่เธอกำลังใช้แส้ฟาดหนอนยักษ์อย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนคนถูกถามได้แต่มึนงงกับคำถามของราตรี “อั้นไอ้อ้ออะโอดเอียบเอ้าอ้วกอี้ไอเอื้อยๆ อะไอ้อ็อคอึ่งอ้อยอัว (งั้นไม่ก็กระโดดเหยียบเจ้าพวกนี้ไปเรื่อยๆ จะได้ตัวป๊อก 100 ตัว)”
“ชื่อเหมือนแต่เกมไม่เหมือนนะเฟ้ย!” มาริโอตอบกลับอย่างฉุนเฉียวพลางกระโดดเหยียบหนอนยักษ์ตัวหนึ่ง “ถ้าเจ้าทำขนาดนั้นได้ เรามาฟิวชั่นกันเลยดีกว่าไหม”
ราตรีได้ยินก็นึกขำที่อีกฝ่ายพูด
เข้าใจพูดประชดดีนะ
หากด้วยสถานการณ์ปกติราตรีคงคิดจะพูดกับมาริโอต่ออีกแน่ แต่ตอนนี้มันฉุกเฉินเกินกว่าที่จะล้อกันเล่นได้ ทันทีที่มาริโอจะกระโดดโจมตีอีกครั้ง กลับโดนบอสหนอนยักษ์ที่แอบอยู่มุมอับสายตาของมันเข้าเล่นงานจนทำให้มาริโอกับราตรีต้องล้มลงไปนอนกับพื้น
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกบอสหนอนยักษ์ระดับ10 โจมตี ทำให้พลังลดลง 5”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของบอสหนอนยักษ์ ทำให้พลังลดลง 8”
ระบบประกาศก้องหัวราตรีพิสุทธิ์ ซึ่งมาริโอก็ได้คืบคลานมาหาเธอก่อนจะใช้ตัวบังไว้
“อำอะไออะอาอิโอ้ อ่อยอ้าออกไออะ! (ทำอะไรนะมาริโอ ปล่อยข้าออกไปนะ!)”
ราตรีบอกพลางใช้มือสองข้างดันอีกฝ่ายให้ออก แต่มาริโอกลับหาทำตามไม่
“ไม่ ข้าจะไม่ให้เจ้าต้องตายก่อนข้าไอ้เด็กเปรต” มาริโอบอกเสียงเข้ม “ต้องมีใครสักคนมาช่วยเจ้าอย่างแน่นอน ข้าเชื่ออย่างนั้น”
มาริโอพูดก่อนจะโดนบอสหนอนยักษ์กับพวกหนอนยักษ์รุมกระหน่ำเข้าโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกบอสหนอนยักษ์ระดับ10 โจมตี ทำให้พลังลดลง 10”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ2 โจมตี ทำให้พลังลดลง 8”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ3 โจมตี ทำให้พลังลดลง 7”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ8 โจมตี ทำให้พลังลดลง 3”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ7 โจมตี ทำให้พลังลดลง 7”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ5 โจมตี ทำให้พลังลดลง 2”
“เนื่องจากเห็ดมาริโอถูกหนอนยักษ์ระดับ1 โจมตี ทำให้พลังลดลง 1”
เสียงระบบประกาศอย่างบ้าคลั่งผนวกกับเลือดที่ไหลกระเซ็นจากมาริโอทำให้ราตรีนึกเจ็บใจที่ตัวเองช่วยอะไรมันไม่ได้ ส่วนคนที่ป้องกันเธออยู่ก็ได้แต่กระอักเลือดโดยไม่ร้องเสียงออกมาซักนิดเดียว
“มะ…มาริ…โอ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ราตรีเรียกชื่อมาริโอได้อย่างชัดเจน ซึ่งทำให้มันรู้สึกดีใจที่ได้ยินเจ้านายมันพูดชัดเป็นครั้งแรก แล้วมาริโอก็ได้กระอักเลือดอีกครั้ง ก่อนจะพลันล้มลงทับราตรีทันที
“เนื่องจากเห็ดมาริโอเสียเลือดมากเกินไป ทำให้ติดค่าสถานะมึนงง”
พอมาริโอทรุดตัวลงทับราตรีแล้ว จู่ๆ พื้นที่รอบข้างเกิดเสียงระเบิดดังลั่น ซึ่งราตรีก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะเธอถูกมาริโอทับจึงมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
เกิดอะไรขึ้นละนี่?
ในระหว่างที่ราตรีรอคอยว่ามันเกิดอะไรขึ้นนั้น เสียงระบบก็ได้ประกาศบอกค่าประสบการณ์ที่ราตรีได้รับจากพวกหนอนยักษ์ทั้งๆที่เธอไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 2 ชิ้น”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 5 ชิ้น”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 4 ชิ้น”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 6 ชิ้น”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 7 ชิ้น”
“ผู้เล่นราตรีพิสุทธิ์ได้รับเนื้อหนอนยักษ์จำนวน 2 ชิ้น”
ถึงแม้ราตรีจะได้ของมายังไงนั้น เธอก็ไม่สนมันอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้เธอเป็นห่วงมาริโอมากที่สุด ใบหน้าที่ปราศจากเลือดของมันทำให้ราตรีถึงกับคิดมาก เธอกลัวมันจะตายหากมันไม่ได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด
อย่าทอดทิ้งเราไปอีกคนนะมาริโอ
ราตรีครุ่นคิดอย่างกลัดกลุ้ม แล้วทันใดนั้นก็มีใครบางคนยกตัวมาริโอที่อยู่บนตัวของราตรีขึ้น ทำให้เธอได้เห็นบุคคลแปลกหน้าได้อย่างชัดเจน เผยให้เห็นหนุ่มหล่อนัยน์ตาสีดำกับเส้นผมสีม่วงยาวลากพื้นอายุราวสามสิบต้นในชุดนักบวชสีขาวกำลังมองหน้าเธออยู่
“เอ่อ...สวัสดี....ไม่เป็นไรใช่ไหมน้องสะ...เอ่อ...ชาย”
อีกฝ่ายกล่าวอย่างไม่แน่ใจกับคำพูดของตัวเอง แต่ทว่าราตรีหาได้ตอบคำถามนั้นไม่
“อี้อายอ้วยมะริโออี อ๋ออ้องอ่ะ อันอำอังอะอาย! (พี่ชายช่วยมาริโอที ขอร้องล่ะ มันกำลังจะตาย!)” ราตรีพูดขอร้องจนน้ำตาไหลอาบแก้ม “ไอ้โอดอะอั๊บ อ้วยอันอี (ได้โปรดนะครับ ช่วยมันที)”
ชายหนุ่มได้ยินที่เธอพูดถึงกับขมวดคิ้วมึนงงอยู่สักพัก ก่อนจะร้องเสียงสูง
“อ้อ ได้สิพี่ชายจะช่วยเดี๋ยวนี้แหละ”
แล้วชายหนุ่มแปลกหน้าก็รีบช่วยมาริโออย่างเร็ว โดยใช้เวทมนตร์ในการรักษามาริโอกับดื่มยาสีน้ำตาลเพียงแค่ครั้งเดียว
“เห็ดมาริโอได้รับการฟื้นฟูบาดแผล 100%”
“เห็ดมาริโอได้รับยาแก้สถานะมึนงง”
เสียงของระบบประกาศก่อนที่มาริโอจะลืมตาขึ้นมา ซึ่งทำให้ราตรีลืมตัวเผลอเข้าไปกอดมาริโอด้วยความดีใจ
“มะรีโอ้!”
“มะเหงกแน่ะ! ใครมะรีโอ้กันไอ้เด็กเปรต” มาริโอเถียงทันทีที่ได้ยินคำพูดไม่ชัดเจนของเจ้านายมัน พร้อมทั้งพยายามดันร่างเล็กให้ออกห่างด้วยความเขินอายที่ถูกกอด “พูดให้ชัดๆสิ มาริโอ! ไม่ใช่มะรีโอ้ จำไว้ให้ดี”
“มะรีโอ้!”
ราตรีไม่สนว่าตัวเองจะพูดผิดพูดถูก ขอเพียงได้เห็นมาริโอปลอดภัยก็พอใจแล้ว ส่วนมาริโอเมื่อสายตาเริ่มชัดเจนแล้ว มันก็ได้เห็นคราบน้ำตาของผู้เป็นนายซึ่งพอเดาได้ว่าอีกฝ่ายร้องไห้ทำไม
มัน…ร้องไห้เพราะข้ารึเนี่ย
“ค่ามิตรภาพของท่านเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 1”
ระบบประกาศแทรกอย่างขัดจังหวะ ซึ่งทำเอาราตรีแทบขมวดคิ้ว
“ว่าแต่...” มาริโอพูดเกริ่นพลางเงยหน้ามองผู้มาใหม่อย่างสงสัย “เจ้าเป็นใครกัน แล้วพวกฝูงหนอนยักษ์มันหายหัวไปไหนกันหมดเนี่ย”
ราตรีได้ยินที่มาริโอพูดก็รีบเช็ดน้ำตาก่อนจะตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“อี้ชายอนอี้อาอ้วยอ้วกเอาอะมะรีโอ้ อ่วนอ้วกอ๋อนอั๊กอ้อไอ้อี้อายอนอี้อัดอานไอ้ (พี่ชายคนนี้มาช่วยพวกเรานะมาริโอ ส่วนพวกหนอนยักษ์ก็ได้พี่ชายคนนี้จัดการให้)”
“อย่างนั้นเองหรอกรึ”
มาริโอพูดพลางเงยหน้ามองชายหนุ่มที่มาช่วย แต่ทว่าไม่รู้ทำไมพอมาริโอมองอีกฝ่ายแล้วพลันนึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก
ชะรอยว่าจะเป็นพวกไม่หวังดีปลอมตัวมา
“ออบอุนอั๊บอี้อายอี้อาอ้วยอ้วกอ้า (ขอบคุณครับพี่ชายที่มาช่วยพวกข้า)”
ราตรีหันไปขอบคุณชายหนุ่มอย่างจริงใจโดยเธอลืมไปว่าตัวเองยังพูดไม่ชัดเจน จึงทำให้อีกฝ่ายถึงกับขมวดคิ้วเป็นรอบที่สอง ซึ่งมาริโอเห็นชายหนุ่มทำหน้ามึนงงก็พอเข้าใจดีว่าทำไมอีกฝ่ายถึงทำหน้าแบบนั้น
“อะแฮ่ม!” มาริโอทำท่ากระแอมไอก่อนจะเชิดหน้าขึ้นพูดว่า “จะแปลให้เอาบุญแล้วกัน ฮึ เจ้านายของข้าบอกว่าขอบคุณที่ช่วย...แต่ไม่มีของมีค่าตอบแทนให้หรอกนะ”
ราตรีแทบอ้าปากค้างเมื่อได้ยินทาสของตัวเองพูดแปลให้อีกฝ่ายฟัง ส่วนชายหนุ่มเมื่อได้ยินที่มาริโอพูดกลับทำหน้าขมวดคิ้วมองมาริโอราวกับใช้ความคิด ก่อนจะพูดกลับมาด้วยสีหน้าสบายๆว่า
“ของตอบแทนรึ หึ ไม่ต้องหรอก บังเอิญว่าบ้านรวย แต่คิดดูๆได้กินเห็ดย่างจิ้มน้ำพริกก็ไม่เลว”
มาริโอได้ยินคำด่าของอีกฝ่ายก็แทบลมออกหู จนหวิดขอสรรเสริญมารดาของชายหนุ่มสักครั้ง
“จริงสิ เกือบลืมแนะนำตัวไปเลย” จู่ๆ ชายหนุ่มก็พูดเปลี่ยนเรื่องอย่างหน้าตาเฉยโดยไม่สนใจมาริโอที่ทำหน้าบึ้งตึงใส่ “พี่ชื่อปริ๊นซ์ ยินดีที่ได้รู้จักนะน้องชาย”
“เอ้นอันอั๊บอั้นอี้อิ้น อ้าอื้อ… (เช่นกันครับท่านพี่ปริ๊นซ์ ข้าชื่อ…)”
“…ราตรีพิสุทธิ์ เจ้านายข้าชื่อราตรีพิสุทธิ์ ส่วนข้า…มาริโอ ผู้ไร้พ่าย” มาริโอแย่งเธอพูดกะทันหัน ทำให้ราตรีต้องอ้าปากค้างเป็นรอบที่สอง “เมื่อรู้แล้วก็จงกลับไปซะ พวกข้าไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใครอีก”
ปริ๊นซ์ยิ้มแล้วส่ายหน้าเมื่อได้ยินที่มาริโอพูด
“คงไม่ได้หรอกคุณมาริโอผู้ไร้พ่าย” ปริ๊นซ์พูดแกมขำขัน “เพราะฉันคงไม่ใจร้ายพอที่จะทิ้งให้เด็กทารกผู้น่ารักกับเห็ดตัวหนึ่งที่อวดเบ่งเหมือนเกรียนเดินหลงในป่าเขาวงกตได้ตามลำพังหรอกจริงไหม”
คำพูดของปริ๊นซ์ทำเอามาริโอแทบอยากเค้นคออีกฝ่ายให้ตายคามือ
“แกไอ้!”
“มะรีโอ้!” ราตรีรีบห้ามเพราะกลัวมาริโอจะทำเสียมารยาทอีก เธอจึงใช้ค้อนพลาสติกของเด็กทุบหัวมาริโอเสียหนึ่งที “อี๊บอ๋อโอดเอาอ๊ะ แอ้วอ้อออบอุนเอาอ้วย เอาอุดอ่าอ้วยอ้วกเอาไอ้อะ (รีบขอโทษเขาซะ แล้วก็ขอบคุณเขาด้วย เขาอุตส่าห์ช่วยพวกเราไว้นะ)”
“แต่ข้าไม่ยอม…”
“มะรีโอ้”
ราตรีเรียกชื่อมันพลางจ้องอย่างเอาเรื่อง ถ้ามาริโอไม่เห็นแก่หน้าราตรีผู้เป็นนายแล้วล่ะก็ มันคงเอาเรื่องไปนานแล้ว
“ก็ได้...ขอโทษ! และ...ขอบคุณ!”
“หึ มิได้ๆ” ปริ๊นซ์ยิ้มตอบอย่างพอใจ ซึ่งหลังจากนั้นชายหนุ่มก็เอ่ยปากอาสาที่จะพาราตรีกับมาริโอออกไปยังนอกเขตป่าเขาวงกต ทีแรกราตรีลังเลที่จะตอบตกลง เพราะเธอกังวลว่าถ้าหากเมฆากลับเข้ามาในเกมอีกครั้งจะไม่เจอพวกเธออีก “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงไปน้องราตรี ถ้าน้องคิดจะตามหาเพื่อนในเกมแล้วล่ะก็ น้องสามารถไปเขียนบอกได้ที่ป้ายประกาศออกตามหาคนตรงใจกลางเมืองเริ่มต้นได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่เว้นวันหยุดราชการ ส่วนเรื่องเงินนั้น...น้องราตรีไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะเกมนี้เขาให้ผู้เล่นใช้บริการได้ฟรีทุกคน”
ปริ๊นซ์ตอบข้อสงสัยให้แก่ราตรีพิสุทธิ์ ซึ่งทำให้เธอยอมตกลงไปกับปริ๊นซ์แต่โดยดีอย่างไร้ข้อกังขา

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 พ.ค. 2555, 10:53:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 พ.ค. 2555, 10:53:04 น.
จำนวนการเข้าชม : 1317
<< บทที่ 7 | บทที่ 9 >> |