อาทิตย์พรางดาว
เมื่อความเคียดแค้นชิงชังที่มีมาระหว่างพี่น้องต่างมารดา ทำให้เกิดเรื่องราวต่างที่นำมาซึ่งความสุข เศร้า และโศกนาฏกรรม! ดาวเหนือจะทำอย่างไรเมื่อตะวันฉายผู้เป็นเกลียดเธอจนไม่อยากจะอยู่ร่วมโลก และตฤณจะทำอย่างไรเพื่อปกป้องคนรักไม่ให้โดนทำร้าย ต้องติดตามใน 'อาทิตย์พรางดาว'
Tags: ดราม่า

ตอน: ตอนที่ 35

ตอนที่ 35

“โธ่เอ๊ย! นึกว่าใคร ไง...คิดว่าเธอจะทำตัวเป็นกาฝากห้อยไปกับครอบครัวฉันอย่างที่ทำมาตลอดชีวิตซะอีก” ตะวันฉายเดินเข้ามายืนหลังโซฟาตัวยาวที่คุณบุษบานั่งอยู่ เท้าแขนลงกับพนักถามเย้ยหยัน “ทำไม...เพิ่งสำนึกผิดได้เหรอ”

“เปล่าหรอกค่ะ น้าไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ เลยไม่อยากไป” คุณบุษบาไม่อยากจะมีปัญหานักเพราะกำลังไม่สบายอยู่ตอบเสียงเรียบ แต่อีกฝ่ายไม่เชื่อที่เธอบอก

“หึ!สำออย...แกนี่มันพอกับนังลูกสาวแกเลยนะ ทำเป็นสำออย ให้ท่าตฤณของฉัน”หญิงสาวเหยียดปากอย่างดูถูก เดินมาด้านข้างมองคนที่นั่งนิ่งอยู่อย่างหมั่นไส้ คุณบุษบายิ้มนิดๆที่มุมปาก ดวงตามองตรงไปที่โทรทัศน์แต่ไม่ได้ใส่ใจกับภาพเหล่านั้นเท่าไหร่

“เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่าคะ ตฤณน่ะของยายดาวต่างหาก เขากับยายดาวคบกันก่อนที่คุณจะรู้จักตาตฤณเสียอีก ว่าไปคุณต่างหากล่ะที่กำลังทำตัวเหมือนปลิง คอยดูดความสุขจากลูกสาวน้า”

“นังแก่! ...นี่แกกล้าว่าฉันเหรอ” ตะวันฉายปราดเข้ามาหา มือบางกำต้นแขนคุณบุษบาไว้แน่น ดวงตาคู่งามถลึงจ้องหน้าเรียบเฉยของอีกฝ่ายอย่างดุดัน

“ดิฉันกล้ากว่านี้อีกถ้าคุณยังไม่หยุดทำลายความสุขของลูกสาวแล้วก็ว่าที่ลูกเขยฉันเสียที” คุณบุษบาเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้ ยามนี้เธอไม่สนใจแล้วว่าตะวันฉายเป็นใคร เธอสนแค่เพียงต้องทำให้คนตรงหน้าเลิกยุ่งกับลูกสาวของเธอให้ได้

“งั้นก็เชิญแกเถอะ อยากจะทำอะไรก็ทำ ฉันไม่เคยกลัวยายแก่วัยใกล้ลงโลงอย่างแกหรอก อ่อ...คอยอยู่เป็นปู่โสมดูแลผลประโยชน์ให้ลูกอยู่ใช่มะ งั้นก็ฝากบอกมันด้วยนะว่าวันนี้ตฤณเขาโทรมาบอกให้ฉันไปหาเขาหน่อย เขาเหงา ไม่มีคนนอนเป็นเพื่อน ไปล่ะ”ตะวันฉายทิ้งท้ายเสียงหวานหยดย้อย แกล้งพูดหวังจะยุให้ทั้งคู่แตกกัน ก่อนจะเดินออกไปอย่างผู้ชนะ

คุณบุษบากำหมัดแน่น หลับตาลงแป๊บเดียวแล้วเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตามั่นคงราวกับตัดสินบางอย่างได้เด็ดขาดแล้ว นางพูดลอยๆตามหลังสาวเปรี้ยว

“อยากรู้ไหมค่ะว่าตฤณอยู่ที่ไหน”

ตะวันฉายชะงัก กัดริมฝีปากแน่น หมุนตัวไปเผชิญหน้า แม้จะหวั่นๆว่าอีกฝ่ายรู้ทันเรื่องที่เธอกุขึ้นมาเมื่อกี้หรือเปล่า แต่ก็ยังทำปากดี

“พูดไม่รู้เรื่องรึไง! ก็บอกอยู่นี่ว่าตฤณเขาเพิ่งโทรมาหาให้ฉันไปนอนเป็นเพื่อน อย่างว่าแก่แล้วก็งี้แหละ!”

“ดิฉันไม่ได้แก่หรอกค่ะ แต่คุณกำลังหลอกตัวเองเพื่อความสะใจที่ทำให้ฉันหรือยายดาวเต้นได้...” ตะวันฉายอ้าปากจะเถียงแต่คุณบุษบากลับพูดสวนขึ้นก่อน

“...ตฤณไปหายายดาวที่หัวหินค่ะ”

ตะวันฉายนิ่งอึ้ง รู้สึกเหมือนโดนสายฟ้าฟาดใส่ “อะ...อะไรนะ แกพูดว่าอะไรนะ!”

“ดิฉันเป็นคนบอกเองค่ะ ว่าดาวเหนืออยู่ที่นั่น ตฤณเลยตามไป เห็นโทรกลับมาบอกว่าถึงแล้วด้วยนะคะ แล้วก็ปรับความเข้าใจกันดี ตอนนี้เขากลับมาคบกันแล้ว แถมยังรักกันมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะสิ่งที่ชั่วร้ายแค่ไหนเข้ามาขวางพวกเขาก็จะชนะ”

“แก...อีแก่ นี่เป็นแผนแกใช่ไหม แกไม่ได้ไม่สบาย แต่แกรอจะเยาะเย้ยฉันใช่ไหม นังบุษบา!!!” ตะวันฉายตอนนี้คุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้ว หญิงสาวชี้นิ้วใส่หน้าโวยวายราวกับคนเสียสติ

คุณบุษบาถอยห่างออกมามองอาการของตะวันฉายอย่างไม่ไว้วางใจ ดวงตาแข็งขวางราวกับคนบ้ามองเธออย่างอาฆาต ยิ่งอีกฝ่ายค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ นางก็ยิ่งถอยห่างปากก็ปฏิเสธไปด้วย

“ดิฉันไม่สบายจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น แต่คุณกลับมาพูดทำร้ายลูกสาวดิฉันเอง ดิฉันจึงต้องทำเพื่อยายดาวของดิฉัน”

“อี...” หญิงสาวหอบหนักด้วยความโมโห “...อีบ้า อย่าอยู่เลย!!” ว่าแล้วร่างเพรียวก็ตรงเข้ามาบีบคอของคุณบุษบาทันที นางจับแขนสองข้างของตะวันฉายเอาไว้พลางพยายามบิดแขนออกพื่อให้เป็นอิสระ แต่เพราะไม่ค่อยสบายและวัยที่ไม่ใช่น้อยแล้วเลยสู้แรงบ้าของตะวันฉายไม่ได้

ตะวันฉายเพิ่มแรงบีบลงไป ดวงตาแข็งกร้าวมากขึ้น รอยยิ้มบิดเบี้ยวยามมองการกระทำอันไร้ประโยชน์ของเหยื่อในมือ คุณบุษบาพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากมัจจุราชสาวในชุดสีแดงที่เจ้าตัวชอบ ดวงตาของหญิงวัยกลางคนเริ่มเหลือกขึ้นจนเห็นตาขาว ลิ้นจุกปาก ลมหายใจกำลังจะหมด

แต่เพราะภาพใบหน้าของลูกสาวคนเดียวของนางที่ลอยขึ้นมาและคำสัญญาที่ว่าจะกลับมาหาพรุ่งนี้ในนาทีสุดท้ายก็ทำให้คุณบุษบาฮึดสู้ ยกขาถีบเข้าไปที่หน้าท้องของอีกฝ่าย ตะวันฉายผงะถอย มือเรียวหลุดจากลำคอของคุณบุษบา เปิดช่องว่างให้คุณบุษบารวบรวมแรงวิ่งหนีออกไป

ตะวันฉายมองตาม แววตาเต็มไปด้วยความชิงชัง เธอเหลือบไปเห็นมีดปอกผลไม้บนโต๊ะวางของหน้าทีวีพอดี มือเรียวหยิบมันขึ้นมามอง แสยะยิ้ม แล้ววิ่งตามออกไปอย่างรวดเร็ว

คุณบุษบาพยายามจะพาตัวเองให้ไปถึงหน้าประตูใหญ่ให้เร็วที่สุด เพื่อออกไปขอความช่วยจากเพื่อนบ้าน แต่ด้วยแรงที่ใกล้จะหมดลงทุกทีจากอาการไข้และการต่อสู้เมื่อครู่ ทำให้การก้าวย่างไม่เป็นอย่างใจนึก เพราะไปได้อีกไม่กี่ก้าวร่างผอมบางของนางก็ล้มลง คุณบุษบาผงะเงยเมื่อโดนมือเรียวจิกผมไว้ แล้วก้มลงมากระซิบเสียงเครียด

“จะรีบไปไหนล่ะ อีแก่...” ตะวันฉายที่ตามมาทันเหยียดยิ้ม มองเหยื่อในกำมือที่พยายามดิ้นแม้จะไม่มีแรงอย่างสมเพชแกมสะใจ

“ไม่ต้องไปหาที่ตายให้ตัวเองหรอก เพราะฉัน...เตรียมไว้ให้แล้ว ผู้หญิงแพศยาอย่างแก ไม่สมควรตายดี!” จบคำก็ยกมีดในมือแทงข้างหลังคุณบุษบาทะลุออกมาหน้าท้อง เลือดสีคล้ำทะลักออกมาราวสายน้ำจากปากแผล

คุณบุษบาเบิกตากว้าง ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่าง ดวงตาเริ่มพร่าเลือน ร่างบางสะดุ้งสุดตัวอีกครั้งเมื่อตะวันฉายดึงมีดออกมาอย่างเร็ว จากนั้นก็ปล่อยร่างของเธอให้ร่วงลงไปนอนหายใจรวยรินบนพื้นราวกับนกแก่ๆใกล้สิ้นใจตัวหนึ่ง

หญิงสาวขึ้นไปคร่อมร่างที่ใกล้จะหมดลมหายใจนั่นไว้ มือเรียวยังคงถือมีดสีเงินวาวแต่บัดนี้เปื้อนเลือดสีแดงและไหลย้อยลงมาตามเรียวแขนของเธอ ใบหน้างามยิ้มหวานส่งไปให้คนเบื้องล่าง ดวงตาเลื่อนลอย ตะวันฉายใช้ลิ้นเลียเลือดที่ติดอยู่ปลายมีดเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือข้างที่เปื้อนเลือดยกขึ้นไล้ใบหน้าของคุณบุษบาเบาๆ ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นดุดันยามก้มลงมาหาคุณบุษบา

“...ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะบุษบา...เดี๋ยวฉันจะส่งลูกแกไปให้ อีกไม่นาน...อีกไม่นาน”
ตะวันฉายละมือ ยืดตัวขึ้นเปลี่ยนมากำมือรอบด้ามมีดทั้งสองข้างก่อนจะจ้วงแทงลงไปซ้ำๆที่เดิมตรงอกด้านซ้ายของอีกฝ่ายหลายครั้ง เลือดกระเซ็นออกจากบาดแผลสู่ใบหน้านวลจนชุ่มโชก...น่ากลัว

จนกระทั่ง...ร่างที่นอนหายใจรวยรินเมื่อครู่แน่นิ่งไป ดวงตาเบิกโพลงที่ไม่สั่นไหวแล้วนั้นจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าฆาตกรนิ่งงัน

ตะวันฉายลุกขึ้นยืน อกสวยกระเพื่อมขึ้นลงตามการหายใจที่เร็วกว่าปกติเนื่องจากใช้พลังงานมากเกินไป เธอมองมือทั้งสองข้างอย่างเฉยเมย ก่อนจะหันขวับเมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครมองอยู่

“นังแวว!”

แววยืนนิ่ง หน้าซีดเผือด ดวงตาเบิกกว้าง มองตรงไปยังร่างไร้วิญญาณของคุณบุษบา ก่อนจะหันไปมองร่างของเจ้านายคนเก่งที่เต็มไปด้วยเลือด แม้จะไม่อยากเชื่อแต่หลักฐานคามือและสิ่งที่เธอเห็นเมื่อครู่มันก็ยืนยันได้ดีว่าอะไรเป็นอะไร แววสะดุ้งสุดตัว ลนลานทิ้งตัวลงไปนั่งไหว้ขอชีวิตฺจากตะวันฉายที่พุ่งเข้ามาหา

“อย่า!...อย่าทำอะไรแววเลยค่ะ คุณตะวัน แวว!...แววไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แววสาบานได้ อย่าฆ่าแววเลยนะคะ ฮือ!”

“หุบปาก! แกจะตะโกนให้ได้ยินกันทั้งซอยเลยหรือไงว่าฉันทำอะไร ถ้าไม่อยากตายก็มาช่วยกัน ไม่งั้นแกตายตามอีแก่นั่นแน่!”ตะวันฉายขู่สาวใช้คนสนิทก่อนจะผลักอีกฝ่ายไปยังศพของคุณบุษบาอย่างไม่ทันตั้งตัว แววร้องลั่นตะเกียกตะกายถอยออกไปยืนห่างๆ ร้องไห้ออกมาอย่างหมดอาย

“เอ๊ะ!อีนี่อยากตายจริงๆใช่ไหม”

“ปะ..เปล่าค่ะ ก็แววกลัวนี่คะ”

“ปอดแหก! มาช่วยกันแบกศพมันไปไว้ในบ้าน เร็วเข้า!” หญิงสาวตะคอกใส่คนสนิท เดินนำเข้าไปยืนค้ำเหนือศีรษะของร่างที่ไร้ซึ่งลมหายใจ ตวัดสายตามองมา

“ค่ะ...ค่ะ” แววรับกุลีกุจอเข้ามาหามส่วนขาของคุณบุษบา ตะวันฉายสอดแขนตัวเองที่ใต้รักแร้ของร่างไร้วิญญาณแล้วพากันเดินเข้าไปภายในบ้าน ก่อนจะสั่งให้แววโยนศพนั้นไว้ที่ตีนบันได แววทำตามอย่างงงๆปนกลัว แล้วถอยออกมายืนมองเจ้านายสาวที่พังนั้น พังนี่อย่างวุ่นวาย พออีกฝ่ายกวาดของบนโต๊ะลงมาหมดแล้วเท่านั้นแหละก็หันตวาดแว้ดใส่เธอที่ยืนเฉย

“อ้าว...ยืนนิ่งทำไมล่ะ นังหมูโง่! ช่วยกันสิยะ พังมันให้หมดนั่นแหละ เอาให้เหมือนมีโจรมาปล้นมากที่สุด”

ทั้งคู่ช่วยกันรื้อข้าวของออกมาให้ดูเหมือนเป็นการปล้นทรัพย์ ตะวันฉายเดินขึ้นไปด้านบนและทำเช่นเดียวกันกับข้างล่างที่ห้องนอนของคุณบุษบาและดาวเหนือ โดยไม่ลืมหยิบเอาเครื่องประดับมีค่าไปด้วยเพื่อให้สมจริง เสร็จแล้วก็เดินลงมามองสภาพห้องด้านล่างที่สั่งให้แววเป็นคนจัดการต่ออย่างพอใจ

แววยืนอยู่ตรงประตูทางออกนิ่ง สายตาก็มองเจ้านายสาวเดินลงมาทีละก้าวอย่างหวาดกลัว นาทีนี้เธอไม่ค่อยอยากจะไว้ใจอะไรในตัวของอีกฝ่ายทั้งนั้น ‘ดวงตาคุณตะวันน่ากลัว เหมือนคนบ้า’ ร่างท้วมหน้าซีดกับความคิดตัวเอง

ทำไมเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะ ทั้งที่อาการหลายอย่างของคนคนนี้ก็เข้าข่ายอยู่ คิดได้ดังนั้นแววก็รีบหาทางรอดให้ตัวเองทันที

“เอ่อ...คุณตะวันคะ มี เอ่อ มีอะไรให้แววทำอีกไหม ถ้า...ถ้าไม่มีแววของตัวกลับห้องกะ...ก่อนนะคะ”

“เป็นอะไรไปแวว แกกลัวฉันงั้นเหรอ” ตะวันฉายถามเสียงเรียบ ขณะก้าวตรงมายังแวว แววหัวใจเต้นรัว รู้สึกเย็นสันหลังวาบๆอย่างบอกไม่ถูก สิ่งเดียวที่รู้ตอนนี้ก็คือ ต้องไปให้พ้นจากบ้านหลังนี้โดยเร็ว

“เปล่าค่ะ แค่เห็นว่าเสร็จเรื่องแล้ว” บอกเสียงเบา พร้อมถอยห่างออกไปอีกเล็กน้อย ตะวันฉายก้าวตามสบายๆเอามือไพล่หลังราวกับกำลังชมความงามทางธรรมชาติ

“ใครว่าล่ะ ยังเหลืออีกหนึ่งงาน...งานนี้สำคัญซะด้วย” จับจ้องที่ท่าทางตื่นตระหนกของสาวใช้เหมือนว่าอีกฝ่ายเป็นของสำคัญจริงๆ “ขาดแกไปแผนฉันไม่สำเร็จแน่นอน”

“งาน...งานอะไรคะ”

“ก็แค่แก...กลายเป็นศพไงล่ะ!” หญิงสาวกระชากร่างท้วมที่กำลังจะหันหลังวิ่งหนีเอาไว้ ก่อนจะเอามีดเล่มเดียวกับที่ใช้ฆ่าคุณบุษบาออกมาจากด้านหลังบรรจงปาดลงไปบนคอของแววทันที แววกุมลำคอเอาไว้แน่น ร่างท้วมดิ้นพราดไปมา เลือดสีเข้มกระฉูดเป็นสายเพราะโดนตัดผ่านเส้นเลือดใหญ่ ตะวันฉายทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา คอยมองวาระสุดท้ายของลูกน้องที่เคยจงรักภักดีกับเธอด้วยความเสียดายสุดซึ้ง

“ฉันเองก็ไม่อยากทำอย่างนี้หรอกนะนังแวว แต่ช่วยไม่ได้...”หยุดพูดแล้วเหลือบมองเห็นว่า ร่างที่กำลังดิ้นทุรนทุรายนั้นเริ่มอ่อนแรงลงทุกทีๆ น้ำเสียงของเธฮนั้นดูเศร้าสร้อยจริงๆ

“...แกอยากมาอยู่ผิดที่ ผิดทางเอง ถ้าแกไปเที่ยวกับคนอื่นเขา แกก็ไม่ต้องมาตายอย่างนี้หรอก อย่าโทษฉัน หรือตัวเองเลยนะแวว...ถ้าแกจะโทษ ก็ต้องไปโทษนังแก่บุษบากับนังดาวอุกกาบาต ที่มันมาสร้างความทุกข์ให้ฉันก็แล้วกัน หลับให้สบายเถอะ แกเป็นคนโปรดของฉันจริงๆ”

สิ้นคำพูดของคนที่เธอยึดเป็นนายโดยไม่สนใจต่อความผิดชอบชั่วดี น้ำใสๆก็ไหลออกมาทางหางตาของแวว สาวบ้านนอกที่เข้ามาทำงานในเมืองกรุงเพื่อพบกับชีวิตที่ดีกว่า มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเธอไม่หลงผิด ละโมบโลภมาก เข้าข้างคนชั่วอย่างตะวันฉายต้องมาจบชีวิตอย่างน่าสมเพชแบบนี้ ร่างท้วมกระตุกเฮือกอีกครั้งก่อนจะแน่นิ่งไป ดวงตาเบิกโพลงทิ้งให้เห็นหยดน้ำตาที่ไหลลงมาผสมกับกองเลือดที่ลำคอ

ตะวันฉายมองศพของคนสนิทไว้อาลัยให้เล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองรอบด้าน จนมาจบที่ร่างไร้วิญญาณของคนที่เธอเกลียดเป็นอันดับสองตรงตีนบันได หญิงสาวกระตุกยิ้ม แล้วออกเดินตรงไปยังศาลาริมน้ำหลังบ้านซึ่งเป็นคลอง เธอโยนมีดในมือลงไปอย่างไม่ไยดีแล้วหันหลังเดินขึ้นบ้านไปจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อย

ไม่นานก็กลับออกมาขึ้นรถตนแล้วขับออกไป ตะวันฉายจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยบ้าน แล้วเดินเข้าไปซื้อบางอย่าง หญิงสาวรีบหยิบมือถือของตนขึ้นมาจนการถอดเอาซิมส์เก่าออกแล้วใส่ซิมส์ใหม่ลงไป เรียบร้อยแล้วก็กดหมายเลขสามตัวที่รู้กันว่าเป็นเบอร์ฉุกเฉินจัดการโทรออก ร่างเพรียวหายใจเข้าเฮือกใหญ่กรอกเสียงลงไปอย่างร้อนรน

“ช่วย..ช่วยด้วยค่ะ ดิฉันได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือมาจากบ้านเลขที่.... คุณตำรวจช่วยไปดูด้วยนะคะ”

ตะวันฉายตัดสาย ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แล้วจัดการเปลี่ยนซิมส์อีกครั้ง คราวนี้หักซิมส์ใหม่ที่ใช้โทรเมื่อครู่ทิ้งโยนออกนอกหน้าต่างรถไป เธอตัดสินใจขับรถออกไปหาเพื่อนรักที่คอนโดตามความตั้งใจเดิมเพื่อชวนไปปาร์ตี้ทันที รอดเวลาที่ทางบ้านจะโทรกลับมาตามตัวทีนี้เธอก็จะมีหลักฐานที่อยู่ไม่มีทางสาวมาถึงตัวแน่ๆ ริมฝีปากบางยิ้มสมใจพึมพำกับตัวเองเบาๆ

“หมดเสี้ยนหนามไปอีกหนึ่ง”


ท้องฟ้ามืดครึ้มเพราะเมฆฝนบดบังแสงอาทิตย์ที่ควรจะส่องมาสร้างความสว่างให้กับพื้นโลก หยาดน้ำจากฟากฟ้าสาดไปทั่วทุกพื้นที่เพื่อให้ความชุ่มช่ำ ดาวเหนือในชุดคลุมอาบน้ำยืนพิงประตูกระจกที่เชื่อมไปสู่ระเบียงห้องมองดูทะเลสีครามรับกับท้องฟ้าสีหม่นนั่นเงียบๆ ปล่อยใจให้ลอยไปกับธรรมชาติอันแสนสงบ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมือหนาสอดเข้ามาโอบรอบเอวเอาไว้แน่น พร้อมกับที่ใบหน้าคมสันไร้แว่นของชายหนุ่มจะเกยลงบนไหล่บาง ดวงตาคู่คมยังคงปิดสนิท ตฤณงึมงำอะไรบางอย่างที่เธอพอจะจับใจความได้ว่า

“อรุณสวัสดิ์ครับ...ที่รัก”

“ไม่อรุณแล้ว จะเที่ยงอยู่แล้วเนี่ย” ดาวเหนือชี้ไปที่นาฬิกาดิจิตอลติดกำแพงเหนือโทรทัศน์ให้เขาดู ชายหนุ่มเอียงคอไปมองก่อนจะทำตาโต ตกใจ เมื่อเห็นตัวเลขบนหน้าปัดบ่งบอกว่าเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงครึ่ง แล้วหันกลับมายิ้มแหยให้คนในอ้อมแขน แก้ตัวเสียงอ่อย

“แหะๆ ขอโทษครับ ได้นอนกอดสาวสวยทั้งคืนเลยหลับเพลินไปหน่อย” ‘สาวสวย’ ถลึงตาใส่คนรักที่มองมาอย่างกรุ้มกริ่ม ให้ตายเถอะตอนแรกเห็นหน้าตาเรียบร้อย ซื่อๆไม่คิดเลยว่าจะซ่อนนิสัย ‘หมาป่า’ เอาไว้ได้แนบเนียนอย่างนี้ พอไม่มีแว่นอยู่บนใบหน้าด้วยแล้วแววตาของเขายิ่งดูเจ้าเล่ห์มากขึ้น ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้เธอจะเลือกปฏิเสธคนคนนี้ไหม ตอบได้เลยว่า...ไม่! แต่เรื่องอะไรจะบอกออกไปให้ได้ใจ หาเรื่องเอาเปรียบเธออีก แค่นี้ก็เสียไปเยอะแล้ว

“หยุดพูดไปเลยนะ ถ้าพี่ตฤณพูดอีกดาวจะโกรธ”

“คร้าบ....” เขาแกล้งลากเสียงยาว “...ไม่พูดอีกแล้วครับ รู้แล้วว่าดาวอาย” กระซิบเบาๆที่ริมหูของร่างโปร่ง ก่อนจะร้องโอ๊ยเมื่อโดนถองเข้าให้ ตฤณถอยห่างเอามือลูบท้องหน้ามุ่ย ส่วนคนที่ทำร้ายร่างกายคนอื่นก็รีบเดินหนีไปอีกฟากของห้อง โต้กลับ

“ไม่ได้อายซะหน่อย แค่...” หญิงสาวยักไหล่ “...ไม่รู้สิ ดาวไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไง อาย โกรธ หรือรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นดี” ดาวเหนือพูดจากใจจริง เธอไม่รู้ว่าในเวลานี้คนอื่นๆเขารู้สึกกันยังไง เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ากลายเป็นคนคนเดียวกันกับคนที่รัก อีกอย่างเธอเองก็มีปัญหาเรื่องการแสดงอารมณ์อยู่ไม่ใช่น้อย

ตฤณเดินเข้ามาใกล้คนที่นั่งแกว่งเท้าเล่นไปมา นั่งลงเคียงข้างมือหนาโอบรอบไหล่เล็กบางไว้หลวมๆ รั้งตัวให้เข้ามาพิงกับอกเขา ซึ่งเจ้าหล่อนก็ยอมเอนตามแรงดึงแต่โดยดี เขาบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่เต็มไปด้วยความรัก ความห่วงใย ใส่ใจในความรู้สึกของเธอ

“ไม่เห็นยากเลยครับคนดี ดาวอยากจะรู้สึกยังไงก็ได้ จะอายหรือโกรธก็ได้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นคนที่ควรรู้สึกผิดต้องยกให้พี่คนเดียว เพราะพี่เป็นผู้ชาย พี่ควรจะหักห้ามตัวเองได้มากกว่าแต่พี่ก็ไม่ทำ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามอารมณ์ แถมยังผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณพ่อของดาว”

นี่คือเรื่องหนึ่งที่เขากังวลอยู่ หากคุณชนะชัยรู้ว่าเขาผิดสัญญาล่ะก็ คงเอาปืนลูกซองมาไล่ยิงเขาเป็นแน่ งานนี้มีหวังได้ลงหน้าหนึ่ง ‘หมอหมาแอบเคลมลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ เจอพ่อตาคว้าลูกซองเจาะสมองดับคาที่’ แหงๆ แต่เอาเถอะในเมื่อเขารักจริงหวังแต่ง ต่อให้ว่าที่พ่อตามีปืนสิบกระบอกเขาก็ไม่กลัว

คนอย่างเขากล้าทำกล้ารับ ดีเสียอีกถ้าแต่งงานกันเร็วขึ้น เรื่องที่คาราคาซังอยู่มันจะได้จบๆ ตะวันฉายคงจะเลิกยุ่งหากเขามีพันธะแล้ว ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เพราะเจ้าตัวคิดว่าดาวเหนือยังเป็นแค่คนรักไม่มีน้ำหนักอะไร หากเป็นคู่ชีวิตแล้วคงอยากที่จะทำให้แยกจากกัน ยิ่งพอแต่งงานแล้วแยกบ้านกันอยู่คงไม่สามารถมากวนใจได้อีก

ดาวเหนือมองหน้าเคร่งเครียดของคนรักอย่างสงสัย หญิงสาวสรุปกับตัวเองทันทีว่าเขาคงกำลังกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็จริงที่เขาผิดเพราะไม่รู้จักยับยั้งอารมณ์ที่มันเกิดขึ้น แต่ว่าเธอก็ผิดด้วยเหมือนกันที่พอจะมีสติห้ามเขาได้แต่ก็ไม่ทำ เพราะช่วงเวลานั้นเธอต้องการอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขาช่วยคลายความหนาวเหน็บในหัวใจก็เป็นได้ ร่างโปร่งขยับตัวเล็กน้อยเอ่ยปลอบคนที่กำลังคิดมาก

“ไม่ได้หรอกพี่ตฤณ ถ้าจะผิดก็ต้องผิดทั้งคู่”

เท่านั้นเองคนที่เธอคิดว่ากำลังเครียดก็พลันยิ้มกว้าง เปลี่ยนเป็นกะล่อนขึ้นมาทันที “ใช่ม้า...ที่ดาวคิดอย่างนี้ก็เพราะพี่หล่อเร้าใจล่ะสิ”

“ตลกล่ะ” เธอเบ้หน้า ทำให้ตฤณต้องเอามือมาหยิกแก้มอย่างหมั่นเขี้ยว แกล้งพูด

“ไม่สิพี่พูดผิด ต้องเป็นเพราะดาวน่ารักเกินที่พี่จะห้ามใจไหวต่างหาก” ส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้อีกครั้ง แต่คราวนี้มันมีอิทธิพลมากขนาดทำให้เธอ ‘เขิน’ ได้ ดาวเหนือหน้าแดงไม่รู้จะทำอย่างไรดีเพราะตอนนี้เธออยู่ใกล้เขามากพูดอะไรไปก็เข้าตัว สุดท้ายเลยยกกำปั้นขึ้นทุบอีกฝ่ายจนกลายเป็นขนมตุ้บตั้บ

ตฤณปัดป้องพลางหัวเราะขบขันกับวิธีการแก้เขินของคนรักสาว เขาอาศัยช่องโหว่ของเธอรวบเอาร่างโปร่งในชุดคลุมอาบน้ำมากอดไว้ บอกกับเธอด้วยความรักสุดหัวใจ

“แต่งงานกับพี่นะครับ...ดาวดวงน้อยของพี่ตฤณ ให้พี่ได้เป็นคนดูแลดาวตลอดไปนะ”

“พี่ตฤณ...” ดาวเหนือตื้นตันพูดอะไรไม่ออก ไม่คิดเลยว่าได้รับโอกาสให้ได้รักคนดีๆอย่างเขาอย่างนี้ เธอไม่คิดแล้วว่าตัวเองจะได้รักใครและมีใครรักแบบพร้อมจะเข้าใจในทุกอย่างที่เป็นเธอได้เท่าเขา น้ำใสไหลอาบสองแก้มนวลเมื่อไหร่ไม่รู้ หญิงสาวพยายามจะปาดมันออกให้หมดแต่มันก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายได้แต่ปล่อยมันไปแล้วตัวเธอก็พยักหน้าขึ้นลงเร็วๆเป็นการตอบรับ ตฤณยิ้มกว้างอย่างดีใจดึงเธอเข้ามากอดแน่นก่อนจะดันออกเพื่อมองหน้านวลให้เต็มตา

ชายหนุ่มค่อยๆโน้มหน้าลงซับน้ำตาให้เธอด้วยริมฝีปากของเขา ก่อนจะไล่เรื่อยลงมายังริมฝีปากนุ่มอวบอิ่มที่ครอบครองไว้ทั้งคืน หยุดลิ้มรสความหวานของเนิ่นนานก่อนจะเพิ่มแรงลงไปจนกลายเป็นจุมพิตที่แสนเร่าร้อน หญิงสาวหลับตาพริ้มตอบโต้จุมพิตเขาตามแรงอารมณ์ที่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

ตฤณดันร่างโปร่งให้นอนลงราบไปกับเตียงก่อนที่จะทาบร่างของตนลงไป มือใหญ่ประสานกับมือเล็กของคนที่นออยู่เบื้องล่าง เขาก้มลงจูบเธออีกครั้งพร้อมส่งปลายลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกันอย่างโหยหา ไฟพิศวาสลุกโชนยากที่จะดับ แต่ก่อนที่เพลงรักจะได้ดำเนินต่อ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน

ดาวเหนือผลักตฤณกระเด็น รีบจัดเสื้อคลุมให้เข้าที แล้วคว้าเอาโทรศัพท์ที่ยังคงกรีดร้องอย่างต่อเนื่องขึ้นมาดู พอเห็นชื่อที่หน้าจอเท่านั้นก็หันไปส่งสัญญาณให้คนที่กำลังลูบบั้นท้ายตัวเองป้อยๆเพราะหล่นไปกระแทกพื้นเงียบไว้ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วผ่อนออก กรอกเสียงลงไป

“ว่าไงพี่จันทร์”

“ดาว...ดาวยังอยู่หัวหินใช่ไหม” เสียงปลายสายสั่นเครือ จนคนฟังขมวดคิ้วใจคอไม่ค่อยดี เกิดอะไรขึ้นกัน

“ยังอยู่ พี่จันทร์เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”

“ดาว...ดาวรีบกลับบ้านนะ กลับกรุงเทพเดี๋ยวนี้เลย ฮึก...” เท่านั้นแหละ หญิงสาวเริ่มตระหนก ใจประหวัดไปถึงมารดาที่อยู่กรุงเทพคนเดียว รีบถามอย่างร้อนรนจนตฤณต้องปราดเข้ามายืนใกล้ๆ

“เกิดอะไรขึ้นพี่จันทร์!”

“ดาวทำใจดีๆไว้นะ....น้าบุษ ฮือ ฮือ... น้าบุษเสียแล้ว โฮ...” สิ้นคำพรายจันทร์ก็ปล่อยโฮเสียงลั่น ดาวเหนือช็อก มือที่ถือโทรศัพท์ร่วงลงข้างตัวอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง สมองขาวโพลนคิดอะไรไม่ออก ไม่จริง!เป็นไปไม่ได้ แม่เพิ่งคุยโทรศัพท์กับเธอเมื่อวานนี่เอง แล้วแม่จะตายได้ยังไง แม่ต้องอยู่สิ ต้องรอเธอซื้อปูกลับไปกินด้วยกันเย็นนี้สิ แล้วทำไม...ไม่จริง เธอไม่เชื่อ ไม่เชื่อ...

“ไม่จริง!!!!” ดาวเหนือกรีดร้องสุดเสียง น้ำตาแห่งความเสียใจไหลนองใบหน้า ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะล้มลงกับพื้น ห้วงคำนึงสุดท้ายก่อนที่จะหลับไปคือภาพวันคืนร่วมกันของเธอกับแม่...แม่ที่เธอรักและรักเธอที่สุดบนโลกใบนี้จากไปแล้ว จากไปตลอดกาล ต่อไปนี้เธอจะไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินเสียงของแม่แล้ว ไม่มีอีกแล้ว

ตฤณผวาเข้ามาดูคนรักสาวที่หมดสติไปแล้วเขารีบคว้าโทรศัพท์มือถือของเธอที่หล่นอยู่ใกล้ขึ้นมา

“ฮัลโหล...คุณจันทร์เกิดอะไรขึ้นครับ ตอนนี้ดาวเป็นลมไปแล้ว!!!”

ชายหนุ่มเบิกตากว้างหลังจากได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากพรายจันทร์ เขาก้มมองคนรักอย่างสงสาร นี่มันเวรกรรมอะไรกัน เพิ่งจะหายจากเรื่องโน้น ต้องมาเจอเรื่องนี้อีก ทำไมต้องเป็นดาวเหนือของเขาด้วยนะ เขาหลับตาแน่นสะกดอารมณ์ ถามออกไป

“แล้วตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหนกันครับ”

“จันทร์กำลังจะถึงกรุงเทพแล้วค่ะ รู้ข่าวเมื่อกี้นี้เองค่ะ”

“ถ้างั้นเดี๋ยวผมจะพาดาวกลับไปสมทบทันทีครับ ฝากคุณจัดการเรื่องที่จำเป็นอื่นๆไปก่อน” รอจนอีกฝ่ายรับคำแล้ววางสายไป ชายหนุ่มจึงเริ่มอุ้มคนรักสาวขึ้นไปนอนบนเตียว ส่วนตนเองเข้าอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วเพื่อจะได้พาดาวเหนือกลับไปหามารดาของเธอเพื่อบอกลากันเป็นครั้งสุดท้าย...

---------------------------------------------------------------------------------------
แอบย่องมาลง แล้วหายตัวไปอย่างรวดเร็ว ไรเตอร์ปิดบ้านไม่รับลูกระเบิดจากรีดเดอร์

ทั้งหลายนะ ห้ามส่งมาเด็ดขาด ไปแล้วค่ะ เจอกันตอนหน้า ไว้วันศุกร์จะลงจับใจให้ฯ

ตอนนี้ขอไรเตอร์ไปล้างความเครียดของตอนนี้ทิ้งก่อน ติชมได้ค่ะ

ป.ล. บอกแล้วนาว่าให้เตรียมทิชชู่ไว้



ไอจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 มิ.ย. 2555, 17:56:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 มิ.ย. 2555, 17:56:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1846





<< ตอนที่ 34   ตอนที่ 36 >>
ใบบัวน่ารัก 5 มิ.ย. 2555, 20:38:35 น.
มีการฆ่าตกรรมแน่ๆ ตะวันจะฆ่าใคร?
อย่าทำให้ดาวเสียใจไปมากกว่านี้นะ
หายดีแล้วหรือ ความจำกลับมาครบแล้วนี่
ก็ต้องจำได้นะว่าใครทำ ตะวันหรือ ไอจันทร์?!


anOO 6 มิ.ย. 2555, 16:25:22 น.
เฮ้อ!!! จะมีใครสังเกตุความผิดปกติของยัยตะวันตัวร้ายบ้างไหมเนี้ย
คนผิดจะได้รับโทษสักที ไม่ไหวแล้วกับยัยคนนี้


กาซะลองพลัดถิ่น 6 มิ.ย. 2555, 21:16:13 น.
โหดมากเลย ....ไม่ใช่ตะวันนะคะ ไรเตอร์ต่างหาก 555555
คนชั่วร้ายแบบตะวัน น่าจะได้รับกรรมแบบสาสมมากกว่าอโหสิกรรมให้นะคะ ฆ่าคนได้เลือดเย็นขนาดนี้ ไม่น่าจะเป็นคนปรกตินะเนี่ยะ


Setia 8 มิ.ย. 2555, 20:12:36 น.
ยัยนี่บ้าไปแล้วจริงๆด้วย ฆ่าน้าบุษแล้วยังฆ่าคนรับใช้ที่รับใช้ตนเองมาตลอดได้ลงคอ
สงสารดาวจัง แม่มาตายกะทันหันแบบนี้ มรสุมชีวิตจริงๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account