กลิ่นรัก...อบอวลหัวใจ
หญิงสาวผู้มาดมั่นเลือกการงานมากว่าเรื่องรักใคร่ๆหรือต้องมาข้องแวะเกี่ยวหัวใจให้ชายคนไหน
กับชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่ไม่เคยคิดจะจริงจังพันใจกับผู้หญิงใดๆ ทั้งคู่จะมาบรรจบรักกันได้เช่นไร
โปรดคอยติดตามนะคะ

แนะนำตัวละคร

พระเอก
นายธารานนท์ เตชโชติ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ รวมทั้งเจ้าของโรงแรมรีสอร์ทในเครือมากมายล้นฟ้า แต่ไร้คู่ครองเคียงข้าง เมื่อไม่เคยเจอผู้หญิงที่จะทำให้อิ่มเอมทั้งชีวิตโดยไม่รู้สึกเบื่อ หญิงสาวคู่ครองสักคนของเขาคงจะไม่มีในโลกนี้ แต่เมื่อได้มาทำงานในต่างจังหวัดและพื้นที่อำเภอท้องถิ่นเล็กๆ แห่งหนึ่ง โดย ได้พบกับส.ส. นรินศาสาวมั่นแสนสวย แต่ไม่ไร้สมอง ทั้งเก่งเอาตัวรอดโดยไม่ต้องขอความช่วยจาก ใครๆก็ได้ ทำให้ชายหนุ่มเพลินเพลิดไปกับเธอ ไม่ว่าเธอจะมาพบเจอเขาด้วยอย่างความบังเอิญหรือในสถานที่ไม่คาดถึงก็ตามทุกครั้ง แต่หัวใจของเขากลับอบอุ่นร้อนทั้งโหยหา มีแต่ความคิดถึงให้เธอทั้งกลางวันและกลางคืนที่นอนหลับฝัน รวมทั้งยังเข้าไปเจออุปสรรคด้านการเมืองการทำของเธอ ซึ่งชายหนุ่มนั้น ทั้งแสนชิงชังอาชีพการเมืองของพ่อผู้ให้กำเนิดนัก

นิสัย : การพูดทั้งจริงจังอย่างมาก ทั้งพูดเล่นกับคนที่ถูกชะตา เจ้าชู้ไม่เคยจริงใจกับผู้หญิงคนไหนๆเลย แต่จริงๆแล้ว ส่วนมากผู้หญิงจะเป็นฝ่ายชอบวิ่งเข้าหา เขาจึงต้องตอบรับบรรดาผู้หญิงเหล่านั้น ในใจลึกๆ เขากำลังต้องการผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูก ไม่ใช่ชอบเขาเพียงแค่เงินตราอันมหาศาลของเขา ด้านการทำงานไม่มีที่ติและเขาต้องทำให้จนสำเร็จ แม้ว่า ฝ่ายตรงข้ามจะต้องล้มละลายเขาก็ไม่สนใจ

นางเอก
นางสาว นรินศา อัณณ์ศญา หญิงสาวผู้มีใจรักในบ้านเกิดของตนเองยิ่งชีวิต อยากให้บ้านเกิดของตนเองมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขตามแบบประเพณีวิถีชีวิตดั่งเดิมในรัชสมัยๆที่ผ่านๆมา จึง ขอก้าวเข้ามาเป็นตัวแทนของราษฎร และประชาชน เพื่อนำความสุขมาสู่บ้านเกิดของตนเอง แต่อุปสรรค์มากมายทั้งภายในไม่ลงรอยกับนักการเมืองในพรรค ทั้งภายนอกด้านการมีเส้นสายที่คอยจะคดโกงกินแผ่นดิน กว่าจะเปลี่ยนความคิดให้รู้จัก คำว่า “สามัคคี” อีกครั้ง มันคงทำให้เธอใช้ความรู้และสามารถ ทั้งหัวใจยิ่งชีวิต บนเส้นทางวิถีดำเนินชีวิตปัจจุบันที่มีเล่ห์เหลี่ยมชักจูงหวาดล้อมมากมาย รวมทั้งบนเส้นทางแห่งความรักที่ก่อเกิดโดยไม่รู้ตัว เพราะความอวดดีอวดเก่งของชายหนุ่มเจ้าของรีสร์อทคนใหม่ ที่มีหัวใจแบบคนโกง เจ้าชู้ จนครบทุกรูปแบบเป็นผู้ชายที่หญิงสาวแสนเกลียดนัก และจะไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายพันธุ์นี้เด็ดขาด

นิสัย : สาวมั่น ผู้มีอุดมการณ์ของตนเองสูง การพูดจาจะนิ่งหนักแน่น จะอ่อนหวานเฉพาะคนเป็นพ่อกับแม่และเพื่อนสาวคนสนิทเท่านั้น

แล้วกลิ่นรักที่คุกรุ่นหมองหม่น ในใจของชายหนุ่มธารานนท์กับท่ามกลางธรรมชาติท้องทุ่งนาแสนอันจะใกล้กลับคืนมาให้สมบรูณ์อีกครั้ง...ด้วยหัวใจอันรักยิ่งแห่งบ้านเกิดของหญิงสาวนรินศานี้จะจบลงได้เช่น ไร ในเวลาไม่ช้านี้ ตะวันที่รอทอแสงรุ่งอรุณให้สดใสกำลังจะพิสูจน์ความรักของทั้งคู่...
Tags: รักโรแมนติก,รักหวานแหวว,หวานน่ารัก,แนวรักสบายๆ

ตอน: บทที่ 4 รุกเข้าหาตามหัวใจ...

จากอริฌา : ขอโทษที่หายไปนานจากเว็บเลิฟนะคะ >_<v
พอดีว่าอริฌาต้องเขียนต้นฉบับนิยาย
แนวโรมานช์เรื่อง ห้วงเสน่หา...คำสาปรัก ส่ง สนพ.ค่ะ
จบแล้วจึงกลับมาเขียนเรื่องนี้ต่อค่ะ
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=758107

บทที่ 4 รุกเข้าหาตามหัวใจ...

“พ่อจ๋า พ่อจ๋า กาแฟจ๊ะ” เสียงร้องหวานเจี๊ยบดังแล่นเข้ามาหาเสี่ยชัดชัย ยามเช้าตรู่และกาแฟแก้วแรกของวันนี้ก็ถูกเสิร์ฟลงด้วยฝีมือของลูกสาวหุ่นสวยทั้งรักอย่างณัฐภรณ์ เสี่ยชัดชัยผุดยิ้มจนแก้มบาน เมื่อเห็นลูกสาวมาเอาใจ เขากอพอรู้นิสัยลูกตัวเองดี นั้นคงอยากจะได้อะไรสักอย่างจากคนเป็นพ่อแน่ๆ

“เราอยู่บ้านด้วยหรือยัยนิด แถมยังตื่นเช้าอีก” เสี่ยชัดชัยถามลูกสาวด้วยความเคยชิน

“โธ่ พ่อขา นิดก็กลับบ้านตลอดนะคะ” ณัฐภรณ์กลับบ้านเดือนละหนสองหนต่างหากล่ะ คนเป็นพ่อก็ได้ส่ายหน้าไปมาหนึ่งหน ก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาจิบ และเอ่ยถามลูกสาวแสนรักต่อ

“มาอ้อนพ่อแต่เช้า เราอยากได้อะไรล่ะ หรือจะเอาเงินเพิ่ม หือ!” ณัฐภรณ์แทบยิ้มอย่างอายๆ เมื่อคนเป็นพ่อรู้ทันใจของเธอ มือนวลนิ่มเข้ามานวดตักคนเป็นพ่ออย่างเบามือ ก่อนจะตอบไปอย่างเขินอายเอ่ยหนักแน่นจริงจังเต็มปากเต็มเสียง

“นิดไม่อยากได้เงินค่ะ พ่อขา แต่นิดอยากได้ผัว...”

พรวด! น้ำกาแฟแสนอร่อยฝีมือชงจากลูกสาวแทบทะลักพ่นพุ่งออกจากปากเสี่ยชัดชัย ด้วยความตื่นตกใจกับคำตอบของลูกสาวสุดแสนรักของเขา

“อยากได้ผัว! นี่นอนกก นอนกอดอยู่ทุกคืน พวกนั้นมันไม่ใช่ผัวแกหรือยัยนิด” เสี่ยชัดชัยร้องถามอย่างตรงๆ เข้าใจถึงนิสัยของลูกสาวที่เขาเลี้ยงมากับมือเอง

“อ๊ายๆ ไม่ใช่นะ พ่อจ๋า นั้นแค่ของเล่นยามนอนเท่านั้นเอง แต่เวลานี้ลูกนิดอยากได้ผัวตัวเป็นๆ แล้วค่ะ พ่อจ๋า” ณัฐภรณ์บอกคนเป็นพ่อด้วยอารมณ์ดีมากที่สุด ไม่ร้องแว้ดๆ อย่างอารมณ์เสียใส่ ที่พ่อมักจะกล่าวถึงพฤติกรรมของตนเองอย่างถูกต้อง

“บ๊ะ อยากได้ผัวตัวเป็นๆ” คนเป็นพ่อต่างหากที่อารมณ์เสียแทนอย่างแรง เมื่อดันไม่นึกถึงใบหน้าหนุ่มโหด นักเลงหัวไม้อย่างไอ้กำพล วัฒนากิจเข้า มันไม่ถูกชะตากับเสี่ยชัดชัยอย่างมากที่สุด เขาไม่ชอบลูกเขยนักเลงเว้ย

“ใช่ค่ะ พ่อขา” ณัฐภรณ์ตอบอย่างมั่นใจสุดเริด

“มันเป็นใคร!” เสี่ยชัดชัยถามกลับเสียงดุเข้ม กำลังจะโมโหเข้าขั้นรุนแรง ถ้าคำตอบคือไอ้กำพล แต่แล้วต้องตาโตสะดุ้งตกใจ เมื่อเดาผิดคน

“คุณธารานนท์ แสนรูปหล่อบาดหัวใจลูกนิดไงคะ พ่อจ๋า” ณัฐภรณ์ตอบแล้วเคลิ้มๆ ไปยังดินแดนปรารถนาของเธอ ซึ่งในที่สุดเธอก็จะได้ชายหนุ่มรูปหล่อผู้เพียบพร้อมดังชายในฝันมาเป็นสามีแล้ว

“อะไรนะ! ยัยนิด คุณธารานนท์ที่เพิ่งจะสบตากัน ไม่ถึงสิบนาที เมื่อวานนี้งั้นเหรอ” เสี่ยชัดชัยถามอย่างรัวๆ ด้วยมึนงง เมื่อวานเขาเพิ่งจะพายัยนิดไปทานข้าวที่รีสอร์ทแมกไม้กอหญ้า เพื่อหวังให้คุณธารานนท์หลงเสน่ห์ลูกสาวตัวเอง แต่กลับเป็นยัยลูกสาวสุดที่รักดันหลงรักเข้าไปถึงหัวใจตั้งแรกพบเข้าก่อนเสียล่ะ

“ใช่ค่ะ พ่อขา”ณัฐภรณ์ตอบพร้อมเข้ามาหอมแก้มคนเป็นพ่อที่รู้ว่าเธอหมายถึงใคร เสี่ยชัดชัยแทบโล่งอก เมื่อว่าที่สามีของลูกสาวไม่ใช่ไอ้กำพลแล้ว และก็รู้สึกดีขึ้นมาทันตาเห็น ไหนๆ เขาก็อยากรู้เรื่องประวัติของนายธารานนท์ เจ้าของรีสอร์ทนั้นอยู่แล้ว และถ้ามันจะดีจริงๆ ในภาคหน้า ได้เอามาเป็นลูกเขย หึๆ ก็ดีเหมือนกันนะ รูปหล่อขั้นนั้น ฐานะอาจจะไม่ธรรมดาแน่นอน

“อืมๆ น่าสนใจ พ่อขอคิดดูก่อนนะ” เสี่ยชัดชัยตอบลูกสาวอย่างใจกลางๆ ไปก่อน แต่ลูกสาวดันทำหน้าหงิกอย่างไม่พอใจ และบอกพ่ออย่างเสียงแหลมๆ

“ไม่ๆ พ่อจ๋า ห้ามคิดเฉยๆ แต่พ่อต้องไปสู่ขอคุณรูปหล่อนั้น ให้ลูกนิดเลย” เสียชัดชัยแทบร้องลั่น เมื่อลูกสาวจะให้เขาไปสู่ขอลูกเขย อะไรมันจะว่องไวขนาดนี้ ตอนนี้แทบยังไม่รู้จักกันเสียด้วยซ้ำ

“บ๊ะ ไอ้ลูกรัก แกจะให้พ่อไปสู่ขอเขาเลยหรือ นี่ยังไม่ทันรู้จักเลยนะ ใจเย็นๆ ก่อนสิ เดี๋ยวพ่อจัดการให้แน่นอน”

“กรี๊ดดด! จริงๆ นะจ๊ะ พ่อจ๋า” ณัฐภรณ์ร้องดีใจสุดเสียงในชีวิตกระโดดเต้นเข้ามากอดคอเสี่ยชัดชัยอย่างเต็มรัก เมื่อคนเป็นพ่อเห็นด้วยกับการที่เธออยากจะได้สามีตัวเป็นๆ มาเป็นคู่ชีวิต งานนี้เธอก็จะทุ่มสุดตัวเหมือนกัน เพราะตกหลุมรักตั้งแรกพบเลยทีเดียว หัวใจณัฐภรณ์เต้นแรงมาก เมื่อได้เห็นธารานนท์ผู้ชายที่เพอร์เฟคดั่งชายในฝันของเธอ



เสียงนกร้องขานจิ๊บๆ ดังเข้ามาหากระทบเข้าโสตประสาทรับรู้ของนรินศา แถมยังมีเสียงวัวหรือเสียงควายก็ร้องโอดครวญยาวๆ ขึ้น และเหมือนจะมีเสียงเอะอะของคนงานเดินเข้าออกเป็นว่าเล่น เพื่อเริ่มต้นทำงานแต่เช้าของวันใหม่ ทำให้ร่างเล็กที่งัวเงียพยายามตื่นนอน ด้วยความไม่เคยชินกับเสียงเหล่านี้ ดวงตาเล็กกระพริบแล้วปรือมองฝาห้องเป็นแผ่นไม้กระดานมองลดลงมาเป็นพื้นไม้ขัดเงาวับ ผนังติดโต๊ะทำงานก็เป็นชั้นหนังสือบิวท์อิน ทำสีเลียนแบบไม้ให้ดูกลมกลืน แล้วที่ชั้นก็ยังมีหนังสืออยู่เกือบเต็ม ถัดไปมีประตูห้องน้ำคั่นไว้ระหว่างชั้นหนังสือกับตู้เสื้อผ้า ซึ่งห้องน้ำดังกล่าวกอหญ้าจะใช้ร่วมระหว่างสองห้องของห้องกอหญ้ากับพี่ชาย นานแล้วที่เธอไม่ได้มานอนที่ห้องแบบนี้ ร่างเล็กพลิกตัวและคว้าได้เพียงแค่หมอนข้างอันกึ่งเก่ากึ่งใหม่ ไร้ร่างเพื่อนสาวคนสนิท

“ยัย...กอหญ้า ตื่นเช้าเหมือนเคยแฮะ” นรินศาพึมพำอย่างงัวเงียพร้อมปวดหัวจี๊ดๆ เธอดื่มน้ำเมาไปเยอะเชี่ยวหรือเนี่ย แถมยังต้องมานอนค้างที่บ้านกอหญ้าอีกด้วยต่างหาก และเพื่อนสาวคนเก่งก็คงทำหน้าที่บอกคุณพ่อคุณแม่ของเธอเรียบร้อยแล้วล่ะมั้ง เมื่อนรินศาคว้านหาโทรศัพท์มือถือของตนเองเจอ ก็ปรากฏว่าไม่มีสายเรียกเข้าสักสายจากผู้บังเกิดเกล้าเลย นริศนาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะกลัวว่าทางคุณพ่อคุณแม่จะเป็นห่วงหรือหลัวว่าจะเกิดเรื่องอันตรายกับเธอ ด้วยทว่าลุงเข้มไม่ได้เข้ามาคุ้มครองเธอในยามวิกาล และแล้วกอหญ้ายังทำหน้าที่เป็นเพื่อนที่รอบครอบอย่างดีเสมอ เฮ้อ...ทำไมไม่มาเล่นการเมืองกับเธอบ้างนะ นรินศาบ่นในใจก็จะยืดเส้นยืดสายบิดขี้เกียจให้รู้สึกตื่นตัวมากกว่าเดิม และเดินเข้าไปห้องน้ำชำระร่างกายให้เรียบร้อย เรื่องเสื้อผ้าชุดใหม่ก็คงยืมเพื่อนสาวอย่างกอหญ้าใส่เช่นเคยไปก่อน เมื่อชำระร่างกายอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่เรียบร้อย ด้วยกางเกงขาสามส่วนและเสื้อยืดบางนิ่มสีครีมของกอหญ้า นรินศาก็เดินออกจากห้องนอนของเพื่อน ก้าวลงบันไดมาเรื่อยๆ เดินดิ่งที่ห้องครัว เมื่อยังได้กลิ่นกาแฟอันหอมๆ ลอยโชยมาอยู่ ก่อนจะชะงัก เพราะคิดผิดนึกว่าจะเป็นยัยกอหญ้าหรือคุณลุงคุณป้า แต่แล้วกลับเป็นผู้ชายร่างโปร่งสูงผิวสีโทนขาวและหน้าคมหล่อเหลา นัยน์ตาคมกริบ แม้จะอยู่ในเสื้อผ้าเสื้อยืดสีขาว ก็ยังมีความสง่าชวนให้น่ามองอย่างไม่รู้เบื่อนัก รอยยิ้มเล็กน้อยจากชายหนุ่มผุดขึ้นให้นรินศาที่ยังยืนอึ้งๆ พิจารณานายพิริยะ

“สวัสดีครับ” นรินศาแทบสะดุ้งกับอากัปกิริยาของตัวเอง ชายหนุ่มก็ยังยิ้มๆ ให้เธอ และดูเป็นมิตร ดูเป็นคนสุภาพมากกว่าการทำตัวเป็นหนุ่มเจ้าชู้เหมือนนายเจ้าของรีสอร์ทนั่น เอ๊ะ ทำไมเธอถึงต้องเอาผู้ชายคนอื่นไปเปรียบเทียบกับหมอนั่นด้วยล่ะ

“ผมชื่อ พิริยะครับ ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลย คุณอยู่ที่นี่หรือครับ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ย ถามเพราะว่าเห็นเธอเดินลงมาจากชั้นนบนของบ้าน ไม่ได้เดินเข้ามาทางหน้าบ้าน

“เอ่อ..สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อนรินศาค่ะ เอ่อ...คุณเป็นเพื่อนของพี่กอไผ่หรือเปล่าคะ” นรินศาถามออกเพราะไม่เคยเห็นชายหนุ่มคนนี้ แถมยังคงนั่งกาแฟสบายๆ ไม่รีบร้อนอะไรเลย เธอคิดว่าก็คงไม่ใช้คนงานแน่ๆ และอาจจะเป็นเพื่อนพี่ตฤณหรือพี่ชายของกอหญ้า

“เปล่าครับ ผมเป็นเพื่อนของกอหญ้าน่ะครับ แต่เขาอาจจะไม่รับเกี่ยวข้องกับผมสักเท่าไร อ้อ...เชิญดื่มกาแฟก่อนนะครับ พอดีว่าพวกเขาออกไปทำงานกันหมดแล้ว เหลือแต่ผมที่ยังเป็นส่วนเกิน แถมมาอาศัยบ้านเขา ก็มีแต่ทำตัวเป็นภาระอยู่” พิริยะเอ่ยบอกและทำตัวเป็นเด็กเสิร์ฟกาแฟให้สาวน้อยผมซอยสั้นดูพริ้มน่ารักน่าเอ็นดูนัก และดูเหมือนว่าเธอจะเพิ่งตื่นขึ้นมา น้องสาวของกอหญ้าหรือเปล่า เขามาอยู่หลายวันแล้วก็เพิ่งจะเห็นวันนี้เอง

“ขอบคุณค่ะ คุณพิริยะเป็นเพื่อนกอหญ้าหรือคะ” นรินศารับถ้วยกาแฟอันหอมกรุ่นจากพิริยะ พร้อมเอ่ยถามด้วยความฉงนใจเล็กน้อย เพื่อนชายของกอหญ้างั้นหรือ แต่ดูแล้วอายุมากกว่ากอหญ้าเสียด้วยซ้ำ ใครกันเนี่ย นรินศาเริ่มสนใจชายหนุ่มตรงหน้า เพราะเพื่อนสาวคนดีของเธอไปทำความรู้จักกับชายผู้นี้ตอนไหนกัน ไม่เห็นจะเล่าให้เธอฟังบ้างเลย แปลกๆ จริงๆ เลย

“ใช่ครับ เอ่อ...เรียกผมว่า พายก็ได้ครับ คุณริน” พิริยะเอ่ยเพื่อสร้างความสนิทสนมเสียหน่อย ถ้าเป็นน้องสาวปยณาขึ้นมาจริงๆ ก็อาจจะขอให้ช่วยเหลือเขาเสียหน่อย และอาจจะต้องช่วยเหลืออย่างมากๆ ด้วย

“ก็ได้ค่ะ คุณพาย” นรินศารับกาแฟมาแล้วจิบสักหนึ่งคำก่อนจะเริ่มเอ่ยถามต่ออย่างสนใจยิ่งนัก ตอนนี้ดวงตาของเธอเริ่มเป็นประกายด้วยความอยากรู้ความสัมพันธ์ของชายหนุ่มหน้าคมหล่อกับเพื่อนสาวคนดีของเธอจังเลย

“คุณรินเป็นน้องสาวของกอหญ้าหรือครับ” ได้ยินเสียงพิริยะถาม พอเจอคำถามนี้เข้าคิวบางของนรินศาเริ่มย่นใส่กัน ก่อนจะยิ้มกริ่มให้ชายหนุ่มมาดนิ่งตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนช่างเจรจาเสียด้วยสิ เขากำลังหวังอะไรกับเธออยู่หรือเปล่าน้า เพื่อนชายของกอหญ้า น่าคิดจริงๆ นริศนาครุ่นคิดกับตนเองในใจก่อนจะเอ่ยตอบคำถามให้นายพิริยะ

“เปล่าค่ะ คุณพาย ดิฉันไม่ได้เป็นน้องสาวของกอหญ้า แต่...เป็นคนสำคัญในหัวใจของกอหญ้าค่ะ” แค่เธอเอ่ยแบบนั้นออกไป มือหนาที่กำลังจะเอาแก้วกาแฟของตนเองไปเก็บไปล้างก็ทำหลุดมือเกือบจะหล่นแตกลงพื้นไม้บ้านอันเงามันวับ นรินศาแทบทำเสียงขบขำในลำคอ เมื่อจับความผิดความพิรุธของชายหนุ่มผู้นี้ได้ว่า ‘กำลังมาจีบยัยกอหญ้า ชัวร์!’ ส่วนนายพิริยะแทบทำตัวไม่ถูกที่ถูกทางเลยทีเดียวเหมือนหัวใจกำลังร้องเจ็บแปลบๆ

“เอ่อ...อยะ...อย่างงั้นหรือครับ” และยังไม่ทันที่พิริยะจะเอ่ยถามต่อ ก็มีเสียงวิ่งระรัวตึกๆ ปังๆ พรวดเข้ามาหา ปรากฏร่างหนุ่มน้อยคนของบ้านสินพสุธรด้วยการมีเหงื่อชุบเต็มตัว

“พี่ริน พี่ริน ตื่นแล้วหรือครับ ผมกำลังจะขึ้นไปตามพอดีเชียว คือว่า ผมเห็นรถของลุงเข้มมารอรับที่หน้าบ้านแล้วครับ” นายเอกรีบแจงบอก เพราะเห็นรถของเพื่อนพี่กอหญ้าก็รู้ทันทีว่าใครมาพักด้วยเมื่อคืนนี้ แถมพี่กอหญ้าก็ออกไปนาแล้ว เด็กหนุ่มจึงต้องทำหน้าที่ออกมารับรองคนสำคัญของพี่สาว

“ขอบใจจ๊ะเอก ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเราน่ะ โตขึ้นเยอะเลยนะ” นริศนาทักทายเด็กหนุ่มคมสันต์สวมเสื้อม่อฮ่อมชื่อเอกรินทร์ ซึ่งเป็นคนของบ้านสินพสุธรตั้งแต่วัยเด็กตัวน้อย

“ครับ เอ๊ะๆ พี่รินคุยกับพี่พายอยู่หรือเปล่า เขาเป็นแขกของพ่อนายแม่นายและพี่ส้มน่ะครับ คือว่ามีคดีนิดหน่อยเลยให้พี่พายมาอยู่ที่นี่น่ะครับ” เด็กชายเอกรีบบอกตามเท่าที่ตนเองรับรู้ นรินศาก็เอะใจอย่างสงสัยและก็สนใจอยู่ไม่น้อย

“อ้อหรือจ๊ะ แต่คงจะต้องคุยกันยาวแน่ๆ ถ้าว่างๆ พี่จะมาหาใหม่นะ ฝากบอกคุณลงคุณป้าด้วยจ๊ะ” แม้นริศาจะสนใจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของนายพิริยะก็ตาม เอาไว้ถามกอหญ้าอีกทีดีกว่า และคงจะให้คำตอบเธอได้ดีกว่าเด็กหนุ่มเอกรินทร์เสียด้วย

“ขอบคุณสำหรับกาแฟนะคะ คุณพาย” ก่อนจะไปนรินศาจึงหันมาหานายพิริยะ เพื่อบอกความขอบคุณเรื่องชงกาแฟให้ดื่มยามเช้า แทนเจ้าของบ้านที่วุ่นๆ กับการทำงานในวันใหม่ ถ้าคุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมาพักกับกอหญ้าด้วยก็คงต้อนรับเสียยกใหญ่จนไปได้ไม่ทำงานกันแน่ๆ ดีแล้วล่ะที่เธอลงจากห้องกอหญ้ามาไม่เจอเจ้าของบ้านสินพสุธร แต่ได้เจอแขกอาศัยของบ้านสินพสุธร ซึ่งน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

“ครับ พบกันใหม่นะครับ” พิริยะขานตอบ เมื่อดูเหมือนว่าสาวจ้าวจะรีบร้อนกลับบ้านเสียแล้ว โดยมีเจ้าเอกรินทร์เดินนำหน้า หญิงสาวผมซอยสั้นไปอย่างเคารพนอบน้อม พิริยะเลยเดินมาตามถึงที่ชานระเบียง หยุดมองส่ง และยืนดูเรือนร่างของเธอขึ้นรถตู้สีดำคันโตไป โดยมีคนขับรถที่ไม่ธรรมดาดั่งเหมือนเป็นบอดี้การ์ดอีกด้วย น่าสนใจจริงๆ พิริยะว่าในใจ คนสำคัญของกอหญ้างั้นหรือ คิดขึ้นมาก็ออกจะหงุดหงิดอย่างแปลกๆ ด้วยทว่ายิ่งสมัยนี้นั้นการคบหาแบบคู่เพศเดียวกันออกจะเปิดเผยมากขึ้นนัก นี่หรือว่าเขาจะมีคู่แข่งเป็นผู้หญิงอย่างงั้นหรือเปล่า



หันมาทางเจ้าของรีสอร์ทแมกไม้ผู้รูปหล่อ ในห้องทำงานที่ตอนนี้เขากำลังนั่งยิ้มปริ่มกับความคิดของตนเอง เนื่องจากเมื่อคืนนี้รำพึงถึงท่าน ส.ส.สาวแสนน่ารักแล้ว ก็วกกลับมาคิดใหม่อีกรอบ บางทีเมื่อคืนนี้เธออาจจะแอบมาที่รีสอร์ทของเขา เพื่ออยากจะดูพฤติกรรมของเขาหรือเปล่าน่า พอคิดถึงแบบนั้นธารานนท์ก็หมุนปากกาเล่นๆ ก่อนจะจดขีดเขียนสิ่งหนึ่งที่ไหลออกมาจากหัวใจกลายเป็นตัวอักษร และจึงหันมาสนใจงานเอกสารของตนเองอยู่ต่อไปพักใหญ่ๆ จึงค่อยเดินออกมาห้องทำงาน แค่เดินไปที่หน้าฟร้อนก็เห็นสาวหุ่นสะบึ้มใส่เนื้อผ้าสั้นจิ๋วจนแทบไม่ต้องไปหาซื้อมาตัดใส่ก็ได้ล่ะมั้ง นัยน์ตาสีดำขลับแวววาวขึ้นมาทันใด รีบสาวเท้าตรงดิ่งไปเข้าหา

“สวัสดีครับ คุณนิด” น้ำเสียงทุ้มแทบหวานหูคนฟังนักเหลือเกิน ณัฐภรณ์แทบเคลิ้มฝันไปเลยทีเดียว ก่อนจะดึงอาการตัวเองลงมาตอบกลับชายในฝัน

“สะ...สวัสดีค่ะ คุณธารานนท์” ได้ยินน้ำเสียงอันยั่วยวนของฝ่ายหญิง ธารานนท์ก็ยิ้มจนแก้มปริ่มอย่างสนอกสนใจ แถมยังภูมิใจในเสน่ห์ของตนเองอีกเช่นเคย

“วันนี้ มาตั้งแต่กลางวันเลยนะครับ มาทานข้าวมื้อเที่ยงหรือครับ คุณนิด”

“ค่ะ แต่นิดยังไม่มีเพื่อนร่วมทาน...ด้วยเลย” ณัฐภรณ์พูดออกไปแทบลิ้นพันกัน ม้วนเลียริมฝีบางแดงช่ำของตนเองด้วย เรียกเสียงขบขันจากสองสาวประชาสัมพันธ์แห่งรีสอร์ทเช่นเคย ธารานนท์ก็กลืนน้ำลายไปอึกหนึ่งอย่างแห้งๆ น้ำเสียงของณัฐภรณ์จะยั่วใจเขาหรือไงกัน ธารานนท์ก็ได้แต่ยิ้มหวานๆ ก่อนจะตอบไปว่า

“พอดีเลยครับ ผมก็ยังไม่ได้ทานอะไรลงท้องด้วย คุณนิดมานั่งทานมื้อเที่ยงกับผมนะครับ” แค่นั้นก็ได้ยินเสียงกรี๊ดๆ จากณัฐภรณ์ด้วยความดีใจสุดตัว สองสาวแห่งประชาสัมพันธ์ถึงกับส่ายหน้าให้เลยทีเดียว พร้อมมองให้กันบอกได้คำเดียวว่า เจ้านายของพวกเขาอาจจะหลุดจากเจ้าแม่หุ่นสะบึ้มยากแน่ๆ ดูคุณหล่อนจะติดอกติดใจเจ้านายของพวกเธอเหลือเกิน มือบางอันมีน้ำนวลคว้าเข้ามาคล้องแขนของธานานนท์อย่างเปิดเผย ธารานนท์ก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้เพราะหลงออกปากชวนไปแล้วนี่น่า แล้วอาจจะเปิดทางให้ผู้หญิงผิดคนหรือเปล่าน่า ดูแล้วณัฐภรณ์ออกอยากจะจับเขาไม่เบาเลยทีเดียว

“ไปค่ะ คุณนนท์ขา เดี๋ยวข้าวมื้อนี้ นิดเลี้ยงเองนะคะ” เสียงณัฐภรณ์ช่างหวานยาวยั่วใจชายหนุ่มพนักงานที่ต่างคนพอจะยืนเหตุการณ์นัก แถมดูใบหน้าเจ้านายจะเต็มใจไปเสียด้วย งานนี้ผู้จัดการกิตดาคงต้องรับมืออย่างหนักและต้องมีอาการปวดหัวกำเริบอีกแล้วแหงๆ เลย และกว่าธารานนท์จะหลุดพ้นออกจากณัฐภรณ์ได้ก็ป่านไปเกือบเย็นของวันเลยทีเดียว นี่แค่นั่งรับประทานข้าวเฉยๆ นะ ถ้าอยู่แหล่งที่มันล่อแหลมลับตาคนมากกว่านี้คุณณัฐภรณ์คงจับธารานานนท์ไปนอนกกกอดเรียบร้อยแล้วแน่ๆ ธารานนท์จึงรีบขับรถออกมาส่งณัฐภรณ์ที่บ้านของเสี่ยชัดชัยผู้เป็นพ่อ แต่ยังไม่ขอเข้าไปพบเจ้าของบ้านหรอก เพราะต้องรีบไปทำธุระอย่างอื่นต่ออีก ซึ่งกว่าณัฐภรณ์จะอำลาจบก็เล่นปานไปหลายสิบนาอีกต่างหาก

“คุณนนท์ขา โอกาสหน้าให้นิดเลี้ยงข้าวตอบแทนนะคะ” ณัฐภรณ์ก้มตัวมาบอกธารานนท์ เมื่อก้าวออกจากรถฟอร์ดฟอจูนเนอร์สีน้ำเงินของธานานนท์

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ว่าโอกาสหน้าหรือโอกาสไหนๆ ผมก็จะขอเลี้ยงข้าวคุณนิดเองครับ” ธารานนท์ตอบไป ณัฐภรณ์แทบเอียงอายจนก้มบิด เพราะพอใจกับคำตอบของชายในฝันอย่างมาก

“อุ๊ยๆ รับเลี้ยงข้าวตลอดชีวิตไหมคะ”

“แฮ่กๆ ” เจอคำนี้ธารานนท์กึงกับสำลักน้ำลายตนเองขึ้นมาดื้อๆ ก่อนจะขยับเปลี่ยนเกียร์รถ ณัฐภรณ์ถอยหลังออกเกือบไม่ทัน เนื่องจากรถคันโตของธารานนท์กระตุก

“ผมขอตัวไปทำธุระก่อน นะครับ” ธารานนท์ว่าจบก็แล่นออกไป ปล่อยให้สาวจ้าวอกสะบึ้มร้องกรี๊ดๆ ดังยาวเกือบหนึ่งนาทีอยู่หน้าบ้านคนเดียว เพราะธารานนท์ไม่ยอมตอบคำถามเธอ ก่อนจะเท้าสะเอวเดินตึงๆ จิกของเท้าส้นสูงเข้าบ้านหลังโตตนเอง คนเป็นพ่อที่ยืนมองอยู่ระเบียงถึงกับตกตะลึงตาโตเอามากๆ เพราะเห็นลูกสาวเดินจ้ำๆ เข้าบ้าน ก่อนจะตะโกนร้องถามด้วยความแปลกประหลาดใจสุดๆ

“เฮ้ยๆ ยัยนิดลูกพ่อ นี่มันยังหัววันๆ อยู่เลย แกกลับมาถึงบ้านได้ไงเนี่ย”

“คุณพ่อ!” ณัฐภรณ์ออกสีหน้าบึ้งและโกรธสุดเหวี่ยง ก็ไม่คิดว่าธารานนท์จะมาส่งเธอที่บ้านนี้น่า หรือว่าจะไปสานต่อยังเสร็จสรรพรุ่งเช้าโน้นเลย เธอต่างหากที่บ้าไปกับสายตาอันหวานๆ ของธารานนท์อยู่ได้ แถมไปๆ มาๆ ดันให้เขามาส่งที่บ้านโดยไม่รู้ตัวอีก แล้วนี่เขาคงหนีไปจีบนังหนูที่ไหนต่อแน่ๆ ใจเธอแทบร้อนรนกระวนกระวายอยากจะเอารถตนเองออกแล้วขับตามรถของธารานนท์ชายอันหมายปองไปเดี๋ยวนี้ แต่เสียงคนเป็นพ่อกลับร้องห้ามความคิดของเธอก่อน

“ยัยนิดเอ้ย มาบ้านไวก็ดีแล้ว พอมีข่าวดีจะบอกแกด้วย”

“ข่าวอะไรพ่อ ถ้าไม่เกี่ยวกับคุณนนท์ล่ะก็ ลูกไม่รับฟังนะ”

“อ้าว นางลูกเอาแต่ใจนี่ ไปอารมณ์เสียมาจากไอ้หมาตัวไหนล่ะ” เสี่ยชัดชัยร้องถามด้วยความชินปาก เป็นผลทำให้ผู้เป็นลูกสาวเต้นแร้งเต้นกา เพราะพ่อดันเรียกชายในฝันของเธอว่า ไอ้หมาตัวหนึ่ง

“กรี๊ดๆ พ่อ อย่ามาว่าคุณนนท์ขาของลูกนิดนะ” เสียชัดชัยแทบบางอ้อ ที่แท้ก็อารมณ์เดือดเพราะใคร เสียชัดชัยถึงกับยิ้มถูกใจนัก สงสัยจะหาคนมาปราบลูกสาวได้แล้วเสียจริงๆ ล่ะมั้งเนี่ย

“อ้าวๆ พ่อจะรู้ไปเหรอ ว่าลูกไปกับคุณธารานนท์เขามาน่ะ ยัยนิด ฮ่าๆ” ช่วงนี้ดูเหมือนเสี่ยชัดชัยจะมีความสุขเอาเสียมากมายเหลือเกิน เพราะว่าที่ดินที่มีอยู่ในมือก็ขายได้เป็นราคาหลายร้อยล้านเลยทีเดียว ทั้งยังเพิ่งเคยเห็นลูกสาวมีพฤติกรรมที่แปลกตาไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมืออีกต่างหาก



ด้านนายธารานนท์ก็แทบถอนหายใจอย่างโล่งอกโล่งคอ แม้ณัฐภรณ์จะเป็นผู้หญิงน่าฟัดแค่ไหน แต่เขาว่างานนี้หลุดทิ้งออกยากแน่ๆ ดูสิแค่นั่งทานข้าวหรืออยากจะทานเขากันแน่ สายตาของณัฐภรณ์มันบ่งบอกว่าอยากกินเขามากกว่า หนุ่มเจ้าสำราญแสนเสน่ห์แรงถึงกับเหนื่อยตก เพราะณัฐภรณ์ไม่ใช่ผู้หญิงวันไนท์สแตนด์กับเขานั่นสิ อะไรจะอยากจับเขาเอาเป็นเอาตายตั้งแต่การได้นั่งทานข้าวด้วยกันมื้อแรกด้วยน้า ธารานนท์เหม่อลอยคิดก่อนจะสลัดมันทิ้ง แล้วหันมาสนเรื่องที่เขากำลังจะไปทำดีกว่า รถของเขาแล่นเข้าไปหาร้านเครื่องเงินและของชำรวยมีชื่อของจังหวัด พอเข้ามาเทียบที่จอดรถของร้านก็ต้องเพ่งเขม็งมองไปยังรถตู้คันโตข้างๆ มันช่างคุ้นตานักและอาจจะเป็นเอกลักษณ์ของสาวจ้าวน่ารักไปโดยปริยาย ธารานนท์เห็นแล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ หัวใจเริ่มกระตุกหวั่นๆ

“บังเอิญอีกแล้วนะ หึๆ” ธารานนท์ยิ้มหน้าระรื่นพร้อมผิวปากเป็นเพลง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปยังร้านเครื่องเงินและของชำรวยดังกล่าว เสียงกล่าวต้อนรับของพนักงานก็เอ่ยขึ้น ดวงตาอันคู่คมมองพนักงานสาวและก็ยิ้มตอบรับ ก่อนจะตวัดไปส่องหาเรือนร่างบางๆ อันอยากจะพบเจอนักหนา

“ยินดีต้อนรับค่ะ ต้องการสินค้าเครื่องเงินแบบไหนคะ หรือจะเป็นของชำรวยต่างๆ เชิญเลือกชมตามสบายเลยนะคะ”

“ครับ เอ่อ...ผมอยากได้กล่องหรือตลับใส่ของขนาดเล็กๆ อะไรก็ได้ มีไหมครับ คือผมอยากเอามาไว้ใส่เก็บของสำคัญน่ะครับ ถ้าผมถือติดตัวไปมากลัวว่าสักวันมันอาจจะหล่นหายไปเสียก่อน”

“อุ้ยๆ ของสำคัญหรือคะ ทางร้านมีคอลเลคชั่นแบบใหม่มาพอดีเลยค่ะ มีทำมาจากช่างฝีมือแฮนด์เมดจากชาวเขาด้วยค่ะ เป็นงานประณีตอย่างสวยงามมากเลย แถมชาวต่างชาติก็ให้ความสนใจด้วยนะคะ คุณลูกค้าจะรับแบบเป็นตลับเครื่องเงินหรือพวกกล่องกำมะหยี่ดีคะ” ธารานนท์ฟังพนักงานของร้านอธิบายสรรพคุณสินค้า และเดินมายังจุดชุดพวกเครื่องเงินที่มีแบบสลักลวดลายสวยงามตา

“ผมว่าเอาแค่กล่องกำมะหยี่ดีกว่าครับ” ธารานนท์บอกพนักงานสาวของร้านไป เธอก็เดินนำธารานนท์พาไปยังชั้นเก็บกล่องกำมะหยี่ใส่ของ ธารานนท์ก็เลือกอันที่คิดว่าจะสามารถเก็บของสำคัญของเขาได้หนึ่งชิ้น แล้วส่งให้พนักงานสาวไปห่อใส่ถุงและเช็คราคา ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆ เมื่อมองเห็นเรือนรางบางที่แสนคิดถึงยืนเลือกสินค้าอยู่ล็อกถนัดไปนี่เอง วันนี้เธอแต่งชุดเสื้อผ้าไปรเวท ซึ่งดูแปลกตาธารานนท์อย่างมาก เธอสวมกางเกงขาสามส่วนกับเสื้อยืดสีครีมธรรมดา และที่เขาจำได้เพราะผมอันสวยซอยระย้ามาต้นคอเรียวของเธอนั้นแหละ ท่าน ส.ส.สาวแสนน่ารักจะแต่งตัวธรรมดาเกินไปหรือเปล่าเนี่ย ธารานนท์คิดในใจ แล้วเท้าหนาก็พาเดินก้าวเข้าไปหา เพื่อจะทำการทักทายตามารยาทของคนที่รู้จักกัน

“สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้วนะครับท่าน” เสียงทุ้มๆ ที่เธอคิกว่าเคยได้ยินที่ไหน จู่ๆ ก็ทักขึ้น นรินศาพลิกหันตัวไปหาเสียงดังกล่าวก่อนจะขบฟันเม้มแน่นๆ เมื่อเห็นร่างหนุ่มนายทุนหน้าเลือดใจเสือยิ้มปริ่มส่งมาให้เธออย่างเป็นมิตร อะไรจะบังเอิญให้เธอได้เจอะเจอกับเจ้าของรีสอร์ทแมกไม้กอหญ้านักหนา นรินศาจึงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะตวัดตัวเองให้เดินออกห่างไม่ยอมเอ่ยพูดกับเขาสักคำเดียว ทำเป็นมองไม่เห็น แต่ธารานนท์ย่อมรู้อย่างทันการณ์เพราะสาวจ้าวออกจะเกลียดขี้หน้าเขานี่นา

“เดี๋ยวสิครับ ท่าน ไม่คิดจะทักทายผมบ้างหรือครับ ผมมาดีนะ”

“จะมาดีหรือมาร้าย ดิฉันก็ไม่อยากจะคุยด้วยหรอกค่ะ นอกจากตอนขึ้นศาล”

“วิ้วๆ” ธารานนท์ผิวปาก เหมือนรู้ว่าท่าน ส.ส. แสนน่ารักพูดถึงอะไร ก็เรื่องที่เธอเตือนเขาแต่เขาไม่ทำตามนั่นสิ นี่ถึงขั้นจะเล่นงานเขาในศาลด้วยเชียวหรือ แต่ว่ามันเปล่าประโยชน์ไม่ใช่หรือไง เมื่อเขาได้ครอบครองที่ดินในหมู่บ้านนั้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

“ไม่คิดว่าท่านจะรู้แล้ว ว่าผมไปแย่งส่วนแบ่งของท่านมาได้ก่อน หึๆ อยากได้มากหรือครับที่ดินผืนนั้นน่ะ” บ้าจริงนายธารานนท์เอ๋ย ไหนจะพูดกับเธอแบบเป็นมิตรไง ทำไมปากดันไปหาเรื่องให้เธอเกลียดจนเข้าไส้อีกแล้ว

“ค่ะ เพราะมันสำคัญต่อชาวบ้านหลายครัวเรือนมาก ไม่ใช่นายทุนเหมือนคุณที่จะเอาไปทำการค้าหาผลประโยชน์ใส่ตัวเอง” นรินศาแทบอารมณ์เกือบเดือด นายทุนหน้าเลือดจะไปรู้อะไรกับชีวิตของชาวบ้านชาวไร่ที่ทำมาหากินอย่างสุจริต แต่วันหนึ่งความรู้ที่มีของชาวบ้าน กลับไม่เท่าทันพวกคนเจ้าเล่ห์ผู้หวังผลประโยชน์กับกำไร

“หึๆ ผมว่าอย่าไปพูดถึงดีกว่า ผมแค่จะแวะมาทักทายท่านนริศนาเฉยๆ นะครับ มาซื้อของชำรวยหรือครับ ให้ผมช่วยเลือกไหมครับ” ธารานนท์ยังคงยิ้มปริ่มไม่สนใจเสียงหวานปนดุเข้มๆ ของนรินศาที่ดูเหมือนจะพยายามจะสั่งสอนเขาให้ทำความดีใส่ตัวเสียบ้าง สำหรับนักธุรกิจย่อมเห็นผลประโยชน์มาก่อนอยู่แล้ว

“ไม่จำเป็นค่ะ ดิฉันจะกลับแล้ว” นรินศาว่าแค่นั้น ก็ใช้ไหล่เล็กๆ ชนเข้ากับตัวของธารานนท์แรงๆ หนึ่งที เพื่อให้เขาเปิดทางเดินออก ธารานนท์ถึงกับหน้าเงยจนจุกเลยทีเดียว พร้อมบ่นในใจ ‘บอกเสียงหวานๆ ให้เขาเปิดทางให้ก็ได้นะ ทำไมต้องกระทุ้งทำร้ายกันด้วยเจ็บเป็นนะครับ’ ร่างเล็กจ้ำดิ่งไปยังเคาน์เตอร์เพื่อจ่ายเงินกับสินค้าของตนเอง แถมยังสั่งรายการเพิ่มอีกสักอย่างสองอย่างกับจดรายละเอียดหงิกๆ ไวๆ ให้พนักงานของร้าน แล้วเดินว่องไวออกร้านเครื่องเงินและของชำรวยไป โดยไม่หันมากลับมองชายหนุ่มธารานนท์คู่อริเลยแม้แต่น้อย ที่ตอนนี้กำลังยืนเอามือกุมหน้าท้องไว้และพยายามยืดตัวให้ตรงๆ ซึ่งกว่าจะหายจุกท้องได้ก็นิ่งอยู่นาน แล้วเขาจึงค่อยเดินเข้ามายังเคาน์เตอร์ของร้านด้วยสีหน้าปกติให้มากที่สุด พร้อมพึมพำไปกับธาตุอากาศว่า มีโอกาสเมื่อไหร่จะเล่นงานคืนแน่ๆ พนักงานสาวของร้านก็ทักขึ้น เพื่อให้ธารานนท์รับสินค้าของตน แต่แล้วเขาก็เอามือลูบคางเรียวของตนเอง เนื่องจากว่าสายตาอันดีๆ ของเขานั้น ดันเหลือบไปเห็นตัวเลขอะไรบ้างอย่างในรายการสั่งซื้อสินค้าของร้าน แถมเขาขอเดาว่าคงจะเป็นลายมือของหญิงสาวแสนน่ารักที่ทำร้ายเขาเมื่อครู่นี้ ภาพดังกล่าวก็เด่นชัดขึ้นมาอีกครั้ง ธารานนท์จึงแกล้งสั่งสินค้าเครื่องเงินจากทางร้านและออกแบบให้สักหนึ่งชุด เพื่ออยากจะเห็นตัวเลขสิบหลักในรายการก่อนหน้าของเขาอย่างชัดๆ จนจำแม่นขึ้นใจ แล้วก็ยิ้มจนแก้มปริ่มเต็มๆ เป็นอาการเหมือนคนมีความสุขขึ้นมาดื้อๆ งานนี้เขาได้สิ่งของที่ต้องการแล้วและยังได้สิ่งที่เกินคาดหมายมาด้วย



ด้านของนรินศาที่จากมาด้วยความขุนเคืองในร้านเครื่องเงินและของชำรวย อะไรจะบังเอิญ ทำให้เธอต้องไปพบเจอนายทุนหน้าเลือดใจเสือแถมยังออกลายเจ้าชู้อีกด้วย

“งานเป็นไงบ้าง ลูกริน” พ่อศาตราเอ่ยถามระหว่างกำลังนั่งรับประทานข้าวมื้อค่ำ นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้ทานข้าวกับลูกสาวอันแสนภูมิใจของเขา

“ก็ดีค่ะ คุณพ่อ รินยังรับมือไหว” ผู้เป็นลูกตอบคนเป็นพ่อไป ก่อนตักข้าวคำเล็กๆ ใส่ปาก อาหารมื้อนี้ก็ยังเต็มไปด้วยของโปรดของเธอ แต่ดูเหมือนว่าท่านส.ส.หญิงคนเก่งจะไม่ค่อยเจริญอาหารนัก คนเป็นแม่ที่นั่งข้างๆ ก็พยายามตักแกงส้มกุ้งแสนอร่อยให้ลูกสาวทานเยอะๆ แม่นริศราดูลูกสาวแห่งดวงใจออก การไม่เจริญอาหารของลูกคือ มีเรื่องวิตกกังวลใจอย่างมาก

“อย่าหักโหมงานมากนะ ลูก แม่เป็นห่วงหนูนะ คุณศาตราก็ไม่น่าให้ลูกลงเล่นการเมืองไวเลย ดูสินับวันออกจะผอมเอาผอมเอาแบบนี้ สุขภาพต้องเสียแน่ๆ แถมไม่รู้วันไหนจะได้วิ่งหลบกระสูนปืน เฮ้อ...แม่คงหัวใจวายตายแน่ๆ”

“โธ่ คุณผู้หญิงครับ ผมไม่ได้บังคับลูกเลยนะ จริงไหมลูกรินคนเก่งของพ่อ” นรินศาก็ได้แต่ยิ้มตอบให้ผู้เป็นพ่อ ที่ต้องการฝ่ายสนับสนุน ก่อนจะหันมาปลอบใจคนเป็นแม่แสนรัก เธอเป็นคนเลือกเส้นทางนี้เองต่างหากล่ะ

“แม่ค่ะ รินก็อยากทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติคนหนึ่งบ้างนะคะ คุณพ่อก็แค่สนับสนุนรินเฉยๆ”

“ค๊าๆ เขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว สองพ่อลูกจอมเก่งกาจ” คุณแม่นริศราค้อนให้หนึ่งหน ก็หล่อนอดเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวไม่ได้นี่น่า แต่ยังโสดด้วยไม่รู้เมื่อไรจะหาชายหนุ่มคู่ครองสักที หล่อนก็อยากอุ้มหลานตัวน้อยๆ ไวๆ แก้เหงาเหมือนกันนะ สองพ่อลูกก็ยิ้มตอบกันให้นึกว่า แม่นรินศาจะบ่นยาวๆ กว่านี้ แต่แล้วนรินศาก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อแม่เกิดพูดเรื่องต้องห้ามที่เธอมักจะไม่ค่อยรับฟังเสียเท่าไร

“แล้วลูกสาวของแม่ มั่วแต่ทำงาน ทำงาน เมื่อไหร่จะหาชายหนุ่มมาอยู่เคียงบ้างล่ะเนี่ย แม่อยากมีหลานตัวน้อยๆ มาเลี้ยงแก้เหงาบ้าง”

“ว้า...สุดท้ายแม่ก็วกกลับเรื่องนี้อีกแล้ว รินยังไม่มีคนถูกใจต้องชะตาร่วมหอด้วยนี่คะ เอ๊ะๆ แต่ว่าก็มีอยู่คนหนึ่งนะแม่จ๋า” คนเป็นแม่แทบตาลุกวาบ เมื่อสาวเกริ่นพูดขึ้นมาเอง

“ว้ายๆ ใครกันจ๊ะ ลูกรินของแม่” คนเป็นพ่อแทบขบขันเดาออกว่าลูกสาวจะพูดนิทาถึงใคร

“นายน้อยแห่งบ้านสินพสุธรค่ะ”

“ฮ่าๆ ใช่ๆ พ่อก็ถูกใจนายน้อยแห่งบ้านสินพสุธรมากๆ เช่นกัน” พ่อศาตราหัวเราะอย่างลั่นห้องอาหารของบ้าน ส่วนคนเป็นแม่ตาเขียวใส่ทั้งลูกสาวทั้งคนเป็นสามี ที่บังอาจจะอำหล่อนเล่นๆ หวังว่าลูกสาวคงไม่คิดจะชอบเพศเดียวกันจริงๆ หรอกนะ ไม่งั้นหล่อนคงจะต้องฆ่าตัวตายแน่ๆ พร้อมยืนมือมาหยิกแก้มหัวเป็นสามีที่นั่งหัวโต๊ะด้วยความหงุดหงิดใจนัก

“โอ๊ยๆ คุณๆ ผมเจ็บนะ มาหยิกแก้มผมทำไมเนี่ย”

“ก็คุณมันตัวการนี่ ชอบส่งเสริมลูกสาวไปทางที่มันดีๆ กว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไงคะ” นรินศาแทบขบขำกับคู่สามีภรรยานี้ ชอบกัดกันไม่เลิกเสียทีจนเธอโตเอาป่านนี้ แต่ทั้งคู่ก็ยังรักกันมากๆ ด้วย

“ลูกรินก็เหมือนกันนะ อย่าคิดแบบพ่อศาตรานะ ไม่งั้นแม่จะจับลูกแต่งงานกับผู้ชายในหมู่บ้านจริงๆ ”

“อ้าว แม่จ๋าเล่นแบบนี้เลยหรือคะ รินมองหาสามีเองได้นะคะ ไม่เอาหรอกไอ้คลุมถุงชนน่ะ” นรินศาหน้างำเลย เจอคนเป็นแม่จะจับให้ไปคลุมถุงชนกับใครไม่รู้ มือเรียวบางของผู้เป็นแม่ก็เปลี่ยนจากหยกแก้มของสามี มาบีบจะจมูกเรียวมนๆ ของลูกสาวด้วยความหมั่นไส้ เพราะเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง จนคนเป็นแม่จะรอเห็นหลานสักคนได้ไหมชาตินี้

“ยะ...ท่านส.ส.คนเก่ง” นรินศาปัดมือคนเป็นแม่ออกไม่ทัน สุดท้ายก็โดนบี้จมูกจนได้ งานนี้สองพ่อลูกมีรอยแดงระเรื่อจ้ำๆ เข้าคนละที ก่อนพ่อศาตราจะหัวเราะชอบใจแถมยังหาเรื่องแย่คนเป็นภรรยาต่อด้วยความสนุกสนาน กว่าจะแยกย้ายกันขึ้นไปนอนก็ปาเข้าไปอย่างดึกโขน และการได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาสาม พ่อ แม่ ลูก นั้นหากโอกาสยากเหมือนกัน เพราะลูกสาวทำงานรับใช้ประชาชนจนไม่ค่อยมีเวลาให้ผู้บังเกิดเกล้าเลย ตั้งแต่ได้ก้าวเข้ามาวงการการเมือง

นรินศากลับเข้ามาที่ห้องนอนและเป็นห้องทำงานของตนรอบดึกต่อ เธอก็ยังพยายามค้นหาข้อมูลงานต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เช่นเคย และอัพข่าวสารใหม่ๆ เข้ามาบ้าง ก่อนจะได้ยินเสียงเมสเซสโทรศัพท์มือถือ ซึ่งได้เข้ามารบกวนจิตใจของเธออย่างมากเป็นประวัติการณ์



(*[1]มองเห็นคุณตลอดเวลา ผ่านช่องว่างในหมู่ผู้คน

อยากเข้าไปพูดคุย แต่ไม่กล้า จะทำดังที่คิด

จะทำเช่นใดได้ นอกจากส่งข้อความนี้

ถึงคุณเพื่อกล่าวทักทาย*

ผมธารานนท์นะครับ)



นริศาอ่านข้อความในโทรศัพท์มือถือของตนจบ ก็ต้องเบิกดวงตาคู่เล็กๆ กว้างเท่าไข่หานได้ยิ่งดี ด้วยทว่าเกิดความตกใจและประหลาดใจที่สุดในชีวิต แถมมาพร้อมด้วยอารมณ์ร้อนๆ วิ่งปรี๊ดโมโหเข้ามาใส่ตัวเธอ เพราะโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นเบอร์ส่วนตัวของเธอ นรินศาไม่เคยให้เบอร์ใครไปมัวๆ แน่นอน

“บ้า บ้าที่สุด นายนั่นเอาเบอร์เรามาจากไหนกัน!”




*[1]กลอน โดย หมอกเหนือ

ขอบคุณน้องชายหมอกเหนือที่แต่งกลอนให้พี่อริฌานะคะ >/\<

แบบว่า อริฌาแต่งกลอนไม่เป็นเลยค่ะ


โปรดติดตามตอนต่อไป

บทที่ 5 งานเริ่มเดิน...



มุกจีบนายธารานนท์โบราณโคตรๆ 5555

แวะไปอ่านเรื่องของกอหญ้าได้ที่นี่นะคะ
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=795863



Aricha
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 มิ.ย. 2555, 23:04:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 มิ.ย. 2555, 23:04:28 น.

จำนวนการเข้าชม : 1603





<< บทที่ 3 ใจมันฟ้อง...    บทที่ 5 งานเริ่มเดิน... >>
วนัน 7 มิ.ย. 2555, 15:04:53 น.
จะรอนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account