ทิวาเลือน
เรื่องราวของการสืบหาความจริงที่ยังคลุมเครือของการเลิกราของเมฆาและเริ่มทิวาจนนำไปสู่อุบัติเหตุที่คร่าชีวิตฝ่ายหญิง

โดยรวี ที่อยากจะช่วยญาติให้หลุดพ้นความเศร้าโศก ชักชวน อรุณงามญาติฝ่ายหญิงให้มาช่วยกันสืบด้วยความไม่เต็มใจนัก

ยิ่งสืบยิ่งยุ่ง อะไรหนอหรือใครกันที่เป็นสาเหตุอันแท้จริง


Tags: ชิตา ทิวาเลือน รักโรแมนติค

ตอน: ๖


เมื่อแสงทองของอาทิตย์สาดจับทั่วห้อง รวีก็ค่อยๆ ลืมตาตื่น เมื่อคืนกว่าที่อรุณงามจะนอนหลับได้ก็กว่าตีสอง เขาจึงอุ้มไปนอนบนเตียง ส่วนตัวเองก็ลงทุนนอนหน้าเตียงนั่นแหละ

แล้วนี่ไปไหนเสีย คงเขินที่ร้องไห้กับคนที่ถือว่าเป็นญาติของศัตรู เลยกระดาก หนีหน้าไปทำงานแล้วมั่ง เขาก็เลยเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานเช่นกัน

แต่พอออกมาก็เจออรุณงามทรงชุดสาวโรงงานเต็มยศ เสื้อกางเกงทำจากผ้าหนาสีขาว ปักชื่อบริษัทที่หน้าอก พะยี่ห้อว่าเป็นลูกจ้างบริษัทญี่ปุ่น หล่อนกำลังเทโจ๊กใส่ชาม ที่โต๊ะเล็กติดหน้าต่าง ที่เขาจัดไว้เป็นที่นั่งพักสายตา ด้วยหากมองออกไป ก็จะเห็นแนวเขาสูงตระหง่านเป็นฉาก บางคราวก็จะเห็นแต่ความเขียวขจี บางคราวก็จะเห็นละอองไอ ลอยวนขึ้นสู่ฟ้า ในหน้า
ฝน และพอหน้าหนาว ยามอรุณ ก็ไม่เห็นสิ่งใดนอกจากม่านหมอกหนาทาบทับแนวเขาสูงนั้น

“ไหนว่าจะลางาน”

สาวเจ้าหันขวับมามองจนผมยาวปลิวยังกะนางเอกโมฆณาแชมพูสระผม แม้จะแต่งหน้าหนาเตอะเท่าไหร่ หากมองใกล้ๆ ก็จะเห็นร่องรอยว่าดวงตาบวมช้ำ หมดราศีสาวตาสวยคราวนี้

“เปลี่ยนใจแล้ว จะไปลาออกเลย”

“เฮ้ย”

“คนเราจะตัดอะไร ก็ต้องตัดให้ขาด เหลือเยื่อใยไว้ก็เชื่อมต่อให้เราเจ็บปวดเปล่าๆ” เหมือนที่ป้ากับตะวันฉายไม่ลืมเริ่มทิวา

“แต่นั่น ป้ากับพี่ชายคุณนะ” รวีเดินเข้าไปใกล้ โจ๊กร้านไหนหนอ หอมเป็นบ้า

“ก็เพราะเป็นป้ากับพี่ ฉันก็เลยไม่อยากอยู่ใกล้ แค่ฉันหนีไปเที่ยว ถึงกับไล่ออกจากบ้านมันก็เกินไป แล้วนี่จะกินไหม ถ้ากินก็นั่ง ยืนจ้องอยู่ได้” หล่อนเปลี่ยนเรื่องได้รวดเร็วทันใจ นั่งลงก่อน ด้านขวา เขาไปนั่งด้านซ้าย ตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง

“มีอยู่ครั้งหนึ่ง เริ่มทิวามาค้างที่บ้าน วันนั้นเธอนึกอะไรก็ไม่รู้ จู่ๆ ก็บอกว่าขอค้างด้วย เจ้าเมฆมันตกใจใหญ่ ทำหน้าเหวอ สุดท้ายก็ให้ทิวานอนห้องผม ส่วนผมก็ย้ายไปนอนห้องมัน คุณรู้ไหม เจ้าเมฆมันเดินไปเดินมาจนเกือบสว่าง”

“ทำไม”

“อ้าว ก็แฟนสาวมาขอค้างที่บ้าน ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่เหลือ แต่นี่เป็นทิวา มันก็คิดมาก คิดไม่ตก สุดท้ายรุ่งขึ้น ทิวาก็ทำอาหารเช้าให้พวกเรากิน แล้วก็บอกว่า แค่อยากลองใจ”

“ป้าฉันสั่งให้ทำ”

เขาสำลักโจ๊กร้อนๆ ทันที

“คุณว่าไงนะ”

“ป้าฉันสั่งให้ทำ” อรุณงามตอบ

“คิดเหรอว่าป้าจะยอมให้หลานสาวคนโปรดไปค้างอ้างแรมที่ไหน และเพราะความเป็นสุภาพบุรุษของเพื่อนคุณ ทิวาก็เลยไปอ้อนวอนป้าขอแต่งงานกับนายเมฆาจนได้ แล้วดูญาติคุณทำกับเพื่อนฉันสิ”

“คุณพูดจริงหรือ”

“จะโกหกทำไม อย่าทำหน้าอย่างนั้น กรณีฉัน นี่เรื่องจริง ไม่มีการเตี๊ยม” หล่อนรีบบอกเมื่อหน้านายรวีบ่งบอกถึงความรู้สึกว่าเหลือเชื่อ สุดจะบรรยาย

“ก็แล้วถ้ารวีมันเกิดหน้ามืดจริงๆ”

“นั่นก็คงเข้าทางทิวา เพราะจะได้มีข้ออ้างแต่งงานมั้ง”

“เฮ้ย “

“ฉันล้อเล่น โทษทีนะทิวา” อรุณยกมือไหว้อากาศ เริ่มมีรอยยิ้มหลังจากทุกข์สุมอกมาทั้งคืน
รวีเลยไม่กล้าเอ่ยปากเรื่องการปลอบหล่อนจนเผลอหลับไปให้อรุณงามอารมณ์ขุ่นมัว ปล่อยให้มีรอยยิ้มรับแรกอรุณนี้ที่มีแต่รวีส่องแสงสดใสให้ฟ้าคลายหม่นสำหรับหล่อนสักวันก็ยังดี เพราะทางข้างหน้า เขายังมองไม่เห็นว่า อรุณงามจะก้าวไปทางไหน


คงเป็นเพราะเป็นมื้อเช้าที่อร่อยวันหนึ่งในรอบหลายเดือน รวีจึงใจดีอาสาไปส่งถึงโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมประจำภาค ไม่ว่าหล่อนจะเพียรปฏิเสธแค่ไหนก็ตาม

“ไหนบอกว่าจะไปลาออก แล้วจะกลับยังไง รถก็ไม่มี”

อรุณงามก็เลยจำนนด้วยเหตุผล ยอมนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถเขาอีกครั้ง

“แต่ไปทำงานสายโทษฉันไม่ได้นะเออ”

“วันนี้ผมไม่เข้าบริษัทก็ได้ ไม่มีใครว่า”

ใหญ่จริงนะ พ่อพระอาทิตย์ไม่อับแสง ไม่เหมือนหล่อนยามนี้ที่เป็นอรุณหมองไปเสียแล้ว

เมื่อพ้นตัวเมืองมาสู่ทางซุปเปอร์ไฮเวย์รถก็แล่นฉิว แสงแดดอ่อนยามเช้าปลุกชีวิตชีวาให้ทางเชื่อมระหว่างสองจังหวัดสดใส ต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจีด้วยรับน้ำฝนฉุ่มช่ำ รวีปิดแอร์และเปิดหน้าต่างรับลม

“ไม่ยักรู้ว่าคุณชอบสูดควันพิษ”

“อ้าว เห็นว่าเหม่อมองวิวก็เลยจะให้ซึมซับบรรยากาศไง”

“ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็น่าทำ แต่เดี๋ยวนี้พอมีนิคมอุตสาหกรรม คนก็เยอะ รถก็แยะ อากาศก็เริ่มเสีย ปิดเถอะคุณ”

รวีก็เลยทำตาม

“แต่นิคมทำให้คนมีงานทำ คุณดูซี กี่ร้อยกี่พันชีวิตที่มาทำงานที่นี่”

“ฉันก็ไม่ได้ว่าไม่ดีนี่ เพราะฉันก็เป็นหนึ่งคนในนี้ แค่คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ มันก็ต้องแลกกันทั้งนั้นเป็นสัจธรรม เช่นมีนิคม คนมีงานทำ แต่ก็ต้องแลกกับมลพิษ และความเป็นชุมชนที่เริ่มหายไป มีรถยนต์ก็ดี แต่เปลืองค่าน้ำมัน หนีเที่ยวได้ก็สะใจดี แต่ต้องแลกกับการไม่มีบ้านอยู่ หรือคุณว่าไม่จริง”

จู่ๆ ก็วกกลับมาเข้าเรื่องตัวเอง รวีมองหน้าคนพูดแล้วก็ให้สงสาร ดวงตางามไม่ฉายแสงกล้าเช่นที่เคยเห็น ไหล่หล่อนลู่ตก กอดอกเหมือนปลอบตัวเอง เขาเอื้อมมือไปจับแขนหล่อนเบาๆ

“ผมจะไม่ห้ามแล้วนะ เรื่องลาออก ถ้าคุณคิดดีแล้ว แต่ว่า ลาออกแล้วจะไปทำอะไร ที่ไหน ยังไง คิดหรือยัง ถ้ายังก็ควรทำงานที่เก่าไปก่อน จนกว่าจะหาลู่ทางได้”

“คิดว่า จะไปหาเพื่อน หลบไปพักผ่อนสักพัก แล้วค่อยหางานหาเงินใหม่”

“งานที่ไปสัมภาษณ์ไว้ล่ะ”

“คงยาก ภาษาฉันไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แต่ก็อยากลอง เพราะเสียดายที่เรียนมา”

“รู้ได้ยังไงว่าจะไม่ได้”

“ฉันรู้ของฉันก็แล้วกัน นั่นถึงแล้ว ซ้ายมือนั่นแหละ เลี้ยวเลย” หล่อนตัดบทเมื่อรถถึงหน้าบริษัทพอดี

“ผมจะรอแถวนี้ ถ้าลาออกเสร็จโทรมาแล้วกัน จะมารับ”

รวีชะลอรถจอดหน้าบริษัทให้อรุณงามลงจากรถ เขากล่าวให้สติอีกครั้งทั้งที่รู้ว่าไร้ผลเพราะท่าทางหล่อนเด็ดเดี๋ยวและเป็นตัวของตัวเองขนาดนี้ มิน่าละถึงทนอยู่ในกรอบของป้าไม่ได้

“คิดให้ดีนะคุณ ลองปรึกษาเพื่อนที่ทำงานก่อนก็ได้ แล้วยังไงโทรบอกผม”

“อย่ามาเซ้าซี้ ยังไงฉันก็ไม่เปลี่ยนใจ”


“ฉันมีข่าวมาบอก”

“ข่าวอะไรวะ”


ต้นตระการหัวเราะมาตามสาย

“ทำมาหัวเสีย ตื่นหรือยังแก”

“ตื่นแล้วโว้ย ไหนจำอะไรได้บ้างหรือยัง เรื่องเมฆา” รวี นั่งเปิดเพลงคลอๆ เบาๆ ระหว่างรออรุณงามในรถ จอดมันหน้าบริษัทนี่แหละ ขี้เกียจไปไหนไกล

“ของอย่างนี้มันต้องใช้เวลาหน่อย คิดมากไปหัวแตก แต่ฉันโทรไปเช็คกับเพื่อนอีกคนที่เป็นแฟนกับเพื่อนของเพื่อน ของเพื่อน อีกที เรื่องแฟนเก่านายเมฆคนล่าสุดก่อนเมฆที่จะเป็นแฟนทิวา” เป็นเพื่อนกันหลายชั้นมาก

“แล้วไง”

“หล่อนชื่อดาเรศ ถ้าแกยังพอจำได้ คนนี้ที่ร้ายสุด หล่อนที่แหละเจ้าเมฆมันบอกว่าจะไปหาที่คลินิคเพราะเริ่มทิวาอยู่ที่นั่น”

รวีขยับนั่งตัวตรงทันที

“แล้วตอนนี้หล่อนอยู่ไหน”

“ลาออกจากราชการแล้ว มาเป็นพยาบาลพิเศษตามบริษัทในนิคมแถวบ้านแก”

“บริษัทอะไร”

พอต้นตระการเอ่ยชื่อบริษัทมา รวีก็สะดุ้งโหยงหันมองป้ายบริษัทตรงหน้า

เฮ้ย งั้นนางสาวดาเรศ ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

เขาโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่แผนกบุคคลของบริษัทนี้นามว่าอรุณงามทันที หวังว่าเธอคงหาข้อมูลเรื่องดาเรศได้สักนิด ก่อนลาออก


สองชั่วโมงผ่านไปอรุณงามก็เดินหน้าแดงตาแดง หอบกล่องเก่าๆ ใส่ของใช้แล้วออกมา มีเพื่อนเดินออกมาส่งตบหน้าตบหลังกันที่หน้าบริษัท แล้วหล่อนก็เดินตรงมาที่รถจอดอยู่

“เป็นไงบ้างอรุณ”

“นายด่า เพื่อนว่า แต่ฉันก็ทำไปแล้ว “ หล่อนตอบ สะอื้นอีกที จนเขาต้องยื่นผ้าเช็ดหน้าให้และช่วยเอากล่องใส่ของส่วนตัวไปไว้หลังรถ

“เอาน่า ก็ตัดสินใจแล้วนี่นา”

“อดใจหายไม่ได้ ทำมาตั้งหลายปี” นี่แหละน้า ปากก็ประกาศปาวๆ ว่าฉันจะออก ฉันจะออก แต่จริงๆมันก็ต้องอาลัยอาวรณ์กันบ้าง อีกทั้งอนาคตหล่อนตอนนี้ก็เหมือนจะมืดไปชั่วขณะ

“แล้วคุณได้ที่อยู่นางพยาบาลชื่อดาเรศมาหรืเปล่า”

“ฮึ” อรุณงามสะบัดหน้าเหมือนกับเขาไปหยามหล่อนอย่างแรง

“มือชั้นนี้แล้ว ว่าแต่คุณจะเอาไปทำไม เธอเป็นคู่รักคุณหรือไง”

“เปล่าหรอก เธอเป็นแฟนเก่านายเมฆ คนสุดท้ายที่เจอเมฆกับทิวาก่อนเกิดอุบัติเหตุไง”



“คุณไปส่งฉันก่อนที่คอนโดไม่ดีกว่าหรือ จะได้เก็บของ อยู่ที่นี่ฉันก็ไม่ได้ทำอะไร”

อรุณงามประท้วงเมื่อรวีบอกว่า เขาจะเข้าไปที่บริษัทเคลียร์งานก่อนแล้วถึงจะไปส่งหล่อนที่พัก กะว่าจะพูดคุยกับอรุณงามให้จริงจัง ว่าจะเอายังไงต่อไป ให้หล่อนอยู่ต่อ ช่วยสืบเรื่องรุ่งทิวาหรือว่า ให้หล่อนไปตามทางของหล่อนเอง จะไปดีไปร้ายมันก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว อรุณงามโตแล้วมีความคิดเป็นของตัวเอง และเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว แต่หากเขาก็ระลึกในจิตใต้สำนึกอยู่เสมอว่า รวีก็เป็นสาเหตุหนึ่งให้หล่อนไร้ที่อยู่ จะใจดำไม่ช่วยให้ตลอดรอดฝั่งก็ไม่ใช่วิสัยลูกผู้ชาย

“ผมเข้าแป๊บเดียว แล้วเดี๋ยวเราไปคุยกันให้แน่ ว่าคุณจะไหน อยู่อย่างไร”

“ฉันดูแล้วตัวเองได้ โตแล้ว เอาตัวรอดได้” ว่าแล้วว่าต้องเถียงแบบนี้

“แล้วเมื่อคืน ถ้าหากไม่ใช่ผม คุณคิดว่าคุณจะรอดหรือ”

“นี่นาย” อรุณงามขึ้นเสียง แต่หน้าแดงแปร๊ด สะบัดหน้าหลบสายตาทันที จะเพราะเขินหรือว่าอายก็คงไม่ต่างกัน

“หรือไม่จริง ผู้หญิงในสภาพอารมณ์เคว้งคว้าง ต้องการใครสักคนปลอบใจ ให้กำลังใจน่ะ ผู้ชายร้ายๆชอบนักแล”

“ยังกะคุณดีนักนี่”

“ผมก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน เอไม่ใช่สิ สมัยนี้ต้องว่า ผมเองก็ไม่ใช่เกย์ ไม่ใช่กะเทยที่ไหน ที่คุณรอดมาได้ก็เพราะว่า คุณน่ะ.....”

“ทำไม ฉันทำไม”

รวีเปิดประตูรถเตรียมหนีไว้ก่อน

“ร้องไห้เหมือนเด็กแบบนั้น ผมทำไม่ลงหรอกนะ แต่ถึงคุณจะทำท่า ทำหน้าเซ็กซี่ ก็วางใจได้ เพราะคุณนะ ไม่ใช่สเป๊กผม” เขากวาดตามองบริเวณหน้าอกเป็นเชิงบอกใบ้ว่าตรงไหนที่ไม่ใช่สเป๊ก อรุณงามเดือดจัดฮึดฮัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“เออ แล้วอย่าให้มีวันนั้นก็แล้วกัน”

“ก็อย่างคุณว่า คงต้องรอน้ำปิงให้แห้งละมั้ง”

ย้อนอรุณงามได้ เขาก็ลงรถเดินลงไปอย่างรวดเร็ว อรุณงามเลยตามลงไป อย่างไม่พอใจนัก จะตามไปเอาเรื่องที่เขาพูดเหมือนดูถูก เดินไปถึงหน้าห้อง เขาก็โผล่มาพร้อมเอกสารปึกหนึ่ง

“อ๊ะ นี่งานที่คุณต้องทำหากว่าผมรับคุณเข้าบริษัท”

สาวเจ้าเลยงง ตามอารมณ์นายรวีไม่ทัน

“อะไร”

“ลองอ่านและจัดการเอกสารพวกนี้ให้ผมหน่อย ทางลูกค้าเมืองจีนส่งมา มันเป็นภาษาจีนทั้งหมด ไปนั่งที่โต๊ะนั้นก็ได้ มีอะไรไม่เข้าใจมาถามผม เดี๋ยวให้น้องอีกคนมาอธิบายธุรกิจของเราให้คร่าวๆ”

“คุณรวี แต่ฉัน”

“ที่ผมพูดเมื่อกี้ผมล้อเล่น ยั่วคุณให้ลงจากรถเฉยๆ นี่ ถ้าไม่อยากให้สมองฟุ้งซ่าน ลองทำงานนี้ดูนะ อรุณ ชอบไม่ชอบ ทำได้ทำไม่ได้ค่อยว่ากัน”

“เรียกฉันว่างาม ก็ได้”

หล่อนทักเมื่อได้ยินว่าเขาเรียกชื่อเล่นหล่อนผิด

“ผมว่าอรุณเพราะกว่า แล้วว่าไงจะลองทำไหม”

อรุณงามทำปากขมุบขมิบ แต่ก็พยักหน้า


สองชั่วโมงหลังจากนั้น รวีก็ไปยืนตรงหน้าอรุณงามที่ยังอ่านเอกสารตั้งใหญ่อย่างสนอกสนใจ

“พอไหวไหม”

“หมายความว่ายังไง พอไหว” หล่อนเงยหน้า ผลักกองเอกสารไปข้างๆ

“ถ้าผมให้คุณทำงานนี้ คุณทำได้ไหม”

“ขอบใจ แต่อย่าเลย นี่หรือเรื่องที่คุณจะคุยกับฉัน”

“ใช่ งานน่ะหาง่ายซะที่ไหน คุณเองก็ดูคล่องแคล่วว่องไว สองชั่วโมงทำได้แค่นี้ก็เก่งแล้ว”

“ฉันบอกแล้ว ว่าจะขึ้นดอยไปหาเพื่อน เท่านี้ก็รบกวนคุณมากพอแล้ว”

“แค่ผมพนันว่า คนที่เราจะไปพบวันนี้ จะทำให้คุณตัดสินใจอยู่ต่อ”

“แน่ใจขนาดนั้นเลย”

“ใช่ นางสาวดาเรศนี่แหละ เป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปริศนา เริ่มทิวา –เมฆาของเรา”

“แต่ฉันไม่อยากไป”

“ทำไม คุณไม่อยากรู้ความจริงหรือ”

“อยากรู้ แต่ว่าฉันไม่อยากไป”

“ฟังนะ เรื่องนี้ให้ฝ่ายผมทำคนเดียวไม่ได้หรอก เราต้องร่วมมือกันผมจะให้ข้อมูลทางฝั่งผมได้ คุณก็ให้ข้อมูลทางฝั่งคุณ ไปด้วยกันถอะ คุณเป็นผู้หญิงเผื่อจะช่วยกันกล่อมดาเรศได้”

“เห็นหน้าฉันเธอก็อาจยิ่งไม่ให้ความร่วมมือ”

“ไปด้วยกันดีกว่า เพราะที่จริงผมก็ไม่ได้หวังว่าจะได้ข้อมูลอะไรหรอก แต่ๆ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว”
...............................................................................

an-o - ต้องตามลุ้น

:) - ^_^

หมูบิน - ขอบคุณหมูบินและผู้อ่านทุกคนเช่นกันจ้าาา


ชิตา


โดย : ชิตา วันที่ : [ 13 มี.ค. 2554 ] 21:26:11 น.




>> ความคิดเห็นที่ 1

มาแปะไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยอ่าน
โดย : แมงปอ [ 13 มี.ค. 2554 ] 21:35:04 น.




>> ความคิดเห็นที่ 2

เพิ่่งโหลดไทยเลยฉลองเมนท์ซะหน่อย

โดย : หนอนหนังสือ [ 13 มี.ค. 2554 ] 22:54:35 น.




>> ความคิดเห็นที่ 3

มีปมมาให้ช่วยกันแก้แล้ว
มีบทพูดบางบท สลับชื่อกันระหว่างเมฆากับระพีนะค่ะ
โดย : an-o [ 13 มี.ค. 2554 ] 22:59:29 น.




>> ความคิดเห็นที่ 4

:)
โดย : natee [ 14 มี.ค. 2554 ] 06:27:15 น.




>> ความคิดเห็นที่ 5

สนุกมากๆ เลยค่ะ อยากอ่านตอนต่อไปไวๆ แล้ว ชอบอ่านแนวๆ นี้มากๆ เลยค่ะ
โดย : หมูบิน [ 14 มี.ค. 2554 ] 08:44:47 น.




>> ความคิดเห็นที่ 6

มีลับคม ลมใน เต็มไปหม๊ดดดดดดดดด
โดย : black-sheep [ 26 มี.ค. 2554 ] 01:19:10 น.










ชิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 เม.ย. 2554, 21:00:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 เม.ย. 2554, 21:19:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 1818





<< ๕   ๗ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account