มนตรากระดังงา
นางพริมา กีรติอนันต์ พัฒนภิรมย์ กับ นายภัทร์ พัฒนภิรมย์ คู่สามีภรรยาที่ครองรักกันมากว่า 6 ปี และมีพยานรักเป็นเด็กชายน่ารัก 2 คน ต้องจบชีวิตคู่ที่เริ่มจากรั้วมหาวิทยาลัยลงเพราะฝ่ายชายไปมีเมียน้อยซึ่งกำลังจะมีลูกสาวด้วยกัน หญิงสาวยอมหย่าให้และยอมเป็นแม่หม้ายในวัยเพียง 30 ปี ชีวิตคู่ที่พังทลายกลับสร้างพริมาคนใหม่ให้แกร่งกว่าเดิม เธอเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวขึ้น กระดังงาลนไฟดอกนี้จึงกลายเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั้งหลาย รวมทั้งภัทร์ พัฒนภิรมย์ ที่เพิ่งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของอดีตภรรยา จนทำให้ความรักที่เขาคิดว่าได้มอดเชื้อไปแล้วนั้นปะทุขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
รักครั้งใหม่กับคนเดิมจะสมหวังได้หรือไม่ เพราะฝ่ายชายก็มีครอบครัวใหม่แล้ว ส่วนฝ่ายหญิงก็มีชายหนุ่มมากมายมาเข้าแถวให้เลือก อานุภาพของความรักจะประสานรอยร้าวของหัวใจสองดวงให้กลับมาหลอมเป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้งหรือไม่ โปรดติดตาม......อาทิตา

Tags: รักร้าว มีเมียน้อย คืนดี

ตอน: ตอนที่ 6 (40%)

พยายามมาให้เร็ว เพราะได้กำลังใจจากหลายคอมเม้นต์ เลยรีบปั่นมาแทนคำขอบคุณจากใจ แต่วันนี้ได้เพียง 40% ก่อนนะคะ คนเขียนไม่ไหวแล้วค่ะ ง่วงนอนมากแล้ว (จะไปลุ้นผลบอลยูโรด้วยค่ะ) ขอบคุณมากมายนะคะสำหรับแรงใจและคอมเม้นต์ที่เสียสละเขียนให้ ขอบคุณมากค่ะ
ปล. อ่านแล้วช่วยเม้นต์ให้ด้วยนะคะ ^_____^

ตอนที่ 6



หลังจากเปิดภาคเรียนใหม่ได้เพียงสองสัปดาห์ ก็มีข่าวลือไปทั่วมหา’ลัยว่ารุ่นพี่สุดหล่อปีสุดท้ายของคณะเศรษฐศาสตร์ที่มีดีกรีเรื่องความเจ้าชู้ติดอันดับได้ตกลงคบหาดูใจกับรุ่นน้องสาวสวยปี 2 คณะอักษรศาสตร์อย่างเป็นทางการแล้ว ข่าวลือนี้เป็นที่สนใจของนิสิตทั้งชายและหญิง เพราะมีคนที่ต้องผิดหวังและอกหักไปไม่น้อยทีเดียว แถมบรรดานิสิตหญิงจำนวนหนึ่งต่างก็เฝ้ารอว่าเมื่อไรหญิงสาวที่โชคดีคนนั้นจะถูกทิ้งเหมือนคู่ควงคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาของชายหนุ่ม เผื่อว่าพวกเธอจะมีโอกาสได้เสียบต่อบ้าง

อย่างไรก็ตามข่าวลือก็ย่อมเป็นข่าวลืออยู่วันยังค่ำ เพราะพริมายังไม่ได้ตกปากรับคำใด ๆ กับภัทร์เลย ที่มาที่ไปของข่าวลือนี้ก็เพราะชายหนุ่มปี 4 คนดังกล่าวเล่นเทียวไปเทียวมาที่คณะของหญิงสาวอยู่ทุกวัน จนใคร ๆ ก็เลยสรุปกันเอาเองว่า คนทั้งคู่คงเป็นแฟนกันแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะจากเหตุการณ์ในวันลอยกระทงทุกคนที่ได้รับรู้ต่างก็ฟันธงกันไว้แล้วว่ามันจะต้องลงเอยแบบนี้ จะแปลกหน่อยก็ตรงที่คราวนี้ฝ่ายชายท่าจะเอาจริง เพราะนับจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาจนถึงวันนี้ก็ร่วม ๆ 7 เดือนเข้าไปแล้วซึ่งนับว่าเป็นสถิติใหม่และนานที่สุดของภัทร์ในการจีบสาวก็ว่าได้

ส่วนชายหนุ่มและหญิงสาวที่ตกเป็นข่าวอยู่นั้น กำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารอิตาเลี่ยนมีชื่อในห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย ทั้งคู่มารับประทานอาหารเที่ยงโดยมื้อนี้ก็มี กอ ขอ คอ ตามมาอีกเช่นเคย กอ ภัทรา ขอ วรปรัชญ์ และคอ พิชญธิดา ‘ครบองค์ประชุม’ อย่างที่ภัทร์แอบเรียกในใจ อันที่จริงต้องพูดว่าภัทร์ต่างหากที่ตามมาเป็น กอ ขอ คอ เพราะเมื่อชายหนุ่มรู้ว่าน้องสาวและกลุ่มเพื่อนสนิทจะออกมาทานข้าวเที่ยงนอกมหา’ลัยเนื่องจากช่วงบ่ายไม่มีเรียน ชายหนุ่มที่แวะไปหาหวานใจก็รีบฉวยโอกาสแนะนำร้านนี้ให้ทุกคนและขอตามมาด้วยในทันที ซึ่งก็ไม่มีใครขัดข้อง เพราะต่างก็ชอบใจสโลแกนของวรปรัชญ์ที่ว่า ‘อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ’

‘จะทานอะไรกันดีล่ะ เอาพิซซ่าไหม เอามาแชร์กัน ฉันกลัวทานคนเดียวไม่หมด’ วรปรัชญ์พูดขึ้นโดยไม่ยอมละสายตาจากเมนูที่กำลังดูอยู่ในมือ

‘อย่างแกนี่นะ ทานไม่หมด ฉันไม่เชื่อหรอก’ พิชญธิดาเหน็บเพื่อนสนิท

‘แหม! ก็อาหารมันน่าทานทั้งนั้นเลยนี่นา ฉันก็ว่าจะทานอย่างละนิดอย่างละหน่อยไง เอามาหลาย ๆ จาน เราก็จะได้ชิมกันทุกจานไง ไม่ดีเหรอ’

‘ดีค่าคุณวรปรัชญ์ แหม! ไม่คิดจะเกรงใจเจ้าภาพเขาบ้างเลยนะแก’ พิชญธิดาแหย่เพื่อนซี้

‘จะสั่งอะไรก็สั่งเถอะ ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก ที่นี่อร่อยทุกอย่าง พี่การันตี’ ภัทร์บอกกับทุกคน

‘มาบ่อยละสิ’ เสียงน้องสาวดักคอ

‘ก็มา 3 – 4 ครั้งแล้ว’ ภัทร์ตอบอย่างพาซื่อ

‘มากับสาว ๆ ล่ะสิ’ ภัทราลอยหน้าลอยตาพูดใส่พี่ชายที่กำลังลอบมองหวานใจอยู่ และเมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาว ชายหนุ่มก็รีบแก้ตัวในทันที

‘เปล่า มากับเพื่อน ๆ น่ะ’

‘อมพระวัดไหนอยู่คะพี่โป๊ป’ วรปรัชญ์แซวขึ้น ซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะได้จากทุกคนไม่เว้นแม้แต่คนที่โดนแซวที่แกล้งหัวเราะกลบอาการเขินที่ถูกจับได้ ก่อนที่จะหันไปอ้อนหญิงสาวข้างตัวว่า

‘อย่าไปเชื่อนะครับ พี่ถูกใส่ร้าย’

‘แหวะ! อย่ามาทำหวานแถวนี้พี่โป๊ป เลี่ยนพอแล้ว’ ภัทราขัดคอผู้เป็นพี่ชาย ก่อนที่จะเอ่ยถามเพื่อนสาวว่า

‘ปริม ตกลงแกจะกินอะไร เห็นเลือกอยู่ตั้งนานสองนานแล้ว’

‘ไม่รู้สิ เลือกไม่ถูก อย่างที่ปรัชญ์ว่า น่ากินไปหมดเลย’ พริมาตอบ

‘น้องปริมชอบอาหารทะเล งั้นลองกินสปาเก็ตตี้หมึกดำซีฟู้ดไหม ของที่นี่อร่อยนะเพราะเส้นเขาเหนียวกำลังดี พวกกุ้ง หอย และปลาหมึกที่เขาใส่ก็สด’ ภัทร์แนะนำอย่างคนรู้จริง

‘โห! พี่โป๊ปรู้จริงแฮะ’ วรปรัชญ์พูดขึ้น

‘ก็พี่เขาบอกแล้วไง ว่ามาทานที่นี่หลายครั้งแล้ว แกไม่ได้ยินเหรอนังปรัชญ์’ พิชญธิดาที่ไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทจะเล่นมุกจึงหน้าแตก เมื่อวรปรัชญ์พูดต่อขึ้นว่า

‘ฉันหมายถึง พี่โป๊ปเขารู้จริงว่าปริมมันชอบกินซีฟู้ดต่างหากล่ะยะ ซื่อบื้อจริงแกเนี่ย’

‘อ้าว เหรอ’ พิชญธิดาบอกด้วยเสียงอ่อย ๆ พร้อมทำหน้าแหย ๆ ซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ในความใสซื่อของเธอ

‘งั้นปริมเอาที่พี่โป๊ปแนะนำก็ได้ค่ะ’ พริมาบอกเพราะอยากลองรับประทานอาหารจานดังกล่าวซึ่งก็สร้างรอยยิ้มให้คนแนะนำได้หน้าบาน และก็สร้างความหมั่นไส้ให้เพื่อนร่วมโต๊ะในเวลาเดียวกัน

‘แหม! พี่เขาว่าอะไรก็ว่าตามเชียวนะนังปริม ไม่ทันไรก็เป็นช้างเท้าหลังเสียแล้วนะ’ มีหรือที่วรปรัชญ์จะปล่อยโอกาสงาม ๆ ในการกัดเพื่อนให้หลุดลอยไป

‘บ้าเหรอปรัชญ์! ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย ฉันแค่อยากลองกินดูจริง ๆ ต่างหากล่ะ’ พริมารีบแย้งเพราะกลัวเพื่อน ๆ จะเข้าใจเธอผิด

‘ว้า! งั้นพี่ก็คิดผิดนะสิ’ ภัทร์หันมาตัดพ้อกับพริมา

‘คิดผิดยังไงคะ’ พริมาตกหลุมพรางของภัทร์ในที่สุด

‘ก็คิดว่าเราใจตรงกันไงครับ’ ทันทีที่สิ้นเสียงภัทร์ เพื่อน ๆ ของพริมาก็พร้อมใจกันประสานเสียงขึ้นว่า

‘ฮิ้วววววว’ แล้วตามมาด้วย

‘มากินข้าวได้ถูกร้านจริง ๆ ทั้งหวานทั้งเลี่ยนของแท้’ วรปรัชญ์พูดพร้อมหันไปทำหน้าล้อพริมาที่กำลังออกอาการเขิน

‘น้อย ๆ หน่อยนะพี่โป๊ป แหม! ทำมาใจตรงกัน ชิ! ปริมมันยังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เลยนะ อย่าเว่อร์ให้มันมากนัก’ ภัทราหมั่นไส้พี่ชายที่แกล้งอ้อนเพื่อนสนิทต่อหน้าต่อตาอย่างไม่เกรงใจใคร ๆ

‘ใครบอกแกว่าไม่เป็นฮะปั๊ป’ ภัทร์ถามด้วยสีหน้ากวน ๆ เหมือนคนที่กำลังกำความลับอันยิ่งใหญ่อยู่

‘หมายความว่าไงพี่โป๊ป ปริมว่าไงฮะ’ ภัทราหันมาซักเพื่อนสาวแทน

‘น้องปริมก็บอกทุกคนไปสิครับ’ ภัทร์พูดให้คนฟังได้ลุ้น

‘ว่าไงนังปริม บอกมาเร็ว ๆ นะ ไหนแกบอกฉันว่าข่าวลือนั่นมันไม่จริงไง แกบอกฉันเองเมื่อวานนี่นา’ วรปรัชญ์ลุ้นจนแทบนั่งไม่ติดเพราะความอยากรู้

‘ก็นั่นมันเมื่อวานนี่นา’ พริมาตอบแบบอู้อี้ ซึ่งทำให้เพื่อนสนิททั้งสามต้องตั้งใจฟังมากขึ้น ส่วนชายหนุ่มคู่กรณีก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนน่าหมั่นไส้

‘หมายความว่าไงปริม พูดมาให้เคลียร์เลยนะ’ ภัทราออกคำสั่ง

‘ถ้าแกไม่บอกฉันนะ ฉันก็จะไม่บอกแกเวลาที่พี่โป๊ปมันมีกิ๊ก ปล่อยให้แกโดนหลอกไปเลย’ ภัทราแกล้งขู่เพื่อนสาว

‘อะไรปั๊ป มีก๊งมีกิ๊กอะไร แกนี่ มาชักใบให้เรือเสีย น้องปริมก็บอกเพื่อน ๆ ไปสิครับว่าปริมตกลงเป็นแฟนกะพี่แล้ว’ ภัทร์เฉลยในที่สุด

‘จริงเหรอปริม’ เพื่อน ๆ ทั้งสามถามขึ้นพร้อมกันด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างดัง และตอนนี้ก็ไม่มีใครสนใจเมนูอาหารในมือกันอีกแล้ว

‘อือ’ แต่พริมายังคงเป็นคนเดียวที่ยังไม่ยอมละสายตาจากเมนูอาหาร หญิงสาวก้มหน้างุดเพราะเธอต้องการซ่อนความอาย ไม่อยากให้เพื่อน ๆ ล้อมากไปกว่านี้ หญิงสาวคงไม่อายขนาดนี้หากภัทร์จะลุกไปไหนสักพัก และเปิดโอกาสให้เธอได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อน ๆ ฟัง ฝ่ายภัทร์นั้นก็กลับอยากนั่งดูแฟนสาวหมาด ๆ เขินอายเพราะสำหรับเขาแล้ว เวลาพริมาเขินนั้นช่างดูน่ารักนัก นอกจากนั้นชายหนุ่มก็อยากเอาคืนแฟนสาวที่ปล่อยให้เขารอคำตอบซึ่งเกินกำหนดมาตั้งสองอาทิตย์ พริมาพยายามบ่ายเบี่ยงและเลี่ยงทุกครั้งที่จะตอบตกลงเป็นแฟนกับเขา ดังนั้นในวันนี้ภัทร์จึงถือโอกาสตอนที่อยู่กันสองต่อสองในรถถามคำถามเดิมกับหญิงสาวอีกครั้ง และเธอก็ต้องตอบตกลงเพราะเจอคำขู่ที่ว่า ‘ถ้าวันนี้พี่ได้คำตอบที่ไม่น่าพอใจ พี่จะไม่ให้ปริมลงจากรถอย่างเด็ดขาด!!!’

‘เมื่อไรอะปริม ก็เมื่อวานแกยังบอกว่าไม่ใช่อยู่นี่นา แล้วไปมายังไงวันนี้ถึงบอกว่าใช่แล้วอะ’ วรปรัชญ์ทำหน้าที่สอบสวนราวกับเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

‘ค่อยเล่าได้ไหม หิวข้าวแล้ว’ พริมาจบประเด็นอย่างห้วน ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ซักไซ้เธออีกโดยการเรียกพนักงานให้มารับรายการอาหารในทันที



************************


ไปให้กำลังใจที่ facebook กันได้นะคะ

http://www.facebook.com/ภารกิจรักภารกิจแค้น




อาทิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.ค. 2555, 02:35:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ก.ค. 2555, 02:38:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 1759





<< ตอนที่ 5 (ครบ 100% แล้วค่ะ)   ตอนที่ 6 (ครบ 100% แล้วค่ะ) >>
violette 1 ก.ค. 2555, 23:19:40 น.
รออ่านต่อนะคะ ชอบตอนจีบกันนะมันน่ารัก แต่พอปัจจุบันมันน่าสงสารปริมมากกกเลยค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account