ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 6.2 “ถ้าไม่จีบเขา แล้วเขาจะรักเราไหมละพี่”

เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งดังปลุกจรินนาที่ยังนอนหลับตาพริ้มเพราะว่าเมื่อคืนหลังจากเสร็จงานเลี้ยงเธอกับเอกรินทร์และวิษณุจักรก็ไปฟังเพลงกันต่อ ส่วนอนงค์นางนั้นขอตัวกลับบ้านเพราะกลัวว่าพ่อกับแม่จะเป็นห่วง เสียงโทรศัพท์มือถือดังเรียกเจ้าของอยู่นาน แล้วในที่สุดจรินนาก็กลั้นใจลุกขึ้นเดินไปดูที่หน้าจอว่า ใครหนอถึงได้บังอาจรบกวนเธอแต่เช้า...

“โหล”..ด้วยเป็นเบอร์ที่ไม่ได้เซฟไว้จรินนากดรับแล้วก็เดินกลับมาทุ่มตัวลงบนที่นอนพร้อมกับกรอกเสียงงัวเงียลงไป...

“อรุณสวัสดิ์ครับ”

เสียงผู้ชาย ทำให้ตาข้างหนึ่งของจรินนาเปิดขึ้น แต่หญิงสาวก็คิดว่าน่าจะเป็นใครสักคนที่โทรผิดเบอร์ น้ำเสียงที่ตอบกลับไปนั้นจึงบอกให้คนปลายสายรู้ว่าเธอนั้นยังมีลูกติดพันอยู่ “มีอาราย”

“ผมเดชาพงษ์ครับ”

พอได้ยินชื่อคนที่โทรมา จรินนาเบิกตาทั้งสองข้างขึ้น กระเด้งตัวขึ้นมองนาฬิกาที่ผนังพอเห็นว่าเป็นเวลาหกโมงครึ่ง หญิงสาวก็ดึงโทรศัพท์มาดูหน้าจออีกรอบ...

“สวัสดีครับ ตื่นหรือยังครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงกลั้วด้วยรอยยิ้มกลับมาแน่ ๆ

“ตื่นแล้วค่ะ ตื่นแล้ว” จรินนาทำเสียงสดใสเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอนอนกินบ้านกินเมือง

“ตื่นแล้วก็ดีครับ ไม่งั้นผมคิดว่า ผมคงจะโทรมารบกวนเวลาคุณจินแน่ ๆ”

“ก็จะเรียกว่ารบกวนก็ได้ค่ะ มีอะไรหรือคะ”

“เดี๋ยวผมจะกลับเข้าในเมืองแล้วครับ นัดกันที่ไหนดี”

“อ้าว...ก็ไหนว่าวันนี้คุณบอกว่าคุณไม่ว่าง”

“ตอนนี้ว่างแล้วครับ แล้วสเกตคร่าว ๆ ที่จะนำเสนอคุณจินก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมพร้อมที่จะพรีเซนแล้วครับ คุณจินพร้อมดูเลยไหม”

จรินนาชักสีหน้าครุ่นคิด...

“เดี๋ยวจินจะโทรกลับไปบอกอีกแล้วกันค่ะ ต้องเช็คงานก่อน” ตอบเขาไปด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์แล้วจรินนาที่มองดูกระจกระหว่างที่คุยไปด้วยก็ยักคิ้วให้กับความกะล่อนของตัวเอง ...เมื่อวานเขาบอกให้เธอรอแล้วก็ไปกับหญิงอื่น...วันนี้เขาจะต้องรอที่จะพบเธอบ้าง...

“ครับ ผมจะรอสายจากคุณจินแล้วกันนะครับ...”

“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ...สวัสดีค่ะ” ว่างสายจากเขาแล้วจรินนาก็มองโทรศัพท์ในมือ ก่อนจะกดบันทึกชื่อไว้ว่า 'เดชาพงษ์'



วางโทรศัพท์ลงแล้วเดชาพงษ์ก็ยิ้มกริ่ม สะใจที่ได้แกล้งคุณหนูจรินนาได้ และอาการยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์นี้ เมขลาที่ยืนรอพระสงฆ์มาบิณฑบาตอยู่ที่หน้าบ้านก็เหลือบมาเห็นพอดี...

“ฮะแอ่ม” เมขลากระแอมเรียกสติพี่ชายคนรองที่อยู่ในชุดผ้าโสร่งสีดำเข็มกับเสื้อ
ยืดสีขาว ซึ่งเจ้าตัวมักจะสวมเมื่ออยู่บ้านหรือสวมในขณะที่ทำงาน ซึ่งเมื่อคืนนี้หลังจากกินข้าวเย็นกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ปู่ย่าตายายพี่น้องแล้ว พี่ต้นกล้วยก็ขอตัวหลบไปยังระเบียงหลังบ้าน โดยใช้ยากันยุงแบบขดไล่ยุงที่บินมารบกวน พลางทำงานไปด้วย

ส่วนเธอนั้นนั่งคุยเรื่องเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ กับพี่ต้นกล้า กระทั่งมีสายจาก กฤษณะที่ทำขบวนลงใต้ เธอจึงขอตัวจากพี่ต้นกล้าให้เวลากับเขารับฟังรายงานประจำเช่นที่เคยทำเกือบทุกวัน แล้วพี่ต้นกล้าก็เข้าไปธุระเรื่องงานแต่งกับพ่อกับแม่จนกระทั่งพี่แพรวพรรณกลับมาจากงานเลี้ยง พี่ต้นกล้าก็มีโทรศัพท์ติดหูพลางนอนอยู่ในมุ้งกลางบ้าน รอให้พี่ต้นกล้วยทำงานเสร็จแล้วเข้ามานอนด้วยกันเหมือนตอนเด็ก ๆ
แต่ว่าพี่ต้นกล้วยก็นั่งทำงานอยู่จนกระทั่งฟ้าสาง แม่ที่ลุกมาหุงข้าวใส่บาตรร้องบอกให้หยุดงานแล้วเข้านอนแต่ว่าพี่ต้นกล้วยหาได้เชื่อฟัง เขาวางมือจากดินสอ เข้าห้องน้ำล้างหน้าแล้วเดินไปยังทุ่งนา เสียงของแม่ทำให้พี่ต้นกล้าตื่นนอนมาแล้วก็ล้างหน้าส่องกระจกดูความหล่อ ก่อนจะใส่รองเท้ากีฬาออกวิ่ง จุดหมายที่บอกกับเธอไว้ ก็คือบ้านพี่แพรวพรรณ

ส่วนเธอตื่นพร้อมกับแม่ เพราะอยากช่วยแม่ทำกับข้าวใส่บาตรทำบุญซึ่งนาน ๆ จะได้กลับมามีวิถีเหมือนเมื่อครั้งตอนเป็นเด็ก และก่อนอาหารจะเสร็จเข้าไปอยู่ในขันลงหิน พี่ต้นกล้วยก็เดินกลับมาอาบน้ำ หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยพี่ต้นกล้วยก็ถือโทรศัพท์เดินออกมาหาเธอเพื่อรอพระ และระหว่างนั้นเธอไม่คิดว่าพี่ชายคนรองของเธอจะกดโทรศัพท์ออกไปจีบสาวแต่เช้า แต่ว่ามันก็เป็นไปแล้ว...

“อะไรติดคอ”

“พัฒนานะ”

“คุยเรื่องงาน”

“แบบนี้มันเป็นการโทรไปแกล้งเขาชัด ๆ”

“ว่าไปมันก็สนุกดีนะ” เดชาพงษ์ยอมรับอย่างยิ้ม ๆ เมขลาจึงย่นจมูกให้..

“ถ้าเรารู้ว่าเขาจะต้องลงเอยกับเราในวันหนึ่งข้างหน้า แต่ว่าวันนี้เราจะไม่จีบเขา แล้วมันจะลงเอยกันได้ไหม” เดชาพงษ์ตั้งสมมุติฐานขึ้นมา เมขลากรอกตาไปมาครุ่นคิด แล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ

“ถ้าไม่จีบเขา แล้วเขาจะรักเราไหมละพี่”

“อ้าว ก็เขาเป็นเนื้อคู่กับเรา จำเป็นต้องจีบด้วยเหรอ”

“ถ้าย้อนเวลาไปหน่อยที่เรียกว่าโบราณกาลก็อาจจะไม่ต้องจีบหรอก คลุมถุงชนแล้วก็อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ค่อย ๆ รักกันไปเอง นั่นก็ไม่ได้จีบกันมาก่อนนะ เรียกว่าเทพอุ้มสม แต่ของพี่กล้วยแบบเมื่อกี้ เรียกว่าจีบแล้วเจ้าค่ะ”

“ไม่ได้จีบ...”

“แล้วพี่อยากโทรหาใครแต่เช้าหรือเปล่าละ แล้วที่พี่อดหลับอดนอนทั้งคืนก็เพื่อ
เขาเปล่าละ นั่นแหละคือพี่มีใจให้เขาด้วย พี่ถึงได้ทำแบบนั้น”

“เมื่อคืนพี่ว่าพี่ทำงานนะ...”

“อย่ามาปากแข็ง คนเป็นเนื้อคู่กันเจอหน้ากันมันก็วูบวาบบ้างแหละ อดีตชาติมันเคยคุ้นกันมาค่ะ”

“เหรอ” ถามกวนอารมณ์น้องสาวกลับไปด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ แล้วเดชาพงษ์ก็รู้สึกว่าเปลือกตาของตัวเองหนักจนแทบจะลืมไม่ขึ้น...เขาชะเง้อไปทางต้นทางแต่ว่าหลวงพ่อก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาถึง...

“ทำไม วันนี้ช้าจังเลย”

“ก็ปกตินะ”

“พี่ว่าพี่ง่วงแล้ว”

“รอใส่บาตรด้วยกันก่อนสิ ทนอีกหน่อย”

“ฝากใส่ด้วยแล้วกัน...ง่วงว่ะ ไปแล้ว ลืมตาไม่ขึ้นแล้ว” ว่าแล้วเดชาพงษ์ก็เดินเขาไปในบ้าน คว้าหมอนหกที่วางอยู่บนเก้าอี้โยนลงไปที่พื้นกระเบื้อง เดินไปเปิดพัดลมเพดาน ทรุดตัวลงนอนแล้วก็คิดได้ว่าควรจะมีผ้าห่มสักผืนปิดหน้าไว้...สายตามองหาผ้าห่มที่อยู่บนโต๊ะอีกตัว กำลังจะลุกขึ้นไปหยิบ...โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อก็ดังขึ้นเสียก่อน...เขาร้องจิ๊จ๊ะนึกเจ็บใจว่าทำไมไม่คิดจะปิดเครื่องก่อนนอน ครั้นจะปิดหนีตอนนี้ก็เสียมารยาทซะอีก..และพอดึงโทรศัพท์ออกมาดูเห็นว่าเป็นเบอร์ของใคร ตาที่ปรือเมื่อครู่ก็เบิ่งกว้างขึ้นมา ปากได้รูปก็สบถเบา ๆ “กรรมแท้...”

และพอกดสายรับมันก็เป็นไปตามที่เขาเดาไว้ไม่ผิด...

“สวัสดีค่ะ เช็คตารางงานแล้วค่ะ วันนี้จินว่างค่ะ เดี๋ยวสามโมงเช้า จินจะเข้าไปหาที่โรงเรียนแล้วกันนะคะ สะดวกใช่ไหมคะ”



จรินนาไม่รู้หรอกว่าพอวางสายจากเดชาพงษ์แล้วเขาก็ทะลึ่งพรวดลุกเอาหมอนไปเก็บปิดพัดลมแล้วก็วิ่งขึ้นไปบนเรือนคว้าแบบสเก็ตภาพที่ทำไว้เดินลงมาหาแม่ที่ในครัวแล้วบอกว่า

“แม่ผมกลับไปโรงเรียนก่อนนะ”

“อ้าว จะรีบไปไหนกินข้าวด้วยกันก่อนซิ”

“ไม่ทันแล้วแม่”

“แล้วไม่หิวเหรอ”

“เหมือนจะหิว แต่ถ้ากินต้องหลับตอนขับรถแน่ๆ ผมไปแล้วนะ” บอกแม่แล้วเขาก็กรากเข้าไปหอมแก้มแม่หนึ่งทีพร้อมกับพนมมือกราบลงที่อกแล้วรีบออกไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่

เมขลาที่ใส่บาตรพระเสร็จพอดีหันมาเห็น จึงต้องรีบตะโกนถาม...“จะไปไหนละนั่น”

“กลับคอนหวันก่อน” คอนหวัน ก็คือ ในเมืองนครสวรรค์นั่นเอง

“แล้วจะกลับมาอีกหรือเปล่า”

“ไม่รู้ พอดีงานเข้า”

“งั้น รอก่อน ไปเอาสบู่กับโทนเนอร์มาให้ก่อนอยู่ในกระเป๋า รอแป๊บ”

“เร็ว ๆ นะ”

“เตรียมเงินไว้รอด้วยนะ สามพัน”

เขานั่งรอเมขลาเพียงอึดใจ แล้วน้องสาวก็รีบเดินมาพร้อมกับถุงใส่สบู่และโทนเนอร์ เอนไซม์ จันทร์เจ้าฉาย ซึ่งเจ้าตัวคุยว่ามันทำกำไรให้คนคิดค้นและคนขายอย่างเป็นกอบเป็นกำขึ้นมาเพราะว่าตัวผลิตภัณฑ์ใช้ของดีที่หนึ่งในการผลิต...และเมื่อเมขลามาถึง หญิงสาวก็ยื่นของเกาะขอบประตูคุยกับอย่างต้องการประวิงเวลา “ตัวสบู่นี่ ล้างหน้า อาบน้ำ ใช้ได้หมดนะ”

“รู้แล้ว...เคยใช้แล้ว”

“โทนเนอร์พ่นตลอดด้วย เช้า และก่อนนอน ดูซิ ผิวหน้าละเอียดขึ้นเห็นชัดเลย หล่อขึ้นเป็นกอง อย่าลืมละ”

“อืม..”

“สามพัน”

เขายกมือเกาหัวแกรก ๆ“แพงไปเปล่าหว่า มันขวดละสองร้อยกว่าไม่ใช่รึ นี่ก็แค่สองขวด”

“กำไรนิดหน่อย แล้วก็ทำบุญค่ารถกลับกรุงเทพฯด้วย”

“กลับกับพี่กล้าไม่ใช่รึ”

“ค่าใส่บาตรให้เมื่อเช้านี้ด้วย เกือบลืมเลย”

เดชาพงษ์สั่นหัวแล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ เ ขาเปิดเก๊ะหยิบแบงก์พันออกมาสามใบตามที่น้องสาวเรียกร้อง แต่ว่าเมขลาดึงมาแค่ใบเดียว เขายิ้มพลางกะพริบตาเบา ๆ ว่าดีใจเหลือเกินที่มีน้องใจดี...แล้วเมขลาก็ชะโงกหน้าเข้าไปจูบแก้มหนึ่งทีก่อนจะบอกว่า... “ขอให้เขา ขอพี่กล้วยแต่งงานเร็ว ๆ นะคะ”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ก.ค. 2555, 09:15:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ก.ค. 2555, 09:28:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 2299





<< 6.1“ยังค่ะ ไม่สวย ผู้ชายที่ไหนจะมอง”   7.1“ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นโรงเรียนสอนศิลปะ ที่เรียกว่าวิทยาลัยในวัง” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 10 ก.ค. 2555, 09:15:56 น.
ขอบคุณจากทุกๆ แรงใจฮะว์...จุ๊บ ๆ


รอให้เป็นเล่ม 10 ก.ค. 2555, 09:24:35 น.
มาลงชื่อไว้ก่อน


imsoul 10 ก.ค. 2555, 09:34:42 น.
มาอีกแล้ว ช่วงนี้มาถี่ ดีใจๆๆ


sai 10 ก.ค. 2555, 09:42:29 น.
จะสงสารหรือสมน้ำหน้าพี่กล้วยดีเนี่ย แกล้งเค้าให้ตื่นแต่ตัวเองก็ใช่ว่าจะได้นอนนะนั้น 555


jink 10 ก.ค. 2555, 09:53:47 น.


คิมหันตุ์ 10 ก.ค. 2555, 11:10:14 น.
แอบร้ายกันทั้งคู่


anOO 10 ก.ค. 2555, 14:31:31 น.
ตอนเจอกันอาจารย์กล้วยจะไปนั่งหลับให้คุณหนูจิน ว๊ากเอาไหมนี่


koffee 10 ก.ค. 2555, 14:35:36 น.
อ่านไปยิ้มไป อาจารย์กล้วยน่ารักค่ะ


แว่นใส 10 ก.ค. 2555, 16:54:31 น.
น่ารักจังเลยพี่น้อง


Orathai 10 ก.ค. 2555, 18:41:33 น.
ตอนนี้อาจารย์กล้วยน่ารักมากเลยค่ะ...กรรมตามทันเร็วด้วย


แวนด้าน้อย 10 ก.ค. 2555, 23:49:25 น.
๕๕+ อาจารย์กล้วย กรรมจริงๆ


Zephyr 11 ก.ค. 2555, 19:20:31 น.
คนนึงยังไม่ได้นอน อีกคนโดนแกล้งปลุก อืม แกล้งกันไปมา เด็กชะมัด 5555
ปล.หนูนางกกกกก


lookAme 20 ก.ค. 2555, 18:05:50 น.
น่าร้ากกกกกกอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account