วังวนริษยา
แรงรัก แรงริษยา เกาะเกี่ยวเวียนวนจากอดีตสู่ปัจจุบัน
วังวนแห่งพิษรัก ยังคงโอบรัดสิ่งเหล่านี้ให้คงอยู่ และ รอคอยอยู่ที่...เรือน เจ้านาง
วังวนแห่งพิษรัก ยังคงโอบรัดสิ่งเหล่านี้ให้คงอยู่ และ รอคอยอยู่ที่...เรือน เจ้านาง
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ ๓ วรรค ๒
แล้วแผนการบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในสมองของกชกร หลังจากที่เธอได้เข้ามาพักในบ้านของคุณปรีชาเป็นเวลาเกือบสัปดาห์เต็ม
วันนั้นเจ้าปิ่นเงินไปงานเลี้ยงรวมญาติยังวังเก่า และได้พาเจ้าแก้วคำแปงกับเด็กหญิงปรียาไปด้วย บ้านหลังนั้นจึงเหลือแต่เพียงเธอกับคุณปรีชาซึ่งวันนี้รู้สึกไม่สบายจึงขออยู่พักที่บ้านเสียมากกว่า
ผู้ว่าหนุ่มไม่รู้เลยว่า เวลานี้ตนกำลังเป็นหนึ่งในแผนการหาพ่อของลูกของกชกร ผู้หญิงที่ดูภายนอกนั้นแสนดี หากภายในนั้นกลับเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมมารยาอันมากมาย
หลังเจ้าปิ่นเงินออกจากบ้านหลังนั้นไป และคุณปรีชาซึ่งนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น เห็นดังนั้นกชกรจึงเริ่มดำเนินแผนการในทันที
“คุณพี่คะ บัวเพิ่งไปเที่ยวตลาดริมท่าน้ำ ได้กาแฟดีมาหนึ่งห่อ เลยลองชงมาดื่มดู คุณพี่ดื่มเป็นเพื่อนบัวด้วยนะคะ”
กชกรถือแก้วกาแฟ ซึ่งเธอชงเองตรงเข้ามาหาคุณปรีชา แน่นอนหนึ่งในถ้วยนั้นได้ผสมสารบางอย่างที่คุณปรีชาไม่ได้เฉลียวใจสักนิด
ไม่อยากขัดใจผู้หญิงตรงหน้า คุณปรีชาจึงรับกาแฟถ้วยนั้นมาทาน ก่อนจะเอ่ยชมขึ้นในที่สุด
“อืม...รสกลมกล่อมดีนะ” เขาชม ขณะกชกรคลี่ยิ้มอย่างยินดี
“คุณพี่ชอบ บัวก็ดีใจแล้วค่ะ”
“ขอบใจเธอมากนะ เอ้อ...พี่คงจะต้องขอตัวก่อนล่ะ ไม่ไหววันนี้ไข้ท่าจะกำเริบหลังจากที่มันรุมๆ มาหลายวันแล้ว”
ผู้ว่าหนุ่มลุกขึ้น หลังรู้สึกวิงเวียนจากอาการไข้ซึ่งเป็นมาต่อเนื่องกันหลายวัน และวันนี้รู้สึกว่ามันจะหนักกว่าวันก่อนมาก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นผลให้เขาไม่ได้ไปงานเลี้ยงรวมญาติของภรรยาด้วย
คุณปรีชาเดินขึ้นห้องไปอย่างเงียบๆ ขณะกชกรมองตามร่างสูงใหญ่กำยำนั้นไปด้วยประกายตาอันมาดหมาย
แผนการของเธอสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว เพียงแต่ตอนนี้เธอจะต้องรอ...รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
////////////
เข้ามาในห้องแล้ว แทนที่จะล้มตัวนอนอย่างที่คิดเอาไว้แต่แรก ทว่าทั่วทั้งร่างกายของคุณปรีชากลับรู้สึกร้อนรุ่ม จนไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้
อะไรกัน...ทำไมไข้ถึงได้ร้ายแรงมากขนาดนี้ มันเป็นอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อนเลยสักนิด
ไม่แม้ตัวจะร้อนเท่านั้น ทว่าทุกสัดส่วนของร่างกายของเขากลับเหมือนมันจะปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆ อย่างไรอย่างนั้น อาการมึนหัวในคราวแรกกลับหายไปอย่างปลิดทิ้ง พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มเข้าแทนที่
ทั่วสรรพางค์ลุกชัน ไม่แม้กระทั่งเส้นขนตามตัว ชายหนุ่มจัดการถอดชุดนอนออกจนหมดแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวมาห่มก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำไปในที่สุด
ทว่า...หวังใช้สายน้ำชำระความร้อนเหล่านั้นกลับไม่เป็นผล หลังอาบน้ำแล้ว เขาจึงออกจากห้องน้ำ คิดหาวิธีจะระงับอารมณ์เหล่านั้น หากแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ประตูห้องก็เปิดออกจากใครคนหนึ่ง
“บัว...” น้ำเสียงแหบปร่า ดวงตาซึ่งมองร่างเย้ายวนตรงหน้าเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า
“บัวรู้นะคะว่าคุณพี่ต้องการอะไร มาค่ะ...บัวจะช่วยเอง”
ถึงตอนนั้น สติที่เหลืออยู่น้อยนิดของคุณปรีชาก็ดับมอดลงไปอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้แม้กระทั่งว่าผลของการกระทำหลังจากนั้นมันจะดำเนินมาพร้อมกับความสูญเสียมากมายขนาดไหน
///////
ประตูห้องเปิดออก พร้อมๆ กับภาพซึ่งทำให้หัวใจของเจ้านางสาวพังภินท์ลงตรงนั้น ก็ปรากฏชัดในครองจักษุ หยาดน้ำตาของเธอหลั่งริน ก่อนร่างบางจะหมดเรี่ยวแรงทรุดกายลงตรงนั้น
เสียงซึ่งเกิดขึ้นยังประตูห้อง ทั้งเสียงสะอื้นไห้ และภาพซึ่งคุณปรีชาเงยหน้าขึ้นมองก็ปรากฏชัด บัดนั้นสติที่ขาดหายไปชั่วขณะก็มีอันกลับมาอีกครั้ง
“เจ้านาง...”
เขารีบผละออกจากการกอดร่างเปลือยเปล่าบนเตียง ซึ่งบัดนี้ได้หลับไปแล้วด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะรีบตรงเข้าไปหาเจ้าปิ่นเงินในทันที
“ผมขอโทษ...ผมไม่ได้ตั้งใจ” เขาเอ่ยขอโทษเสียงสั่น หวังเพื่อให้ร่างซึ่งสะอื้นไห้อยู่ตรงหน้าเข้าใจในเหตุผลที่เขากำลังจะอธิบาย
เหตุผล...ซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุแห่งความจริงมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
“อย่าเลยค่ะ อย่ามาใกล้ปิ่น เอามือของคุณออกไปจากตัวของปิ่นเถอะค่ะ” เจ้าปิ่นเงินพยายามดันมือของปรีชาออกห่าง เมื่อเขาพยายามเข้ามาพยุงเธอให้ลุกขึ้น
ไม่...มันไม่มีประโยชน์อะไรจะมาอธิบายให้เธอฟังอีกแล้ว ก็ภาพบนเตียงนั่นมันชัดเจนอยู่แล้วนี่
ชัดจนเธอไม่อาจจะตัดสินได้ว่านั่นคือภาพลวงตา...
บนเตียง...เสียงที่สนทนากัน ทำให้ร่างซึ่งหลับอยู่รู้สึกตัวทันที กชกรเงยหน้ามองสองร่างซึ่งกำลังยื้อยุดกันยังประตูห้อง สร้างความพึงพอใจให้กับเธอเป็นยิ่งนัก เธอบิดยิ้ม ก่อนจะแสร้งทำเป็นงัวเงียลุกจากเตียง
“คุณพี่ปิ่น เอ่อ...บัว บัวขอโทษนะคะ บัวขอโทษ” แสร้งบีบน้ำตาร้องไห้ ก่อนจะถลาตรงเข้ามาแสดงละครฉากใหญ่ของตนอีกครั้ง
“ไม่...ไม่...” เจ้าปิ่นเงินส่ายหน้าทั้งน้ำตาที่นองหน้า
“บัวขอโทษจริงๆ นะคะพี่ปิ่น บัวผิดเองที่ไม่ยับยั้งชั่งใจตัวเอง คุณพี่ปรีชาไม่ผิดนะคะ”
กชกรเข้ามาพยุงร่างแบบบางของเจ้านางปิ่นเงิน พร้อมกับทำท่าว่าจะอธิบาย ทว่าเจ้าปิ่นเงินกลับไม่มีเรี่ยวแรงจะเพียงพอรับฟังอะไรอีกต่อไป ก่อนสติที่เหลืออยู่จะดับลงไปอย่างรวดเร็ว
“ปิ่น...ปิ่น” คุณปรีชาเข้าไปรับภรรยาได้อย่างทันท่วงที ท่ามกลางแววตาริษยาของกชกร
“เกิดอะหยังขึ้นน่ะ เสียงดังไปทั้งบ้าน” เสียงเข้มขรึมของเจ้านางแก้วคำแปงดังขึ้น พร้อมกับร่างของหญิงชราที่เดินตรงเข้ามายังสถานที่แห่งนั้น
ก่อนภาพที่ปรากฏตรงหน้าจะทำให้เจ้านางแน่ใจว่าสาเหตุที่ทำให้บุตรสาวของนางหมดสติไปนั้นเพราะอะไร
“คุณพระคุณเจ้า...เจ้าปิ่น เจ้าปิ่น”
ร่างของหญิงชราสั่นเทิ้ม ก่อนจะรีบเข้าไปพยุงร่างของบุตรสาวจากคุณปรีชา พร้อมกับสายตาฟาดฟันอย่างไม่ให้อภัยมองสองร่างกึ่งเปลือยตรงหน้า
“ลงไปอู้กั๋นข้างล่าง จะเอาอะหยังกั๋นค่อยมาอู้กั๋นตอนเจ้าปิ่นฟื้น”
////////////
ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นฉายเด่นชัด คุณกชกรบิดยิ้มอย่างพึงพอใจถึงผลที่ได้ตามมาอีกมากมาย นั่นก็คือหลังจากฟื้นคืนสติเจ้าปิ่นเงิน เจ้านางผู้เป็นศัตรูหัวใจของเธอก็เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายไม่ยอมฟังคำอธิบายอะไรทั้งสิ้น พร้อมกับความไม่เข้าในระหว่างคุณปรีชาและเจ้าปิ่นเงินเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ความเสียใจทำให้เจ้าปิ่นเงินไม่สามารถมองหน้าคุณปรีชาได้ จึงหอบบุตรสาวที่มีอายุเพียงหนึ่งขวบเท่านั้นไปอยู่ที่เรือนของเจ้านางแก้วคำแปงมารดาในเวลาต่อมา
ตั้งแต่วันนั้นมา คุณกชกรจึงมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของคนในครอบครัวนี้ แม้ระยะเวลาเพียงพอจะทำให้เจ้าปิ่นเงินเข้าใจอะไรบ้าง ทว่าเธอก็ยังไม่ยอมให้อภัยสามี เช่นเดียวกับการพูดคุยก็น้อยคำไปด้วย การออกงานสังคมต่างๆ ก็ไม่มีเจ้าปิ่นเงินยืนเคียงข้างกับสามีอีกเลย
จะมีแต่คุณกชกร ที่อดทนติดตามคุณปรีชาไปทุกที่แทนภรรยาตัวจริง จนในเวลาต่อมา ทุกคนต่างเข้าใจว่าท่านผู้ว่ามีภรรยาอีกคน
แล้ววันที่คุณกชกรดีใจมากที่สุด นั่นก็คือวันที่ปวรินบุตรสาวสุดที่รักของเธอเกิดมา ทุกคนเชื่อว่านั่นคือลูกของคุณปรีชา โดยไม่ระแคะระคายเลยว่า ความจริงทุกอย่างมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น...
วันนั้นเจ้าปิ่นเงินไปงานเลี้ยงรวมญาติยังวังเก่า และได้พาเจ้าแก้วคำแปงกับเด็กหญิงปรียาไปด้วย บ้านหลังนั้นจึงเหลือแต่เพียงเธอกับคุณปรีชาซึ่งวันนี้รู้สึกไม่สบายจึงขออยู่พักที่บ้านเสียมากกว่า
ผู้ว่าหนุ่มไม่รู้เลยว่า เวลานี้ตนกำลังเป็นหนึ่งในแผนการหาพ่อของลูกของกชกร ผู้หญิงที่ดูภายนอกนั้นแสนดี หากภายในนั้นกลับเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมมารยาอันมากมาย
หลังเจ้าปิ่นเงินออกจากบ้านหลังนั้นไป และคุณปรีชาซึ่งนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น เห็นดังนั้นกชกรจึงเริ่มดำเนินแผนการในทันที
“คุณพี่คะ บัวเพิ่งไปเที่ยวตลาดริมท่าน้ำ ได้กาแฟดีมาหนึ่งห่อ เลยลองชงมาดื่มดู คุณพี่ดื่มเป็นเพื่อนบัวด้วยนะคะ”
กชกรถือแก้วกาแฟ ซึ่งเธอชงเองตรงเข้ามาหาคุณปรีชา แน่นอนหนึ่งในถ้วยนั้นได้ผสมสารบางอย่างที่คุณปรีชาไม่ได้เฉลียวใจสักนิด
ไม่อยากขัดใจผู้หญิงตรงหน้า คุณปรีชาจึงรับกาแฟถ้วยนั้นมาทาน ก่อนจะเอ่ยชมขึ้นในที่สุด
“อืม...รสกลมกล่อมดีนะ” เขาชม ขณะกชกรคลี่ยิ้มอย่างยินดี
“คุณพี่ชอบ บัวก็ดีใจแล้วค่ะ”
“ขอบใจเธอมากนะ เอ้อ...พี่คงจะต้องขอตัวก่อนล่ะ ไม่ไหววันนี้ไข้ท่าจะกำเริบหลังจากที่มันรุมๆ มาหลายวันแล้ว”
ผู้ว่าหนุ่มลุกขึ้น หลังรู้สึกวิงเวียนจากอาการไข้ซึ่งเป็นมาต่อเนื่องกันหลายวัน และวันนี้รู้สึกว่ามันจะหนักกว่าวันก่อนมาก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นผลให้เขาไม่ได้ไปงานเลี้ยงรวมญาติของภรรยาด้วย
คุณปรีชาเดินขึ้นห้องไปอย่างเงียบๆ ขณะกชกรมองตามร่างสูงใหญ่กำยำนั้นไปด้วยประกายตาอันมาดหมาย
แผนการของเธอสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว เพียงแต่ตอนนี้เธอจะต้องรอ...รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
////////////
เข้ามาในห้องแล้ว แทนที่จะล้มตัวนอนอย่างที่คิดเอาไว้แต่แรก ทว่าทั่วทั้งร่างกายของคุณปรีชากลับรู้สึกร้อนรุ่ม จนไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้
อะไรกัน...ทำไมไข้ถึงได้ร้ายแรงมากขนาดนี้ มันเป็นอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อนเลยสักนิด
ไม่แม้ตัวจะร้อนเท่านั้น ทว่าทุกสัดส่วนของร่างกายของเขากลับเหมือนมันจะปริแตกออกเป็นเสี่ยงๆ อย่างไรอย่างนั้น อาการมึนหัวในคราวแรกกลับหายไปอย่างปลิดทิ้ง พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มเข้าแทนที่
ทั่วสรรพางค์ลุกชัน ไม่แม้กระทั่งเส้นขนตามตัว ชายหนุ่มจัดการถอดชุดนอนออกจนหมดแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวมาห่มก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำไปในที่สุด
ทว่า...หวังใช้สายน้ำชำระความร้อนเหล่านั้นกลับไม่เป็นผล หลังอาบน้ำแล้ว เขาจึงออกจากห้องน้ำ คิดหาวิธีจะระงับอารมณ์เหล่านั้น หากแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ประตูห้องก็เปิดออกจากใครคนหนึ่ง
“บัว...” น้ำเสียงแหบปร่า ดวงตาซึ่งมองร่างเย้ายวนตรงหน้าเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า
“บัวรู้นะคะว่าคุณพี่ต้องการอะไร มาค่ะ...บัวจะช่วยเอง”
ถึงตอนนั้น สติที่เหลืออยู่น้อยนิดของคุณปรีชาก็ดับมอดลงไปอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้แม้กระทั่งว่าผลของการกระทำหลังจากนั้นมันจะดำเนินมาพร้อมกับความสูญเสียมากมายขนาดไหน
///////
ประตูห้องเปิดออก พร้อมๆ กับภาพซึ่งทำให้หัวใจของเจ้านางสาวพังภินท์ลงตรงนั้น ก็ปรากฏชัดในครองจักษุ หยาดน้ำตาของเธอหลั่งริน ก่อนร่างบางจะหมดเรี่ยวแรงทรุดกายลงตรงนั้น
เสียงซึ่งเกิดขึ้นยังประตูห้อง ทั้งเสียงสะอื้นไห้ และภาพซึ่งคุณปรีชาเงยหน้าขึ้นมองก็ปรากฏชัด บัดนั้นสติที่ขาดหายไปชั่วขณะก็มีอันกลับมาอีกครั้ง
“เจ้านาง...”
เขารีบผละออกจากการกอดร่างเปลือยเปล่าบนเตียง ซึ่งบัดนี้ได้หลับไปแล้วด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะรีบตรงเข้าไปหาเจ้าปิ่นเงินในทันที
“ผมขอโทษ...ผมไม่ได้ตั้งใจ” เขาเอ่ยขอโทษเสียงสั่น หวังเพื่อให้ร่างซึ่งสะอื้นไห้อยู่ตรงหน้าเข้าใจในเหตุผลที่เขากำลังจะอธิบาย
เหตุผล...ซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหตุแห่งความจริงมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
“อย่าเลยค่ะ อย่ามาใกล้ปิ่น เอามือของคุณออกไปจากตัวของปิ่นเถอะค่ะ” เจ้าปิ่นเงินพยายามดันมือของปรีชาออกห่าง เมื่อเขาพยายามเข้ามาพยุงเธอให้ลุกขึ้น
ไม่...มันไม่มีประโยชน์อะไรจะมาอธิบายให้เธอฟังอีกแล้ว ก็ภาพบนเตียงนั่นมันชัดเจนอยู่แล้วนี่
ชัดจนเธอไม่อาจจะตัดสินได้ว่านั่นคือภาพลวงตา...
บนเตียง...เสียงที่สนทนากัน ทำให้ร่างซึ่งหลับอยู่รู้สึกตัวทันที กชกรเงยหน้ามองสองร่างซึ่งกำลังยื้อยุดกันยังประตูห้อง สร้างความพึงพอใจให้กับเธอเป็นยิ่งนัก เธอบิดยิ้ม ก่อนจะแสร้งทำเป็นงัวเงียลุกจากเตียง
“คุณพี่ปิ่น เอ่อ...บัว บัวขอโทษนะคะ บัวขอโทษ” แสร้งบีบน้ำตาร้องไห้ ก่อนจะถลาตรงเข้ามาแสดงละครฉากใหญ่ของตนอีกครั้ง
“ไม่...ไม่...” เจ้าปิ่นเงินส่ายหน้าทั้งน้ำตาที่นองหน้า
“บัวขอโทษจริงๆ นะคะพี่ปิ่น บัวผิดเองที่ไม่ยับยั้งชั่งใจตัวเอง คุณพี่ปรีชาไม่ผิดนะคะ”
กชกรเข้ามาพยุงร่างแบบบางของเจ้านางปิ่นเงิน พร้อมกับทำท่าว่าจะอธิบาย ทว่าเจ้าปิ่นเงินกลับไม่มีเรี่ยวแรงจะเพียงพอรับฟังอะไรอีกต่อไป ก่อนสติที่เหลืออยู่จะดับลงไปอย่างรวดเร็ว
“ปิ่น...ปิ่น” คุณปรีชาเข้าไปรับภรรยาได้อย่างทันท่วงที ท่ามกลางแววตาริษยาของกชกร
“เกิดอะหยังขึ้นน่ะ เสียงดังไปทั้งบ้าน” เสียงเข้มขรึมของเจ้านางแก้วคำแปงดังขึ้น พร้อมกับร่างของหญิงชราที่เดินตรงเข้ามายังสถานที่แห่งนั้น
ก่อนภาพที่ปรากฏตรงหน้าจะทำให้เจ้านางแน่ใจว่าสาเหตุที่ทำให้บุตรสาวของนางหมดสติไปนั้นเพราะอะไร
“คุณพระคุณเจ้า...เจ้าปิ่น เจ้าปิ่น”
ร่างของหญิงชราสั่นเทิ้ม ก่อนจะรีบเข้าไปพยุงร่างของบุตรสาวจากคุณปรีชา พร้อมกับสายตาฟาดฟันอย่างไม่ให้อภัยมองสองร่างกึ่งเปลือยตรงหน้า
“ลงไปอู้กั๋นข้างล่าง จะเอาอะหยังกั๋นค่อยมาอู้กั๋นตอนเจ้าปิ่นฟื้น”
////////////
ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นฉายเด่นชัด คุณกชกรบิดยิ้มอย่างพึงพอใจถึงผลที่ได้ตามมาอีกมากมาย นั่นก็คือหลังจากฟื้นคืนสติเจ้าปิ่นเงิน เจ้านางผู้เป็นศัตรูหัวใจของเธอก็เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายไม่ยอมฟังคำอธิบายอะไรทั้งสิ้น พร้อมกับความไม่เข้าในระหว่างคุณปรีชาและเจ้าปิ่นเงินเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ความเสียใจทำให้เจ้าปิ่นเงินไม่สามารถมองหน้าคุณปรีชาได้ จึงหอบบุตรสาวที่มีอายุเพียงหนึ่งขวบเท่านั้นไปอยู่ที่เรือนของเจ้านางแก้วคำแปงมารดาในเวลาต่อมา
ตั้งแต่วันนั้นมา คุณกชกรจึงมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของคนในครอบครัวนี้ แม้ระยะเวลาเพียงพอจะทำให้เจ้าปิ่นเงินเข้าใจอะไรบ้าง ทว่าเธอก็ยังไม่ยอมให้อภัยสามี เช่นเดียวกับการพูดคุยก็น้อยคำไปด้วย การออกงานสังคมต่างๆ ก็ไม่มีเจ้าปิ่นเงินยืนเคียงข้างกับสามีอีกเลย
จะมีแต่คุณกชกร ที่อดทนติดตามคุณปรีชาไปทุกที่แทนภรรยาตัวจริง จนในเวลาต่อมา ทุกคนต่างเข้าใจว่าท่านผู้ว่ามีภรรยาอีกคน
แล้ววันที่คุณกชกรดีใจมากที่สุด นั่นก็คือวันที่ปวรินบุตรสาวสุดที่รักของเธอเกิดมา ทุกคนเชื่อว่านั่นคือลูกของคุณปรีชา โดยไม่ระแคะระคายเลยว่า ความจริงทุกอย่างมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น...
พายุ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ค. 2555, 18:36:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.ค. 2555, 18:36:23 น.
จำนวนการเข้าชม : 1389
<< ตอนที่ ๓ วรรค ๑ | ตอนที่ ๔ >> |