ทิวาเลือน
เรื่องราวของการสืบหาความจริงที่ยังคลุมเครือของการเลิกราของเมฆาและเริ่มทิวาจนนำไปสู่อุบัติเหตุที่คร่าชีวิตฝ่ายหญิง

โดยรวี ที่อยากจะช่วยญาติให้หลุดพ้นความเศร้าโศก ชักชวน อรุณงามญาติฝ่ายหญิงให้มาช่วยกันสืบด้วยความไม่เต็มใจนัก

ยิ่งสืบยิ่งยุ่ง อะไรหนอหรือใครกันที่เป็นสาเหตุอันแท้จริง


Tags: ชิตา ทิวาเลือน รักโรแมนติค

ตอน: ๑๐

เขากลัวเหลือเกิน เพราะความรู้สึกนี้เอง ที่ทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่ที่จะคิดมาเผชิญหน้ากับบุคคล หรืออยู่ในสถานที่ที่เคยเป็นความทรงจำร่วมกับเริ่มทิวา

ผู้หญิงที่รวีแนะนำว่าเป็นเพื่อนสมัยเรียนตอนไปนอนตากน้ำค้างบนดอยสูง วันนั้นเริ่มทิวาไม่ค่อยยิ้ม หล่อนดูกลัวและเกรงญาติของเพื่อนคนนี้มาก แม้เขาทักทายด้วยดีๆ หล่อนก็อ้อมแอ้มตอบ ผิดจากหญิงสาวอีกหลายคนในที่นั้น ใครๆ ก็อยากคุยกับเมฆา หลานชายพ่อเลี้ยงเอนก เจ้าชู้มือหนึ่งแห่งปีกันทั้งนั้น

ตอนเย็นหล่อนช่วยทำอาหาร กินเสร็จหล่อนก็ช่วยล้าง ยามดึก เดินสวนกันทีหนึ่ง หล่อนก็หลบหน้าทำให้เขายิ้มเก้อ จนได้แต่หงุดหงิดในใจว่า ประหลาดคน

ยามเมื่อนั่งเล่นกันรอบกองไฟ เขาก็ถือโอกาสไปนั่งข้างหล่อนเสียเลย สาวยิ้มสวย นัยน์ตาหวาน คิ้วโก่งงาม ริมฝีปากอิ่ม คนนี้เป็นที่สนใจของหนุ่มๆ หลายๆ คนเช่นกัน แต่เขาก็ใช้สายตาแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของว่าคนนี้ข้าจอง ทำให้หลายคนทำท่าไม่พอใจนัก แต่เขาไม่สนใจ

กองไฟลุกโชน เสียงร้องเพลงของผองเพื่อนคลอเสียงกีตาร์โปร่งเบาๆ พอเห็นเขาหล่อนก็หยุดร้องตาม รอยยิ้มและดวงตาสดใสหายวับไปเหลือแต่ทีท่าระแวง และสงสัย

“กลัวผมทำไม”

เริ่มทิวาไม่แม้แต่มองหน้าเขา แต่คำตอบก็ทำเอาเขาอึ้ง

“ไม่ได้กลัว แค่ไม่อยากอยู่ใกล้”

“คุณเลยหลบหน้าผม”

“ฉันจะหลบหน้าคุณทำไม เราเพิ่งรู้จักกันวันนี้”

“ไม่รู้แฮะ เหมือนคุณไม่อยากจะคุยกับผมเท่าไหร่”

“ถ้าคุณสังเกต จะรู้ว่าฉันไม่ชอบคุยกับผู้ชายเจ้าชู้”

“รู้ได้ไงล่ะ ว่าผมเจ้าชู้”

“ใครๆ เขาก็รู้ทั้งนั้น”

“คุณก็เลยวัดผมตามมาตรฐานชาวบ้าน”

“ก็มาตรฐานเขาดี ใช้ได้นี่นา”

ตอนนั้นเขายิ้ม ยิ้มที่สาวที่ไหนก็คงไหวหวั่น เริ่มทิวาก็เป็น เมฆารู้ได้ แต่หล่อนก็พยายามซ่อนมันสุดความสามารถ

“ทำไมล่ะ”

“รู้แล้วเหยียบเลยนะ ห้ามบอกใคร แล้วอย่ามายุ่งกับฉันอีก”

ท่าทางหล่อนเหมือนจะบอกความลับระดับชาติ ที่มีผลต่อความมั่นคงในชีวิตของหล่อนยิ่ง

“คุณป้าฉันเป็นคนดุ กว่าที่ฉันจะขอมางานเลี้ยงรุ่นนี้ได้ แทบตาย และเจ้าของรีสอร์ทก็เป็นเพื่อนท่าน หากเห็นฉันสนิทสนมกับผู้ชายคนไหน ที่ไม่ได้มาตรฐานป้าอย่างคุณ คราวหน้าฉันเป็นอดเที่ยว เข้าใจหรือยังคะ”

ตอนแรกเขาไม่เชื่อ แต่พอเห็นสีหน้าจริงใจ เขาก็ถาม

“คุณล้อเล่น แค่คุยกันเป็นเพื่อน คงไม่เป็นไรมั้ง”

“แต่สำหรับป้าฉัน เรื่องใหญ่ ขอตัวนะคะ คุณเมฆา”

แล้วหล่อนก็ลุกย้ายที่นั่งไปนั่งที่อื่น ทำเอาเขาใบ้รับประทาน

ถ้านี่เป็นมารยาหญิงเพื่อเรียกร้องความสนใจ เริ่มทิวาก็ได้ตุ๊กตาทอง เขาคิดว่าหมดความสนใจในตัวผู้หญิงประหลาดคนนี้แล้ว แต่แปลกที่รุ่งเช้าต่อมา เขาเฝ้าแอบมองหล่อน และเข้าข้างตัวเองว่า หล่อนก็แอบมองเขาเช่นกัน

เหมือนเล่นซ่อนความในใจกันจนจะกลับบ้าน เขาก็รวบรวมความกล้าแบบที่ไม่เคยต้องทำเข้าไปขอเบอร์โทรศัพท์ เริ่มทิวาก็ให้มาชนิดที่เธอมาเล่าให้ฟังทีหลังว่า เมื่อนึกย้อนกลับไป นั่นเป็นการตัดสินใจที่กล้าและบ้าบิ่นมาก เพราะหากเมฆาเริ่มค่อยๆ สานความสัมพันธ์จริง เธอเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน

แต่ทำอย่างได้ มันเป็นเรื่องของพรหมลิขิต หรือไม่ก็เวรกรรม

คนจะรักกัน ชอบกัน อะไรก็ห้ามไม่ได้ ความรักความหลงเกิดขึ้น รวดเร็วรุนแรง เจ้าชู้เบอร์หนึ่งกับหญิงสาวแสนดี ใครบ้างจะนึกถึง แม้แต่ป้ารุ้งแพงของหล่อนที่ว่าแน่ ยังห้ามไม่ได้ก็แล้วกัน
เพราะ ยามดีเริ่มทิวาก็แสนดี แต่หากได้ร้าย หล่อนก็พอตัวทีเดียว แฟนเก่าเขาที่พยายามหาเรื่องหล่อนยืนยันได้ทุกคน

ต่อสู้ฝ่าฝันอุปสรรค ปัญหา คำครหา คำสบประมาท จนกำหนดวันวิวาห์ แต่ก็เกิดเรื่องร้าย
แล้วการที่หล่อนจากไป มันเป็นความผิดเขาทั้งหมด เขาจึงขี้ขลาดที่จะทนทุกข์อยู่กับคนรอบข้าง และสภาพแวดล้อมที่เคยอยู่ร่วมกับหล่อน

แต่การหนีก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาอีกต่อไป เมื่อรวีคิดจะรื้อฟื้นเรื่องนี้
เขายอมไม่ได้หรอกที่จะให้หญิงสาวสุดที่รักต้องมาแปดเปื้อนเพราะอดีตอันน่าอดสูนั้น


จากวันนั้น เมฆาก็ไม่มาเยี่ยมรวีอีก เพราะพ่อเลี้ยงเอนกพาลงกรุงเทพ นัยว่าจะเริ่มงานให้เร็วที่สุด ทิ้งหลานอีกคนดูแลตัวเอง จนอรุณงามที่กลายมาเป็นพยาบาลจำเป็นอดสงสัยไม่ได้ แต่รวีกลับเห็นเป็นเรื่องดี ใครไม่มาเขาก็ไม่เดือดร้อน

“ดีกับคุณเสียอีก จะได้ไม่ต้องตอบคำถามลุงผม”

ก็ถ้าพ่อเลี้ยงเอนกมา หล่อนก็ไม่มานั่งเฝ้าเขาหรอก แต่นี่เขาก็ไม่มีใคร อรุณงามก็จำเป็นต้องดูแล จนวันนี้จะออกโรงพยาบาล

“ลูกน้องคุณก็ไม่มาเยี่ยมเลยเหรอ ”

“ลูกน้องผมมาแล้วและผมสั่งไม่ให้มาอีกเพราะไม่อยากเป็นข่าว ส่วนเพื่อน ผมไม่ค่อยมีหรอก เพื่อนน้อย”

“เหรอ แล้วรายชื่อที่ฉันให้คุณวันนั้น คุณอ่านหรือยัง” วันที่เจอเมฆาหล่อนตั้งใจเอารายชื่อคนที่น่าสงสัยให้อ่าน แต่สภาพเขาก็ยังอ่อนแออยู่ หล่อนจึงให้เขาอ่านหลายวันต่อมา

“คุณเล่นเอาชื่อผมไปรวมด้วย แบบนี้มันไม่ยุติธรรมนา”

“ทิวามีแต่คนรุมรัก จะมีคนเกลียดก็คงเพราะเธอจะแต่งกับเมฆา ฉะนั้นคนที่ทำร้ายเธอต้องเป็นคนที่เธอรู้จัก”

“คุณตีความคำว่า ทำร้าย ในกระดาษแผ่นนั้น ว่าอะไร” รวีนั่งบนเตียงพิงหมอน ความเจ็บปวดบรรเทาไปแล้ว แผลฟกช้ำก็ดีขึ้น

อรุณงามชะงัก

“คุณคิดว่าไงล่ะ”

“ผมก็คิดอย่างเดียวกับคุณ”

“รู้ได้ไงว่าฉันคิดอะไร”

“ข้อความในกระดาษนั้น ผมเดาว่าหมายถึงทำร้ายทางเพศ แล้วดาเรศก็บอกว่าเธอท้อง”

“เชื่อได้แค่ไหนก็ไม่รู้”

“เชื่อไม่เชื่อก็ต้องพิสูจน์กันไป”

“ใช่ ว่าแต่คุณคิดจะคุยกับเมฆาเมื่อไหร่”

“รอให้ผมออกจากโรงพยาบาลก่อน ตอนนี้ดูทีท่ามันไปเรื่อยๆ”

“ถามเขาโต้งๆ เขาจะตอบหรือ”

“อืม คุณ นี่ผมไม่ใช่นายเมฆานะ จะได้บอกคุณได้”

“คุณรวี ฉันแค่ชวนคุย”

“คุณคิดมากต่างหาก เอาน่า ไม่กี่วันเอง”

ไม่กี่วันที่แสนจะระทึกใจ ถ้าป้ากับพี่ชายรู้ว่าหล่อนกำลังขุดคุ้ยเรื่องเริ่มทิวาละก็ ป้าได้มาลากคอหล่อนกลับแทบไม่ทัน แต่ก็ไม่หรอกมั้ง ไล่หล่อนออกจากบ้านขนาดนั้น ป้าคงไม่สนใจว่าหล่อนจะไปหัวหกก้นขวิดอยู่ที่ไหน แต่พี่ตะวัน ก็น่าจะออกมาตามบ้าง หรือเขาจะกลัวป้ารุ้งแพงจนไม่สนใจน้องสาวคนเดียว

“คิดอะไรอยู่” คนเจ็บถามเสียงอ่อนโยน ด้วยเห็นสีหน้าหมกมุ่น และอาการใจลอย

“เปล่า อ้อ แล้วหมอให้คุณออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่”

“มะรืนนี้”


จนวันมะรืนมาถึง อรุณงามก็ไม่ได้รับการติดต่อจากป้าหรือพี่ชาย ส่วนรวีนั้นลุงมาเยี่ยมเขาอีกครั้ง และบอกเขาเรื่องการย้ายที่อยู่

“จะให้ลูกน้องมาช่วยขนของ”

“ถ้าอย่างนั้นฉันขออยู่ที่คอนโดต่ออีกสักพัก จนกว่าจะหาหอได้”

“ไม่ได้นะหนู ตอนนี้ตัวคนเดียวไปอยู่กับเจ้าวีนั่นแหละดีแล้ว”

แต่ว่า พ่อเลี้ยงคะ หนูเป็นผู้หญิงนะคะ ถึงแม้จะแกล้งเป็นแฟนกันแต่หนูก็ไม่อยากไปอยู่กับเขา

“แต่ว่า”

“จนป่านนี้แล้ว ไปอยู่กับเจ้าวีนั่นแหละ จะได้คอยดูแลมัน แล้วก็ช่วยกันทำงานที่บริษัท”

จนป่านไหน อรุณงามหันขวับไปมองรวีด้วยความไม่พอใจ ซึ่งเขาก็ทำหน้ายิ้มๆ

อรุณงามทำปากขมุบขมิบว่า “ฉันไม่ไป”

“คุณคิดว่าผมจะยอมให้แฟนไปนอนข้างถนนหรือไง อรุณ ดื้อไม่เข้าเรื่อง”



รวีกลับเข้าทำงานได้สองสามวันแล้ว แต่อรุณงามแม้รับปากว่าจะทำงานกับเขาแต่หล่อนก็อ้างว่ายังไม่พร้อม ใช่ว่าเขาจะรู้ไม่ทัน เรื่องที่หล่อนยังตระเวนหางานอยู่ แต่เขาก็ไม่อยากตอแย
เช้านี้มีซองจดหมายระบุชื่อผู้รับว่าเป็นรวี วางอยู่ที่ประตูบริษัท แต่ไร้นามคนส่ง พนักงานเอามาให้อย่างกล้าๆ กลัว

“เชื้อโรคชีวภาพหรือเปล่าคะ พ่อเลี้ยง”

“พูดบ้าๆ เราไม่ได้มีศัตรูที่ไหน” เขาว่าให้ พลางเปิดดูอย่างไม่กลัว

มันเป็นกุญแจดอกหนึ่งเท่านั้นเอง พร้อมกระดาษแผ่นเล็กๆ เขียนด้วยลายมือโยกโย้เหมือนเด็กหัดเขียนว่า

“กุญแจรั้วให้อรุณงาม เย็นนี้ป้าไม่อยู่”

รวียิ้มในใจ คงเป็นพี่ชายหล่อนที่เอามาวางไว้ จึงรีบโทรศัพท์ไปหาอรุณงาม

“แสดงว่าพี่ตะวันรู้ว่าฉันอยู่กับคุณ คงอยากให้ไปเอารถ แต่ฉันไม่ไปหรอก”

“ทำไมล่ะ”

“เขารู้ว่าฉันอยู่กับคุณ แต่ทำไมไม่เอามาให้กับมือ ในเมื่อไม่อยากเจอฉัน ฉันก็จะไม่ไปให้เจอ”

“คุณไม่อยากได้รถหรือ หรือว่าไม่ใช่รถคุณ”

“ใช่ ผ่อนมาตั้งหลายปีแล้ว คิดถึงมันเหมือนกัน”

“ถ้าพี่ชายคุณเอากุญแจให้ ก็หมายความว่า เขาเปิดโอกาสให้คุณกลับบ้าน ไปขอโทษป้า”

“ฉันไม่ไป” หล่อนยืนยันหนักแน่น ร้อยไม่ไป พันไม่ไป หมื่นก็ไม่ไป

รวีถอนหายใจ ดื้อเหมือนกันผู้หญิงคนนี้

“งั้นก็ไปเอารถคืนมาก่อน”

“ฉันอยากได้คืน แต่ฉันไม่อยากกลับไปเอาตอนนี้”

“งั้นผมไปเอาให้”

“จะดีหรือ ถ้าคุณเจอพี่ตะวันหรือป้าล่ะ”

“ไม่เห็นเป็นไร ผมจะได้ถือโอกาสแนะนำตัว” เขาว่าขันๆ แต่คนปลายสายคงไม่ขำด้วย เพราะหล่อนวางสายไปเลย


ตกเย็น เขาไปเอากุญแจรถอรุณงามที่บ้านและให้ลูกน้องขับรถไปส่งที่บ้านป้ารุ้งแพง บ้านปิดไฟทุกดวง เหลือแต่แสงไฟจากมุมถนน และแสงไฟจากโคมหน้าบ้านตรงข้าม เขาใช้กุญแจที่ได้มาไขประตูรั้ว และเปิดประตูออกกว้าง ก้าวเข้าไป เปิดประตูรถ กำลังจะสตาร์ท ก็มีเสียงรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน ป้ารุ้งแพงลงมาจากรถและยืนมองเขานิ่ง

เงียบงันกันไปทั้งสองคน จนแม้แต่เข็มสักเล่มตกบนพื้นก็คงได้ยินเสียงมันกระทบพื้นเป็นแน่

“เข้าไปคุยในบ้านก่อนดีไหม รวี” น้ำเสียงนั้นสงบและนิ่ง

แสดงว่าท่านยังจำเขาได้ รวีรับคำ อย่างน้อยท่าทางเบื้องนอกของท่านก็ดูเป็นมิตร ทีแรกยังนึกว่าจะโดนตะเพิดเสียอีก

“เอากุญแจรั้วมาจากไหน”

“มีคนฝากไปให้ที่บริษัทครับ ผมเลยมาเอารถให้เธอ”


ท่านพยักหน้า ไม่ดุด่าว่ากล่าว หรืออรุณงามจะเดาผิด คนที่ส่งกุญแจรั้วไปให้อาจจะเป็นป้ารุ้งแพงเอง

“ทำไมอรุณงามไม่มาเอาเอง”

“เธอกลัวคุณป้าโกรธครับ เลยคิดว่าไม่ควรพบกันดีกว่า”

“ปีกกล้าขาแข็ง” ท่านพึมพำ รวีนึกในใจว่าก็ใครเล่าขับไล่ไสส่ง

“แต่คนที่ทำให้อรุณต้องออกจากบ้านคือคุณป้าไม่ใช่หรือครับ”

“มันเป็นเรื่องภายในครอบครัวของเรา คนนอกโดยเฉพาะตระกูลของคุณ ไม่ต้องมายุ่ง”

“แต่ผมเกรงว่า คงต้องยุ่งแล้ว เพราะตอนนี้อรุณงามอยู่กับผมที่บ้าน ในฐานะคนรัก”

สีหน้าของท่านตกตะลึง ก่อนจะปรับสีหน้าได้ทัน จนรวีอดสงสัยไม่ได้ ผู้ใหญ่อย่างป้ารุ้งแพง แค่หลานสาวหนีเที่ยว ยังไล่ออกจากบ้าน แล้วนี่หลานสาวไปอยู่กับผู้ชาย ท่านน่าจะแสดงอาการมากกว่านี้

“มันไม่รักดี หนีตามผู้ชายไปจะเป็นจะตายยังไง ฉันก็ไม่สนใจหรอก”

“อรุณงามไม่ได้หนีตามผม แต่ไม่มีที่อยู่ ผมในฐานะแฟน ก็ต้องดูแลเธอเป็นธรรมดา”

“แล้วพ่อเลี้ยงเห็นด้วยหรือ ไหนทำท่ารังเกียจคนบ้านนี้เต็มประดา”

“คุณลุงไม่เคยรังเกียจใคร นะครับ แล้วท่านก็เอ็นดูอรุณมาก เหมือนที่เคยเอ็นดูทิวา”

ชื่อเริ่มทิวาทำให้ท่านสะดุ้งเฮือก ราวใครเอาเข็มมาแทงทั้งร่าง ท่านเบือนหน้าหนีรวีทันที

“อย่ามาเอ่ยชื่อหลานฉันให้ได้ยินอีก”

“ผมจำเป็นต้องพูดครับ บอกตามตรง คุณลุงท่านเอ็นดูอรุณก็จริง แต่ท่านยังตะขิดตะขวงใจเรื่องเริ่มทิวา ท่านกลัวเรื่องจะซ้ำรอย”

“นายเมฆาทิ้งหลานฉัน ทำให้ทิวาตายทั้งเป็น ก่อนจะพาไปรถคว่ำตาย” เสียงท่านสั่นเครือ น้ำตาปริ่มขอบตา

“แต่ลุงผมคิดอีกอย่าง เรื่องนี้พูดกันกี่ที ก็วนที่เดิม ผมกับอรุณงามจึงคิดจะสืบความจริง เอาให้มันรู้กันไปเลยว่า ทิวาหรือเมฆาที่ผิด”

“นายเมฆานั่นแหละผิด” ท่านลุกยืนชี้หน้า สีหน้าเกรี้ยวกราด ท่าทีสงบนิ่งหายไปในบัดดล

“แกล้งทำเป็นรักเพราะอยากได้ตัวทิวา พากันหายไปสองต่อสอง พอกลับมามันก็ทิ้งหลานฉัน ให้ท้องไม่มีพ่อ แล้วก็มาพาไปตายท้องกลม”

รวีสะดุ้งสุดกาย ป้ารุ้งแพงรู้ว่าทิวาท้อง

“ทิวาท้องหรือครับ” เขาแกล้งทวนคำ

“ใช่ ฉันอุตส่าห์ปิดบังมาตั้งสองปี แม้แต่อรุณงามก็ไม่รู้กลับไปบอกกันด้วยนะว่าระวังจะซ้ำรอยทิวา คนอย่างคุณคงจะได้แล้วทิ้งเหมือนกัน ฉันจะรอสมน้ำหน้า วันที่อรุณงามซมซานกลับมา”
..............................................................................

natee - เป็นอาการเดียวกะชิตา แต่ชิตาไม่ว่าจะนิยายแนวไหน ต้องเปิดท้ายเรื่องก่อนทุกครั้ง อิอิ

an-o - นั่นน่ะสิ

บุษ - ขอบคุณค่ะ

หมูบิน - ^_^

.........................................................................

อากาศเริ่มดีขึ้น ไม่หนาวบาดเนื้ออีกต่อไป
ผู้อ่านทุกท่านระวังสุขภาพด้วยนะคะ

ชิตา


โดย : ชิตา วันที่ : [ 18 มี.ค. 2554 ] 20:58:06 น.




>> ความคิดเห็นที่ 1

เอ คุณป้ารู้ว่าทิวาท้อง แต่ไม่รู้รึไงว่าใครเป็นพ่อเด็ก
พี่ตะวันล่ะ จะรู้ไหม

นอนหลับห่มผ้าด้วยนะค๊า
โดย : an-o [ 18 มี.ค. 2554 ] 22:54:46 น.




>> ความคิดเห็นที่ 2

มาไวดีจังค่ะ :)
โดย : natee [ 18 มี.ค. 2554 ] 22:58:40 น.




>> ความคิดเห็นที่ 3

สนุกค่ะ รอค้นหาความจริงกันต่อไป
โดย : บุษ [ 19 มี.ค. 2554 ] 02:54:04 น.




>> ความคิดเห็นที่ 4

ขยันลงจังเลย เขียนให้คนอ่านงงด้วยป่าวนี่ กำลังเดาตัวคนร้าย
โดย : ตุ๊งแช่ [ 19 มี.ค. 2554 ] 08:51:28 น.






ชิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 เม.ย. 2554, 21:40:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 เม.ย. 2554, 21:40:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1744





<< ๙   ๑๑ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account