แรงรักทวงแค้น by อัญจรี
“ฉันอยากรู้จังว่าทำไมเจ้าสัวเมฆินทร์ถึงส่งเธอมาขลุกอยู่บนเตียงของฉัน หรือเจ้าสัวผู้มากวัยไร้เรี่ยวแรงจนเตะปี๊บไม่ดัง เลยต้องหาที่ระบายให้เด็กในสังกัด และฉัน! ก็ดันเป็นไอ้โง่ผู้โชคดี ตอนนี้ผัวแก่ของเธอมีแรงแล้วรึ! ถึงรีบกลับไปหากันแม่นางกากี วันทอง สองผัว ผู้หญิงเลว! เป็นเมียฉันคนเดียวไม่พอ เผลอหน่อยเดียวระริกระรี้กลับไปหาคู่ขาเก่า รสชาติเป็นไงล่ะถึงอกถึงใจอย่างที่ฉันเคยปรนเปรอให้รึเปล่าฮะ!”
เผียะ!!!
“ฟังนะวาคิม! ฉันว่าสมองของคุณมันคงด้อยพัฒนา ถึงคิดได้แต่เรื่องต่ำๆใต้สะดือ”
เกล็ดมุกตอกกลับทันที
วาคิมฉุนจัด
“ฉันอยากรู้จริงๆ ผู้ชายคนนั้นซื้อเธอด้วยอะไร! เธอถึงได้กล้าไปจากฉันฮะ!”
“ความรักไง! วาคิม! เขาซื้อฉันด้วยความรัก+แต่คุณซื้อฉันด้วยเงิน!”
Tags: ฝากงานเขียนเล่มแรกในชีวิตด้วยจ้า ^_^

ตอน: บทที่ 3 แผนพิศวาส (มีฉากโรมานซ์ด้วย ถ้ามากไปก็ช่วยเม้นบอกด้วยค่ะ)

บทที่ 3
แผนพิศวาส
ตัดฉากอัศจรรย์ตรงนี้จ้า ^_^

นาฬิกาที่หัวเตียงบอกเวลาเกือบเที่ยงคืน แผ่นหลังกว้างสะท้อนขึ้นลงตามแรงหายใจที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ เขาคงหลับลึกไปนานแล้ว ฝ่าเท้าเรียวยาวก้าวลงจากเตียงนอนอย่างแผ่วเบา หล่อนเดินเลียบเคียงคลำทางไปยังห้องน้ำ ด้วยแสงจากโคมไฟดวงน้อยข้างประตูทางเข้า
ยาคุมกำเนิด ทุกเม็ดถูกโปรยลงในโถชักโครกช้าๆ ก่อนที่นิ้วเรียวจะกดน้ำซ้ำอีกสองรอบ หญิงสาวอยากมั่นใจว่ามันจะลงไปข้างล่างทุกเม็ด ก่อนที่หล่อนจะโยนแผงเปล่าลงในถังขยะ
‘คุณป๋าขา เฮียเมฆขาหนูเล็กขอโทษอีกครั้ง ถ้าวันหนึ่งที่หนูเล็กต้องกลับบ้านจริงๆ นอกจากหัวใจที่บอบช้ำ หนูเล็กขอลูกน่ารักๆ จากเขาสักคนนะคะ คุณวาขามุกขอโทษที่ผิดสัญญา แต่มุกขอสาบานว่าจะไม่ร้องขอ ความรับผิดชอบใดๆ จากคุณเลย’
เกล็ดมุกไม่เพียงแค่สัญญา แต่หล่อนยึดถือเป็นสัจจะ ว่าต้องทำให้ได้อย่างใจนึก

ใบหน้าสดสวยงอง้ำอย่างขัดใจ เมื่อพยายามเป็นครั้งที่ร้อยแล้ว แต่เพื่อนสาวที่รักยังไร้ร่องรอย มือเรียววางโทรศัพท์เครื่องหรูลงบนโต๊ะอย่างกระแทกกระทั้น หล่อนอุตส่าห์วางแผนกลับเมืองไทยก่อนกำหนด เพื่อมาเซอร์ไพรส์เพื่อนรัก แต่อีกฝ่ายกลับติดต่อไม่ได้ วารินทร์นึกเคืองสมองกลวงๆ ของตัวเองอยู่เหมือนกันที่ไม่ยอมซักถามประวัติแม่เพื่อนรักให้ดี หล่อนเลยต้องมานั่งอารมณ์เสียอยู่อย่างนี้
ใบหน้าสดสวยงอง้ำ แต่มือเรียวไม่ยอมละเลยเจ้าเค้กวานิลาสุดโปรดตรงหน้า หล่อนยังเพียรตักมันเข้าปากคำแล้วคำแล้ว ดวงตาช่างสังเกตกวาดมองไปรอบๆ ร้าน ดีที่วันนี้มิใช่วันหยุด หญิงสาวจึงไม่ต้องลำบากแย่งโต๊ะที่นั่งกับพวกเด็กวัยรุ่น ซึ่งชอบมานั่งจนแน่นขนัดที่ร้านเค้กชื่อดังแห่งนี้
นัยน์ตาสีนิลคู่สวยหรี่ลงเล็กน้อย เมื่อหล่อนต้องเพ่งพินิจไปที่มุมหนึ่งของร้าน บุรุษร่างหนากำยำ เจ้าของหนวดเครารกรุงรัง เขานั่งนิ่งเป็นรูปสลักราวกับรอคอยอะไรบางอย่าง ชุดคาวบอยเต็มยศที่เขาสวมมันทำให้เขาแปลกประหลาดจากคนอื่นๆ มันช่างเข้ากับบรรยากาศ ร้านเค้ก เสียนี่กระไร หญิงสาวแดกดันเขาอยู่ในใจ หล่อนพาลไปทั่วเพราะอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเอง
ใบหน้าที่อุดมด้วยหนวดเครารกครึ้ม ทำให้หญิงสาวต้องชอนไชสายตา เพื่อค้นหาความหล่อเหลาของพ่อคาวบอย แก้เซ็ง จมูกก็โด่งคมสันพอดิบพอดี ไม่ขาดไม่เกิน ริมฝีปากหยักถูกซ่อนไว้ใต้เคราหนา หล่อนมองเห็นเพียงรำไร และนัยน์ตาเขา น่าเสียดายหล่อนคงเห็นมันแน่ๆ หากไม่มีเจ้าแว่นตาสีชามาขวางกั้น
วารินทร์สะดุ้งเฮือก หล่อนรีบยืดตัวนั่งตรงแล้วเสมองไปทางอื่น เมื่อพ่อคาวบอยร่างบึกบึนขยับแว่นสีชามองสวนกลับมาอย่างรู้ทัน คุณน้องวาคนงามแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ เรื่องโมเมเฉโกล่ะก็ถนัดที่สุด ถึงแม้ว่าหล่อนจะแอบมองเขาอยู่ แต่จะให้ยอมรับนั้นหรือ ไม่มีวันเสียหรอก
หญิงสาวรอคอยจนกระทั่งชายหนุ่มก้าวขายาวๆ ของเขา เดินผ่านหน้าหล่อนออกไปจากร้าน นั่นแหละคุณหนูคนสวยแห่ง GB จึงได้ผ่อนลมออกจากปากอิ่มเต็งตึงอย่างโล่งอก โล่งใจ
“น้องคะ” เธอเรียกพนักงาน ขณะมือเรียวหยิบเครดิตการ์ดแบบไม่จำกัดวงเงินมาส่งให้
“ขอโทษครับ โต๊ะนี้เคลียร์บิลเรียบร้อยแล้วครับ” คำตอบของพนักงานหน้าตี๋ทำเอาคนสวยงงเป็นไก่ตาแตก หล่อนหันไปมองที่โต๊ะเดิมของพ่อคาวบอย
‘คงไม่ใช่หรอกน่า ไม่รู้จักกันสักหน่อย แล้วจะมาเลี้ยงทำไม’
พนักงานหนุ่มมองตามสายตาของลูกค้าคนงาม ก่อนที่เขาจะตอบยิ้มๆ ว่า
“ใช่ครับ พี่ที่ใส่ชุดคาวบอยนั่นแหละครับ เป็นคนจ่ายเงิน แล้วก็...” หล่อนเอื้อมมือไปรับกระดาษแผ่นน้อยจากมือของพนักงานหนุ่ม แล้วรีบคลี่ออกอ่านเมื่อเขาผละไป

พี่ชายเธอทำฉันเจ็บเหลือเกิน วารินทร์ มันคงไม่มีหัวใจถึงรักใครไม่เป็น หัวใจน้ำแข็งของมันด้านชาจนทำร้ายคนที่มันรักให้เจ็บช้ำ ฉันหวังว่าสักวันจะได้เห็นพี่ชั่วๆ ของเธอได้รับการลงทัณฑ์ที่สาสม เพราะฉะนั้นเตรียมตัวเอาไว้ให้ดี วารินทร์! เธอคือคนสำคัญที่ฉันจะใช้เฉือนหัวใจ ไอ้วาคิม อีกไม่นานเกินรอ นางบำเรอของฉัน
เมฆา
วารินทร์อ้าปากค้างเมื่ออ่านจบ มันเรื่องบ้าอะไรกันนี่ เธอกำลังเผชิญกับอะไรกันแน่ ผู้ชายโรคจิตคนหนึ่ง เกมทางธุรกิจของพี่ชาย หรือว่ามีอะไรมากกว่านั้น หล่อนอยากจะกรีดร้องให้หายเจ็บใจ แต่ไม่หรอก ไม่มีทางเธอจะไม่โง่ขนาดนั้น เธอต้องมีสติ วารินทร์สั่งตัวเอง
หญิงสาวพยายามใจเย็นอย่างที่สุด สัมภาระบนโต๊ะถูกกวาดลงกระเป๋าราคาแพงระยับอย่างรวดเร็ว หล่อนคว้ามันมาคล้องแขนแล้วก้าวฉับๆ ออกจากร้าน ดวงตาคู่สวยยังสอดส่ายหาคู่กรณี ทว่าไร้วี่แวว วารินทร์มั่นใจว่าพ่อคาวบอยโรคจิต เขายังอยู่แถวนี้เพื่อรอสะใจกับท่าทีตื่นตระหนกของเหยื่อสาว แต่ฝันไปเถอะ คุณหนูวารินทร์ไม่ได้โง่ขนาดนั้น หล่อนไม่มีทางเป็น เหยื่อ อย่างแน่นอน
หางตาของวารินทร์แลเห็นปีกหมวกคาวบอยแวบๆ ที่มุมหนึ่งของร้านหนังสือที่อยู่เยื้องออกไปจากร้านเค้กแห่งนี้ แล้วพลันรอยยิ้มอย่างผู้ชนะก็ผุดพรายเต็มวงหน้าเรียวงาม หล่อนก้าวเดินต่อไปด้วยความสะใจ บ่าตั้ง หลังตรง ใบหน้าเชิดน้อยๆ อย่างคุณหนูผู้ดื้อรั้นไม่ยอมคน

ที่มุมหนึ่งของร้านหนังสือชื่อดัง เมฆาก้าวออกมาจากที่ซ่อนด้วยความคับแค้นใจ ยัยคุณหนูไฮโซนิ่งกว่าที่เขาคิดไว้ ไม่ได้ดั่งใจจริงๆ เขานึกว่าจะได้เห็นอะไรสนุกๆ แต่เปล่าเลย! เจ้าหล่อนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงได้เต้นเป็นเจ้าเข้า บางทีพวกหล่อนอาจจะวิ่งโร่ไปแจ้งตำรวจด้วยซ้ำ เห็นทีว่าสงครามประสาทคงใช้ไม่ได้ผลกับยัยคุณหนูนี่ หึๆ ร้ายจริงนะ ทั้งพี่ทั้งน้อง น่าเจ็บใจนัก ฮึ่ม!

เช้าวันจันทร์ที่สดใสที่สุด สำหรับเกล็ดมุก มันเป็นเพราะโต๊ะทำงานตัวใหม่นี่เอง มันไม่ได้ใหม่ด้วยการซื้อหา แต่มันใหม่เพราะตำแหน่งที่ตั้งของมันต่างหาก
“เป็นยังไงหนูมุก ถูกใจไหม เอาอะไรเพิ่มรึเปล่า” ท่านวัลลภเอ่ยถาม อดีตเลขา ด้วยความเอ็นดู
“อืม...ไม่เอาแล้วค่ะ มุกแค่มาทำแทนพี่วาสนาไม่กี่วัน ไม่ต้องเปลี่ยนให้วุ่นวายหรอกค่ะลำบากคุณอาเปล่าๆ” เธอออกตัวด้วยความเกรงใจ นึกขอบคุณบุรุษมากวัยเป็นล้นพ้น ที่ช่วยให้เธอได้ทำงานตำแหน่งนี้ แทนคนเก่าที่ประสบอุบัติเหตุ ถึงแม้จะแค่ชั่วคราวก็เถอะ
“ก็ไม่แน่หรอก หนูมุกทำงานเก่ง ดีไม่ดีอาจได้ทำต่อเลยก็ได้”
‘ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีสิคะคุณลุง มุกจะได้คอยสกัดดาวรุ่ง บรรดาสาวๆ ของคุณวาให้กระเด็นไปไกลๆ โดยที่เขาไม่รู้ตัว’ หญิงสาวคิดในใจ หล่อนยิ้มสดใสให้กับท่านวัลลภ
การสนทนามีอันยุติลง เมื่อคนที่อยู่ในห้องเรียกให้ชายสูงวัยเข้าพบพร้อมๆ กับเลขาคนใหม่ของเขา
หญิงสาวรวบแฟ้มมาแนบอก ก่อนจะก้าวไปเปิดประตูให้ท่านวัลลภ อย่างน้อยเวลาอีกไม่กี่เดือนที่เหลือ หล่อนก็จะได้อยู่ใกล้ชิดเขามากขึ้น เกล็ดมุกถามตัวเองว่าเห็นแก่ตัวมากไปรึเปล่า เพราะตอนนี้หล่อนกำลังภาวนา ให้พี่วาสนาอย่าเพิ่งถอดเฝือกเลย อยากให้พี่เค้านอนเล่นที่โรงพยาบาลสักเดือนสองเดือนยิ่งดี

สตรีร่างสูงโปร่งในชุดรัดรูปสีเพลิง ก้าวขาฉับๆ มาหยุดที่โต๊ะทำงานของเกล็ดมุกด้วยความมาดมั่น รองเท้าส้นสูงปานเสาไฟฟ้าของเจ้าหล่อน ตกกระทบพื้นเป็นจังหวะ เสียงดังจนแสบแก้วหู
‘นึกว่าเป็นเวทีนางแบบ รึแม่คุณ ไม่ต้องกรีดกรายขนาดนั้น ฉันก็รู้แล้วล่ะว่าหล่อนเป็นใคร’
“สวัสดีค่ะ มาพบท่านประธานได้นัดไว้รึเปล่าคะ” เกล็ดมุกถามออกไปอย่างสุภาพที่สุด อย่างไรเสียตอนนี้ เธอก็อยู่ในเวลาทำงาน สมควรทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
“นี่หล่อน เธอเป็นเลขาใหม่ใช่ไหม ถึงไม่รู้จักฉัน แม่วาสนาเลขาคนเก่าเค้าไม่บอกรึไง ว่าฉันเป็นใคร แต่ไม่เป็นไรฉันจะบอกเธอเองว่าฉัน แพรวรุ้ง ว่าที่คู่หมั้นของเจ้านายเธอยังไงล่ะ รู้แล้วก็ช่วยจำใส่สมองกลวงๆ ของเธอไว้ซะ คราวหน้าจะได้ไม่ต้องถาม ว่าฉันมีธุระอะไรถึงมาพบเจ้านายเธอ เพราะสำหรับฉัน ไม่จำเป็นต้องมีธุระก็เข้านอกออกในที่นี่ได้ตลอดเวลา รู้ไว้ซะด้วย” นางแบบสาวยิ้มเย้ยก่อนจะผลักประตูห้องเข้าไป

“ผมคิดว่าที่ทางเพิร์ลเสนอมา น่าสนใจมากๆ ราคาสูงไปนิด แต่ของเค้ามีคุณภาพจริงๆ ที่สำคัญหากเราต้องการเพชร พลอย มรกต หรือว่าทับทิมเค้าก็สามารถหาให้เราได้โดยง่าย ไม่ใช่มีแค่ไข่มุกเพียงอย่างเดียว หากเราเป็นคู่ค้ากับเค้าอนาคตข้างหน้า ราคา อัญมณีเหล่านี้ ผมเชื่อว่าต้องสามารถซื้อได้ ในราคาที่ถูกกว่านี้แน่นอน ที่สำคัญเราไม่ต้องไปแย่งวัตถุดิบในตลาดให้วุ่นวายด้วย” ท่านวัลลภเสนอแนะ
“ผมก็เห็นด้วย แต่ถ้าสามารถซื้อในราคาที่ต่ำกว่านี้ได้ บริษัทก็จะได้กำไรมากขึ้น ผมขอเวลาอีกสองวันก็แล้วกัน ถ้าในสองวันนี้มีบริษัทอื่นเสนอราคามาอีก เราค่อยมาดูกันอีกทีก็แล้วกัน” เขาตอบเรียบๆ มีเพียงหัวคิ้วที่ขมวดมุ่นเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเขากำลังใช้ความคิด อย่างหนัก
“เซอร์ไพรส์!ค่ะวาขา แพรวมาชวนวาไปหาอะไรทานด้วยกัน ไปกันเลยไหมคะ” นั่นไงล่ะแพรวรุ้งตัวจริง หล่อนไม่เคยถามเขาสักคำว่าอยากไปกับหล่อนรึเปล่า แถมยังทำเป็นลืมมารยาทผู้ดี เดินเข้าห้องเขาโดยไม่เคาะประตูด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่ามารดาของหล่อนเป็นเพื่อนกับมารดาเขาล่ะก็ เขาไม่มีทางควงหล่อนให้เสียเวลาแน่ๆ เกล็ดมุกก็เหลือเกินปล่อยให้เข้ามาได้ยังไง หล่อนรู้ทั้งรู้ว่าเขากำลังคุยเรื่องงานอยู่แท้ๆ
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายสูงวัยได้ที ท่านถือโอกาสปลีกตัวออกจากห้องของบอสใหญ่ หางตาของคนสูงวัยปรายไปยังนางแบบรุ่นลูก แล้วก็ต้องส่ายศีรษะอย่างระอา นี่หรือว่าที่นายหญิงของ GB นอกจากราศีที่แดงเถือกเปล่งออกมาจากชุดที่คุณเธอสวมแล้ว หล่อนยังห่างไกลคำว่า สวยสง่า อีกหลายล้านปีแสงเชียวล่ะ ท่านคิดอย่างขันๆ ในใจก็หวังว่าในอนาคต ท่านคงไม่ได้เรียกนางแบบสาวคนนี้ว่า นายหญิง จริงๆ หรอกนะ

ขณะที่เกล็ดมุกกำลังรวบรวมเอกสาร ที่จะใช้ในการประชุมของวันพรุ่งนี้ ประตูห้องบอสใหญ่ที่ปิดไว้เกือบครึ่งชั่วโมง หลังจากท่านวัลลภออกไปก็เปิดออกในที่สุด ร่างสวยสะคราญของนางแบบหุ่นเพรียวลม แต่อวบอัดแนบชิดคลอเคลียอยู่ในวงแขนของเขา
เกล็ดมุกมองภาพนั้นแล้วปวดหัวใจยิ่งนัก เธอไม่ได้หึงหวงผู้หญิงคนนี้ แต่เธออิจฉาต่างหาก เธออิจฉาที่หล่อนได้อยู่ในอ้อมแขนของชายที่รัก ในทุกๆ ที่ที่หล่อนต้องการ ในขณะที่อ้อมแขนของชายที่เธอรัก เขามีให้เธอเฉพาะตอนที่อยู่ บนเตียง
“ฉันจะไปข้างนอกกับคุณแพรว นัดตอนบ่ายเลื่อนไปวันพรุ่งนี้” เขาสั่งเรียบๆ ตามแบบฉบับของเขาแล้วเดินเคียงคู่กันออกไป ไม่รอฟังคำขานรับของเกล็ดมุกด้วยซ้ำ นัยน์ตาเศร้าหมองมองตามร่างของคนทั้งสองไม่วางตา เมื่อไรหนอเธอถึงจะมีโอกาสได้เดินเคียงคู่กับเขาอย่างนี้บ้าง เมื่อไรกัน

คุณหญิงวารีฉีกยิ้มกว้าง ด้วยความพออกพอใจ เมื่อเห็นข่าวซุบซิบในหนังสือซุบซิบดาราชื่อดังที่นางถืออยู่ในมือ มิเสียแรงที่นางเสียค่านักข่าวไปโข ภาพเด่นหราชัดเจนที่หน้าปกอย่างนี้คุ้มค่าจ้างจริงๆ
ในภาพมีบุตรชายของนางกำลังตระกองกอด บุตรสาวของเพื่อนนางแนบแน่นยามเดินออกมาจากผับไฮโซแห่งหนึ่ง ตามด้วยคำบรรยายใต้ภาพที่ถูกใจนางเหลือเกิน
‘หัวใจน้ำแข็งที่ว่าเย็นเยือกจับจิต ของบอสใหญ่แห่ง GB คงได้เวลาละลายจริงๆ แล้วคราวนี้ เพราะได้รับไฟรักที่อบอุ่น เข้าขั้นอบอ้าว เพราะความร้อนแรง ของนางแบบสาวสุดเซ็กซี่นามว่า แพรวรุ้ง อิงแอบแนบชิดไม่ห่างกาย
เห็นทีว่าว่าที่ลูกสะใภ้ของคุณหญิงวารี คงหนีไม่พ้นนางแบบสาวคนสวยคนนี้แน่ๆ แต่งเมื่อไหร่อย่าลืมบอกกันบ้างนะคะ คุณน้องแพรวรุ้งขา’
“อ่านอะไรอยู่คะคุณหญิง อ้อ...ที่แท้ก็ข่าวลูกตัวเอง มิน่าล่ะถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ รู้สึกอย่างไรบ้างล่ะคะคุณหญิงวารี ชิ...เสียเงินจ้างนักข่าวยังไม่พอ ต้องมาเสียเงินซื้อหนังสือเค้ามาอ่านอีก สบายตัวไหมคะคุณหญิงเจ้าขา...” ท้ายประโยคลากเสียงยาวจนคนฟังรำคาญ ต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากบุตรสาว
“อย่ามาแขวะแม่แต่เช้าน้องวา ถึงยังไงวันนี้แม่ก็ไม่โกรธ...เพราะว่าอารมณ์ดี” คุณหญิงพูดแล้วอมยิ้ม คนแขวะเลยหน้ามุ่ยเพราะไม่ได้ดั่งใจ คุณน้องคนงามกะว่าจะได้เห็นหน้าเง้างอนของมารดา ให้หล่อนได้ง้อแก้เซ็งเสียหน่อย เลยต้องมีอันพับเก็บความคิดนี้ไปโดยปริยาย
“ยังหาเพื่อนไม่เจออีกเหรอลูก...ให้กวินช่วยหาไหม เดี๋ยวแม่บอกพี่วาให้” นางเสนอความคิด เพราะหากเป็นมือขวาของบุตรชายแล้วล่ะก็เรื่องเท่านี้ไม่เกินความสามารถของเขาแน่ๆ อีกอย่าง นางชักรำคาญคุณน้องวาของบ้านเต็มทน เรียนจบตั้งแต่ปีที่แล้ว นางรึก็อุตส่าห์ผ่อนผันให้เที่ยวต่ออีกตั้งเกือบปี พอกลับมาแทนที่จะไปช่วยงานพี่ชายที่บริษัท แม่ลูกสาวจอมขี้เกียจกลับลอยไปลอยมา อ้างว่าเหนื่อยบ้างล่ะ ขอตามหาเพื่อนรักให้เจอเสียก่อนบ้างล่ะ ไม่รู้ว่าแม่ลูกสาวตัวดีจะเล่นแง่ไปถึงไหน
“คุณแม่ รู้นะว่าแอบนินทาในใจ” นั่นไงล่ะ ลูกสาวนางจริงแท้แน่นอนไม่มีหลอก
“น้องวาไม่อยากกวนพี่กวินนี่คะ รออีเมลจากเธออีกสักอาทิตย์ก็แล้วกันค่ะ ถ้าไม่เจอค่อยบอกคุณแม่อีกที”
“จะอะไรกันนักกันหนาลูก เพื่อนแค่คนเดียว”
“โธ่คุณแม่คะ เพื่อนคนนี้รักมากกก เลยนะคะ ตอนอยู่ที่อังกฤษถ้าไม่ได้เธอ น้องวาคงแย่ ทั้งซักผ้ารีดผ้าเอย ทำกับข้าวเอย น้องวาทำเป็นที่ไหน ถ้าเธอไม่คอยสอน คุณแม่ต้องรักเพื่อนคนนี้ของน้องวาให้มากๆ นะคะ เพราะว่าเธอช่วยทำให้สาวน้อยของคุณแม่ กลายเป็นกุลสตรีที่เพียบพร้อมขนาดนี้” อดไม่ได้เยินยอเพื่อนสาวให้มารดาฟัง นัยน์ตาเป็นประกายวับวับ ยามนึกถึงเพื่อนสาวที่แสนดีอย่าง เพิร์ล
“จ้าจ้ะ เชื่อแล้ว ว่าน้องวารับผิดชอบตัวเองได้ดีขึ้น ไม่ใช่เอะอะก็ร้องหาแต่พี่วาเหมือนแต่ก่อน แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ ภายในอาทิตย์นี้ถ้ายังหากันไม่เจอ ยังไงคุณน้องวาคนงามของแม่ ก็ช่วยย้ายหน้าสวยๆ กับสะโพกงอนๆ ของลูกเข้าออฟฟิซ ไปช่วยทำงานบ้างก็ดีนะคะคุณลูกขา
บางทีลูกอาจจะได้พบ เจ้าชายในฝันของลูกบ้างที่บริษัท ลูกค้าของพี่เขาหล่อๆ รวยๆ กันทั้งนั้น ลูกคงไม่อยากไปอยู่หมู่บ้านคานทอง ใช่ไหมลูก”
นางแขวะคืนบุตรสาวนิ่มๆ ในเรื่องที่เจ้าตัวขยาดสุดๆ นึกขอบคุณเพื่อนรักของบุตรสาวเป็นล้นพ้น ที่ทำให้สาวน้อยจอมแก่น กลายเป็นสาวงามน่ารักน่าทะนุถนอมได้ถึงเพียงนี้
“คุณแม่อ่ะ เลิกพูดเรื่องนี้ซะที น้องวาจะอยู่กับพี่วากับคุณแม่ ไม่แต่งงานจริงๆ นะ ส่วนเรื่องงานเนี่ยน้องวาก็ช่วยอยู่นา ก็เพิร์ลเพื่อนน้องวาน บ้านเค้าทำเหมืองหรือว่าทำฟาร์มอะไรสักอย่างนี่ล่ะ แต่น้องวาจำไม่ได้ น้องวาเลยอยากอุดหนุนของที่เธอมีนี่คะ แล้วคุณแม่คิดดูนะคะ บางทีน้องวาอาจจะซื้อเพชรพลอยดิบจากเพื่อนน้องวา ได้ถูกกว่าที่พี่วาซื้ออยู่ก็ได้...เห็นไหมคะ ว่าน้องวาทำงานอยู่” คนสวยทำหน้าทะเล้นเมื่อยกแม่น้ำทั้งโลกที่มี มาหว่านล้อมมารดา แต่ใครจะรู้ ว่าความจริงก็คือคนสวยของบ้านขี้เกียจทำงานจริงๆ นั่นล่ะ
“เหรอคะลูก เหนื่อยบ้างไหมเวลาหาข้ออ้างเนี่ย เฮ้อ...ลูกสาวฉัน ว่าแต่บริษัทของเพื่อนลูกชื่ออะไรนะ”
“ชื่อ...คือว่า...น้องวา น้องวาลืมถามค่ะคุณแม่” ตอบแล้วตีหน้าเศร้า
“เฮ้อ...แล้วเพื่อนลูกชื่ออะไรคะ เผื่อคุณหญิงคุณนายที่สมาคมจะพอรู้จัก”
“ชื่อเพิร์ลค่ะ ตัวเล็กๆ ขาวๆ ตาโตๆ นะคะคุณแม่” คุณหญิงวารีส่ายหน้าทันทีที่ได้ฟัง นางหมายถึงชื่อ ที่มีนามสกุลห้อยท้ายด้วยต่างหาก เพราะถ้าเป็นนามสกุลของบรรดาคนรวยละก็ คุณหญิงคุณนายที่สมาคมช่วยได้แน่นอน
“แม่หมายถึงชื่อจริง น่ะค่ะลูก” คุณหญิงวารีส่ายศีรษะอย่างระอา
“อ๋อ...ชื่อเกล็ดมุกค่ะ เกล็ดมุกนามสกุล นามสกุล”
หญิงสาวทำท่านึกอย่างตั้งใจ พลางเหลือบมองมารดา ที่เตรียมส่งค้อนให้เธอเป็นระยะๆ
“แหะๆ คือว่า...น้องวาจำไม่ได้ค่ะ” สุดท้ายเธอก็โดนมารดาค้อนให้วงเบ้อเร่อโทษฐานเป็นยายแก่ขี้ลืม ในเรื่องที่สมควรจำ
“โถ...ลูกสาวแม่ สมองปลาทองไม่เคยเปลี่ยน ถามจริงๆ เถอะอย่าโกรธกันนะคะคุณลูกขา ปริญญาทั้งสองใบที่ได้มา พี่เค้าแอบซื้อให้รึเปล่าลูก แม่ล่ะซึ้งใจจริงๆ เฮ้อ...งมเข็มในมหาสมุทรต่อไปก็แล้วกันนะคะ คุณน้องวาคนงามแม่ขอตัวไปหาว่าที่เจ้าสาวให้พี่เราก่อนก็แล้วกัน” พูดจบก็คว้าหนังสือเล่มบางที่อ่านอยู่ก่อนหน้าติดมือเดินออกไป ทิ้งให้บุตรสาวนั่งหน้าตูมอยู่เพียงลำพัง
วารินทร์ถอนหายใจอีกระรอกเมื่อลับร่างมารดา เธอไม่เถียงมารดาหรอกก็เธอมันสมองปลาทองจริงๆ นี่นา ถ้าตอนนั้นไม่ได้แม่พระผู้อารี อย่างคุณหนูเพิร์ลคนงามช่วยทำวิทยานิพนธ์ ป่านนี้เธอคงยังเรียนไม่จบแน่ๆ แต่เธอไม่มีทางบอกมารดาหรอกเพราะถ้าบอกไป คุณหญิงวารีคงได้ไล่เธอกลับไปเรียนอีกรอบแน่ๆ

เกล็ดมุกวางหนังสือเล่มบางลงบนชั้นด้วยมืออันสั่นเทา ภาพที่โชว์หราแทบไม่ต้องเดา ถึงความสัมพันธ์ของบุคคลทั้งสองในนั้น นี่เองคงเป็นสาเหตุที่ทำให้ระยะหลังๆ มานี้เขากลับดึกดื่น แถมยังมีกลิ่นน้ำหอมแปลกๆ ที่ไม่คุ้นชินติดตัวเขามาด้วย แค่คิดหญิงสาวก็อยากจะอาเจียนให้กับความโง่เง่าของตัวเอง อยากจะหลอกตัวเองต่อไปอีกสักหน่อย แต่คงไม่มีวันนั้นแล้วในเมื่อเขาเปิดตัวผู้หญิงคนนั้นในฐานะที่สำคัญ ที่หล่อนไม่อาจเอื้อม หัวใจเอ๋ยทำไมถึง...
“คุณมุก! คุณมุก! คุณมุกครับ...โธ่!”
ร่างสูงใหญ่ของบอดีการ์ดหนุ่มรีบตรงเข้าช้อนร่างอรชรของหญิงสาวทันที หล่อนเป็นลมล้มพับไปต่อหน้าเขา พลันสายตาที่ว่องไวประดุจเหยี่ยวของเขา ก็มองเห็นสาเหตุที่ทำให้หล่อนเป็นเช่นนั้น

“คุณมุกครับ คุณมุกครับ คุณ...” กวินหยุดเรียกเมื่อเห็นดวงตาที่ปิดสนิทเริ่มขยับและเปิดขึ้นในที่สุด เขาตัดสินใจแวะที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ให้หล่อนได้ผ่อนคลายร่างไร้สติยังคงนิ่งเงียบอยู่ที่เบาะหลังของรถ กระทั่ง
“คุณ...กวิน มุก...มุก” หญิงสาวพูดไม่ออกรีบยันกายลุกขึ้นนั่งเมื่อรู้สึกถึงการปั่นป่วนแปลกๆ ในช่องท้อง
“น้ำครับ”
บอดีการ์ดหนุ่มรีบยื่นขวดน้ำส่งให้ เมื่อเห็นอาการผะอืดผะอมของหญิงสาว ทว่าหล่อนไม่สนใจจะหยิบมัน แต่กลับเอื้อมมือไปผลักประตูรถออกอย่างแรงจนมัน เพื่อที่...
“อุ๊บส์ โอ้กกก แหวะอุ๊บส์”
เกล็ดมุกโก่งคออาเจียนอย่างไม่อายชายหนุ่มตรงหน้า ในใจก็เพียรถามตัวเองเป็นร้อยๆ ครั้ง ว่าป่วยด้วยสาเหตุใดกันแน่ทำไมเป็นมาร่วมอาทิตย์แล้วจึงไม่หายสักที เธอเงยหน้าขึ้นมาสูดอากาศ เมื่อสิ่งที่รับประทานเข้าไปเป็นมื้อเที่ยงถูกร่างกายขย้อนออกมาจนหมด ทว่ากลับมีบางอย่างผิดปกติ สวนสวยที่อยู่รอบๆ อยู่ก็หมุนคว้างเหมือนลูกข่างยักษ์ มันฉุดรั้งสติสัมปชัญญะให้ด่ำดิ่งสู่หลุมอากาศดำมืดขนาดมหึมา ที่เหมือนมีไว้สำหรับเธอโดยเฉพาะ
ไกลออกไป ณ ที่ใดสักแห่ง แว่วเสียงใครบางคนร้องเรียกชื่อเธอแต่มันช่างไกลเหลือเกินไกลจน...เธอไม่ได้ยินเสียงนั้น อีกแล้ว
“คุณมุก!”
บอดีการ์ดหนุ่มส่งเสียงร้องเรียกหญิงสาวด้วยความตกใจอีกครั้ง เขารีบปิดประตูรถแล้วอ้อมมาที่นั่งคนขับ ก่อนจะหมุนพวงมาลัยออกตัวไปด้วยความรวดเร็ว
๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒๒
วางแผงแล้วน้า ฝากด้วยจ้า




Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ค. 2555, 09:19:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ก.ค. 2555, 02:29:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 3054





<< เพราะรักจึงยอม 2 100%   เพราะรัก จึงลา >>
Lilly 19 ก.ค. 2555, 09:29:40 น.
วางแผงแล้วน้า ช่วยอุดหนุนหนูอัญด้วยจ้า ทำตาปริบๆ Y^Y


Lilly 19 ก.ค. 2555, 09:30:03 น.
สำนักพิมพ์ ธราธร จ้า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account