แรงรักซ่อนปรารถนา by อัญจรี
เมื่อสิ่งที่ ทัศเทพ มอบให้ ชมจันทร์ มีเพียงแรงปรารถนาในเรือนกาย ชมจันทร์จะทำเช่นไร พรหมจรรย์ที่เธอมอบให้ จึงจะได้รับ แรงรักจากหัวใจ กลับคืนมา
*******
เมื่อความสัมพันธ์ทางกายเกิดขึ้นเพราะแรงปรารถนา หาใช่ ความรัก ดังนั้น การรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน มันจึงเป้นไปไม่ได้
เผียะ!
“เห็นแก่ตัว ทุเรศที่สุด!” หญิงสาวให้พรชายหนุ่ม หลังจากฟาดฝ่ามือใส่แก้มสากของเขาไปเต็มรัก
นัยน์ตาดำดุของ กวิน จ้องหน้านางแบบสาวเขม็ง แน่นอนว่าไม่เคยมีใครกล้าตบเขาอย่างนี้ ทำไม แพรวรุ้ง
ถึงไม่เหมือนดารา นางแบบคนอื่นๆ ที่เขาเคยควงนะ หากอยากได้อะไรก็บอกมาสิ ข้าวของ เงินทอง
รับรองว่าหล่อนจะอยู่สุขสบาย ไม่ต้องเร่แก้ผ้าถ่ายแบบอย่างนี้
“ฉันไม่ใช่อีตัว! ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ สายตานายมันฟ้อง สายตาดูแคลนเหยียดหยามไม่เห็นค่าพรหมจรรย์ของฉัน อย่าคิดว่าฉันจะเหมือนผู้หญิงของนาย ที่ตั้งหน้าตั้งตารอท่าโดดขึ้นเตียง พอเสร็จกิจแล้วก็ถีบหัวส่ง ถึงฉันต้องแก้ผ้าหาเงินเลี้ยงตัว ฉันก็ไม่มีวันเป็นนางบำเรอของใคร! จำเอาไว้!”
“ตามใจ! อย่ามาอ้อนวอนฉันก็แล้วกัน ฉันให้โอกาสเธอเรียกร้องสิทธิ์เต็มที่ แต่เธอไม่อยากได้เองนะแพรวรุ้ง"
“ก็สิ่งที่ฉันอยากได้นายให้ไม่ได้! ไม่เป็นไร ฉันจะถือเสียว่ามันเป็นคราวซวยของฉันก็แล้วกัน!” นัยน์ตาคู่สวยเอ่อท้นด้วยหยาดน้ำตา จมูกโด่งรั้นแดงเรื่อ
แพรวรุ้งแสบไปทั่วทั้งโพรงเมื่อน้ำมูกน้ำตามันพร้อมใจกันเล่นงานเธอ

“ก็ดี! เธอเลือกเองนะ!” ชายหนุ่มตอกย้ำ แต่ในใจกลับมุ่งหวังในบางสิ่ง
‘ไม่มีวันเสียหรอก แพรวรุ้ง ถึงฉันจะแต่งงานกับเธอไม่ได้ แต่ยังไงซะ เธอก็ต้องเป็นของฉัน คนเดียวเท่านั้น'
Tags: แรงรักทวงแค้น ส.ธราธร ตีพิมพ์ ต่อด้วย แรงรักซ่อนปรารถนา (ผ่านพิจารณาจาก ส.ธราธร และ มารยายั่วใจ อัพต่อจากเรื่องนี้ เร็วๆ นี้ค่ะ มือใหม่หัดเขียน ช่วยติเตียน ด้วยนะคะ)

ตอน: 1) คู่กัด (นิยายเรื่องนี้อาจมีบางฉากไม่เหมาะกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี)

บทที่ 1
คู่กัด
กรี๊ดดด!!!
เสียงกรีดร้องดังมาจากห้องหอรอรักของพ่อเลี้ยงวัยดึก ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าอีกสิบกว่าคู่ วิ่งกรูมาออที่หน้าห้องดังกล่าว
ปัง!!!
ประตูเปิดออกอย่างแรงด้วยแรงด้วยการกระแทกจากบาทาใครบางคน
“หนูเปล่านะหนูเปล่าเค้าจะปล้ำหนูฮือๆ”
น้ำเสียงอู้อี้เจือน้ำมูกน้ำตาดังเล็ดลอดออกมาจากปากเจ้าสาววัยกระเตาะที่กำลังขวัญเสีย หล่อนนั่งคุดคู้งอเข่าปิดบังเนื้อกายหลบอยู่ข้างเตียง ผมเผ้าหลุดลุ่ยรุงรัง แม้แต่ชุดเจ้าสาวก็ขาดวิ่นเผยให้เห็นผิวเนื้อขาวใสในวัยขบเผาะ
บนเตียงกว้างปรากฏร่างอ้วนกลมของเจ้าบ่าวนอนคว่ำ ใบหน้าจมหายไปกับฟูกหนาที่โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ
“คุณลุง!” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ขานชื่อบิดาของเพื่อนรักด้วยความตกใจอย่างที่สุด
“นาย!!!” เสียงเรียกเสี่ยวัยดึกเจ้าบ่าวผู้โชคร้ายดังระงมไปทั่วห้อง บรรดาญาติๆ และเพื่อนสนิทต่างพากันกรูเข้ามาห้อมล้อมร่างที่ไร้ลมหายใจของท่าน บ้างช่วยปั๊มหัวใจ บ้างช่วยผายปอด ด้วยพวกเขารู้ดีว่าเสี่ยมีโรคประจำตัว แต่มันสายไปแล้ว เสี่ยสูงวัยสิ้นใจในวันเข้าหอโดยที่ท่านยังไม่ได้แตะต้องเจ้าสาวอย่างที่ใจปรารถนา
“หนูเปล่านะ! หนูเปล่า เขาจะปล้ำหนู แล้ว ฮึกๆ แล้วเขาก็เจ็บ เจ็บหน้าอกแล้ว...ก็ฟุบไปเลย หนูไม่ได้ทำ...นะ ฮืออออ” เจ้าสาวค่อนคืนละล่ำละลักบอก
“สวมเสื้อก่อนนะ เอ้าพี่ให้” นายเหมืองหนุ่มว่าแล้วก็ถอดเสื้อสูทของตนให้เจ้าสาวที่น่าสงสาร
เมฆาไม่รู้ว่าเหตุใด สาวน้อยวัยสิบเจ็ดอย่างชมจันทร์ต้องมาแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อ มิหนำซ้ำ สามีก็มาสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาในวันเข้าหออีกน่าเวทนานัก แล้วตอนนี้ เพื่อนรักจะเป็นอย่างไรบ้าง ทัศเทพผิดหวังและเสียใจอย่างที่สุดเมื่อบิดาแต่งงานใหม่กับสาวคราวลูก ทั้งสองทะเลาะกันบ้านแทบแตกจนเพื่อนรักหนีหายไป หากทัศเทพรู้เรื่องเข้า เขาคงใจสลาย เพราะแม้แต่คำขอโทษเขาก็ไม่มีโอกาสได้เอ่ยกับบิดาอีกแล้ว

เจ็ดปีผ่านไป
“ส้มๆ ไปปลุกคุณเทพซิเร็วเข้า วันนี้ฉันมีประชุมเช้านะเนี่ยตาบ้าเอ๊ย จะนอนกินบ้านกินเมืองเลยรึไง ฮึ่ม!”
ชมจันทร์ร้องสั่งสาวใช้ ใบหน้าสวยงอหงิกขัดใจเมื่อเจ้าของบริษัทยังนอนอุตุอยู่บนที่นอน ขณะที่ แม่เลี้ยง คนนี้ต้องรีบตื่นมาชงกาแฟให้ เหตุเพราะใครชงให้ก็ไม่ถูกใจ
“สงสัยคงได้ช้อนวิเศษคนกระมังถึงไม่ยอมใช้คนอื่น ว่าแล้วก็คนมันซะหน่อยเป็นไงคุณลูกเลี้ยง”
ชมจันทร์พูดเอง เออเองกับถ้วยกาแฟ หล่อนจิ้มนิ้วชี้ลงไปในถ้วยกาแฟตามที่ใจคิดเพื่อจะพบว่ามัน....
“โอ๊ย เชี่ย! ทำไมวันนี้มันร้อนวะ ทุกทีแค่อุ่นๆ สงสัยน้ำจะเดือดมากไป โอยๆ เดี๋ยวนิ้วเรียวๆ ของฉันพองพอดี เหอะ แต่ก็สะใจพิลึกอยากใช้ฉันดีนัก แม่ไม่บ้วนน้ำลายใส่ก็บุญหัวแล้ว ตาปีศาจจอมหื่นเอ๊ย”
“ว่าใครฮะ แล้วนั่นอะไร ซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง”
ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม หล่อเหลา ในชุดสูทสีดำพอดีตัวเอื้อมมือไปควานหาบางอย่างที่ด้านหลังแม่เลี้ยงสาว เจ้าหล่อนซ่อนช้อนพิเศษที่ใช้คนกาแฟให้เขาเอาไว้ตรงนั้น เขาแอบมาเงียบๆ เลยได้เห็นอะไรดีๆ
“ปะเปล่า อย่ามาหาเรื่องนะถอยออกไปเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวกลิ่น ผู้ชายป้ายเหลือง มันจะติดฉัน!”
หล่อนตวาดแหวผลักเขาออกห่าง แต่ทัศเทพก็ไวทายาทคว้าเอามือข้างเจ้าปัญหามาพิจารณาได้ทันท่วงที
“ปากดี! เมื่อกี้เธอใช้อะไร คนกาแฟ ฮะ”
เขาถามเสียงขุ่นยกนิ้วชี้ของชมจันทร์มาจ่อใกล้ๆ จมูก กลิ่นหอมของกาแฟที่เพิ่งบดจากเครื่องใหม่ๆ ยังกรุ่นออกมาจากซอกเล็บสะอาด สีชมพูอ่อนๆ
“ถามได้ ก็ช้อนนะสิ”
แม่เลี้ยงสาวตอบแบบไม่ต้องคิดเพราะท่องจำจนขึ้นใจทุกเช้า
‘ลาโง่เอ๊ย ฉันใช้นิ้วคนให้นายมาตั้งห้าหกปีแล้ว เพิ่งจะมาสงสัย เหอะๆ รู้จักอีจันทร์น้อยไปซะแล้ว’
“แน่ใจ!” เสียงสูงมาก
เขาดึงนิ้วเรียวเข้ามาใกล้ เพื่อพิสูจน์กลิ่นอีกครั้ง ‘ชัดเลย! ยัยนี่เอา นิ้วชี้ คนกาแฟ...’
ชมจันทร์พยักหน้า ขืนตัวออกห่าง แต่เขากลับดึงตัวหล่อนเข้าไปแนบชิด...ให้ตายเถอะเดี๋ยวคนใช้มาเห็นได้นินทาเจ้านายกันสนุกล่ะ
“งั้นฉันขอพิสูจน์”
เขาไม่พูดเปล่า แต่ไล้ลิ้นเรียวตวัดปลายนิ้วชี้ของแม่เลี้ยงสาว แทะเล็มและดูดดึงจนหล่อนร้อนวูบวาบถึงปลายเท้า
“คะ...คุณเทพ ปล่อยนะ...เดี๋ยว เดี๋ยวนี้”
หล่อนร้องขอเสียงสั่นเมื่อความวาบหวิวปั่นป่วนวิ่งวนในช่องท้อง ทัศเทพขบขัดปลายนิ้วของเธอราวกับมันอร่อยนักหนา แถมมือข้างที่ว่างก็ยังไต่ยุ่มย่ามตามท่อนขาของเธอ
“เธอโกหก ต้องโดนลงโทษ”
เขาว่าแล้วก็ปล่อยมือหล่อน มือข้างนั้นเกี่ยวเอาท้ายทอยเจ้าตัวให้เข้ามาใกล้บังคับให้ใบหน้าแหงนหงายเพื่อรองรับจุมพิตร้อนๆ ที่ฉกวูบลงมาบนริมฝีปากสีกุหลาบของแม่เลี้ยงสาว
ชมจันทร์ดิ้นขลุกขลัก หล่อนทำได้เพียงเท่านั้นเมื่อเขาพันธนาการเธอไว้ด้วยท่อนแขนแข็งแกร่งและรสแห่งจุมพิต
“อย่านะ!”
เธอร้องบอกเมื่อปากเป็นอิสระ ฝ่ามือที่อยู่ตรงท้ายทอยลากไล้เลื่อนต่ำลงไปตามแนวขอบกระโปรง ก่อนจะดึงทึ้งเสื้อเชิ้ตตัวในของเธอออกแล้วรุกรานเข้าไปสัมผัสเนื้อใน ด้วยฝ่ามือร้อนผ่าว
ตึง!
มันคือเสียงของลูกเลี้ยงจอมหื่นใช้ปลายเท้าเตะประตูห้องครัวเล็กดังสนั่น เป็นสัญญาณว่าห้ามรบกวนจากคนบุคคลภายนอก บรรดาสาวใช้แตกฮือจากหน้าประตู พวกนางนึกในใจว่าคุณเทพสงสัยจะมีตาทิพย์ถึงได้รู้ว่าพวกนางแอบดู
“คุณเทพ! ฉันบอกให้หยุด!”
เธอแหวลั่น จับกรวบเส้นผมเขาได้ก็ออกแรงดึงมันให้หลุดออกมาจากอกอวบของเธอ
“สาบานเลยว่าเช้านี้คุณไม่ได้เมา เอาสิ! จะแก้ตัวว่ายังไงคุณเทพ ที่ลวนลามแม่เลี้ยงของตัวเองฮะ!”
ชมจันทร์พยายามเบี่ยงเบนความสนใจ แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่อยากฟัง
ทัศเทพฉกจุมพิตหล่อนอีกครั้ง แล้วยกร่างหล่อนไปวางบนบาร์เครื่องดื่มสูงเท่าหน้าขา กระโปรงผ้านิ่มสีเขียวมะนาวถูกถกขึ้นมากองเหนือสะเอว ชั้นในตัวจิ๋วถูกเขารูดลงพร้อมๆ กับนิ้วร้ายๆ เริ่มปฏิบัติการลงโทษเธอเหมือนที่เขาได้คาดโทษไว้ล่วงหน้า
“คุณเทพ! ฟังฉันก่อนได้โปรด”
ชมจันทร์วิงวอนเสียงแหบพร่า ไม่อาจห้ามปรามเขาได้หรือว่าคราวนี้เธอจะชะตาขาด! ต้องตกเป็นเมียลูกเลี้ยงเข้าแล้วจริงๆ
ทัศเทพแทบกระอัก เมื่อความคับแน่นตอดรัดที่ปลายนิ้วของเขา โอ...หรือว่าเรื่องที่เพื่อนรักอย่างนายเหมืองเมฆาบอกจะเป็นเรื่องจริง ชมจันทร์แต่งงานกับบิดาเขาแต่ยังไม่ได้ เข้าหอ แต่อย่ากระนั้นเลยหล่อนไม่ใช่สาวสิบเจ็ดอย่างวันวานสักนิด ดีไม่ดี เขาอาจจะเป็นอีกคนที่ช่วยเติมสีสันให้กับชีวิตหล่อนก็เป็นได้ คิดได้ดังนั้นหัวเข็มขัดสีเงินวาววับก็หลุดออกจากรอบเอว เขารูดซิปลงอย่างรวดเร็วเพื่อจะได้ปลดปล่อยบางอย่างออกมา แต่ทว่า!
ก๊อกๆๆ
“เอ่อ...คุณเทพขาคือ คือว่านายเหมืองเมฆามาค่ะ”
เสียงกล้าๆ กลัวๆ ของแม่จวง แม่บ้านก้นกรุของบิดาดังขึ้น ยังผลให้ทัศเทพต้องถอดถอนจุมพิตออกอย่างน่าเสียดาย เขาจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยในใจก็บ่นเพื่อนรักกลายๆ ว่าทำไมมาเร็วนัก ยังไม่ถึงเวลานัดด้วยซ้ำ
“ถ้าคราวหน้าเล่นพิเรนทร์อย่างนี้อีก ฉันจะ รีดนมเธอ ด้วยปากของฉัน แล้วเอามันมาใส่กาแฟ”
เขาขู่เสียงกระเส่า ส่งสายตาโลมเลียไปยังแม่เลี้ยงสาว หล่อนเร่งใส่ชั้นในตัวจิ๋ว มือไม้สั่นระริก
“ปากหมา!” ชมจันทร์ให้พรลูกชาย
“อะไร! ฉันได้ยินนะจันทร์”
“เปล่าๆ เปล่าจ้า แบบว่าจันทร์บอกว่าคุณเทพรีบไปดีกว่า เฮียเมฆคงคอยนานแล้ว”
แม่เลี้ยงสาวเร่งติดกระดุมเสื้อแต่เพราะมือไม้สั่นมันเลยติดผิดๆ ถูกๆ ลูกเลี้ยงอดใจไม่ไหวเลยยื่นมือมาติดให้
“อย่าให้รู้นะว่าแอบด่าฉัน ไม่งั้นฉันจะเฉดหัวเธอออกไปจากบ้านนี้ซะ”
เขาว่าเสียงกระเส่าและแทนที่ติดกระดุมเสร็จจะละมือจากร่างหล่อน เขากลับฝังปลายจมูกคมๆ บนแก้มนวลสูดดมกลิ่นหอมรัญจวนฟอดใหญ่ๆ เป็นของแถมแล้วจากไป
“โธ่เอ๋ย...ชมจันทร์ ถามจริงๆ เถอะ หล่อนอยู่ที่นี่เพราะอะไร!? อยู่เพราะได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง หรือว่าอยู่เพราะหัวใจตัวเองมันเรียกร้องกันแน่”
แม่เลี้ยงคนงามจับแก้มที่ถูกเขาดอมดม หล่อนค่อยๆ ปีนลงจากเคาน์เตอร์บาร์ในใจเฝ้าถามตัวเองซ้ำๆ ว่า
เพราะอะไร?

“คัท!”
เสียงผู้กำกับวัยกลางคนร้องดังขึ้น ราวเสียงสวรรค์สำหรับนางแบบสาวนามว่า แพรวรุ้ง
บ่าไหล่ของหล่อนลู่ลงในบัดดลทั้งที่เมื่อครู่ตั้งเด่นเป็นสง่าดุจนางหงส์อยู่หน้ากล้อง หล่อนเดินเข้าไปหลบแดดในเต็นท์ที่พัก มือเรียวสวยปัดไล่มวลอากาศร้อนอบอ้าวที่แผ่ไอร้อนอยู่รอบกาย
“พี่แจง! เมื่อไหร่จะเสร็จสักที แพรวเหนื่อยแล้วนะพี่!”
คนสวยโอดครวญ พี่แจงของเธอเบะปากให้หน่อยหนึ่งก่อนจะตอบว่า
“อีกแค่ชุดเดียวเท่านั้นล่ะค่า คุณน้องขา บ่นมาก’ไรมาก ให้เหนื่อยเปล่าๆ มาเปลี่ยนชุดดีกว่ามาเร็วเข้า”
‘โธ่ เจ๊แจงไม่ได้ไปยืนตากแดด นุ่งลม ห่มฟ้ามีเศษผ้าปิดกายแค่คืบสองคืบ อย่างเธอนี่นา’
กะเทยร่างกระทิงรบเร้าลูกคุณหญิง เธอไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนจะมาแหกแข้ง แหกขาให้ชาวบ้านดูทำไม สุขสบายอยู่บนกองเงินกองทองแท้ๆ
“รู้อย่างนี้ ไม่รับงานนี้หรอก ไหนบอกว่าถ่ายที่น้ำตกไง เอาเข้าจริงๆ ถ่อมาทำไมภูเก็ตเนี่ยแพรวตกลงกับคุณวาแล้วนี่นา อยากรู้จริงๆ ว่าใครเป็นคนออกคำสั่ง มันน่าโมโหนัก! แกล้งกันเห็นๆ ก็รู้อยู่ว่าเราแพ้แดดเดี๋ยวผิวเสียกันพอดี”
“อ้าว...ยัยคุณแพรว หล่อนไม่รู้หรือยะ ว่า คุณกวิน มาดูแลเรื่องนี้แทนเจ้าชายน้ำแข็ง เห็นพี่โอ้บอกว่าแกพาเมียไปเที่ยวฮันนีมูนรอบสองรอบสามอะไรประมาณนั้น”
ชายใจสาวหมายถึงพี่โอ้ ตากล้องมือทองที่เจ้าชายน้ำแข็งจ้างมาถ่ายทำโฆษณา เปิดตัวเครื่องเพชรชุดใหม่ในครั้งนี้
“หา! ตานั่นเองรึ ว่าแล้วเชียว เขาต้องหาเรื่องแกล้งฉันแน่ๆ คอยดูนะแม่จะขึ้นค่าตัวเสียให้เข็ด”
นางแบบสาวเดือดปุดๆ
“เอามือมาสิยะ เดี๋ยวเจ๊จะสวมสร้อยให้”
คนสนิทร่างชายใจหญิงที่ทำงานด้วยกันมานานร้องสั่ง เพราะเห็นยัยคุณหนูผู้ดีเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว
‘มันน่าอิจฉาแม่ลิงค่างบ่างชะนีตัวนี้จริงๆ หล่อนเอามาจากไหนมากมายขนาดนั้น เนื้อ นม ไข่’
“นี่ก็อีก จะหวงจะงกอะไรนักหนา กล้าเอาของปลอมมาให้แพรวใส่ได้ไงคอยดูนะ ถ้าพรุ่งนี้ผื่นขึ้น แพรวจะให้แม่ฟ้อง PEARL ซะให้เข็ด”
คนสวยบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ยื่นมือขวาให้พี่แจงแต่โดยดี ก่อนที่หล่อนจะถูกพี่แจงลากไปยืนบนโขดหินที่อยู่กลางทะเลอีกรอบ
“เอียงซ้ายหน่อยครับน้องแพรว” ตากล้องมือทองร้องสั่งมาตามสายลม
แพรวรุ้งคิดว่า เขาคงอยากให้เธอลงไปว่ายน้ำทะเลเล่นกระมัง ถึงได้ให้เอียงซ้าย ขยับซ้าย จวนจะตกอยู่รอมร่อ
แพรวรุ้งเอียงซ้ายตามที่ตากล้องมือทองร้องสั่ง นับเป็นครั้งที่สิบแล้วในฉากนี้ ที่หล่อนต้องยืนทำท่าสวย ถ่ายสร้อยข้อมือกับสร้อยเพชร ซึ่งมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนแขนแทบหัก
‘เอ...นั่นใช่โจทก์ของเธอรึเปล่า...ใช่! มากับ เจ้าหนูมีน ตัวแสบเสียด้วย’
“นี่คุณ! ขยับซ้ายอีกหน่อยได้ไหม เพชรมันจะได้ล้อแสงขึ้นมาอีกหน่อย” มือขวาของเจ้าชายน้ำแข็งร้องสั่ง นัยน์ตาภายใต้แว่นสีชาระยิบระยับขึ้นมาเมื่อแลเห็นนวลเนื้อของคู่ปรับตลอดกาล อะร้าอร่ามท่ามกลางสายลมแสงแดดและท้องทะเลสีคราม
“ปะป๊าคับ มินจากินติม” หนูน้อยวัยสี่ขวบกว่าๆ ร้องบอกบิดา
“เดี่ยวซีคับลูก ปะป๊าทำงานก่อน” กวินบอกบุตรชายเสียงอ่อนโยน
“ไม่เอา ป๊า มินจากินเดี๋ยวนี้”
หนูน้อยหน้ามุ่ย ส่งภาษากายย้ำชัดว่าขัดใจอย่างแรง
“โอเคๆ เอ่อ พี่แจงครับ พี่แจง”
“ขา...ว่ายังไงคะ คุณกวินของเจ้”
ผู้จัดการของนางแบบสาวขานรับหน้าระรื่น
กวินกรอกตาขึ้นฟ้า เมื่อเสียงหวานหยดที่ขานรับ มันไม่เข้ากับหน้าตาของพี่แกเอาเสียเลย
“เอ่อ...แบบว่า ผมวานพี่แจงช่วยพาเจ้ามีนไปร้านไอติมได้ไหมครับ ผมขอเคลียร์ฉากนี้ก่อน ให้เสร็จๆ ไปเสียที”
“ได้สิคะคุณกวิน สำหรับคุณกวินนะคะ เจ๊ยินดีบริการค่ะ มาค่ะน้องมีนสุดหล่อมาหาเจ๊มาลูก”
หนูน้อยส่ายหน้าดิก เบะปากเล็กน้อย แค่สีลิปสติกของเจ๊ มีนก็กลัวจนหัวหดแล้ว
“ม่าย มินจาเดิน ป๊ามินมะอยู่ห้ามจ้องหญิงนา มะงั้นมินจาฟ้องแม่จริงด้วย” หนุ่มน้อยขู่ฟ่อ
“แน่นอนลูกรัก ปะป๊าไม่มองใครเลยคับผม”
เขายืนยันแล้ววางเจ้าหนูตัวแสบลงกับพื้น แต่หางตาก็ยังลอบมองแม่เนื้อนวลขาวผ่อง หล่อนยืนเด่นอยู่กลางทะเลสีครามในชุดที่ล่อเสือ ล่อตะเข้สุดๆ
“นี่ฉากสุดท้ายแล้วใช่ไหมพี่” เขาถามตากล้องมือทอง
“ครับคุณ ถ้าคุณแพรวเขยิบเอียงไปทางชะง่อนหินอีกหน่อย ภาพจะสวยมากเลย รับรองดูไม่ออกว่าเราใช้ของเทียมมาถ่าย”
“เฮ้อ! ทำไมต้องเอาคุณแพรวด้วยก็ไม่รู้ ถ้าเป็นนางแบบคนอื่นถ่ายเสร็จไปนานแล้ว” เขาบ่นกับช่างกล้องแต่สองตาแลจ้องแต่แพรวรุ้ง “นี่คุณ! ผมบอกให้ขยับไปทางซ้ายอีกหน่อย”
คนบนฝั่งยังร้องบอก แพรวรุ้งหน้าบึ้งทันตาก่อนจะโต้ไปว่า
“ฉันก็เหนื่อยเป็นนะ สั่งอยู่นั่นล่ะ ทำไมไม่แหกตาดูบ้างฮ้า ว่าฉันจะตกทะเลอยู่แล้ว”
เธอร้องบอกเสียงขรม ขาสองข้างไม่มีแรงจะยืน แต่ก็ไม่สามารถนั่งลงได้ เพราะกระโปรงเจ้ากรรมมันสั้นเกินกว่าจะนั่งยองๆ บนโขดหินอันแสนขรุขระ โล่งเตียนไร้สิ่งกำบัง
“เรื่องมาก! ขยับเดี๋ยวนี้เลยเร็วเข้า”
เขาตะโกนสั่ง แล้วเดินไปขึ้นเรือเพื่อขับมันเข้าไปใกล้โขดหิน ตรงที่หล่อนยืนอยู่
เสียงเรือยนต์มาจอดใกล้ๆ แพรวรุ้งหันมามอง หล่อนเห็นเขาส่งกุญแจเรือให้ทีมงานที่มาเซฟความปลอดภัยรอบๆ โขดหินใหญ่ พวกเขาจากไปพร้อมด้วยเรือยนต์ ทิ้งไว้เพียงเรือยางลำน้อย
“คุณนายจ้างคะ ทำไมปล่อยพวกนั้นไปกินข้าว แล้วฉันล่ะ ยืนเอียงซ้ายเอียงขวาจวนจะแห้งตายกลางทะเล ทำไมไม่ให้ฉันพักเสียที สองมาตรฐานชัดๆ” คนสวยสวดใส่หน้าบอดีการ์ดของ อดีตว่าที่คู่หมั้น
“ถ้าอยากกินข้าวก็อย่าเรื่องมาก ผู้กำกับเค้าร้องสั่งให้คุณเขยิบไปอีกหน่อยไม่ได้ยินรึไง!?”
เขาว่าหล่อน ขยับร่างสูงโปร่งรุกเข้าไปใกล้ร่างอรชรเพรียวลม
“ก็มันขยับไม่ได้แล้ว ไม่เห็นรึไงเล่า”
หล่อนชี้มือไปที่ปลายสุดของชะง่อนหิน ปลายเท้าเธออยู่ห่างจากมันไม่ถึงสองก้าว
“ก็แค่นิดเดียว เรื่องมากไปได้ เร็วเข้า! ถ้าไม่ยอมดีๆ ผมจะทำให้คุณขยับด้วยวิธีของผม อยากลองไหมล่ะ” เขาท้าทายหล่อนนัยน์ตากรุ้มกริ่ม
แพรวรุ้งหวาดหวั่น กลัวใจอีตาหื่นขึ้นมาในทันที
“ก็ได้! คอยดูนะ ถ้าฉันร่วงลงน้ำล่ะก็ ฉันจะ..........กรี๊ดดด!!!”
ตูม!!!
ส้นสูงสี่นิ้วพลิกเสียจังหวะ ส่งผลให้ร่างสวยสะคราญของนางแบบสาวหงายหลังร่วงหล่นลงสู่ผิวน้ำ
“เฮ้ย! ฮ่าๆๆ เป็นไงบ้างครับคุณ น้ำข้างล่างเย็นดีไหมฮ่าๆๆ”
กวินหัวร่อหน้าดำหน้าแดงอยู่บนโขดหินใหญ่ ขณะที่นางแบบสาวกระเสือกกระสนเอาตัวรอด เพราะว่ายน้ำไม่แข็ง และดูเหมือนว่าบอดีการ์ดหนุ่มจะไม่รู้
“ช่วยด้วย! อึกๆ ช่วย...”
แพรวรุ้งกลืนน้ำทะเลลงไปอึกใหญ่ เธอว่ายน้ำไม่แข็ง อีกทั้งเรี่ยวแรงก็เหลือน้อยเต็มที สองตาเห็นโจทก์ตัวดียืนหัวเราะร่าอยู่ข้างบนแล้วอยากจะร้องไห้ เธอได้ตายเป็นผีเฝ้าทะเลก็คราวนี้ ความหวาดกลัวแล่นเข้าสู่จิตใจ ร่างกายจึงฮึดสู้ขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอด
“ช่วยด้วย!!!”
หล่อนร้องขออีกครั้ง ก่อนที่คลื่นลูกใหญ่จะซัดเข้าหา กลืนกินร่างของเธอจนหายไปใต้เกลียวไหลเชี่ยวของมัน
“นี่คุณ พอแล้วน่าอย่ามาอำเสียให้ยาก โผล่ขึ้นมาเถอะคุณเดี๋ยวผมจะเอาเรือยางไปรับ”
เขาร้องบอกชโงกหน้าลงไปดูก็เห็นเพียงชายผ้าของชุดบางเบาที่หล่อนสวมใส่ มันกำลังถูกเกลียวคลื่น กลืนกิน
“ฉิบหายแล้ว!”
กวินสบถ กระโจนลงสู่ทะเลกว้าง เขาดำผุดดำว่ายด้วยหัวใจที่เต้นระทึกเร็วแรง ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบที่เขามุดอยู่ใต้ผิวน้ำ จวบจนได้ยินเสียงเรือยนต์ของทีมงานใกล้เข้ามา เขาจึงคว้าร่างหล่อเอาไว้ได้
“แพรวรุ้ง! แพรว!”
เขาร้องเรียกชื่อ แต่ยังไร้วี่แววขานรับ
“คุณกวิน! เป็นไงบ้างพาขึ้นมาก่อนเร็วเข้า”
ตากล้องมือทองร่างท้วมร้องสั่ง ทีมงานชายอีกสองคนที่ติดเรือมาด้วยรีบเข้าช่วยเหลือเมื่อเห็นนายจ้างพาร่างนางแบบสาวขึ้นจากน้ำ ด้วยความทุลักทุเล
“แพรว!” เขาตบหน้าหล่อนเบาๆ เรียกสติ แต่สติคงหูตึงกระมังหล่อนจึงยังไม่ฟื้น
“โธ่เว้ย! เอาก็เอาวะ!”
สามคนที่ยืนอยู่บนเรืองงงัน เจ้านายจะ เอา อะไร? ความสงสัยใคร่รู้กระจ่างชัดในเสี้ยววินาที เมื่อคุณกวินของพวกเขาก้มลงผายปอดให้นางแบบสาว
ครั้งแรก...ไม่ฟื้น
ครั้งที่สอง...ก็ยังไม่ฟื้น
ครั้งที่สาม...โอ...ริมฝีปากร้ายๆ ที่ด่าทอเขาทุกครั้งที่เจอหน้า เหตุใดมันถึงหอมหวานปานนี้...
‘หยุด!ไอ้บ้าเอ๊ย หล่อนกำลังจะตายนะกวินคิดเรื่องบ้าๆ ได้ยังไง!...ได้โปรดฟื้นเถอะคุณแพรว ผมขอโทษจริงๆ’
“แค่กๆๆ แฮ่กๆๆ ช่วยด้วย! แค่กๆ ฉันกลัว ฮึกๆ ช่วยฉันด้วยฮือๆๆ ฮึกๆๆ”
หล่อนโผเข้ากอดเขาทันทีได้สติ ความหวาดกลัวแผ่ซ่านในหน่วยตากลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตาเม็ดใส
นางแบบสาวปล่อยโฮกับแผงอกเปียกชุ่มของโจทก์เบอร์หนึ่ง
กวินรู้สึกได้ถึงอาการสั่นเทาของหล่อน ไม่น่าเชื่อ! มันกำลังบีบคั้นหัวใจเขาอย่างหนักหน่วงจนเจ็บร้าวไปหมด
“ผมว่าเข้าฝั่งดีกว่านะ น้องออกเรือเลย”
เสียงตากล้องมือทองร้องสั่งอีกครั้ง
กวินพยายามไม่มองร่างในอ้อมแขน แพรวรุ้ง! ให้ตายสิเขาไม่อยากคิดอกุศลกับคนจมน้ำนะ แต่ชุดหล่อนมันทั้งบาง ทั้งแนบเนื้อจนร่างกายเขามัน...
“เอ่อ..ฮึกๆๆ ขอโทษทีฉันๆ”
แพรวรุ้งขืนตัวออกจากอ้อมกอดของกวิน แรงลมพัดมาปะทะใบหน้าอย่างแรงจนสติของหล่อนกลับมาเกือบครบ จึงเกิดกระดากอายอย่างยิ่งที่กอดเขาแน่นนิ่งอย่างนี้
“อย่าได้คิดออกไปจากอ้อมกอดผม ถ้ายังไม่อยากถูกแทะโลมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก”
เขาขู่หล่อน ปรายตาขุ่นขวางไปทางทีมงานสองคน ขนาดอีกคนขับเรืออยู่แท้ๆ ยังหันหน้ากลับมามองบ่อย มันน่าควักลูกตาให้ฉลามกินนักฮึ่ม!
แพรวรุ้งก้มลงมองสภาพของตัวเองแล้วก็ให้ตกใจ หล่อนดีกว่านางเงือกหน่อยหนึ่ง ก็ตรงที่มีวงแขนกับแผ่นอกของเขาช่วยกำบังร่างกายไม่ให้มันอุจาดตา แต่ก็นั่นล่ะเขาก็เปียก หล่อนก็เปียก หน้าอกหน้าใจหล่อนก็ถูไถกับแผ่นอกแกร่งของเขาขึ้นลงตามแรงคลื่น มันเร่งเร้าให้ขนในกายตั้งชันโดยมิอาจต้านทาน
กวินจับจ้องใบหน้าเนียนใสไร้เครื่องสำอางฉาบทับด้วยความลุ่มหลง หากไม่เพราะเขาและหล่อนเป็นคู่กัดกันมาก่อน เขาคงทำเนียนๆ จุมพิตริมฝีปากอวบอิ่มนั่นอีกสักครั้ง...แค่คิดร่างกายมันก็มีปฏิกิริยาทันที
“นี่คุณ!?”
แพรวรุ้งร้องเรียกชื่อเขา มีบางสิ่งบางอย่างดุนดันสะโพกของเธอขึ้นมาจนไอร้อนผะผ่าวซึมผ่านเนื้อผ้าไห้เธอรู้สึก
“คุณยั่วผมเองนะ ให้ตายเถอะ”
เขาเถียงหน้าตายทั้งที่หล่อนยังไม่ได้พูดอะไรด้วยซ้ำ
“สาบาน! ว่าฉันไม่ได้ทำ”
หล่อนทำท่าจะผละออกอีกครั้ง
“ถ้าคุณกล้าลุกจากตักให้ผมได้อายทีมงานล่ะก็ ผมจะจับคุณปล้ำซะตรงนี้ให้อายชาวบ้านเหมือนกัน คอยดู!”
#########################################
ภาคแรกวางแผงแล้วน้า มือใหม่หัดเขียน ฝากเล่มแรกในชีวิตด้วยจ้า



Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ค. 2555, 08:53:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.ค. 2555, 08:54:57 น.

จำนวนการเข้าชม : 8797





   2) ใจสั่น + แสบ (น้องมีนน่ารักมว้ากกกก ^_^) >>
Lilly 15 ส.ค. 2555, 10:19:16 น.
เม้นบ้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account