บุหงาราคี by น้ำจันทร์ อัญจรี
“บัดซบ!”
เปรมินทร์สบถลั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะตกหลุมพรางที่เจ้าหล่อนวางไว้ถึงขนาดนี้
“อะ เอ่อ...”
อรัญญิการ์ติดอ่างกะทันหัน ใบหน้าเนียนร้อนผ่าวด้วยความอับอายรีบควานหาเสื้อผ้ามาสวมด้วยความทุลักทุเล ทว่า เมื่อหามันพบก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะมันขาดวิ่นหาดีไม่ได้
“เอ้านี่ ใส่ซะ แล้วก็ไสหัวออกไปจากห้องของฉัน!”
เขาร้องสั่ง ควานหากางเกงมาสวมลวกๆ ขณะที่มืออีกข้างเสือกไสเสื้อเชิ้ตตัวเมื่อคืนให้หล่อน อรัญญิการ์รับมาสวมก็พบว่ามันไม่สามารถปกปิดเนื้อกายได้สักเท่าไรเลย
“คุณเปรมคะเอมี่...”
“อย่ามาแก้ตัว ฉันไม่อยากฟัง!!!”
เขาสบถเสียงกร้าวจ้องใบหน้าซีดเผือดเขม็ง นางฟ้าแสนบริสุทธิ์เมื่อคืนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อลืมตาตื่นหล่อนจะกลายร่างเป็น แม่มด...แม่มดน้อยเอมี่ที่เขาไม่ปรารถนา

Tags: ผ่านพิจารณา Touch Publishing รอวางแผง

ตอน: 2 สายเลือดโสโครก 100%

บทที่ 2
สายเลือดโสโครก
เช้าวันอาทิตย์ที่กรุงเทพฯ อากาศขมุกขมัวไม่สดใส เมฆฝนตั้งเข้ามาแต่ไกลๆ ทว่าดาราสาวดาวยั่วอย่างอรัญญิการ์ไม่สนใจสักนิด เห็นได้ชัดจากจำนวนเสื้อผ้าบนราวที่ตากเต็มระเบียงและอีกสองตะกร้าใหญ่ที่เพิ่งปั่นแห้งเสร็จ หล่อนใช้เวลาว่างที่เพิ่งจะมีกับชาวบ้านบ้าง หมดไปกับการยัดเสื้อผ้าลงเครื่องปั่นตั้งแต่เช้าตรู่ เสื้อผ้าในตู้ใบใหญ่ถูกรื้อออกมาปั่นอีกหนเพื่อให้ตัวเองไม่มีเวลาไปนั่งคิดเรื่องเจ็บปวดหัวใจ ทว่าพอหมดตู้ที่สองราวที่ตั้งไส้ตรงระเบียงก็เต็มปรี่ แม่มดแสนเซ็กซี่เลยต้องหยุดการปั่นผ้าไปโดยปริยาย
ร่างสวยเย้ายวนเดินกลับมานั่งบนโซฟาตัวเก่งอีกครั้ง วงหน้าขาวใสวันนี้ไร้เครื่องสำอางมาทาบทาทำให้อรัญญิการ์ดูอายุน้อยลงไปอีกหลายปี เมื่อมือไม้ว่าง สมองก็ว่าง อรัญญิการ์ไม่อยากกลับไปคิดเรื่องราววันนั้นให้ทำร้ายจิตใจตัวเองอีก มือเรียวหยิบบีบีมาเปิดดูคิวงานที่หล่อนบอกเลื่อนออกไปกว่าอาทิตย์โดยยกเหตุผลเรื่องที่เพิ่งถ่ายละครเสร็จมาเป็นข้ออ้าง
เธอเปิดเช็คคิวงานไปเรื่อยๆ ในสมองก็คอยประมวลค่าตัวในแต่ละอย่าง แต่ละที่ที่ต้องไปถ่ายแบบ โชว์ตัวในช่วงที่ว่างจากงานแสดงเช่นนี้ แน่นอนหล่อนเป็นคนเขี้ยวพอตัว แต่ใครสนกันล่ะหากมันสามารถทำให้น้องๆ และแม่ครูที่บ้านอุ่นไอรักยังมีที่อยู่ที่กิน ที่ซุกหัวนอนได้ เธอยอมโดนแขวะจากนักข่าวอย่างเต็มอกเต็มใจเชียวล่ะ
ติ๊งต่อง!!! ติ๊งต่อง!!!
เสียงกริ่งหน้าห้องทำให้อรัญญิการ์มุ่นคิ้ว เธอไม่มีเพื่อนสนิทมากพอที่จะให้มาหาถึงห้องนี่นา ยัยแป๋มก็ติดพันโชว์ตัวที่เชียงใหม่ยังไม่กลับ...สงสัยจะเป็นพี่ชัยผู้กำกับกระมัง เขาคงไม่ได้มาบอกให้เธอกลับไปถ่ายซ่อมหรอกนะ แค่คิดอรัญญิการ์ก็เกิดอาการเซ็งขึ้นมาตงิดๆ
ติ๊งต่องๆๆๆ!!!
“มาแล้วค่า จะรีบอาไรนักหนาค้า”
อรัญญิการ์บ่นให้แขกที่ยังไม่รู้ว่าใคร ใบหน้าเนียนใสเง้างอเล็กน้อย แต่พอเธอเปิดประตูออกไปบุรุษที่ยืนอยู่ต่อหน้า กลับทำให้ใบหน้าเง้างอเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งด้วยความไม่พอใจ
“มาทำไม!?”
เธอถามเสียงกร้าว บุรุษที่ยืนต่อหน้าเธอเวลานี้มีใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตร แต่การกระทำของเขาเมื่ออาทิตย์ก่อน มันเป็นการกระทำเยี่ยงซาตานชัดๆ
“จุ๊ๆๆๆ ช่างเป็นคำทักทายที่น่าประทับใจจริงๆ อรัญญิการ์ หลังจากหลบหน้าหลบตากันเป็นอาทิตย์ จะไม่เชิญฉันเข้าไปข้างในสักหน่อยหรือ?”
เขาขยับแว่นสีชาเมื่อพูดจบสอดส่ายสายตาไปทั่วโถงทางเดิน เกรงว่าจะมีใครจำเขาได้
“ไม่จำเป็น ที่นี่ไม่ต้อนรับคนอย่างคุณ ไปตายซะ!”
หล่อนชัดย้ำคำพูดของตัวเองด้วยการกระแทกบานประตูให้มันปิดลง แต่เขากลับสอดมือเข้ามาขวางกั้นมันเอาไว้ ยังผลให้บานประตูหนาหนัก กระแทกฝ่ามือขาวของเขา เข้าอย่างจัง!
“โอ๊ย! บ้าฉิบ!”
ร่างสูงใหญ่รีบชักมือกลับ แรงกระแทกส่งความเจ็บปวดวิ่งไปสู่ปลายนิ้ว เขาสลัดมันแรงๆ ไล่อาการเจ็บจนชา
“จะบ้ารึไงฮะ! รู้ว่าฉันจะปิดแล้วดันเอามือมาขวางทำไม!? มานี่!”
อรัญญิการ์ดึงแขนเขาเข้าห้องด้วยความห่วงใย จนแล้วจนรอดเธอก็ยังห่วงเขาอยู่ดี
เปรมินทร์ลอบยิ้มเจ้าเล่ห์ แม้จะเจ็บตัวไปบ้างก็ถือว่าคุ้ม
อรัญญิการ์รีบเข้าไปควานหายาล้างแผล ยานวด ยาแก้ปวด ยาสารพัดที่หล่อนพอจะนึกออกจากตู้ยา หล่อนเฝ้าถามตัวเองซ้ำๆว่า เหตุใดความรักที่มีต่อเขามันถึงได้มากมายขนาดนี้ เพียงแค่เห็นเขาเจ็บ หล่อนก็อยากเจ็บแทนเสียแล้ว หลงลืมความชั่วร้ายที่เขาเคยกระทำจนหมดสิ้น
“ล้างดีแล้วใช่ไหม?” เขาพยักหน้า
“อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องใส่ตัวจนได้! น่าโมโหจริงๆ” แม่มดน้อยบ่นงึมงำขณะทำแผลใส่ยาให้ชายหนุ่ม
“โอ๊ะๆ เอมี่! มันเจ็บ” เขาโอดครวญ ใบหน้าหล่อเหลาเง้างอ
“ก็เจ็บนะสิ เจ็บแล้วจำด้วย คราวหน้าจะได้ไม่ โง่ ทำเหมือนเมื่อกี้อีก” หล่อนประชด
เปรมินทร์ยื่นมือขวาคว้าหมับข้อมือน้อย บีบมันแรงๆ หล่อนมีสิทธิ์ว่าเขาอย่างนั้นหรือ
“โอ๊ย! จะบ้ารึไงฮะ! ทำคุณบูชาโทษจริงๆ ปล่อยนะ! คุณเปรม เอมี่เจ็บ!”
น้ำตาใสๆ รื้นขึ้นมา เขาจะอ่อนโยนให้มันได้สักครึ่งของหน้าตาบ้างจะเป็นไร
“อย่าก้าวร้าวฉัน ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่น”
เขาบอกเสียงเรียบ ความโกรธลดลงไปกว่าครึ่ง เมื่อแลเห็นหยดน้ำตาของแม่มดน้อย
“ฉันก็ไม่ใช่ทาสใคร! อย่ากดขี่กันให้มันมากนักคุณเปรม อรัญญิการ์ไม่ใช่นางรับใช้ของวังมัทนาฯ กรุณาจำให้ขึ้นใจด้วย!” แม่มดคนสวยตอกกลับ ใบหน้างามหมองเศร้าเคล้าความโศกแต่ก็หนักแน่นในสิ่งที่เอ่ย เปรมินทร์จึงปลดปล่อยมือน้อยจากพันธนาการ แล้วพลันหัวใจแกร่งก็แกว่งไกววูบไหว
อรัญญิการ์กำลังปาดน้ำตาด้วยมือที่เพียรทำแผลให้เขาเมื่อครู่!!
“กลับไปได้แล้ว ฉันยังไม่อยากเป็นข่าว”
เธอบอกด้วยความหวังดี เปรมินทร์หัวเราะหึๆ คล้ายเย้ยหยัน
“แน่ใจรึ อาทิตย์ก่อนยังร่ำๆ จะควงฉันออกงานให้ได้ มาวันนี้ แค่นักข่าวเธอก็กลัวเสียแล้ว น่าเชื่อตายล่ะ” อรัญญิการ์นับหนึ่งถึงสิบข่มความอัดอั้นตันใจ ข่มขื่นระคน
“เอมี่จะไม่ตามตอแยคุณเปรมแล้ว คุณเปรมสบายใจได้ สามสี่ปีที่ผ่านมาถือเสียว่าเอมี่โง่เอง ที่วิ่งตามคนไม่มีหัวใจอย่างคุณ”
อรัญญิการ์ตอกกลับเสียงเรียบเย็น หยิบกล่องยากลับไปเก็บในห้องนอน เขาจะมาทำไมกัน ทุกอย่างมันเป็นความผิดพลาดของเธอ เธอรู้ดี
“ฉันมีข้อเสนอ”
อรัญญิการ์สะดุ้งโหยง เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่!?
“คุณเข้ามาได้ยังไง นี่มันห้องนอนฉันนะ!”
“แล้วไง ห้องนอนฉันเธอยังไปค้างคืนมาแล้ว จะหวงทำไม?”
เขาเย้าแหย่กวนอารมณ์ รู้สึกสนุกที่ได้เห็นใบหน้าสวยสดบึ้งตึงขึ้นมา
“ออกไปเดี๋ยวนี้คุณเปรม มันไม่เหมาะที่คุณกับฉันจะอยู่สองต่อสองในห้องนอนอย่างนี้”
“โอ...เพิ่งคิดได้รึ อรัญญิการ์”
เขาทำเสียงเย้ยหยันน่าเกลียด เดินกลับหลังไปทางประตู อรัญญิการ์หันมาเก็บกล่องยาลงชิ้นชักให้เรียบร้อย หล่อนผ่อนลมหายใจเมื่อได้ยินเสียง ประตูปิด
“จะทำร้ายกันไปถึงไหนนะ คุณเปรม”
อรัญญิการ์รำพันกับตัวเอง แต่เสียงหนึ่งกลับสอดแทรกเข้ามาให้ได้ยิน
“ก็จนกว่า เธอจะยอมมาเป็น นางบำเรอ ของฉัน อรัญญิการ์”
“คุณ! ทุเรศ! ออกไปนะ ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ ฉันไม่น่าช่วยคุณเลยให้ตายสิ”
สองมือของแม่มดคว้าหมอนปาใส่คุณชายแห่งวังกุหลาบ
“หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้ เอมี่ไม่อย่างนั้นฉันจะปล้ำเธอ!”
อรัญญิการ์ยกหมอนค้างเหนือหัว เธอจะทุ่มใส่เขาแต่เกรงคำขู่จำต้องวางมันลง
“เธอควรฟังข้อเสนอฉันให้จบ”
เปรมินทร์ไม่ละความพยายาม อรัญญิการ์เหนื่อยหัวใจ หล่อนนั่งลงบนเตียงแรงๆ เปรมินทร์เดินเข้ามาใกล้....หัวใจเขาแทบวาย หน้าอกหน้าใจยัยแม่มดมันช่าง...เกินบรรยาย
ดวงตาสีสนิมของเปรมินทร์จับจ้องหน้าอกหน้าใจอรัญญิการ์ ยิ่งมองจากมุมด้านบนอย่างนี้ มันยิ่ง แจ่ม เสียนี่กระไร
“เอ้อ...อ่า...ฉัน ฉันอยากให้เธอลองคิดดูอรัญญิการ์ เธอยากได้เป็นเดือน หรือว่าเป็นบ้านหรืออะไรก็ได้ ฉันให้เธอได้หมด ขอเพียงให้เธอมาอยู่บนเตียงของฉันทุกเวลาที่ฉันต้องการ เธอจะว่าอย่าง....”
“ทะเบียนสมรส และ มัทนาอริศวงศ์”
“ไม่มีทาง! เธอรู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้” เขาหยันอยู่ในที
อรัญญิการ์ช้ำใจเกินทน เขาจะหวงตำแหน่งสะใภ้เจ้า ไว้ให้ผู้หญิงคนนั้น หรืออย่างไร
“ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่คุณเสนอมา อรัญญิการ์คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้เช่นเดียวกัน”
หล่อนยืนยันหนักแน่น
“ทำไม! สิ่งที่เธอจะได้มันมากกว่าที่เธอจะไปเดินกรีดกรายแก้ผ้าบนเวทีเสียอีก คิดดูดีๆ สิ ใช้สมองคิดเสียบ้าง”
“คุณเปรม! เอมี่จบครูมานะ! พูดอย่างนี้เอมี่เสียหาย ถ้าเอมี่รับข้อเสนอของคุณ สมองเอมี่คงไม่ได้มีแต่ขี้เลื่อย มันคงจุกระดาษชำระไว้จนล้นกระมัง”
อรัญญิการ์หอบแฮ่กๆ เมื่อกล่าวจบ
“ปากดีอย่างนี้ไง คนเขาถึงเกลียดกันทั้งประเทศ สวยก็สวย แต่ปากไม่มีหูรูด”
“ช่างสิ เอมี่ไม่แคร์ เขาไม่ได้หาเงินให้เอมี่ใช้ เอมี่ชอบให้คนเกลียด เพราะมันแสดงว่าเอมีตีบทแตกกระจุย แต่คุณเปรมนี่สิ ไม่ต้องเล่นละครไม่ต้องตีบทเป็นดารา แต่รู้สึกว่า เอมี่กับแป๋มจะ เกลียด คุณเปรมมากขึ้นทุกวันๆ เลยล่ะ”
“ดี! เกลียดกันก็ดี เวลาที่ฉันโมโหแล้วเผลอ ปล้ำ เธออย่างนี้ ฉันจะได้มีข้ออ้างว่าทำไปเพราะแรงโทสะ มานี่!”
“กรี๊ดดด!!! คุณเปรม! ปล่อย!” อรัญญิการ์กรีดร้องโหยหวน เปรมินทร์ทำร้ายเธออีกแล้ว
“ปากดี! อย่างนี้ ต้องโดนลงโทษ”
“กรี๊ดดด!!!”
เปรมินทร์กระโจนใส่ร่างงามของอรัญญิการ์ หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา กลิ่นเนื้อนวลของเจ้าหล่อนยังจรุงกรุ่นไอที่ปลายจมูก ริมฝีปากอิ่มเต่งตึงของหล่อนยังรสชาติหวานหอมไม่สร่างซา ทรวงอกอวบยังหนั่นแน่นเต็มมือ เขาบีบขยำเท่าไหร่มันก็ยังเด้งกลับมาอยู่ในรูปเดิม
“อื้อ...” อรัญญิการ์ครางอู้อี้
เปรมินทร์ปล้ำถอดเสื้อกล้ามของเธอจนแผ่นหลังครูดกับขอบที่นอนเจ็บแสบเหลือทน
“ปล่อย! ได้โปรด...”
เมื่อมีโอกาส แม่มดแสนสวยก็ร้องขอความปราณี แต่เปรมินทร์หาได้เมตตาไม่ เขากระทำย่ำยีร่างสวยอรชรของแม่มดน้อยที่เขาแสนเกลียดชัง อย่างจาบจ้วงและเอาแต่ใจ
รอยราคีตีตราทั่วร่างงาม มันชัดเจนพอๆ กับคราบน้ำตาที่รินไหลบนใบหน้าของอรัญญิการ์ เจ็บปวดร่างกายไม่เท่าคราแรกที่หล่อนต้องอยู่ใต้ร่างเขา แต่เจ็บปวดรวดร้าวที่หัวใจไม่มีสิ่งใดมาเปรียบ คุณเปรมแสนดีที่เอมี่เคยวิ่งตาม คงเหลือเพียงเงาเลือนรางในความทรงจำ ตลอดไป

ครึ่งชั่วโมงต่อมา
การรอคอยแสนทรมานสิ้นสุดในที่สุด ปาฏลีลุกจากเก้าอี้ที่หล่อนนั่งอยู่เพื่อเผชิญหน้ากับ เขา
เปรมินทร์เปิดประตูห้องนอนของอรัญญิการ์ออกมาด้วยความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งกาย แต่เขาตกใจเล็กน้อย เมื่อใครบางคนยืนอยู่กลางห้องรับแขก จ้องเขม็งมองมาที่เขาอย่างเอาเรื่อง
“โอ...นึกว่าใคร? ที่แท้ก็น้องปาฏลี นางฟ้าแสนสวยนี่เอง ไม่เอาน่า อย่าจ้องหน้าพี่อย่างนั้นสิ พี่กับเพื่อนน้อง เราแค่สนุกกันเท่านั้น”
เปรมินทร์เอ่ยเย้าเจ้าของห้องอย่างอารมณ์ดี แน่นอนล่ะ เพราะอรัญญิการ์ทำให้เขาอิ่มเอมหลังจากที่อดอยากมาเป็นอาทิตย์
“ฉันไม่เคยมี พี่เลวๆ อย่างคุณ อย่าเอาสายเลือดโสโครกมาทิ้งเรี่ยราดแถวนี้ ฉันขี้เกียจราดล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และโปรดจำเอาไว้ว่าชนชั้นไพร่อย่างฉัน ไม่มีวันนับญาติเป็นพี่น้องกับพวกผู้ดีอย่างคุณแน่นอน เพราะฉันกลัวว่าเสนียดจัญไรของพวกผู้ดีมันจะกินกะบาลเอา”
“ปาฏลี! เธอพูดทำนองนี้หลายครั้งแล้วนะ เรามีความแค้นต่อกันอย่างนั้นหรือ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าทุกๆ ถ้อยคำที่เธอพูดออกมามันเจือไว้ด้วยความไม่พอใจ”
“เปล่า!...ไม่ใช่ไม่พอใจ แต่ ขยะแขยง ชัดไหม!? ถ้าได้ยินชัดแล้วก็ไสหัวออกไปจากห้องของฉัน ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ปาฏลีขู่ฟ่อ
เปรมินทร์จ้องร่างบอบบางของนางฟ้าปาฎลีไม่วางตา เขาใคร่รู้ว่าหล่อนพูดกำกวมด้วยเรื่องอันใด
“เหอะ! เธอจะทำอะไร พี่ แม่นางเอกคนงาม นางฟ้าปาฎลี”
เปรมินทร์ยั่วเย้า
“ฉันไม่เคยมีพี่! อย่าเอาวงศาคณาญาติ สายเลือดโสโครกของคุณมาเหมารวมกับฉัน เพราะ ฉันรังเกียจ”
“แป๋ม...”
เสียงอรัญญิการ์ร้องดังมาจากในห้อง
ปาฏลี เดินกระแทกไหล่บึกบึนของปีศาจร้ายอย่างเอาเรื่อง เพื่อเปิดทางเข้าไปในห้องเพื่อนสาว
เปรมินทร์ฉุนจัด หากปาฏลีเป็นชายเช่นเขา คงได้วางมวยเป็นแน่แท้ ไม่รู้เจ้าหล่อนโกรธเกลียดอะไรเขานักหนาสิน่า เปรมินทร์ไม่สบอารมณ์อย่างแรง เขาก้าวออกจากห้องไปในที่สุด
ปัง!
ประตูปิดเสียงดังไม่ได้ทำให้อรัญญิการ์สะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด เพราะจิตใจและร่างกายของเธอถูกเขาทำร้ายจนไร้ความรู้สึก
ปาฎลีอิดโรยจากการงานไม่แพ้เพื่อนสาวที่นอนแบบอยู่บนเตียง น้ำตาเธอรินไหลไม่ขาดสาย ริมฝีปากเม้มเข้าหากันกลั้นสะอื้น มือข้างหนึ่งกำหมัดแน่นอย่างข่มอารมณ์ ขณะที่อีกมือลูบหลังปลอบโยนอรัญญิการ์
“เอ็ม ฉัน..ขอโทษ ถ้าฉันมาเร็วกว่านี้ แกคงไม่...”
ก้อนสะอื้นใหญ่คับเต็มลำคอขวางกั้นวลีที่นางฟ้าคนงามต้องการเอื้อนเอ่ย ปาฏลีล้มกายลงนอนซ้อนหลังเพื่อนสาว เธอพลิกกายอรัญญิการ์ให้หันมา แล้วปาดหยาดน้ำตาออกจากแก้มให้หล่อน สองเพื่อนรักนอนกอดกันร่ำไห้ในชะตาที่ฟ้าลิขิต
‘เพราะนายคนเดียว นายอีกแล้ว ทำไมถึงทำร้ายอรัญญิการ์ได้ถึงเพียงนี้ ซาตานหรือไรที่มันสถิตอยู่ในร่างกายของนาย เปรมินทร์! ฉันอยากสาปแช่งนายเหลือเกิน แต่ความผิดครานี้ที่นายกระทำ สาปแช่งพันครั้งมันก็ยังน้อยไป!’

เสียงร้องร่ำไห้ประสานกันดังลอดออกมาจากช่องว่างใต้บานประตู เขารีบหยิบแว่นตาสีชาขึ้นมาสวมก่อนจะก้าวขายาวๆ เร่งเดินไปให้ห่างจากที่ตรงนั้น เพราะเสียงที่ได้ยินมันกำลังบีบคั้นหัวใจเขาเกินจะทนฟัง ไม่รู้ว่าสิ่งใดดลใจให้เขากระทำชั่วช้าต่อหล่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่เกิดมาจนป่านนี้ ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาต้องใช้กำลังข่มเหงผู้หญิง ไม่เคยเลยจริงๆ

ภาพสตรีสองนางเดินนวยนาดผ่านพรมแดงในชุดกรุยกรายแนบเนื้อแสนวาบหวิว ทั้งแบบทั้งเนื้อผ้าคล้ายกันจนดูราวฝาแฝด แข่งกันเปล่งรัศมีความเป็นดาวเจิดจรัสทันทีที่ก้าวเข้ามาในงาน
ปาฏลีสวยงามดุจเทพธิดาแสนสวยในชุดลูกไม้สีขาว
อรัญญิการ์สวยเซ็กซี่เหลือร้ายในชุดดำดูลึกลับ น่าค้นหา
ปาฎลียิ้มอ่อนหวานให้เพื่อนรักท่ามกลางแสงแฟลช
“ยิ้มหน่อยน่าทำตาละห้อยสร้อยเศร้าไม่เข้ากับบรรยากาศเลย หน้าอย่างนี้ใครเขาจะกล้าจ้างแกฮะ”
นางฟ้าคนงามค่อนขอดเพื่อนสาว
“ก็ฉันบอกแล้ว ว่าไม่ได้อยากรับงานนี้ มันเบื่อๆ เซ็งๆ ไม่อยากทำต่อแล้วนี่ ฉันกลับไปสอนหนังสืออย่างเดิมดีไหมแก”
อรัญญิการ์ถามเพื่อนรักเสียงลอดไรฟัน หล่อนเอ่ยกับแม่นางฟ้าในขณะยิ้มร่าอยู่หน้ากล้อง
“ปากรึนั่น ถ้าแกสอนเด็กอนุบาลสี่สิบนาทีแล้วได้สองแสน ฉันจะให้แกกลับไปสอนหนังสือเดี๋ยวนี้ แต่แกรู้ดี มันไม่มีทางเป็นไปได้เพราะฉะนั้น ยิ้มซะเพื่อน พรุ่งนี้หน้าสวยๆ ของแกจะได้เด่นหราอยู่กลางหน้าหนังสือพิมพ์ หลังจากเก็บตัวเงียบเป็นเดือนๆ”
อรัญญิการ์ฝืนยิ้มให้ช่างกล้องจนเหงือกจะแห้ง เธอรู้สึกแปลกๆ ตอนที่แสงแฟลชมันเข้าตา มันทำให้เธอตาพร่าขึ้นมาดื้อๆ ประหลาดจริงๆ แสงแฟลชที่เธอคุ้นชินทำไมวันนี้มันถึงเล่นงานเธอได้นะ
อรัญญิการ์ค่อยๆ เดินตามแรงลากของเพื่อนสาวคนขยัน นางฟ้าปาฏลีคนงามไม่เคยหยุดหาเงินหาทองเลยแม้เสี้ยววินาที
Rose
โรส คือเจ้าของในค่ำคืนนี้เพราะป้ายที่ติดไว้หน้างานทำให้ไม่สามารถมองเป็นอื่นไปได้ บรรยากาศในงานเป็นไปด้วยความคึกคัก สื่อมวลชนแทบทุกสำนักมารวมตัวกันอย่างล้นหลาม เหล่าดารา ดวงน้อยดวงใหญ่ต่างประโคมโหมใส่เสื้อผ้าหน้าผมมาพร้อม เพื่อเป็นใบเบิกทางสู่ตำแหน่ง พริเซ็นเตอร์ ของ โรส
หลังจากที่ Rose เปิดตัวผลิตภัณฑ์ไปได้ไม่นานนัก ชื่อเสียงของ Rose กลับเป็นที่นิยม อาจเป็นเพราะชื่อของเจ้าของที่มีเชื้อมีสาย หรืออีกอย่างคือตัวผู้บริหารหนุ่มรูปงามราวเทพบุตรที่ชื่อ เปรมินทร์ นั่นเอง
“ครับ ขอบคุณทุกคนมากครับที่ช่วยเหลือ Rose มาตลอด ผมรับรองว่าอีกไม่นานเกินรอ เราจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาให้ลองใช้แน่นอนครับ ถ้าถึงตอนนั้นคงต้องรบกวนพี่ๆ ช่วยโปรโมต อย่าลืมผมนะครับ”
เปรมินทร์ตอบคำถามสื่อมวลชนด้วยรอยยิ้มพร่างพราว ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีขาวช่วยให้คุณชายแห่งวังกุหลาบ โก้หรูสง่างามหาชายใดเทียบได้ยากในค่ำคืนนี้
เปรมินทร์ภูมิใจที่เขาก่อร่างสร้างตัวด้วยมือของเขาเอง ถึงแม้มันต้องแลกด้วยสิ่งมีค่าหลายต่อหลายอย่างในชีวิต โดยเฉพาะ ความรัก
ชายหนุ่มผู้มีนัยน์ตาสีสนิมก้มศีรษะให้บรรดานักข่าวเล็กน้อยเมื่อพวกเขาขอตัวไปรัวชัตเตอร์ที่ประตูทางเข้างาน
อรัญญิการ์สะดุดกึก จนเพื่อนรักแทบหกล้มเพราะเจ้าหล่อนลากแขนเธออยู่ เธอหลับตาปี๋นานหลายนาทีเพราะแสงแฟลชตัวดีเข้าเล่นงานอีกระลอก
แรงบีบที่ข้อมือทำให้อรัญญิการ์ต้องลืมตาอีกหน นักข่าวกลุ่มที่สองจ้องมองแม่มดน้อยด้วยความสงสัยใคร่รู้ แต่เธอไม่ใส่ใจ ไม่มีแม้แต่จะฉะสักยกกับพี่ๆ นักข่าวเหมือนเคย
“เอ็ม แกเป็นอะไรรึเปล่า ฉันเห็นแกแปลกๆ ตั้งแต่หน้างานแล้วนะ”
นางฟ้าคนงามตั้งข้อสังเกต
“ฉัน...ฉันมึนหัว ตาพร่าไปหมดแล้วแป๋ม แล้วฉันก็เหม็นกลิ่นน้ำหอมพวกนี้ด้วย”
อรัญญิการ์เอามือปิดปากเธอรู้สึกผะอืดผะอม นักข่าวกระหน่ำชัตเตอร์รัวเร็วเพื่อเก็บภาพท่าทีอันน่าสงสัยนั้น
“เอ่อ...ขอโทษนะคะพี่ๆ อย่าเพิ่งถ่ายได้ไหมขอให้เอมี่นั่งพักสักนิดนะคะ”
ปาฎลีกล่าวกับพี่ๆ นักข่าว น่าประหลาดดีแท้ เพราะพวกเขาหยุดกระหน่ำชัดเตอร์ทันใด หากเป็นอรัญญิการ์ที่เป็นคนกล่าวเมื่อกี้ เธอรับรองว่านักข่าวคงไม่ยอมรามือ
ปาฏลีรีบรีบจูงเพื่อนรักแหวกดงผู้คนไปหาเจ้าของงาน หล่อนอยากให้อรัญญิการ์ได้งานนี้ เพราะ Rose ทำสัญญาหลายปี เพื่อนรักจะได้ไม่ต้องลำบาก อีกอย่างคือ เธอจะได้มีข้ออ้างมาพบ คุณชายเมทัต บ่อยๆ นั่นเอง
“สวัสดีค่ะคุณชาย”
ปาฎลีทักทายตามมารยาท อรัญญิการ์รีบยกมือไหว้คุณชายอีกคน
“อ้าวๆๆ ไหวพระเถอะ หนูแป๋ม หนูเอมี่ มางานด้วยรึ นึกว่าถ่ายละครเสร็จจะพักนานกว่านี้เสียอีก”
คุณชายเมทัตบุรุษรูปงามทว่าสูงวัยแล้ว เอ่ยกับดาราสาวรุ่นลูก
“โธ่...คุณชายคะ แป๋มยังต้องกินต้องใช้นะคะ ไม่ได้สุขสบายนี่นา”
“โถๆ น่าสงสารจริงๆ ถ้าอย่างนั้น โลชันตัวใหม่ของโรสให้ทั้งสองเป็นพรีเซ็นเตอร์เลยดีไหม”
สองสาวหันมาสบตากันอย่างสมหวังดีใจ
“อูย แป๋มไม่เอาหรอกค่ะ เดี๋ยวภาพพจน์นางฟ้าละลายพอดี ยกให้เอมี่เถอะค่ะ รายนี้รับรองว่าไม่ทำให้โรสผิดหวังแน่นอน”
ปาฏลียอเพื่อนรัก อรัญญิการ์ฝืนยิ้ม เธอเดินเข้าไป คล้องแขน ชายสูงวัยเหมือนที่เคย
“ขอค่าตัวเยอะๆ นะคะ ท่านพ่อเจ้าขา เพราะน้องๆ ที่บ้านอุ่นไอรักอยากได้คอมพิวเตอร์ใหม่ ท่านพ่อจะกรุณาไหมเจ้าคะ นะ”
อรัญญิการ์ประจบ หล่อนเรียกบิดาของเปรมินทร์ว่าท่านพ่อมาแต่ไหนแต่ไร เพราะแม่มดน้อยใจกล้าอย่างอรัญญิการ์ ขอสมัครเป็นลูกสะใภ้ตั้งแต่วันแรกที่ทั้งสองเจอกัน ด้วยความที่คุณชายอยากพบลูกสาวมาก พออรัญญิการ์มาเรียกท่านอย่างนี้ก็พลอยทำให้ท่านคลายโศกได้บ้าง ท่านจึงเอ็นดูอรัญญิการ์ดุจลูกหลานคนหนึ่งก็ไม่ปาน
‘เมื่อไหร่หนอเคราะห์กรรมจะผ่านไป และให้ท่านได้เจอกับบุตรสาวเสียที’
“แล้วหายไปเป็นเดือนๆ ไปอยู่ไหนมาฮึเรา หรือว่าลูกชายตัวดีของฉันไปทำอะไรหนูเอมี่อีก”
คุณชายสงสัย เพราะปกติจะเห็นแม่มดแสนซนติดสอยห้อยตามเปรมินทร์ ลูกชายท่านอยู่บ่อยๆ จนท่านเห็นถึงความพยายามอันแกร่งกล้าของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้
ปาฏลีมองเพื่อนรักคล้องแขนคุณชายสูงวัย เจ้าหล่อนจีบปากจีบคอเอ่ยเรื่องสัพเพเหระอย่างออกรส บางครั้ง เธอก็อยากได้ความกล้าเหมือนที่อรัญญิการ์มีบ้าง อยากสัมผัสฝ่ามืออบอุ่นของคุณชาย อีกสักครั้ง
จิตใจของนางฟ้าคนงามล่องลอยออกจากร่าง เธอกำลังจินตนาการว่าร่างของอรัญญิการ์คือตัวเอง คุณชายกำลังลูบหัวเธออย่างเอ็นดู ฝ่ามือของท่านครั้งหนึ่งเคยประแป้งให้เธอ สองมือของท่านครั้งหนึ่งเคยถักเปียคู่ให้เธอ ครั้งหนึ่ง...เมื่อนานมาแล้ว นาน...จนท่านลืมไปแล้วว่ามีเธออยู่บนโลกใบนี้
“มีอะไรน่าสนใจถึงขนาดที่แม่มดชั่วร้าย เอาร่างกายเข้าแลกหรือครับท่านพ่อ”
สองสาวหน้าตึงทันใด
หนึ่งบุรุษอาวุโสไม่สบอารมณ์ ลูกชายตัวดีของท่านหาเรื่องสาวเจ้าอีกแล้ว
ปาฏลีคอแข็งขึ้นมาทันที นางฟ้าคนงามเชิดหน้าน้อยๆ อย่างหยิ่งยโส หางตาจิกกัดคุณชายรูปงามด้วยนัยน์ตาหวานคม นัยน์ตาสีเดียวกัน
เปรมินทร์อึดอัด แต่เขาพยายามซ่อนเร้นความรู้สึกนั้นเอาไว้ในใจ นางเอกอันดับหนึ่งของเมืองไทยหล่อนเป็นอะไรนักหนา เจอหน้าเขาทีไร หล่อนถึงทำท่าชิงชังรังเกียจเสียเต็มประดา จะว่าเพราะเรื่องที่เขาทำกับเพื่อนหล่อนรึก็ไม่ใช่ เพราะตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่อง หล่อนก็ตั้งป้อมรังเกียจเขาอยู่แล้ว
“สาวๆ ยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรเสียหน่อย พวกเธอมาอย่างนี้ก็ดีแล้ว งานจะได้คึกครื้น”
คุณชายเปรยกับบุตรชาย
“มิได้กระมัง ท่านพ่อ ลูกเกรงว่าสองสาวเข้ามาตีสนิทกับหนุ่มวัยใกล้เกษียรอย่างท่านพ่อ พวกหล่อนจะมีนัยพิเศษแอบแฝง บางทีอาจอยากจะรวมรัศมีกับท่านพ่อ เพื่อถีบตัวเองให้สูงขึ้นก็เป็นได้”
เปรมินทร์ตอบบิดา แต่นัยน์ตาสีสนิมไม่ละไปจากเรือนร่างอวบอิ่มเย้ายวนของแม่มดน้อยคนงาม
“คุณเปรม สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ได้โปรดสำรวมด้วย”
คุณชายเมทัตท้วงติงบุตรชาย
มือเรียวของอรัญญิกาปลดจากท่อนแขนอบอุ่นของท่าน
เปรมินทร์หน้าตึง หล่อนไม่สมควรถูกเนื้อต้องตัวบุรุษอื่นที่ไม่ใช่เขา

##################



Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.ค. 2555, 02:09:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ก.พ. 2556, 18:01:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 3591





<< 1 บุหงาเปื้อนราคี 100%   บทที่ 3 ปมมัดใจ 100% >>
mhengjhy 26 ก.ค. 2555, 08:50:43 น.
โอ๊ะ สงสัยคุณเปรมจะมีทายาท


Lilly 26 ก.ค. 2555, 13:14:43 น.
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถูก ขอบคุณนะคะ ที่แวะมาอ่าน ^_^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account