ได้เวลารัก
เวเนเซีย...
...สำหรับเธอยังไม่มีเวลาให้กับความรัก
เอเธนส์...
...สำหรับเขาถึงเวลาที่จะหยุดกับคำว่ารัก
...สำหรับเธอยังไม่มีเวลาให้กับความรัก
เอเธนส์...
...สำหรับเขาถึงเวลาที่จะหยุดกับคำว่ารัก
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ ๓
กลับมาบ้านนอกเมื่อวานนี้ค่ะ เวิ่นเว้อไปเรื่อย
วันนี้มาต่อบทที่่ ๓ ค่ะ
.................................................................
ได้เวลารัก บทที่ ๓
เอเธนส์ก้าวขึ้นบันไดเตี้ยไปยังบริเวณระเบียงของเรือนไม้หลังเล็กซึ่งเป็นล็อบบี้ของรีสอร์ต ลมโชยหอบเอาความเย็นและไอเค็มจากทะเลมาปะทะใบหน้า ใบหน้าคมปรากฏรอยยิ้มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทอดสายตายาวไปยังระลอกคลื่นที่กำลังจะถูกย้อมให้เป็นสีทองด้วยแสงแรกของวัน
ชายหาดทอดยาวเป็นแนวโค้งยังสงบเงียบ ไร้ผู้คน ในรีสอร์ตเองก็ยังคงเงียบ มีเพียงเสียงนกซึ่งอาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่บริเวณรีสอร์ตขับขานเป็นระยะ บนระเบียงเจ้าของรีสอร์ตหนุ่มกำลังจัดโต๊ะอาหารเช้าสำหรับแขกที่มาพัก
“อรุณสวัสดิ์ครับ” เจ้าของรีสอร์ตยิ้มกว้างทักทายแขกที่ตื่นเช้าที่สุดในวันนี้ เขาพบเอเธนส์ในทุกเช้าที่เจ้าตัวมาพักที่นี่ และมักมาจะด้วยภาพเดิมๆ ร่างสูงใหญ่ในชุดแบบลำลอง เสื้อโปโลและกางเกงขาสั้น สีดำทั้งชุดพร้อมกับกล้องตัวใหญ่
จะว่าไปเขายังไม่เคยเห็นเอเธนส์สวมเสื้อผ้าสีอื่น
เอเธนส์พยักหน้า กล่าวทักทายตอบ เขามาถึงหัวหินเมื่อวานนี้ ตามที่ตั้งใจว่าจะพักผ่อนสักสองสามวัน ระยะหลังนี้เขามักจะมาพักที่ ‘บ้านสายลม’ เพราะชอบบรรยากาศสบายๆ ของที่นี่ ห้องพักเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงราวครึ่งเมตรขนาดย่อม มีเพียงห้องนอน ห้องน้ำและระเบียง ตกแต่งแบบเรียบง่าย อีกอย่างก็คือเขาต้องอัธยาศัยกับ ‘สายลม’ ผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ต
“จิบกาแฟรอสักครู่นะครับ เดี๋ยวครัวซองต์คงจะมา” สายลมเอ่ยเมื่อเอเธนส์เดินไปยังโต๊ะซึ่งเขาเตรียมกาแฟและเครื่องดื่มอื่นๆ ไว้ นอกจากขนมปัง เนย และแยม เขายังมีครัวซองต์สูตรพิเศษซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าแทบทุกคน
“ครับ” เอเธนส์ตอบก่อนจะรินกาแฟในหม้อต้มใส่ถ้วยกระเบื้องเคลือบ ถือมายังโต๊ะซึ่งอยู่มุมระเบียง เขาวางถ้วยกาแฟและกล้องคู่ใจบนโต๊ะ แล้วทรุดนั่งลง หันหน้าไปมองลูกไฟกลมโตสีส้มทองที่กำลังโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ พลางจิบกาแฟ
ชายหาดแห่งนี้อาจจะไม่ได้สวยงามที่สุดในโลก แต่ก็มีมนต์เสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เขานึกถึงที่นี่เกือบทุกครั้งที่อยากพักผ่อน รวมทั้ง...ยังทำให้นึกถึงใครบางคน
นัยน์ตาคมหรี่ลงเมื่อมีความเคลื่อนไหวบางอย่างเคลื่อนใกล้เข้ามาในคลองสายตา เอเธนส์วางถ้วยกาแฟแล้วคว้ากล้องทันที
เวเนเซียรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจับจ้องเธออยู่ นัยน์ตาคมกวาดไปรอบๆ หากจังหวะการก้าวยังสม่ำเสมอ
เธอกำลังถูกแอบถ่ายภาพ!
เวเนเซียมั่นใจว่ากล้องตัวใหญ่แบบที่มักเห็นช่างภาพอาชีพหรือมือสมัครเล่นแต่รักการถ่ายภาพและมีกำลังทรัพย์สูงใช้กันกำลังถ่ายภาพเธอ ไม่ใช่พระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นจากผิวน้ำ
ปกติแล้วเธอไม่ใช่คนชอบถ่ายภาพ และที่สำคัญก็คือการถูกถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต... เธอไม่ชอบเอามากๆ
เธอไม่ใช่ดารา ไม่ใช่สาวสังคมคนดัง จึงไม่เคยต้องกังวลเรื่องจะมีคนมาแอบถ่ายภาพ
เวเนเซียก้าวขึ้นระเบียงของล็อบบี้บ้านสายลมซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายในเช้านี้
แต่ช่างภาพคนนี้ช่างคล้าย...
“ภาพสวยไหมคะ” เวเนเซียหยุดตรงหน้าคนที่ทำตัวเป็นปาปารัสซี่ เธอเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มนิดๆ แม้จะยังไม่เห็นใบหน้าทั้งหมด...แต่เขาทำให้เธอนึกถึงเจ้าของรูปร่างสูงใหญ่กลางสนามหญ้าของเพชรามันตรา คนที่ยังติดตายังตรึงอยู่ในความทรงจำ และดูเหมือนจะไม่ยอมให้เธอลืมไปได้ง่ายๆ
กล้องตัวใหญ่ที่บดบังใบหน้าคมเข้มถูกลดลง นัยน์ตาคมกล้ามองตอบเธอ
เอเธนส์!
ร่างสูงใหญ่ที่นั่งพิงพนักเก้าอี้ตรงหน้าเธอเป็นเขาจริงๆ เอเธนส์ยังอยู่ในชุดสีดำเหมือนเดิม แต่เสื้อโปโลและกางเกงขาสั้นทำให้ดูลำลองกว่าเสื้อเชิ้ตและแสล็คในวันนั้นมาก ผิวสีน้ำตาลจางซึ่งพ้นจากเสื้อผ้าเป็นกล้ามเนื้อตึงแน่นที่น่าจะเกิดจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ใช่การจงใจสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน
รวมแล้วสามารถพูดได้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ ‘ดูดี’ เอามากๆ น่าจะมากกว่าบรรดานายแบบที่เขาทำงานด้วยหลายคนเสียด้วยซ้ำ
แต่ว่า...
“ขอดูรูปหน่อยสิคะ” เวเนเซียเอ่ยเสียงหวานเช่นเดียวกับริมฝีปากที่มีรอยยิ้มหวาน แต่นัยน์ตาไม่ได้ฉายแววหวานไปด้วย ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเอเธนส์ก็ใช่ว่าจะเป็นข้อยกเว้นในเรื่องนี้
เอเธนส์แทบไม่รู้ตัวเลยเมื่อกล้องคู่ใจถูกฉวยออกไปจากมือ
ตั้งแต่เวเนเซียปรากฏตัวขึ้น เขาก็ไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้ ภาพพระอาทิตย์ขึ้นจากผิวน้ำนั้นไม่ได้อยู่ในความสนใจของเขาอีกแล้ว
เธอเดินตรงเข้ามา แม้จะมองผ่านเลนส์กล้องแต่ก็ได้เห็นว่าเรือนร่างโปร่งบางนั้นลวงตา วันก่อนเขาไม่ได้เห็นท่อนแขนเรียวยาว ทรวงอกอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อกล้ามสีแดงเข้มซึ่งแนบไปกับส่วนโค้งก่อนจะเป็นเอวคอด สะโพกผาย และท่อนขายาวใต้กางเกงขายาวสีส้มแดงเนื้อผ้านั้นพลิ้วสะบัดตามจังหวะก้าว รวมทั้งเล็บเท้าสีแดงดัดกับสีขาวของรองเท้าแตะไม่มีส้น
ในตอนนี้ที่ไม่ต้องมองผ่านเลนส์แล้ว...ภาพที่เขาเห็นยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น
เอเธนส์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย มองร่างโปร่งบางด้วยสายตาพิจารณาอย่างเต็มที่
เวเนเซียไม่ได้มีผิวขาวจัดอย่างที่นิยมกันในยุคนี้ หากผิวสีน้ำผึ้งอ่อนก็ดึงดูดสายตาไม่น้อย ผมสีดำสนิท วันนี้ถูกเกล้าหลวมๆ ตรึงไว้ด้วยปิ่นสีทอง ไม่เรียบตึงเช่นวันนั้น จึงมีไรผมตกลงมาล้อมกรอบหน้า ชวนให้ยกมือขึ้นเกลี่ยไรผมนั้นออกจากใบหน้าหวานเหลือเกิน
ผู้หญิงสวยนั้นเอเธนส์พบมามากมาย ผู้หญิงที่พราวด้วยเสน่ห์ก็เจอะเจอมาไม่น้อย หากคนที่จะมีอิทธิพลต่อจังหวะการเต้นหัวใจของเขานั้น...แทบไม่มี
โดยเฉพาะ...นัยน์ตาคม แววตาที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในตนเอง และอาจจะมีแววดื้อดึงแฝงอยู่ด้วย
“แหม...ดูดีนะคะ” เวเนเซียกดดูภาพตัวเองจากหน้าจอของกล้อง มันอาจจะไม่ใช่กล้องดิจิตอลตัวเล็กที่เธอเคยใช้ แต่การทำงานพื้นฐานอย่างการดูภาพ หรือเปิดปิดไม่ได้ต่างกันมาก
หญิงสาวยิ้มน้อยๆ เมื่อปิดกล้องแล้วเปิดช่องเสียบเมมโมรีการ์ด ดึงการ์ดอันเล็กออกมาก ก่อนจะปิดช่องเสียบแล้วยื่นกล้องคืนเจ้าของโดยที่เมมโมรีการ์ดนั่นยังอยู่ในมือเธอ
“ขอเอากลับไปดูก่อน แล้วจะส่งการ์ดคืนให้นะคะ” พูดแล้วก็หย่อนเมมโมรีการ์ดลงในกระเป๋ากางเกง
เอเธนส์ลุกขึ้น ไม่มองกล้องที่อีกฝ่ายวางคืนบนโต๊ะ เขามองสบนัยน์ตาพราว มีแววยิ้มและท้าทายอยู่ในนั้น รับรองว่าตอนที่ได้เมมโมรีการ์ดคืน...มันจะมาแบบการ์ดเปล่าๆ ไม่มีภาพอยู่ในนั้นแน่
เสียดาย...เขามัวแต่ถ่ายภาพเธอ จึงยังไม่ได้ดูภาพพวกนั้นเลย
เอาเถอะ... ใช่ว่าเขาจะมีโอกาสถ่ายภาพเธอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
เวเนเซียเงยหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ เพราะความสูงของเอเธนส์นั้นเลยศีรษะของเธอไปเกือบฟุต เวเนเซียยืนปักหลักมั่นขณะที่ร่างสูงใหญ่นั้นก้าวเข้ามา เขาหยุดที่ระยะห่างเพียงก้าวเดียว
เอเธนส์จ้องลึกลงไปในนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มประดุจอัญมณีน้ำงาม มีความท้าทายเล็กๆ น้อยๆ อยู่ในแววตานั้น
“ไม่ดูด้วยกันเสียตรงนี้เลยล่ะครับ”
เวเนเซียแย้มริมฝีปากน้อยๆ
“ไม่ดีกว่าค่ะ เอาเป็นว่าขอเบอร์คุณไว้ เวลาจะเอาการ์ดมาคืนจะได้โทรบอกนะคะ”
เอเธนส์หัวเราะเบาๆ ยกมือขึ้นกอดอก เขารู้หรอกน่าว่าเธอไม่ได้ต้องการหมายเลขโทรศัพท์ของเขาเพื่อจะนัดหมายเวลาคืนการ์ดอย่างที่อ้าง เมื่อวานนี้เลขานุการของเวเนเซียบุกไปหามุกมณีที่ออฟฟิศ แต่ก็ไม่ได้อะไรจากมุกมณีเพิ่ม มีเพียงคำปฏิเสธงานเท่านั้นที่เลขานุการของเวเนเซียได้กลับไป
แต่วันนี้เขากลับมาเจอเธอเสียเอง แล้วเวเนเซียก็ไม่รีรอเสียด้วย
“หมายความว่าจะจีบผมเหรอครับ...คุณหนูเว” เอเธนส์แกล้งแปลความไปอีกอย่าง
‘คุณหนูเว’ มองใบหน้าคมเข้ม แม้สีหน้าจะยังเป็นปกติ หากนัยน์ตาสีดำคมกริบนั้นพราวพราย แววตาเต้นระริกฉายความขบขัน เธอไม่รู้ว่าจะเคืองหรือจะขันดี ตั้งแต่เข้ามาทำงานในอัญมณีมันตรา ก็ไม่มีใครเรียกเธอว่าคุณหนูเวอีก
ยังจำได้อีกนะ...พ่อมดตัวร้าย
แล้วยังคำหยอกเย้านั้นอีก...แบบนี้มันท้าทายกันนี่
“คุณเอเธนส์จะให้เวจีบไหมละคะ” เวเนเซียยิ้มหวานตอบโต้คำยั่วเย้าของเขา ตั้งแต่ยังใช้คำนำหน้าว่าเด็กหญิง เธอถูก ‘จีบ’ มามากมาย ทั้งจากผู้ชายและผู้หญิง แต่ไม่เคย ‘จีบ’ ใครก่อนเลยสักครั้ง
แต่ว่าท้าทายกันแบบนี้...เธออาจจะต้องจีบเอเธนส์เสียแล้ว
เอเธนส์จ้องลงไปในนัยน์ตาวาววับของอีกฝ่าย น้ำเสียงหวานพร่าพรายไม่ต่างจากรอยยิ้มนั้นชวนให้หวามใจ หากที่ทำให้เขายิ้มในใจก็คือ ‘คุณเอเธนส์’ เธอยังเรียกเขาเต็มยศเหมือนเดิม
เวเนเซียขยับเข้าใกล้ร่างสูงใหญ่อีกนิด เหลือระยะห่างระหว่างสองร่างเพียงครึ่งก้าว เธอแทบจะรู้สึกถึงไออุ่นจากร่างสูงใหญ่นั้นได้เลย
“เวต้องการคุณ...” ริมฝีปากบางแย้มน้อยๆ
เอเธนส์รู้ว่าคำพูดของเวเนเซียนั้นเป็นการพูดแบบขยักไว้ ประโยคเต็มนั้นจะต้องเป็น ‘เวต้องการคุณสำหรับงานของเว’ หรืออะไรในทำนองนี้ หากมันก็เข้าไปก่อกวนอะไรบางอย่างลึกๆ ภายในของเขาได้ โดยเฉพาะร่างโปร่งบางที่ถ้าเขาเพียงก้าวไปอีกสักครึ่งก้าว ก้มหน้าลงอีกสักนิด เขาก็จะได้รู้ว่ากลิ่นหอมอ่อนๆ ที่รวยรินจากร่างโปร่งนั้นใช่กลิ่นน้ำหอมหรือไม่
“ก็เลยส่งคนมาตามล่าผมว่างั้นเถอะ” เอเธนส์ยืนปักหลักนิ่งปั้นหน้าเคร่งขรึม ถ้าตรงหน้าเขาคือคุณหนูเว... เอเธนส์จะไม่ลังเลใจเลยที่จะทำ ‘อะไรๆ’ หลายอย่างตามที่คิด แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คุณหนูเวของเขาแล้ว เธอคือเวเนเซีย...ผู้หญิงอีกคนที่แทบจะเป็นคนแปลกหน้ากัน
เธอไม่ใช่ของเขา...ยังไม่ใช่
“ไม่ได้ตามล่าแค่ตามหาเองค่ะ ก็คุณเอเธนส์...ช่างภาพมือหนึ่งหาตัวยากจริงๆ นี่คะ” เวเนเซียเอ่ยกลั้วหัวเราะ เธอรู้ดีว่างานยิ่งยาก ธารายิ่งกัดไม่ปล่อย จนกว่าจะหาทางติดต่อเอเธนส์ได้เขาจะไม่ยอมรามือแน่
ไม่ใช่แค่ธาราหรอกที่กัดไม่ปล่อย เธอเองก็เช่นกัน
แต่... เวเนเซียไม่แน่ใจนักว่า ‘คุณเอเธนส์’ ที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้จะเหมือนกับ ‘คุณเอเธนส์ของคุณหนูเว’ หรือเปล่า
ถ้ายังเหมือน...งานนี้ก็ไม่ยาก แต่ถ้าไม่...เธอก็ไม่คิดจะถอย
“ตกลงจะให้เวจีบไหมคะ” เวเนเซียวกกลับมาเรื่องเดิม
เอเธนส์สบตาพร่างพราวของอีกฝ่าย แม้จะรู้ว่าเวเนเซียหมายความว่าอย่างไร แต่เอเธนส์ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเวเนเซียจะจีบเขายังไง
ที่สำคัญ...เขาจะได้รู้ว่าหลายปีที่ผ่านมา ‘คุณหนูเว’ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง นอกจากรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนเป็นสาวสะพรั่ง สามารถหยุดสายตาใครต่อใครได้
เขารู้ว่า ‘คุณหนูเว’ จะต้องสวย ทว่า...เวเนเซียไม่ได้มีแค่ความสวย
เวเนเซียเลิกคิ้วนิดๆ เมื่อมือใหญ่ยื่นมาตรงหน้า
“โทรศัพท์ของคุณหนูเวครับ” เอเธนส์ตอบคำถามในสายตาของหญิงสาว ก็เมื่อครู่เวเนเซียขอหมายเลขโทรศัพท์ของเขานี่ เรื่องอะไรเขาจะให้เพียงฝ่ายเดียว
มันก็ต้องแลกเปลี่ยนกันสิ
เวเนเซียหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กในกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้เขา เธอมองเขากดหมายเลขแล้วกดต่อสาย ไม่มีเสียงดนตรีหรืออะไรที่บ่งบอกว่ามีโทรศัพท์เครื่องใดอยู่บริเวณนี้ทำให้เวเนเซียอดเย้าไม่ได้
“เบอร์นี้ต้องรอให้คุณโทรกลับหรือเปล่าคะ” เพราะหมายเลขนั้นน่ะธารามีอยู่แล้ว และเจ้าตัวก็บ่นมากมายที่เอเธนส์ไม่โทรศัพท์กลับมาไม่ว่าจะฝากข้อความไว้อย่างไรก็ตาม
เอเธนส์หัวเราะในลำคอ เขาทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่เรือนพัก แม้จะเป็นหมายเลขที่เขารับสาย แต่เขาก็ไม่ได้พกโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลาหรอก
“รอไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอกครับ” ชายหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ แล้วส่งโทรศัพท์คืน
“เวรอได้ค่ะ” เวเนเซียตอบยิ้มๆ หย่อนโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม
“แต่ไม่ชอบรอ” เอเธนส์ต่อให้ เขาได้เสียงหัวเราะใสๆ เป็นคำตอบว่านิสัยนี้ ‘คุณหนูเว’ ยังไม่เปลี่ยนไป บางที... ‘เวเนเซีย’ อาจจะมีเค้าของ ‘คุณหนูเว’ อยู่มาก
“ก็รู้ใจเวขนาดนี้แล้วทำไมไม่ตกลงใจกับเวละคะ” เวเนเซียปรายตาค้อนน้อยๆ
เอเธนส์โคลงศีรษะ...ยิ้มแบบอ่อนใจกับคำพูดแสนจะกำกวม ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยอะไรต่อก็ได้ยินเสียงเพลงดังขึ้นใกล้ๆ เขาเลิกคิ้วมองเวเนเซียหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กออกมา กำลังจะก้าวถอยเพื่อให้เวเนเซียรับโทรศัพท์เป็นส่วนตัว หากเสียงใสๆ ที่เอ่ยกับปลายสายทำให้ขาของเขาแข็งทื่อยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“โทรมาแต่เช้าขนาดนี้ คิดถึงเวมากเหรอคะเจ้าชาย” เวเนเซียสบตาคม สีหน้าของเอเธนส์อาจจะเรียบเฉย แต่แววตาไม่ได้ติดยิ้มๆ เหมือนตอนแรก
“อุตส่าห์ตั้งใจมากินข้าวเช้ากับเว แต่ไม่อยู่บ้านเสียนี่” หากเสียงห้าวๆ จากปลายสายก็เรียกความสนใจของเธอ
“โอ๊ะโอ๋... ถ้างั้นก็ตามมาที่หัวหินสิคะ เดี๋ยวเวจะเลี้ยงเต็มที่เลย” เวเนเซียตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ แต่อีกฝ่ายเพียงแค่หัวเราะ ไม่รับคำชวนของเธอก่อนจะเอ่ยลาแล้ววางสายไป
ทว่าเวเนเซียต้องละความสนใจจากเรื่องของเจ้าชายไปก่อน เพราะยังมีพ่อมดที่มองเธอตาขุ่นอยู่ตรงหน้า เวเนเซียยิ้มหวาน
“ถ้าคุณเอเธนส์ยังลังเลว่าจะตกลงปลงใจกับเวดีหรือเปล่า เดี๋ยวเราไปอัญมณีธารากันดีไหมคะ”
“ช่วงนี้ผมพักร้อน ไม่คุยเรื่องงานกับใคร” เอเธนส์พยายามคุมน้ำเสียงให้เรียบเรื่อยเป็นปกติ ปิดกั้นความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับ ‘เจ้าชาย’ ที่เขาได้ยินแว่วๆ ว่าอยากรับประทานอาหารเช้ากับเธอ
เจ้าหญิงแห่งอัญมณีมีเจ้าชายแล้วอย่างนั้นเรอะ
“อะ...แฮ่ม ผมมีครัวซองต์สุดอร่อย มีใครสนใจบ้างไหมครับ” สายลมกระแอมเสียงดัง ใบหน้าคมพราวด้วยรอยยิ้ม
สองหนุ่มสาวหันไปยังต้นเสียง สายลมถือถาดใบใหญ่ตรงเข้ามา ทั้งคู่หันมาสบตากันโดยไม่ตั้งใจ พวกเขาแทบจะลืมเรื่องรอบตัวไป เอเธนส์ก้าวถอยหลังเล็กน้อย เปิดพื้นที่ว่างระหว่างเขากับเวเนเซียเพิ่มขึ้น เป็นครั้งแรกที่เขานึกเคืองเจ้าของรีสอร์ตขึ้นมานิดๆ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณวินด์ เวมาได้เวลาพอดีใช่ไหมคะ” เวเนเซียหันไปยิ้มให้กับสายลม เธอชอบเดินเล่นที่ชายหาดยามเช้าและได้พบกับเจ้าของรีสอร์ตเล็กๆ ที่แม้จะแตกต่างไปจากโรงแรมในเครืออัญมณี แต่นี่เป็นรีสอร์ตในอีกรูปแบบที่เธอชอบไม่น้อย ยิ่งได้คุยกับสายลมก็ยิ่งต้องอัธยาศัยกันมากขึ้น นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของสูตรครัวซองต์ที่เธอติดใจด้วย
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเว มาพอดีเลยครับ ครัวซองต์เพิ่งมาเมื่อกี้นี้เอง”
เอเธนส์กะพริบตา น้ำเสียงร่าเริงและแฝงความสนิทสนมนั้นทำให้เขารู้ว่าเจ้าของบ้านสายลมรู้จักคุ้นเคยกับเวเนเซีย...ว่าแต่จะรู้จักและคุ้นเคยกันแค่ไหน
สายลมมองตอบสายตาของทั้งแขกประจำและแขกพิเศษในยามเช้าของบ้านสายลม พยายามสะกดรอยยิ้มไม่ให้กว้างเกินไป ตอนแรกเขาเกือบใจหายเมื่อเห็นเวเนเซียก้าวฉับๆ เข้าไปหาเอเธนส์ที่กำลังถ่ายภาพของเธอ แล้วฉวยกล้องจากมือช่างภาพหนุ่มมาแล้วถอดเมมโมรีการ์ดออก
เขาไม่ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ แต่เห็นเอเธนส์ยิ้มละไมราวกับชอบใจนักหนา ส่วนเวเนเซียเองก็มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา จึงโล่งใจและอยากรู้...ก็ใครจะไม่อยากรู้
ยิ่งเดินเข้ามาใกล้และได้เห็นท่าทางและสายตาของทั้งคู่ แบบนี้แปลว่าทั้งสองจะต้องรู้จักกัน...แบบสนิทมากๆ เสียด้วย
“คุณเวกับคุณเอเธนส์จะรับอาหารเช้าด้วยกันเลยไหมครับ” สายลมถามอย่างไม่จำเป็น ก็ถ้าเป็นเขาคงไม่มีทางปล่อยให้เวเนเซียนั่งอีกโต๊ะแน่ และเขาก็คิดไม่ผิดเมื่อเอเธนส์ขยับตัวก้าวไปเลื่อนเก้าอี้ให้เวเนเซีย
เวเนเซียค้อนให้คนที่เข้ามาเลื่อนเก้าอี้ทันทีโดยไม่รอคำตอบของเธอ แต่เวเนเซียก็ไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะเธอยังจะต้อง ‘จีบ’ เอเธนส์ต่อ
เอเธนส์รีบยืดตัวขึ้นเมื่อร่างโปร่งบางนั้นนั่งลงแล้ว หากสายตายังอ้อยอิ่งอยู่ที่ปิ่นสีทองซึ่งตรึงเส้นผมสลวยเอาไว้ นอกจากอยากรู้ว่ากลิ่นหวานๆ จากร่างโปร่งคืออะไรแล้วเขายังอยากเห็นว่าเส้นไหมสีนิลนี้ยาวขนาดไหน และอยากรู้ว่ามันจะให้ความรู้สึกยามสัมผัสอย่างไร เอเธนส์หักใจก้าวกลับไปนั่งยังเก้าอี้ตัวเดิมซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเวเนเซีย
สายลมวางถ้วยกาแฟและจานครัวซองต์ตรงหน้าหญิงสาว และวางอีกจานสำหรับเอเธนส์ .
“ขอบคุณค่ะ” เวเนเซียยิ้มให้กับสายลมซึ่งค้อมศีรษะนิดๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “ถ้าไม่ใช่เพราะครัวซองต์อร่อยๆ เวจะโกรธคุณวินด์มากเลยนะคะที่แย่งลูกค้าเก่าแก่ของพลอยไพลินมาแบบนี้”
สายลมเลิกคิ้ว พลอยไพลิน...โรงแรมในเครือของอัญมณีมันตรา ราคาห้องพักของพลอยไพลินห้องเดียวแทบจะเหมาบ้านสายลมของเขาได้ แต่ก็เป็นที่นิยมของผู้มาเยือนหัวหินมาโดยตลอด
เขาเหลือบไปยัง ‘ลูกค้า’ ที่ยกมุมปากขึ้นนิดๆ แม้เอเธนส์จะมาพักที่บ้านสายลมของเขาบ่อยๆ จนเขาได้คุยกับช่างภาพหนุ่มจนเรียกได้ว่าสนิทกันระดับหนึ่ง แต่เขาก็แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเอเธนส์เลย เจ้าตัวไม่เคยพูดถึงตัวเองสักคำ หากเขาก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไร
“เฮ้อ...ครัวซองต์ช่วยผมไว้อีกแล้ว ถ้าคุณเวโกรธหัวใจของผมคงหดหู่น่าดู” สายลมยกมือขึ้นขวาทาบบริเวณหัวใจ ตีสีหน้าละห้อย
เวเนเซียหัวเราะ ตั้งแต่รู้จักกันเขาไม่เคย ‘จีบ’ เธอเลย แต่มีคำพูดทำนองกระเซ้าเย้าแหย่แบบนี้เป็นประจำ ทำให้เธอได้หัวเราะเสมอๆ
“เชิญคุณเวกับคุณเอเธนส์ตามสบายนะครับ ผมขอตัวไปดูความเรียบร้อยอย่างอื่นก่อนนะครับ” สายลมเอ่ยกับหญิงสาวแล้วหันไปค้อมศีรษะกับเอเธนส์ ก่อนจะถอยออกมา
จริงๆ เขาก็อยากจะอยู่ด้วยหรอกนะ แต่เห็นสายตาของเอเธนส์แล้วหลบออกมาจะดีกว่า เขาก็แค่ล้อเล่นกับเวเนเซียเท่านั้นเอง
สายลมเหลือบมองภาพสองหนุ่มสาวถูกแสงแดดสีทองโอบล้อมไว้ เจ้าของรีสอร์ตหนุ่มเปิดยิ้มกว้างก่อนจะก้าวเร็วๆ ไปยังเคาน์เตอร์ด้านใน
“คุณเอเธนส์ยังไม่รับปากเลยว่าจะไปอัญมณีธารากับเว” เวเนเซียหันกลับมายังเอเธนส์ซึ่งยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ
“นี่เวลาอาหารเช้านะครับ ไม่ใช่เวลางาน” เอเธนส์แกล้งขัดคอ พอใจที่สายลมกลับไปยังเคาน์เตอร์ ก็สังเกตเห็นหรอกนะว่าไม่มีอะไรใน ‘สายตา’ ของเวเนเซียที่มองสายลม แต่มัน...
รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย
เวเนเซียประสานมือ วางศอกทั้งสองข้างบนโต๊ะ เกยคางไว้บนมือที่ประสานกัน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มสบนัยน์ตาคมดำขลับด้วยประกายตาวิบวับ
“เวก็ไม่ได้คุยเรื่องงานนี่คะ เวชวนไปเดตต่างหาก”
ธาราก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายขึ้นมายังชั้นบนของ ‘บ้านสุขใจ’ เรือนไม้สักใต้ถุนสูง หลังคาทรงปั้นหยา ซึ่งเป็นบ้านตากอากาศเก่าแก่และเป็น ‘หัวใจ’ ของอัญมณีธารา
ชั้นล่างนั้นจัดเป็นล็อบบี้และจัดพื้นที่อีกส่วนเป็นห้องอาหาร ส่วนชั้นบนประกอบด้วยห้องโถงกว้างเปิดโล่งถึงสามด้าน โดยมีราวระเบียงเป็นลูกกรงไม้แกะสลักสูงราวหนึ่งเมตรกั้น แล้วเปิดโล่งไปจนถึงเพดานซึ่งมีไม้เชิงชายแกะสลักรับกัน ด้านหน้าของตัวบ้านหันไปยังทะเล มองเห็นระลอกคลื่นม้วนตัวเข้าสู่ชายหาด ด้านในคือส่วนของห้องต่างๆ
สายตาของเลขานุการหนุ่มพุ่งตรงไปยังร่างโปร่งบางที่นั่งอยู่หน้าเปียโนสีขาว ท่วงทำนองพลิ้วไหวราวกับสายลมโชยผ่าน
“อ้าว...ธาร มาเงียบๆ เชียว” เวเนเซียละมือจากคีย์บอร์ดเมื่อจบเพลง หันมามองเจ้าของเสียงฝีเท้าบนพื้นไม้กระดานเก่าที่แม้จะรักษาไว้อย่างดีแต่ก็ทำให้ได้ยินเสียงออดแอดเบาๆ เห็นสีหน้าธาราแล้วเวเนเซียก็เอ่ยต่อยิ้มๆ “แน่ะ จะว่าเวใช่ไหมล่ะว่าแอบกลับมาหัวหิน”
“ใครจะกล้าว่าคุณเวกันครับ” ธาราโคลงศีรษะ เขาชินแล้วเรื่องทำอะไรปุบปับและการตัดสินใจรวดเร็วของเจ้านายสาว เพียงแต่วันนี้เขาต้องถูกบิดาโทรไปปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง...ก็ตอนที่เวเนเซียออกจากบ้านอัญมณีนั่นแหละ
“อยู่กรุงเทพก็ไม่มีอะไรทำ เวก็เลยมาที่นี่ดีกว่า” เวเนเซียหัวเราะเบาๆ ตามแผนเดิมเธอยังต้องอยู่ที่กรุงเทพเพื่อคุยเรื่องงานเปิดตัวของอัญมณีธารา แต่เธอก็ให้ธาราหาเอเจนซี่ใหม่แล้ว วันนี้จึงว่าง เธอก็เลยตัดสินใจมาอัญมณีธาราซึ่งก็ดีแล้วที่มา
ธาราแสร้งถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่ได้ตามเวเนเซียมาทันทีที่ถูกบิดาโทรศัพท์มาเทศนา เพราะยังไงก็ไม่มีทางตามเวเนเซียทันแน่ ฝีมือการขับรถของเวเนเซียไม่ต่างจากขับเรือหรอก และเขายังมีเรื่องต้องทำอีกมาก
“ผมติดต่อเอเจนซี่อื่นแล้วนะครับ เขาขอเวลาเสนองานอาทิตย์หน้า” คราวนี้เขาไม่ได้ให้แค่เอเจนซี่เดียวเสนองาน มันต้องมีที่เวเนเซียถูกใจบ้างสิ
เวเนเซียพยักหน้า ยังพอมีเวลา เพราะคงต้องใช้เวลาสักพักในการเปิดทดลองบริการก่อนจะเปิดอัญมณีธาราเต็มรูปแบบ
“ส่วนเรื่องพ่อมดของคุณเว...ผมขอเวลาอีกสักสองสามวันนะครับ” ธาราโคลงศีรษะเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ มุกมณีไม่ยอมให้หมายเลขโทรศัพท์ของเอเธนส์หรือหนทางติดต่ออื่นๆ แต่บอกว่าเอเธนส์ปฏิเสธไม่รับงาน...ทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้คุยกับเจ้าตัวสักคำ
เขาใช้ทุกหนทางในการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอเธนส์ เรียกว่าทั้งคุ้ยทั้งแคะเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้อะไรที่เป็นประโยชน์พอที่จะใช้ติดต่อถึงตัวเอเธนส์โดยตรง
แม้กระทั่งที่พัก... ทุกเสียงบอกว่าเอเธนส์มีห้องชุดสุดหรู แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน หรือว่าอาจจะมีคนรู้แต่เก็บเงียบ...อย่างมุกมณี
อีกอย่างคงเพราะเอเธนส์เป็นช่างภาพ แม้จะมีชื่อเสียงแต่ก็ไม่ใช่ดาราหรือนักร้องที่คนทั่วไปและสื่อจะให้ความสนใจ ฉะนั้นเรื่องอะไรที่เอเธนส์ไม่อยากพูดจึงไม่มีใครจะสืบหา เพราะมันไม่สามารถ ‘ขายได้’ เหมือนกับความลับของดารานักร้องทั่วไป
หากบางเรื่องมันก็รู้สึกว่า...ลับเกินไป
“ไม่รู้ว่าพ่อมดของคุณเวจะลึกลับไปถึงไหน ไม่มีใครรู้นามสกุล ที่อยู่ ขนาดเวลาจ่ายเงินค่าตัวยังต้องจ่ายผ่านสำนักงานทนายความเลยนะครับ” เขาได้เรื่องนี้มาอย่างแปลกใจ เพราะอย่างน้อยถ้าได้รู้ชื่อจริงนามสกุลจริงเขาก็อาจจะพอค้นหาที่อยู่ได้บ้าง
“แล้วชื่อเอเธนส์...ผมก็ชักไม่แน่ใจนะครับว่าเป็นชื่อจริงหรือว่าชื่อที่ใช้ในตอนนี้เท่านั้น” เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมช่างภาพคนหนึ่งจะต้องทำตัวลึกลับและเรื่องมากขนาดนี้
“ชื่อจริง” เวเนเซียยิ้มน้อยๆ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเอเธนส์จะต้องทำตัวลึกลับ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะไปกะเกณฑ์อะไรได้นี่นา ถ้าเขาพอใจจะไม่บอกเรื่องส่วนตัวกับใครก็เป็นเรื่องของเขา
“คุณเว...” ธาราลากเสียง มองนัยน์ตาเป็นประกายระยิบระยับของเจ้านายสาว ต้องมีอะไรบางอย่างที่เวเนเซียไม่ได้บอกเขาแน่นอน
เวเนเซียรู้จักเอเธนส์มาก่อน?
“ชอบไหมคะ” เวเนเซียปรายตาไปด้านหลังของเลขานุการ
ธาราเลิกคิ้ว สายตาของเวเนเซียเลยผ่านเขาไป เขาหันไปตามสายตาคู่นั้นก็ต้องชะงัก ร่างสูงใหญ่ที่เดินออกมาจากทางห้องด้านในของตัวบ้าน
“คุณหนูเวคิดว่ายังไงละครับ” เอเธนส์ก้าวสม่ำเสมอเข้ามาหาเวเนเซียซึ่งยังนั่งอยู่หน้าเปียโน เขารู้สึกว่าเสียงเปียโนหายไปและได้ยินบทสนทนาแว่วๆ จึงเดินกลับมายังโถงระเบียงด้านหน้าจึงได้เห็นว่ามีชายหนุ่มร่างสูงโปร่งยืนอยู่ใกล้ๆ เธอ
ช่างภาพหนุ่มใช้เวลาชั่วครู่จึงนึกออกว่าเขาเคยเห็นผู้ชายคนนี้ที่ทางเดินในสวนของเพชรามันตรา เป็นคนที่ติดตามเวเนเซีย...เลขานุการของเวเนเซียที่มุกมณีบอกว่ากำลังตามล่าเขา
“ก็คิดว่าเป็นเดตที่ดีที่สุดเดตหนึ่งสิคะ” นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำพราวระยับ
เอเธนส์โคลงศีรษะ เขาทั้งใจอ่อนและอ่อนใจไปกับคำพูดของเวเนเซีย หลังจากดื่มกาแฟกับครัวซองต์ที่เป็นอาหารเช้าหมดไป เวเนเซียก็ลากเขามา ‘เดต’ ที่อัญมณีธารา
แม้จะรู้ว่าเวเนเซียต้องการตื้อให้เขายอมรับงานเธอ แต่การได้มาเดินชมโครงการที่เจ้าของใช้เสียงหวานๆ อธิบายรายละเอียดต่างๆ ตั้งแต่ความเป็นมาของบ้านสุขใจ คอนเซ็ปต์อัญมณีธารา ระบบการจัดการ และรายละเอียดอีกมากมาย ทำให้เขาได้รู้ถึงความตั้งใจ ความทุ่มเท และความภูมิใจของเวเนเซีย
และยังทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับ ‘คุณหนูเว’ หลั่งไหลมา เกือบทุกภาพ ทุกเหตุการณ์ฉายชัดราวกับเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้
ธารามองสลับระหว่างเจ้านายสาวกับพ่อมดที่ทำให้เขาหัวปั่นมาสองสามวัน คำพูดของเวเนเซียทำให้เขาแทบตกใจ แต่การแลกเปลี่ยนสายตากันของทั้งคู่นั้นยิ่งกว่า
“อ้อ... นี่ธารา ผู้ช่วยคนสำคัญของเวค่ะ” เวเนเซียแนะนำทั้งสอง ริมฝีปากบางไม่คลายยิ้ม ไม่ใส่ใจสายตาคลางแคลงใจและสงสัยของทั้งคู่
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณเอเธนส์” ธารายื่นมือไปตรงหน้า เอเธนส์เป็นทุกอย่างตามที่เขาได้ข่าวมาจริงๆ มีอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ อันตราย...และชวนให้ลุ่มหลงได้ง่าย
“เช่นกันครับ” เอเธนส์จับมืออีกฝ่าย เขาเห็นสายตาพิจารณา...ติดจะจับผิดก็ยิ้มนิดๆ
ธาราค้อมศีรษะนิดๆ เขาเหลือบมองไปยังเวเนเซีย เขาจะไม่คิดอะไรมากเลยถ้าไม่ใช่เพราะแววตาพราวพร่างราวกับกำลังคิดวางแผนอะไรบางอย่าง
คุณเว...คิดจะทำอะไรกันแน่
................................................................................
วันนี้มาต่อบทที่่ ๓ ค่ะ
.................................................................
ได้เวลารัก บทที่ ๓
เอเธนส์ก้าวขึ้นบันไดเตี้ยไปยังบริเวณระเบียงของเรือนไม้หลังเล็กซึ่งเป็นล็อบบี้ของรีสอร์ต ลมโชยหอบเอาความเย็นและไอเค็มจากทะเลมาปะทะใบหน้า ใบหน้าคมปรากฏรอยยิ้มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทอดสายตายาวไปยังระลอกคลื่นที่กำลังจะถูกย้อมให้เป็นสีทองด้วยแสงแรกของวัน
ชายหาดทอดยาวเป็นแนวโค้งยังสงบเงียบ ไร้ผู้คน ในรีสอร์ตเองก็ยังคงเงียบ มีเพียงเสียงนกซึ่งอาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่บริเวณรีสอร์ตขับขานเป็นระยะ บนระเบียงเจ้าของรีสอร์ตหนุ่มกำลังจัดโต๊ะอาหารเช้าสำหรับแขกที่มาพัก
“อรุณสวัสดิ์ครับ” เจ้าของรีสอร์ตยิ้มกว้างทักทายแขกที่ตื่นเช้าที่สุดในวันนี้ เขาพบเอเธนส์ในทุกเช้าที่เจ้าตัวมาพักที่นี่ และมักมาจะด้วยภาพเดิมๆ ร่างสูงใหญ่ในชุดแบบลำลอง เสื้อโปโลและกางเกงขาสั้น สีดำทั้งชุดพร้อมกับกล้องตัวใหญ่
จะว่าไปเขายังไม่เคยเห็นเอเธนส์สวมเสื้อผ้าสีอื่น
เอเธนส์พยักหน้า กล่าวทักทายตอบ เขามาถึงหัวหินเมื่อวานนี้ ตามที่ตั้งใจว่าจะพักผ่อนสักสองสามวัน ระยะหลังนี้เขามักจะมาพักที่ ‘บ้านสายลม’ เพราะชอบบรรยากาศสบายๆ ของที่นี่ ห้องพักเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงราวครึ่งเมตรขนาดย่อม มีเพียงห้องนอน ห้องน้ำและระเบียง ตกแต่งแบบเรียบง่าย อีกอย่างก็คือเขาต้องอัธยาศัยกับ ‘สายลม’ ผู้เป็นเจ้าของรีสอร์ต
“จิบกาแฟรอสักครู่นะครับ เดี๋ยวครัวซองต์คงจะมา” สายลมเอ่ยเมื่อเอเธนส์เดินไปยังโต๊ะซึ่งเขาเตรียมกาแฟและเครื่องดื่มอื่นๆ ไว้ นอกจากขนมปัง เนย และแยม เขายังมีครัวซองต์สูตรพิเศษซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าแทบทุกคน
“ครับ” เอเธนส์ตอบก่อนจะรินกาแฟในหม้อต้มใส่ถ้วยกระเบื้องเคลือบ ถือมายังโต๊ะซึ่งอยู่มุมระเบียง เขาวางถ้วยกาแฟและกล้องคู่ใจบนโต๊ะ แล้วทรุดนั่งลง หันหน้าไปมองลูกไฟกลมโตสีส้มทองที่กำลังโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ พลางจิบกาแฟ
ชายหาดแห่งนี้อาจจะไม่ได้สวยงามที่สุดในโลก แต่ก็มีมนต์เสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เขานึกถึงที่นี่เกือบทุกครั้งที่อยากพักผ่อน รวมทั้ง...ยังทำให้นึกถึงใครบางคน
นัยน์ตาคมหรี่ลงเมื่อมีความเคลื่อนไหวบางอย่างเคลื่อนใกล้เข้ามาในคลองสายตา เอเธนส์วางถ้วยกาแฟแล้วคว้ากล้องทันที
เวเนเซียรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังจับจ้องเธออยู่ นัยน์ตาคมกวาดไปรอบๆ หากจังหวะการก้าวยังสม่ำเสมอ
เธอกำลังถูกแอบถ่ายภาพ!
เวเนเซียมั่นใจว่ากล้องตัวใหญ่แบบที่มักเห็นช่างภาพอาชีพหรือมือสมัครเล่นแต่รักการถ่ายภาพและมีกำลังทรัพย์สูงใช้กันกำลังถ่ายภาพเธอ ไม่ใช่พระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นจากผิวน้ำ
ปกติแล้วเธอไม่ใช่คนชอบถ่ายภาพ และที่สำคัญก็คือการถูกถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต... เธอไม่ชอบเอามากๆ
เธอไม่ใช่ดารา ไม่ใช่สาวสังคมคนดัง จึงไม่เคยต้องกังวลเรื่องจะมีคนมาแอบถ่ายภาพ
เวเนเซียก้าวขึ้นระเบียงของล็อบบี้บ้านสายลมซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายในเช้านี้
แต่ช่างภาพคนนี้ช่างคล้าย...
“ภาพสวยไหมคะ” เวเนเซียหยุดตรงหน้าคนที่ทำตัวเป็นปาปารัสซี่ เธอเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มนิดๆ แม้จะยังไม่เห็นใบหน้าทั้งหมด...แต่เขาทำให้เธอนึกถึงเจ้าของรูปร่างสูงใหญ่กลางสนามหญ้าของเพชรามันตรา คนที่ยังติดตายังตรึงอยู่ในความทรงจำ และดูเหมือนจะไม่ยอมให้เธอลืมไปได้ง่ายๆ
กล้องตัวใหญ่ที่บดบังใบหน้าคมเข้มถูกลดลง นัยน์ตาคมกล้ามองตอบเธอ
เอเธนส์!
ร่างสูงใหญ่ที่นั่งพิงพนักเก้าอี้ตรงหน้าเธอเป็นเขาจริงๆ เอเธนส์ยังอยู่ในชุดสีดำเหมือนเดิม แต่เสื้อโปโลและกางเกงขาสั้นทำให้ดูลำลองกว่าเสื้อเชิ้ตและแสล็คในวันนั้นมาก ผิวสีน้ำตาลจางซึ่งพ้นจากเสื้อผ้าเป็นกล้ามเนื้อตึงแน่นที่น่าจะเกิดจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ใช่การจงใจสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน
รวมแล้วสามารถพูดได้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ ‘ดูดี’ เอามากๆ น่าจะมากกว่าบรรดานายแบบที่เขาทำงานด้วยหลายคนเสียด้วยซ้ำ
แต่ว่า...
“ขอดูรูปหน่อยสิคะ” เวเนเซียเอ่ยเสียงหวานเช่นเดียวกับริมฝีปากที่มีรอยยิ้มหวาน แต่นัยน์ตาไม่ได้ฉายแววหวานไปด้วย ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเอเธนส์ก็ใช่ว่าจะเป็นข้อยกเว้นในเรื่องนี้
เอเธนส์แทบไม่รู้ตัวเลยเมื่อกล้องคู่ใจถูกฉวยออกไปจากมือ
ตั้งแต่เวเนเซียปรากฏตัวขึ้น เขาก็ไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้ ภาพพระอาทิตย์ขึ้นจากผิวน้ำนั้นไม่ได้อยู่ในความสนใจของเขาอีกแล้ว
เธอเดินตรงเข้ามา แม้จะมองผ่านเลนส์กล้องแต่ก็ได้เห็นว่าเรือนร่างโปร่งบางนั้นลวงตา วันก่อนเขาไม่ได้เห็นท่อนแขนเรียวยาว ทรวงอกอิ่มที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อกล้ามสีแดงเข้มซึ่งแนบไปกับส่วนโค้งก่อนจะเป็นเอวคอด สะโพกผาย และท่อนขายาวใต้กางเกงขายาวสีส้มแดงเนื้อผ้านั้นพลิ้วสะบัดตามจังหวะก้าว รวมทั้งเล็บเท้าสีแดงดัดกับสีขาวของรองเท้าแตะไม่มีส้น
ในตอนนี้ที่ไม่ต้องมองผ่านเลนส์แล้ว...ภาพที่เขาเห็นยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น
เอเธนส์ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย มองร่างโปร่งบางด้วยสายตาพิจารณาอย่างเต็มที่
เวเนเซียไม่ได้มีผิวขาวจัดอย่างที่นิยมกันในยุคนี้ หากผิวสีน้ำผึ้งอ่อนก็ดึงดูดสายตาไม่น้อย ผมสีดำสนิท วันนี้ถูกเกล้าหลวมๆ ตรึงไว้ด้วยปิ่นสีทอง ไม่เรียบตึงเช่นวันนั้น จึงมีไรผมตกลงมาล้อมกรอบหน้า ชวนให้ยกมือขึ้นเกลี่ยไรผมนั้นออกจากใบหน้าหวานเหลือเกิน
ผู้หญิงสวยนั้นเอเธนส์พบมามากมาย ผู้หญิงที่พราวด้วยเสน่ห์ก็เจอะเจอมาไม่น้อย หากคนที่จะมีอิทธิพลต่อจังหวะการเต้นหัวใจของเขานั้น...แทบไม่มี
โดยเฉพาะ...นัยน์ตาคม แววตาที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในตนเอง และอาจจะมีแววดื้อดึงแฝงอยู่ด้วย
“แหม...ดูดีนะคะ” เวเนเซียกดดูภาพตัวเองจากหน้าจอของกล้อง มันอาจจะไม่ใช่กล้องดิจิตอลตัวเล็กที่เธอเคยใช้ แต่การทำงานพื้นฐานอย่างการดูภาพ หรือเปิดปิดไม่ได้ต่างกันมาก
หญิงสาวยิ้มน้อยๆ เมื่อปิดกล้องแล้วเปิดช่องเสียบเมมโมรีการ์ด ดึงการ์ดอันเล็กออกมาก ก่อนจะปิดช่องเสียบแล้วยื่นกล้องคืนเจ้าของโดยที่เมมโมรีการ์ดนั่นยังอยู่ในมือเธอ
“ขอเอากลับไปดูก่อน แล้วจะส่งการ์ดคืนให้นะคะ” พูดแล้วก็หย่อนเมมโมรีการ์ดลงในกระเป๋ากางเกง
เอเธนส์ลุกขึ้น ไม่มองกล้องที่อีกฝ่ายวางคืนบนโต๊ะ เขามองสบนัยน์ตาพราว มีแววยิ้มและท้าทายอยู่ในนั้น รับรองว่าตอนที่ได้เมมโมรีการ์ดคืน...มันจะมาแบบการ์ดเปล่าๆ ไม่มีภาพอยู่ในนั้นแน่
เสียดาย...เขามัวแต่ถ่ายภาพเธอ จึงยังไม่ได้ดูภาพพวกนั้นเลย
เอาเถอะ... ใช่ว่าเขาจะมีโอกาสถ่ายภาพเธอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
เวเนเซียเงยหน้าขึ้นโดยอัตโนมัติ เพราะความสูงของเอเธนส์นั้นเลยศีรษะของเธอไปเกือบฟุต เวเนเซียยืนปักหลักมั่นขณะที่ร่างสูงใหญ่นั้นก้าวเข้ามา เขาหยุดที่ระยะห่างเพียงก้าวเดียว
เอเธนส์จ้องลึกลงไปในนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มประดุจอัญมณีน้ำงาม มีความท้าทายเล็กๆ น้อยๆ อยู่ในแววตานั้น
“ไม่ดูด้วยกันเสียตรงนี้เลยล่ะครับ”
เวเนเซียแย้มริมฝีปากน้อยๆ
“ไม่ดีกว่าค่ะ เอาเป็นว่าขอเบอร์คุณไว้ เวลาจะเอาการ์ดมาคืนจะได้โทรบอกนะคะ”
เอเธนส์หัวเราะเบาๆ ยกมือขึ้นกอดอก เขารู้หรอกน่าว่าเธอไม่ได้ต้องการหมายเลขโทรศัพท์ของเขาเพื่อจะนัดหมายเวลาคืนการ์ดอย่างที่อ้าง เมื่อวานนี้เลขานุการของเวเนเซียบุกไปหามุกมณีที่ออฟฟิศ แต่ก็ไม่ได้อะไรจากมุกมณีเพิ่ม มีเพียงคำปฏิเสธงานเท่านั้นที่เลขานุการของเวเนเซียได้กลับไป
แต่วันนี้เขากลับมาเจอเธอเสียเอง แล้วเวเนเซียก็ไม่รีรอเสียด้วย
“หมายความว่าจะจีบผมเหรอครับ...คุณหนูเว” เอเธนส์แกล้งแปลความไปอีกอย่าง
‘คุณหนูเว’ มองใบหน้าคมเข้ม แม้สีหน้าจะยังเป็นปกติ หากนัยน์ตาสีดำคมกริบนั้นพราวพราย แววตาเต้นระริกฉายความขบขัน เธอไม่รู้ว่าจะเคืองหรือจะขันดี ตั้งแต่เข้ามาทำงานในอัญมณีมันตรา ก็ไม่มีใครเรียกเธอว่าคุณหนูเวอีก
ยังจำได้อีกนะ...พ่อมดตัวร้าย
แล้วยังคำหยอกเย้านั้นอีก...แบบนี้มันท้าทายกันนี่
“คุณเอเธนส์จะให้เวจีบไหมละคะ” เวเนเซียยิ้มหวานตอบโต้คำยั่วเย้าของเขา ตั้งแต่ยังใช้คำนำหน้าว่าเด็กหญิง เธอถูก ‘จีบ’ มามากมาย ทั้งจากผู้ชายและผู้หญิง แต่ไม่เคย ‘จีบ’ ใครก่อนเลยสักครั้ง
แต่ว่าท้าทายกันแบบนี้...เธออาจจะต้องจีบเอเธนส์เสียแล้ว
เอเธนส์จ้องลงไปในนัยน์ตาวาววับของอีกฝ่าย น้ำเสียงหวานพร่าพรายไม่ต่างจากรอยยิ้มนั้นชวนให้หวามใจ หากที่ทำให้เขายิ้มในใจก็คือ ‘คุณเอเธนส์’ เธอยังเรียกเขาเต็มยศเหมือนเดิม
เวเนเซียขยับเข้าใกล้ร่างสูงใหญ่อีกนิด เหลือระยะห่างระหว่างสองร่างเพียงครึ่งก้าว เธอแทบจะรู้สึกถึงไออุ่นจากร่างสูงใหญ่นั้นได้เลย
“เวต้องการคุณ...” ริมฝีปากบางแย้มน้อยๆ
เอเธนส์รู้ว่าคำพูดของเวเนเซียนั้นเป็นการพูดแบบขยักไว้ ประโยคเต็มนั้นจะต้องเป็น ‘เวต้องการคุณสำหรับงานของเว’ หรืออะไรในทำนองนี้ หากมันก็เข้าไปก่อกวนอะไรบางอย่างลึกๆ ภายในของเขาได้ โดยเฉพาะร่างโปร่งบางที่ถ้าเขาเพียงก้าวไปอีกสักครึ่งก้าว ก้มหน้าลงอีกสักนิด เขาก็จะได้รู้ว่ากลิ่นหอมอ่อนๆ ที่รวยรินจากร่างโปร่งนั้นใช่กลิ่นน้ำหอมหรือไม่
“ก็เลยส่งคนมาตามล่าผมว่างั้นเถอะ” เอเธนส์ยืนปักหลักนิ่งปั้นหน้าเคร่งขรึม ถ้าตรงหน้าเขาคือคุณหนูเว... เอเธนส์จะไม่ลังเลใจเลยที่จะทำ ‘อะไรๆ’ หลายอย่างตามที่คิด แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คุณหนูเวของเขาแล้ว เธอคือเวเนเซีย...ผู้หญิงอีกคนที่แทบจะเป็นคนแปลกหน้ากัน
เธอไม่ใช่ของเขา...ยังไม่ใช่
“ไม่ได้ตามล่าแค่ตามหาเองค่ะ ก็คุณเอเธนส์...ช่างภาพมือหนึ่งหาตัวยากจริงๆ นี่คะ” เวเนเซียเอ่ยกลั้วหัวเราะ เธอรู้ดีว่างานยิ่งยาก ธารายิ่งกัดไม่ปล่อย จนกว่าจะหาทางติดต่อเอเธนส์ได้เขาจะไม่ยอมรามือแน่
ไม่ใช่แค่ธาราหรอกที่กัดไม่ปล่อย เธอเองก็เช่นกัน
แต่... เวเนเซียไม่แน่ใจนักว่า ‘คุณเอเธนส์’ ที่อยู่ตรงหน้าเธอในตอนนี้จะเหมือนกับ ‘คุณเอเธนส์ของคุณหนูเว’ หรือเปล่า
ถ้ายังเหมือน...งานนี้ก็ไม่ยาก แต่ถ้าไม่...เธอก็ไม่คิดจะถอย
“ตกลงจะให้เวจีบไหมคะ” เวเนเซียวกกลับมาเรื่องเดิม
เอเธนส์สบตาพร่างพราวของอีกฝ่าย แม้จะรู้ว่าเวเนเซียหมายความว่าอย่างไร แต่เอเธนส์ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเวเนเซียจะจีบเขายังไง
ที่สำคัญ...เขาจะได้รู้ว่าหลายปีที่ผ่านมา ‘คุณหนูเว’ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง นอกจากรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนเป็นสาวสะพรั่ง สามารถหยุดสายตาใครต่อใครได้
เขารู้ว่า ‘คุณหนูเว’ จะต้องสวย ทว่า...เวเนเซียไม่ได้มีแค่ความสวย
เวเนเซียเลิกคิ้วนิดๆ เมื่อมือใหญ่ยื่นมาตรงหน้า
“โทรศัพท์ของคุณหนูเวครับ” เอเธนส์ตอบคำถามในสายตาของหญิงสาว ก็เมื่อครู่เวเนเซียขอหมายเลขโทรศัพท์ของเขานี่ เรื่องอะไรเขาจะให้เพียงฝ่ายเดียว
มันก็ต้องแลกเปลี่ยนกันสิ
เวเนเซียหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กในกระเป๋ากางเกงแล้วส่งให้เขา เธอมองเขากดหมายเลขแล้วกดต่อสาย ไม่มีเสียงดนตรีหรืออะไรที่บ่งบอกว่ามีโทรศัพท์เครื่องใดอยู่บริเวณนี้ทำให้เวเนเซียอดเย้าไม่ได้
“เบอร์นี้ต้องรอให้คุณโทรกลับหรือเปล่าคะ” เพราะหมายเลขนั้นน่ะธารามีอยู่แล้ว และเจ้าตัวก็บ่นมากมายที่เอเธนส์ไม่โทรศัพท์กลับมาไม่ว่าจะฝากข้อความไว้อย่างไรก็ตาม
เอเธนส์หัวเราะในลำคอ เขาทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่เรือนพัก แม้จะเป็นหมายเลขที่เขารับสาย แต่เขาก็ไม่ได้พกโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลาหรอก
“รอไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอกครับ” ชายหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ แล้วส่งโทรศัพท์คืน
“เวรอได้ค่ะ” เวเนเซียตอบยิ้มๆ หย่อนโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม
“แต่ไม่ชอบรอ” เอเธนส์ต่อให้ เขาได้เสียงหัวเราะใสๆ เป็นคำตอบว่านิสัยนี้ ‘คุณหนูเว’ ยังไม่เปลี่ยนไป บางที... ‘เวเนเซีย’ อาจจะมีเค้าของ ‘คุณหนูเว’ อยู่มาก
“ก็รู้ใจเวขนาดนี้แล้วทำไมไม่ตกลงใจกับเวละคะ” เวเนเซียปรายตาค้อนน้อยๆ
เอเธนส์โคลงศีรษะ...ยิ้มแบบอ่อนใจกับคำพูดแสนจะกำกวม ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยอะไรต่อก็ได้ยินเสียงเพลงดังขึ้นใกล้ๆ เขาเลิกคิ้วมองเวเนเซียหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กออกมา กำลังจะก้าวถอยเพื่อให้เวเนเซียรับโทรศัพท์เป็นส่วนตัว หากเสียงใสๆ ที่เอ่ยกับปลายสายทำให้ขาของเขาแข็งทื่อยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“โทรมาแต่เช้าขนาดนี้ คิดถึงเวมากเหรอคะเจ้าชาย” เวเนเซียสบตาคม สีหน้าของเอเธนส์อาจจะเรียบเฉย แต่แววตาไม่ได้ติดยิ้มๆ เหมือนตอนแรก
“อุตส่าห์ตั้งใจมากินข้าวเช้ากับเว แต่ไม่อยู่บ้านเสียนี่” หากเสียงห้าวๆ จากปลายสายก็เรียกความสนใจของเธอ
“โอ๊ะโอ๋... ถ้างั้นก็ตามมาที่หัวหินสิคะ เดี๋ยวเวจะเลี้ยงเต็มที่เลย” เวเนเซียตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ แต่อีกฝ่ายเพียงแค่หัวเราะ ไม่รับคำชวนของเธอก่อนจะเอ่ยลาแล้ววางสายไป
ทว่าเวเนเซียต้องละความสนใจจากเรื่องของเจ้าชายไปก่อน เพราะยังมีพ่อมดที่มองเธอตาขุ่นอยู่ตรงหน้า เวเนเซียยิ้มหวาน
“ถ้าคุณเอเธนส์ยังลังเลว่าจะตกลงปลงใจกับเวดีหรือเปล่า เดี๋ยวเราไปอัญมณีธารากันดีไหมคะ”
“ช่วงนี้ผมพักร้อน ไม่คุยเรื่องงานกับใคร” เอเธนส์พยายามคุมน้ำเสียงให้เรียบเรื่อยเป็นปกติ ปิดกั้นความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับ ‘เจ้าชาย’ ที่เขาได้ยินแว่วๆ ว่าอยากรับประทานอาหารเช้ากับเธอ
เจ้าหญิงแห่งอัญมณีมีเจ้าชายแล้วอย่างนั้นเรอะ
“อะ...แฮ่ม ผมมีครัวซองต์สุดอร่อย มีใครสนใจบ้างไหมครับ” สายลมกระแอมเสียงดัง ใบหน้าคมพราวด้วยรอยยิ้ม
สองหนุ่มสาวหันไปยังต้นเสียง สายลมถือถาดใบใหญ่ตรงเข้ามา ทั้งคู่หันมาสบตากันโดยไม่ตั้งใจ พวกเขาแทบจะลืมเรื่องรอบตัวไป เอเธนส์ก้าวถอยหลังเล็กน้อย เปิดพื้นที่ว่างระหว่างเขากับเวเนเซียเพิ่มขึ้น เป็นครั้งแรกที่เขานึกเคืองเจ้าของรีสอร์ตขึ้นมานิดๆ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณวินด์ เวมาได้เวลาพอดีใช่ไหมคะ” เวเนเซียหันไปยิ้มให้กับสายลม เธอชอบเดินเล่นที่ชายหาดยามเช้าและได้พบกับเจ้าของรีสอร์ตเล็กๆ ที่แม้จะแตกต่างไปจากโรงแรมในเครืออัญมณี แต่นี่เป็นรีสอร์ตในอีกรูปแบบที่เธอชอบไม่น้อย ยิ่งได้คุยกับสายลมก็ยิ่งต้องอัธยาศัยกันมากขึ้น นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของสูตรครัวซองต์ที่เธอติดใจด้วย
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเว มาพอดีเลยครับ ครัวซองต์เพิ่งมาเมื่อกี้นี้เอง”
เอเธนส์กะพริบตา น้ำเสียงร่าเริงและแฝงความสนิทสนมนั้นทำให้เขารู้ว่าเจ้าของบ้านสายลมรู้จักคุ้นเคยกับเวเนเซีย...ว่าแต่จะรู้จักและคุ้นเคยกันแค่ไหน
สายลมมองตอบสายตาของทั้งแขกประจำและแขกพิเศษในยามเช้าของบ้านสายลม พยายามสะกดรอยยิ้มไม่ให้กว้างเกินไป ตอนแรกเขาเกือบใจหายเมื่อเห็นเวเนเซียก้าวฉับๆ เข้าไปหาเอเธนส์ที่กำลังถ่ายภาพของเธอ แล้วฉวยกล้องจากมือช่างภาพหนุ่มมาแล้วถอดเมมโมรีการ์ดออก
เขาไม่ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ แต่เห็นเอเธนส์ยิ้มละไมราวกับชอบใจนักหนา ส่วนเวเนเซียเองก็มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา จึงโล่งใจและอยากรู้...ก็ใครจะไม่อยากรู้
ยิ่งเดินเข้ามาใกล้และได้เห็นท่าทางและสายตาของทั้งคู่ แบบนี้แปลว่าทั้งสองจะต้องรู้จักกัน...แบบสนิทมากๆ เสียด้วย
“คุณเวกับคุณเอเธนส์จะรับอาหารเช้าด้วยกันเลยไหมครับ” สายลมถามอย่างไม่จำเป็น ก็ถ้าเป็นเขาคงไม่มีทางปล่อยให้เวเนเซียนั่งอีกโต๊ะแน่ และเขาก็คิดไม่ผิดเมื่อเอเธนส์ขยับตัวก้าวไปเลื่อนเก้าอี้ให้เวเนเซีย
เวเนเซียค้อนให้คนที่เข้ามาเลื่อนเก้าอี้ทันทีโดยไม่รอคำตอบของเธอ แต่เวเนเซียก็ไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะเธอยังจะต้อง ‘จีบ’ เอเธนส์ต่อ
เอเธนส์รีบยืดตัวขึ้นเมื่อร่างโปร่งบางนั้นนั่งลงแล้ว หากสายตายังอ้อยอิ่งอยู่ที่ปิ่นสีทองซึ่งตรึงเส้นผมสลวยเอาไว้ นอกจากอยากรู้ว่ากลิ่นหวานๆ จากร่างโปร่งคืออะไรแล้วเขายังอยากเห็นว่าเส้นไหมสีนิลนี้ยาวขนาดไหน และอยากรู้ว่ามันจะให้ความรู้สึกยามสัมผัสอย่างไร เอเธนส์หักใจก้าวกลับไปนั่งยังเก้าอี้ตัวเดิมซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเวเนเซีย
สายลมวางถ้วยกาแฟและจานครัวซองต์ตรงหน้าหญิงสาว และวางอีกจานสำหรับเอเธนส์ .
“ขอบคุณค่ะ” เวเนเซียยิ้มให้กับสายลมซึ่งค้อมศีรษะนิดๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “ถ้าไม่ใช่เพราะครัวซองต์อร่อยๆ เวจะโกรธคุณวินด์มากเลยนะคะที่แย่งลูกค้าเก่าแก่ของพลอยไพลินมาแบบนี้”
สายลมเลิกคิ้ว พลอยไพลิน...โรงแรมในเครือของอัญมณีมันตรา ราคาห้องพักของพลอยไพลินห้องเดียวแทบจะเหมาบ้านสายลมของเขาได้ แต่ก็เป็นที่นิยมของผู้มาเยือนหัวหินมาโดยตลอด
เขาเหลือบไปยัง ‘ลูกค้า’ ที่ยกมุมปากขึ้นนิดๆ แม้เอเธนส์จะมาพักที่บ้านสายลมของเขาบ่อยๆ จนเขาได้คุยกับช่างภาพหนุ่มจนเรียกได้ว่าสนิทกันระดับหนึ่ง แต่เขาก็แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเอเธนส์เลย เจ้าตัวไม่เคยพูดถึงตัวเองสักคำ หากเขาก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไร
“เฮ้อ...ครัวซองต์ช่วยผมไว้อีกแล้ว ถ้าคุณเวโกรธหัวใจของผมคงหดหู่น่าดู” สายลมยกมือขึ้นขวาทาบบริเวณหัวใจ ตีสีหน้าละห้อย
เวเนเซียหัวเราะ ตั้งแต่รู้จักกันเขาไม่เคย ‘จีบ’ เธอเลย แต่มีคำพูดทำนองกระเซ้าเย้าแหย่แบบนี้เป็นประจำ ทำให้เธอได้หัวเราะเสมอๆ
“เชิญคุณเวกับคุณเอเธนส์ตามสบายนะครับ ผมขอตัวไปดูความเรียบร้อยอย่างอื่นก่อนนะครับ” สายลมเอ่ยกับหญิงสาวแล้วหันไปค้อมศีรษะกับเอเธนส์ ก่อนจะถอยออกมา
จริงๆ เขาก็อยากจะอยู่ด้วยหรอกนะ แต่เห็นสายตาของเอเธนส์แล้วหลบออกมาจะดีกว่า เขาก็แค่ล้อเล่นกับเวเนเซียเท่านั้นเอง
สายลมเหลือบมองภาพสองหนุ่มสาวถูกแสงแดดสีทองโอบล้อมไว้ เจ้าของรีสอร์ตหนุ่มเปิดยิ้มกว้างก่อนจะก้าวเร็วๆ ไปยังเคาน์เตอร์ด้านใน
“คุณเอเธนส์ยังไม่รับปากเลยว่าจะไปอัญมณีธารากับเว” เวเนเซียหันกลับมายังเอเธนส์ซึ่งยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ
“นี่เวลาอาหารเช้านะครับ ไม่ใช่เวลางาน” เอเธนส์แกล้งขัดคอ พอใจที่สายลมกลับไปยังเคาน์เตอร์ ก็สังเกตเห็นหรอกนะว่าไม่มีอะไรใน ‘สายตา’ ของเวเนเซียที่มองสายลม แต่มัน...
รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย
เวเนเซียประสานมือ วางศอกทั้งสองข้างบนโต๊ะ เกยคางไว้บนมือที่ประสานกัน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มสบนัยน์ตาคมดำขลับด้วยประกายตาวิบวับ
“เวก็ไม่ได้คุยเรื่องงานนี่คะ เวชวนไปเดตต่างหาก”
ธาราก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายขึ้นมายังชั้นบนของ ‘บ้านสุขใจ’ เรือนไม้สักใต้ถุนสูง หลังคาทรงปั้นหยา ซึ่งเป็นบ้านตากอากาศเก่าแก่และเป็น ‘หัวใจ’ ของอัญมณีธารา
ชั้นล่างนั้นจัดเป็นล็อบบี้และจัดพื้นที่อีกส่วนเป็นห้องอาหาร ส่วนชั้นบนประกอบด้วยห้องโถงกว้างเปิดโล่งถึงสามด้าน โดยมีราวระเบียงเป็นลูกกรงไม้แกะสลักสูงราวหนึ่งเมตรกั้น แล้วเปิดโล่งไปจนถึงเพดานซึ่งมีไม้เชิงชายแกะสลักรับกัน ด้านหน้าของตัวบ้านหันไปยังทะเล มองเห็นระลอกคลื่นม้วนตัวเข้าสู่ชายหาด ด้านในคือส่วนของห้องต่างๆ
สายตาของเลขานุการหนุ่มพุ่งตรงไปยังร่างโปร่งบางที่นั่งอยู่หน้าเปียโนสีขาว ท่วงทำนองพลิ้วไหวราวกับสายลมโชยผ่าน
“อ้าว...ธาร มาเงียบๆ เชียว” เวเนเซียละมือจากคีย์บอร์ดเมื่อจบเพลง หันมามองเจ้าของเสียงฝีเท้าบนพื้นไม้กระดานเก่าที่แม้จะรักษาไว้อย่างดีแต่ก็ทำให้ได้ยินเสียงออดแอดเบาๆ เห็นสีหน้าธาราแล้วเวเนเซียก็เอ่ยต่อยิ้มๆ “แน่ะ จะว่าเวใช่ไหมล่ะว่าแอบกลับมาหัวหิน”
“ใครจะกล้าว่าคุณเวกันครับ” ธาราโคลงศีรษะ เขาชินแล้วเรื่องทำอะไรปุบปับและการตัดสินใจรวดเร็วของเจ้านายสาว เพียงแต่วันนี้เขาต้องถูกบิดาโทรไปปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง...ก็ตอนที่เวเนเซียออกจากบ้านอัญมณีนั่นแหละ
“อยู่กรุงเทพก็ไม่มีอะไรทำ เวก็เลยมาที่นี่ดีกว่า” เวเนเซียหัวเราะเบาๆ ตามแผนเดิมเธอยังต้องอยู่ที่กรุงเทพเพื่อคุยเรื่องงานเปิดตัวของอัญมณีธารา แต่เธอก็ให้ธาราหาเอเจนซี่ใหม่แล้ว วันนี้จึงว่าง เธอก็เลยตัดสินใจมาอัญมณีธาราซึ่งก็ดีแล้วที่มา
ธาราแสร้งถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่ได้ตามเวเนเซียมาทันทีที่ถูกบิดาโทรศัพท์มาเทศนา เพราะยังไงก็ไม่มีทางตามเวเนเซียทันแน่ ฝีมือการขับรถของเวเนเซียไม่ต่างจากขับเรือหรอก และเขายังมีเรื่องต้องทำอีกมาก
“ผมติดต่อเอเจนซี่อื่นแล้วนะครับ เขาขอเวลาเสนองานอาทิตย์หน้า” คราวนี้เขาไม่ได้ให้แค่เอเจนซี่เดียวเสนองาน มันต้องมีที่เวเนเซียถูกใจบ้างสิ
เวเนเซียพยักหน้า ยังพอมีเวลา เพราะคงต้องใช้เวลาสักพักในการเปิดทดลองบริการก่อนจะเปิดอัญมณีธาราเต็มรูปแบบ
“ส่วนเรื่องพ่อมดของคุณเว...ผมขอเวลาอีกสักสองสามวันนะครับ” ธาราโคลงศีรษะเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ มุกมณีไม่ยอมให้หมายเลขโทรศัพท์ของเอเธนส์หรือหนทางติดต่ออื่นๆ แต่บอกว่าเอเธนส์ปฏิเสธไม่รับงาน...ทั้งๆ ที่เขายังไม่ได้คุยกับเจ้าตัวสักคำ
เขาใช้ทุกหนทางในการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอเธนส์ เรียกว่าทั้งคุ้ยทั้งแคะเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้อะไรที่เป็นประโยชน์พอที่จะใช้ติดต่อถึงตัวเอเธนส์โดยตรง
แม้กระทั่งที่พัก... ทุกเสียงบอกว่าเอเธนส์มีห้องชุดสุดหรู แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน หรือว่าอาจจะมีคนรู้แต่เก็บเงียบ...อย่างมุกมณี
อีกอย่างคงเพราะเอเธนส์เป็นช่างภาพ แม้จะมีชื่อเสียงแต่ก็ไม่ใช่ดาราหรือนักร้องที่คนทั่วไปและสื่อจะให้ความสนใจ ฉะนั้นเรื่องอะไรที่เอเธนส์ไม่อยากพูดจึงไม่มีใครจะสืบหา เพราะมันไม่สามารถ ‘ขายได้’ เหมือนกับความลับของดารานักร้องทั่วไป
หากบางเรื่องมันก็รู้สึกว่า...ลับเกินไป
“ไม่รู้ว่าพ่อมดของคุณเวจะลึกลับไปถึงไหน ไม่มีใครรู้นามสกุล ที่อยู่ ขนาดเวลาจ่ายเงินค่าตัวยังต้องจ่ายผ่านสำนักงานทนายความเลยนะครับ” เขาได้เรื่องนี้มาอย่างแปลกใจ เพราะอย่างน้อยถ้าได้รู้ชื่อจริงนามสกุลจริงเขาก็อาจจะพอค้นหาที่อยู่ได้บ้าง
“แล้วชื่อเอเธนส์...ผมก็ชักไม่แน่ใจนะครับว่าเป็นชื่อจริงหรือว่าชื่อที่ใช้ในตอนนี้เท่านั้น” เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมช่างภาพคนหนึ่งจะต้องทำตัวลึกลับและเรื่องมากขนาดนี้
“ชื่อจริง” เวเนเซียยิ้มน้อยๆ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเอเธนส์จะต้องทำตัวลึกลับ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะไปกะเกณฑ์อะไรได้นี่นา ถ้าเขาพอใจจะไม่บอกเรื่องส่วนตัวกับใครก็เป็นเรื่องของเขา
“คุณเว...” ธาราลากเสียง มองนัยน์ตาเป็นประกายระยิบระยับของเจ้านายสาว ต้องมีอะไรบางอย่างที่เวเนเซียไม่ได้บอกเขาแน่นอน
เวเนเซียรู้จักเอเธนส์มาก่อน?
“ชอบไหมคะ” เวเนเซียปรายตาไปด้านหลังของเลขานุการ
ธาราเลิกคิ้ว สายตาของเวเนเซียเลยผ่านเขาไป เขาหันไปตามสายตาคู่นั้นก็ต้องชะงัก ร่างสูงใหญ่ที่เดินออกมาจากทางห้องด้านในของตัวบ้าน
“คุณหนูเวคิดว่ายังไงละครับ” เอเธนส์ก้าวสม่ำเสมอเข้ามาหาเวเนเซียซึ่งยังนั่งอยู่หน้าเปียโน เขารู้สึกว่าเสียงเปียโนหายไปและได้ยินบทสนทนาแว่วๆ จึงเดินกลับมายังโถงระเบียงด้านหน้าจึงได้เห็นว่ามีชายหนุ่มร่างสูงโปร่งยืนอยู่ใกล้ๆ เธอ
ช่างภาพหนุ่มใช้เวลาชั่วครู่จึงนึกออกว่าเขาเคยเห็นผู้ชายคนนี้ที่ทางเดินในสวนของเพชรามันตรา เป็นคนที่ติดตามเวเนเซีย...เลขานุการของเวเนเซียที่มุกมณีบอกว่ากำลังตามล่าเขา
“ก็คิดว่าเป็นเดตที่ดีที่สุดเดตหนึ่งสิคะ” นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเกือบดำพราวระยับ
เอเธนส์โคลงศีรษะ เขาทั้งใจอ่อนและอ่อนใจไปกับคำพูดของเวเนเซีย หลังจากดื่มกาแฟกับครัวซองต์ที่เป็นอาหารเช้าหมดไป เวเนเซียก็ลากเขามา ‘เดต’ ที่อัญมณีธารา
แม้จะรู้ว่าเวเนเซียต้องการตื้อให้เขายอมรับงานเธอ แต่การได้มาเดินชมโครงการที่เจ้าของใช้เสียงหวานๆ อธิบายรายละเอียดต่างๆ ตั้งแต่ความเป็นมาของบ้านสุขใจ คอนเซ็ปต์อัญมณีธารา ระบบการจัดการ และรายละเอียดอีกมากมาย ทำให้เขาได้รู้ถึงความตั้งใจ ความทุ่มเท และความภูมิใจของเวเนเซีย
และยังทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับ ‘คุณหนูเว’ หลั่งไหลมา เกือบทุกภาพ ทุกเหตุการณ์ฉายชัดราวกับเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้
ธารามองสลับระหว่างเจ้านายสาวกับพ่อมดที่ทำให้เขาหัวปั่นมาสองสามวัน คำพูดของเวเนเซียทำให้เขาแทบตกใจ แต่การแลกเปลี่ยนสายตากันของทั้งคู่นั้นยิ่งกว่า
“อ้อ... นี่ธารา ผู้ช่วยคนสำคัญของเวค่ะ” เวเนเซียแนะนำทั้งสอง ริมฝีปากบางไม่คลายยิ้ม ไม่ใส่ใจสายตาคลางแคลงใจและสงสัยของทั้งคู่
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณเอเธนส์” ธารายื่นมือไปตรงหน้า เอเธนส์เป็นทุกอย่างตามที่เขาได้ข่าวมาจริงๆ มีอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ อันตราย...และชวนให้ลุ่มหลงได้ง่าย
“เช่นกันครับ” เอเธนส์จับมืออีกฝ่าย เขาเห็นสายตาพิจารณา...ติดจะจับผิดก็ยิ้มนิดๆ
ธาราค้อมศีรษะนิดๆ เขาเหลือบมองไปยังเวเนเซีย เขาจะไม่คิดอะไรมากเลยถ้าไม่ใช่เพราะแววตาพราวพร่างราวกับกำลังคิดวางแผนอะไรบางอย่าง
คุณเว...คิดจะทำอะไรกันแน่
................................................................................
ฬีฬา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 พ.ค. 2554, 21:23:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 พ.ค. 2554, 21:23:01 น.
จำนวนการเข้าชม : 2542
<< บทที่ ๒ | นอกเวลารัก ตอน เวลาของเรา >> |
แว่นใส 10 พ.ค. 2554, 08:18:16 น.
น่านซิ เราก็อยากรู้เหมือนกันนะ
น่านซิ เราก็อยากรู้เหมือนกันนะ
aom 10 พ.ค. 2554, 09:58:09 น.
รอตอนต่อไปนะคะ
รอตอนต่อไปนะคะ
XaWarZd 18 พ.ค. 2554, 14:22:03 น.
ตามไปอ่านในเด็กดี แต่ว่าถ้าอัพในเวปนี้ได้จะดีมาก เพราะว่าโหลดเวปเด็กดีนานมากกกกกก ช่วยอัพเวปนี้หน่อยนะจ๊ะ
ตามไปอ่านในเด็กดี แต่ว่าถ้าอัพในเวปนี้ได้จะดีมาก เพราะว่าโหลดเวปเด็กดีนานมากกกกกก ช่วยอัพเวปนี้หน่อยนะจ๊ะ