ลิขิตพราย โดย วงแหวนดาวเสาร์ สนพ.อรุณ
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทางรอนแรมไปในหนทางมืดมิด
มีเพียงเสียงหริ่งเรไรและหิ่งห้อยนำทาง
เขากำลังหนีจากสังคม ผู้คน มาเพื่อตามหาสิ่งหนึ่งซึ่งถูกซุกซ่อนเอาไว้ในป่าลึก... “บ่อพราย”
ตำนานเล่าขานกันว่าหากใครได้ส่องดูเงาตนเองที่บ่อในคืนเดือนมืด คนผู้นั้นจะมองเห็นสิ่งที่ตนตามหา

พี่นนท์คนใหม่กลายเป็นอีกคนที่เพลงพิณไม่รู้จัก จากผู้ชายขี้แพ้ สุภาพ อ่อนโยน ไม่สู้คน
กลายเป็นกระด้าง ปราดเปรียว สนุกกับชีวิตในเวลาที่ได้เอาชนะทุกสิ่งด้วยแววตาทรงพลังจนน่าขนลุก
ชั่วเวลาไม่กี่เดือนสรานนท์กลับกลายจากคนหมดตัวไปเป็นตากล้องมาแรงที่สุดในขณะนั้น
เขาเปิดนิทรรศการภาพถ่ายชวนพิศวงและดูสูงค่าจนเหล่าเศรษฐีแทบจะเหยียบกันเพื่อแย่งชิงไปไว้ในครอบครอง
ด้วยแรงดึงดูดแปลกประหลาดราวกับไม่ใช่พลังจากน้ำมือมนุษย์
Tags: สรานนท์ เพลงพิณ ธิติ พล กมลณัฐ บ่อพราย

ตอน: บทที่ ๔ สัญญาพิษ(ต่อ-จบบท)

คุณหมูอ้วน – อย่าลืมไลค์ทุกตอนนะคะ^.^/คนเขียนดิ้นปัดๆ งอแง งุงิ

คุณเลิฟหมวย – พี่พลออกมาแล้วแต่ยังไม่แผลงฤทธิ์ จนกว่าเจอใครบางคน ที่ทำงาน ฮิๆๆ

คุณอะมีราห์ฯ – จะเลือกที่ความหล่อหรือที่นิสัยดีน้า ถ้าชอบตี๋ๆ หน้าหล่อคงต้องพี่พล

คุณซาอิแกะน้อยเปลี่ยวเหงาน่าเขย่าและบีบ – ช่ายค่ะ พี่นนท์เริ่มติดใจอยากถอดๆใส่ๆแว่น
จ้องตากับหนูเพลงอีก แต่ตอนนี้พี่นนท์ยังระงับความต้องการพอไหว ตอนรุกจริงนี่ร้ายมาก

คุณพระอาทิตย์สีทองรองเรือง – พรายในเรื่องนี้เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง ไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทนหรอกค่ะ
แต่ต้องการพิสูจน์คนที่จะเอาอำนาจไป ว่าคู่ควรหรือเปล่า เดี๋ยวจะค่อยๆ แง้มๆ
ส่วนธิติท่าจะหนังหนากว่านนท์หน่อย แผลอะไรฮีไม่สนใจทั้งนั้น ถ้าเตือนก็อาจจะคันๆ ขำๆ ลืมไปแล้ว

คุณแพทโอเค – จรุ๊บบบ การรออ่านคอมเม้นต์ของคนอ่านที่น่ารักก็เป็นความลึกลับสำหรับคนเขียนเหมือนกันนะ
ตอนเปิดกระทู้แล้วค่อยๆ เลื่อนวืดๆลงมาดูข้างล่างนี่น่ะค่ะ

คุณเรือใบ – กลับมาคุยกันบ่อยๆ นะคะ คนเขียนเหงาและคลุ้มคลั่งกับการเร่งงาน ต้องการคนปลอบใจ T^T

คุณหลิง – พอตาพลเริ่มมีบทกับสาวห้าวคนนึงคนเขียนก็เริ่มสงสัยว่าเขียนนิยายตลกอยู่หรือว่าเรื่องลึกลับ
ตอนนี้ยังจัดประเภทไม่ได้อยู่เลย เหอๆๆ

คุณลูกน้อยพูนี่ – ดีมากที่ตามมาอ่านอย่างจดจ่อ แม่จะให้รางวัลนะ... /เปิดฝาหม้อแล้วกวักมือหยอยๆๆ

คุณฮอบบิท – หมู่นี้มาปิดท้ายๆนะคะ แสดงถึงความบีซี่ในชีวิต แต่ก็ยังยินดีที่อุตส่าห์ติดตาม ตามติด ซึ้งจิตจริงๆ

คุณเฟอร์คนที่หายไปปปป (และจะได้แต่โป๋ยเหี่ยวๆ) – มะม้าโกรธแล้วววววววววว ฮึๆๆๆ





กลางดึก เพลงพิณตื่นขึ้นมาหลังจากเผลอตัวงีบหลับไปได้สักพัก
หญิงสาวกลับมาจากทำงานก็หมดแรง เนื่องจากคืนก่อนนอนไม่หลับ
แถมวันนี้ทั้งวันยังต้องเจอกับเรื่องผู้บริหารใหม่ไฟแรงผู้เคยเป็นคนคุ้นเคย
หึ พ่อตากล้อง... พ่อนักเขียนสารคดี... ลูกน้องคนเก่าของเธอ
นึกว่าเขาจะหนีไปให้ห่างที่ทางเดิมๆ แต่กลับย้อนมาโผล่ใกล้ตัวแค่นี้
ในรูปแบบชวนฉงน น่าหงุดหงิดด้วยอีกฝ่ายไม่ยอมบอกกันก่อน
แต่อีกใจหนึ่งก็น่ารอดูว่าพี่นนท์คิดจะทำอะไรกันแน่

วันนี้ท่านผู้บริหารคนใหม่ซึ่งเธอจงใจเรียกอย่างประชดเล็กๆ ได้เอ่ยถึง
โครงการทำหนังสือภาพถ่ายขึ้นมา เขาไม่ซ่อนเร้นเจตนาที่จะผลักดันตัวเอง
คุณอาทั้งสองที่ร่วมประชุมด้วยนั้นเป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้มาก่อนแล้ว
แต่ที่ผ่านมายังไม่อาจหาบุคลากรมาช่วยสานให้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างดังใจ
พวกท่านพอใจกันมากกับข้อเสนอของสรานนท์ แต่ตอนใกล้เลิกประชุมนี่สิ
พี่นนท์กลับแจ้งว่าในช่วงเดือนหน้าเขาจะยังไม่มาเริ่มงาน ด้วยอยากจัดการ
ธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อน แถมเขายังรีบร้อนขอตัวกลับไปโดยเพลงพิณ
ยังไม่ทันได้ถามว่าอีกฝ่ายยังต้องสะสางภาระอะไรอีก


หญิงสาวลุกมาอาบน้ำ นึกสงสัยตนเองว่าเผลอหลับไปยังไงทั้งที่ไม่ได้ล้างเครื่องสำอาง
ถือว่าผิดวิสัย ในที่สุดเธอก็ออกมาหอมสะอาดอยู่ในชุดนอน กำลังจะเดินไปเป่าผมให้แห้ง
เมื่อสายตาเหลือบเห็นถุงกระดาษลายสวยทว่าไม่เตะตาเพราะกลืนไปกับโทนสีของห้อง

ถุงคงจะถูกแม่บ้านนำไปไว้บนโต๊ะนั่งเล่นที่มุมห้องนอนกว้างขวางตั้งแต่หลายวันก่อน
มันคือของฝากที่พี่นนท์เอามาให้เธอ ตอนนั้นที่ยังไม่ได้เปิดดูเพราะต้องออกไปงานเลี้ยงด้วยกัน
แล้วหลังจากวันนั้นเธอก็ดันลืมมันไปเสียสนิทได้อย่างประหลาด

ทั้งที่จำได้ว่าเขาทำท่าเหมือนมีอะไรสลักสำคัญตอนยื่นมันให้ ก็ปกตินานๆ พี่นนท์จะ
ให้ของขวัญเธอสักครั้ง เจ้าตัวบอกว่าไม่ถนัดกับการเลือกข้าวของให้ผู้หญิง แต่คราวนี้
น่าสงสัยนักว่าเขาจะซื้ออะไรมาฝาก

หญิงสาวค่อยๆ หยิบกล่องสี่เหลี่ยมทั้งหนาและหนักในถุงออกมา กล่องถูกห่อด้วย
กระดาษสีน้ำตาลเรียบๆ ซ้อนซับด้วยตัวบุกันกระแทก เมื่อค่อยๆ แกะมันออกก็พบว่า
ข้างใต้มีกระดาษห่อของขวัญลายสวยซ่อนอยู่ รูปโน้ตดนตรีพลิ้วไปบนเส้นสายเลื้อยไหล
ดุจสายน้ำ ดนตรี...สิ่งที่เชื่อมโยงพี่นนท์และตัวเธอตลอดมา เขาก็ละเอียดอ่อนเหมือนกันนี่นา
ที่เลือกกระดาษห่อของขวัญได้มีความหมายอย่างนี้ ชักตื่นเต้นแล้วสิว่าข้างในคืออะไร

กล่องนั้นเป็นไม้ดำเนื้อดีขัดเคลือบเงาปลาบ ลายบนไม้ดูมีราคาคล้ายกล่องเก็บเครื่องประดับ
แต่ความหนาของมันทำให้คิดว่าน่าจะเป็นหีบเพลง หญิงสาวยิ้มในหน้า เธอเคยพูดนานแล้ว
ว่าอยากได้ แต่ไม่คิดว่าสรานนท์จะไปหามาให้จริงๆ แต่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดจนต้องอุทานออกมา
ก็เมื่อตอนแง้มฝากล่องเปิดนี่เอง

ตุ๊กตานางพรายตัวน้อยๆ นั่งอยู่บนโขดหินริมธาร คนทำช่างประดิษฐ์มันได้ละเอียดลออเหลือเกิน
ในมือเจ้าหล่อนกำลังกรีดพิณ ใบหน้ายิ้มแย้มละมุน ตาพริ้มสนิท ขาข้างหนึ่งจุ่มลงในน้ำ
เพลงพิณเร่งหมุนลานทองเหลืองที่ซ่อนอยู่ข้างในตัวกล่องอย่างแสนจะถูกใจ

เสียงเพลงที่ดังขึ้นมานั้นแปลกหู ทิ้งจังหวะเนิบ เบา สวยงาม จนเหมือนการล่องลอยของหิ่งห้อย
บางชั่วขณะก็ราวกับน้ำในธารกำลังไหลไป เป็นเสียงเพลงของธรรมชาติ หญิงสาวแอบเห็น
ในลำธารมีเงาจันทร์เร้นลับเลือนรางซ่อนอยู่ น่าชมเชยกับความงดงามของหีบเพลง
แปลกประหลาดนี้ มันคงแพงมาก คนให้ช่างไปเสาะหามันมาจากไหน เนื่องในโอกาสอะไร
ที่มากไปกว่าของฝากหรือเปล่า

เพลงพิณเหลือบตามองนาฬิกาโดยไม่ตั้งใจ
เข็มชี้บอกเวลาเที่ยงคืนสองนาที

และวันนี้คือวันเกิดของเธอ...


แปลกที่เธอเองเกิดจะงีบหลับไปและตื่นขึ้นมาเอาตอนจะล่วงเข้าวันเกิดและแกะกล่องนี้
ออกดูได้พอดิบพอดี หรือพี่นนท์ตั้งใจไว้ว่าจะให้สิ่งนี้เป็นของขวัญวันเกิดสุดพิเศษ
แล้วเขาจะรู้ได้ไงว่าคนรับจะเปิดมันตอนไหน อาจเพียงแค่บังเอิญเท่านั้น

แสงสีฟ้าเรื่อเรืองอ่อนจางในกล่องแลดูแปลกตา มันเกิดได้ด้วยเทคนิคแบบไหน
หญิงสาวเดินไปปิดไฟเพดานลง มองกลับไปยังเตียง หลากใจที่กล่องนั้นเรืองแสงมากขึ้นอีก
ไม่ใช่ว่าเพราะความมืดเลยขับเน้นให้ความสว่างดูเด่นชัด แต่ปริมาณแสงในวัตถุนั้นเพิ่มขึ้น
เสียงเพลงจากกล่องนางพรายน้อยพลิ้วแว่ววิเวกในบรรยากาศ

เพลงพิณแสนจะถูกใจ หญิงสาวเอนนอนลง มองต้นไม้เล็กๆ ละเอียดลออ
น้ำในลำธารใสคงทำจากอะคริลิก ดูหลอกตาราวกับกำลังไหลระรินเอื่อยไปจริงๆ
และเหมือนเห็นนิ้วมือน้อยๆ ของพรายสาวกำลังขยับดีดสายพิณกระนั้น
ป่าพรายยามค่ำคืนมีละอองฟ้าอมเขียวเรื่อเรืองแต้มจุดฟ้าราวหิ่งห้อยสีสันแปลกตา
ลอยล่องดุจภาพฝัน ดวงตาคู่สวยของเพลงพิณค่อยๆ หรี่หลับกับเพลงพราย
อันขับกล่อมให้ตกอยู่ในห้วงแห่งนิทราที่ชวนให้ไม่อยากจะลืมตาตื่นขึ้นมา

แต่แล้วหญิงสาวก็ตื่นจนได้เมื่อยามเช้ามาเยือน เสียงเพลงเงียบหายไปแล้ว
ร่างบางลุกขึ้น ปิดกล่องที่ถือเอาเองว่าเป็นของขวัญวันเกิดจากพี่ชายคนสำคัญลงด้วยรอยยิ้ม
อาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานตามปกติ และเมื่อเดินลงบันไดมาชั้นล่าง ก็ต้องแปลกใจ
ที่ได้ยินเสียงอากงดังอยู่ในห้องรับประทานอาหาร ทั้งที่ปกติแทบไม่เคยลงมา

อากงหัวเราะอยู่กับใคร พูดกับใคร

ปกติกงเธอไม่เคยคุยกับลูกจ้างในบ้านเกินจำเป็น ไม่ใช่เพราะหยิ่งแต่เป็นปกติของอากงเอง
เวลาอยู่ที่ทำงานท่านทักทายคนไปทั่ว แต่พอกลับมาอยู่บ้าน ผู้อาวุโสก็ถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว
และอยากอยู่สงบๆ อย่างใจ ...หรือว่ามีแขก แต่แขกที่ไหนจะมาเช้าขนาดนี้
เพลงพิณยกนาฬิกาข้อมือโลหะทองอ่อนเจือชมพูจางคล้ายสีแชมเปญเรือนบอบบางขึ้นดู
ยังไม่แปดโมงเลยด้วยซ้ำ


ก่อนที่หญิงสาวจะเยี่ยมหน้าไปดูให้รู้ว่าใครคือผู้มาเยือน
คำตอบก็วิ่งมากระแทกใจเมื่อยินเสียงหัวเราะของใครอีกคนคนนั้น...

“พี่พล !!! ” หญิงสาวถลาเข้าไปในห้องโดยไม่รอช้า
พบพี่ชายลุกพรวดขึ้นหันมาอ้าแขนรอรับพอดิบพอดี

เสียงหัวเราะในคอของอากงดังแทรกมาขณะที่พี่ชายน้องสาวกอดกันแนบแน่นนุงนัง

“ดีใจไหม พี่กลับมาแล้วนะคะ” ชายหนุ่มพูดกับเรือนผมนุ่มนิ่มสีน้ำตาลไล่โทนสวย
นี่น้องสาวของเขาเปรี้ยวขึ้นหรือนี่ ทำผมใหม่เสียเก๋ แต่ทันทีที่ตารีกลมใสแป๋วเงยขึ้นสบ
พลก็รู้ว่าเพลงพิณยังเป็นน้องน้อยคนเดิมไม่เปลี่ยนแปร เจ้าลูกแมวตาหวานทำตาสั่นระริก
เบิกกว้างสมกับที่เขารอคอยจะได้เห็นทีเดียว เห็นทีจะต้องให้รางวัลเสียแล้ว

“พี่พลทำอะไรไม่บอกเพลงสักอย่าง จะกลับมาทำไมไม่รีบบอก” น้องสาวที่ยังติดอยู่ในอ้อมแขน
คนตัวสูงกว่าเริ่มบ่นอู้อี้ รู้สึกอยู่ในใจว่าพี่ชายของตนหล่อขึ้น สมัยยังหนุ่มมากๆ พี่พลหน้าตา
ขาวสะอาดสะอ้านเหมือนเธอจนดูสำอางคล้ายผู้หญิง แต่พอตอนสามสิบต้นๆ อย่างนี้
เขากลับดูตัวหนาแกร่งกว่าเดิม บวกกับร่องรอยประสบการณ์ที่แฝงในแววตาและรอยยิ้ม
ทำให้ดูทั้งน่ารักทั้งสมชายยิ่งกว่าเก่า แบบนี้สาวๆ ในบริษัทคงคึกคักถ้าพี่ชายเธอไปปรากฏตัว
อย่างไม่ต้องสงสัย

คนเป็นพี่ชายแอบล้วงของที่เตรียมไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังออกมา
ก่อนเอื้อมติดตะขอสวมให้ที่คอน้องสาวซึ่งยังไม่ทันเห็นว่ามันคืออะไร

“อย่างอนพี่เลยนะคะ แค่อยากมาเซอไพร์สวันเกิดน้องเพลงเท่านั้นน่ะ
เอ้า กระพรวนแมว ของฝาก ลองดูซิว่าถูกใจไหม”

เพลงพิณก้มลงมองล็อกเก็ตรูปกลม สีทองเจือจางอมชมพูเข้ากับนาฬิกาเรือนสวย
ที่เธอสวมอยู่พอดิบพอดี ...สีที่น้องสาวชอบ และพี่ชายก็ไม่เคยลืม

“สวยถูกใจจังค่ะ” เพลงพิณรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เธอชอบเครื่องประดับรูปกลมมากกว่ารูปหัวใจ
และก็ชอบแบบนี้มากกว่าที่จะให้มันเป็นทรงรีๆ เพราะดูร่วมสมัย เข้ากับชุดได้หลากหลาย
พี่พลเลือกได้ตรงใจจนเหมือนตัวเธอเลือกเองเช่นเคย

หญิงสาวเปิดดูพบว่าข้างในนั้นว่างเปล่าจึงเงยมองพี่ชายอย่างเป็นคำถาม

“เว้นที่ไว้ให้เพลงเลือกเองไง ว่าอยากใส่อะไรลงไปในนั้น น้องพี่เป็นสาวแล้วนี่”
พี่ชายก้มลงหอมหน้าผากที่มีผมซอยลงมาปรกของน้องสาวฟอดใหญ่

“แบบนี้แปลว่าเปิดไฟเขียวแล้วใช่ไหมคะ”

“ยังหรอก รอดูก่อนว่าไปเลือกใครที่ไหนมาเป็นน้องเขยเรา ว่าแต่มีแล้วหรือยังไม่มี”
พี่ชายเริ่มเสียงเข้มขึ้น

“ยังค่ะ แต่คงใกล้แล้วมั้ง” เพลงพิณยั่ว

หลังจากสนใจพี่ชายอยู่ครู่ใหญ่หญิงสาวก็ผละไปนวดไหล่ให้อากงที่นั่งอยู่ยังเก้าอี้ที่โต๊ะ
รับประทานอาหารอย่างที่กงเคยขอให้เธอนวด เป็นการเอาใจว่ายังไม่ลืมอากง

“สุขสันต์วันเกิด หลานสาวคนสวยของกง” ชายชราเอ่ยอย่างมีความสุขพลางลูบหัว
หลานสาวที่ย่อตัวลงมาออเซาะ เจ้าสัวพิริยะนั้นพูดไทยชัดถ้อยชัดคำมาตลอดตั้งแต่ยังหนุ่ม
แม้ว่าบิดามารดาจะเป็นคนจีนแท้ๆ ที่เพิ่งย้ายมาอยู่เมืองไทย และยามนี้ผู้ชราก็ยังแข็งแรง
ร่าเริงในเวลาที่อยากจะร่าเริง เงียบขรึมในเวลาอยากอยู่ลำพัง

“รักอากงที่สุด แล้วก็ขอบคุณอีกครั้ง ที่ให้เจ้าไม้เลี้ยงในร่มแสนสวยแถมยังหายากเป็นของขวัญ
ตั้งกระถางมันไว้ในห้องน้ำที่ห้องเพลงแล้วค่ะ เห็นว่าชอบชื้นๆ แล้วก็แลดูเข้ากับบรรยากาศดีด้วย...
อ้อ เพลงมีเรื่องจะฟ้องกง” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงหมายมาด “เพลงงอนพี่พล ดันเอาเพื่อนเข้ามา
เป็นผู้บริหารอีกคน ไม่บอกล่วงหน้าเลย พี่นนท์ไงคะ ลูกชายคุณอาสมภพที่เคยมาบ้านเราตอนเด็กๆ
เขาเคยทำงานเป็นตากล้องกับเขียนสารคดีให้เรา ดันโดดมาเป็นผู้บริหารได้ แถมเพลงมารู้ว่าพี่ชายเรา
ก็รู้เห็นเป็นใจเสียด้วย ไม่มีใครบอกเพลงสักคน”

พลเริ่มกระสับกระส่ายอย่างเกรงๆ อากง แต่เห็นท่านยังยิ้มเฉยเขาจึงเอ่ย “ก็กะว่ามาถึงแล้ว
ค่อยคุยตอนเจอหน้าจะสะดวกกว่า ไม่น่ามีอะไร นี่ไอ้นนท์แจ้นเข้าไปบริษัทแล้วหรือ
นึกว่าจะรอพี่ พิลึกจริงเชียว ตั้งแต่มันได้หุ้นไปถือส่วนหนึ่งแล้ว ไม่สิ... เรียกว่าเป็น
ตัวแทนผู้ถือหุ้นที่เขาเต็มใจส่งมาดูแลแทนตัวมากกว่า ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนเขาถึงยอม”

“สรานนท์ ศาสตร์ศศิน ใช่ไหม...หวังว่าจะเหมือนปู่มากกว่าเหมือนพ่อ” อากงพูดทั้งยิ้มในสีหน้า

เพลงพิณกับพลก็รู้กันดีว่าสมภพบิดาสรานนท์นั้นมีโอกาสได้ร่วมหุ้นกับอารยกิจการพิมพ์ด้วยซ้ำ
เพราะฐานะครอบครัวเทียมหน้าทั้งสนิทสนมกับพ่อเขาและพ่อของธิติ ถ้าไม่มาล้มละลาย
หมดตัวไปเสียก่อนเพราะผีอบายมุขเข้าสิง ที่สรานนท์ต้องการเข้ามาเป็นผู้บริหาร
ส่วนหนึ่งอาจเพื่อกลับมามีส่วนยังที่ที่เขาคิดตนควรได้มีส่วน

“ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงอยากมาจับงานบริหารอารยกิจครับกง แต่เชื่อว่าเจตนาดีแน่
ไอ้นนท์มันเป็นคนดีไม่มีพิษมีภัย ถ้าเป็นแต่ก่อน ผมอาจว่ามันอ่อนแอเกินจะทำได้
แต่ล่าสุดที่ได้คุยกัน ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงดูเปลี่ยนไปนัก”

“พี่นนท์ก็เป็นแบบนี้มานานแล้วนะคะ พี่พลไม่ได้มาเจอเขาหลายปีแล้วมากกว่า”
เพลงพิณแก้ตัวแทนไปตามความจำอย่างใหม่ที่ติดในสมอง แต่ก็แอบสงสัยว่าหรือพี่ชายจะ
เข้าใจเพื่อนมากกว่า บางทีเธอก็คิดแวบๆ ขึ้นมาคล้ายที่พี่พลเพิ่งจะเอ่ยอยู่เหมือนกัน
ทว่าเมื่อคิดถึงแววตาพี่นนท์ เธอก็รู้...เขาทำได้แน่

“ความลับนะ พี่เริ่มอยากกลับมาอยู่บ้านตั้งแต่ได้อ่านงานไอ้นนท์ เล่มที่ชื่อ ‘ไม้คืนไพร’
รูปที่มันถ่ายได้อารมณ์ อ่านๆ ไปมันก็เขียนเก่งเหมือนกัน ทำเอาคนจรอยากคืนถิ่น
เรียกว่าเป็นงานเขียนที่ไม่หวือหวา แต่ว่ามีความรู้สึก” พลเอ่ยชมเพื่อนตัวเองอย่างเขินนิดๆ
“นึกว่ามันจะไม่เอาอ่าวไปทั้งชีวิตเสียแล้ว ดียังมากลับลำได้ คงต้องเอาใจช่วยเต็มที่”

“เขาเขียนว่ายังไงบ้างคะ ชิ้นนั้นไม่ได้ออกกับสำนักพิมพ์เรานี่ เห็นว่าเขียนให้เพื่อน
เพลงเลยยังไม่ได้ตามไปอ่าน”

“เปรียบเทียบป่าคือความร่มเย็นของบ้าน เหมือนเป็นที่ที่อยู่แล้วใจร่ม จะว่าไป
ตอนอยู่เมืองนอกพี่ก็สุขสบายดี สุขจนล้น แต่ไม่สงบไง นานเข้าก็ชักอยากกลับมาหาอากง
หาความสงบใจที่อาจหลงลืมไปดูบ้าง”

“อ้อนกงหรือไงเจ้าพล” ผู้ชราเปรยยิ้มๆ ยามจิบชาหลังอาหารขณะที่เพลงพิณซึ่งนั่งติด
ทางซ้ายของกงยังโต๊ะกลมเพิ่งเริ่มปรุงข้าวต้มร้อนๆ แล้วตักชิมรส

“ครับ ผมกลัวยายเพลงได้มรดกคนเดียว” หลานชายหยอกสุ้มเสียงทะเล้น แต่คนเป็นบุพการีไม่ถือสา
เพราะหัวข้อมรดกนั้นท่านเองที่เป็นผู้ริเริ่มนำมาเล่น ครั้นได้ยินหลานจดจำมากวนตอบก็ชอบใจ

“ไม่ต้องห่วงหรอก แบ่งให้น้อยกว่าอยู่แล้ว เพราะเพลงอยู่กับกงสองคนมาตั้งนาน”

พลเอาแต่ยิ้ม ไม่ได้สลดลงเลยจนนิดเดียว “ไม่แน่นะครับ ผมกลับมาอยู่ไม่นาน
กงอาจเปลี่ยนใจก็ได้ใครจะรู้ หลานชายเสน่ห์แรงถึงขนาดนี้ “ชายหนุ่มพูดกรุ้มกริ่ม

ทุกคนรู้ว่าไม่มีใครจริงจังกับเรื่องเงินๆ ทองๆ
สำหรับบ้านนี้สายใยความผูกพันต้องนำมาก่อนเสมอมา




เพลงพิณตั้งใจจะไปถึงที่ทำงานสายกว่าปกติเพื่อรอให้พี่ชายคุยกับอากงจนจุใจ
สมัยก่อนดูเหมือนท่านจะไม่ได้อยากคุยกับหลายชายนานๆ เช่นนี้นัก แต่พี่ชายเธอ
เป็นผู้ใหญ่ขึ้น แม้จะชอบสนุกเหมือนเดิมแต่เห็นได้ว่ามีบางอย่างสุขุมขึ้นในแววตาท่าที

กงและหลานนั่งคุยกันอย่างมีความสุข พลอิ่มของหวานจึงคว้าหนังสือพิมพ์ฉบับของวันนี้
ขึ้นมาอ่าน ก่อนนิ่วหน้ากับข่าวแรกที่เตะตา

“พบร่างชายกลางคนลอยมาในคลองประปา เลือดหมดตัว...” ชายหนุ่มพึมพำ
“ไม่มีเลือดเหลือเลยสักหยด แล้วก็ไม่ได้จมน้ำตายด้วย แถมเจอเคสแบบเดียวกันมาแล้วหลายคืน”

“หืม น่ากลัวนะคะ คล้ายคดีฆาตกรรมในซีรี่ส์ฝรั่งที่เพลงดูเลย”

“เฮ้อ คนเรานี่มันบ้า โลกชักจะอยู่ยากขึ้นทุกวัน นึกว่าไทยจะไม่มีคดีฆ่ากันพิลึกๆ
แบบเมืองนอกแล้วเชียวนะ” ชายหนุ่มซึ่งไปพำนักยังออสเตรเลียจนเป็นบ้านที่สอง
มาตั้งแต่จบม.ปลายบ่นพึม

“นั่นสิคะ ถ้าเรื่องการตายแปลกๆ แบบนี้มาเกิดกับคนใกล้ตัวเราคงใจหายแย่
ยิ่งถ้าเป็นคนในครอบครัว...” เพลงพิณที่เพิ่งวางถ้วยของหวานถอนใจยาวเมื่อนึกถึง
เรื่องฆ่ากันตายที่คดียังคงเป็นปริศนาในครอบครัวคนใกล้ชิดอย่างพี่นนท์ขึ้นมา

อากงสะกิดหลังมือพลให้มองหน้าน้องสาว คนเป็นพี่ชายเห็นดังนั้นจึงลุกจากเก้าอี้
เดินอ้อมไปโอ๋โดยการโยกหัวอีกฝ่ายเล่นเบาๆ
“พี่กลับมาอยู่ด้วยแล้วทั้งคนนี่ฮึ กลัวอะไรหรือไงคะ”

“ไม่ได้กลัว แต่ห่วงคนที่ตัวเองรัก คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ให้เจอบ่อยๆ นี่นา”
หญิงสาวเริ่มงอแงในน้ำเสียงทั้งที่ยังยิ้มบางเบา เขินทั้งอากงและพี่ชายซึ่งรุมจับจ้องตนอยู่

“พี่กลับมาอยู่ให้ห่วงใกล้ๆ แล้วไง ...พี่ชายเพิ่งบอกอากงก่อนเพลงลงมาแน่ะ ว่าต่อไปนี้
จะไม่ไปอยู่เมืองนอกนานๆ อีกแล้ว จะปักหลักอยู่แถวนี้ อยู่ช่วยกงกับเพลงทำงานจริงจังละ”

“จริงเหรอคะ” เพลงพิณตาโตอย่างไม่คาดคิด “พี่พลกลับมาก็เหมือนได้ทั้งคุณพ่อและคุณแม่
มาอยู่ด้วยอย่างละครึ่งแล้ว” เพลงพิณกอดแขนในสูทแขนยาวของคนที่ก้มลงโอบตนไว้จากหลังเก้าอี้
เงยแหงนหน้าไปพิงเขาอย่างออเซาะ ใจจริงอยากบอกว่าพี่ชายกลับมาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้
ก็เหมือนคุณแม่กลับมาอยู่ด้วย... แต่ถ้าพูดไปเจ้าตัวคงจะหน้านิ่วคิ้วขมวดแน่
“...สัญญานะคะพี่พล ว่าจะอยู่เป็นเพื่อนเพลง”

“ฮื่อ สัญญา...” พี่ชายครางรับในคอ รู้ดีว่าน้องสาวเหงาแค่ไหนตลอดเวลาที่ผ่านมา
ต่อแต่นี้ไปเขาจะอยู่ปกป้องเพลงพิณอย่างจริงจังเหมือนอย่างที่เคยตั้งใจมาในอดีต

เรื่องที่ชายหนุ่มไม่คิดจะแง้มออกไป เขากลับมาเพราะสังหรณ์ใจบางอย่าง
ว่าถ้าเขาไม่อยู่เพลงพิณจะลำบาก พลบอกตัวเองว่าจะไม่ทิ้งน้องสาวที่น่ารักคนนี้ไปไหน
จะดูแลเธอไม่ว่าจากสิ่งใดที่จะเข้ามาทำร้ายด้วยมือทั้งสองข้าง

นั่นคือความปรารถนาอันเป็นที่สุดของคนเป็นพี่ชาย



อสิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ส.ค. 2555, 10:39:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ต.ค. 2557, 07:35:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1428





<< เปลี่ยนชื่อบทเก่าแล้วนะคะ ขอขึ้นบทที่ ๔ สัญญาพิษ(ตอนแรก)   บทที่ ๕ จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง >>
อสิตา 9 ส.ค. 2555, 10:41:31 น.

ขอบคุณทุกท่านนะจ๊ะที่ช่วยบริจาคไลค์เป็นธารน้ำใจแด่คนเขียนที่เหี่ยวแห้ง ร่อแร่ ใกล้ด่าวดิ้นสิ้นแรง
//กราบบบบบบบ
เจอกันไม่จันทร์ก็อังคารหน้า...


sai 9 ส.ค. 2555, 11:10:12 น.
แหมมม พี่พลมาแย่งซีนจริงๆด้วย น่ารักอ่ะ


อสิตา 9 ส.ค. 2555, 11:16:41 น.
ตอนหน้าบรรยายความหล่อเพิ่มอีกหน่อย กลัวเห็นภาพไม่ชัด
+เริ่มเฟี้ยว พอเห็นสาวห้าวแล้วออกอาการ...
ณัฐ VS. พี่พล


ameerahTaec 9 ส.ค. 2555, 11:19:59 น.
อ่อ ที่แท้พี่พลเป็นพี่ของเพลง นึกว่าจะมาชอบนางเอกอีกคน อิอิ


หมูอ้วน 9 ส.ค. 2555, 12:28:01 น.
พี่พลน่ารักมาก ๆ เลยค่ะ


เรือใบ 9 ส.ค. 2555, 15:20:24 น.
โอยย อ่านแล้วอยากมีพี่ชาย ><


Zephyr 9 ส.ค. 2555, 15:32:10 น.
พี่พลชนะพี่นนท์กินขาดแล้ว พี่นนท์เป็น ตปก ไปละ
มะม้าอ่า พี่นนท์ดูแหย มาก เป็นไอ้ไก่อ่อนเต็มรูปแบบ แต่พลิกคาแรคเตอร์กลับมา กำลังจะรุ่งนะ แต่ว่า พี่พลออก....
พี่นนท์ดับอีกละ
มะม้าทำเค้าคิดถึงพี่ฟลล่ะ ไปดีกว่า ไปอ้อนมั่งงงงงง


patok 9 ส.ค. 2555, 17:42:36 น.
บทนี้ขอถามง่ายๆสั้นๆ พี่พลมีแฟนละยังคะ 555+


Chii 9 ส.ค. 2555, 17:55:30 น.
...ตกลงใครพระเอกเนี่ย พี่นนท์ไม่เคยออกมาเต็มบทแบบอิพี่พลนี่เลยนะ
//ไม่ย้อมมมมม ดิ้นปัด ๆ


lovemuay 9 ส.ค. 2555, 19:29:28 น.
พี่พลเปิดมาก็หล่อเกินหน้าพี่นนท์แระ ดีนะที่เป็นพี่ชายหนูเพลง
ไม่งั้นพี่นนท์มีคู่แข่งที่โตรจะน่ากลัวเพิ่มมาอีกคน ^^


ฮอบบิท 9 ส.ค. 2555, 22:03:06 น.
พี่พลดูหล่อกว่าเดิม...เพลงรู้สึกแบบนั้น...แต่คนอ่านสงสัย ไปชุบตัวมาจากบ่อพรายอีกคนหรือเปล่าเนี่ย


goldensun 10 ส.ค. 2555, 00:01:59 น.
ชอบหีบเพลงจัง แล้วนางพรายบรรเลงเพลงพิณสมชื่อคนได้ของขวัญวันเกิดซะด้วย
ให้พี่พลเสน่ห์แรงอย่างนี้ พี่นนท์น้อยใจแย่เลยค่ะ ก็ทั้งหล่อ ทั้งใจดี ดูท่าจะเก่งด้วย
ว่าแต่ ศพลอยน้ำนี่ เกี่ยวกับพรายมั้ยคะ


shadha 10 ส.ค. 2555, 01:26:57 น.
จริงๆแล้วสามเกลอร่วมสาบานต่างก็ไปชุบตัวยังบ่อพราย และฐิติแลดูจะตกสู่สายดาร์กเป็นเป็นคนแรก
แต่เขาก็อาจจะกลับตัวกลับใจแะพลิกกลับมาเป็นพระเอกก็ได้ ใครจะรู้...

ฮะ?...อะไรนะ? เพ้อเจ้อ? ใคร....ไม่มี๊!!


อสิตา 10 ส.ค. 2555, 10:01:29 น.
^
^ก็ฟังเข้าเค้านี่นาลูกหนู...สมกับที่อ่านนิยายแม่มานาน


ling 10 ส.ค. 2555, 16:19:55 น.
น่ารักจังพี่พลเนี่ย


ใบบัวน่ารัก 11 ส.ค. 2555, 10:21:19 น.
เป็นผีดูดเลือดไปแล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account